ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม One Shot Fanfiction [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #3 : [Vocaloid] All of YOU (AkitoXKaito)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 52


    />

    [Short Fiction Vocaloid]

     

     

    Title : All of YOU

    Pairing : AkitoXKaito

    Genre : Romance

    Rate :  PG13


     

     

     

     

     

     

    นายรู้รึเปล่าว่าฉันลำบากใจแค่ไหนที่ต้องอยู่ใกล้นาย....

     

     

     

    ดวงตาสีแดงสดนั่งมองใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันอ่อนโยนนั่น  ผ่านมานานเท่าไหร่แล้วนะ....กี่ปีแล้วที่พอรู้ตัวอีกครั้งเขาก็เอาแต่เฝ้ามองตรงตำแหน่งนั้นตลอดเวลา  ตรงที่ ๆ เดิม  ใบหน้าเดิม  ดวงตาและสีผมเดิม ๆ ที่เห็น....

     

    เขารู้สึกสับสน  อะไคโตะเฝ้าบอกตัวเองแบบนั้นอย่างไม่อาจหาคำตอบได้  ยิ่งอยู่ใกล้ความสับสนก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น  ยิ่งได้ยินเสียงไอ้ความรู้สึกที่เก็บกักอยู่ภายในก็แทบระเบิดออกมา  นี่ถ้าหากเขาได้สัมผัส...ได้สัมผัสทั้งหมดตามที่ต้องการล่ะ...?

     

    แล้วอะไรล่ะที่ตัวเขาต้องการ?

     

    เส้นผมสีแดงสะบัดไปมาอย่างรุนแรง  คนนั่งอยู่ภายนอกหันมาทันได้เห็นอาการผิดปกติก็นึกเป็นห่วง  เป็นอะไรรึเปล่าอะไค?  ร่างนั้นลุกขึ้นเดินตรงเข้าหา  นิ้วเรียวยาวที่แต่งแต้มด้วยเล็บสีน้ำเงินสวยทำท่าจะเอื้อมสัมผัส

     

    คนถูกถามเขยิบตัวหนีเบี่ยงหลบ  ไม่เป็นไร  เขาคว้าเอาผ้าพันคอสีแดงที่ถอดพาดไว้เพราะอากาศอันร้อนอบอ้าวขึ้นกำแน่น  แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปยังห้องของตน

     

    ดวงตาสีน้ำเงินเพ่งมอง  เรียวเคี้ยวยาวขมวดมุ่นอย่างไม่สบายใจ  เป็นอะไรของเขานะ...

     

    หลายวันมานี่ดูอะไคโตะแปลกไปมาก  ตั้งแต่วันที่เขาขอเข้าไปนอนด้วยเพราะถูกฝาแฝดแกล้งเล่าเรื่องน่ากลัวใส่นั่นแหละ  ตอนแรกก็ยังไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ  พวกเขาก็นอนด้วยกันได้เหมือนแต่ก่อน  แต่พอเช้ามาเท่านั้น  อะไคโตะก็พยายามจะหลบหน้า  แล้วทำเย็นชากับเขาตลอด

     

    ซึ่งปกติแม้จะทำเหมือนไม่สนใจอะไรก็จริง  แต่ก็ไม่ได้หมางเมินถึงเพียงนี้  หรือว่าจะไม่สบาย??

    บ่นอะไรพึมพำคนเดียวน่ะพี่ไค?  ดวงตาสีฟ้าอมเขียวคู่สวยจ้องมองพลางกระพริบตาปริบ ๆ

     

    ชายหนุ่มหน้าเหวอเล็กน้อยด้วยความตกใจ  อ่า.....  เขานิ่งคิดอยู่พัก  จะถามดีไม่ถามดี...  เร็นว่า...อะไคแปลกไปไหม?

