ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Old AuFic Naruto] My Immortal (SasuNaru) [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 52


    />

    Fic Naruto

     

    My Immortal. 

     

    ตอนที่ 3

     

     

     

     

     

     

     

    นารุโตะใช้เวลา 1 วันเต็มๆสำหรับการสำรวจปราสาทหลังใหญ่นั่น  จะว่าไปแล้วมันน่าแปลกมากทีเดียว  ที่นี่เวรยามไม่รัดกุม  แถมยังมีผู้คนประปรายเป็นแห่งๆ  ในตัวปราสาทก็แทบจะไม่มีกลไกอะไรเลยด้วยซ้ำ  มันดูง่าย ง่ายเกินไปจนอดคิดไม่ได้ว่าจะมีอะไรแอบแฝงอยู่

     

    บางครั้งการเป็นนักฆ่าก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด....

     

    กว่าเขาจะกลับมาถึงที่พักก็เป็นเวลาเย็นแล้ว  โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่การสำรวจมันดูราบรื่นเกินไป  ปราสาทหลังใหญ่ขนาดนั้นสามารถตรวจสอบได้ภายใน 1 วัน หากเป็นที่อื่นอยากเร็วสุดก็ต้อง 3 วัน  ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจ

     

    ไม่เข้าใจ.... ”  ผมสีทองส่ายสะบัดไปมาตามแรงไหว  ดวงตาสีฟ้ามีความรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก  เท่าที่เขาเคยเป็นนักฆ่ามา  ไม่เคยมีงานใหญ่ครั้งไหนจะง่ายขนาดนี้มาก่อน

     

    เสื้อผ้าชุดดำถูกเปลี่ยนออกเป็นชุดปรกติ  ร่างบางล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างช้าๆ  ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเสียที  หรือว่ามันจะง่ายจริงๆกันแน่ 

     

    ยังไงก็คงต้องทำคืนพรุ่งนี้  เขาตัดสินใจแน่วแน่การที่จะหลับตาลงนอน 

     

     

     

     

     

    เจ้าของผมสีดำเช่นเดียวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนกำลังนั่งดื่มสุราอยู่ที่ริมระเบียงห้องของตน  ดวงตาสีดำมองไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่  ก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆจะปรากฏขึ้น  มันเป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความตื่นเต้น 

     

    รีบๆมาสิ....ข้ารอเจ้าอยู่  เขากล่าวเรียบๆ  เสียงนั้นเบาราวกับกระซิบ  ใบหน้าคมเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น  การรอคอยความตายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแต่เมื่อใดกันนะ?

     

    ท่านซาสึเกะขอรับร่างสวมชุดดำปรากฏขึ้นด้านหลังชายหนุ่ม

     

    เรียบร้อยดีไหม? ”  ซาสึเกะถาม

     

    ขอรับ...ท่านเนจิฝากมาบอกขอบคุณท่านมาก  ร่างนั้นยังคงนั่งคุกเข่านิ่ง

     

    แล้วเนจิได้รับการติดต่อมาบ้างหรือไม่? ”  ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินกลับเข้ามาภายในห้อง

     

    ขอรับ  อีกฝ่ายตอบรับแต่เพียงสั้นๆ

     

    ซาสึเกะพยักหน้ารับ  ชายชุดดำค่อยๆหายเข้าไปในเงามืด  เขาบิดตัวสองสามทีก่อนจะล้มตัวลงนอนบนฝูกผืนใหญ่  ราตรีนี้คงสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ 

     

    ซาสึเกะลืมตาตื่นขึ้นเพราะรับรู้ถึงการมาของคนสนิทของตน  เขายันตัวลุกขึ้นก่อนจะมองออกไปภายนอก  ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว  ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นนี่ก็เป็นอีกอย่างที่น่ามอง  แต่สำหรับชายหนุ่มผู้นี้แล้ว  สิ่งสวยงามรอบข้างล้วนแล้วแต่เหมือนๆกันทั้งสิ้น 

     

    มีสาล์นส่งมาขอรับ  ร่างนั้นน้อมส่งม้วนกระดาษม้วนหนึ่ง  มือของอีกฝ่ายเอื้อมไปหยิบก่อนจะค่อยๆเปิดอ่าน

     

