คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5
Fic Naruto
My Immortal.
ตอนที่ 5
เปลือกตาบางกระพริบถี่ ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบๆห้อง เช้านี้ไม่มีใบหน้ากวนๆของใครบางคนมาปลุกแต่เช้า นั่นเป็นเรื่องดี....ใช่!!...เรื่องดีมากๆเชียวละ ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ทำไมจิตใจถึงกลับรู้สึกเป็นห่วงแบบนี้นะ
“ เฮ้อ.... ” นารุโตะถอนหายใจ
เขาลุกขึ้นทำภารกิจส่วนตัวในตอนเช้าเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่นานนัก ร่างบางก้าวออกไปทางด้านนอก ดวงตาใสเหลือบมองไปทางห้องซ้อม ประตูมันถูกแง้มออก มีใครบางคนอยู่ที่นั่น
นารุโตะเดินตรงไปยังห้องซ้อมนั่นช้าๆ ปรกติเขาไม่สนใจนักหรอกว่าใครจะเข้าออกบ้านนี้บ้าง แต่ด้วยเสียงของดาบที่แหวกผ่านสายลมดังเป็นจังหวะนั่นสิที่น่าสนใจยิ่งกว่าอะไร ฟังดูแล้วก็รู้ว่าคนผู้นี้ฝีมือไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึง ดวงตาของนารุโตะก็สังเกตเห็นเงาของใครบางคน เขาขยับตัวไปอีกนิดเพื่อจะได้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่แท้คนๆนั้นก็คือซาสึเกะนี่เอง ชายหนุ่มกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างอยู่กับคนสนิทของเขา
“ เตรียมตัวซะนารุโตะ...มีงานเข้ามา ” ซาสึเกะตะโกน ดังพอในระยะที่จะทำให้อีกฝ่ายได้ยิน นารุโตะรู้สึกโมโหตัวเองอย่างบอกไม่ถูก นี่อีกฝ่ายรู้ด้วยหรือว่าเขาแอบมองอยู่
ดวงตาสีดำสนิทมองตามร่างของอีกฝ่ายไปตลอดจนลับตา เขาหัวเราะน้อยๆให้กับท่าทีไม่ยอมใครนั่น และตอนนี้เขาเองก็คงต้องไปเตรียมตัวเหมือนกัน นี่ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้นารุโตะเข้าไปพบกับอิทาจิเลยจริงๆ แต่งานก็คืองาน เลี่ยงไม่ได้...
นารุโตะกับซาสึเกะตรงไปยังปราสาทของโอโรจิมารุ วันนี้ก็ยังคงมีเวรยามเฝ้าอย่างแน่นหนาเช่นเดิม ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบๆอย่างพิจารณา ที่นี่ใหญ่โตมาก แต่เขากลับรู้จักเพียงแค่เพียงส่วนเดียวเท่านั้น บางทีซาสึเกะอาจรู้จักทั้งหมดก็เป็นได้
“ ข้าเองก็รู้จักแค่ 2ใน3 เท่านั้น...มีเพียงโอโรจิมารุคนเดียวที่รู้จักทั้งหมด... ” ซาสึเกะบอก
เขากล่าวต่ออีกว่าที่นี่มีกลไกซับซ้อนมากมาย แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองยังไม่แน่ว่าจะสามารถผ่านไปได้หมดอย่างปลอดภัย นารุโตะนึกถึงตนเองทันที เขาอยากทดลอง การเป็นมือสังหารจำเป็นต้องรู้จักกลไกและกับดักเป็นอย่างดี ปราสาทนี้ช่างท้าทายดีจริงๆ
“ อย่าคิดจะเข้าไปเด็ดขาด...ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ” ร่างสูงกว่าห้ามอย่างรู้เท่าทัน อีกฝ่ายฟึดฟัดเล็กๆอย่างไม่ค่อยพอใจ