     

    ทำไม?? เห็นพี่เขาก็แปลกปกติอยู่แล้วนี่  ว่าพลางปอกกล้วยที่ถืออยู่ในมือพลาง

     

    ไคโตะส่ายศีรษะไปมา  ไม่ใช่แบบนั้น  หมายถึงแบบ....ไงดี  พี่ว่าเขาพยายามจะหลบหน้าพี่นะ

     

    พี่คิดไปเองรึเปล่า?  มีเหตุผลอะไรที่พี่อะไคต้องหลบหน้าพี่ล่ะ??  เร็นเสนอความคิดตามที่ตนมองเห็น  จากสายตาคนอื่นให้ตายยังไงก็ต้องมองว่าอะไคโตะเป็นพวกพูดน้อย เย็นชา  ชอบเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่แล้ว

     

    หรือเขาจะไปปรึกษามาสเตอร์ดี?  พี่อาจคิดมากไปเองก็ได้.....

     

    เร็นผงกศีรษะขึ้นลง  อั่นอ่ะอูกอ้องเอย(นั่นล่ะถูกต้องเลย)  เขาว่าขณะพยายามเคี้ยวกล้วยคำโตที่อยู่ในปาก

     

    ไคโตะเดินคิดไปตลอดทางขณะไปซื้อกับข้าว  ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเหม่อลอยจนแทบลืมรายการอาหารที่สั่ง  บางครั้งถึงกับลืมเงินทอนเจ้าของร้านต้องวิ่งมาส่งให้  แต่กระนั้นก็ไม่ได้เรียกให้ชายหนุ่มหลุดจากห้วงความคิดนั้นเลยสักนิด

     

    เขายืนมองพระอาทิตย์สีส้มสุกใสที่กำลังใกล้ตกดินเต็มทน  ก่อนหย่อนกายลงนั่งบนพื้นหญ้าข้างทางเดิน  ลมเอื่อย ๆ โบกพัด  กลิ่นดอกไม้บริเวณนั้นโชยทั่ว  ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก  รู้สึกปลดระวางและปล่อยความคิดต่าง ๆ ให้ล่องลอยได้

     

    แผ่นหลังเอนลงแนบกับพื้น  เปลือกตาบางปิดสนิทลง...  คงไม่เป็นอะไรล่ะมั้ง?......

     

    เมโกะยืนท้าวสะเอวด้วยความหงุดหงิด  ดวงตาเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังเรือนใหญ่ภายในห้องครัว  สิบนาทีผ่านไป  ครึ่งชั่วโมงผ่านไป  จนนี่เกือบสองชั่วโมงแล้วเจ้าตัวดีที่ถูกใช้ให้ไปซื้อของก็ยังไม่กลับมาเสียที  ไม่รู้ไปโง่ตกหลุมตกบ่อที่ไหนรึเปล่า

     

    ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีก??

     

    ฝาแฝดวิ่งตรงเข้ามาเมื่อรับรู้ถึงเวลาอาหารเย็น  เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่เหลือ  พี่เมโกะ!! อาหารเสร็จยังงงง~”

     

    ข้าว ๆ

     

    แต่บนโต๊ะกลับว่างเปล่าไม่เหลืออะไร....  นี่มันอะไรกันเนี่ย??  มิกุเอ่ย  ดวงตาของเธอแฝงไปด้วยความสงสัย

     

    โดยปกติเวลาอาหารของบ้านพวกเขาจะไม่เคยผิดไปเกินสิบนาทีเลยสักครั้ง  เพราะเมโกะพี่สาวคนโตของบ้านเป็นคนตรงต่อเวลามาก ๆ ที่สำคัญไม่มีใครกล้าหือหรือเบี่ยงบ่ายเจ้าหล่อนแม้แต่มาสเตอร์ก็ตามที

    เกิดอะไรขึ้น?  อะไคโตะที่เพิ่งตื่นจากการนอนเอ่ยถามด้วยท่าทีสะลึมสะลือ

     

    สายตาทุกคู่หันมอง  ไคโตะยังไม่กลับมา....

     

    คนฟังเบิกตากว้างอย่างตกใจ  ว่าไงนะ??