    รอยยิ้มผุดขึ้นอีกครั้งขณะที่อ่านข้อความในสาล์น  มันดูมีสเสน่ห์แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง  จู่ๆก็เกิดไฟลุกขึ้นมอดไหม้กระดาษแผ่นนั้นจนหายลับไปไม่เหลือแม้กระทั่งเศษขี้เถ้า 

     

    คืนนี้.... ”  เขากล่าวพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ยังคงไม่เลือนหายไป  ร่างชุดดำพยักหน้ารับอย่างรู้เรื่องราว 

     

     

     

     

     

    นารุโตะเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับคืนนี้  แต่ก็ยังเหลืออีกมากนักกว่าจะถึงเวลา  ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบมองไปยังด้านนอก  ถนนสองข้างทางในยามเช้าเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากมาย  ผู้คนที่ต่างมาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อของไปทำอาหาร  เป็นภาพที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้ว

     

    ลงไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อยน่าจะดี  เขากล่าวก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง  อย่างน้อยก็น่าจะเดินเที่ยวสักหน่อย เพราะหากทำภารกิจเสร็จก็ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่เขาจะได้มาอีก

     

    นารุโตะชอบบรรยากาศบริเวณนี้  มันเงียบสงบและดูเป็นกันเองมาก  ชาวบ้านธรรมดาๆเดินเลือกซื้อชอง  รอยยิ้มอย่างเป็นมิตรปรากฏให้เห็น  เขามองไปมาอย่างเพลิดเพลิน  ชีวิตนักฆ่าคงจะไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้บ่อยนัก

     

    อย่างไรซะ เขาก็ยังคงกลายเป็นจุดเด่นอยู่ดี  สายตาคนรอบข้างที่มองมามีทั้งชื่นชมและสงสัย  ความงามที่เกินกว่าจะบรรยาย  ผมสีทองถูกมัดหลวมๆ  ดวงตาสีฟ้าใส รอยยิ้มบางๆที่ปรากฏ  ทำเอาสาวๆหนุ่มๆแถวนั้นมองตามเป็นตาเดียว

     

    นี่ขายยังไงขอรับ? ”  นารุโตะสะดุดเข้ากับของสิ่งหนึ่ง  มันเป็นก้อนหินเล็กๆสีฟ้าขุ่น  ดูแล้วไม่มีราคาอะไร  แต่มีอะไรบางอย่างทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะต้องดู

     

    ไม่แพงหรอกจ๊ะ ถ้าพ่อหนุ่มต้องการ ป้าจะขายให้ถูกๆ  ก็ถูกจริงๆ นารุโตะไม่ลังเลที่จะซื้อเมื่อฟังราคาของสิ่งนั้น  เขารู้สึกถูกชะตากับมันอย่างประหลาด

     

    พ่อหนุ่มจ๊ะ....ทำไมเราถึงมาเดินแถวนี้ล่ะ  อย่างพ่อหนุ่มไม่เหมาะเลยกับที่แบบนี้  ป้าคนขายของกล่าว  และก็เป็นคำถามที่คนรอบข้างอยากจะถามเช่นเดียวกัน

     

    ข้าชอบที่นี่  นารุโตะกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน  ก่อนจะเดินจากไป  ทำเอาใครหลายๆคนที่พากันเฝ้ามองหลงเสน่ห์เขาไปตามๆกัน

     

    นารุโตะยังคงเดินดูของไปเรื่อยๆ  แต่แล้วก็รู้สึกถึงการมาของคนกลุ่มหนึ่ง  เสียงตะโกนและพูดคุยดังขึ้น  ถนนตรงกลางที่เต็มไปด้วยผู้คน บัดนี้มันถูกเปิดออก  นารุโตะเองก็หลบไปตามกระแสผู้คนเช่นเดียวกัน

     

    ท่านอุจิวะล่ะ..... ”

     

    ทำไมท่านถึงมาแถวนี้? ”

     

    เป็นบุญของพวกเราจริงๆ  เสียงกล่าวของผู้คนดังขึ้นมากมาย  นารุโตะมองไปยังกลุ่มคนดังกล่าว

     

