ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม Short Fanfiction Katekyo Hitman Reborn [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #8 : White Heaven (6927)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 52


    />


    สึนะนั่งตาแป๋วมองเหล่าบรรดาชายหนุ่มที่ต่างมอบของตอบแทนให้กับหญิงสาว  ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่ท่วมหัวเอย  บรรดาของประดับตกแต่งที่เป็นสีขาวเอย  และอะไรต่อมิอะไรที่เป็นเครื่องแทนความหมายของวันแห่งความรักอีกวันหนึ่ง

     

    ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่เขาไม่ต้องให้ของตอบแทนใครเลย  เพราะเมื่อวันวาเลนไทม์ที่ผ่านมาเขาได้รับแต่เพียงช็อคโกแลตตามมารยาทเท่านั้น  ของเคียวโกะจังหรือของฮารุเองก็จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน  เขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ตอบแทนใคร

     

    ทว่าถึงได้รับก็ไม่คิดจะคืนให้อยู่ดี  เพราะคนที่เขาผูกพันนั้น...มีแค่เพียงคนเดียว....

     

    ดวงตากลมโตทอดยาวไปบนท้องฟ้า  ปุยเมฆสีขาวลอยละล่อง  วันนี้ช่างโปร่งสบายสมกับเป็นวันดีเหลือเกิน    นายจะเป็นยังไงบ้างนะ....   เสียงหวานพึมพำเบา ๆ

     

    มือแกร่งตบบ่าคนสติหลุดลอยจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง  สึนะหันมองเพื่อนของตนที่มาพร้อมกับกล่องซูชิหลายสิบกล่อง    ยามาโมโตะ.....นาย????    นิ้วเรียวชี้ที่เพื่อนรักสลับกับของที่อีกฝ่ายถือไปมา

     

      ก็เอามาตอบแทนพวกผู้หญิงน่ะ  กำลังคิดอยู่เลยว่าจะพอไหม??    คนพูดหัวเราะร่วน

     

    ไอ้บ้า!!!ใครเขาเอาซูชิมาตอบแทนผู้หญิงกันบ้าง!!

     

    เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจยาว  ถ้าเป็นยามาโมโตะก็คงไม่แปลกที่จะคิดได้  อย่าว่าแต่ซูชิเลย....ถ้าเห็นอะไรที่เป็นสีขาว ๆ ขอให้มีประโยชน์หน่อย  หมอนี่ก็คงหยิบมาเป็นของตอบแทนทั้งหมดแน่

     

      แล้วโกคุเทระคุงล่ะ?    สายตากลมโตสอดส่ายไปมา  จะว่าไปก็ไม่เห็นเพื่อนรักอีกคนมาตั้งแต่ช่วงพักกลางวันแล้ว

     

      เห็นบอกว่าไปทำธุระน่ะ  แต่อยากรู้จังน้า  โกคุเทระจะให้อะไรพวกเด็กผู้หญิงกัน    ยามาโมโตะทำท่าขบคิด

     

    ธุระที่ว่า....คงไม่พ้นการหาที่แอบหรือหนีพวกสาว ๆ สินะ

     

    คิดได้แบบนั้นก็หัวเราะเบา ๆ จะว่าไปโกคุเทระคงเป็นคนเดียวที่กล้าทำแบบนั้น  ไม่สิ....ยังมีอีกคน  แต่รายนั้นเรียกว่าพวกนักเรียนหญิงไม่กล้าไปยุ่มย่ามมากกว่า  นี่ขนาดอยู่มัธยมปลายแล้วนะ  ความน่ากลัวของคุณฮิบาริก็ไม่ได้ลดลงเลย  มีแต่จะเพิ่มขึ้นจนคนอื่นไม่กว่าเข้าใกล้เสียมากกว่า

     

    มัธยมปลาย....ผ่านมาเกือบ 3 ปี แล้วสินะ....

