ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Old AuFic Naruto] My Immortal (SasuNaru) [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 52


    />

    Fic Naruto

     

    My Immortal. 

     

    ตอนที่ 5

     

     

     

     

     

     

    เปลือกตาบางกระพริบถี่  ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบๆห้อง  เช้านี้ไม่มีใบหน้ากวนๆของใครบางคนมาปลุกแต่เช้า  นั่นเป็นเรื่องดี....ใช่!!...เรื่องดีมากๆเชียวละ  ถึงจะคิดอย่างนั้น  แต่ทำไมจิตใจถึงกลับรู้สึกเป็นห่วงแบบนี้นะ

     

      เฮ้อ....    นารุโตะถอนหายใจ 

     

    เขาลุกขึ้นทำภารกิจส่วนตัวในตอนเช้าเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่นานนัก  ร่างบางก้าวออกไปทางด้านนอก  ดวงตาใสเหลือบมองไปทางห้องซ้อม  ประตูมันถูกแง้มออก  มีใครบางคนอยู่ที่นั่น 

     

    นารุโตะเดินตรงไปยังห้องซ้อมนั่นช้าๆ  ปรกติเขาไม่สนใจนักหรอกว่าใครจะเข้าออกบ้านนี้บ้าง  แต่ด้วยเสียงของดาบที่แหวกผ่านสายลมดังเป็นจังหวะนั่นสิที่น่าสนใจยิ่งกว่าอะไร  ฟังดูแล้วก็รู้ว่าคนผู้นี้ฝีมือไม่ธรรมดาเลยทีเดียว 

     

    แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึง  ดวงตาของนารุโตะก็สังเกตเห็นเงาของใครบางคน  เขาขยับตัวไปอีกนิดเพื่อจะได้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ที่แท้คนๆนั้นก็คือซาสึเกะนี่เอง  ชายหนุ่มกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างอยู่กับคนสนิทของเขา

     

      เตรียมตัวซะนารุโตะ...มีงานเข้ามา    ซาสึเกะตะโกน  ดังพอในระยะที่จะทำให้อีกฝ่ายได้ยิน  นารุโตะรู้สึกโมโหตัวเองอย่างบอกไม่ถูก  นี่อีกฝ่ายรู้ด้วยหรือว่าเขาแอบมองอยู่

     

    ดวงตาสีดำสนิทมองตามร่างของอีกฝ่ายไปตลอดจนลับตา  เขาหัวเราะน้อยๆให้กับท่าทีไม่ยอมใครนั่น  และตอนนี้เขาเองก็คงต้องไปเตรียมตัวเหมือนกัน  นี่ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้นารุโตะเข้าไปพบกับอิทาจิเลยจริงๆ  แต่งานก็คืองาน เลี่ยงไม่ได้...

     

    นารุโตะกับซาสึเกะตรงไปยังปราสาทของโอโรจิมารุ  วันนี้ก็ยังคงมีเวรยามเฝ้าอย่างแน่นหนาเช่นเดิม  ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบๆอย่างพิจารณา ที่นี่ใหญ่โตมาก  แต่เขากลับรู้จักเพียงแค่เพียงส่วนเดียวเท่านั้น  บางทีซาสึเกะอาจรู้จักทั้งหมดก็เป็นได้

     

      ข้าเองก็รู้จักแค่ 2ใน3 เท่านั้น...มีเพียงโอโรจิมารุคนเดียวที่รู้จักทั้งหมด...    ซาสึเกะบอก

     

    เขากล่าวต่ออีกว่าที่นี่มีกลไกซับซ้อนมากมาย  แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองยังไม่แน่ว่าจะสามารถผ่านไปได้หมดอย่างปลอดภัย  นารุโตะนึกถึงตนเองทันที  เขาอยากทดลอง  การเป็นมือสังหารจำเป็นต้องรู้จักกลไกและกับดักเป็นอย่างดี  ปราสาทนี้ช่างท้าทายดีจริงๆ

     

      อย่าคิดจะเข้าไปเด็ดขาด...ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา    ร่างสูงกว่าห้ามอย่างรู้เท่าทัน  อีกฝ่ายฟึดฟัดเล็กๆอย่างไม่ค่อยพอใจ

