คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : I’ll protect you (1827)
คิดถึง....
เพ้อพร่ำคร่ำครวญหา....
เวลา....
สิ่งที่ต้องการจากไปไกลแสนไกล.....
เจ้าของดวงตาสีดำยืนนิ่งจ้องมองร่างไร้วิญญาณที่นอนทอดกายอยู่ในโลงศพอย่างสมเกียรติ รอบ ๆ ประดับด้วยดอกไม้นานาชนิดประหนึ่งว่าพื้นที่นั้นเป็นสวนดอกไม้บนสวรรค์ซึ่งยากที่มวลมนุษย์ธรรมดาจะเข้าถึง ใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ แต้มด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แม้ยามจากลาโลกนี้ไป
เสียงคร่ำครวญอาลัยอาวรณ์จากบรรดาเพื่อนผู้เป็นที่รักดังก้อง มือขวาแสนจงรักภักดีนั่งกุมมือเย็นยะเยียบของนายตนไม่ห่าง น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินยิ่งกว่าหยาดน้ำฝนที่พังทลายลงมาจากฟากฟ้า
เสียใจกับความผิดพลาดครั้งใหญ่
ซึ่งพรากคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ
ร่างสูงในชุดสูทสีเข้มนิ่งมองอยู่พัก ก่อนจะหันหลังให้กับภาพบรรยากาศตรงหน้า ผู้ร่วมงานที่อยู่รอบนอกได้แต่มองตาม ไม่เอ่ยห้าม ไม่ต่อว่าต่อขานใด ๆ ด้วยรู้.....รู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในใจไม่ต่างกัน
เพราะเป็นท้องฟ้าเพียงหนึ่งเดียว...
ขายาวสองข้างหยุดยืนหน้าประตูไม้บานใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์ ใบหน้าคมเงยมองขึ้นไปจนสุดปลายบานประตู แล้วก้มลงด้านล่าง สำรวจทุกกระเบียดนิ้ว ก่อนจะยกมือตนสัมผัสมันแล้วออกแรงดันเบา ๆ
สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าแก่สายตาเขาคือโต๊ะทำงานของบอสใหญ่วองโกเล่ ซึ่งปกติแล้วจะต้องมีกองเอกสารสูงท่วมหัว รายงานนับสิบนับร้อยฉบับที่ต้องอ่านต้องลงนามรับรู้ และเบื้องหลังความวุ่นวายเหล่านั้น จะมีร่างเล็ก ๆ ที่ทำหน้าบู้บี้อย่างปวดหัวนั่งอยู่
ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่มองจ้องมาด้วยรอยยิ้มแย้มอันสดใสไม่ว่าเมื่อไหร่ เสียงหวานกังวานไพเราะเอ่ยต้อนรับไม่ว่าจะในเวลาใด ภาพแห่งความทรงจำซึ่งไม่เคยลบเลือนไป
เขาวางมือลงบนโต๊ะที่ไร้ความยุ่งเหยิงใด ๆ “ นาย..... ”
.
.
.
.
.
.
.
เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นลั่นภายในห้องเรียนขนาดพอเหมาะ เด็กหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาลกำลังนั่งกุมขมับปวดหัวให้กับความโกลาหล เด็กเล็ก ๆ สองคนกำลังวิ่งไล่กันโดยรอบ ข้าวของพังทลายกระจัดกระจายไปทั่ว ให้ตายเถอะ.....ป่วนที่บ้านไม่พอยังต้องตามมาป่วนที่โรงเรียนอีกหรือไงเนี่ย!!
