ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destiny Love (Hermione & Malfoy) by Peterpan

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10 : Love Memories

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.77K
      87
      29 ต.ค. 49






    +-บทที่ 1-+

    ณ ตรอกไดแอกอน...

    เฮอร์ไมโอนี่เดินเร็ว ๆ ผ่านร้านขายของนานาชนิดที่ล้วนดูตื่นตาตื่นใจสำหรับทุกคน แต่ตอนี้เธอไม่แวะดูร้านใดทั้งสิ้น เพราะเธอนัดกับแฮร์รี่และรอนไว้ที่ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกตอนบ่ายสองโมงตรง

    "แฮรี่พักอยู่กับฉันที่บ้าน เราจะไปซื้อหนังสือด้วยกันที่ตรอกไดแอกอน มาเจอกันสิ ถ้าเธอมีเวลา จะได้ซื้อของพร้อมกันด้วย"
    เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงข้อความในจดหมายที่เธอได้รับจากรอนเมื่อวานนี้ มันเป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาวิ่งจ้ำอ้าวให้ทันเวลาที่นัดไว้

    ที่ตรอกไดแอกอนยังคงแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา และดูเหมือนจะมีนักเรียนจากที่อื่น ๆ มาซื้อของกันที่นี่ด้วย เฮอร์ไมโอนี่คุ้นตากับเครื่องแบบของนักเรียนบางคนที่เดินผ่าน เธอนึกถึงวิกเตอร์ ครัมขึ้นมาทันที - - เครื่องแบบของเดิร์มแสตรงก์

    "อยู่ไหนล่ะ แฮร์รี่ รอน" เธอหันซ้ายหันขวาหาเพื่อนทันทีที่มาถึงร้าน แต่ก็ไม่เห็นใครสักคนอยู่แถวนั้น ใจกังวลคิดไปว่าเธออาจจะมาสายจนเพื่อนหนีกลับกันไปหมดแล้ว

    "ขอโทษค่ะ กี่โมงแล้วคะ" เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปในร้านหนังสือเพื่อถามเวลา เจ้าของร้านกำลังปีนบันไดสูงเพื่อเรียงหนังสือลงบนชั้น

    "เที่ยงกว่าแล้วล่ะครับ" เขาตอบอย่างใจดี

    "หา!" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เจ้าของร้านจึงชี้ไปที่นาฬิกาเรือนใหญ่ในร้านเพื่อยืนยัน

    "โอ๊ย! ตายแล้วนาฬิกาที่บ้านเสียหรือนี่" เธอพึมพำกับตัวเอง - - นี่ก่อนเวลานัดเกือบสองชั่วโมง! เฮอร์ไมโอนี่นึกโมโหตัวเองที่ไม่สนใจแม่ซึ่งทำท่าจะท้วงตอนที่เธอกำลังกระโจนออกจากบ้านอย่างร้อนรน

    "ฮอกวอตส์ใช่ไหมครับ จะซื้อหนังสือเลยหรือเปล่า" เจ้าของร้านลงจากบันไดอย่างระมัดระวังก่อนจะเดินมาหาเฮอร์ไมโอนี่
    "เอ้อค่ะ! เอาเลยก็ได้" เธอยื่นรายการหนังสือให้เขา

    "รอสักครู่นะครับ" เจ้าของร้านพูดแล้วก็เดินหายเข้าไปหลังร้าน

    เฮอร์ไมโอนี่เดินดูหนังสือเล่มอื่น ๆ ภายในร้านซึ่งล้วนแต่น่าสนใจ แต่ราคาก็มีทั้งถูกและแพง แล้วสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับป้ายขนาดใหญ่ที่ติดไว้ที่กำแพงร้าน

    "ตรวจสอบโชคชะตา และทำนายอนาคตโดยนักพยากรณ์ชื่อดัง เจสสิกา โรว์ (Jessika Row) คุณจะได้รู้ในสิ่งที่คุณต้องการ"

    "สนใจไหมล่ะครับ เธออยู่หลังร้านนี่เอง"

    เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองเจ้าร้านที่หอบหนังสือตั้งใหญ่เดินออกมาวางไว้ที่เคานท์เตอร์ เขาพูดมาแต่ไกล

    "ไม่ล่ะค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงขัน ๆ เธอไม่ชอบการพยากรณ์เลยตั้งแต่เรียนกับอาจารย์ทรีลอว์นีย์จนต้องเลิกเรียนไปในที่สุด

    "ที่จริงไม่ต้องปิดป้ายก็มีคนมากันเยอะแยะ ดังออกขนาดนั้น เธอเป็นนักพยากรณ์ที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยนะ" เจ้าของร้านพูดต่อพลางหยิบผ้าสะอาดมาเช็ดปกหนังสือให้เฮอร์ไมโอนี่

    "ไม่บังคับให้คนเชื่อ ไม่หลงตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นนักพยากรณ์ที่ดีมาก" เขาเรียงหนังสือเพื่อตรวจดูว่าครบหรือยัง

    "เหรอคะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด ถ้าต่างจากอาจารย์ทรีลอว์นีย์ขนาดนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับเธอขึ้นมาหน่อย

    "เธอมาขอเช่าหลังร้านของผมชั่วคราว ปกติคนแน่นนะครับ มีวันนี้แหละที่น้อยลงหน่อย"

    เขาตบหนังสือให้เท่ากันแล้วบอกเธอว่าครบแล้วตามรายการ

    "ฝากไว้ก่อนได้ไหมคะ หนูมีอย่างอื่นต้องซื้ออีก กลัวว่าจะหิ้วไม่ไหว" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเกรงใจ เพราะหนังสือทั้งหมดดูจะหนักเอาการอยู่

    "ไม่มีปัญหาครับ นักเรียนส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น ว่าแต่คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะเรื่องดูดวง" เจ้าของร้านเอาเชือกพันรอบหนังสือให้แล้วแขวนป้าย "จองแล้ว" ไว้ ก่อนจะยกไปวางบนชั้นโล่ง ๆ

    เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าปฏิเสธ เธอจ่ายเงินพร้อมกับกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินออกไปจากร้าน

    "ไปไหนก่อนดี" เด็กหญิงมองซ้ายมองขวาตั้งหลักหน้าอยู่หน้าร้าน เธอนึกถึงร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ห่างนัก จึงคิดว่าน่าจะไปหาอะไรกินและนั่งเพื่อฆ่าเวลา

    เฮอร์ไมโอนี่ชะเง้อมองร้านที่ต้องการ แล้วเธอก็เห็นคน ๆ หนึ่งที่ยืนอยู่ไกล ๆ เขากำลังมองมาที่เธอ ท่ามกลางฝูงคนที่เดินไปเดินมา

    เด็กผู้ชาย….ตัวสูงผมสีน้ำตาลอ่อนเหมือนขนกวาง เขากำลังยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

    เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างแล้วร้องเสียดัง

    "ยาช่า!!"

    +-บทที่ 2-+
     
    เฮอร์ไมโอนี่วิ่งตรงมาหาเขาทันที

    "เธอจริง ๆ ด้วย ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ" เธอจับมือกับเด็กชายอย่างดีใจ เขาจับมือเธอตอบอย่างคิดถึงเช่นกัน

    "ผมมากับพ่อแล้วก็น้องฮะ" ยาช่าตอบ น้ำเสียงของเขายังเหมือนเดิม

    "เราเลยแวะซื้อของที่นี่กัน แต่แยกกันเดินเพราะผมจะไปร้านรักษาสัตว์หน่อย พอดีไอริชไม่สบาย" เด็กชายพูดถึงนกฮูกของตัวเอง เฮอร์ไมโอนี่แปลกใจที่เขาไม่หิ้วกรงอะไรมาเลย

    "ไหนล่ะนกฮูกของเธอ"

    "คุณก็รู้นี่ ว่ามันไม่ยอมเข้าใกล้ผม" ยาช่าอุบอิบตอบ เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ

    "แล้วจะทำยังไงล่ะถ้าเจ้าของร้านเกิดบอกว่าต้องเอามันมาตรวจ"

    "ผมคงต้องวางกับดักนกตัวเองเข้าสักวัน" เด็กชายทำท่าคิด

    "ฉันจะไปเป็นเพื่อน" เฮอร์ไมโอนี่บอก แล้วเธอก็จูงมือยาช่าไปร้านที่เธอซื้อครุกแชงก์มา

    เด็กชายหน้าเป็นสีชมพูขณะมองมือเล็ก ๆ ที่กำลังจูงมือเขาไปอย่างเต็มใจ

    ที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง ภายในร้านเอะอะอึกทึกไปด้วยเสียงของสัตว์นานาชนิด และยังมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อบอวลไปหมด มีเด็กผู้หญิงผมสีเงินคนหนึ่งกำลังเป็นลูกค้าอยู่ เฮอร์ไมโอนี่กับยาช่าเดินเข้าไปด้วยกัน

    เมื่อยาช่าก้าวเข้าไปในร้าน สัตว์ทุกชนิดก็เงียบเสียงทันทีและหันมามองเขา แต่ทันใดนั้นเองพวกมันก็กรีดร้องโวยวายแล้ววิ่งไปเบียดกันอยู่ท้ายกรง หนูบางตัวเหยียบหัวเพื่อนเพื่อจะไปอยู่ด้านบน พวกกระต่ายกระโดดขี่หลังกันเอง

    "เงียบ ๆ ๆ ๆ" เจ้าของร้านเอาไม้เคาะดัง ๆ บนเคาน์เตอร์ สัตว์ทั้งหลายจึงเงียบลงแล้วมาแย่งที่หน้ากรงเพื่อมุงดูเด็กชายแทน

    ยาช่าแกล้งแยกเขี้ยวแล้วส่งเสียง "แฮ่!" ใส่กรงหนูที่อยู่ไม่ห่าง หนูตัวหนึ่งร้องกรี๊ดแล้วหงายหลังผลึ่งลงไปนอนนิ่ง เขาหัวเราะแล้วหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหัวเราเช่นกัน แต่ก็มองเขาด้วยสายตาดุ ๆ

    "เงียบ! ฉันบอกให้แกเงียบ!" เด็กผู้หญิงที่เป็นลูกค้าอยู่ ตบกรงนกฮูกของตัวเองที่ยังคงร้องโวยวายและพยายามบินออกจากรง

    "อย่าไปว่ามันเลยฮะ" ยาช่ายิ้มแห้ง ๆ บอกเธอ

    "มันกลัวผม ว่ามันไปก็ไม่มีประโยชน์"

    เด็กผู้หญิงคนนั้นถลึงตาสีฟ้าอ่อนใส่เขาเหมือนจะบอกว่า - - นายคิดว่าตัวเองเป็นใครไม่ทราบ!!

