ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม One Shot Fanfiction [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : [Vocaloid] ผลลัพธ์ของความไม่เข้าใจ (LenXKaito)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 52


    />

    [SFic Vocaloid]

     

    Title : ผลลัพธ์ของความไม่เข้าใจ  

    Pairing : LenXKaito

    Author : derick

    Rate : Yaoi (PG-13)


     

    *ฟิคเรื่องนี้แต่งขึ้นตามความคิดและจินตนาการของผู้แต่ง*

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ดวงตาสีน้ำเงินใสดูหม่นหมองลงกว่าทุกครั้ง  ริมฝีปากที่ช่างพูด  ดวงตาที่มักสอดส่ายอย่างอยากรู้อยากเห็นกลับจางหายไปจนผิดวิสัย  ทำให้คนที่เปรียบเสมือนพ่ออดกังวลไม่ได้  เป็นอะไรไปไคโตะ  หมู่นี้ดูไม่สดใสเลยนะ มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?  มือแกร่งช้อนใบหน้าอีกฝ่ายให้สบมองนัยน์ตาตน

     

    เด็กหนุ่มแค่นยิ้ม  ไม่ครับ  ไม่มีอะไรครับมาสเตอร์

     

    งั้นก็เริ่มตรวจเลยแล้วกันนะ

     

    ไคโตะพยักหน้าพลางถอดเสื้อผ้าของตนออก  แล้วเดินไปนอนเหยียดตัวตรงภายใต้แสงไฟเรืองรอง  เอาล่ะ..  มือของผู้เป็นพ่อเลื่อนขึ้นปิดดวงตาสีน้ำเงินใสให้หลับลง  พลางเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ เพื่อตรวจเช็คสภาพ

     

    โวลคัลลอยด์ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เป็นมนุษย์และก็ไม่ใช่มนุษย์ที่เป็นหุ่นยนต์  พวกเขาเกิดขึ้นโดยความตั้งใจของผู้สร้าง  ให้กลายเป็นสิ่งที่มีพลังในการบันดาลเสียงเพลงแบบต่าง ๆ  เสมือนอีกหนึ่งเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ใบกลมใบนี้

     

    แต่ที่น่าแปลกก็คือความแตกต่างของพวกเขา  โวลคัลลอยด์โดยมีโปรแกรมเป็นแบบเสียงจะไม่สามารถพัฒนาการเจริญเติบโตทางร่างกายได้เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง  แต่โวลคัลลอยด์ที่มีเสียงต้นแบบจากมนุษย์  จะมีการพัฒนาร่างกายและสิ่งต่าง ๆ ไปตามปกติ

     

    เหตุนี้ไคโตะซึ่งเป็นโวลคัลลอยด์รุ่นแรกจึงไม่อาจเติบโตขึ้นอีก  ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเขาก็จะยังคงความหนุ่มไว้จนกว่าจะถูกทำลายลง  ทุกอย่างปกติ....

    ระบบสมอง  ความคิด การเต้นของหัวใจ  การหายใจ....  ชายวัยกลางคนตรวจสอบบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏ

     

    แสงไฟภายในส่องสว่างพร้อมกับเครื่องตรวจสภาพร่างกายที่ดับลง  ดวงตาสีฟ้าลืมตื่นขึ้นช้า ๆ  เรียบร้อยแล้วหรือครับ?

     

    ทุกอย่างปกติดี...  มาสเตอร์เอ่ยพลางเปิดบันทุกในมือตน  พรุ่งนี้คิวเร็นสินะ  รายนั้นโตวันโตคืนจริง ๆ

     

    ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ที่อยู่ภายในด้วยกัน  ไคโตะก้มหน้าก้มตาสวมเสื้อผ้าที่วางพาดไว้  แล้วผมจะบอกเร็นให้นะครับ  เขาหันมายิ้ม

     

    เดี๋ยวไคโตะ...  ดวงตาภายใต้กรอบแว่นจ้องมอง

     

    ครับ?

     

    เขาวางเอกสารในมือลง  เดินไปหาอีกฝ่ายแล้วยกมือขึ้นวางบนเส้นผมสีน้ำเงินนุ่มเบา ๆ  มีอะไรอยากบอกกับฉันไหม?

     

    ผม...  ดวงตาของเด็กหนุ่มจ้องมองตอบ  ผมอยากจะโตขึ้นกว่านี้ครับ....อยากโตกว่านี้  ไคโตะก้มหน้าลงกำมือแน่น

     

    เพียงแค่นั้นก็พอเข้าใจอะไรได้บ้าง  จากคำบอกเล่าของโวลคัลลอยด์ตัวก่อน ๆ ที่มาตรวจเช็คสภาพร่างกายไปแล้ว  นอกจากจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหมือนกับมนุษย์แล้ว  ยังมีความคิดและจิตใจที่คล้ายคลึงกันด้วยสินะ...

     

    ความรู้สึก ชอบ ไม่ชอบ รัก  เกลียด กลัว อยากทำโน่นนี่  ความต้องการต่าง ๆ ที่ทำให้โวลคัลลอยด์ไม่ใช่หุ่นยนต์...