    ชาย 5 คนนั่งอยู่บนหลังม้า ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านคนสองข้างทาง  ดวงตาสีฟ้าของเขาไปสะดุดอยู่กับบุคคลที่อยู่บนหลังม้าสีดำตัวใหญ่  ผมสีดำสนิท ตาสีดำราวกับรัตติกาลที่ไม่ว่ามองเมื่อใดก็ราวกับจะถูกดึงดุดลงไป  นั่นหรือ...คนที่ชื่อ  อุจิวะ ซาสึเกะ  เขายอมรับอย่างจำนนเลยว่า  เป็นชายที่หน้าตาดีและสง่างามมากจริงๆ

     

    ช่วงที่นารุโตะจ้องมองอีกฝ่ายนั้น  เป็นจังหวะเดียวกับที่ซาสึกเมองมาที่เขาพอดี  ถึงแม้จะอยู่ในฝูงคนมากมายเพียงใด  ความงามของนารุโตะก็ยังคงเด่นเป็นสง่าอยู่  ร่างสูงบนหลังม้าเบิกดวงตากว้างขึ้น  แสดงให้เป็นถึงความตกใจ 

     

    งดงาม....แต่กลับดูเด็ดเดี่ยว  ดวงตาสีฟ้าช่างมั่นคงไม่ไหวติง

     

    เป็นสิ่งแรกที่ซาสึเกะคิดเมื่อสบตากับนารุโตะ  ขบวนม้าค่อยๆเคลื่อนผ่านไป  แต่ผู้นำยังคงเหลียวหลังกลับมามอง ณ จุดๆเดิม  ก่อนที่จะหันหน้ากลับมา  นารุโตะเองก็เช่นกัน  มองตามร่างสง่าบนหลังม้าไปจนสุดตา  ราวกับมีอะไรมาดึงดูดพวกเขาทั้งคู่ไว้

     

    มีอะไรรึเปล่าขอรับ? ”  ร่างชายหนุ่มบนหลังม้าอีกคนที่อยู่ข้างๆเขาถามขึ้น

     

    ไม่...ไม่มีอะไร  ซาสึเกะตอบ  ดวงตาสีดำปิดลงพลางนิ่งคิด 

     

     

     

     

     

     

     

     

    ใกล้มืดเต็มทีแล้ว  นารุโตะยังคงไม่อาจลืมสายตาคู่นั้นได้  แต่อย่างไรซะ  งานก็คืองาน  คืนนี้เขาต้องสังหารคนๆนั้น โดยไม่ลังเลใดๆ  เขาลูบหินสีฟ้าขุ่นที่ซื้อมาเมื่อเช้าไปมา  มันทำให้ความคิดของเขาสงบลงได้  สมาธิคือสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับนักฆ่า

     

    ได้เวลาแล้วสินะ  นารุโตะมองออกไปยังด้านนอก  ตะวันลาลับขอบฟ้าแล้ว  รัตติกาลมาเยือนอีกครั้ง  ราวกับเป็นสัญญาณบอกเวลา  ร่างบางสวมชุดสีดำสนิท  ผมสีทองถูกรวบไว้แน่น  ก่อนจะถูกโพกด้วยผ้าสีดำ  ตามมาด้วยผ้าปิดปากสีเดียวกัน

     

    อวยพรให้ข้าด้วย ท่านพ่อท่านแม่... ”  มือเรียวกุมสร้อยที่แขวนอยู่ก่อนจะหลับตาลงอธิษฐาน  เพียงชั่วครู่ดวงตาสีฟ้าก็เปิดขึ้นอีกครั้ง  เท้าสองข้างค่อยๆก้าวไปอย่างเงียบเชียบและมีจังหวะ

     

    นารุโตะเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและคล่องแคล่วผ่านตามที่ต่างๆ  การเคลื่อนไหวของเขาเงียบราวกับสายลมอ่อนๆ  และแล้วก็มาหยุดอยู่ตรงหลังต้นไม้ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทของอีกฝ่ายไปไม่เท่าไหร่

     

    ดวงตาสีฟ้าเงยหน้ามองไปยังจุดหมาย  ก่อนจะกระโดดขึ้นบนต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว  เส้นทางๆเดียวกับที่เขาใช้ในการเข้าไปสำรวจ  และก็เช่นเดิม  เวรยามยังคงมีน้อย  น้อยเกินกว่าที่จะนึกออกว่าเป็นที่อยู่อาศัยของคนสำคัญไปได้อย่างไร

     