    เฮอร์ไมโอนี่มองเด็กคนนั้นแล้วก็นึกถึงคน ๆ หนึ่งขึ้นมา ผมสีเงินแบบนี้ ผิวพรรณแบบนี้ เหมือน….

    "เฟลอร์ เดอ ลากูร์" เธอทัก

    "ผิดแล้ว ฉันไม่ใช่พี่!" เด็กคนนั้นหันมาปฏิเสธเสียงเขียว เธอหิ้วกรงนกฮูกของตัวเองเดินออกไปทันที เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศรีษะแล้วพึมพำ

    "แต่ก็เหมือนยังกะแกะ หน้าตา นิสัย"

    "คุณรู้จักเขาเหรอฮะ" ยาช่าถาม

    "ตอนประลองเวทย์ไตรภาคีแฮร์รี่เคยช่วยเธอขึ้นมาจากพวกชาวเงือก รู้สึกว่าจะชื่อ กาเบรียล แต่ฉันว่าตอนนั้นนิสัยเธอดีกว่านี้นะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

    "ฉันจะไม่รับลูกค้าคนนั้นอีกแล้ว!" เจ้าของร้านสัตว์ระเบิดอารมณ์

    "เรื่องมาก หยิ่งไม่เข้าท่า เชอะ! นี่ถ้านกฉันไม่ป่วยกะทันหันนะ ฉันก็ไม่มาที่นี่หรอก ที่โรงเรียนฉันดีกว่านี้เยอะยังกับฉันต้องง้อแน่ะ!" เธอบ่นยาวยืดพร้อมกับเลียนท่าทางของเด็กหญิงอย่างหมั่นไส้

    "ว่าแต่เธอมีอะไรให้ช่วยหรือ"

    "นกฮูกผมไม่สบายครับ มันซึม เอ่อแล้วก็ขนร่วง" ยาช่าอธิบาย

    "ไหนล่ะ เธอไม่ได้เอามันมาด้วยเหรอ"

    "คือ…" เด็กชายอึกอัก ไม่กล้าบอกว่านกของเขาไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ตั้งแต่ซื้อมันมาแล้ว

    ดังนั้นในเมื่อยาช่าไม่ได้เอานกมา เจ้าของร้านจึงทำได้แค่ฟังอาการแล้วก็เอาวิตามินสำหรับนกให้ไป

    "ฉันไม่กล้าให้มั่ว ๆ นกเธออาจจะเป็นอันตราย"

    เสร็จจากเรื่องนกแล้วทั้งสองคนก็เดินออกจากร้านไปด้วยกัน

    "ไปหาอะไรดื่มกันนะ เผื่อเธอจะได้เจอแฮร์รี่กับรอนด้วย" เฮอร์ไมโอนี่ชวน

    อีกด้านหนึ่ง….

    "ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้เจอเธอที่นี่เดรโก" แพนซี่กระโดดไปควงแขนมัลฟอยหมับ

    "โชคดีจังเลย"

    "โชคร้ายของฉัน" มัลฟอยพึมพำบ่น เขาพยายามแกะแขนแพนซี่ออก

    "ไปซื้อของด้วยกันนะ" แพนซี่ชวนเสียงหวาน ดึงมัลฟอยให้เดินด้วยกัน

    "ปล่อยฉันก่อนสิ!" มัลฟอยพูดเสียงดังแล้วชักแขนกลับแรงขึ้น

    แพนซี่ทำท่าฮึดฮัดแต่ก็ปล่อยแขนอีกฝ่ายโดยดี แล้วชวนคุยแทน

    "เธอมาคนเดียวเหรอ"

    "ฉันมากับพ่อ" เด็กชายตอบแล้วเดินหนี แต่แพนซี่สาวท้าวตามมาติด ๆ

    "แล้วพ่อเธออยู่ไหนล่ะ"

    "อยู่….ไหนก็ช่างเถอะ!" มัลฟอยตอบอย่างรำคาญเหลือเกิน เขาเลี้ยวเข้าร้านตัวบรรจงและหยดหมึกแล้วยื่นใบรายการให้เจ้าของร้าน

    "ฮอกวอตส์ทั้งสองคนใช่ไหมครับ" เขาอ่านใบรายการแล้วมองแพนซี่

    "รอสักครู่นะครับ" เขาพูดแล้วเดินไปหยิบหนังสือที่หลังร้าน

    แพนซี่ผละจากมัลฟอยไปเดินดูหนังสืออื่น มัลฟอยเงยหน้าขึ้นแล้วก็เห็นหนังสือตั้งใหญ่ที่มัดรวมไว้เรียบร้อยพร้อมกับแขวนป้าย "จองแล้ว" อยู่บนชั้น

    "สงสัยต้องใช้วิธีนี้ด้วย" เขานึก เพราะไม่อยากหิ้วหนังสือทั้งตั้งเดินเข้าออกร้านโน้นร้านนี้จนกว่าพ่อจะมารับ

    "เดรโก ดูนี่สิ เจสสิกา โรว์ มาดูดวงที่นี่ด้วย" แพนซี่ชี้ไปที่ป้ายในร้าน

    มัลฟอยถอนใจหน่าย ขณะที่เจ้าของร้านหอบหนังสือมาวางแล้วพูด

    "สนใจหรือครับ ผมมีบัตรขายนะ"

    "จริงเหรอคะ" แพนซี่วิ่งมาที่เคานท์เตอร์ แล้วรับบัตรสีแดงมาจากเจ้าของร้าน

    "ไปด้วยกันนะเดรโก"

    "ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบเรื่องพวกนี้" เขาตอบอย่างไม่สนใจ แพนซี่หุบยิ้มทันที

    "คิวยาวครับ ของคุณต้องรออีกสามสิบนาที" เจ้าของร้านบอกแล้วรับเงินค่าหนังสือมาจากเด็กทั้งสอง

    "งั้นเราไปหาอะไรดื่มกันก่อนนะ" แพนซี่พูด

    "ฉันไม่…." มัลฟอยพูดยังไม่ทันจบอีกฝ่ายก็ดึงเขาออกไปจาร้าน

    "แล้วอย่าลืมกลับมาเอาหนังสือนะครับ" เจ้าของร้านตะโกนไล่หลังพลางหัวเราะก่อนจะเอาเชือกมามัดหนังสือสองตั้งให้

    ...+*+*+...

    "เธอเรียนเรื่องน่าสนใจมากเลย" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอิจฉา หลังจากที่เธอถามถึงวิชาเรียนของยาช่า

    "ยากฮะ ยิ่งขึ้นเทอมหน้าวิชายิ่งยากกว่านี้" เขาพูด

    แต่ภายนอกร้าน….

    "นั่นยายเกรนเจอร์นี่ นั่งกับใครก็ไม่รู้" แพนซี่ที่ควงแขนมัลฟอยผ่านมาชี้

    มัลฟอยหันไปมองร้านขายเครื่องดื่มร้านนั้นทันที หน้าร้านเป็นผนังกระจกจึงสามารถมองเห็นภายในได้อย่างชัดเจน เด็กชายเอามือแนบผนังกระจกร้านมองไปที่โต๊ะของเฮอร์ไมโอนี่กับยาช่า

    "อ๋อฉันจำได้แล้ว เด็กคนนี้ที่เคยเรียนที่เดียวกับเรานี่นา" เธอนึกออก

    มัลฟอยกัดฟันกรอด…..

