ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :: zodiac W :: เริ่มตำนาน
เริ่มตำนาน
มนุษย์ได้ศึกษาสิ่งที่เรียกว่า"ดวงดาว"มาตั้งเเต่สมัยอดีตกาล จนได้ค้นพบ พลังอำนาจบางอย่างของกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งที่หมุนเวียนอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งได้เรียกขานต่อกันมาว่า "กลุ่มดาวจักรราศี" โดยประกอบไปด้วย กลุ่มดาว 12 กลุ่ม ซึ่งเเฝงไปด้วยพลังอำนาจเวทย์มนตร์อันมหาศาล กล่าวขานกันว่า เป็นพลังที่เทพเจ้ามอบให้เพื่อรักษาเเละควบคุมสมดุลของโลกนี้ไว้ ดังนั้น มนุษย์จึงได้ตั้งอาณาจักรขึ้นทั้งหมด 12 อาณาจักร เพื่อรักษาสมดุลพลังของเเต่ละกลุ่มดาวเอาไว้ให้คงอยู่ต่อไป
เเต่ไม่นานเท่าใดนัก... บางอาณาจักรก็ได้ตั้งตนเป็นใหญ่ เเละทำผิดต่อบัญญัติของเทพเจ้า อันนำไปสู่กาารเเบ่งเเยก กลุ่มดาวออกเป็นอีก 2 กลุ่ม เเละนี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานสงครามอันยิ่งใหญ่ ที่มีชื่อว่า...
" สงครามจักรราศี "
เเฮก เเฮก...
เสียงลมหายใจอันหอบหืดที่เหมือนใกล้ขาดใจตาย ร้องระรัวอย่างทรมาน ความเจ็บปวดเผยขึ้นทั้งนัยน์ตาสีฟ้าใสที่ข้างขวาเเละนัยน์สีเหลืองทองที่ข้างซ้าย พร้อมกับเผยความโหดร้ายผ่านบาดเเผลเเละฝุ่นผงที่ติดอยู่ตามตัว ขาเล็กเรียวยาวภายใต้กระโปรงยาวสีชมพู วิ่งต่อไปอย่างไร้จุดหมาย หยาดเหงื่อไหลจากหน้าผากลงไปยังปลายคางที่บรรจบกันเป็นโครงหน้าที่งดงาม เรือนผมสีเขียวเข้มยาวสวยพริ้วปะทะกับลมขณะที่ร่างกายบเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เท้าเล็กเหยียบลงบนพื้นดินสีน้ำตาลเข้มเเซมสีเขียวจากต้นหญ้kเล็กๆ เเขนเล็กเรียวยาวเสียดสีกับกิ่งไม้จนเกิดบาดเเผลยาว หากเเต่ร่างเล็กจะสนใจไม่ ร่างนั่นยังคงวิ่งต่อไป ก่อนจะค่อยๆช้าลง เเละหยุดหลังหลังกลับไปมองเบื้องหลังที่เเสนโหดร้าย ดังเช่นควันไฟสีหม่นเเละเสียงกรีดร้องโวกเวกดังมาเเต่ไกล ร่างบางค่อยๆทรุดลง พร้อมหยาดน้ำตาที่รินไหลจากนัยน์ตาสองสีคู่นั่น ก่อนจะเอ่ยวาจาเสียงหวานอันเเผ่วเบาที่กำลังสะอึกสะอื้น ด้วยวความเจ็บปวดที่เสียดเเทงขั้วหัวใจภายในอกซ้ำเเล้วซ้ำอีก...
"ขอโทษนะ... ขอโทษนะ ทุกคน... ฮึก..."
ร่างบางพยายามหอบร่างกายบอบช้ำเดินไปข้างหน้าอย่างอ่อนเเรง เพราะจิตใจที่ต้องการหนีไปให้ไกลจากเบื้องหลังที่เเสนเจ็บปวด เเต่ต่อให้ต้องไปอีกไกลสักเท่าใด หัวใจที่ยอมรับความจริงไม่ได้ ก็คงต้องหยุดพักพิงที่ต้นไม้ต้นใหญ่ทั้งน้ำตา
ไม่ไหว... ไม่อยากอยู่เเล้ว... ใครก็ได้.... ช่วยข้าด้วย...