     

    ไม่นานนักยามาโมโตะก็ขอตัวกลายร่างเป็นซานตาครอสเอาข้าวกล่องซูชิรสเลิศไปเป็นของตอบแทนแก่สาว ๆ  ส่วนสึนะในตอนนี้เริ่มละความสนใจจากบรรยากาศรอบตัว  มองออกไปยังด้านนอก  บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่นั่นแทน

     

      สัญญานะว่าจะกลับมา  สัญญานะว่าจะต้องได้เจอกันอีก 

     

      จะรีบร้อนทำไมล่ะครับ  เดี๋ยวพอคุณโตเราก็ได้เจอกัน 

     

      แต่.....แต่ว่า 

     

      ...ตกลงครับ...ผมสัญญาว่าจะมาหาคุณ  แน่นอน.. 

     

    รอยยิ้มที่อ่อนโยนแตกต่างจากทุกครั้ง  ริมฝีปากอบอุ่นที่ไร้ความเย็นชาหรือแข็งกร้าว  เสมือนเครื่องประทับสัญญา  ที่ทำให้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องกลับมาแน่นอน

     

     

    จนแล้วจนรอดก็กินเวลายาวนานหลายปี  คนที่ลั่นวาจาไว้ก็ยังไม่มีแม้เงาปรากฏ  คิดแล้วอดน้อยใจไม่ได้  เสมือนว่าอีกฝ่ายเห็นคำพูดนั่นเป็นเพียงลมปาก  การกระทำนั่นเป็นเพียงแค่ของสนุกที่นึกอยากจะทำอะไรก็ได้ชั่วข้ามคืน 

     

    ดวงตาคู่สวยหม่นหมองลง  หยาดน้ำตาคล้ายจะเอ่อล้น  แต่สุดท้ายก็โดนกลืนหายกลับเข้าไปดั่งเก่า  เหลือเพียงร่องรอยแดงจากอาการข้างต้น  มือเล็กรีบปัดเป่าความเศร้าออก  แล้วหันหน้ากลับเข้ามามองภาพบรรยากาศเดิม ๆ อีกครั้ง  มองรอยยิ้มของคนอื่นที่คาดว่าจะพอบรรเทาจิตใจได้บ้าง

     

    ตกเย็นสึนะขอตัวกลับก่อนเพราะดูเหมือนยามาโมโตะและโกคุเทระจะติดธุระที่ยากจะปลีกตัว  ที่บ้านก็ยังคงความเป็นสนามเด็กเล่นเหมือนเดิม  แรมโบ้และอี้ผิงยังคงวิ่งเล่นไปมา  เบี้ยงกี้กับรีบอร์นก็เอาแต่นั่งพูดคุยกันสองคน 

     

    เขาอยู่บนห้องของตนเอง  นั่งมองท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสี  มองพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยหายลับไปจากเส้นขอบฟ้า  แปรเปลี่ยนเป็นดวงจันทร์สีนวลที่ส่องประกายอย่างไร้เมฆหนาบดบัง

     

    อากาศปลอดโปล่งอีกแล้วสินะ....

     

    ไม่รู้นึกครึ้มอะไรหรือมีอะไรมาดลใจ  จู่ ๆ สึนะก็ลุกขึ้นคว้าเอาเสื้อคลุม  วิ่งลงไปด้านล่าง    ออกไปข้างนอกสักพักเดี๋ยวกลับมานะครับ    เขากล่าวเพียงแค่นั้นก็ตรงออกไป

     

      สึนะไปไหน  คุณแรมโบ้ไปด้วย!!!    แรมโบ้ที่ทำท่าจะวิ่งตามก็โดนสกัดด้วยกระสุนปืนหลายนัดติดต่อ  จนทำเอาเจ้าวัวน้อยบาดเจ็บแทบปางตาย

     

    ฝีมือของอาจารย์นักฆ่าตัวจิ๋ว    แกจะไปทำไม  อยู่ที่นี่แหละ เจ้าสึนะมันไม่ได้ไปตายสักหน่อย 

     

    รีบอร์นมองตามการเคลื่อนไหวของลูกศิษย์ที่ค่อย ๆ หายวับไปกับความมืดมิด  รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าเยาว์วัย    พยายามเข้าล่ะเจ้าห่วย... 