    +-บทที่ 3-+
     
    "ผมต้องไปแล้วฮะ ผมนัดพ่อไว้ตอนบ่าย" ยาช่าบอกพลางหันไปมองนาฬิกาในร้าน

    "น่าเสียดายจังที่เธอไม่ได้เจอแฮร์รี่กับรอน" เฮอร์ไมโอนี่ลุกจากเก้าอี้พร้อมกับเขา

    ทั้งสองคนจ่ายค่าเครื่องดื่ม ยาช่าล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมแล้วหยิบกระดาษสีแดงแผ่นเล็ก ๆ ออกมาใบหนึ่ง

    "จริงสิ ผมได้บัตรดูดวงของเจสสิกา โรว์ มาฮะ"

    "เธอสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ

    "เปล่าฮะ เปล่า แอนย่าจับฉลากที่ร้านขายขนมได้มา แต่เขาให้ผม" ยาช่าพูดแล้วก็ยื่นให้เฮอร์ไมโอนี่

    "ผมให้ฮะ"

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากปฏิเสธเธอจึงรับมาโดยดี เมื่อทั้งสองคนเดินออกมาจากร้านต่างฝ่ายต่างก็กล่าวลากัน

    "เราจะได้เจอกันอีกไหม"

    "อีกไม่นานเราก็ได้เจอกันฮะ" ยาช่ายิ้มอย่างมีเลศนัย

    เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วงง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ถาม เด็กชายก็เดินห่างไป

    "ลาก่อนฮะ" เขาโบกมือแล้วเดินหายเข้าไปในกลุ่มคน

    เฮอร์ไมโอนี่โบกมือตอบ แต่คำพูดของยาช่ายังติดอยู่ในใจ - - บางทีเขาอาจจะมาเยี่ยมอีกก็ได้มั้ง เธอเดา เฮอร์ไมโอนี่หันหลังกลับ

    "โอ๊ย!"

    "ขอโทษค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตกใจเมื่อเหยียบลงไปบนเท้าของนักเรียนชายที่สวมเครื่องแบบของเดิร์มแสตรงก์ เขาตัวไม่สูงนัก ผอมบางและมีผมสีดำและกำลังยืนอยู่กับเพื่อนชายอีกคน

    เด็กคนนั้นมองเฮอร์ไมโอนี่ตั้งแต่หัวจดเท้าแล้วก็พูดภาษาที่เธอไม่เข้าใจกับเพื่อนพร้อมกับยิ้ม เฮอร์ไมโอนี่เดินเลี่ยงไป แต่เพื่อนของเขาก็แกล้งขวางไว้แล้วหัวเราะให้กัน

    "ขอทางด้วย!" เด็กหญิงพูดเสียงดัง แล้วจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ทั้งสองคนหัวเราะราวกับขบขันเหลือเกิน

    "ไม่ได้ยินที่เขาพูดรึไง"

    มัลฟอยเดินเข้ามาขวางเธอไว้ เขาพูดกับเด็กสองคนนั้นด้วยภาษาที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจ เด็กชายทั้งสองจ้องมัลฟอยเหมือนจะหาเรื่อง แต่เมื่อคนรอบข้างเริ่มหันมามองทั้งสองก็หน้าเจื่อนไปถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ถอยไปในทันที

    มัลฟอยก้าวมาประชิดตัวพวกเขาแล้วจ้องหน้านิ่ง

    "ตาถึงเหมือนกันนี่ ที่สนใจผู้หญิงคนนี้" เด็กชายพูดแล้วหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่แวบหนึ่งก่อนจะกลับมาพูดต่อด้วยน้ำเสียงและแววตาเย็นเฉียบ

    "แต่เสียใจด้วยนะเขาเป็นของฉัน!"

    เด็กสองคนนั้นหน้าเผือดลงไปอีก แม่มดที่ขายของอยู่ที่แผงลอยมองมาอย่างสนใจ พวกเขาจึงยอมล่าถอยไปโดยดี

    "เธอพูดอะไรกับสองคนนั้นน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามทันที

    "บอกว่าอาจารย์พวกเขากำลังตามตัวอยู่" มัลฟอยไม่สบตาแต่ก็ตอบออกมา

    "เธอพูดภาษาของเดิร์มแสตรงก์ได้เหรอ" เธอถามอย่างทึ่ง ๆ

    "ลืมไปแล้วรึไงว่าตอนแรกพ่ออยากให้ฉันไปเรียนที่ไหน" มัลฟอยพูดแล้วมองไปรอบ ๆ

    "ไอ้หมอนั่นไปไหนแล้วล่ะ"

    เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขาหมายถึงยาช่า เธอสวนกลับเสียงฉุน

    "อย่าเรียกเขาว่าไอ้หมอนั่น!"

    มัลฟอยโกรธจัด เขากำหมัดแน่น

    "เชอะ! ฉันช่วยเธอไว้แท้ ๆ " มัลฟอยเสียงดังไม่แพ้กัน แล้วเขาก็หันหลังจะเดินจากไป เฮอร์ไมโอนี่นึกขึ้นได้ เธอคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ทัน

    "ฉันขอบใจ…"

    มัลฟอยถอนใจเฮือก แล้วมองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมองเขาด้วยแววตาขอบคุณอย่างจริงจัง ความโกรธของเขาดูเหมือนจะลดลงบ้าง เธอพูดต่อ

    "เธอมาที่นี่ได้ยังไง"

    "ฉันมาคนเดียว" มัลฟอยตอบ แต่เขาข้ามตอนที่เจอแพนซี่และตอนนี้ก็ทิ้งเธอไว้ที่ร้านขายเครื่องดื่มอีกร้านหนึ่ง (ตอนนี้เธอกำลังโวยวายอยู่)

    แล้วเขาก็เห็นบัตรสีแดงตกอยู่ที่พื้น มัลฟอยเก็บขึ้นมาดู

    "บัตรดูดวงของเจสสิกา โรว์เหรอ"

    "ของฉันเอง" เฮอร์ไมโอนี่รับมา

    "เธอสนใจเรื่องพวกนี้เหรอ" มัลฟอยถามอย่างไม่เชื่อหู

    "เอ่อ…" เด็กหญิงเม้มปาก รู้ว่าไม่ควรพูดว่า "ยาช่าให้ฉันมา" จึงเปลี่ยนประโยค

    "ไปด้วยกันไหม"

    มัลฟอยเลิกคิ้ว - - นี่เป็นคำชวนครั้งแรกเลยก็ว่าได้ เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพูขณะมองเขา

    "ฮื่อ…"

    +-บทที่ 4-+

    เฮอร์ไมโอนี่แหวกม่านกำมะหยี่สีแดงเข้าไปภายในห้องเล็ก ๆ ที่อยู่หลังร้านตัวบรรจงและหยดหมึก ภายในมีกลิ่นเครื่องหอมที่ถูกเผาและกำยานอบอวลไปทั่ว

    "มืดจัง" เธอบ่นแล้วเอานิ้วขยี้จมูก

    "กลิ่นเหมือนห้องเรียนของอาจารย์ทรีลอว์นีย์เลย ฉันไม่ชอบจริง ๆ "

    "เธอถึงได้เลิกเรียนรึไง" มัลฟอยที่เดินตามเข้ามาพูด เขาหันซ้ายหันขวาไปท่ามกลางห้องที่มีแสงสลัวจากเทียนไม่กี่เล่ม

    "ฉันไม่เรียนเพราะฉันไม่ชอบวิชานั้น" เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดแล้วชะงัก เธอขมวดคิ้วมองมัลฟอยที่กำลังหันมามองเธออย่างแปลกใจเช่นกัน

    "เธอรู้ได้ยังไง"

    มัลฟอยยิ้มแล้วหันไปมองทางอื่นแทน เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพู แล้วทั้งคู่ก็เดินมาถึงโต๊ะพยากรณ์

    "ยินดีต้อนรับ"

    ผู้ทำนายเป็นหญิงที่คะเนอายุไม่ออก เพราะสวมชุดคลุมยาวและปิดหน้าปิดตา เธอนั่งอยู่หลังโต๊ะกลมที่ปูด้วยผ้าสักหลาดสีดำ มีลูกแก้วส่องแสงเป็นประกายตั้งอยู่ตรงกลาง

    "นั่งก่อนสิจ๊ะ ทั้งคู่เลย" เธอเชื้อเชิญอย่างใจดี มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่นั่งลงตามที่เธอบอก

    "อยากรู้อะไรล่ะจ๊ะ ถามมาได้ทุกอย่าง"

    "เอ่อ…." เฮอร์ไมโอนี่อ้ำอึ้ง เธอนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะถามอะไร

    "ไม่เป็นไร ฉันจะดูเรื่องทั่ว ๆ ไปให้ก็แล้วกัน" ผู้ทำนายลูบลูกแก้วแล้วจ้องเข้าไปภายใน

    "เธอเป็นเด็กฉลาดมาก เธออยู่ฮอกวอตส์ใช่ไหม ถ้าฉันจำไม่ผิดที่นั่นคงมีตำแหน่งพรีเฟ็คสินะ เธอจะได้เป็นแน่ ๆ เลยจ้ะ"
    เฮอร์ไมโอนี่หน้าบาน ส่วนมัลฟอยแบะปากแล้วหันไปมองทางอื่นอย่างเซ็ง ๆ เขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

    "สุขภาพก็ดี โอเธอเป็นเด็กที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่าที่ฉันเคยทำนายมาเลยทีเดียว"

    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างขึ้นอีก แต่มัลฟอยเริ่มส่ายตาหาทางออก

    "ฉันเห็นเพื่อนของเธออีกสองคน" ผู้ทำนายยิ้ม

    "คนหนึ่งยิ่งใหญ่ ส่วนอีกคนก็จิตใจดี เธอคงรักพวกเขามากสินะ"

    มัลฟอยหมดความอดทน เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที - - เรื่องอะไรเขาต้องมานั่งฟังคำสรรเสริญแฮร์รี่กับรอน! เขาหันมาพูดกับเฮอร์ไมโอนี่

    "ฉันไปรอข้างนอกนะ" มัลฟอยพูดจบก็เดินออกไป

    พอคล้อยหลังเด็กชาย เฮอร์ไมโอนี่ก็รีบขอโทษผู้ทำนายเป็นการใหญ่

    "ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่เป็นไร" เธอพูดอย่างขัน ๆ

    "เขาไม่เชื่อ หรือใครไม่เชื่อ ฉันก็ไม่ว่า ว่าแต่เขาเป็นอะไรกับเธอล่ะ"

    "เพื่อนค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยใบหน้าสีชมพู - - หรือเป็นศัตรูดีล่ะ?