เรื่องมันมีอยู่ว่าเย็นวันนี้เขาสัญญาไว้กับเพื่อนทั้งสองว่าจะอยู่รอฉลองชัยชนะของยามาโมโตะพร้อมกัน แต่ดันพลาดไปทำให้แรมโบ้ได้ยินเข้า พอตกกลางวันเจ้าตัวก็โผล่มาอย่างรวดเร็ว ขนาดโกคุเทระที่เกลียดนักหนายังเอาไม่อยู่ ซ้ำร้ายมีอี้ผิงมาผสมโรงด้วย
“ ซวย....ซวยหนักเลย.... ”
สึนะลุกพรวดขึ้นยืนอย่างเหลืออด “ หยุดเดี๋ยวนี้นะแรมโบ้!!! ”
ถ้าเป็นคนอื่นเสียงตะโกนนั่นอาจได้ผล แต่ถ้าเป็นเขาบอสที่ห่วยที่สุดในรอบล้านปีคงไม่มีใครกลัวหรอก เด็กหนุ่มถอนหายใจแล้วก็นั่งลงกุมขมับต่อ นี่โชคดีนะที่เลิกเรียนแล้ว....
“ นี่ถ้าโกคุเทระอยู่ด้วยคงดีกว่านี้แหง ” เขานึกถึงเจ้าของผมสีเงินที่บัดนี้ถูกอาจารย์เรียกไปพบยังไม่กลับเสียที ส่วนยามาโมโตะก็ไปที่ชมรม
สึนะปลงตก ปล่อยให้ความวุ่นวายและเสียงที่เอะอะนั่นดังต่อไป ตอนนี้ก็ได้แต่รอให้สองคนนั่นรีบ ๆ มาเท่านั้นแหละ จะได้ไปให้พ้น ๆ จากตรงนี้สักที
เสียงบานประตูเลื่อนเปิดออกเรียกความสนใจให้คนที่นั่งอยู่หันมอง และทันทีที่รับรู้ว่าเป็นใคร เขาก็ต้องรีบถอยรูดหนีไปแอบยังมุมห้องโดยอัตโนมัติ ใครจะไปคิดล่ะว่าพี่ท่านจะมานึกครึ้มเดินตรวจตราเอาแถวนี้ได้
“ เสียงดังไปถึงข้างนอก ฉันจำได้ว่าไม่เคยมีกฎให้ใครทำเสียงดัง แม้เวลาเลิกเรียนก็ตาม ” ฮิบาริ เคียวยะโผล่มาด้วยสายตาที่พร้อมจะกินเลือดกินเนื้อ ทอนฟาคู่ใจแนบกายเป็นมั่น
เจ้าตัวก่อเรื่องทั้งสองพอเห็นก็เบิกตาค้าง ยิ่งแรมโบ้ด้วยแล้วตัวสั่นไปถึงไหนต่อไหน “ คะ....คุณ...แรมโบ้...ไม่กลัวหรอก!! ”
ไม่กลัวแต่ตัวนี่สั่นอย่างกับเจ้าเข้า สึนะมองหาทางหนีทีไล่บ้าง “ ตายแน่.... ”
ในขณะที่กำลังมองซ้ายมองขวาอยู่นั่นเอง เขาก็ต้องตกใจสุด ๆ เมื่อจู่ ๆ ไอ้วัวบ้าชอบหาเรื่องก็ดันควักเอาอาวุธประจำตัวของตนเองมาจ่อเข้าที่หัว เอาอีกแล้ว....ไม่อยากจะคาดคิดเลยจริง ๆ
เดาไม่ถูกว่าใจหรือตัวมันพาไป สึนะกระโดดออกจากมุมห้องเข้าคว้าร่างที่กำลังจะยิงตนเองด้วยบาซูก้าทศวรรษไว้ จนปากกระบอกเลื่อนหันเหไปปะทะเข้ากับร่างที่ยืนนิ่งรอจ้องจะเขมือบเหยื่ออยู่
บอกได้คำเดียว....ซวยสุดหูรูด!!