     

    มาสเตอร์หัวเราะ  แปลก...มีแต่คนไม่อยากแก่

     

    ก็ถ้า....  ถ้าผมอายุมากขึ้น  เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น...  บางทีถ้าผมโตกว่านี้  อาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้นก็ได้..เข้าใจเหตุผลของความเปลี่ยนไป  ของความห่างเหินและช่องว่างที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นนั่น

     

    ดวงตาของผู้กร้านโลกมองอย่างเข้าใจ  เขาเดินไปยังจอคอมพิวเตอร์ตัวเดิม  ถ้าโตไม่ได้...ลองกลับไปเป็นเด็กไหมล่ะ?

     

    เอ๋?????  ไคโตะหันขวับมองอย่างตกใจ

     

    ไม่แน่ใจหรอกนะว่าจะสำเร็จแค่ไหน  แต่พอดีฉันทดลองไว้สำหรับโวลคัลลอยด์น่ะ  ตอนนี้มันยังไม่สมบูรณ์นัก  เลยทำให้กลับเป็นเด็กชั่วคราว

     

    เด็กหนุ่มฟังมาสเตอร์ตนอธิบายอย่างสนอกสนใจ  คนที่โตแล้วจะกลับไปเป็นเด็กอย่างงั้นหรือ?  แล้ว...

    แต่ความทรงจำที่ผ่านมาก็จะหายไปด้วยนะ....จะลองดูไหม?ความทรงจำหายไป....งั้นหรือ?

     

    ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการสูญเสียความทรงจำ  แต่ถ้ามันมีแต่เรื่องแย่ ๆ และสร้างเพียงความเจ็บปวดให้ล่ะก็....การสูญเสียความทรงจำก็คงเป็นแค่สิ่งของสิ่งหนึ่งที่หายไปจากชีวิตเท่านั้นละมั้ง?

     

    ครับ...ผมอยากลองดู...

     

    มาสเตอร์ยิ้ม  นั่นสิ....ลองเป็นคนที่ได้รับการเอาใจใส่ดูบ้างเป็นไร....

     

    เป็นฝ่ายที่ถูกรัก....เป็นฝ่ายที่ได้รับการดูแลบ้าง...

     

    เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นไปทั่วบ้าน  เด็กหนุ่มและเด็กสาวที่เพิ่งกลับมาถึงต่างหันหน้ามองกันด้วยความสงสัย แล้วพร้อมใจเดินไปยังบานประตูที่เปิดอ้าอยู่  พลันดวงตาสีเขียวอมฟ้าสวยเห็นอะไรบางอย่างวิ่งผ่านตนไป

     

    เร็นจับที!!!!”  เสียงหญิงสาวตะโกนดังลั่น  มือแกร่งเอื้อมคว้าเอาร่างเด็กชายตัวน้อยไว้

     

    เขาจับร่างที่ดิ้นไม่หยุดนั่นหันหน้ามา  เส้นผมสีน้ำเงิน  ดวงตาสีน้ำเงินกลมโต  ทำไมถึงดูคุ้นตาแปลก ๆ  นี่เด็กที่ไหนอ่ะพี่  โวลคัลลอยด์ตัวใหม่รึ?

     

    เมโกะยืนหอบ  มาพอดี...จะได้คุยกันทีเดียวเลย

     

    ดวงตาของเร็นยังคงไม่ละจากเด็กชาย  มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ เพียงแต่ไอ้ความดื้อดึง  เอาแต่ใจ  ไม่อยู่นิ่งราวกับลูกลิงไม่ปานนี่มันค่อนข้างจะแตกต่างออกไปอ่ะนะ

     

    เด็กคนนี้ใครหรือคะพี่ไมโกะ?  รินเอ่ยถาม

     

    มิคุเองก็ดูเหมือนจะสงสัยในจุดเดียวกัน  เธอกลับมาก่อนหน้าสองแฝดไม่นาน  แล้วก็พบกับสภาพความวุ่นวายเดียวกัน  นั่นสิ...

     

    หญิงสาวพี่ใหญ่ของบ้านวางอาหารเย็นลงบนโต๊ะ  พลางล้างมือและปลดผ้ากันเปื้อนตนเองออกแขวนไว้ตามเดิม  ยังคงไม่ลืมจะหยิบเอาเหล้าขวดใหญ่คู่ใจออกมาวางเป็นสิ่งช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร 

     

    ทั้งสามจ้องไปยังแก้วใสที่ถูกยกขึ้นซัดรวดเดียวหมด  แล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นได้  แล้วไคจังล่ะ  ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?  เจ้าของเส้นผมสีเขียวกวาดมองโดยรอบ

     

    นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังเด็กน้อยที่นั่งตรงข้าม  นั่นไง...

     

    ไหน??  รินเอ่ยพลางมองไปโดยรอบบ้าง

     

    เร็นเริ่มไม่สบายใจ  เส้นประสาทกระตุกเหมือนกับต้องการบอกเหตุบางอย่าง  ริมฝีปากบางค่อย ๆ ขยับอย่างยากลำบาก  พี่อย่าบอกนะว่า.....