    ผู้ทำนายยิ้มอย่างเอ็นดู เธอพูดต่อ

    "เขาน่ารักนะ ถึงจะร้ายกาจเหลือเกิน"

    เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ มัลฟอยคงไม่ยินดีกับคำชมนี้นักหรอก

    "เอาล่ะฉันจะดูต่ออีกเรื่องนะ เราถึงไหนกันแล้ว อ้อ ต้องดูเรื่องความรัก"

    เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพูจัด ขณะตั้งอกตั้งใจฟัง ผู้ทำนายมองเข้าไปในลูกแก้วแล้วก็ส่ายหน้า

    "ขอโทษด้วย ฉันมองไม่เห็น"

    "ไม่เป็นไรค่ะ หนูยังไม่อยากรู้" เฮอร์ไมโอนี่รีบพูด

    "นั่นสิ รู้ล่วงหน้าก็ไม่น่าลุ้นสินะ" ผู้ทำนายมองเธอแล้วยิ้ม

    "ขอบคุณมากนะคะ หนูต้องไปแล้ว เขาอาจจะเอ่อรอยู่" เด็กหญิงลุกขึ้น

    "เดี๋ยวก่อนจ้ะ ฉันขอพูดกับเธออีกเรื่องหนึ่ง" ผู้ทำนายเรียก เฮอร์ไมโอนี่หันมามอง

    "เธอจะแต่งงานกับพ่อหนุ่มคนนั้นก็ได้นะ แต่ฉันขอแนะนำว่าถ้าจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับเขาล่ะก็ จะไปที่ไหนมันก็เหมือนกันล่ะ"

    "ทำไมคะ" เฮฮร์ไมโอนี่งง แต่หน้าก็เป็นสีจัดขึ้น - - แต่งงานกับมัลฟอยน่ะหรือ! ผู้ทำนายยิ้มแล้วกรีดนิ้วชี้มาที่เฮอร์ไมโอนี่

    "เพราะเธอจะไม่ได้เห็นอะไรเลยนอกจากลายบนเพดานห้อง"

    เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากจะถามความหมาย แล้วเธอก็เข้าใจในไม่ช้า หน้าของเธอเป็นสีเข้มขึ้นกว่าเก่าขณะเดินออกไป

    ...+*+*+...

    มัลฟอยกำลังดูหนังสือในร้านอยู่ เขาทักเฮอร์ไมโอนี่ทันที่ที่เห็นเธอเดินออกมา

    "ว่าไงล่ะ แม่นไหม"

    เฮอร์ไมโอนี่มองหน้ามัลฟอยนิ่ง ใบหน้าสีแดงของเธอทำให้มัลฟอยแปลกใจ

    "เป็นอะไรของเธอน่ะ ไข้ขึ้นรึไง"

    "เปล่า" เฮอร์ไมโอนี่รีบพูด แล้วสะบัดศรีษะไล่ความรู้สึกและคำพูดของผู้ทำนายออกไป

    "งั้นเราก็ไปกันได้แล้วมั้ง เดี๋ยวพอตเตอร์กับวิสลีย์มาเธอก็ต้องไปอยู่กับพวกนั้นนี่"

    +-บทที่ 5-+
     
    รถไฟสายฮอกวอตส์ออกเดินทางจากชานชลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้เช่นทุกครั้ง ในไม่ช้า แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้มายืนอยู่ที่แถวของนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์เพื่อดูการคัดสรรเหมือนทุกปี และปีนี้พวกเขาก็ได้เด็กปีหนึ่งมาอยู่ที่บ้านกริฟฟินดอร์อีกราวห้าสิบคน

    "โอย….หิวจะแย่อยู่แล้ว" รอนพูดประโยคเดิม ๆ ทันทีที่เขาได้นั่งลงที่โต๊ะอาหาร จานทองเบื้องหน้ายังคงว่างเปล่า

    ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระแอมให้นักเรียนทุกคนเงียบ

    "ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่เทอมใหม่ ฉันจะไม่พูดมากล่ะ พวกเธอคงหิวกันจะแย่อยู่แล้ว"

    แฮร์รี่รู้สึกว่าอีกฝ่ายหลิ่วตาให้เขา

    "แต่ยังไงฉันก็มีเรื่องจะต้องแจ้งให้ทุกคนทราบ ฉันขอแนะนำนักเรียนแลกเปลี่ยนจากสองโรงเรียนที่จะมาพักอยู่กับเราชั่วคราว โดยทางเราก็ได้ส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยนแล้วเช่นกัน"

    "มิน่าล่ะ" รอนสะกิดแฮร์รี่ให้ดูเก้าอี้ที่ว่างเปล่าสองตัวที่โต๊ะของกริฟฟินดอร์ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ยังคงพูดต่อ

    "เอาล่ะ ขอเชิญมิสกาเบรียล เดอ ลากูร์ กับมิสเตอร์ยาช่า เรเนฟสกี้"

    รอนหันควับไปมองทันที่จนน่ากลัวว่าคอเขาจะเคล็ด เด็กคนอื่น ๆ ก็หันไปมองเช่นกันเมื่อเด็กทั้งสองก้าวขึ้นมา บางคนส่งเสียงครางเมื่อมองกาเบรียลที่มีรูปโฉมชวนให้หลงไหลเหมือนวีล่า

    "ยาช่า" เฮอร์ไมโอนี่พึมพำชื่อของเขา ขณะมองไปที่เด็กชายผมสีน้ำตาลอ่อนคนนั้น ยาช่ายิ้มอย่างเจาะจงมาให้เธอ

    "ผู้หญิงคนนั้น…." รอนหรี่ตามองกาเบรียลที่มีนามสกุลเดียวกับเฟลอร์ เดอ ลากูร์

    "น้องสาวของเฟลอร์! ฉันจำได้!" แฮร์รี่อุทานออกมา

    ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์กระแอมอีกครั้งให้เสียงพึมพำของนักเรียนเงียบลง

    "ขอให้ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีกับพวกเขา ตลอดระยะเวลาที่พวกเขาจะมาพักอยู่กับเรา ส่วนบ้านที่ทั้งคู่จะไปพักอยู่ด้วยก็คือ กริฟฟินดอร์" แล้วทั้งสองคนก็เดินลงมาที่โต๊ะอาหารของบ้านที่กำหนด พร้อมกับอาหารเริ่มปรากฏขึ้นบนจาน ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ชูแก้ว แล้วพูด

    "ลงมือได้"

    แฮร์รี่กับรอนจัดการอาหารตรงหน้าทันที

    "เธอน่าจะบอกฉันตั้งแต่แรก ฉันสงสัยจะแย่ ว่าเธอหมายความว่าอะไร" เฮอร์ไมโอนี่พูดกับยาช่า เขานั่งอยู๋ไม่ห่างนัก

    "งั้นก็ไม่ตื่นเต้นสิครับ" เด็กชายหัวเราะ

    "นายได้คุยกับกาเบรียลบ้างหรือเปล่า" รอนถาม เขาออกจะกลัว ๆ ว่าเฟลอร์จะเล่าเรื่องของเขาให้น้องสาวฟัง

    "เปล่าครับ ตั้งแต่เจอกัน เขาไม่พูดกับผมเลยสักคำ" ยาช่าตอบ เขาเริ่มหยิบขนมปังในจานขึ้นมากินบ้าง

    จนกระทั่งของหวานชิ้นสุดท้ายบนจานถูกย้ายเข้าไปอยู่ในท้องของรอนแล้ว เขาก็เริ่มหาวพร้อมกับแฮร์รี่

    "ฉันไปนอนดีกว่า" เด็กชายทั้งสองลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่หอนอนของตัวเอง

    เฮอร์ไมโอนี่จัดหนังสือที่หิ้วมาด้วยให้เรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นบ้าง แต่ยาช่ากลับเดินไปอีกทาง

    "ผมยังไม่ขึ้นครับ พอดีต้องไปหาศาสตราจารย์มักกอนนากัล" เขาบอก แล้วก็หันไปเห็นว่ากาเบรียลเดินฉับ ๆ ไปเพียงลำพัง
    "เธอจะเข้าหอนอนสายนะ" เธอเตือนแล้วก็เห็นมัลฟอยกำลังจ้องเขม็งมาที่พวกเขา เฮอร์ไมโอนี่กลัวว่าเขาจะบีบแก้วทองในมือจนแตกเหลือเกินจึงถอยห่างยาช่าออกมานิดหนึ่ง

    "ไม่เป็นไรครับ สิทธิพิเศษของผมคือเข้าหอนอนสายได้" เด็กชายพูดจบก็รีบเดินตามกาเบรียลไป

    เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยนิดหนึ่ง เขาขยับริมฝีปากให้เธอเข้าใจ

    "อย่าเชียวนะ"

    ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เป็นสีชมพู แล้วเธอก็วิ่งหายเข้าไปในหอนอนหญิงของบ้านกริฟฟินดอร์

    +-บทที่ 6+-

    ยาช่าเดินตามกาเบรียลไปติด ๆ แต่เธอดูเหมือนจะไม่ได้ชลอฝีเท้าลงแม้แต่น้อย ออกจะก้าวเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ แต่ยาช่าตัวสูงกว่ากาเบรียลมาก ไม่ช้าก็เดินตามมาใกล้ได้