นัยน์ตาคู่นั้นถูกปิดลง พร้อมกับร่างกายที่เเน่นิ่งไปกับหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาไม่ขาดสาย...
นัยน์ตาสองสีถูกเปิดอีกครั้ง ก่อนที่ร่างบางจะลุกขึ้นมา ด้วยพละกำลังที่มากขึ้น เหมือนกับได้พักมานาน หรือถูกดูเเลอย่างดียังไงยังงั้น ร่างกายสัมผัสกับผ้านุ่มใต้เเผ่นหลัง เเละร่มเงาจากผ้าเหนือหัว หญิงสาวหันไปรอบๆพบกิ่งไม้เล็กเรียวยาวที่กำลังตั้งตรงเหมือนกำลังคลึงผ้าเหนือหัวของเธอไว้อยู่
"ที่ไหนกันนะ?"
เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมความสงสัย ก่อนที่จะหันไป เมื่อได้ยินเสียงเหมือนผ้าถูกจับยกขึ้นอย่างช้าๆ เเละเเสงสีอุ่นร่ำไรสาดส่องเข้ามาทางนั่น ที่ยิ่งทำให้หญิงจับจ้องได้ถูกตำเเหน่งมากขึ้น
เรือนผมสีขาวยาว เข้ากันดีกับัยน์ตาสีเเดงอันเเข็งกร้าว เเละร่างหนาผิวขาวนวลภายใต้ชุดเกราะหนัง เฉกเช่นนายพลทหารอันกล้าเเกร่ง เเม้ว่าใบหน้าจะดุจดังหญิงสาว เเต่เพราะบุคลิกอันเเข็งเเกร่ง ทำให้ร่างบางมองหญิงสาวร่างหนานั่นเยี่ยงบุรุษชาย...
ร่างหนาไม่ปริปากใดๆ เเละเดินตรงเข้ามาย่อกายลงข้างหญิงสาวร่างบาง มือหนาในถุงมือหนังเชยเรียวคางรูปสวยของร่างบางขึ้น ก่อนยื่นหน้าเข้ามาใกล้
"เฮ!..." หญิงสาวอุทาน พร้อมใบหน้าที่เเดงก่ำเเละพยายามขยับตัวหนี เเต่มือหนากับจับร่างบางไว้ด้วยพละกำลังที่เกินกว่าร่างบางจะสู้ได้
"นัยน์ตาสองสี..." ร่างบางเเปลกใจด้วยความกลัว หลังจากที่ได้ยินเสียงเข้มของหญิงสาวตรงหน้า
"เจ้าชื่ออะไร?" ร่างหนาถามด้วยสายตาคมกริบ
"เซน่า... ข้าชื่อเซน่า... " ร่างบางตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก
"ท่านเบนเนต้าขอรับ" เสียงทุ้มต่ำของชายในชุดเกราะอีกนายหนึ่งดังขึ้นมาเเทรกขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมย่อกายลง มือทาบที่อก
"มีอะไร?" ร่างหนาลุกหันไปถามอย่างหนักเเน่น
"ท่านชีบิทมีคำสั่งให้เรียกท่านเบนเนต้าไปพบขอรับ" เมื่อร่างหนาได้ยินดังนั้น ก็หันมามองเซน่าด้วยสายตาที่เหมือนกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง
"เข้าใจเเล้ว ข้าฝากเจ้าดูเเลหญิงสาวผู้นี้ด้วยละกัน"
"ขอรับ"
สิ้นเสียงขานรับของนายทหาร เบนเนต้าก็เดินออกไป พร้อมส่งสายตาอันมีเลศนัยให้เซน่า เด็กสาวนั่งกอดเข่าด้วยความรู้สึกเเปลกๆ เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอบ้างหลังจากนี้ ถ้าจะถูกฆ่าทิ้ง มันก็คงเป็นโชคร้ายของเธอ เเต่ถ้าถูกช่วยไว้ มันคงจะดี
เธอยังคงนั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั่น พล่างเหลือบมองนายทหารที่ยืนเฝ้าคุมอยู่ตรงหน้าเธอ
"เป็นอย่างไรกันบ้าง?" เสียงเข้มเสียงเดิมปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากที่หายไปนาน เเสงอบอุ่นก็สาดส่องเข้ามาอีกครั้ง เมื่อผ้าถูกจับยกขึ้น
"เเม่นางล้มตัวลงนอนไปเเล้วขอรับ" เสียงครึมกล่าวตอบ
"อย่างนั่นรึ"
ร่างหนาตอบเสียงเข้ม ก่อนจะย่อกายลงข้างร่างกายที่นอนนิ่ง เเละจับปลายผมสีเขียวอันอ่อนนุ่มของร่างบาง กลิ่นหอมของเด็กสาวบริสุทธิ์ลอยฟลุ้งอ่อนๆ ชวนดึงดูดความปรารถนาอันน่าหลงใหล ชวนฝัน ทั้งๆที่ร่างกายอันบอบบางโฉลมไปด้วยเศษดินอันสกปรกเเละรอยเลือดสีเเดงสด เเต่ดันมีเพียงกลิ่นหอมชวนหลงใหลเท่านั้นที่ร่างหนาได้กลิ่น...