     

    และก็เช่นเดิม  นารุโตะยังคงถูกห้ามไม่ให้เข้าไปด้านใน  เขายืนรออยู่ด้านนอก ท่ามกลางสายตาของทหารยามหลายคู่ที่จับจ้องมองมายังเขา  ไม่ใช่เพราะความไม่ไว้ใจ  แต่เป็นเพราะความงดงามของอีกฝ่ายนั่นต่างหากที่ดึงดูดสายตาทุกคู่  ผมสีทองเป็นประกายใต้แสงแดดอ่อนๆ  ดวงตาสีฟ้าใสฉายแววแห่งความกล้าหาญไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด

     

      เราเจอกันอีกแล้ว...    นารุโตะหันกลับไปยังต้นเสียง  อิทาจิยืนอยู่ด้านหลังเขาห่างไปไม่ถึงคืบ

     

      ท่านอุจิวะ...    นารุโตะคุกเข่า  อีกฝ่ายประคองเขาให้ลุกขึ้น

     

      ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้...    อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ  ถึงแม้นารุโตะจะรู้มาว่าคนๆนี้ไม่ใช่คนดี  แต่การแสดงออกกับเขาในหลายๆครั้ง  มันทำให้ร่างบางรู้สึกค้านอยู่เหมือนกัน

     

      วันนี้ก็ยังคงงดงามเช่นเดิม....    เขากล่าวราวกับหยอก 

     

      ท่านกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ข้ามิบังอาจ...    นารุโตะโค้ง  เขาขอเปลี่ยนคำพูดเมื่อครู่ได้ไหม....คนๆนี้ดูไม่น่าไว้ใจมากกว่าซาสึเกะอีก

     

    การสนทนาทุกอย่างจบลงในทันทีที่โอโรจิมารุก้าวออกมาจากเรือนพักกลางน้ำพร้อมๆกับซาสึเกะ  อิทาจิก้าวเดินไปหานายของตนทันที  ส่วนคนที่เหลือต่างพากันคุกเข่าลงทั้งหมดรวมถึงนารุตะด้วย

     

      มาแล้วหรืออิทาจิ....    ดวงตาสีดำไร้แววจ้องไปยังอีกฝ่าย  ร่างสูงกว่าโค้งให้

     

    ผู้เป็นนายกระซิบอะไรบางอย่างกับซาสึเกะ  ก่อนจะแนบจุมพิตลงบนริมฝีปากบางนั่นอย่างดูดดื่ม  ไม่มีใครขัดแม้แต่ตัวของซาสึเกะเอง  นารุโตะมองภาพตรงหน้านิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่ทำไมในจิตใจถึงได้รู้สึกปวดแปลบได้นะ...

     

      จุ๊ๆ....รู้สึกว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาร่วมวงกับเรา....    โอโรจิมารุกล่าวเสียงเย็น  น้ำเสียงนั่นแฝงไปด้วยความรื่นรมณ์อย่างเห็นได้ชัด

     

    ทั้งหมดยังคงนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ซาสึเกะตีหน้าขรึม  อิทาจิยิ้มเช่นเดิม  นารุโตะเองก็ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้น  โอโรจิมารุค่อยๆก้าวเดินอย่างช้าๆมาหาร่างบาง  มือเรียวช้อนคางอีกฝ่ายขึ้นพลางจ้องไปยังดวงตาสีฟ้านั่น

     

      แสดงให้ข้าเห็นหน่อยสิ...ว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะคู่ควรกับซาสึเกะของข้า....    เสียงเรียบกล่าวราวกระซิบ  นารุโตะโค้งศีรษะเป็นเชิงรับคำ

     

    เขาค่อยๆลุกยืนขึ้น  ก่อนจะเดินไปข้างๆโอโรจิมารุ  ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงทำเหมือนปรกติ  ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ไม่มีแขกผู้มาเยือน  ทหารยามยังคงยืนยามเช่นเดิม  ไม่ได้มีการแตกตื่นหรือระแวดระวังอะไรเป็นพิเศษ  นั่นทำให้นารุโตะรู้เลยว่า  คนที่นี่อยู่กันอย่างไร