และก็เช่นเดิม นารุโตะยังคงถูกห้ามไม่ให้เข้าไปด้านใน เขายืนรออยู่ด้านนอก ท่ามกลางสายตาของทหารยามหลายคู่ที่จับจ้องมองมายังเขา ไม่ใช่เพราะความไม่ไว้ใจ แต่เป็นเพราะความงดงามของอีกฝ่ายนั่นต่างหากที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ ผมสีทองเป็นประกายใต้แสงแดดอ่อนๆ ดวงตาสีฟ้าใสฉายแววแห่งความกล้าหาญไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
“ เราเจอกันอีกแล้ว... ” นารุโตะหันกลับไปยังต้นเสียง อิทาจิยืนอยู่ด้านหลังเขาห่างไปไม่ถึงคืบ
“ ท่านอุจิวะ... ” นารุโตะคุกเข่า อีกฝ่ายประคองเขาให้ลุกขึ้น
“ ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้... ” อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ ถึงแม้นารุโตะจะรู้มาว่าคนๆนี้ไม่ใช่คนดี แต่การแสดงออกกับเขาในหลายๆครั้ง มันทำให้ร่างบางรู้สึกค้านอยู่เหมือนกัน
“ วันนี้ก็ยังคงงดงามเช่นเดิม.... ” เขากล่าวราวกับหยอก
“ ท่านกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ข้ามิบังอาจ... ” นารุโตะโค้ง เขาขอเปลี่ยนคำพูดเมื่อครู่ได้ไหม....คนๆนี้ดูไม่น่าไว้ใจมากกว่าซาสึเกะอีก
การสนทนาทุกอย่างจบลงในทันทีที่โอโรจิมารุก้าวออกมาจากเรือนพักกลางน้ำพร้อมๆกับซาสึเกะ อิทาจิก้าวเดินไปหานายของตนทันที ส่วนคนที่เหลือต่างพากันคุกเข่าลงทั้งหมดรวมถึงนารุตะด้วย
“ มาแล้วหรืออิทาจิ.... ” ดวงตาสีดำไร้แววจ้องไปยังอีกฝ่าย ร่างสูงกว่าโค้งให้
ผู้เป็นนายกระซิบอะไรบางอย่างกับซาสึเกะ ก่อนจะแนบจุมพิตลงบนริมฝีปากบางนั่นอย่างดูดดื่ม ไม่มีใครขัดแม้แต่ตัวของซาสึเกะเอง นารุโตะมองภาพตรงหน้านิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทำไมในจิตใจถึงได้รู้สึกปวดแปลบได้นะ...
“ จุ๊ๆ....รู้สึกว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาร่วมวงกับเรา.... ” โอโรจิมารุกล่าวเสียงเย็น น้ำเสียงนั่นแฝงไปด้วยความรื่นรมณ์อย่างเห็นได้ชัด
ทั้งหมดยังคงนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซาสึเกะตีหน้าขรึม อิทาจิยิ้มเช่นเดิม นารุโตะเองก็ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้น โอโรจิมารุค่อยๆก้าวเดินอย่างช้าๆมาหาร่างบาง มือเรียวช้อนคางอีกฝ่ายขึ้นพลางจ้องไปยังดวงตาสีฟ้านั่น
“ แสดงให้ข้าเห็นหน่อยสิ...ว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะคู่ควรกับซาสึเกะของข้า.... ” เสียงเรียบกล่าวราวกระซิบ นารุโตะโค้งศีรษะเป็นเชิงรับคำ
เขาค่อยๆลุกยืนขึ้น ก่อนจะเดินไปข้างๆโอโรจิมารุ ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงทำเหมือนปรกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแขกผู้มาเยือน ทหารยามยังคงยืนยามเช่นเดิม ไม่ได้มีการแตกตื่นหรือระแวดระวังอะไรเป็นพิเศษ นั่นทำให้นารุโตะรู้เลยว่า คนที่นี่อยู่กันอย่างไร