"ส่งข่าวไปยังอาณาจักรลาบริวด์เเละอาณาจักรทาร์ส บอกว่า เราจะถอยทัพกลับไปยังอาณาจักรภายใน1อาทิตย์ ให้เตรียมการให้พร้อม" นายทหารโค้งตัวรับคำสั่งของเจ้านาย เเละเดินออกจากที่เเห่งนั่นไป ก่อนที่ร่างหนาจะพึมพำอะไรบางอย่าง
"โชคดีเสียจริงที่ได้พบกับ องค์หญิงเซน่าเเห่งดาวเหนือ..."
ครืดดดดด ครืดดดดดด....
เสียงของล้อหมุนที่หมุนอยู่ข้างใต้รถม้าดังลากยาวมาเป็นขบวน เหมือนกับกำลังมีคนจำนวนหนึ่งกำลังเคลื่อนขบวนไปที่ใดสักเเห่ง ทหารในชุดเกราะเดินคุมทั้งซ้ายขวาเเละหน้าหลังของรถม้า ตามด้วยกองทัพจำนวนหนึ่งที่เดินตามกันมา รวมทั้งรถขนเสบียงที่ขับเคลื่อนตามหลังมาติดๆ
นัยน์ตาสองสีถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ร่างเล็กขยับตัวไปมาเล็กน้อย ก่อนที่ศีษระจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังนุ่นหัวเธออยู่
"ตื่นเเล้วรึ?" เสียงคมเข้มดังขึ้นเหนือหัวของเซน่า ด้วยความเเปลกใจ เธอจึงขยับหัวขึ้นไปมอง โดยที่ไม่คิดว่าจะได้สบตากับนัยน์ตาสีเเดงที่อยู่เหนือหัวของเธอ ร่างบางสบตาตอบอย่างนิ่งเฉย เธอมองนัยน์ตานั่นเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง
"เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?" ร่างหนา เจ้าของนัยน์ตาสีเเดงถามอย่างประหลาดใจ นัยน์ตาสีเเดงคู่นั่นช่างอ่อนโยนกว่าครั้งเเรกที่ได้สบตากัน ร่างเล็กเริ่มรู้สึกเเปลกไป ก่อนจะทำสีหน้าเหวอเพราะลืมตัวว่าจ้องนัยน์ตาคู่นั้นมานานมากเกินไป เธอรีบลุกพรวดพราดขึ้นเมื่อพบว่าตนเองกำลังนอนนุ่นตักของหญิงสาวร่างหนาผู้นี้อยู่
"ท...ท่านเป็นใครกัน!?" ร่างเล็กถามขึ้นมาอย่างตกใจ
"ใจเย็นๆก่อนเเม่นาง ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก" ร่างเล็กเริ่มคลายกังวลลง เมื่อเห็นสีหน้าอันใจเย็นพร้อมทั้งรอยยิ้มของหญิงสาวร่างหนา
"ข้าคือ ท่านหญิงเบนเนต้าเเห่งอาณาจักรลาบริวด์ เจ้าชื่อเซน่าสินะ..." ร่างเล็กพยักหน้าเหมือนเด็กน้อย