    ไม่มีใครอยู่ในห้องของศาสตราจารย์มักกอนนากัลตอนที่ทั้งสองคนมาถึง กาเบรียลหันมาพูดกับยาช่าด้วยน้ำเสียงเย็นชา

    "เธอเรเนฟสกี้สินะ"

    "ครับ แต่เรียกยาช่าก็ได้" เขาบอกอย่างเป็นมิตรแล้วก็เงียบไปเมื่อมองอีกฝ่าย

    ยาช่าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนมองเขาตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยสายตาเย้ยหยันขนาดนั้น กาเบรียลหยุดสายตาที่ใบหน้าของเด็กชายแล้วพูด

    "ฉันรู้แล้วนะ ว่าเธอเป็นอะไร - - อย่าเข้ามาใกล้ฉันเชียว!" กาเบรียลพูดเสียงเย็นเฉียบ

    ยาช่าเม้มปาก เขารู้แล้วว่าไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับเด็กหญิงให้มาก บางทีมิตรภาพอาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเธอสักนิด
    ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็เดินเข้ามาพร้อมกับข้าวของ เธอวางทุกอย่างลงบนโต๊ะแล้วพูด

    "มิสเดอ ลากูร์ กับมิสเตอร์เรเนฟสกี้ ที่ฉันเชิญพวกเธอมานี่ก็เพราะอยากจะทำความเข้าใจเรื่องสิทธิพิเศษกับพวกเธออีกครั้ง ก็อย่างที่เธอรู้กันมาบ้างแล้วว่า - - หนึ่ง พวกเธอสามารถเข้าหอนอนช้ากว่าเด็กคนอื่นได้ และสองคือสามารถใช้ห้องสมุดได้ถึงแม้ว่าจะเลยเวลาปิดก็ตาม แต่ฉันขอให้พวกเธอใช้วิจารณญาณในการใช้สิทธิ์นี้อย่างเหมาะสมนะ"

    ทั้งสองคนรับคำ

    ...+*+*+...

    มัลฟอยไม่อยากบอกใครต่อใครให้รู้เลยว่าเขาหงุดหงิดแค่ไหนที่เห็นยาช่าโผล่หน้ามาที่โรงเรียนอีกครั้ง และที่สำคัญคือได้อยู่บ้านเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่


    "คนเคยชอบกันก็ต้องได้อยู่บ้านเดียวกัน"

    เด็กจากบ้านกริฟฟินดอร์คนหนึ่งพูดกับเพื่อนพลางหัวเราะ แต่ประโยคนี้ลอยมาเข้าหูมัลฟอยที่กำลังอยู่แถวนั้นกับแครบและกอยล์เต็ม ๆ

    "ฉันเห็นนะ ว่าเฮอร์ไมโอนี่ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดกับยาช่าทุกวันเลย"

    "แต่กาเบรียลสิ ไม่พูดกับใครเลย เห็นเดินอยู่คนเดียว"

    มัลฟอยไม่จำเป็นต้องเงี่ยหูฟังบทสนทนานี้แม้แต่น้อย ในเมื่อผู้พูดเหมือนจงใจจะให้ใครต่อใครได้ยิน แต่ในไม่ช้าทั้งคู่ก็เงียบเสียงลงทันทีเมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นว่าอีกคนกลายเป็นตัวแบดเจอร์ แครบกับกอยล์อ้าปากค้างเพราะตัวการคือมัลฟอยที่กำลังชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ทั้งสองคนนั้น

    "มิสเตอร์มัลฟอย!" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลตรงรี่เข้ามาหาเขา ขณะที่เด็กสองคนที่ถูกสาปร้องเสียงหลงเอามือปิดหน้าวิ่งไปห้องพยาบาล

    "หักสลิธีรินยี่สิบคะแนน! แล้วเธอก็ตามฉันมา!"

    มัลฟอยกัดริมฝีปาก เขาเก็บไม้กายสิทธิ์ไว้ในเสื้อคลุมตามเดิมแล้วเดินตามศาสตราจารย์มักกอนนากัลไปโดยดี

    "หมอนั่นเป็นอะไรไป" แฮร์รี่สงสัย แต่รอนที่อยู่ข้าง ๆ กำลังทำท่าเหมือนสวดมนต์อย่างเร็วปรื๋อ

    "ขอให้โดนกักบริเวณ เทกระโถน ขัดถ้วยรางวัล ถูทางเดิน เข้าไปในป่าต้องห้ามคนเดียวที่เถอะ....เพี้ยง!"

    ศาสตราจารย์มักกอนนากัลลงโทษมัลฟอยด้วยการให้เขาไปทำงานกับอาจารย์สเนป - - ดีเกินกว่าที่มัลฟอยคิดเยอะ สำหรับการลงโทษนักเรียนสลิธีริน แน่นอนว่าสเนปจะไม่มีทางทำอะไรร้าย ๆ กับเด็กจากบ้านที่เขาดูแล (ถ้าเป็นแฮร์รี่กับรอนก็ว่าไปอย่าง) แต่เป็นเพราะไม่มีอาจารย์คนไหนต้องการให้เด็กไปช่วยงานเลย แม้แต่ฟิลช์ก็บอกว่าเขาเพิ่งทำความสะอาดทางเดินไป และไม่ต้องการให้มันสกปรกเร็วเพราะเด็กที่อ้างว่า"จะมาช่วยทำให้มันสะอาด"

    ...+*+*+...

    "ยาช่า ตื่นเร็ว!" เฮอร์ไมโอนี่สะกิดเด็กชายที่กำลังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ

    "ผมง่วงนี่ เมื่อคืนก็ออกไปที่ป่าต้องห้ามทั้งคืน ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้นอนเลย" เขาขยี้ตาแล้วหาว

    "เบา ๆ สิ!" เฮอร์ไมโอนี่ปรามแล้วชี้ไปที่กาเบรียล เธอนั่งอยู่คนเดียวไม่ห่างนัก

    พวกเขาอยู่ในห้องสมุดของโรงเรียน เวลาเพียงหัวค่ำเท่านั้นแต่ยาช่าเอาแต่สัปหงกอยู่เรื่อย

    "คุณกลับไปก่อนเถอะฮะ ผมใช้ห้องสมุดจนดึกได้" เด็กชายเสยผมแล้วหาวอีก

    "แน่ใจเหรอว่าจะได้ทำต่อ เธอจะนอนมากกว่า" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้ทัน

    ยาช่ารีบส่ายหัวแล้วทำตาสว่างขึ้นทันที

    "ไม่เป็นไรครับ ผมจะทำให้เสร็จ" เขาเกรงใจที่ต้องให้เพื่อนมานั่งหลังขดหลังแข็งทำรายงานกับเขา

    กาเบรียลส่งสายตาขุ่นเคืองมาที่ทั้งสอง เหมือนจะบอกว่ายาช่าเสียงดังเกินไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่เห็นเข้าก็หันมาพูดกับเด็กชาย

    "ก็ได้ ฉันไปก่อนนะ แต่ว่าเธอ" เฮอร์ไมโอนี่แอบชี้ไปที่กาเบรียล "ผูกมิตรกับเขาไว้บ้างก็ดีนะจะได้มีเพื่อน"

    ยาช่ารับคำด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ - - เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีทางรู้ว่ากาเบรียลยื่นคำขาดกับเขาไว้อย่างไร

    เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากห้องสมุดเพียงลำพัง บรรยากาศตรงระเบียงทางเดินเริ่มมืดแล้ว และไม่มีใครเดินเพราะเด็กทุกคนต่างก็ไปอยู่ที่หอนอนของตัวเอง เธอเร่งฝีเท้าให้ทันก่อนที่หอนอนจะปิด แต่ด้วยความมืดและรีบเร่งทำให้เธอชนกับคนที่เดินออกมาจากคุกใต้ดินอย่างจัง

    "ขอโทษค่ะ!" เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดแล้วก็อ้าปากค้าง

    "มัลฟอย!"

    ...+*+*+...