     

    พี่ไคโตะออกไปซื้อกับข้าวตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนยังไม่กลับมาเลย  เร็นว่า  หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น?  งั้นเดี๋ยวผมออกไปตาม

     

    มือแกร่งคว้าไหล่ของเด็กหนุ่มไว้  ก่อนจะสวมเสื้อโคทสีขาวของตนให้เรียบร้อย  เดี๋ยวฉันไปเอง  พวกนายรออยู่ที่นี่

     

     

     

    ....นายรู้รึเปล่าว่าฉันหวาดกลัวขนาดไหน....

     

     

     

    ไคโตะลืมตาตื่นขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเป็นสีดำสนิท  เขาเผลอหลับไปจนได้  ชายหนุ่มรีบหยิบเอาถุงของต่าง ๆ แล้วออกวิ่งไปยังทิศทางที่เป็นเป้าหมาย  ในใจอดไม่ได้ที่จะคิดภาพเมโกะถือมีดเตรียมเฉือนเนื้อเขาให้ตายทีละนิด ๆ อย่างทรมาน

     

    ตายแน่ ๆ ตายแน่แล้ว!!”

     

    ในระหว่างทางที่กำลังวิ่งกลับบ้านอยู่เขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง  อาจเพราะความเงียบในบริเวณนั้นยิ่งทำให้เขาได้ยินมันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ  ไคโตะหยุดยืนตัวแข็ง  นึกถึงเรื่องที่เร็นเล่าให้ฟังแล้วอดขนลุกไม่ได้  ทั้ง ๆ ที่ใจภาวนาให้วิ่ง  แต่ขามันกลับแข็งจนก้าวไม่ออก

     

    เสียงนั้นแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าได้รูปพยายามจะหันไปมองให้มันรู้ดำรู้แดง  ผีไม่มี....ผีไม่มี...

     

    ยิ่งพอมองไปแล้วเห็นแต่ความว่างเปล่ายิ่งทำเอาสติเขากระเจิดกระเจิง  ไคโตะกอดของในมือไว้แนบอกแน่น  ขาถอยหลังจนติดราวสะพานข้ามคลองสายเล็ก ๆ  เอ๋....ลูกหมาเหรอ???

     

    พออยู่ใกล้จึงได้ยินชัดแน่ว่าเป็นเสียงร้องโอดครวญของเจ้าลูกหมาตัวน้อยที่พยายามจะว่ายทวนกระแสน้ำกลับเข้าสู่ผืนดิน  ไคโตะมองซ้ายมองขวา  ไม่มีผู้คนผ่านมาเลยสักคน  จะปล่อยให้เจ้าตัวน้อยเผชิญชะตากรรมแบบนั้นก็ไม่ได้ 

     

    เขาจึงตัดสินใจวางข้าวของและถอดผ้าพันคอถูกไว้  รอแปปนะเจ้าหมาน้อย!!”  ชายหนุ่มกระโดดลงยังคลองสายเล็กแต่เชี่ยวกรากนั้นทันที

     

    อาจเพราะร่างกายของเขาใหญ่กว่าเจ้าหมาน้อยนั่นมากทำให้กระแสน้ำนี้กลายเป็นน้ำที่ไหลเรื่อย ๆ ไปแทน  และเพราะมันไม่ได้ลึกมากอย่างที่คิดด้วย  อยู่เฉย ๆ สิ!”  ความลำบากของเขาในตอนนี้กลับกลายเป็นเจ้าลูกหมาขี้กลัวที่พยายามจะตะเกียกตะกายออกจากอกเขานี่แหละ

     

    อะไคโตะที่วิ่งมาจนถึงสะพานเห็นถุงของและผ้าพันคอของคนที่ตามหาปลิวไสวอยู่ก็ถึงกับตกใจ  ชายหนุ่มรีบวิ่งไปยื่นหน้ามองหา  ไคโตะ!!!!”  เขาตะโกนสุดเสียง

     

    คนที่กำลังถูลู่ถูกังจะพาเข้าหมาน้อยให้รอดพ้นความตายได้ยินเสียงเรียกชื่อตนก็หยุดเงี่ยฟัง  ก่อนจะเงยหน้ามอง  อะไค!!!”  รอยยิ้มแต้มบนใบหน้าอย่างยินดี

     

    ตอนแรกหัวใจแทบจะวาย  แต่พอเห็นเจ้าตัวปัญหาในอ้อมอกนั่นก็ทำเอาเขาอยากจะกระโดดลงไปซ้ำให้จมน้ำเสียทั้งคู่  ทำบ้าอะไรอีกแล้วน่ะ!!!”