"ยังอีกไกลกว่าเราจะถึงอาณาจักรลาบริวด์ เจ้าพักผ่อนเถิด เจ้าควรพักให้มากกว่านี้ " เซน่ามองไปรอบๆที่เธออยู่ เธอพบว่าเธอกำลังอยู่ในรถม้าที่เคลื่อนที่พาเธอไปยังอาณาจักรลาบริวด์ เซน่าขยับตัวนั่งดีๆ เธอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของร่างหนา เเสงที่สาดส่องผ่านเข้ามากระทบกับนัยนืตาคู่นั้นช่างน่าหลงใหลนัก บรรยากาศเงียบลงชั่วขณะ ร่างเล็กเเทยบไม่รู้ตัวเลยว่า เธอกำลังจ้องมองร่างหนาอย่างไม่วางตา จนเบนเนต้ารู้สึกได้ถึงนัยน์ตาสองสีของเธอที่จ้องมองมาอยู่ ร่างหนาหันกลับมายิ้มให้ ร่างบางสะดุ้งเเละหน้าเเดงเล็กน้อย ก่อนหันหนีไปนั่งงอเข่า พลางซุกหน้าอันเเดงฉ่าของเธอไว้ที่เข่าของเธอเอง ก่อนจะหันหนีไปมองที่หน้าต่างของรถม้าด้านข้าง ดดยไม่รู้ตัวเลยว่านันต์สีเเดงของเนเนต้าคู่นั้นยังจ้องมองเธออยู่ด้านข้างด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม...
"สานส์จากท่านหญิงเบนเนต้างั้นรึ?" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น พลางมองกระดาษที่นายทหารยื่นมาให้ตรงหน้า นัยน์ตาสีดำสนิท เข้ากันได้ดีกับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนซึ่งทำให้นัยน์ตาที่เฉยชาดูอ่อนโยนขึ้น รูปร่างกำยำน่าเกรงขาม ยืนเด่นเป็นสง่าอยูใจกลางห้องโถง เเละกำลังถือกระดาษที่นายทหารยื่นมาให้ ชายหนุ่มร่างหนารับมาก่อนเปิดอ่าน นัยน์ตาจับใจความจากลายมือขยุกขยิกในกระดาษก่อนม้วนมันกลับเช่นเดิม
"อย่างนี้นี่เอง ข้าขอบใจเจ้ามาก เจ้าไปได้เเล้ว" เอ่ยจบ นายทหารก็เดินจากไป ก่อนจะมีหญิงสาวร่างเล็กในชุดราตรีสีฟ้าสวยเดินเข้ามา นัยน์ตากลมโตสีเขียวสวยเปล่งประกาย ใบหน้าเหมาะกันดีกับเรือนผมสีฟ้าน้ำเงินยาว รูปร่างเล็กอันน่าทะนุถนอมเดินเข้ามาอย่างสง่างาม
"มีอะไรเหรอเพคะ? ท่านทาร์ส" เสียงหวานจับใจเอ่ยขึ้นมาเมื่อร่างหนาได้ยินก็หันมามองหญิงสาวด้วยนัยน์ตาหยาดเหยิ้ม
"มีสาสน์ส่งมาจากท่านหญิงเบนเนต้า บอกว่าจะนำทัพกลับไปยังอาณาจักรลาบริวด์ภายในสัปดาห์นี้นะ เเล้วเจ้าละซิฟริก้า ทำไมถึงไม่กลับไปพัก เดี๋ยวอาการจะเเย่เอาได้นะ" ร่างสูงเอ่ยด้วยความเป็นห่วง นัยน์ตาของเขาดูอ่อนโยนกว่าเมื่อครู่มาก อาจเพราะหญิงสาวตรงหน้าเขามีความสำคัญเทียบเท่าชีวิตเขาก็เป็นได้
"ข้าเเค่เห็นท่านทารส์ทำงานหนักเลยอยากจะมาช่วยบ้างนะเพคะ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหวาน ทารส์ยิ้มก่อนจูบที่หน้สผากของซิฟริก้าด้วยความอ่อนโยน
"โปรดเถอะ ซิฟริก้าที่รัก เจ้าป่วยอยู่ ข้าอยากให้เข้าพักผ่อน"
"เเต่ว่า..."
