คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
Fic Naruto
My Immortal.
ตอนที่ 4
แสงแดดอ่อนๆยามเช้าตกกระทบกับเปลือกตาบาง ดวงตาสีฟ้าใสกระพริบถี่ เขารู้สึกงัวเงียอยู่ครู่ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่ง แต่แล้วก็รู้สึกอะไรบางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามาในชีวิตการนอนของเขา
แขนแกร่งของใครบางคนกำลังโอบรัดตัวของเขาอยู่ นารุโตะหันหลังมองทันที และปะทะเข้ากับดวงตาสีดำทมิฬ ซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะจ้องมองเขามานานพอดูแล้วเสียด้วย นั่นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจเข้าไปใหญ่
“ ปล่อย... ” นารุโตะกล่าวเสียงเย็นอย่างสะกดอารมณ์เต็มที่
เจ้าของเรือนผมสีดำไม่ได้คลายอ้อมกอดลง หากแต่กับรัดแน่นเข้าไปอีก พลางทำเสียงงัวเงียเบาๆก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ทำราวกับไม่ได้ยินเสียงอีกฝาก และนั่นก็ยิ่งทำให้นารุโตะไม่พอใจมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อีก - -
“ ก็บอกให้ปล่อยข้าไง!! ” ไม่พูดเปล่า เขาศอกเข้าเต็มท้องของอีกฝ่าย สำเร็จ...อ้อมกอดเมื่อครู่คลายออกทันที
“ รุนแรงจริง...เมื่อคืนเจ้ายังกอดข้าแน่นไม่ยอมปล่อยเลย ” ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพลางกุมท้อง ก่อนจะพูดจายียวนกวนประสาทต่อ
“ ใครกอด!!พูดให้มันดีๆนะ!! ” ว่าแล้วก็คว้าหมับเข้าให้ที่เสื้อของอีกฝ่าย ดวงตาสีฟ้าจ้องเขม็งอย่างไม่มีทีท่ากลัวเกรงแม้แต่น้อย แต่สายตาที่ได้รับกลับคือ ความทะเล้นและซุกซน -*-
นารุโตะฮึดฮัด...ก่อนจะปล่อยอีกฝ่าย เขารู้ว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะชายคนนี้ได้เลยแม้แต่น้อย แล้วยิ่งนิสัยแบบนี้อีก นิสัยที่เขาไม่ค่อยถูกโรคเท่าไหร่เลยจริงๆ
“ แล้วนั่นจะไปไหน?? ” ซาสึเกะนอนเท้าคางมองอีกฝ่ายพลางยิ้ม
“ ไปอาบน้ำ!! ” นารุโตะตวาดกลับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เวลาอยู่ต่อหน้าคนๆนี้ทีไร เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เป็นปรกติได้เลยสักครั้ง
“ แล้วรู้หรือว่าไปทางไหน? ” อีกฝ่ายถามต่อ ใบหน้าขาวของนารุโตะแต้มสีแดงแทบจะในทันที
และสุดท้ายเขาก็ต้องอาบน้ำกับซาสึเกะอยู่ดี เช้านี้สำหรับนารุโตะดูจะไม่สดใสเอาเสียเลย เขารู้สึกว่าความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวที่เคยได้รับหายไปสิ้น มันไม่เงียบและไม่.......เหงา.....
ระหว่างนั่งทานอาหารเช้า ซาสึเกะก็กล่าวถึงภารกิจที่จะต้องทำสำหรับวันนี้ให้อีกฝ่ายฟัง นารุโตะนั่งฟังนิ่ง และรับทำตามแต่โดยดี สมแล้วที่เคยทำงานเป็นมือสังหาร -*-
“ ทำไมต้องให้ข้าไปพบ... ” นารุโตะเอ่ยถามขณะทั้งคู่กำลังเดินทางเพื่อไปพบโอโรจิมารุ
“ เจ้าไม่สามารถอยู่โดยรอดพ้นสายตาของคนๆนี้ไปได้หรอก....ทางที่ดีเจ้าควรจะไปพบเสีย ” ซาสึเกะอธิบาย ที่นี่คือถิ่นของเขา และก็เป็นที่รู้ๆกันดีว่าคนๆนี้หูตากว้างไกลแค่ไหน
นารุโตะพยักหน้ารับเบาๆโดยไม่ถามค้านต่อ เขาเข้าใจในความคิดของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี การอยู่ที่นี่ไม่ใช่จะอยู่ได้อย่างง่ายๆสบายๆเสียเมื่อไหร่ หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างแทบจะไม่หลุดพ้นจากสายตาของโอโรจิมารุไปได้
