ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำที่ดีของมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอน : THE END [Chapter : 25]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 999
      8
      24 ก.พ. 50


    + - บทที่ 25 - +

                    ในที่สุด เสียงไวโอลินก็หยุดลง พร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มที่ทรุดลงไปที่พื้นตามแรงดึงดูดอันมหาศาลของโลก... ลูกแก้วที่เขากุมไว้ในมือหล่นลงไปกระทบกับพื้นเสียงดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ... ภาพความทรงจำมากมายที่ยังคงวิ่งวนอยู่ในหัวทำให้เด็กหนุ่มไม่มีแรงแม้แต่จะบังคับเปลือกตาให้เปิดขึ้นเพื่อตอบสนองเสียงเรียกของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังเขย่าตัวเขาอย่างร้อนรน

    "มัลฟอยลืมตาขึ้นสิ...ได้โปรด... ตื่นขึ้นมาซักที..." เสียงของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มสั่นเมื่อเธอต้องพูดประโยคนี้ซ้ำเป็นครั้งที่สิบ

    "อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ" เธอคราง แล้วคว้ามือเย็นเฉียบของเด็กหนุ่มขึ้นมากุมไว้

    "มันไม่ตลกเลยนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด ก่อนจะใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลลงมาตามร่องแก้ม

    "อย่า... กังวลเลย... เฮอร์ไมโอนี่" เสียงแหบต่ำของสเกเชียสดังขึ้น และนั่นทำให้เส้นความอดทนของเฮอร์ไมโอนี่ขาดผึง

    "อย่ากังวลงั้นหรอ? คุณก็พูดได้สิ ก็คุณไม่ได้..." คำต่อว่าที่เหลือถูกกลืนกลับลงไปทันที เมื่อเธอหันไปเห็นสภาพของสเกเชียสที่นั่งหรืออาจจะเรียกว่านอนพิงก้อนหินก้อนโตอย่างไรเรี่ยวแรง ใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ไม่ถูกบดบังนั้นซีดไม่ต่างอะไรกับสีขาวของหน้ากากที่เขาสวมอยู่ ข้างตัวมีไวโอลินสีน้ำตาลวางคว่ำอยู่ หากประเมินจากสภาพของสเกเชียสตอนนี้แล้ว เขาคงจะเสียพลังในการฟื้นความทรงจำให้กับมัลฟอยไปมาก

    "ข้าจะช่วย.... ให้พลังของเขา.... ฟื้นตัวเร็วขึ้น" เขาพูดพลางหอบพลาง จนเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าควรจะบอกให้เขาช่วยตัวเองก่อนจะดีไหม?

    "คุณไหวรึเปล่า?" เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยเสียงที่อ่อนลง

    "ไหวสิ..." เสียงครางตอบของสเกเชียสช่างไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย

    "แน่ใจนะคะ?" เธอถามอีกครั้ง และสเกเชียสก็ค่อยๆ พยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ

    "ไม่ต้อง...เป็นห่วงข้าหรอก... ข้ายังมี...พลังอีก...เหลือเฟือ...ที่จะช่วยให้...เขากลับมา...เป็นปกติ" ถึงแม้ว่าคำยืนยันของสเกเชียสจะไม่น่าเชื่อถือแต่มันก็สามารถทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด

    "หยิบไวโอลิน...ให้ข้าที" สเกเชียสขอร้องด้วยเสียงแหบแห้ง หลังจากความพยายามที่จะบังคับแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของตนไปหยิบไวโอลินที่ข้างตัวนั้นไม่เป็นผล

    "ค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบไวโอลินที่วางคว่ำหน้าอยู่บนพื้นขึ้นมา และวางลงบนหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของสเกเชียส

    "ขอบคุณ..." สเกเชียสกล่าวเสียงเบา พลางค่อยๆ ขยับมือของตนมาสัมผัสที่ไวโอลินอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มพึมพำบางอย่างที่เฮอร์ไมโอนี่ฟังไม่รู้เรื่อง และนั่นทำให้ไวโอลินที่มีเพียงสายเดียวของเขาเริ่มบรรเลงเพลงออกมา ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่จะไม่รู้สึกแปลกใจเลย ถ้าเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลงอยู่นั้นมีแต่ตัวโน้ตที่มีเสียงแหลมบาดหูเหมือนกับที่สเกเชียสเคยเล่นมาก่อนหน้านี้ หากแต่เพลงที่กำลังได้ฟังอยู่ตอนนี้กลับอ่อนโยนจนเธอคาดไม่ถึง

    ...+*+*+...

    เด็กสาวได้แต่นั่งนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าเพลงนั้นกำลังบรรเลงอยู่โดยที่สายไวโอลินเส้นสุดท้ายขาดออกแล้ว และหากเธอยังมีสติอยู่กับเนื้อกับตัว เธอคงจะเห็นว่าสายไวโอลินเส้นนั้นกำลังเรืองแสงสีเงินและเริ่มลอยมาหาเธอและมัลฟอย... 

