คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : White Heaven (6927)
สึนะนั่งตาแป๋วมองเหล่าบรรดาชายหนุ่มที่ต่างมอบของตอบแทนให้กับหญิงสาว ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่ท่วมหัวเอย บรรดาของประดับตกแต่งที่เป็นสีขาวเอย และอะไรต่อมิอะไรที่เป็นเครื่องแทนความหมายของวันแห่งความรักอีกวันหนึ่ง
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่เขาไม่ต้องให้ของตอบแทนใครเลย เพราะเมื่อวันวาเลนไทม์ที่ผ่านมาเขาได้รับแต่เพียงช็อคโกแลตตามมารยาทเท่านั้น ของเคียวโกะจังหรือของฮารุเองก็จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน เขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ตอบแทนใคร
ทว่าถึงได้รับก็ไม่คิดจะคืนให้อยู่ดี เพราะคนที่เขาผูกพันนั้น...มีแค่เพียงคนเดียว....
ดวงตากลมโตทอดยาวไปบนท้องฟ้า ปุยเมฆสีขาวลอยละล่อง วันนี้ช่างโปร่งสบายสมกับเป็นวันดีเหลือเกิน “ นายจะเป็นยังไงบ้างนะ.... ” เสียงหวานพึมพำเบา ๆ
มือแกร่งตบบ่าคนสติหลุดลอยจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง สึนะหันมองเพื่อนของตนที่มาพร้อมกับกล่องซูชิหลายสิบกล่อง “ ยามาโมโตะ.....นาย???? ” นิ้วเรียวชี้ที่เพื่อนรักสลับกับของที่อีกฝ่ายถือไปมา
“ ก็เอามาตอบแทนพวกผู้หญิงน่ะ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะพอไหม?? ” คนพูดหัวเราะร่วน
ไอ้บ้า!!!ใครเขาเอาซูชิมาตอบแทนผู้หญิงกันบ้าง!!
เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจยาว ถ้าเป็นยามาโมโตะก็คงไม่แปลกที่จะคิดได้ อย่าว่าแต่ซูชิเลย....ถ้าเห็นอะไรที่เป็นสีขาว ๆ ขอให้มีประโยชน์หน่อย หมอนี่ก็คงหยิบมาเป็นของตอบแทนทั้งหมดแน่
“ แล้วโกคุเทระคุงล่ะ? ” สายตากลมโตสอดส่ายไปมา จะว่าไปก็ไม่เห็นเพื่อนรักอีกคนมาตั้งแต่ช่วงพักกลางวันแล้ว
“ เห็นบอกว่าไปทำธุระน่ะ แต่อยากรู้จังน้า โกคุเทระจะให้อะไรพวกเด็กผู้หญิงกัน ” ยามาโมโตะทำท่าขบคิด
ธุระที่ว่า....คงไม่พ้นการหาที่แอบหรือหนีพวกสาว ๆ สินะ
คิดได้แบบนั้นก็หัวเราะเบา ๆ จะว่าไปโกคุเทระคงเป็นคนเดียวที่กล้าทำแบบนั้น ไม่สิ....ยังมีอีกคน แต่รายนั้นเรียกว่าพวกนักเรียนหญิงไม่กล้าไปยุ่มย่ามมากกว่า นี่ขนาดอยู่มัธยมปลายแล้วนะ ความน่ากลัวของคุณฮิบาริก็ไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้นจนคนอื่นไม่กว่าเข้าใกล้เสียมากกว่า
มัธยมปลาย....ผ่านมาเกือบ 3 ปี แล้วสินะ....