    เขาขมวดคิ้วให้แทนคำตอบรับแล้วถาม

    "เธอมาทำอะไรแถวนี้ เกรนเจอร์"

    "ฉันไปหอสมุดมา" เฮอร์ไมโอนี่ตอบเต็มปากเต็มคำ คำว่า"ไปหอสมุด"ดูจะมีภาษีดีกว่ามัลฟอยที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเดินเถลไถลอยู่ - - ทั้งที่ความจริงคือเขาเพิ่งไปทำงานกับอาจารย์สเนปมา

    "กับยาช่า" มัลฟอยหรี่ตา แล้วต่อประโยคให้

    "ใช่!" เฮอร์ไมโอนี่กระแทกเสียง เธอขี้เกียจแก้ตัวหรือโกหก

    มัลฟอยกัดกรามแน่น และเร็วเกินกว่าที่เธอจะตั้งตัวมัลฟอยก็หยิบไม้กายสิทธิ์มาชี้ที่เธอ เด็กหญิงล้มลงทันทีเหมือนถูกมัดข้อมือและข้อเท้า

    "ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนทั้งที่นอนตัวงออยู่บนพื้น

    "จะจับเธอโยนออกไปนอกโรงเรียนแล้วให้เซ็นทอร์บ้าเลือดมารุมทึ้งน่ะสิ!" มัลฟอยแผดเสียง เขาจำจุดอ่อนของเธอได้ เด็กหญิงหน้าซีดขาว ทำให้มัลฟอยนึกอยากจะแกล้งเธออีกสักหน่อย เฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะร้องโวยวาย มัลฟอยโบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้ง ก็เหมือนมีมือล่องหนขนาดใหญ่มาปิดปากเธอไว้แน่น

    มัลฟอยทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เด็กหญิงที่กำลังดิ้นและส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอ ริมฝีปากติดกันแน่น เขายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วแกล้งมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างพินิจ

    "เอาล่ะ จะจูบตรงไหนก่อนดี"

    เฮอร์ไมโอนี่ตาเบิกโพลง เม้มปากแน่น แล้วสายหัวดิก มัลฟอยกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่

    "คราวที่แล้วกัดลิ้นฉัน ถ้าคราวนี้กัดอีกนะ...." เขาแกล้งขู่แล้วทำสายตาเหมือนจะบอกว่า "น่าดูแน่"

    แล้วมัลฟอยก็ก้มศรีษะลงมาจูบที่ริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่ที่นอนตัวแข็งค้างอยู่บนพื้น

    +-บทที่ 7-+
     
    ยาช่ามองออกไปนอกหน้าต่าง ภายนอกมืดสนิทแล้ว สายลมพัดต้นไม้โอนเอนไปมา เขาม้วนกระดาษรายงานตรงหน้าเก็บ และเรียงหนังสือที่นำมาใช้เพื่อนนำไปวางที่โต๊ะหนังสือใช้แล้ว

    ก่อนจะเดินออกไปเขาก็เห็นว่ากาเบรียลฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ ยาช่าเดินไปสะกิดปลุกอย่างเป็นห่วง เธองัวเงียลืมตาขึ้น พอเห็นว่าเป็นยาช่าก็คอแข็งขึ้นมาทันที

    "ฉันจะอยู่ต่อ นายกลับไปเถอะ" กาเบรียลพูดห้วน ๆ

    "ผมเห็นคุณหลับ…." เด็กชายค้าน

    "ตอนนี้ฉันตื่นแล้ว!" เธอเถียงแล้วตั้งท่าจะทำรายงานต่อ ยาช่านึกฉุน แต่ก็รู้ว่าเธอเป็นคนดื้อดึงไปอย่างนั้นเอง

    "ผมจำได้ว่าที่ฮอกวอตส์มีสัตว์แปลก ๆ เยอะ…." เขาเปรยขึ้น

    "บางตัวอาจจะบุกเข้ามาอาละวาด"

    กาเบรียลหน้าเผือดไป เธอจ้องหน้ายาช่าเขม็ง เขายิ้มให้แล้วพูด

    "กลับกันเถอะฮะ"

    ...+*+*+...

    "มืดจัง" กาเบรียลบ่น หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องสมุดด้วยกัน แสงจากคบไฟตามทางพอให้แสงสว่างอยู่บ้าง ยาช่าก้าวเดินได้อย่างสบาย ขณะที่เธอสะดุดโน่นนี่ตลอด

    "ตามหลังผมมาสิครับ ผมเห็นตอนกลางคืนได้ดีกว่าคน"

    เด็กหญิงถอนใจพรืด - - ความสามารถของเขาไม่ได้น่าชื่นชมสำหรับเธอสักนิด กาเบรียลก้าวฉับ ๆ เดินนำหน้าเขาไป

    "ระวังฮะ!" ยาช่าร้อง

    ช้าไป…..กาเบรียลเหยียบลงไปบนบันไดปลอมที่อยู่ขั้นแรก เนวิลล์เท่านั้นเหยียบพลาดอยู่บ่อย ๆ แต่ในความมืดขนาดนี้ไม่น่าแปลกที่เธอจะไม่ทันสังเกต

    "โอ๊ย! ฉันออกไม่ได้" เธอตะโกน ตัวจมลงไปในบันไดถึงต้นขา

    "ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวผมดึงขึ้นให้" ยาช่ากระโดดขึ้นบันไดไปบนขึ้นสูงกว่า แล้วลงมือดึงแขนเด็กหญิง

    "ฉันเจ็บนะ!" กาเบรียลร้อง

    "เอาไงดี - - จริงสิ" เขาคิดออก

    ยาช่าลงไปที่พื้นก่อนบันได แล้วคว้าเอวอีกฝ่ายไว้แทน

    "ทำอะไรของนาย!" กาบรียลโวยวาย

    แต่เขาออกแรงยกนิดเดียว เธอก็หลุดออกมาทันที กาเบรียลมองยาช่าด้วยใบหน้าสีชมพูจัดด้วยความโกรธและอาย

    "ผมขอโทษครับ แต่คุณก็ออกมาได้แล้วนี่"

    กาเบรียลไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่หอนอนของตัวเองโดยไม่หันกลับมาอีกเลย

    อีกด้านหนึ่ง

    "เกรนเจอร์….." มัลฟอยเรียกชื่อเฮอร์ไมโอนี่ชิดริมฝีปาก

    เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นสุดแรง - - มัลฟอยลืมไปแล้วหรือไงว่าตรงนี้คือทางเดิน! แต่แล้วก็มีเสียงฝีเท้าของคนที่เดินมาจากที่ไกล ๆ มาช่วยเตือนความจำเขา

    "ว่าไง ว่าไง แม่หวานใจ มีคนยังไม่เข้าหอนอนอีกหรือ เลยเวลาหอปิดมาตั้งสิบนาทีแล้ว"

    "ฟิลช์!!" มัลฟอยร้อง แล้วหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาเคาะที่ข้อมือและข้อเท้าของเฮอร์ไมโอนี่ มันแยกออกจากกันทันที

    "หลบก่อน! เกรนเจอร์" เขาชี้ไปที่ห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างหลัง เฮอร์ไมโอนี่ที่ทั้งตัวได้แล้ววิ่งตามเขาเข้าไปทันที

    ทั้งสองคนรอจนกระทั้งฟิลช์กับคุณนายนอร์ริสเดินผ่านไป เมื่อเสียงฝีเท้าของทั้งคนและแมวเงียบไป มัลฟอยก็ถอนใจเฮือก
    "รอดแฮะ…."

    เพี๊ยะ!

    มัลฟอยแทบหน้าคะมำเมื่อฝ่ามือของเฮอร์ไมโอนี่ตวัดฟาดลงมาบนใบหน้าของเขาเต็มแรง

    "ฉันไม่อยากเชื่อเลย นายมัน….สกปรก!" เด็กหญิงพูดเสียงดัง น้ำตาเอ่อคลอ

    "ฉัน…" มัลฟอยอึ้ง เป็นครั้งแรกที่เขาใช้วิธีสกปรกอย่างที่เธอว่า แต่ตอนนี้ถ้าแก้ตัวว่าแค่อยากแกล้งคงโดนตบอีกแน่

    เฮอร์ไมโอนี่ลุกพรวดขึ้น กระชากประตูเปิดออกแล้ววิ่งหนีไปทันที มัลฟอยห้ามเธอไม่ทัน เขาได้แต่มองด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่จนหายไปจากสายตา เด็กชายยกมือลูบแก้มตัวเองแล้วคราง

    "เรื่องใหญ่แล้วสิ"

    +-บทที่ 8-+
     
    "นี่คือตัวรีอัม ปัจจุบันหาได้ยากมากแล้วพบแต่ในป่าแถบอเมริกาเหนือและตะวันออกไกลเท่านั้น"

    แฮกริดตะเบ็งเสียงดังกว่าปกติในคาบสัตววิเศษ เพราะเขาต้องต่อสู้กับความงามของกาเบรียลที่แย่งความสนใจจากนักเรียนในชั้นไปจนหมด แฮร์รี่กับรอนพยายามตั้งสมาธิไปที่แฮกริดและวัวเขาทองที่เขาจูงอยู่ให้มากที่สุด

    แต่เมื่อไม่เป็นผล แฮกริดก็เปลี่ยนวิธีสอนโดยเรียกให้ยาช่าลุกขึ้นมาดูตัวรีอัมใกล้ ๆ

    บางทีตัวรีอัมอาจจะเป็นอันตรายมากก็ต่อเมื่อถูกทำให้โกรธเท่านั้น ดังนั้นยาช่าจึงสามารถเดินดูรอบ ๆ ตัวมันได้โดยที่ไม่เกิดอะไรขึ้น

    "ฉันอยากดูบ้าง!" กาเบรียลลุกพรวดขึ้น แฮกริดยกมือปราม

    "ได้ ได้ แต่เบา ๆ หน่อย ฉันไม่แน่ใจว่าถ้าทำมันตกใจแล้วมันจะอาละวาดหรือเปล่าอ้ะ"

    กาเบรียลเดินเข้าไปใกล้ ๆ ตัวรีอัม แล้วเดินไปข้างหลังมัน ทันใดนั้นเองวัวเขาทองก็ร้องเสียงดังลั่นแล้วพุ่งเข้าสู่กลุ่มนักเรียนที่นั่งดูกันอยู่เบื้องหน้า

    ยาช่าที่ยืนอยู่ด้านหน้าจึงโดนมันเอาเขาแทงเข้าที่หัวไหล่เต็ม ๆ เด็กชายล้มลงทันที ตัวรีอัมสะบัดตัวไปมาอย่างโกรธเกรี้ยว แฮกริดคว้าสายจูงไว้แน่น

    "หยุด! หยุด! พวกเธออย่าวิ่งหนีนะ เดี๋ยวมันวิ่งไล่เอา"