ราวกับเป็นเวลาประจวบเหมาะ นักฆ่าผู้ไม่รู้ซึ่งชะตากรรมของตนเริ่มทำงาน มันย่างก้าวอย่างเงียบเชียบราวกับเงา บางเบาราวสายลมตามวิถีของพวกมัน แต่นักฆ่าย่อมรู้กัน มีหรือจะรอดพ้นสายตานารุโตะไปได้
ร่างบางไม่ได้หันมองตามโดยตรง แต่แค่ใช้สัมผัสบางอย่างเพื่อจับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเท่านั้น มันเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หาจุดเหมาะสมเพื่อลอบสังหาร แต่ไม่ว่าจะรัดกุมแค่ไหนก็ไม่มีทางสำเร็จนารุโตะรู้ดี คนพวกนี้เก่งเกินไป และถึงแม้ว่าเขาจะพลาด คนพวกนี้ก็ไม่มีทางพลาดอย่างเขา
“ …. ” นารุโตะจับทางได้ถูกต้องสมกับเป็นนักฆ่ามือดีจริงๆ
เพียงแค่มันคิดจะซัดอาวุธเพื่อสังหาร มีดพกเล่มบางก็ถูกปล่อยจากมือนารุโตะ พุ่งตรงไปที่อีกฝ่ายทันที ไร้ซึ่งเสียงร้องใดๆทั้งสิ้น มีเพียงเสียงกะโหลกและผิวเนื้อที่ตกกระทบลงพื้นเท่านั้น
“ ขอข้าชมผลงานหน่อยสิ... ” โอโรจิมารุเดินไปตรวจดูสภาพศพของนักฆ่านั่นด้วยตนเอง
มีดของนารุโตะปักอยู่ที่คอหอยของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ นั่นมีผลทำให้ศัตรูตายทันดีโดยไร้ซึ่งเสียงกรีดร้อง วิธีการสังหารของพวกนักฆ่านี่ช่างน่ากลัวนัก ผู้ดูยิ้มออกมาน้อยๆอย่างพอใจ
“ ใช้ได้.....นักฆ่าสินะ... ” เขาเหลือบมองมาทางนารุโตะก่อนจะเดินจากไปพร้อมอิทาจิ
เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านพ้น วันนี้ผู้ที่นิ่งเงียบกลับเป็นนารุโตะแทน ซาสึเกะมองไปยังอีกฝ่าย ซึ่งตอนนี้ดูไม่ใช่นารุโตะเลยแม้แต่น้อย ร่างบางเหมือนกับนักฆ่าที่ชินชาต่อการสังหาร ไม่ใช่นารุโตะที่เขาเคยสัมผัสอยู่ทุกวัน
“ เจ้ากลัวรึ? ” ซาสึเกะถาม อีกฝ่ายหันหน้ามามอง
“ นักฆ่าไม่เคยกลัวการฆ่า... ” เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเย็นชา
“ เจ้ารู้สึกผิด...?? ” ร่างสูงถาม ผู้ถูกถามแทบสะอึก เมื่อโดนอ่านความคิดออก
“ ข้าทำงานตามคำสั่ง ทุกคนที่ฆ่าล้วนแล้วแต่เลวทรามทั้งสิ้น แต่บัดนี้...ข้ากลับต้องสังหารผู้ที่มีจุดประสงค์เดียวกัน ” นารุโตะตอบ ซาสึเกะสัมผัสได้ถึงเสียงสะอื้นลึกๆภายในจิตใจของอีกฝ่าย
“ บางครั้ง...สิ่งที่เราทำก็อาจไม่ถูกต้องเสมอไป แต่เพื่ออนาคตแล้ว สิ่งนั้นก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ” ซาสึเกะโอบกอดอีกฝ่ายเป็นเชิงปลอบ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว นานเท่าไหร่แล้วกับการร้องไห้แบบนี้ และที่สำคัญทำไมเขาถึงยอมที่จะร้องไห้ต่อหน้าคนที่ตนเองบอกว่าเกลียดได้นะ แถมยังยอมให้กอดอีก....แต่มันก็ อบอุ่นมากไม่ใช่หรือ??