     

    ราวกับเป็นเวลาประจวบเหมาะ  นักฆ่าผู้ไม่รู้ซึ่งชะตากรรมของตนเริ่มทำงาน  มันย่างก้าวอย่างเงียบเชียบราวกับเงา  บางเบาราวสายลมตามวิถีของพวกมัน  แต่นักฆ่าย่อมรู้กัน  มีหรือจะรอดพ้นสายตานารุโตะไปได้

     

    ร่างบางไม่ได้หันมองตามโดยตรง  แต่แค่ใช้สัมผัสบางอย่างเพื่อจับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเท่านั้น  มันเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ  หาจุดเหมาะสมเพื่อลอบสังหาร  แต่ไม่ว่าจะรัดกุมแค่ไหนก็ไม่มีทางสำเร็จนารุโตะรู้ดี  คนพวกนี้เก่งเกินไป  และถึงแม้ว่าเขาจะพลาด คนพวกนี้ก็ไม่มีทางพลาดอย่างเขา

     

      ….    นารุโตะจับทางได้ถูกต้องสมกับเป็นนักฆ่ามือดีจริงๆ

     

    เพียงแค่มันคิดจะซัดอาวุธเพื่อสังหาร  มีดพกเล่มบางก็ถูกปล่อยจากมือนารุโตะ  พุ่งตรงไปที่อีกฝ่ายทันที  ไร้ซึ่งเสียงร้องใดๆทั้งสิ้น  มีเพียงเสียงกะโหลกและผิวเนื้อที่ตกกระทบลงพื้นเท่านั้น

     

      ขอข้าชมผลงานหน่อยสิ...    โอโรจิมารุเดินไปตรวจดูสภาพศพของนักฆ่านั่นด้วยตนเอง

     

    มีดของนารุโตะปักอยู่ที่คอหอยของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ  นั่นมีผลทำให้ศัตรูตายทันดีโดยไร้ซึ่งเสียงกรีดร้อง  วิธีการสังหารของพวกนักฆ่านี่ช่างน่ากลัวนัก  ผู้ดูยิ้มออกมาน้อยๆอย่างพอใจ

     

      ใช้ได้.....นักฆ่าสินะ...    เขาเหลือบมองมาทางนารุโตะก่อนจะเดินจากไปพร้อมอิทาจิ

     

    เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านพ้น  วันนี้ผู้ที่นิ่งเงียบกลับเป็นนารุโตะแทน  ซาสึเกะมองไปยังอีกฝ่าย  ซึ่งตอนนี้ดูไม่ใช่นารุโตะเลยแม้แต่น้อย  ร่างบางเหมือนกับนักฆ่าที่ชินชาต่อการสังหาร  ไม่ใช่นารุโตะที่เขาเคยสัมผัสอยู่ทุกวัน

     

      เจ้ากลัวรึ?    ซาสึเกะถาม  อีกฝ่ายหันหน้ามามอง

     

      นักฆ่าไม่เคยกลัวการฆ่า...    เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเย็นชา

     

      เจ้ารู้สึกผิด...??    ร่างสูงถาม  ผู้ถูกถามแทบสะอึก  เมื่อโดนอ่านความคิดออก

     

      ข้าทำงานตามคำสั่ง ทุกคนที่ฆ่าล้วนแล้วแต่เลวทรามทั้งสิ้น  แต่บัดนี้...ข้ากลับต้องสังหารผู้ที่มีจุดประสงค์เดียวกัน    นารุโตะตอบ  ซาสึเกะสัมผัสได้ถึงเสียงสะอื้นลึกๆภายในจิตใจของอีกฝ่าย

     

      บางครั้ง...สิ่งที่เราทำก็อาจไม่ถูกต้องเสมอไป  แต่เพื่ออนาคตแล้ว  สิ่งนั้นก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้    ซาสึเกะโอบกอดอีกฝ่ายเป็นเชิงปลอบ 

     

    ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่  น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว  นานเท่าไหร่แล้วกับการร้องไห้แบบนี้  และที่สำคัญทำไมเขาถึงยอมที่จะร้องไห้ต่อหน้าคนที่ตนเองบอกว่าเกลียดได้นะ  แถมยังยอมให้กอดอีก....แต่มันก็  อบอุ่นมากไม่ใช่หรือ??