"ขอร้องเถอะนะ องค์หญิงของข้า..." ทารส์โอบเอวของหญิงสาวไว้เเน่น เเละมองตาซิฟริก้าด้วยสายตาอ้อนวอน ซิฟริก้ามองนัยน์ตานั้นด้วยความเข้าใจ เธอรู้ดีว่า ทารส์เป็นห่วงเธอที่กำลังป่วยอยู่ หากเเต่ว่าเธอเองก็เป็นห่วงทารส์ที่ทำงานหนักเช่นเดียวกัน เธออยากจะช่วยงานชายหนุ่มผู้เป็นที่รักของเธอ ถึงเเม้เธอจะรู้ดีอยู่เเล้วว่าทารส์ไม่มีทางยอมให้เธอทำงานทั้งๆที่ป่วยอยู่เเน่
"ก็ได้เพคะ เเต่อย่าหักโหมเกินไปนะ" ร่างหนายิ้มเเละกุมมือของซิฟริก้าไว้ พลางเอ่ยปากด้วยความอ่อนดยน
"เข้าใจเเล้ว ซิฟริก้าก็ดูเเละตัวเองดีนะ จะได้หายไวๆ"
"เพคะ ท่านทาร์ส" หญิงสาวมองตอบด้วยนัยน์ตาอันอ่อนโยน พลางนึกเสียดายที่ทารส์ไม่ยอมให้เธอช่วยทำงาน เเต่ร่างเล็กก็ยิ้มด้วยความเข้าใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องโถงไป ทารส์มองตามด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะหันหลังมองไปยังข้างนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด เเละเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงเเผ่วเบา
"มันจะเกิดขึ้นจริงๆเเล้วสินะ"
.
.
.
"องค์หญิงซิฟริก้าเพคะ" เสียงเล็กของหญิงสาวในชุดเมด เรียกหญิงสาวในชุดราตรีสีฟ้าสวยอย่างนอบน้อม
"มีอะไรเหรอจ้ะ?" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"ตอนที่หม่อมฉันกำลังทำความสะอาดที่ห้องสมุด หม่อมฉันเห็นหนังสือเล่มนี้ มันตกอยู่ใต้ตู้หนังสือ หม่อมฉันไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้ เลยไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหนได้นะเพคะ"
ซิฟริก้ามองหนังสือที่สาวใช้ยื่นมาให้ ก่อนเบิกตากว้างเเละรับมาจากมือสาวใช้
"อ้อ งั้นเก็บไว้ที่ข้าก่อนเเล้วกัน เจ้าก็ไปทำงานของเจ้าต่อเถอะจ้ะ"
"เพคะ องค์หญิง"
เมื่อเห็นว่าสาวใช้ของเธอเดินลับหายไปเเล้ว ซิฟริก้าจึงรีบวิ่งไปยังห้องโถง ที่เธอได้ไปมาก่อนหน้าเเล้ว เธอรีบเปิดเข้าไปทันทีที่เห็นว่าเทอร์ริสยังอยู่
"มีอะไรรึ? ซิฟริก้า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่รักวิ่งกลับมาด้วยความเร่งรีบ
"ท่านชาย ดูนี่สิเพคะ!" หญิงสาวพูดพล่างยื่นหนังสือเล่มหนานั่นให้เทอร์ช หนังสือเล่มหนาที่หนาปกถูกเเกะสลักเหมือนต้องมนต์ขลังเอาไว้ยิ่งกระดาษข้างในเป็นสีเหลืองกรอบเก่า ยิ่งทำให้ดูมีเวทย์มนต์มากขึ้น เทอร์ริส เบิกตากว้างก่อนเอ่ยพูดเสียงดัง
"นี่มัน!!..."
SeFFiLa+
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น