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเงาร่างที่ยังถูกปกคลุมด้วยควันสีขาวไม่กระพริบ พยายามกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงอย่างยากเย็น ส่วนไอ้เจ้าตัวเล็กก็แผ่นแน่บไปตามระเบียบ ชักกังวลเสียแล้วสิว่าเย็นนี้เขาจะได้ไปเลี้ยงฉลองกับพวกยามาโมโตะอย่างสมประกอบไหม
แม้จะไม่เคยเห็นก็เดาได้ไม่ยาก เส้นผมและดวงตาสีดำขลับ ใบหน้าคมเรียบนิ่ง หางตาเชิดสูงอย่างไม่สนใจใคร ฮิบาริ เคียวยะร่างอนาคต.....ก็แหงน่ะสิ!!! ยิงใส่คุณฮิบารินี่นา!!!
พอตั้งสติได้ก็ทำท่าจะออกวิ่งบ้าง แต่กลับถูกมือแกร่งของอีกฝ่ายรั้งไว้ สึนะตัวแทบปลิวเรื่องถูกดึง เขาเซถลากระแทกลงกับแผ่นอกกว้าง กอดจะถูกรัดไว้แน่นด้วยแขนทั้งสอง
“ คะ....คุณฮิบาริ!!!! ”
ริมฝีปากได้รูปจุมพิตลงบนเส้นผมสีน้ำตาล “ คิดถึง.....คิดถึงมาก ”
ร่างเล็กทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ยืนตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น จนเมื่อใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้ในระดับสายตา ใกล้จนดวงตาของเขาเริ่มถูกบีบเข้าหากัน
“ ว้าก!!!!! ” สึนะร้องลั่น รวบรวมแรงที่เหลืออยู่ผลักอีกฝ่าย แล้วออกวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
ฮิบาริที่อยู่ในชุดสูทสีดำลุกขึ้นยืนช้า ๆ ปัดฝุ่นที่เปื้อนกางเกงตนออก พลางหัวเราะเบา ๆ “ พอตั้งใจจะวิ่งหนีแบบนี้ก็วิ่งเร็วเป็นบ้าเลยนะ ”
น่าแปลกที่เขากลับเดินตามหาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้วิ่งหรือกระวนกระวายใจแต่อย่างใด เหมือนกับรู้....รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องไปอยู่ที่ไหน ซ่อนตัวอยู่ในที่แห่งใด
ดวงตาสีดำจ้องมองลงบนพื้นกระเบื้องหน้าห้องที่ตนคุ้นเคย หยดน้ำตาของใครบางคนหลั่งรินเป็นทางบอกใบ้ไว้ให้ เขาเปิดเข้าไปภายใน มองไปยังประตูล็อคเกอร์ที่แง้มอยู่
“ อยู่นี่จริงด้วยสินะ.... ” เขาเปิดประตูเหล็กนั่น ก้มลงมองร่างที่นั่งกอดเข่าคู้
ใบหน้าหวานนองไปด้วยน้ำตาเงยมองสบกับอีกฝ่าย ก่อนจะถลาตัวเขากอดร่างนั้นไว้แน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด ฮิบาริถอนหายใจแล้วกอดปลอบประโลม ไม่เอ่ยอะไรออกมา
พักใหญ่กว่าร่างที่นั่งทับเขาอยู่จะยอมพูดขึ้น “ มันน่ากลัวมากเลยใช่ไหมครับ....อนาคตน่ะ.... ”
“ หืม? ”
สึนะยกมือขึ้นปาดน้ำตา พยายามข่มกลั้นเสียงสะอื้น “ ก็คุณฮิบาริบอกคิดถึงมาก....สะ....แสดงว่าอนาคตน่ะ...ผม... ”
“ ผมต... ”
คนถูกถามยกมือขึ้นทาบปิดปากที่กำลังจะเอ่ยคำบางคำออกมา ศีรษะที่เต็มไปด้วยเส้นผมสีดำสั่นไหวไปมาเบา ๆ คล้ายกับว่าไม่ต้องการให้พูด และไม่ต้องการจะได้ยินคำ ๆ นั้น