     

    นารุโตะสะอื้นไห้จนหลับลงในอ้อมกอดของซาสึเกะ  ไม่เพียงแต่นารุโตะที่รู้สึกผิด  ดวงตาสีดำนั่นก็รู้สึกผิดไม่น้อยเช่นกัน  ผิดที่ทำให้คนสำคัญของตนต้องร้องไห้  ผิดที่ทำให้คนในอ้อมกอดต้องรู้สึกเจ็บปวด  แต่ตราบใดที่งานยังไม่สิ้นสุด  เขาก็ไม่สามารถรับปากได้เลยว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจได้อีก

     

      แต่ถึงแม้จะไม่สามารถรับปากในเรื่องนั้นได้....แต่ข้าขอสัญญา ว่าจะปกป้องเจ้าด้วยชีวิต...    คำมั่นลั่นออกมาจากวาจาของชายหนุ่ม  ท่ามกลางรัศมีแห่งดวงดาวและดวงจันทร์ที่ร่วมกันเป็นพยาน  ต่อแต่นี้ไป อุจิวะ ซาสึเกะ คนนี้จะขอปกป้องคนในอ้อมกอดด้วยชีวิต!!

     

    เปลือกตาบางกระพริบถี่ขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงกระทบ นารุโตะค่อยๆลืมตาตื่นอย่างช้าๆ สิ่งที่เขาสัมผัสในวินาทีแรกก็คือวงแขนแกร่งของใครสักคน และแน่นอนว่า.....เขาคงนอนหนุนมันตลอดทั้งคืน

    " อรุณสวัสดิ... " ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองคนในอ้อมแขนพลางยิ้มให้

    " ว๊าก!!!! " เขาตะโกนก่อนจะลุกพรวดขึ้นทันที ใบหน้าขาวแดงระเรื่อ

    " ส่งเสียงดังแต่เช้าตรู่แบบนี้ ไม่เกรงใจคนอื่นบ้างรึไงกัน?? " ซาสึเกะแกล้งแหย่ เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะสวมใส่ยูกาตะที่หลุดรุ่ยให้เรียบร้อยดังเดิม

    นารุโตะจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ก่อนจะพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาไปพบโอโรจิมารุ จากนั้นก็ฆ่า.....นักฆ่าคนนั้น พอกลับมาถึง ก็โดนจี้ใจดำ....แล้วเขาก็ ร้องไห้...ร้องไห้ต่อหน้าคนแบบนี้เนี่ยนะ!!!!

    " คิดอะไรอยู่....หืม?? " ร่างสูงกว่าก้มลงกระซิบข้างหูเบาๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเหม่อ

    " ไปไกลๆเฟ้ย!!! " นารุโตะถอยรูดลง อีกฝ่ายหัวเราะร่วน

    ดวงตาสีดำสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จะว่าไปตลอดเวลานารุโตะก็ใส่มันไว้ตลอด สร้อยนั่นคงจะสำคัญมากสินะ...แต่คนอย่างเขา เมื่ออยากรู้มีเหรอจะปล่อยให้ผ่านๆไปได้....ที่สำคัญ เขาอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคนตรงหน้านี้

    " สร้อย.... " ซาสึเกะมองไปที่สร้อยนั่น

    " ทำไม?? " อีกฝ่ายกำมันแน่น ดวงตาสีฟ้าใสจ้องดวงตาสีดำไม่วาง

    และนั่นก็ทำให้ซาสึเกะนึกถึงเรื่องที่โอโรจิมารุเคยพูดเอาไว้ เรื่องตระกูลลึกลับ กับสร้อยเส้นหนึ่ง ซึ่งเขาพูดว่ามันหายไปพร้อมกับการทำลายล้างเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ที่เขาไม่แน่ใจก็คือ....ตระกูลนั้นชื่อว่าอะไรแน่....