ดวงตาสีฟ้าจ้องมองปราสาทหลังโตอย่างละเอียดถี่ถ้วน ใหญ่โตและหรูหราสมตนจริงๆ กำแพงโดยรอบนอกแน่นหนา มีทหารยามเฝ้าอยู่ทั่วไม่ขาดสาย การคุ้มกันจัดอยู่ในระบบเยี่ยมยอด ถ้าไม่เข้าถึงตัวจริงๆคงลงมือทำอะไรได้ยาก
ทันทีที่ย่างกรายผ่านประตูชั้นในสุดเข้ามา นารุโตะก็แลเห็นใบหน้างดงามหมดจดที่ดูราวกับหญิงสาว ผมสีดำสนิทยาวเงางาม ดวงตาสีดำไร้แวว รูปร่างบอบบางแต่กลับดูสมส่วน และความรู้สึกของนารุโตะก็สัมผัสได้ถึงจักระอันมหาศาลที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายคนๆนี้
“ วันนี้ถึงกับมาหาข้าด้วยตนเองเลยรึ...ซาสึเกะ... ” อีกฝ่ายค่อยๆเดินมาด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ก่อนจะเอื้อมแขนเรียวโอบรอบคอร่างสูงไว้ ดวงตาสีดำนั่นจ้องมองมาที่นารุโตะ
“ ข้าพาผู้ติดตามคนใหม่ของข้ามาแนะนำให้ท่านรู้จัก... ” ร่างสูงกล่าวพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะถอยตัวออกห่างจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย
“ หืม.....เจ้าชื่ออะไร.... ” โอโรจิมารุไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงสงวนท่าทีไว้ ก่อนจะค่อยๆเดินมาหานารุโตะที่นั่งคุกเข่าอยู่
“ นารุโตะ...อุ....อุเมะซาวะ นารุโตะ ขอรับ. ” นารุโตะกล่าว เขาเกือบพลั้งปากถึงนามแท้จริงออกไปเสียแล้ว จะว่าไปมีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักชื่อและตัวตนจริงๆของเขา
โอโรจิมารุช้อนคางนารุโตะขึ้นให้มองสบตากับตน ดวงตาสีดำไร้แววสำรวจไปทั่ว และก็รู้สึกได้ถึงความไม่เกรงกลัวหรือหวาดหวั่นในดวงตาสีฟ้าคู่นั้นสักนิด....เหมือนกับใครคนหนึ่งไม่มีผิด
“ ฮ่าๆๆ....สมแล้วที่เป็นคนของเจ้า..ข้าไม่ว่าอะไรหากเป็นความต้องการของเจ้า ซาสึเกะ.... ” ร่างบางเดินหันหลังกลับไปหาซาสึเกะ
“ ขอบคุณท่านมากขอรับ ” ร่างสูงก้มศีรษะให้อีกฝ่าย
“ เจ้าออกไปก่อน...ข้ามีเรื่องจะคุยกับซาสึเกะ ตามลำพัง... ” โอโรจิมารุเน้นเสียง อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ นารุโตะรู้สึกได้เช่นนั้น ก่อนที่เขาจะออกมาพร้อมกับทหารยามและคนอื่นๆ
ระหว่างที่ยืนรออยู่นั้น เขาสัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา นารุโตะรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องสงบใจเอาไว้ เพื่องานแล้วเขาจำต้องยอมทำ เพื่องานและ...การแก้แค้น...
ในช่วงเวลาที่นารุโตะกำลังคิดอยู่นั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังพุ่งตรงมาทางเขา รวดเร็วและรุนแรงมาก แต่โดยสัญชาตญาณของร่างกายแล้ว สำหรับนักฆ่าอย่างเขา มีหรือที่จะไม่สามารถหลบพ้น แต่ก็ยอมรับว่า ถ้าหากรู้ช้ากว่านี้อีกเพียงสักนิด ชีวิตเขาก็อาจจะไม่เหลือเป็นแน่
“ .... ” นารุโตะไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองไปตามต้นทางที่อาวุธลับนั่นพุ่งตรงมา
ร่างชายลึกลับปรากฏขึ้น ใบหน้าคมสัน ผมสีดำทมิฬ ดวงตาสีดำ ดูสุขุม เยือกเย็นและน่าหวั่นเกรงในเวลาเดียวกัน และที่สำคัญเขายังรู้สึกเหมือนกับว่า คนนี้ๆคล้ายคลึงกับใครบางคน เป็นอย่างมาก...