    ไฟถูกดับลงแล้ว  นารุโตะค่อยๆเงี่ยหูฟัง  เพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายของเขาจะหลับอยู่จริงๆ  การฟังเสียงลมหายใจก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเรียนรู้ในการลอบสังหาร  แปลก....น่าแปลกอีกแล้ว  ไม่มีเวรยามแถวๆนี้เลยสักคน 

     

    ประตูถูกเลื่อนออกอย่างช้าๆ นิ่งและเงียบมากที่สุด  ดวงตาสีฟ้าจ้องมองไปยังคนที่นอนอยู่บนฝูกผืนใหญ่  การมองสิ่งต่างๆในยามกลางคืนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับนารุโตะเลยสักนิด 

     

    นารุโตะค่อยๆก้าวเดินไปอย่างไม่ประมาท  คำพูดของโอคาเงะยังคงดังอยู่ในหัวของเขาเสมอ  แล้วจากที่เขาเห็นเมื่อเช้า  คนๆนี้ต้องมีฝีมือไม่ธรรมดาแน่ๆ  แต่ถึงอย่างไร  คำสั่งก็คือคำสั่ง  ไม่ว่าจะอยากรู้หรือว่ากลัวสักมากเพียงไร  ฆ่าก็คือต้องฆ่า  อย่างเดียวเท่านั้น

     

    ประมาทเกินหรือว่าปรกติกันแน่  เขาคิด  อย่างไรซะเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเขาจึงต้องดูให้แน่ใจว่าใช่คนๆนั้นจริงหรือไม่  และต้องแน่ใจว่านี่ไม่ใช่การปลอมตัว

     

    แสงจันทร์ยามราตรีเป็นประโยชน์มากทีเดียวสำหรับการมองให้เห็นชัดเจนขึ้น  ฝีเท้าของร่างบางๆค่อยก้าวไปยังเป้าหมาย  ใกล้ขึ้นๆ  จนห่างเพียงแค่เอื้อมเท่านั้น

     

    ข้าขออภัย  มีดสั้นเล่มเล็กถูกนำออกมา  มันไม่มีฝัก  อาจจะเพื่อป้องกันเสียงที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะที่ชักมีดออกมาก็เป็นได้

     

    มีดถูกง้างขึ้นและเล็งไปยังเป้าหมายทันที  จุดตายบริเวณลำคอถูกล๊อคเป้าไว้  ก่อนที่มีดนั้นจะถูกเลื่อนลงมายังอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว  แต่เพียงชั่วอึดใจเท่านั้น  เพียงชั่วอึดใจที่มีดกำลังจะปักลงไป  จู่ๆมือใหญ่ๆของใครคนหนึ่งก็คว้าเข้าที่ข้อมือของร่างบาง  นารุโตะพยายามจะกระโดดหลบ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสายไป

     

    เป็นนักฆ่าที่น่าสนใจจริงๆ  หากไม่ใช่ข้าคงตายไปแล้ว  เสียงทุ้มกล่าวขึ้น  ร่างของนารุโตะตอนนี้ถูกอีกฝ่ายขึ้นคร่อมอยู่  มือสองข้างถูกล๊อคไว้  รวมทั้งขาทั้งสองข้างของเขาด้วย  คนนี้ๆร้ายจริงๆ  ทั้งที่ระวังตัวไว้แล้วแท้ๆ

     

    ซาสึเกะจ้องไปยังร่างข้างใต้  ดวงตาสีฟ้าอีกแล้ว  มันให้ความรู้สึกเดียวกับที่เขาเห็นเมื่อเช้าไม่มีผิด  รอยยิ้มน้อยๆปรากฎขึ้น  นารุโตะรับรู้ได้  ว่าคนๆนี้กำลังสนุกกับการกระทำแบบนี้

     

    ไหน....ขอดูหน่อยสิว่าคนมีฝีมือขนาดนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร  ไม่พูดเปล่า เขาใช้มือเพียงข้างเดียวรวบข้อมือของนารุโตะไว้  ก่อนจะใช้มืออีกข้างเลื่อนมายังผ้าปิดหน้าของคนข้างใต้

     

    แย่แล้ว....แย่แน่ๆสำหรับนารุโตะ  นักฆ่าถ้าถูกมองเห็นใบหน้าก็เท่ากับจบ  ความตายเท่านั้นเป้นสิ่งที่รออยู่สำหรับผู้ที่ทำงานผิดพลาด  เขาพยายามดิ้นไปมา  แต่สำหรับนักฆ่าแล้วหัวใจคือความว่องไวไม่ใช่พละกำลัง! ฉะนั้นจะให้สู้กำลังอีกฝ่ายได้นั้นคงไม่มีทางแน่ๆ