    นั่นแหละไคโตะ  เมโกะตอบ

     

    ทั้งสามมองจ้องไปยังเด็กชายตัวน้อยซึ่งบัดนี้ตกอยู่ในอาการตื่นกลัว  มิคุเริ่มเดินเข้าไปหา  จับแก้มใสเบา ๆ แล้วออกแรงบีบอย่างหมั่นเขี้ยว  ตอนแรกก็นึกว่าเด็กที่ไหน  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไคจังเป็นเด็กแล้วจะน่ารักแบบนี้

     

    นั่นสิคะ....  รินเดินมาหยอกล้อเล่นบ้าง

     

    แต่ดูจะผิดคาดเมื่อไคโตะน้อยไม่เล่นด้วย  ริมฝีปากเล็กเริ่มเบ้อย่างไม่สบอารมณ์  ก่อนจะแหกปากร้องไห้ลั่น  เมโกะได้แต่นั่งกุมขมับ  นึกย้อนไปถึงสมัยที่เธอต้องเลี้ยงไคโตะ  เจ้าบ้าเนี่ยเหมือนจะเลี้ยงง่าย  แต่ดันยากสุด ๆ

     

    พอเห็นว่ายังร้องไห้ไม่หยุด  เร็นก็ลุกขึ้นปัดมือเด็กสาวทั้งสองออกแล้วช้อนร่างนั้นขึ้นอุ้ม  พวกเธอจะบ้ารึเปล่า  ไปทำแบบนั้นเด็กก็กลัวหมด  เขาไม่ใช่ไคโตะคนเดิมนะ

     

    เร็นเขย่าแขนตนเบา ๆ  แม้เขาจะไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนแต่ก็พอจดจำได้ว่าควรต้องทำอย่างไร  ไคโตะน้อยหยุดร้องไห้เปลี่ยนมาเป็นเสียงสะอื้นเบา ๆ แทน  ไม่เป็นไรนะ ๆ

     

    ใครจะเชื่อว่าคนอย่าง คากามิเนะ เร็น จะใจดีได้ถึงเพียงนี้  ที่สำคัญกับไคโตะที่จ้องจะคอยกัดตลอด  แต่ที่เมโกะตกใจไม่ใช่ตรงนี้เพียงอย่างเดียว  เธอตกใจมนุษย์ประหลาดนอกจากมาสเตอร์ที่ทำให้ไคโตะหยุดร้องไห้ได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที

     

    งั้นดี....ต่อไปนี้เร็นก็คอยดูแลไคโตะแล้วกัน  เธอยื่นคำขาด

     

    เด็กหนุ่มร่างสูงหันขวับมอง  หา!!!”

     

    ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไคโตะติดใจอะไรเธอ  แต่นอกจากมาสเตอร์แล้วไม่เคยมีใครทำให้ไคโตะหยุดร้องไห้ได้ง่าย ๆ แม้กระทั่งฉัน  ฉะนั้นเธอก็ต้องเป็นคนที่ดูแลไคโตะ  เมโกะอธิบาย

     

    แต่ผมต้องไปเรียนนะ?!”

     

    ในช่วงเช้าก่อนไปเรียนเธอก็เอาไปฝากไว้กับมาสเตอร์  แล้วช่วงเย็นก็ไปรับกลับมา  แค่นี้คงทำได้สินะ?

     

    ดวงตาสีเขียวอมฟ้าจ้องมองใบหน้าเด็กน้อยที่ดูเหมือนจะค่อย ๆ เคลิ้มหลับด้วยความง่วงงุน  แต่ผมมีกิจกรรม...

     

    คนอย่างนายทำกิจกรรมเป็นด้วยเหรอเร็น  วัน ๆ เอาแต่เที่ยว  รินว่า  ดูเหมือนเธอเองก็จะเห็นด้วยที่ให้เร็นเลี้ยงไคโตะ

     

    นั่นสิ....หรือจะไปฝากกับกาคุโป....ก็ดีนะ  เห็นเขาก็สนิทกับไคจังดี  มิคุที่นั่งลงทานอาหารเอ่ยบ้าง  ดูเหมือนหญิงสาวในบ้านต่างจะรู้ความลับอะไรหลาย ๆ อย่างที่เหล่าชายหนุ่มมองข้ามกันไป

     

    เร็นกลืนน้ำลายฝืดคอ  ให้กาคุโปเลี้ยงหรอ....ไม่มีทาง   ตกลง  ผมเลี้ยงเองก็ได้

    ดูเหมือนเขาเองก็ตกใจเกินคาดเหมือนกันที่ไคโตะน้อยติดเขาแจ  ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  ถ้าตามที่ไมโกะบอกไคโตะจะสูญเสียความทรงจำในช่วงร่างโตไปจนหมด  นั่นก็แสดงว่าต้องสูญเสียไปจนถึงตอนก่อนจะรู้จักเขาเสียอีก  แล้วทำไมถึง.....?

     

    มือแกร่งยื่นจับพวงแก้มของเด็กน้อยที่นอนหลับอยู่ข้างกายตนเบา ๆ  ทำไมถึงได้คุ้นเคยกับผมนัก....พี่ไค...?