    " มันคือของสำคัญของข้า.... " นารุโตะตอบเสียงมั่น

    ซาสึเกะเห็นแววตาใสเริ่มสั่นระริก เขาเดาได้เลยว่าคงเกี่ยวข้องกับครอบครัวหรืออะไรสักอย่าง และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก สะกิดแผลใจ กำลังสะกิดแผลใจของนารุโตะงั้นหรือ??!!

    " ข้าขอโทษ.... " เสียงทุ้มกล่าวเบาๆ

    " ช่างเถอะ....ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน.... " นารุโตะลุกขึ้นทันที

    ร่างสูงกว่ามองตามไปตลอดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่น่าเลย....ผิดพลาดอีกแล้ว สงสัยเขาเองกระมังที่จะเป็น

    ฝ่ายตอกย้ำให้นารุโตะเสียใจ เขาควรคู่ที่จะปกป้องงั้นหรือ.....


     

     

     

     

     



    ร่างเปลือยเปล่านอนทอดกายอยู่บนเตียงใหญ่ ใต้ม่านบางสีขาวสว่าง โอโรจิมารุพลิกตัวหันเข้าหาร่างสูงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งลูบไล้แผ่นหลังกว้างไปมา เสียงหวานเอ่ยกระซิบแผ่วเบา....

    " เด็กนั่นต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นเป็นแน่..... " เขากล่าว

    " สิ่งนั้น??....ท่านหมายถึง.... " อีกฝ่ายเหลือบมอง

    ราวกับเขาใจกัน เพียงแค่มองก็สามารถรู้ได้ถึงความต้องการของผู้เป็นนาย อิทาจิสบตาก่อนจะพยักหน้าให้ เขารู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร และรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่...

    " สมแล้วที่เป็นเจ้า....แล้วก็อย่าเล่นมากละ ข้าหึงนะ....อย่าลืมว่าเจ้าคือของๆข้า " ริมฝีปากของผู้พูดประกบแทบทับ รสจูบหอมหวานบรรเลงเป็นเวลานาน ลมหายใจกระชั้นของทั้งสองฝ่ายบ่งบอกได้เป็นอย่างดี

    " อย่าได้กังวล....ข้าคือของๆท่าน " อิทาจิกล่าวย้ำ ก่อนจะคุกเข่าลงจุมพิตมือเรียวนั่น

    เขาหายไปแล้ว เหลือเพียงรอยยิ้มบางเบาของผู้เป็นนายเท่านั้น รอยยิ้มงดงามที่แฝงไปด้วยความอำมหิต ดวงตาสีดำไร้แววบ่งบอกว่ากำลังสนุก ตื่นเต้น....ต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้...

    " เจ้าด้วยซาสึเกะ....เจ้าก็ต้องเป็นของๆข้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น " เสียงหัวเราะดังกังวานไปทั่ว มันน่ากลัวเสียเหลือเกิน


     

     




    ร่างสูงแต่งกายในชุดเป็นทางการเดินออกมา นารุโตะเหลือบมอง เขายอมรับว่าไม่ว่ามองกี่ครั้งๆ อีกฝ่ายก็ยังคงดีดูเช่นเดิม นี่ถ้าหากว่าเขาเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาๆที่ไม่มีโอกาสได้รู้จักกับซาสึเกะล่ะก็....เขาก็คงต้องตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำเชียวละ....

    " มองแบบนั้น...สนใจข้าหรือไง? " อีกฝ่ายยิ้มยั่ว เมื่อรู้ว่าตนถูกมองอยู่

    " จะบ้าไง!!! " นารุโตะรีบหลบสายตาทันที

    " ข้าจะไปพบโอโรจิมารุ...เจ้ารอนี่นะ... " ซาสึเกะบอก แต่ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

    เขาส่ายศีรษะสองสามครั้งก่อนจะเดินออกไป รอยยิ้มบางหัวเราะน้อยๆอย่างระอากับนิสัยดื้อดึงนั่น แต่ก็เพราะแบบนี้แหละ ที่ทำให้เขารู้สึกผูกพันจนยากที่จะถอนตัวได้...นิสัยแบบนี้นี่แหละ

    " จะไปไหนก็ไปสิ...ไม่เห็นต้องบอกเลย...ชิ! " นารุโตะทำท่าล้อเลียน

    จะว่าไป....นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้ ตั้งแต่สมัยนั้น...นาน...มันนานมากเหลือเกิน เขาปิดกั้นจิตใจของตนเอง แต่ก็มีคนๆนี้นี่แหละที่ค่อยๆเปิดใจของเขา มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ....