     

    ขาสองข้างของสึนะวิ่งตรงมาตามทางรกร้างเปล่าเปลี่ยว  มันไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวเลยสำหรับสึนะ  เขาคุ้นเคยกับมันมากกว่าจะเกิดอาการหวาดกลัว  ที่สำคัญ....เขาก็ไม่ใช่สึนะคนก่อนอีกแล้ว

     

    ดวงตากลมโตมองซากตึกเก่า ๆ ที่มันเคยเป็นสนามรบเมื่อนานมาแล้ว  สถานที่ ๆ เขากับชายคนนั้นเจอกันเป็นครั้งแรก    บ้าจริงเรา...    สึนะหัวเราะเย้ยตนเอง  พลางนึกขันตนเอง  ทำไมกันนะ...ทำไมเขาถึงคิดจะมาที่นี่ได้  ทำไมกัน....

     

    ในตอนนั้นเองสึนะเหลือบไปเห็นแสงไฟเรือง ๆ ที่ส่องสว่างภายใน  เขาเองก็ตกใจมาก  หากแต่ต่อมาก็รู้สึกสงสัยเสียกว่า  ใครกันมาอยู่ที่นี่....เท่าที่มาไม่เคยเห็นมีใครเลยนี่นา??

     

    จะหาว่าเขาบ้าหรือตั้งความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ให้กับตนเองก็ได้  ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้  สึนะมาที่นี่ไม่เคยขาดระยะ  ด้วยคิดว่าจะพบหน้าคนที่กำลังรอคอยเข้าสักวัน  แต่ก็ไม่มี....ทุกสิ่งยังคงมีแค่เพียงร่องรอยของการต่อสู้อันดุเดือดและซากปรักหักพังเท่านั้น

     

    สึนะตัดสินใจเดินเข้าไปสำรวจด้านใน  แต่ก็ยังคงระแวะระวังและเตรียมตัวพร้อมทุกสถานการณ์  ปลายเท้าเล็กก้าวอย่างบางเบา   ข้ามสิ่งกีดขวาง  เรื่อยไปตามทางที่พอเปิดออก  ขึ้นไปจนถึงจุดที่แสงไฟนั่นส่องประกาย

     

    ไม่มีคนอยู่??.....แล้วไฟนี่มาจากไหนกัน??

     

    ยังไม่ทันที่จะได้เดินสำรวจโดยรอบ  สึนะก็รู้สึกถึงความสั่นคลอนของพื้นที่ตนยืน  ก่อนร่างของเขาจะตกลงไปยังด้านร่างด้วยความรวดเร็ว  สึนะหลับตาแน่น  ทั้งตกใจและหวาดกลัวขึ้นมาในเวลาเดียวกัน  แม้เขาจะกล้าหาญหรือแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม  แต่พอตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้  ใครมันจะไปตั้งสติได้ทัน

     

    ตุบ

     

    เสียงที่สมควรจะได้ยินดูเบากว่าที่คิด  สึนะรู้สึกได้ว่าตนเองไม่ได้ตกลงกระทบกับของแข็ง  และไม่มีเศษปูนหรือของหนักใด ๆ หล่นใส่เขาด้วย  จึงตัดสินใตลืมตาขึ้นมองเหตุการณ์  แล้วก็ต้องตกใจอย่างที่สุด

     

      มุคุโร่!! 

     

    ร่างสูงที่แสนคุ้นเคยรองรับกายเขาไว้  ปอยผมสีน้ำเงินยาว  ดวงตาสองสี  ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มประดับบนใบหน้าคมเข้ม  หากนี่คือสวรรค์...เขาก็ยินดีที่จะตาย  แต่หากนี่คือนรก....เขาก็ยอมจะเป็นคนบาปเพื่อให้ได้อยู่ในดินแดนแห่งนี้

     

     ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ    เสียงทุ้มเรียบกล่าว

     

    หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลกลบใบหน้า  วงแขนเล็กทะยานขึ้นโอบกอดรอบคออีกฝ่าย  ซบหน้าลงบนไหล่กว้างพลางปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร  มันคือความรู้สึกแห่งความสุข  น้ำตาแห่งความปิติยินดีที่รอเวลาไหลบ่ามากว่าสามปี

     

    มุคุโร่ค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ มือข้างหนึ่งโอบกอดรอบเอวบางแน่น  อีกข้างยกขึ้นลูบเส้นผมสีน้ำตาลที่เริ่มยาวเพื่อปลอบประโลม  รอยยิ้มยินดีและเปี่ยมสุขถูกแต่งแต้มขึ้นอีกครั้ง

     

      อย่าร้องสิครับ   เดี๋ยวใครได้ยินเข้าจะหาว่าผมรังแกคุณ    ชายหนุ่มกล่าวแกมหยอก

     

    สึนะเช็ดน้ำตาพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ    ก็รังแกจริง ๆ นี่ 

     

    มุคุโร่เลิกคิ้วสูง    รังแกอะไรกันครับ? 