     

    เร็นทำทุกอย่างจนกลายเป็นกิจวัตร  เขาเคยชินกับการมีไคโตะน้อยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอย่างรวดเร็ว  และทำตัวเป็นพี่ชายที่ดีคอยดูแลตลอดเวลา  ตั้งตื่นนอนตอนเช้า  อาบน้ำ  ทานอาหาร  ไปส่งให้กับมาสเตอร์  มารับกลับและพาไปเดินเล่น  โดยไม่สนใจสายตาของผู้ที่มองมาด้วยอารมณ์อันหลากหลายเลยสักนิด

     

    ไปกินไอศกรีมกันดีไหม??  เด็กหนุ่มยิ้มให้กับที่ตนอุ้มอยู่

     

    แขนเล็ก ๆ ชูขึ้นพลางส่งเสียงร้องอย่างดีใจ  เย้!!ไอติม ๆ  มือน้อยจับใบหน้าของพี่ชายให้เลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนหอมฟอดเข้าไปบนแก้มขาว  รักพี่ชายมาก ๆ เลย!!”

     

    ดวงตาสีเขียวอมฟ้าสวยเบิกกว้างอย่างตกใจ  ใบหน้าคมเริ่มออกสีระเรื่อ  ใครเป็นคนสอน?  ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ได้  ไอ้เรื่องแบบนี้คงมีแค่...

     

    พี่รินกับพี่มิคุสอนมา  บอกว่าถ้าจะขอบคุณคนที่รักมาก ๆ ให้หอมแก้ม!!”  ดวงตาสีน้ำเงินแย้มยิ้มเช่นเดียวกับริมฝีปากบาง

     

    พอเห็นใบหน้าใครบางคนซ้อนทับแล้วทำเอาเขาอยากจะเป็นลมเสียตรงนี้  มือเรียวยกขึ้นปิดปากพลางหันหน้าเบี่ยงหนีไปทางอื่น  ไปกินไอศกรีมกันดีกว่านะ

     

    รู้สึกเหมือนข่าวการกลับกลายเป็นเด็กของไคโตะจะรั่วไหลไปอย่างรวดเร็ว  เพราะทันทีที่เขากลับมาถึงบ้านพร้อมเจ้าตัวเล็ก  แขกเหรื่อที่ไม่ได้เห็นหน้ามานานก็นั่งรอกันอยู่เต็ม  ไม่ว่าจะเป็นกาคุโปที่เหมือนจะบินตรงกลับมาจากที่ไหนสักแห่ง  ลูกะสาวแกร่งเกินร้อย  อะไคโตะที่ตรงมาดูหน้า  ไทโตะ  ไคโกะ  หรือคนอื่น ๆ ที่แห่กันมาเสียยิ่งกว่าวันรวมญาติ

     

    และแล้วเด็กน้อยน่ารักของถูกคว้าตัวจากไป  ทิ้งให้ผู้เป็นพี่เลี้ยงยืนงง  อะ...อะไรกัน.....?

     

    เขาหันมองหน้าคนในครอบครัวคนอื่น  อยากถามเหลือเกินว่าใครมันเป็นตัวปล่อยข่าวกันว่ะ!!!  แต่สุดท้ายก็ได้รับการปฏิเสธกลับมาทั้งหมด 

     

    เร็นนั่งมอง  จะห้ามก็ห้ามไม่ได้  อยากจะเอาคืนเสียเหลือเกินแต่มันก็จะออกนอกหน้าเกินไป  แล้วก็ต้องมานั่งปวดหัวตามเดิม....คิดแล้วก็....  เห...  เขายกมือขึ้นกุมหน้าอก  อาการที่เคยเกิดขึ้นกลับมาอีกแล้ว

     

    หลังจากหายไปเมื่อตอนเขาอยู่กับไคโตะน้อย  บ้าชะมัด  เด็กหนุ่มกัดฟัน

     

    ร่างสูงลุกพรวดขึ้นยืนพลางก้าวดุ่ม ๆ ไปคว้าตัวไคโตะน้อยขึ้นอุ้ม  เดี๋ยวฉันจะพาไคโตะไปหามาสเตอร์  พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดกันไว้  ว่าแล้วก็พรวดพราดออกไปอย่างไม่รอคำคัดค้านของใคร

     

    มีแต่รินและมิคุเท่านั้นที่หันมากลั้นหัวเราะให้กัน  มือเรียวของสองสาวยกขึ้นแตะกันเบา ๆ  สำเร็จ...

     

    ดวงตาภายใต้กรอบแว่นจ้องมองร่างสองร่างสลับกันไปมา  ใจหนึ่งก็นึกดีที่คนในบ้านเริ่มจะขวนขวายเอาไคโตะคนเดิมกลับคืนมา  แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่าเวลาที่ไคโตะจะได้รับการดูแลมันดูสั้นเกินไป 

     

    สั้นเกินไปแน่หากผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่หวัง  มีอะไรรึเร็น  ถ้าเรื่องวิธีแก้ล่ะก็....