“ ยอดเยี่ยม...สมกับเป็นคนของซาสึเกะ... ” ชายผู้นั้นปรบมือให้เขา ร่างบางสังเกตเห็นว่าคนรอบข้างตนต่างคุกเข่าลงให้ชายผู้นี้ทั้งหมด
“ เหตุใดจึงไม่คุกเข่า!! ” เสียงชายผู้หนึ่งตะโกนมาทางเขา
“ ไม่เป็นไร....เขาคงยังไม่รู้จักข้า...ข้า อุจิวะ อิทาจิ...หัวหน้าหน่วยลับ มือขวาของท่านทสึจิคาเงะ ” ร่างนั้นกล่าวพลางยิ้ม ใช่แล้ว...ใช่จริงๆ คนๆนี้เกี่ยวข้องกับซาสึเกะ
“ ข้า อุเมะซาวะ นารุโตะ ขอรับ ขออภัยด้วยที่ข้าไม่ทราบ จึงทำให้เป็นการลบหลู่ท่าน ” นารุโตะคุกเข่า อิทาจิเดินเข้ามาพยุงเขาให้ลุกขึ้น และก็ยังคงยิ้มอยู่เช่นนั้น
เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ซาสึเกะออกมาพอดี ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองมายังคนข้างๆนารุโตะราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ นารุโตะเองก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารนี้ ทำให้เขาหันหน้าไปมองอีกฝ่าย
“ มาพอดีอิทาจิ... ” โอโรจิมารุกล่าวขัดบรรยากาศทั้งหมด ซาสึเกะก็สะกดอารมณ์ให้กลับเป็นปรกติ
“ ขอรับ. ” อิทาจิปล่อยมือจากนารุโตะ ก่อนจะเดินตรงไปทางโอโรจิมารุ แน่นอนว่าเขาต้องสวนกับซาสึเกะ
ดวงตาของทั้งสองจ้องมองกัน อีกฝ่ายจ้องมองด้วยท่าทีสบายๆ แต่ตรงกันข้ามกับซาสึเกะโดยสิ้นเชิง นารุโตะรู้ได้ถึงความสัมพันธ์อันไม่ธรรมดาของสองคนนี้
“ ระวังหน่อยนะน้องชาย....ระวังคนของนายจะหายไปนะ ดูแลดีๆหน่อยละ เดี๋ยวแมวจะมาขโมยไปเสียก่อน ” อิทาจิกระซิบเบาๆ ก่อนจะตบบ่าซาสึเกะ ผู้รับฟังกำหมัดแน่น หากเขาไม่ได้อยู่ในหน้าที่ละก็ จะเป็นเช่นไรนะ.....
ตลอดทางกลับ ซาสึเกะไม่ที่จะปริปากอะไรเลยสักคำ นารุโตะเองก็ไม่คิดที่จะเอ่ยปากถามออกไปเช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงเกิดเข้าใจคนข้างหน้าเขาขึ้นมาได้ นัยน์ตาสีดำสนิทที่เคยแน่วแน่บัดนี้กลับไร้แวว เขาดูสับสนจนยากที่จะอธิบายได้
เป็นเช่นดังคาด ร่างสูงไม่ได้ปริปากพูดคุยหรือกวนประสาทเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เอาแต่นั่งนิ่งเงียบ นารุโตะได้แต่เหลือบมองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงขณะที่กำลังนั่งทานข้าวด้วยกัน เป็นห่วง....เอ๊ะ!!...แล้วทำไมเขาต้องเป็นห่วงคนๆนี้ด้วยเล่า??!!
“ แอบมองข้าตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว...หรือว่าเจ้าแอบหลงรักข้าขึ้นมาหือ?... ” เท่านั้นละ...ทำเอาข้าวที่อยู่ในปากแทบล้นออกมาทันที ดวงตาสีฟ้าใสจ้องไปยังคนตรงหน้าเขม็ง ไอ้บ้านี่มันยังไงของมันกันละเนี่ย!!