     

    ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องไปยังดวงตาสองสีแสนคิดถึง  ก่อนจะเบือนหน้าหลบรอยยิ้มขี้เล่นนั่น  แสร้งตีท่าทางหงุดหงิดใส่  หมายจะให้อีกฝ่ายรู้สึกนึก    ทิ้งฉันและไม่รักษาสัญญา! 

     

    คนฟังหัวเราะพลางหอมแก้มนิ่มเต็มรัก    มองรอบ ๆ สิครับสึนะโยชิคุง 

     

    สึนะลังเลอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจมองโดยรอบตามที่อีกฝ่ายว่า

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่....ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ดอกกุหลาบสีขาวเป็นร้อย  ไม่สิ...เป็นพัน ๆ ดอกมาวางเรียงรายกันอยู่บนพื้นราวทุ่งดอกกุหลาบขาว  สีของมันสะท้อนกับแสงจันทร์เรืองจนส่องประกายระยับสว่างไสว  กลิ่นของมันลอยล่องตามลมจนทำเอาเคลิบเคลิ้ม

     

      อะ....อะไร??? 

     

    มุคุโร่แย้มยิ้ม    ตอบแทนคุณไงครับ... 

     

      ตอบแทนฉัน? 

     

      ใช่ครับ....ตอบแทนความรักที่คุณมีให้ผมตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา   

     

    ดวงตาสีน้ำตาลสบกับดวงตาเปี่ยมเสน่ห์อีกครั้ง  มันสื่อถึงความยินดีและความตื้นตันที่ไหลออกมาอย่างไม่มีปิดบัง  มากมายจนยากจะเอ่ย  ล้นปริ่มเกินกว่าจะหาสิ่งใดมารองรับได้

     

      แต่ผมว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ?    เหมือนจะกล่าวบอก  แต่แสร้งทำเป็นเน้นเสียงถามเสียงมากกว่า

     

    ตอนนั้นเองที่สึนะรู้ว่าเขากำลังโดนหว่านล้อมให้รับสารภาพอะไรบางอย่างอยู่  ใบหน้าหวานแดงระเรื่อจนขึ้นสีจัด  มุคุโร่มองแล้วหัวเราะ  ถ้าเกิดภายในที่นี้เป็นดอกกุหลาบสีแดง  เขาคงแยกไม่ออกเลยว่าสีของดอกไม้หรือสีของผิวคนในอ้อมอกตนนี้ใครจะแดงกว่ากัน

     

    สึนะขยับร่างกายของตนให้เปลี่ยนมานั่งหันหลังให้อีกฝ่ายแทน  ไม่ได้คิดจะหนีหรือปฏิเสธวงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวเขาอยู่    มั่นใจจริงนะว่าคนอื่นเขาจะรักได้มากขนาดนี้ 

     

    มือเล็กหยิบดอกกุหลาบสีขาวขึ้นมาหนึ่งดอก  พลางส่งให้อีกฝ่ายดู  มุคุโร่รับมันอย่างงง ๆ    อะไรครับ? 

     

      ของนายน่ะแค่นี้! 

     

    สิ่งที่ได้รับกลับมาทำเอาคนฟังถึงกับพูดไม่ออก  ใบหน้าคมฉายแววความผิดหวังทันตา  ทำเอาสึนะที่คิดว่าจะหยอกเล่นถึงกลับแกล้งต่อไม่ออก    ฉันหมายถึงกลีบของมันต่างหาก....ซ้อนกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

     

    ดวงตาสองสีเบิกกว้างมองใบหน้าของคนพูดที่บัดนี้ก้มงุด  สีออกแดงเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่  มุคุโร่แย้มยิ้ม  คิดทำโทษที่ทำให้เขาใจหาย  เล่นแบบนี้หรือครับ? 