ไม่นานนักยามาโมโตะก็ขอตัวกลายร่างเป็นซานตาครอสเอาข้าวกล่องซูชิรสเลิศไปเป็นของตอบแทนแก่สาว ๆ ส่วนสึนะในตอนนี้เริ่มละความสนใจจากบรรยากาศรอบตัว มองออกไปยังด้านนอก บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่นั่นแทน
“ สัญญานะว่าจะกลับมา สัญญานะว่าจะต้องได้เจอกันอีก ”
“ จะรีบร้อนทำไมล่ะครับ เดี๋ยวพอคุณโตเราก็ได้เจอกัน ”
“ แต่.....แต่ว่า ”
“ ...ตกลงครับ...ผมสัญญาว่าจะมาหาคุณ แน่นอน.. ”
รอยยิ้มที่อ่อนโยนแตกต่างจากทุกครั้ง ริมฝีปากอบอุ่นที่ไร้ความเย็นชาหรือแข็งกร้าว เสมือนเครื่องประทับสัญญา ที่ทำให้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องกลับมาแน่นอน
จนแล้วจนรอดก็กินเวลายาวนานหลายปี คนที่ลั่นวาจาไว้ก็ยังไม่มีแม้เงาปรากฏ คิดแล้วอดน้อยใจไม่ได้ เสมือนว่าอีกฝ่ายเห็นคำพูดนั่นเป็นเพียงลมปาก การกระทำนั่นเป็นเพียงแค่ของสนุกที่นึกอยากจะทำอะไรก็ได้ชั่วข้ามคืน
ดวงตาคู่สวยหม่นหมองลง หยาดน้ำตาคล้ายจะเอ่อล้น แต่สุดท้ายก็โดนกลืนหายกลับเข้าไปดั่งเก่า เหลือเพียงร่องรอยแดงจากอาการข้างต้น มือเล็กรีบปัดเป่าความเศร้าออก แล้วหันหน้ากลับเข้ามามองภาพบรรยากาศเดิม ๆ อีกครั้ง มองรอยยิ้มของคนอื่นที่คาดว่าจะพอบรรเทาจิตใจได้บ้าง
ตกเย็นสึนะขอตัวกลับก่อนเพราะดูเหมือนยามาโมโตะและโกคุเทระจะติดธุระที่ยากจะปลีกตัว ที่บ้านก็ยังคงความเป็นสนามเด็กเล่นเหมือนเดิม แรมโบ้และอี้ผิงยังคงวิ่งเล่นไปมา เบี้ยงกี้กับรีบอร์นก็เอาแต่นั่งพูดคุยกันสองคน
เขาอยู่บนห้องของตนเอง นั่งมองท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสี มองพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยหายลับไปจากเส้นขอบฟ้า แปรเปลี่ยนเป็นดวงจันทร์สีนวลที่ส่องประกายอย่างไร้เมฆหนาบดบัง
อากาศปลอดโปล่งอีกแล้วสินะ....
ไม่รู้นึกครึ้มอะไรหรือมีอะไรมาดลใจ จู่ ๆ สึนะก็ลุกขึ้นคว้าเอาเสื้อคลุม วิ่งลงไปด้านล่าง “ ออกไปข้างนอกสักพักเดี๋ยวกลับมานะครับ ” เขากล่าวเพียงแค่นั้นก็ตรงออกไป
“ สึนะไปไหน คุณแรมโบ้ไปด้วย!!! ” แรมโบ้ที่ทำท่าจะวิ่งตามก็โดนสกัดด้วยกระสุนปืนหลายนัดติดต่อ จนทำเอาเจ้าวัวน้อยบาดเจ็บแทบปางตาย
ฝีมือของอาจารย์นักฆ่าตัวจิ๋ว “ แกจะไปทำไม อยู่ที่นี่แหละ เจ้าสึนะมันไม่ได้ไปตายสักหน่อย ”
รีบอร์นมองตามการเคลื่อนไหวของลูกศิษย์ที่ค่อย ๆ หายวับไปกับความมืดมิด รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าเยาว์วัย “ พยายามเข้าล่ะเจ้าห่วย... ”
ขาสองข้างของสึนะวิ่งตรงมาตามทางรกร้างเปล่าเปลี่ยว มันไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวเลยสำหรับสึนะ เขาคุ้นเคยกับมันมากกว่าจะเกิดอาการหวาดกลัว ที่สำคัญ....เขาก็ไม่ใช่สึนะคนก่อนอีกแล้ว
ดวงตากลมโตมองซากตึกเก่า ๆ ที่มันเคยเป็นสนามรบเมื่อนานมาแล้ว สถานที่ ๆ เขากับชายคนนั้นเจอกันเป็นครั้งแรก “ บ้าจริงเรา... ” สึนะหัวเราะเย้ยตนเอง พลางนึกขันตนเอง ทำไมกันนะ...ทำไมเขาถึงคิดจะมาที่นี่ได้ ทำไมกัน....