    จู่ๆก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น นารุโตะมองอย่างระแวดระวัง เขาก็คือคนสนิทของซาสึเกะนั่นเอง บุคคลผู้นั้นโค้งให้ร่างบางน้อยๆ ก่อนจะส่งสาสน์ฉบับหนึ่งให้ อีกฝ่ายหยิบมันขึ้นอ่าน...

    " ท่านซาสึเกะให้ข้านำมามอบให้ขอรับ... " เพียงพูดจบร่างๆนั้นก็หายลับไป

    " บ้าชะมัด.... " นารุโตะกัดฟันกรอดหลังจากอ่านจบ

    นินจาระดับสูงของแคว้นถูกฆ่าตายอีกแล้ว และทุกฝ่ายมั่นใจว่านั่นเป็นฝีมือของโอโรจิมารุ ซึนาดะส่งสาสน์รับมาให้ช่วยสืบความเคลื่อนไหววงใน หากมีโอกาสลงมือได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ดูแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

    " คงต้องรอเจ้านั่นกลับมาก่อน... " ร่างบางถอนหายใจ


     

     

     

     

     



    ไม่นานนักซาสึเกะก็มาถึง ราวกับรู้ว่าใครมาเยือน โอโรจิมารุออกมาต้อนรับเองโดยทันที ร่างสูงกว่าค้อมศีรษะลงเป็นเชิงเคารพ นัยน์ตามืดเหลือบมองไปข้างๆ ไม่เห็นคนสนิทคู่แค้นเลยวันนี้....

    " ถ้าหมายถึงอิทาจิละก็....เขาไปทำงานให้ข้า " อีกฝ่ายตอบอย่างรู้ทัน ซาสึเกะพยักหน้าน้อยๆ

    " เข้ามาด้านในก่อนสิ.... " ผู้เชิญเดินนำ อีกฝ่ายตามไปแต่โดยดี

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาถึงห้องของโอโรจิมารุ คนๆนี้มักจะชอบทำแบบนี้เสมอ ซาสึเกะรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่ถึงกระนั้นทุกครั้งเขาก็ปฏิเสธ เขาเชื่อว่าการทำงานให้ก็มากพอแล้ว กับเรื่องนี้คงไม่จำเป้นต้องทำด้วยหรอกจริงไหม?

    " มาหาข้า...คงจะมีเรื่องสำคัญ " ผู้เป็นนายทอดตัวยาวบนเตียงใหญ่

    ไม่ว่ามองมุมไหนก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังยั่วยวนเขา กับคนอื่นคงได้ผล แต่กับซาสึเกะน่ะผิดถนัด เขาไม่เคยสนใจอะไรเลย แม้กระทั่งผู้หญิง ชีวิตของเจาทุ่มเทให้กับงานและความแค้นเพียงเท่านั้น จะมีก็แต่เพียง....คนบางคน ที่กลับทำให้เขาเปลี่ยนไป...

    " ข้าละเบื่ออารมณ์ตายด้านของเจ้านัก.... " ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ร่างที่ยืนนิ่งอยู่

    " ขออภัย... " ซาสึเกะกล่าวพลางถอยลง

    โอโรจิมารุไม่พอใจกับการกระทำนั่นอย่างมาก เขามั่นใจในเสน่ห์ของตนเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงไม่ออกท่าทีเท่าใดนัก เพราะการผูกใจคนอย่างซาสึเกะให้ทำงานให้ตนได้นั้นถือเป็นเรื่องยาก และเพราะอย่างนั้น แค่อารมณ์เพียงชั่ววูบจะต้องไม่เอามาทำลายทุกสิ่งเป็นแน่

    " ข้าอยากจะถามถึงเรื่องที่ท่านได้เคยพูดไว้เมื่อหลายปีก่อน... " ร่างสูงกว่ากล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม ผู้ฟังเลิกคิ้วสูง

     

     

     

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×