    เป็นไปไม่ได้เลยถ้าวัวตัวเกือบเท่าลูกช้างตัวนี้อาละวาดแล้วจะให้นั่งอยู่เฉย ๆ เด็กทุกคนวิ่งหนีเข้ากระท่อมของแฮกริดเกือบหมด แฮร์รี่กับรอนยืนดูอยู่ก็จริงแต่ก็ตัวสั่นสะท้าน

    ยาช่าดิ้นพราดอยู่บนพื้น เลือดไหลพรูออกมาชุ่มหัวไหล่ที่เขากุมไว้ กาเบรียลตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก

    "เป็นไงบ้าง" รอนถลามาที่ยาช่า

    แฮกริดทำให้ตัวรีอัมสงบลงได้สำเร็จ เขารีบวิ่งมาที่เด็กชาย

    "ไม่เป็นไรฮะ แค่แค่ถาก ๆ" เขาบอก เหงื่อเต็มทั่วใบหน้า

    "ถากบ้าอะไร!!" รอนร้อง แฮร์รี่กระทืบลงบนเท้ารอน - - ถ้ามีคนถูกทำร้ายเพราะสัตว์ที่แฮกริดพามาล่ะก็ เขาต้องเดือดร้อนแน่

    "ไปห้องพยาบาลเถอะ ฉันจะพาเธอไป" แฮกริดพูดแล้วก็พยุงยาช่าไป

    แฮร์รี่หันไปมองกาเบรียลที่ตัวสั่นอยู่ไม่ห่าง เขาเห็นเธอรีบทิ้งขนกระจุกหนึ่งในมือทิ้ง รอนกระซิบกับแฮร์รี่ เมื่อมองไปที่วัวเขาทองตัวที่เพิ่งอาละวาดไปหยก ๆ

    "ขนที่หางมันหายไปไหน"

    บาดแผลของยาช่าลึกมาก และเสียเลือดไปเยอะ มาดามพอมฟรีย์จึงจับเขากรอกยาบำรุงเลือดที่รสและกลิ่นเหม็นคาวเป็นที่สุดและให้นอนค้างที่ห้องพยาบาลหนึ่งคืน และไล่เด็กทุกคนที่พยายามจะเข้ามาเยี่ยม

    "ห้ามเยี่ยม! ไม่เข้าใจรึไง เขาต้องพักผ่อน ยาจะได้ออกฤทธิ์เต็มที่!"

    คืนนั้นยาช่านอนมองเพดานห้องพยาบาลอย่างเบื่อ ๆ - - เขามักจะออกไปนอกโรงเรียนทุกคืน (ในร่างหมาป่า) แต่คืนนี้เขากลับต้องมานอนอยู่อย่างนี้

    มีเสียงคนเดินมาที่เตียงเขา - - หรือมาดามพอมฟรีย์จะจับเขากินยาบำรุงเลือดอีก

    "โอ๊ย.....ไม่เอาแล้วนะ" เด็กชายบ่น

    แต่คนที่เดินเข้ามากลับเป็นกาเบรียล เด็กหญิงผมสีเงินเดินเข้ามาชิดเตียงพร้อมกับมองเขาอย่างสำนึกผิด

    "เธอรู้ว่าฉันเป็นคนทำให้มันโกรธ"

    ยาช่ามองอีกฝ่ายด้วยแววตาขุ่นเคือง - - เป็นไปไม่ได้เลยถ้าถูกแทงห่างหัวใจไปแค่คืบแล้วเขาจะไม่โกรธ!

    "ฉันขอโทษ" กาเบรียลก้มหน้า น้ำตาหยดลงมาที่เตียง ความโกรธของยาช่าดูเหมือนจะลดลงบ้าง

    "ช่างมันเถอะฮะ!" เขาตัดบทอย่างไม่เต็มใจนัก

    กาเบรียลยกช่อดอกไม้ที่ถือมาด้วยให้เขา ถึงอยู่ในแสงสลัว แต่เขาก็รู้ว่าดอกไม้ในมือของเธอนั้นต้องสวยมากแน่ ๆ กาเบรียลหน้าเป็นสีชมพู

    "ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบหรือเปล่า"

    ยาช่ารับมาถือไว้ เมื่อเขาหันไปจะขอบคุณ กาเบรียลก็หอมเขาที่แก้มฟอดใหญ่

    "ราตรีสวัสดิ์นะ" เด็กหญิงหน้าเป็นสีแดงจัดแล้ววิ่งออกไป

    ยาช่ายกมือขึ้นลูบแก้มข้างนั้น - - เขาไม่รู้ว่าหัวใจที่เต้นแรงตอนนี้หมายถึงอะไร แต่เขารู้สึกว่า ถ้าเขาถูกตัวรีอัมขวิดแล้วกาเบรียลจะหอมเขาล่ะก็ เขาอยากจะถูกขวิดจนตัวพรุนดูสักที

    ...+*+*+...

    บรรยากาศที่ริมทะเลสาบในตอนเช้าช่างเหมาะกับการอ่านหนังสือมาก ยิ่งเป็นช่วงนี้ที่คนส่วนใหญ่มีเรียนแล้ว เฮอร์ไมโอนี่มักจะปลีกตัวจากเพื่อนมานั่งอ่านหนังสือกับครุกแชงก์ แมวของเธอ แมวสีส้มส่งเสียงร้องให้นายของมันเหมือนประจบ เฮอร์ไมโอนี่เกาคางให้มัน ครุกแชงก์ครางเบา ๆ อย่างมีความสุข


    หนังสือกองหนึ่งตั้งอยู่ข้างตัว เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้หยิบมันขึ้นมาอ่านเลยสักเล่ม เพราะในตอนนี้สมาธิดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดได้ยากยิ่งสำหรับคนที่มีเรื่องคิดวนไปวนมาอย่างเธอ

    "เขาคงเจ็บนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดกับครุกแชงก์ที่ตอนนี้มันมานอนอยู่บนตัก ถึงอย่างนั้นก็ยังมองหน้าเธอเหมือนฟังรู้เรื่อง

    "ถ้าแกพูดได้ก็ดีสิ ฉันจะได้คุยกับแกได้" เธอพูดแล้วก็นึกสนุก มองหน้าตาตลก ๆ ของมันแล้วแกล้งพูด

    "พูดซิ ครุกแชงก์"

    "ได้เลยเฮอร์ไมโอนี่ เราพูดกันเรื่องอะไรดีล่ะ"

    เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งแล้วก็จ้องแมวสีส้มของตัวเองอย่างแปลกใจ - - แล้วก็นึกออก
     
    "มัลฟอย! ออกมานะ!"

    เจ้าของชื่อเดินออกมาจากหลังต้นไม้ที่เธอพิงอยู่ แล้วมองเฮอร์ไมโอนี่

    "เธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน"

    "เสียงเธอ!" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง แล้วทำท่าจะเดินหนีไป

    "เธอจะโกรธฉันอีกนานไหมเนี่ย ดีกันเถอะน่า" มัลฟอยง้อ เฮอร์ไมโอนี่หันกลับมาพูด

    "ฉันจะโกรธ! โกรธ! โกรธ! เธอคิดว่ามันสมควรไหมล่ะ!"

    "ไม่สมควร เพราะฉันไม่ได้ตั้งใจ" มัลฟอยว่าไปโน่น

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจหน่าย - - คำแก้ตัวของเขาช่างง่ายดายเหลือเกิน ครุกแชงก์ส่งเสียงขู่ฟ่อใส่เขาเหมือนโกรธแทนเจ้านาย

    "ฉันไม่ยกโทษให้!" เฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธเสียงดัง แล้วหันหลังกลับเข้าปราสาทไปทันที

    ครุกแชงก์มองหน้ามัลฟอยแล้วเชิดหน้าใส่เขาบ้าง

    "เหมือนเจ้านายแกเลย!" เขามองแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่จนลับสายตาไป (พร้อมกับแมวของเธอ)
    มัลฟอยคราง

    "ฉันไม่น่าปล่อยเธอไปทุกครั้ง - - ทุกครั้งเลยจริง ๆ"

    +-บทที่ 9-+
     
    ที่ห้องสมุดของโรงเรียนฮอกวอตส์วันี้ไม่ค่อยมีคนนั่งอยู่ เนื่องจากอากาศค่อนข้างหนาว เด็กส่วนใหญ่จึงไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านตัวเองเพื่อผิงไฟและเล่นเกมกับเพื่อน แต่ก็มีบ้างที่ออกไปเล่นปาหิมะกันอยู่ข้างนอกเช่นฝาแฝดเฟร็ดกับจอร์จ

    "หนาวขึ้นเยอะเลย" กาเบรียลพูดกับยาช่าพลางห่อตัว เธอนั่งอยู่ในห้องสมุดกับเขามาตั้งแต่เช้า

    ดูเหมือนว่ากาเบรียลจะพูดจาดีกับยาช่ามากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เขาออกจากห้องพยาบาลมา

    "โอ๊ย…." ยาช่าครางแทนคำตอบ แล้วปากกาขนนกก็ตกจากมือเขา แผลจากหัวไหล่เจ็บร้าวมาจนถึงปลายนิ้ว ทำให้เขาเขียนหนังสือไม่สะดวกนัก

    "เจ็บเหรอ - - ไปห้องพยาบาลกันเถอะ" กาเบรียลเดินมาหาเขา

    "ฮะ" ยาช่ารับแล้วลุกขึ้นตามเด็กหญิงออกไป

    มาดามพอมฟรีย์ที่อยู่ห้องพยาบาล รีบพายาช่าไปนั่งที่เตียงทันทีที่เห็นทั้งสองเดินเข้ามา