ในตอนนั้นเองสึนะเหลือบไปเห็นแสงไฟเรือง ๆ ที่ส่องสว่างภายใน เขาเองก็ตกใจมาก หากแต่ต่อมาก็รู้สึกสงสัยเสียกว่า ใครกันมาอยู่ที่นี่....เท่าที่มาไม่เคยเห็นมีใครเลยนี่นา??
จะหาว่าเขาบ้าหรือตั้งความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ให้กับตนเองก็ได้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ สึนะมาที่นี่ไม่เคยขาดระยะ ด้วยคิดว่าจะพบหน้าคนที่กำลังรอคอยเข้าสักวัน แต่ก็ไม่มี....ทุกสิ่งยังคงมีแค่เพียงร่องรอยของการต่อสู้อันดุเดือดและซากปรักหักพังเท่านั้น
สึนะตัดสินใจเดินเข้าไปสำรวจด้านใน แต่ก็ยังคงระแวะระวังและเตรียมตัวพร้อมทุกสถานการณ์ ปลายเท้าเล็กก้าวอย่างบางเบา ข้ามสิ่งกีดขวาง เรื่อยไปตามทางที่พอเปิดออก ขึ้นไปจนถึงจุดที่แสงไฟนั่นส่องประกาย
ไม่มีคนอยู่??.....แล้วไฟนี่มาจากไหนกัน??
ยังไม่ทันที่จะได้เดินสำรวจโดยรอบ สึนะก็รู้สึกถึงความสั่นคลอนของพื้นที่ตนยืน ก่อนร่างของเขาจะตกลงไปยังด้านร่างด้วยความรวดเร็ว สึนะหลับตาแน่น ทั้งตกใจและหวาดกลัวขึ้นมาในเวลาเดียวกัน แม้เขาจะกล้าหาญหรือแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม แต่พอตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ใครมันจะไปตั้งสติได้ทัน
ตุบ…
เสียงที่สมควรจะได้ยินดูเบากว่าที่คิด สึนะรู้สึกได้ว่าตนเองไม่ได้ตกลงกระทบกับของแข็ง และไม่มีเศษปูนหรือของหนักใด ๆ หล่นใส่เขาด้วย จึงตัดสินใตลืมตาขึ้นมองเหตุการณ์ แล้วก็ต้องตกใจอย่างที่สุด
“ มุคุโร่!! ”
ร่างสูงที่แสนคุ้นเคยรองรับกายเขาไว้ ปอยผมสีน้ำเงินยาว ดวงตาสองสี ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มประดับบนใบหน้าคมเข้ม หากนี่คือสวรรค์...เขาก็ยินดีที่จะตาย แต่หากนี่คือนรก....เขาก็ยอมจะเป็นคนบาปเพื่อให้ได้อยู่ในดินแดนแห่งนี้
“ ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ ” เสียงทุ้มเรียบกล่าว
หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลกลบใบหน้า วงแขนเล็กทะยานขึ้นโอบกอดรอบคออีกฝ่าย ซบหน้าลงบนไหล่กว้างพลางปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร มันคือความรู้สึกแห่งความสุข น้ำตาแห่งความปิติยินดีที่รอเวลาไหลบ่ามากว่าสามปี
มุคุโร่ค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ มือข้างหนึ่งโอบกอดรอบเอวบางแน่น อีกข้างยกขึ้นลูบเส้นผมสีน้ำตาลที่เริ่มยาวเพื่อปลอบประโลม รอยยิ้มยินดีและเปี่ยมสุขถูกแต่งแต้มขึ้นอีกครั้ง
“ อย่าร้องสิครับ เดี๋ยวใครได้ยินเข้าจะหาว่าผมรังแกคุณ ” ชายหนุ่มกล่าวแกมหยอก
สึนะเช็ดน้ำตาพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ ก็รังแกจริง ๆ นี่ ”