นารุโตะสะอื้นไห้จนหลับลงในอ้อมกอดของซาสึเกะ ไม่เพียงแต่นารุโตะที่รู้สึกผิด ดวงตาสีดำนั่นก็รู้สึกผิดไม่น้อยเช่นกัน ผิดที่ทำให้คนสำคัญของตนต้องร้องไห้ ผิดที่ทำให้คนในอ้อมกอดต้องรู้สึกเจ็บปวด แต่ตราบใดที่งานยังไม่สิ้นสุด เขาก็ไม่สามารถรับปากได้เลยว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจได้อีก
“ แต่ถึงแม้จะไม่สามารถรับปากในเรื่องนั้นได้....แต่ข้าขอสัญญา ว่าจะปกป้องเจ้าด้วยชีวิต... ” คำมั่นลั่นออกมาจากวาจาของชายหนุ่ม ท่ามกลางรัศมีแห่งดวงดาวและดวงจันทร์ที่ร่วมกันเป็นพยาน ต่อแต่นี้ไป อุจิวะ ซาสึเกะ คนนี้จะขอปกป้องคนในอ้อมกอดด้วยชีวิต!!
เปลือกตาบางกระพริบถี่ขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงกระทบ นารุโตะค่อยๆลืมตาตื่นอย่างช้าๆ สิ่งที่เขาสัมผัสในวินาทีแรกก็คือวงแขนแกร่งของใครสักคน และแน่นอนว่า.....เขาคงนอนหนุนมันตลอดทั้งคืน
" อรุณสวัสดิ... " ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองคนในอ้อมแขนพลางยิ้มให้
" ว๊าก!!!! " เขาตะโกนก่อนจะลุกพรวดขึ้นทันที ใบหน้าขาวแดงระเรื่อ
" ส่งเสียงดังแต่เช้าตรู่แบบนี้ ไม่เกรงใจคนอื่นบ้างรึไงกัน?? " ซาสึเกะแกล้งแหย่ เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะสวมใส่ยูกาตะที่หลุดรุ่ยให้เรียบร้อยดังเดิม
นารุโตะจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ก่อนจะพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาไปพบโอโรจิมารุ จากนั้นก็ฆ่า.....นักฆ่าคนนั้น พอกลับมาถึง ก็โดนจี้ใจดำ....แล้วเขาก็ ร้องไห้...ร้องไห้ต่อหน้าคนแบบนี้เนี่ยนะ!!!!
" คิดอะไรอยู่....หืม?? " ร่างสูงกว่าก้มลงกระซิบข้างหูเบาๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเหม่อ
" ไปไกลๆเฟ้ย!!! " นารุโตะถอยรูดลง อีกฝ่ายหัวเราะร่วน
ดวงตาสีดำสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จะว่าไปตลอดเวลานารุโตะก็ใส่มันไว้ตลอด สร้อยนั่นคงจะสำคัญมากสินะ...แต่คนอย่างเขา เมื่ออยากรู้มีเหรอจะปล่อยให้ผ่านๆไปได้....ที่สำคัญ เขาอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนตรงหน้านี้
" สร้อย.... " ซาสึเกะมองไปที่สร้อยนั่น
" ทำไม?? " อีกฝ่ายกำมันแน่น ดวงตาสีฟ้าใสจ้องดวงตาสีดำไม่วาง
และนั่นก็ทำให้ซาสึเกะนึกถึงเรื่องที่โอโรจิมารุเคยพูดเอาไว้ เรื่องตระกูลลึกลับ กับสร้อยเส้นหนึ่ง ซึ่งเขาพูดว่ามันหายไปพร้อมกับการทำลายล้างเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ที่เขาไม่แน่ใจก็คือ....ตระกูลนั้นชื่อว่าอะไรแน่....
" มันคือของสำคัญของข้า.... " นารุโตะตอบเสียงมั่น
ซาสึเกะเห็นแววตาใสเริ่มสั่นระริก เขาเดาได้เลยว่าคงเกี่ยวข้องกับครอบครัวหรืออะไรสักอย่าง และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก สะกิดแผลใจ กำลังสะกิดแผลใจของนารุโตะงั้นหรือ??!!