     

    ผ้าปิดหน้าค่อยๆถูกดึงออก  ดวงตาสีฟ้าของนารุโตะหลับตาแน่น  ตั้งแต่เขาทำงานไม่เคยมีครั้งไหนที่ผิดพลาดขนาดครั้งนี้  จบแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่าง จบลงแล้ว 

     

    ท่านพ่อ ท่านแม่ ฟุยุกิ โซไคกิ โปรดอภัยให้ข้าด้วย  นารุโตะนึก  เขาคงไม่มีโอกาสได้อยู่แก้ค้นแล้ว อย่างไรซะกฎก็คือกฎ  ผู้ทำงานผิดพลาดที่โทษเพียงแค่ตายเท่านั้น!!

     

    ดวงตาของนารุโตะปิดสนิท  ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหลืออะไรอีกแล้ว  คำภาวนาที่ผ่านมาล้วนแต่ไร้ผลทั้งสิ้น  ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่กำลังรอการพิพากษา  ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิตของการเป็นนักฆ่า

     

      เป็นเจ้าจริงๆ    เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเบาๆ  นารุโตะรู้สึกแปลกใจไม่น้อยกับคำกล่าวนี้

     

    ดวงตาสีฟ้าใสค่อยๆลืมขึ้น  สบเอากับดวงตาคู่สีดำเบื้องบนอย่างเลี่ยงไม่ได้  ผู้อยู่ด้านบนดูจะไม่ยอมละสายตาจากเขาสักนิด  เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่เขารู้สึกเขินอายจนต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเมื่อถูกจ้อง

     

      หึ....    ซาสึเกะขยับตัวออก  ร่างบางรู้สึกแปลกใจอีกครั้งกับการกระทำของอีกฝ่าย

     

      ไม่กลัวข้าจะฆ่าท่านหรือไง?    ใบหน้างามจ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง  ดวงตาสีฟ้ามีแววขุ่นเคือง

     

      เจ้าไม่ทำหรอก...ข้ามั่นใจ    นารุโตะแทบกัดลิ้นตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดบ้าๆนั่น 

     

    ดวงตาสีฟ้าจ้องมองไปที่ใบหน้าคมเข้มซึ่งตอนนี้กำลังทำท่าทีสบายใจทั้งๆที่ศัตรูอยู่ตรงเบื้องหน้า  ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าอะไรทำให้คนๆนี้มั่นใจได้ถึงขนาดนี้  แต่ถึงกระนั้น...เขาก็ไม่ควรจะนั่งมองไอ้บ้าอยู่เฉยๆหรอก

     

    นารุโตะเหลือบมองไปทางหน้าต่าง  จุดเดียวกับที่ตนลอบเข้ามา  แน่นอนว่าด้วยความว่องไวของเขาจะหนีออกจากที่นี่คงไม่ใช่เรื่องยาก  คิดได้ดังนั้นนารุโตะก็ไม่รอช้า  เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและกระโดดจะออกจากทางหน้าต่างนั่นทันที  แต่ทว่า....ไม่ง่ายอย่างที่คิด

     

      จะไปไหน??    ราวกับอ่านความคิดของอีกฝ่ายได้  ซาสึเกะคว้าเอวของอีกฝ่ายไว้ทัน  และนั่นทำให้ซาสึเกะรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น

     

      เจ้าตัวบางกว่าที่ข้าคิดไว้อีกนะเนี่ย....    อีกฝ่ายไม่พูดเปล่า  พลางขยับแขนของตนให้กระชับอีกฝ่ายมากขึ้น  นารุโตะหน้าแดงระเรื่อทันตา  พลางดิ้นไปดิ้นมาในอ้อมแขนนั่น

     

      ปล่อยโว้ย!!!    เขาตะโกนออกมาอย่างไม่สนใจอะไร  ทำเอาเจ้าของเรือนผมสีดำหัวเราะร่วน

     

    ไม่เพียงไม่ปล่อย  ซาสึเกะจับตัวอีกฝ่ายกดลงกับฟูกนุ่ม  ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย  นารุโตะหลบสายตาที่มองตรงมา  ริมฝีปากงามนั่นยังคงสบถด่าอีกฝ่ายไม่ยอมเลิก  ทำเอาคนถูกด่าอยากจะผิดผากงามๆนั่นเสียจริง