มุคุโร่เลิกคิ้วสูง “ รังแกอะไรกันครับ? ”
ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องไปยังดวงตาสองสีแสนคิดถึง ก่อนจะเบือนหน้าหลบรอยยิ้มขี้เล่นนั่น แสร้งตีท่าทางหงุดหงิดใส่ หมายจะให้อีกฝ่ายรู้สึกนึก “ ทิ้งฉันและไม่รักษาสัญญา! ”
คนฟังหัวเราะพลางหอมแก้มนิ่มเต็มรัก “ มองรอบ ๆ สิครับสึนะโยชิคุง ”
สึนะลังเลอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจมองโดยรอบตามที่อีกฝ่ายว่า
ตั้งแต่เมื่อไหร่....ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ดอกกุหลาบสีขาวเป็นร้อย ไม่สิ...เป็นพัน ๆ ดอกมาวางเรียงรายกันอยู่บนพื้นราวทุ่งดอกกุหลาบขาว สีของมันสะท้อนกับแสงจันทร์เรืองจนส่องประกายระยับสว่างไสว กลิ่นของมันลอยล่องตามลมจนทำเอาเคลิบเคลิ้ม
“ อะ....อะไร??? ”
มุคุโร่แย้มยิ้ม “ ตอบแทนคุณไงครับ... ”
“ ตอบแทนฉัน? ”
“ ใช่ครับ....ตอบแทนความรักที่คุณมีให้ผมตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ”
ดวงตาสีน้ำตาลสบกับดวงตาเปี่ยมเสน่ห์อีกครั้ง มันสื่อถึงความยินดีและความตื้นตันที่ไหลออกมาอย่างไม่มีปิดบัง มากมายจนยากจะเอ่ย ล้นปริ่มเกินกว่าจะหาสิ่งใดมารองรับได้
“ แต่ผมว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ? ” เหมือนจะกล่าวบอก แต่แสร้งทำเป็นเน้นเสียงถามเสียงมากกว่า
ตอนนั้นเองที่สึนะรู้ว่าเขากำลังโดนหว่านล้อมให้รับสารภาพอะไรบางอย่างอยู่ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อจนขึ้นสีจัด มุคุโร่มองแล้วหัวเราะ ถ้าเกิดภายในที่นี้เป็นดอกกุหลาบสีแดง เขาคงแยกไม่ออกเลยว่าสีของดอกไม้หรือสีของผิวคนในอ้อมอกตนนี้ใครจะแดงกว่ากัน
สึนะขยับร่างกายของตนให้เปลี่ยนมานั่งหันหลังให้อีกฝ่ายแทน ไม่ได้คิดจะหนีหรือปฏิเสธวงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวเขาอยู่ “ มั่นใจจริงนะว่าคนอื่นเขาจะรักได้มากขนาดนี้ ”
มือเล็กหยิบดอกกุหลาบสีขาวขึ้นมาหนึ่งดอก พลางส่งให้อีกฝ่ายดู มุคุโร่รับมันอย่างงง ๆ “ อะไรครับ? ”
“ ของนายน่ะแค่นี้! ”
สิ่งที่ได้รับกลับมาทำเอาคนฟังถึงกับพูดไม่ออก ใบหน้าคมฉายแววความผิดหวังทันตา ทำเอาสึนะที่คิดว่าจะหยอกเล่นถึงกลับแกล้งต่อไม่ออก “ ฉันหมายถึงกลีบของมันต่างหาก....ซ้อนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ”
ดวงตาสองสีเบิกกว้างมองใบหน้าของคนพูดที่บัดนี้ก้มงุด สีออกแดงเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่ มุคุโร่แย้มยิ้ม คิดทำโทษที่ทำให้เขาใจหาย “ เล่นแบบนี้หรือครับ? ”