     

    ผมอยากคุยกับมาสเตอร์น่ะครับ

     

    ชายวัยกลางคนมองก่อนพาทั้งสองเข้ามายังด้านใน  คุยเรื่องอะไรล่ะ  เขานั่งลงกับเก้าอี้ทำงานตัวเดิม  เร็นปล่อยให้ไคโตะไปไหนมาไหนเอง  ดูเหมือนเด็กน้อยจะเคยชินกับบ้านหลังนี้อย่างมาก

     

    คือ...อีกนานไหมครับกว่าจะหาทางแก้ได้?

     

    อีกฝ่ายยิ้ม  ทำไมไม่ชอบไคโตะตอนนี้รึ?

     

    ใบหน้าคมออกสีขึ้นทันควันเมื่อรู้สึกเหมือนว่าตนกำลังถูกแหย่อยู่  ใครจะไปชอบล่ะครับ!! ต้องมานั่งดูแลเด็กเล็ก  เวลาก็ไม่มี  ทำอะไรก็ไม่ได้!” 

     

    แย่จังน้า...  มาสเตอร์ว่าพลางมองเลยตัวเขาไป 

     

    เร็นหันมองตาม  ไคโตะน้อยยืนนิ่งอยู่  ในมือถือถ้วยไอศกรีมแน่น  ไค....โตะ...

     

    เด็กน้อยหันหลังวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว  เร็นทำท่าจะลุกขึ้นตามแต่โดนห้ามไว้  ไม่ต้องตามไปหรอก  อยู่คุยกับฉันนี่แหละ

     

    แต่!!”

     

    ชายหนุ่มยกกาแฟขึ้นดื่มช้า ๆ  อยากจะปลดภาระออกจากตัวไม่ใช่หรือไง?  ฉะนั้นต่อไปนี้ฉันจะเลี้ยงไคโตะเอง  จนกว่าเจ้านั่นจะคืนร่างเดิม

     

    ดวงตาคมปราดมองร่างที่ยืนกำมือแน่น  ตกลงแบบนั้นแล้วกันนะ?

     

    ผมจะเอาไคโตะกลับไป  ดวงตาสวยมองเป็นมั่น 

     

    มาสเตอร์หัวเราะ  คงยากสักหน่อย...

     

    ยาก?

    ฉันจะบอกอะไรให้  ไคโตะน่ะแต่เล็กมาเป็นคนที่ไวกับการเปลี่ยนแปลงของคนรอบข้างมาก  โดยเฉพาะกับคนสำคัญแล้ว  หากใครเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะนิสัย  ท่าทางหรือการแสดงออก  เพียงแค่นิดเดียวหมอนั่นก็รู้

     

    เร็นนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ฟัง...  ก่อน...ก่อนที่พี่ไคจะกลายเป็นเด็กได้พูดอะไรไหมครับ?

     

    ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง  แต่รับรู้ได้ถึงต้นเรื่อง  สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงไปในครั้งนี้คงมีส่วนมาจากตน  ไม่มากก็น้อย....เขาค่อนข้างจะมั่นใจตรงจุดนี้  ได้พูดอะไรเกี่ยวกับผมใช่ไหม?

     

    คนฟังดูจะทึ่งเล็กน้อยที่อีกฝ่ายกล้าถามออกมาตรง ๆ  ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาหมายถึงเธอไหม  แต่เห็นบอกว่าอยากโตขึ้น  อยากรับรู้อะไรให้มากกว่านี้  เผื่อว่าจะเข้าใจใครบางคนมากขึ้น

     

    เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกำหน้าอกแน่น  ที่ไม่เข้าใจ  ที่เปลี่ยนแปลงไป  ที่เป็นคนทำให้เสียใจ  คือตัวของเขาเองสินะ...การออกห่างเพื่อหนีความจริงบางอย่าง  มันทำร้ายอีกฝ่ายอย่างร้ายแรงสินะ...

     

    ตอนนี้เธอกลับไปก่อนแล้วกัน  เดี๋ยวถ้าไคโตะดีขึ้นฉันจะพาไปส่งเอง  เด็กน่ะแปปเดียวก็ลืม...

     

    เขาจงใจเว้นจังหวะ  แต่ผู้ใหญ่น่ะ...มันตรงกันข้ามกันนะ  ชายหนุ่มยกมือขึ้นตบบ่าแกร่งเบา ๆ พลางเดินออกไปจากห้อง ๆ นั้น

     

    เร็นมองมือของตนที่กำลังสั่นไหว  นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไป....

     

    ดวงตาสีฟ้ามองร่างที่เดินก้มหน้าจากไปทางหน้าต่างห้องนอนชั้นบน  เสียงเปิดประตูเบา ๆ เรียกให้ร่างเล็กวิ่งเข้าหา  ไคโตะซบหน้าตนลงกับขายาวของผู้เปรียบเสมือนพ่อ  กอดมันแน่นไม่ปล่อย 

     

    อย่าร้องสิ...เร็นเขาพูดเล่นน่า  มาสเตอร์ว่า  มือทั้งสองช้อนร่างของเด็กชายขึ้นอุ้ม  พลางเช็ดคราบน้ำตาน้ำมูกที่ไหลปะปนกันให้

     

    ผะ...ผมเป็นเด็กไม่ดีหรอ...