“ ในสมองคิดเป็นแค่เรื่องแค่นี้รึไง!! ” ร่างบางตวาดขึ้น คนโดนได้แต่นั่งอมยิ้ม
จู่ๆสีหน้านั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นทันที เล่นเอาเขาทำอะไรแทบไม่ถูก นอกจากจะรับมือยากแล้ว ยังเดาอารมณ์ยากเสียอีก ปรกติเห็นแต่เก็กไปวันๆ ไม่เคยเห็นทำท่าทีอารมณ์ไม่คงที่แบบนี้เลยจริงๆ
“ หมอนั่น...อิทาจิ...คือพี่ชายแท้ๆของข้า ” นารุโตะไม่ได้ตกใจที่ความคิดของตนตรงกับความเป็นจริงจากปากของซาสึเกะ แต่ตกใจที่ทำไมซาสึเกะถึงเล่าให้เขาฟังต่างหาก
“ ... ” นารุโตะยังคงนั่งเงียบไม่ได้กล่าวอะไรขัด ซาสึเกะมองเขาแล้วยิ้มน้อยๆ
นารุโตะปล่อยให้ซาสึเกะเล่าเรื่องราวต่างๆในอดีตตามที่เจ้าตัวอยากจะบอกแก่เขา เป็นครั้งแรกที่เขาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีกับอีกฝ่าย อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนดีกระมัง....อย่างน้อยก็ดีพอที่จะฟังคนอื่นระบายความทุกข์โดยที่ไม่ขัดได้ละ
“ หมอนั่น...ฆ่าทุกคน...ครอบครัวของข้า พ่อและแม่แท้ๆของมัน!! ” ร่างบางสะดุ้งเฮือก แววตาสีดำเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเกินบรรยาย ทำให้เขารู้ได้เลยว่า โลกนี้ยังมีอะไรที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่าที่เขาเจอเสียอีก
“ เจ้าจะแก้แค้น?? ” นารุโตะถามกลับ
ผู้ถูกถามไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก ซาสึเกะนิ่งเงียบไปพักใหญ่ นารุโตะเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อเหมือนกัน เขาเข้าใจ เข้าใจความรู้สึกของซาสึเกะ และคิดว่าเข้าใจดีมากเสียด้วย
“ เป็นห่วงข้างั้นหรือ?? ” ซาสึกะถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้นารุโตะที่กำลังเหม่ออยู่
“ บ้า!!! ” ว่าแล้วก็สวนเข้าให้ด้วยหมัดขวาตรง แต่ก็เท่านั้น เคะหรือจะชนะ เมะ (/me หางโผล่...แคะๆ)
ซาสึเกะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีให้กับท่าทางของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่จะมองตามนารุโตะที่เดินหนีออกไป บางครั้งในความมืดมิด ก็ยังคงมีแสงสว่างเพื่อให้เราได้มองเห็นเส้นทางต่อไปบ้างล่ะ...
ร่างสองร่างกำลังโอบกอดกันท่ามกลางความมืด ไอร้อนแห่งอารมณ์คละคลุ้งไปทั่ว หยาดเหงื่อผุดพาย ริมฝีปากกระซิบคำหวาน ลิ้นต่อลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดกันราวกับจะกลืนกินอีกฝ่ายเสียให้ได้ เสียงลมหายใจหอบถี่ ราวกับจังหวะดนตรีแห่งความปรารถนาที่บรรเลงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“ ข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้าชอบเด็กแบบนั้น.... ” คำพูดหวานกระซิบผสมกับเสียงครางอ่อนๆฟังดูยั่วยวนยิ่ง
“ ท่านหึง?? ” ร่างกำยำด้านบนถามแกมหยอก
“ ของๆข้าก็เป็นของข้า ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ ” เป็นคำพูดธรรมดาเสียยิ่งกว่าธรรมดา หากแต่กลับดูจริงจังเยี่ยงคำสัตย์
“ ก็แค่ของเล่นเท่านั้น....ข้า อิทาจิ...เป็นของท่านผู้เดียว ” เสียงกระซิบหวานราวน้ำเชื่อมดังก้องข้างหูของร่างข้างใต้ ผู้ได้รับฟังอมยิ้มน้อยๆ ดวงตาสีดำที่มองมากำลังดึงดูดให้ชายหนุ่มกระทำในสิ่งที่กำลังกระทำด้วยอารมณ์ที่รุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เสียงครางดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด อารมณ์และความปรารถนารุนแรงอย่างไม่อาจห้ามได้ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากความใคร่ มิใช่เกิดแต่ความรัก...
เปลือกตาบางหลับลงแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ยังคงต่อปากต่อคำอย่างไม่มีทีท่าจะเหน็ดเหนื่อย ซาสึเกะมองคนข้างๆเขาก่อนจะยิ้มออกมา เส้นผมสีทองแผ่สลายไปทั่ว ตั้งแต่แรกเห็น เขาก็รู้เลยว่า คนๆนี้สำหรับเขาแล้ว มีความพิเศษที่ยิ่งกว่าใคร
“ เจ้าจะรู้ไหมนะ....นารุโตะ... ” ร่างสูงกระซิบเบาๆราวกับเสียงกระซิบของสายลม ก่อนจะค่อยๆก้มตัวลงจุมพิตบริเวณหน้าผากมลอย่างนุ่มนวลที่สุด
ราวกับรู้สึกตัว ผู้ถูกจุมพิตยิ้มน้อยๆ นั่นทำให้อีกฝ่ายนึกขำ ท่าทางคงกำลังฝันดีอยู่ทีเดียว ฝันถึงอะไรกันนะ..อะไรคือความฝันที่ทำให้เจ้าเป็นสุขได้ถึงขนาดนี้กัน....นารุโตะ....
TBC.
ความคิดเห็น