    "ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าขยับแขนมาก - - ถอดเสื้อออกซะ" เธอดุเมื่อเห็นว่าแผลของยาช่าเปิดและมีเลือดซึมออกมาติดเสื้อคลุมเขาแล้ว มาดามฟอมฟรีย์ตัดผ้าพันแผลตรงหัวไหล่ที่ชุ่มเลือดของเขาออก แล้วลงมือพันผ้าใหม่ให้เขา

    นกฮูกตัวหนึ่งบินมาเกาะที่หน้าต่างห้อง มาดามพอมฟรีย์ลุกขึ้นแล้วกำชับคนไข้

    "อย่าขยับแขนเด็ดขาดนะ เดี๋ยวฉันมา"

    ยาช่าพยายามอยู่นิ่ง ๆ ตามที่เธอบอก กาเบรียลที่ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ พูดเสียงเศร้า

    "ขอโทษนะ"

    ยาช่าเลิกคิ้ว เขาหัวเราะแล้วส่ายหน้า

    "คุณพูดประโยคนี้กับผมเป็นร้อยครั้งแล้ว - - และผมก็บอกว่าไม่เป็นไรร้อยครั้งแล้วเหมือนกัน"
    เด็กหญิงหน้าเป็นสีชมพู แล้วกลั้นใจถาม

    "ยาช่า เธอ….มีใครที่ชอบหรือยัง"

    ยาช่าทำสีหน้าแปลกใจระคนงงงวย ขณะจ้องมองกาเบรียล เธอเดินอ้อมเตียงมาหยุดยืนตรงหน้าเขาก่อนจะย่อเข่าลงแล้วสวมกอดเด็กชายอย่างนุ่มนวล ยาช่าหน้าเป็นสีชมพู

    "ฉันชอบเธอ" กาเบรียลพูดเสียงเบาราวกับไม่ต้องการให้เขาได้ยิน

    ผิดไปประสาทหูของยาช่าไม่เหมือนคนอื่น ๆ เหมือนประสาทตาอย่างที่เขาเคยบอก เขาจึงได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน กาเบรียลเงยหน้าขึ้นสบตาสีเทาของเขา เด็กชายเริ่มรุ่นหน้าเป็นสีจัด

    ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือร้ายที่มาดามพอมฟรีย์เดินเข้ามาพร้อมเสียงกระแอมเสียก่อน

    ...+*+*+...

    แล้ววันกลับของยาช่ากับกาเบรียลก็มาถึง เฮอร์ไมโอนี่มานั่งริมทะเลสาบอีกครั้ง พร้อมด้วยแมวของเธอเช่นเดิม เพียงแต่วันนี้ไม่มีหนังสือหอบใหญ่ เธอรู้ว่าเอามาก็ไม่ได้อ่านอยู่ดี และเธอวางแผนไว้ว่าจะไปส่งยาช่าตามเวลาที่เขาบอก จึงไม่อยากถือให้หนัก

    มัลฟอยเดินตรงมาที่ต้นไม้ที่เธอพิงอยู่ เฮอร์ไมโอนี่ตกใจ ตั้งท่าจะลุกหนี

    "เกรนเจอร์ฟังฉันหน่อยได้ไหม" เขาพูดเสียงเหนื่อย

    "ไม่! ไปกันเถอะครุกแชงก์" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเขียว ถึงแม้ว่าความโกรธจะหมดไปแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากยกโทษให้เขาง่ายนัก

    มัลฟอยถอนใจแล้วมองแมวสีส้มของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง

    "ฉันล่ะอิจฉาแกจริง ๆ" เขาพูดกับแมวแทน

    "เขาคงพูดกับแกทุกเรื่องเลยสิ" มัลฟอยนั่งลงหน้าครุกแชงก์ มันโยกหัวมองเขาอย่างงง ๆ

    "งั้นก็ช่วยบอกนายแกด้วยสิว่าฉันขอโทษ" เขาเงยหน้าจากแมวแล้วมองเฮอร์ไมโอนี่เต็มตา

    "ฉันขอโทษ"

    เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพู มัลฟอยยืนขึ้นแล้วเดินมาหาเธอช้า ๆ

    "ยกโทษให้ฉันได้รึยัง" เขาพูด แก้มเป็นสีชมพูเช่นกัน แต่ก็ยังไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

    "ฮื่อ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงเบา

    มัลฟอยิ้มแล้วก้มหน้าลงมาชิด

    "คราวนี้….ให้ฉันจูบได้หรือยังล่ะ"

    เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก ใบหน้าเป็นสีจัดขึ้นอีก แต่พอมัลฟอยโน้มหน้ามา เธอก็ร้อง

    "ต้องไปส่งยาช่านี่ วันนี้"

    "อย่าเฉไฉไปนอกเรื่องน่า!" มัลฟอยบ่น แต่เฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งจากไปเสียก่อน

    "ปัทโธ่เอ๊ย…. แกดูนายแกสิ!" เขาหันไปหาครุกแชงก์เหมือนหาพวกขณะดูเฮอร์ไมโอนี่วิ่งจากไป

    แต่แมวสีส้มร้องเหมือนจะเยาะเย้ยซะนี่

    ...+*+*+...

    โรงเรียนของยาช่าและกาเบรียลส่งรถม้าขนาดใหญ่เท่ารถเมล์อัศวินราตรีมารับและลงจอดเคียงกันที่สนามควิดดิชที่มีหิมะคลุมประปราย คนที่มากับรถม้าของแต่ละโรงเรียนมีนับสิบคน พวกเขาพากันเดินชมรอบ ๆ เพื่อรอเวลารถออก และส่งเสียงจ้อกแจ้กวิพากษ์วิจารณ์บริเวณโรงเรียนกัน

    "ผมนึกว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว" ยาช่าที่ตอนนี้แขนขวาสอดไว้ในผ้าผืนใหญ่ซึ่งคล้องคอไว้เหมือนเข้าเฝือกทักเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเห็นเธอวิ่งมา

    "ฉันก็ต้องมาสิ" เธอบอก

    กาเบรียลแอบมองมาที่ทั้งสอง เธอไม่มีใครมาส่ง แต่ก็กำลังคุยกับอาจารย์จากโบซบาตงที่มารับเธอทั้งสองคนมีสีหน้ายินดีที่ได้พบกัน เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองเด็กหญิงผมสีเงินคนนั้นแล้วหันกลับมายิ้มให้ยาช่า

    "เขาน่าจะชอบเธอนะ"

    "เหรอฮะ" ยาช่าเลิกคิ้ว แล้วหันมายิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่

    "แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเขาต้องสมหวังไม่ใช่เหรอฮะ" เขาพูดแล้วส่งสายตาเหมือนจะบอกว่า - - ก็ผมยังไม่ชอบเขานี่

    "เรเนฟสกี้ ขึ้นรถได้แล้ว" อาจารย์คนหนึ่งตะโกนบอก คนอื่น ๆ ที่มาด้วยเริ่มทยอยขึ้นรถม้า

    ยาช่าหันไปรับคำก่อนจะกล่าวลากับเพื่อน

    "ลาก่อนนะฮะ หวังว่าคงได้เจอกันอีก"

    "แล้วฉันจะส่งนกฮูกไปหา" เฮอร์ไมโอนี่พูด ความอาลัยอยู่เต็มในหัวใจ
     
    ยาช่ายิ้มแล้วมองเธอเต็มตา - - นาทีนั้นเขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดที่หลุดออกมามีเพียงแค่ - -

    "ครับผม"

    เฮอร์ไมโอนี่มองเขานิ่งขณะที่ยาช่าก้าวขึ้นไปบนรถม้าคันใหญ่ แล้วประตูก็ปิด เธอเอาฝ่ามือแนบกระจก ยาช่าทาบฝ่ามือลงบนกระจกตรงกำฝ่ามือของอีกฝ่ายเช่นกัน กระจกเย็นเฉียบแต่เหมือนมีความอบอุ่นส่งได้ถึงกัน

    รถม้าเคลื่อนตัวจากสนามควิดดิชก่อนจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอันสดใสในตอนเช้า เฮอร์ไมโอนี่โบกมือให้ยาช่าจนกระทั่งรถม้าคันนั้นหายไป เธอมองตามอย่างอาวรณ์ - -

    "ถ้าเธอเศร้ามาก ๆ ฉันจะสาปให้รถม้านั่นร่วงลงมาซะเลย!" มัลฟอยเดินเข้ามาพลางพูดเสียงโกรธ ในมือถือไม้กายสิทธิ์

    "พาลไม่เข้าเรื่อง!" เฮอร์ไมโอนี่ว่า

    "ก็มันน่าไหมล่ะ" เขาเถียง เสียงยังคงมีแววขุ่นใจอยู่

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจเฮือกใหญ่ - - ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงเกลียดเขาไม่ลงสักที

    "กลับกันเถอะ" มัลฟอยเรียก เธอจึงเดินเข้าไปหาเขา

    ทั้งสองคนเดินกลับไปโรงเรียนด้วยกัน แล้วมัลฟอยก็ถาม

    "เออเกรนเจอร์ ฉันสงสัยมาตั้งนานแล้วว่าตอนไปดูดวงน่ะ ยายเจสสิกา เขาบอกเธอไว้ว่าไงบ้างล่ะ"

    เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×