     

      ก็ใครใช้ให้นาย...หวา!!!    ยังไม่ทันจะพูดจบ  มุคุโร่ก็ช้อนร่างนั้นขึ้นแล้ววางลงบนพื้นดอกกุหลาบโดยใช้ร่างของตนเองส่วนหนึ่งรองรับไว้

     

      อะ...อะไรน่ะ    สึนะหน้าแดงไปถึงหู

     

    มุคุโร่หัวเราะ  พลางประกบริมฝีปากช่างพูดอย่างรวดเร็ว  ดื่มด่ำความหอมหวานที่แทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นของร่างในอ้อมแขนหรือดอกกุหลาบขาวโดยรอบนั่นกันแน่ 

     

    แขนเล็กเลื่อนขึ้นโอบรอบลำคออีกฝ่ายอย่างเต็มใจ  รับสัมผัสวาบหวามที่ถูกส่งมาอย่างไร้เดียงสา   เรียวลิ้นร้อนถูกส่งไปทำหน้าที่ของมันอย่างชำนาญในช่องปากของผู้ไม่ประสา  สึนะพยายามตอบรับ  สัมผัสไออุ่นและความรักที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มกำลังตน

     

    มุคุโร่ถอนริมฝีปากออกช้า ๆ จ้องมองใบหน้าหวานที่บัดนี้หอบหายใจถี่อย่างเย้ายวน  ดวงตาคู่สวยแย้มเยิ้ม  เคลิบเคลิ้มไปกับความสุขที่เพิ่งได้รับเมื่อครู่  คิดถึงมากนะครับ    เขาจุมพิตลงบนหน้าผากมน

     

      เป็นห่วงมากนะครับ    ริมผีปากเดิมเลื่อนมาสัมผัสปลายจมูก

    แล้วเลื่อนมาสัมผัสพวงแก้มใส    รักมากนะครับ 

     

    คำบอกรักที่เขาไม่ได้ยินมาเนิ่นนาน  มันยังคงหวานและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมายเช่นเดิม  สึนะยิ้มรับ  ยันตัวขึ้นจุมพิตริมฝีปากได้รูปของคนตรงหน้า    ฉันก็รักนายมุคุโร่  มากกว่าดอกไม้ในนี้  มากกว่าดอกไม้ในโลกนี้ 

     

    ดอกไม้ใดที่ว่าหอมยังไม่อาจหอมกว่า

    น้ำคำใดที่ว่าหวานยังไม่อาจเทียมเท่า

    รักใดที่ว่ามากยังไม่อาจหาที่เปรียบได้

     

    สามปีกับการรอคอยมันช่างคุ้มค่าเสียเหลือเกิน  สึนะเอนศีรษะพิงอกแกร่งซึ่งบัดนี้เหลือเพียงเนื้อหนังไร้อาภรณ์  มุคุโร่โอบกอดคนในอ้อมแขนให้แน่นกระชับขึ้นเมื่อรู้สึกถึงลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา

     

    พวกเขาอยู่ภายใต้กันและกัน  โอบกอดความสุขที่ได้รับจากกันและกัน

     

      นายจะกลับไปอีกไหม?    สึนะเอ่ยถามเสียงสั่น  มือเล็กคล้องวงแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้สัดส่วนไว้แน่น

     

      อยากให้ผมกลับไปไหมครับ? 

     

    ถามทั้ง ๆ ที่รู้  สึนะส่ายศีรษะไปมาเป็นพัลวัน  มุคุโร่หัวเราะเบา    อย่าลืมไปขอบคุณอัลโกบาเรโน่กับนักวิทยาศาสตร์ของคุณเสียด้วยนะครับ 

     

      เห?...    ดวงตากลมโตแหงนมอง

     

      พวกเขาทำให้ผมได้อยู่กับคุณที่นี่ได้จนกว่าคุณจะเบื่อผมเลยล่ะครับ 

     

    ความหมายของคำว่า ตลอดไป

     

      ไม่มีทางหรอก  ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่ ๆ ไม่ว่าเป็นหรือตาย 

     

    ความหมายของคำว่า  สัญญา

     

      ผมก็เหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ตาม 

     

    ความหมายของคำว่า รัก

     

     

     

     

     

    ================END==============

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×