     

    ไคโตะน่ะเป็นเด็กดีจะตาย 

     

    ทำไมพี่ชายถึงไม่ชอบผม...  เด็กน้อยก้มหน้า

     

    คนฟังหัวเราะ  ใครว่า...

     

    เอาล่ะ....ได้เวลากลับเป็นคนเดิมแล้วล่ะมั้งไคโตะ?  เขายิ้มกว้างให้

     

    กลับไปดูผลของโจทย์ปัญหาที่ถูกสร้างไว้

     

    ตั้งแต่กลับถึงบ้านเร็นก็ตรงเข้าห้องนอนตนเองทันที  ไม่ว่าใครจะเรียกหรือถามอะไรเขาก็ไม่ยอมตอบ  เด็กหนุ่มเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง  นั่งคิดถึงสิ่งที่ตนเองทำ  นั่งคิดถึงคำพูดของมาสเตอร์  โดยเฉพาะคำพูดสุดท้ายนั่น

     

    ไม่ว่าจะเป็นยังไงขอให้พวกนายมีความสุขก็พอ  คนเป็นพ่อเขาก็คิดกันแบบนั้นล่ะนะ

     

    ไม่ว่าจะเป็นยังไง....งั้นหรอ?  เขามองมือของตนเองที่แผ่กว้างออก

     

    เมโกะตัดสินใจโทรถามมาสเตอร์เพราะหลาย ๆ คนเริ่มเป็นห่วงไคโตะน้อยกันจนวุ่น  พอสุดท้ายได้คำตอบว่าอยู่กับมาสเตอร์ก็สบายใจ  เลยแยกย้ายกันกลับที่พักของตน

     

    รินกับมิคุนั่งมองหน้ากัน  เกิดอะไรขึ้นกันนะ?

     

    นั่นสิ...เร็นทำหน้าอย่างกับคนอกหัก  หรือว่ามาสเตอร์จะไม่ยกพี่ไคให้เร็น!!”  รินร้องอย่างตกใจ

     

    มิคุส่ายศีรษะไปมา  ไม่หรอกมั้ง  มาสเตอร์ไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย  ที่สำคัญพวกเราก็บอกไปแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้นนี่นา

     

    สงสัยเร็นจะน้อยใจที่ไม่ยอมให้ไคโตะกลับมาด้วยมั้ง  เมโกะที่ได้ยินบทสนทนาพูดขึ้นบ้าง

     

    พี่เมโกะรู้เหรอ?

     

    ริมฝีปากสีแดงแย้มยิ้ม  ฉันอายุเท่าไหร่แล้ว  อาบน้ำร้อนมาก่อนนะยะ

     

    ทั้งสามมองหน้ากันก่อนหัวเราะคิกคัก  ให้ตายเถอะ...รีบ ๆ ทำอะไรเข้าสักอย่างสิเร็นเอ้ย!!”

     

    เสียงเรียกแสนคุ้นเคยปลุกให้เร็นต้องลืมหนังตาอันหนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก  อาจเพราะเมื่อคืนคิดมากเกินไปทำให้กว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า  แล้วนี่พอจะลืมตาตื่นขึ้นคนปลุกก็ดันเปิดม่านเสียจนแสงสว่างส่องเข้าลูกนัยน์ตาเขาอีก  คิดแล้วน่าโมโหชะมัด....

     

    แต่ไอ้การกระทำแบบนี้....  พี่ไค...?  เขาพยายามมองคนที่ยืนอยู่ภายใต้แสงของอรุณอันสว่างไสวนั่น

     

    ก็พี่เองน่ะสิ!  อะไรกันพอไม่ปลุกก็ไม่ยอมตื่นเลยนะ  ไหนว่าโต....หวา!!!!”  ร่างในชุดสีขาวยืนพร่ำบ่น  ทำตัวเป็นดั่งเช่นปกติ  แต่ในขณะที่พูดอยู่นั้นเขาก็ถูกมือแกร่งของผู้ที่เพิ่งตื่นนอนฉุดรั้งอย่างเต็มแรง

     

    ทำเอาคนไม่ทันตั้งหลักต้องโอนอ่อนตามไป  เจ็บ ๆ อะไรกันเร็น? 

     

    คนถูกถามโอบกอดเขาไว้แน่น  แน่นจนหายใจแทบไม่ออก  ไคโตะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่การกระทำของเร็นในตอนนี้มันทำให้เขานึกถึงเมื่อสมัยยังเล็ก  เวลาที่เร็นกลัวอะไรมาก ๆ ก็มักจะกอดเขาไว้แน่น  ไม่ยอมพูดหรือปริปากอะไรสักคำ

     

    ผู้เป็นพี่ยิ้ม  ยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีทองด้านยาว  กลัวอะไรของเรากัน?  โตป่านนี้แล้วนะ  เขาหัวเราะ  ยิ่งอยู่ใกล้กันแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้ถึงความแตกต่างของร่างกายในอดีตกับปัจจุบัน

     

    จากร่างเล็กที่เขาโอบกอดได้เต็มแขน  กลายเป็นเด็กหนุ่มตัวสูง  แผ่นอก ไหล่ และแผ่นหลังที่ทั้งกว้างและแข็งแกร่ง  กล้ามเนื้อที่มีแม้ไม่มากจนเห็นเป็นรูปร่างใหญ่โตแต่ก็สัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์อย่างเหมาะสม

     

    ขอโทษ....