    ในที่สุดสายไวโอลินก็ลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวขึ้นมาเลย... จนกระทั่งสายไวโอลินที่ลอยอยู่ตรงหน้านั้นขาดออกจากกันราวกับมีกรรไกรล่องหนไปตัดมันให้ขาดออกเป็นสองส่วน พลันสติของเฮอร์ไมโอนี่ก็กลับคืนมาพร้อมกับความรู้สึกงงที่ผุดขึ้นมาเป็นของแถม แต่ก่อนที่เธอจะรู้สึกงงไปมากกว่านี้ เสียงของสเกเชียสก็ดังขึ้นทำลายความคิดที่เริ่มฟุ้งซ่านของเธอเสียก่อน

    "เจ้าเห็นแหวนที่นิ้วของเจ้าและเดรโกไหม…" สเกเชียสถามด้วยเสียงที่แหบจนน่ากลัว ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ละความสนใจจากสายไวโอลินปริศนาที่ลอยอยู่ตรงหน้า และก้มลงมองแหวนวงเล็กที่นิ้วก้อยมือซ้ายของมัลฟอยและนิ้วก้อยมือขวาของเธอ

    "อืม" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ก่อนจะนึกถึงคำถามที่คาใจเธอมาตั้งแต่กลางวัน 'แหวนนี่มาจากไหน?'

    "มันคือ... แหวนที่ข้ามอบให้พวกเจ้าทั้งสอง" เขาบอก แล้วเริ่มอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น "อันที่จริง มันเป็นสายไวโอลินของข้า... หากผู้ใดได้ครอบครองจะไม่มีสิ่งใดสามารถพรากพวกเจ้าได้ เว้นแต่เพียงความตายเท่านั้น... ซึ่งข้ามิได้เป็นผู้กำหนดว่าใครจะเป็นผู้ครอบครอง แต่มันจะเป็นผู้เลือกเอง... และมันก็ไม่เคยเลือกใครมานานนับร้อยปี จนกระทั่งวันนี้ ที่มันได้เลือกพวกเจ้า... และคงจะเป็นเพราะเหตุผลนี้กระมัง ที่ทำให้ข้ามิอาจจะพรากพวกเจ้าได้ และยังทำให้ข้าต้องมาเป็นฝ่ายช่วยพวกเจ้าอีก"

    "แล้ว... ไอ้เส้นเรืองแสงนี่คืออะไรอีกล่ะคะ?" เฮอร์ไมโอนี่ถาม พลางพยักเพยิดไปที่สายไวโอลินเรืองแสงที่ลอยอยู่ข้างหน้า

    "สายไวโอลินนั่นจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเจ้า..." สเกเชียสตอบ

    "สายไวโอลินหรอ?" เฮอร์ไมโอนี่คราง พลางเกาหัวอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมสเกเชียสจะต้องทำให้ไวโอลินหรือไม่ก็สายไวโอลินมาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอด้วย

    "แล้ว..." เธอกำลังจะอ้าปากถามต่อ แต่สเกเชียสก็ชิงพูดตัดบทเธอเสียก่อน

    "เอาล่ะ... ถึงเวลาที่พวกเราต้องจากกันแล้วและข้าหวังว่าเราจะได้พบกันอีก สำหรับเรื่องที่ลูเซียสจะตามรังควานพวกเจ้านั้น ข้าจะจัดการให้เอง มิต้องกังวล..."

    "ขอบคุณค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด พร้อมกับก้มหัวลงน้อยๆ ให้กับอีกฝ่ายที่ตอบรับด้วยรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า

    "จงถนอมตัวและหัวใจของเจ้าตราบจนช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต... ลาก่อน" ว่าจบ สเกเชียสก็พึมพำบางอย่างอีกครั้ง แล้วสายไวโอลินทั้งสองเส้นตรงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ก็เรืองแสงสีขาวสว่างวาบบาดตา จนทำให้เธอต้องหลับตาลงเพราะเกรงว่าอาจจะตาบอดได้ ถ้ายังฝืนสู้กับแสงสว่างนั่นอยู่...

    To be continued +

    P.S.

    +ตอนนี้สั้นไปหน่อย ^^ แหะๆๆ

    +เย้!! ในที่สุดก็ใกล้จะจบแล้ว (หลังจากที่เพียรพยายามมาตั้ง 3-4 ปี) อีกไม่กี่ตอนหรอกค่ะ ^^" รอกันหน่อยนะคะ

    +ตอนนี้กำลังสอบปลายภาคอยู่!! แต่หลังจากสอบเสร็จจะรีบแต่งต่อนะคะ คงไม่เกินปีนี้หรอกค่ะ

    +อ่านแล้วช่วย comment หน่อยนะคะ ^^ (เพื่ออนาคตที่ดีของผู้แต่ง) จะติก็ได้ จะชมก็ดีค่ะ ^^"

    +ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาชม เข้ามาอ่านนะคะ

    +ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

    +ขอบคุณทุกคนที่ยังไม่เบื่อที่จะรอซะก่อน

    +ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ^^

    +มิ๊กซ์รูปไว้หลายสี แต่ไม่รู้ว่าสีไหนสวย เลยเอามา 4 แบบเลยล่ะกันค่ะ (หรือไม่สวยทั้ง 4 สีก็ไม่รู้ ฮ่าฮ่าฮ่า)

    +ขอบคุณอีกทีค่ะ (ย้ำคิดย้ำทำเนอะ!! อิอิ)

    ด้วยจิตคาราวะ (อีกครั้ง)
    เด็กผมฟู (กวางคร้าบบบบบ >o<)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×