“ มันเป็นเรื่องของอนาคต....เพราะฉะนั้นนายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ”
ฮิบาริกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น กดศีรษะเล็กให้ซบลงบนบ่าของตนเอง “ ขอให้นายจำไว้.... ”
จงจดจำคำพูดของฉันไว้ให้ดี
“ เมื่อเราได้พบกันอีกครั้ง... ”
เมื่อได้พบกันอีกในโลกแห่งอนาคตอันเปลี่ยนแปลงไปและไม่อาจคาดถึง
“ เมื่อนั้น...ฉันจะเป็นคนปกป้องนายเอง ”
สัญญาว่าจะปกป้องนายด้วยชีวิต
มือแกร่งวางบนแก้มเนียน พลางเคลื่อนริมฝีปากเข้าใกล้ “ ฉันสัญญา.... ”
แต่แล้วจู่ ๆ ร่างนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อหน้าเขา กลับกลายเป็นร่างของฮิบาริในวัยหนุ่มเหมือนเดิม ใบหน้าคมดูแปลกตาไปจากเดิม ดวงตาสีดำเบิกกว้างเหมือนกับได้รับรู้เรื่องราวที่สะเทือนจิตใจของตนเอง น้ำตา.....หยาดน้ำตาที่ไม่เคยได้เห็นไหลกลบใบหน้าคนที่เข้มแข็งที่สุด
แล้วดวงตาที่เคยฉายแววกร้าวก็เลื่อนลงมองคนในอ้อมแขนตน “ สึนะโยชิ.... ” เขารั้งร่างเล็กมากอดแน่นจนสุดกำลัง สึนะรู้สึกอึดอัดแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย อนาคตข้างหน้านั่นมีอะไรรออยู่กันแน่...แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
“ ผมเชื่อนะครับ....เชื่อในคำสัญญาของคุณ ” เสียงหวานพึมพำเบา ๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
ฮิบาริกลับมายังโลกอนาคตอีกครั้ง เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติ ในระหว่างนั้นเองที่มือแกร่งได้สัมผัสทับกับหยาดน้ำอะไรสักอย่างที่หลั่งรินอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เขาปาดมันออก พลางก้มลงมองคราบน้ำใสที่เปื้อนบนมือ
น้ำตา......ของใครสักคน
“ หึ.... ” เสียงทุ้มหัวเราะเบา ให้นึกสมเพชตัวเองนัก
พอคิดไปถึงอดีตยิ่งเหมือนกับตอกย้ำตัวเอง ไม่เคยสนใจ เอาแต่มองข้ามความสัมพันธ์เพราะคิดว่ามันไม่มีทางหลุดรอดมือตนไปไหนได้ มั่นใจเสียเหลือเกิน.....มั่นใจเสียเต็มประดาว่าจะต้องคงอยู่ตลอดไป
สุดท้ายก็แค่ความคิดของเด็กเอาแต่ใจคนหนึ่ง
อย่างที่เคยได้ยิน น้อยนักที่มนุษย์จะรู้ค่าของอะไรสักอย่างเมื่อยังอยู่เคียงข้างตน กระทั่งสูญเสียไปแล้วนั่นแหละถึงได้รับรู้ว่าสำคัญแค่ไหน คุณค่าที่แม้แต่ชีวิตของตนก็ไม่อาจเทียมเท่าได้
“ นาย.....โชคดีมากเลยนะ ”
โชคดีที่มารับรู้อนาคตที่น้อยคนนักจะรู้
“ รักษามันไว้ให้ดีล่ะ.... ” ฮิบาริเอ่ยแผ่วพลางเดินออกไปจากห้อง ทิ้งความทรงจำไว้เบื้องหลัง รอรับกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
อนาคตที่ยินดีให้เขาได้แก้ไขความผิดพลาด
“ ฉันสัญญา....จะปกป้องนายตลอดไป ”
END.
ความคิดเห็น