     

      เจ้าไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น...ในเมื่อเจ้าแพ้ข้า  เจ้าก็ต้องเป็นของข้า...    ซาสึเกะกระซิบข้างหูนารุโตะเบาๆ  ทำเอาหน้าขาวออกสี  ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างอย่างตกใจ

     

      ให้ตายยังดีเสียกว่า!!    นารุโตะตะโกนใส่  อีกฝ่ายมองกลับ  แววตาเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม

     

      ทำไมถึงอยากตายนัก...    เสียงเย็นกล่าวเรียบๆ  มือที่จับข้อมือของนารุโตะไว้เริ่มกำแน่นขึ้นจนรู้สึกได้  บรรยากาศเมื่อครู่หายไปหลงเหลือไว้แต่ความตรึงเครียด

     

      ซี้ด.......    ร่างบางกัดฟันแน่น  ความเจ็บปวดจากการบีบข้อมือเริ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ 

     

    ซาสึเกะเมื่อได้ยินเสียงครางเบาๆนั่นก็ทำให้สติของเขาคืนมา  เขาปล่อยมือจากนารุโตะ  ก่อนจะหันหลังให้พลางควบคุมอารมณ์ของตนที่พุ่งพล่านเมื่อครู่ให้เข้าที่อย่างเดิม  ดวงตาสีฟ้าจ้องยังแผ่นหลังของอีกฝ่าย

     

      ชิกามารุ.....    ซาสึเกะกล่าวเบาๆ  เพียงชั่ววินาทีก็ปรากฎร่างของชายลึกลับในชุดดำ

     

      ขอรับ....    ราวกับรู้  อีกฝ่ายส่งม้วนกระดาษให้ซาสึเกะ

     

    ร่างสูงพยักหน้าให้ชายชุดดำอีกฝ่ายโค้งรับก่อนจะหายตัวไป  นารุโตะรู้ว่านั่นคงเป็นคนสนิทของอีกฝ่าย  เขามองจากกริยาท่าทางบวกกับการทำความเคารพของบุคคลลึกลับนั่น

     

      อ่านซะ...    ซาสึเกะส่งม้วนกระดาษที่ตนเอามาจากชิกามารุให้กับนารุโตะ  ร่างบางรับมันมาอย่างสงสัย

     

    มือเรียวค่อยๆคลี่ม้วนกระดาษออก  ดวงตาสีฟ้าใสจับจ้องไปที่ตัวอักษรบนแผ่นกระดาษนั่น  ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัด ทุกกระเบียดนิ้ว  เอาอ่านรายระเอียดของมันอย่างชัดเจนที่สุด

     

      แบบนี้เอง....    เขากำกระดาษแน่นก่อนจะเผาทิ้ง  ซาสึเกะจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังก้มหน้านิ่ง

     

    ไม่มีเสียงพูดคุย  ไม่มีคำถาม ไม่มีการตอบรับ  นารุโตะยังคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น  ดวงตาสีดำทมิฬจ้องมองอีกฝ่ายอยู่นาน  จนในที่สุดก็หมดความอดทน  เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้น  เรือนผมสีดำสะบัดไปมาอย่างช้าๆ

     

      ถ้าเข้าใจแล้วก็ดี....จะได้ไม่ต้องมากความนัก    ร่างสูงกอดอกแน่น

     

      เห็นข้าเป็นตัวตลกงั้นสิ    นารุโตะกล่าวเบาๆ  ซาสึเกะเบิกตากว้าง

     

      ไม่ใช่เพราะท่านผู้นั้น  แต่เป็นเพราะข้า  หากแค้นนักไว้เสร็จงานค่อยฆ่าข้าก็ยังไม่สาย    รอยยิ้มบางถูกแต้มบนใบหน้าคม  นารุโตะเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างสุดทน

     

      ข้าทำแน่!!รับรอง!!    นารุโตะกระชากเสื้ออีกฝ่าย  ดวงตาสีฟ้าจ้องมองไปยังดวงตาสีดำอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวใดๆ  ซาสึเกะหับเราะออกมาให้กับท่าทีนั้น

     

    นารุโตะปล่อยเสื้อของอีกฝ่ายก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังประตูห้อง  ซาสึเกะมองตาม  แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่สนใจเขาเท่าไหร่  จนในที่สุดก็ต้องพูดออกมาเองจนได้....