     

    ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้าง  เห?

     

    ร่างที่ยังคงกอดเขาไว้แน่นเอ่ย  ขอโทษที่ผมทำให้พี่ต้องลำบากใจ

     

    ลำบากใจเรื่องอะไรกัน?  ไคโตะแสร้งทำเป็นไม่รู้  แต่ในใจกลับปรากฏความขุ่นข้องชัดเจน

     

    จริง ๆ แล้วผมกลัว...  วงแขนแกร่งคลายออก 

     

    ไคโตะที่ซบอกอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นท่าพยายามลุกขึ้นนั่ง  แต่ก็ไม่สะดวกนักเพราะอีกฝ่ายยังคงไม่ยอมปล่อยเขา  กลัวอะไรกัน?  นายโตจนป่านนี้แล้วนะเร็นเขาหัวเราะพลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มของเด็กหนุ่มเบา ๆ

     

    เร็นซุกหน้าลงกับอกของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนตักของเขา  กลัวจะเสียพี่ไป  กลัวว่าถ้าผมทำตัวเหมือนเดิม  ใกล้ชิดพี่เหมือนเดิม  สักวันผมจะอดใจไม่ไหว....

     

    ยิ่งฟังก็ยิ่งงง  แต่ไคโตะก็ไม่ได้คิดจะพูดแทรกขึ้น  เขาเองคิดว่าควรจะหยุดฟังสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของอีกฝ่ายก่อนมากกว่า  อย่างน้อยก็เพื่อดูว่าอะไรที่ไม่เข้าใจ  อะไรที่สมควรจะปรับให้ตรงกัน

     

    ผมพยายามอดทนอย่างมาก  จนเมื่อคิดว่าจะต้องถูกพี่เกลียด  คิดว่าจะต้องสูญเสียพี่ไปจริง ๆ ผมถึงได้รู้...

     

    ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นมอง  มือข้างหนึ่งยกขึ้นสัมผัสแก้มเนียนใส  ผมทนไม่ได้ถ้าไม่มีพี่อยู่  ทนไม่ได้ที่จะไม่เห็นพี่  ทนไม่ได้ที่จะไม่มีพี่อยู่ข้าง ๆ

     

    ริมฝีปากที่พูดอยู่เมื่อครู่ขยับเข้าใกล้  ไคโตะที่มัวแต่นิ่งอึ้งจึงไม่ทันได้ตั้งตัว  ผมรักพี่...  เร็นประกบริมฝีปากตนเองกับริมฝีปากบางนุ่ม 

     

    อะ....อะ...หวา...  พออีกฝ่ายถอนจุมพิตออกผู้เป็นพี่จึงได้รู้สึกตัว  ใบหน้าหวานออกสีแดงจัด มือทั้งสองยกขึ้นจับผ้าพันคอคู่ใจยกขึ้นปิดหน้าตน

     

    เร็นมองปฏิกริยานั้นพลางจูบลงไปข้างแก้มใส  ผมรักพี่นะ....ขอโทษที่เป็นแบบนี้  แต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้จริง ๆ

     

    อีกฝ่ายไม่ตอบ  ยังคงปิดหน้าปิดตาพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาอย่างแรง  เด็กหนุ่มเห็นก็รู้สึกงง  พี่?

     

    ไคโตะยังคงไม่ตอบ  เร็นยิ่งรู้สึกไม่สบายใจหนัก  พี่คงเกลียดผมสินะครับ...ขอโทษนะ  แต่นี้ไปผมจะพยายามไม่ทำอีก...

    พอได้ยินน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยนั้นดวงตาสีน้ำเงินก็รีบลืมมอง  ไม่ใช่นะ!!!พี่ไม่ได้เกลียดเร็น!!!” เขาตอบรับอย่างรวดเร็ว  ใบหน้าที่เบี่ยงหลบไปหันกลับมาอีกครั้ง

     

    ไม่ได้เกลียดผม?

     

    ไคโตะพยักหน้า  อื้อ....

     

    เร็นเปรยยิ้มบาง  พลางจุมพิตลงบนริมฝีปากสีอ่อนนั่นอีกครั้ง  แล้วนี่ล่ะรังเกียจไหม?