" ข้าขอโทษ.... " เสียงทุ้มกล่าวเบาๆ
" ช่างเถอะ....ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน.... " นารุโตะลุกขึ้นทันที
ร่างสูงกว่ามองตามไปตลอดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่น่าเลย....ผิดพลาดอีกแล้ว สงสัยเขาเองกระมังที่จะเป็น
ฝ่ายตอกย้ำให้นารุโตะเสียใจ เขาควรคู่ที่จะปกป้องงั้นหรือ.....
ร่างเปลือยเปล่านอนทอดกายอยู่บนเตียงใหญ่ ใต้ม่านบางสีขาวสว่าง โอโรจิมารุพลิกตัวหันเข้าหาร่างสูงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งลูบไล้แผ่นหลังกว้างไปมา เสียงหวานเอ่ยกระซิบแผ่วเบา....
" เด็กนั่นต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นเป็นแน่..... " เขากล่าว
" สิ่งนั้น??....ท่านหมายถึง.... " อีกฝ่ายเหลือบมอง
ราวกับเขาใจกัน เพียงแค่มองก็สามารถรู้ได้ถึงความต้องการของผู้เป็นนาย อิทาจิสบตาก่อนจะพยักหน้าให้ เขารู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร และรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่...
" สมแล้วที่เป็นเจ้า....แล้วก็อย่าเล่นมากละ ข้าหึงนะ....อย่าลืมว่าเจ้าคือของๆข้า " ริมฝีปากของผู้พูดประกบแทบทับ รสจูบหอมหวานบรรเลงเป็นเวลานาน ลมหายใจกระชั้นของทั้งสองฝ่ายบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
" อย่าได้กังวล....ข้าคือของๆท่าน " อิทาจิกล่าวย้ำ ก่อนจะคุกเข่าลงจุมพิตมือเรียวนั่น
เขาหายไปแล้ว เหลือเพียงรอยยิ้มบางเบาของผู้เป็นนายเท่านั้น รอยยิ้มงดงามที่แฝงไปด้วยความอำมหิต ดวงตาสีดำไร้แววบ่งบอกว่ากำลังสนุก ตื่นเต้น....ต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้...
" เจ้าด้วยซาสึเกะ....เจ้าก็ต้องเป็นของๆข้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น " เสียงหัวเราะดังกังวานไปทั่ว มันน่ากลัวเสียเหลือเกิน
ร่างสูงแต่งกายในชุดเป็นทางการเดินออกมา นารุโตะเหลือบมอง เขายอมรับว่าไม่ว่ามองกี่ครั้งๆ อีกฝ่ายก็ยังคงดีดูเช่นเดิม นี่ถ้าหากว่าเขาเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาๆที่ไม่มีโอกาสได้รู้จักกับซาสึเกะล่ะก็....เขาก็คงต้องตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำเชียวละ....
" มองแบบนั้น...สนใจข้าหรือไง? " อีกฝ่ายยิ้มยั่ว เมื่อรู้ว่าตนถูกมองอยู่
" จะบ้าไง!!! " นารุโตะรีบหลบสายตาทันที
" ข้าจะไปพบโอโรจิมารุ...เจ้ารอนี่นะ... " ซาสึเกะบอก แต่ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ
เขาส่ายศีรษะสองสามครั้งก่อนจะเดินออกไป รอยยิ้มบางหัวเราะน้อยๆอย่างระอากับนิสัยดื้อดึงนั่น แต่ก็เพราะแบบนี้แหละ ที่ทำให้เขารู้สึกผูกพันจนยากที่จะถอนตัวได้...นิสัยแบบนี้นี่แหละ
" จะไปไหนก็ไปสิ...ไม่เห็นต้องบอกเลย...ชิ! " นารุโตะทำท่าล้อเลียน
จะว่าไป....นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้ ตั้งแต่สมัยนั้น...นาน...มันนานมากเหลือเกิน เขาปิดกั้นจิตใจของตนเอง แต่ก็มีคนๆนี้นี่แหละที่ค่อยๆเปิดใจของเขา มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ....