      นั่นจะไปไหนอีกละ??    ซาสึเกะถาม  นารุโตะหยุดยืนนิ่ง

     

      กลับ...แล้วพรุ่งนี้จะมารับงาน  ไม่ต้องกลัวว่าจะหนี...    ร่างบางพูดโดยไม่หันมองอีกฝ่ายสักนิด

     

      กลับ??กลับไปไหน??....    ซาสึเกะนั่งกอดอกอยู่ถามอย่างกวนอารมณ์

     

      กลับที่พักสิโว้ย!!    ดวงตาสีฟ้าหันขวับ

     

    ซาสึเกะหัวเราะออกมาอีกครั้ง  น่าสนใจ....น่าสนใจมากๆ  คนๆนี้ช่างทำให้เขารู้สึกสนุกและไม่มีเบื่อหน่ายเลยจริงๆ  ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว  ราวกับมีอะไรบางอย่างดึงดูดเขาให้ต้องเข้าใกล้คนๆนี้  และก็โชคดีที่นารุโตะก็คือคนๆนั้น

     

      ต่อไปนี้ที่นี่คือที่พักของเจ้า    ซาสึเกะเอ่ย

     

      ไม่จำเป็น...ข้าไม่อยากติดหนี้ใคร    อีกฝ่ายกล่าวอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้

     

       นี่เป็นคำสั่ง    ซาสึเกะกล่าวพลางยิ้ม  นารุโตะแทบจะกัดลิ้นตัวเอง 

     

    นารุโตะกำลังสะกดอารมณ์ตนเองอย่างที่สุด  เขาคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นพวกชอบขัดคำสั่งเสียบ้าง  แต่ตั้งแต่ทำงานมาไม่มีสักครั้งที่เขาจะขัดคำสั่งหรือทำนอกเหนือคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย  ตอนนี้รู้สึกโมโหตนเองอย่างบอกไม่ถูก

     

      แล้วจะให้ข้านอนที่ไหน.....    นารุโตะถามเสียงเย็น

     

      นี่ไง....    ร่างสูงทำหน้าเหรอ พลางชี้ไปยังที่ข้างๆฟูกนอนของเขา  นารุโตะทำท่าทางไม่เข้าใจ

     

      ก็นี่แหละ...เจ้ามานอนกับข้า  เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยข้าทันยังไงละ    ซาสึเกะยิ้ม  นารุโตะอ้าปากค้างกับความคิดพิเรนนั่น

     

      อย่างท่านจะมีใครทำอะไรได้..อยากจะรู้นัก!!    นารุโตะเดินไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายอย่างลืมตัว 

     

    ซาสึเกะได้ทีดังนั้นก็เลยจับนารุโตะนอนลงบนฟูกของตัวเองพลางเอาแขนกอดไว้แน่น  นารุโตะดิ้นไปดิ้นมา  ใบหน้าขาวแดงระเรื่ออีกครั้งด้วยความอาย  และเป้นอีกครั้งที่เขาพลาดให้กับชายคนนี้  เขาแทบอยากจะกัดลิ้นตายไปซะ!!

     

      เอาน่า...ค่อยคุยพรุ่งนี้ วันนี้ข้าง่วงแล้ว นอนเถอะ....    พูดปุ๊ปหลับปั๊ป  นารุโตะจะโวยก็ไม่ทันได้โวย  ได้แต่ถอนหายใจให้กับการกระทำบ้าๆของอีกฝ่าย

     

    และแล้วเสียงสบถเบาๆที่ดังอยู่ก็หายไป  เหลือเพียงแต่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ  ใบหน้างามในตอนนี้กำลังหลับลงด้วยความเหนื่อยอ่อน  ซาสึเกะที่แกล้งหลับเมื่อรับรู้จึงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา  มือใหญ่สัมผัสใบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ พลางสูดดมความหอมของเส้นผมสีทองที่นุ่มราวกับไหม....

     

      คงมีอะไรสนุกมากๆอีกแน่....นารุโตะ    และแล้วผู้พูดก็เข้าสู่ห้วงแห่งนิทราอีกคน......

     

     

     

     

     

     

    TBC.

       

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×