     

    ไคโตะก้มหน้าพลางส่ายศีรษะไปมา  คนมองยิ้มอีกครั้ง  มือหนึ่งยกขึ้นรองด้านหลังอีกฝ่าย  อีกมือออกแรงดันร่างนั้นให้นอนลงบนเตียงเบา ๆ  จากฝ่ายที่ถูกนั่งทบอยู่กลายเป็นฝ่ายคร่อมทับเสียแทน

     

    แล้วแบบนี้ล่ะ...  จุมพิตที่เคยสัมผัสเพียงบางเบากลับลึกซึ้งขึ้นทันควัน  เร็นละเลียดลิ้นบนกลีบปากที่ปิดแน่นเพื่อให้มันเปิดอ้าออก  เพียงเล็กน้อยลิ้นร้อนก็แทรกเข้าไปสู่ภายใน  วาดวนดื่มด่ำความหอมหวานจนเต็มปอด

     

    ดวงตาสีน้ำเงินหยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์ประหลาดที่ไม่เคยได้รับรู้มาก่อน  สมองที่มีสติเริ่มเห็นเพียงแต่ภาพสีขาวและความว่างเปล่า  สิ่งที่รับรู้ตอนนี้มีเพียงริมฝีปากและมืออุ่น ๆ ที่เลื่อนไปเรื่อยบนร่างตนเท่านั้น

     

    อะ...  ไคโตะเปล่งเสียงเบา ๆ เมื่อโดนสัมผัส

     

    เร็นเลื่อนตัวขึ้นมองใบหน้าหวานที่ออกสีแดงจัด  ลมหายใจร้อนรรดใบหน้าที่เคลื่อนเข้าใกล้  ผมรักพี่นะ...

     

    ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากไปกว่านี้เสียงบานประตูก็เปิดออกกระแทกกับผนังห้องอย่างดัง  ให้มาปลุกแล้วทำไมถึงหายกันไปทั้งคู่ยะ!!!”  เมโกะตะโกน  มือข้างหนึ่งยังคงถือทัพพีแน่น

     

    แต่ดูเหมือนสายตาของเธอและเด็กสาวทั้งสองจะไปหยุดลงตรงภาพคู่ที่กำลังจะเป็นข้าวใหม่ปลามันตรงหน้าเสียมากกว่า อุ้ย!”

     

    รินเดินตรงไปจับบานประตู  ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะจ๊ะ  เชิญต่อตามสบาย  เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงรื่นเริงก่อนจะปิดประตูลงอีกครั้ง

     

    ไคโตะที่โดนเรียกสติกลับมาด้วยเสียงประตูก็ลุกพรวดขึ้น  ดะ....เดี๋ยว....!!”

     

    พอทำท่าจะลุกขึ้นเดินก็ถูกอีกฝ่ายรั้งไว้  ไปไหนล่ะพี่  พวกนั้นก็บอกแล้วว่าตามสบาย  เร็นจูบเบา ๆ ที่ซอกคอขาว

     

    ตามสบายอะไรเล่า!!! หยุดนะเร็น!!!!”  ร่างเล็กกว่าดิ้นไปมา

     

    พี่รังเกียจผมหรอ?  ใบหน้าคมสลดลงทันตา

     

    เห็นแบบนั้นก็ทำเอาปฏิเสธไม่ออก  ให้ตายเถอะ....เข้าใจเลยว่าทำไมพวกสาว ๆ ถึงได้หลงกันนัก!!  ปะ...เปล่า  ไม่ใช่...

     

    งั้นก็ต่อนะ  คนพูดยิ้มราวกับเด็กน้อยที่ได้ของเล่นถูกใจ

     

    ไม่เอา!!!หยุดนะ!! เร็นนนนนนนน!!!!!!!!”

     

    สามสาวนั่งทานอาหารเช้ากันอย่างครึกครื้น  ใครจะไปคิดละว่าเสียงร้องตะโกนนั่นจะกลายเป็นเสียงแสนน่าฟังของเหล่าผู้ที่ได้ยิน  ว่าแล้วเชียวว่าเร็นต้องรุก...ตอนแรกไม่คิดว่าจะสูงได้พรวดพราดขนาดนี้

     

    นั่นสิคะ....แต่ก็ดีนะ  รินน่ะชอบให้พี่ไครับมากกว่า

     

    เมโกะคีบอาหารใส่ปาก  หมอนั่นน่ะชาตินี้ก็รุกใครไม่ได้หรอก

     

    สองสาวมองหน้า  นั่นสินะ!!”  ก่อนจะพูดเห็นด้วยกับพี่สาวใหญ่ของบ้านพร้อมกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จบดีกว่า.

     

     

     

    สารานุกรมฉบับอินุ๊ก

     

    - เร็นในฟิคนี้เป็นเร็นตอนอายุ 17 ปีค่ะ  ซึ่งคุณท่านสูงปรี๊ด ๆ พอกันกับเสาไฟฟ้า ประมาณ 182 185 ได้  แถมยังเพลย์บอยสุด ๆ นิสัยก็พวกชอบตีหน้าตาย  ขี้แกล้ง  ขี้หึงและขี้หวงสุด ๆ พวกเมะเอาแต่ใจดี ๆ นั่นเองแหละ เหอ ๆ

    - ไคโตะในเรื่องอายุราว ๆ 22 ปีค่ะ ความสูงไม่เพิ่มขึ้นเลยจากปกติ - - นุ๊กตีให้อายุไคโตะมากกว่าเร็น 5 ปี  ซึ่งตอนที่ไคโตะกลายเป็นเด็กก็เป็นเด็กอายุเพียง 8 10 ขวบเท่านั้นเอง

    - มีภาคต่อ....?

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×