“ ก็ใครใช้ให้นาย...หวา!!! ” ยังไม่ทันจะพูดจบ มุคุโร่ก็ช้อนร่างนั้นขึ้นแล้ววางลงบนพื้นดอกกุหลาบโดยใช้ร่างของตนเองส่วนหนึ่งรองรับไว้
“ อะ...อะไรน่ะ ” สึนะหน้าแดงไปถึงหู
มุคุโร่หัวเราะ พลางประกบริมฝีปากช่างพูดอย่างรวดเร็ว ดื่มด่ำความหอมหวานที่แทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นของร่างในอ้อมแขนหรือดอกกุหลาบขาวโดยรอบนั่นกันแน่
แขนเล็กเลื่อนขึ้นโอบรอบลำคออีกฝ่ายอย่างเต็มใจ รับสัมผัสวาบหวามที่ถูกส่งมาอย่างไร้เดียงสา เรียวลิ้นร้อนถูกส่งไปทำหน้าที่ของมันอย่างชำนาญในช่องปากของผู้ไม่ประสา สึนะพยายามตอบรับ สัมผัสไออุ่นและความรักที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มกำลังตน
มุคุโร่ถอนริมฝีปากออกช้า ๆ จ้องมองใบหน้าหวานที่บัดนี้หอบหายใจถี่อย่างเย้ายวน ดวงตาคู่สวยแย้มเยิ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับความสุขที่เพิ่งได้รับเมื่อครู่ “ คิดถึงมากนะครับ ” เขาจุมพิตลงบนหน้าผากมน
“ เป็นห่วงมากนะครับ ” ริมผีปากเดิมเลื่อนมาสัมผัสปลายจมูก
แล้วเลื่อนมาสัมผัสพวงแก้มใส “ รักมากนะครับ ”
คำบอกรักที่เขาไม่ได้ยินมาเนิ่นนาน มันยังคงหวานและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมายเช่นเดิม สึนะยิ้มรับ ยันตัวขึ้นจุมพิตริมฝีปากได้รูปของคนตรงหน้า “ ฉันก็รักนายมุคุโร่ มากกว่าดอกไม้ในนี้ มากกว่าดอกไม้ในโลกนี้ ”
ดอกไม้ใดที่ว่าหอมยังไม่อาจหอมกว่า
น้ำคำใดที่ว่าหวานยังไม่อาจเทียมเท่า
รักใดที่ว่ามากยังไม่อาจหาที่เปรียบได้
สามปีกับการรอคอยมันช่างคุ้มค่าเสียเหลือเกิน สึนะเอนศีรษะพิงอกแกร่งซึ่งบัดนี้เหลือเพียงเนื้อหนังไร้อาภรณ์ มุคุโร่โอบกอดคนในอ้อมแขนให้แน่นกระชับขึ้นเมื่อรู้สึกถึงลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา
พวกเขาอยู่ภายใต้กันและกัน โอบกอดความสุขที่ได้รับจากกันและกัน
“ นายจะกลับไปอีกไหม? ” สึนะเอ่ยถามเสียงสั่น มือเล็กคล้องวงแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้สัดส่วนไว้แน่น
“ อยากให้ผมกลับไปไหมครับ? ”
ถามทั้ง ๆ ที่รู้ สึนะส่ายศีรษะไปมาเป็นพัลวัน มุคุโร่หัวเราะเบา “ อย่าลืมไปขอบคุณอัลโกบาเรโน่กับนักวิทยาศาสตร์ของคุณเสียด้วยนะครับ ”
“ เห?... ” ดวงตากลมโตแหงนมอง
“ พวกเขาทำให้ผมได้อยู่กับคุณที่นี่ได้จนกว่าคุณจะเบื่อผมเลยล่ะครับ ”
ความหมายของคำว่า ‘ตลอดไป’
“ ไม่มีทางหรอก ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่ ๆ ไม่ว่าเป็นหรือตาย ”
ความหมายของคำว่า ‘สัญญา’
“ ผมก็เหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ตาม ”
ความหมายของคำว่า ‘รัก’
================END==============
ความคิดเห็น