จู่ๆก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น นารุโตะมองอย่างระแวดระวัง เขาก็คือคนสนิทของซาสึเกะนั่นเอง บุคคลผู้นั้นโค้งให้ร่างบางน้อยๆ ก่อนจะส่งสาสน์ฉบับหนึ่งให้ อีกฝ่ายหยิบมันขึ้นอ่าน...
" ท่านซาสึเกะให้ข้านำมามอบให้ขอรับ... " เพียงพูดจบร่างๆนั้นก็หายลับไป
" บ้าชะมัด.... " นารุโตะกัดฟันกรอดหลังจากอ่านจบ
นินจาระดับสูงของแคว้นถูกฆ่าตายอีกแล้ว และทุกฝ่ายมั่นใจว่านั่นเป็นฝีมือของโอโรจิมารุ ซึนาดะส่งสาสน์รับมาให้ช่วยสืบความเคลื่อนไหววงใน หากมีโอกาสลงมือได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ดูแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
" คงต้องรอเจ้านั่นกลับมาก่อน... " ร่างบางถอนหายใจ
ไม่นานนักซาสึเกะก็มาถึง ราวกับรู้ว่าใครมาเยือน โอโรจิมารุออกมาต้อนรับเองโดยทันที ร่างสูงกว่าค้อมศีรษะลงเป็นเชิงเคารพ นัยน์ตามืดเหลือบมองไปข้างๆ ไม่เห็นคนสนิทคู่แค้นเลยวันนี้....
" ถ้าหมายถึงอิทาจิละก็....เขาไปทำงานให้ข้า " อีกฝ่ายตอบอย่างรู้ทัน ซาสึเกะพยักหน้าน้อยๆ
" เข้ามาด้านในก่อนสิ.... " ผู้เชิญเดินนำ อีกฝ่ายตามไปแต่โดยดี
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาถึงห้องของโอโรจิมารุ คนๆนี้มักจะชอบทำแบบนี้เสมอ ซาสึเกะรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่ถึงกระนั้นทุกครั้งเขาก็ปฏิเสธ เขาเชื่อว่าการทำงานให้ก็มากพอแล้ว กับเรื่องนี้คงไม่จำเป้นต้องทำด้วยหรอกจริงไหม?
" มาหาข้า...คงจะมีเรื่องสำคัญ " ผู้เป็นนายทอดตัวยาวบนเตียงใหญ่
ไม่ว่ามองมุมไหนก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังยั่วยวนเขา กับคนอื่นคงได้ผล แต่กับซาสึเกะน่ะผิดถนัด เขาไม่เคยสนใจอะไรเลย แม้กระทั่งผู้หญิง ชีวิตของเจาทุ่มเทให้กับงานและความแค้นเพียงเท่านั้น จะมีก็แต่เพียง....คนบางคน ที่กลับทำให้เขาเปลี่ยนไป...
" ข้าละเบื่ออารมณ์ตายด้านของเจ้านัก.... " ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ร่างที่ยืนนิ่งอยู่
" ขออภัย... " ซาสึเกะกล่าวพลางถอยลง
โอโรจิมารุไม่พอใจกับการกระทำนั่นอย่างมาก เขามั่นใจในเสน่ห์ของตนเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงไม่ออกท่าทีเท่าใดนัก เพราะการผูกใจคนอย่างซาสึเกะให้ทำงานให้ตนได้นั้นถือเป็นเรื่องยาก และเพราะอย่างนั้น แค่อารมณ์เพียงชั่ววูบจะต้องไม่เอามาทำลายทุกสิ่งเป็นแน่
" ข้าอยากจะถามถึงเรื่องที่ท่านได้เคยพูดไว้เมื่อหลายปีก่อน... " ร่างสูงกว่ากล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม ผู้ฟังเลิกคิ้วสูง
TBC.
ความคิดเห็น