     

    เอาน่า ๆ ยังไงก็ช่วยก่อนได้ไหม  หนาวจะแย่อยู่แล้ว!!” เขาตะโกนกลับด้วยเสียงหัวเราะ

     

    โชคดีที่มีคนผ่านมาพอดีทำให้การช่วยชีวิตหนึ่งหมาหนึ่งคนเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น  พอเท้าแตะพื้นดินได้อะไคโตะก็ดึงเอาลูกหมาออกจากอ้อมกอดตัวปัญหาส่งให้ชาวบ้านแถวนั้น  พลางคว้าเอาของและผ้าพันคอก่อนจะลากอีกฝ่ายกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว

     

    ไคโตะเริ่มรู้สึกเจ็บที่ถูกดึงลากอย่างรุนแรง  ซ้ำเสื้อผ้าที่เปียกทั้งตัวก็ทำให้เขารู้สึกหนาวมากด้วย  อะ....อะไค...ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ  น้ำเสียงสั่นไหว

     

    คนนำหน้าหยุดเดินทันที  ใบหน้าซึ่งแม้จะดูคล้ายแต่กลับไม่เหมือนกันหันมองด้วยความไม่พอใจ  หนาวสินะ?

     

    งะ...แหงสิ  คิดว่าเล่นน้ำยามดึกมันสบายนักรึไง  ถึงจะหน้าร้อนก็เถอะ....  ไคโตะบ่นอุบอิบ

     

    แล้วลงไปทำไม?

     

    ดวงตาสีน้ำเงินหันขวับมอง  แล้วจะปล่อยให้เจ้าหมาน้อยตายรึไง?!”

     

    หัดคิดถึงตัวเองเสียมั่ง!! ถ้าเกิดไม่มีใครผ่านไปนายไม่คิดบ้างเหรอว่าคนที่ตายอาจไม่ใช่แค่เจ้าหมานั่น!!”  อะไคโตะขึ้นเสียงใส่   ใบหน้าขมวดมุ่นแสดงความโมโหชัดเจน

     

    พอถูกว่าตรงจุดก็สลดลง  ใบหน้าที่ปะทะสายตาเมื่อครู่ก้มลงต่ำ  ขอโทษ....

     

    พอได้ยินคำขอโทษที่ออกจากปากนั่นก็เล่นเอาคนฟังทำอะไรไม่ถูก  ปากที่อ้าเตรียมด่ากลับเต็มที่ก็ต้องหุบลงตามไปด้วย  มือแกร่งกำหมัดแน่น  ทีหลังอย่าทำอีก  เขาถอดเสื้อโคทของตนเองคลุมให้อีกฝ่าย 

     

    กลับกันได้รึยัง?  ดวงตาสีแดงจ้องมอง 

     

    ไคโตะยิ้มพลางกระชับเสื้อคลุมของอีกฝ่ายแน่น  อื้อ!!”

     

    พวกเขาเดินกลับมาถึงหน้าบ้าน  แต่แล้วจู่ ๆ ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้  เดี๋ยวก่อนอะไค?  มือเรียวฉุดแขนแกร่งไว้

     

    คนถูกเรียกหันมอง  อะไร?

     

    มีอะไรจะถาม  ห้ามโกหกนะ?

     

    บอกมาก่อน

     

    ไคโตะทำแก้มพอง  สัญญาก่อนว่าจะไม่โกหก  ไม่งั้นไม่บอก

     

    นี่ตกลงว่าเขาอยากรู้หรืออีกฝ่ายอยากรู้กันแน่เนี่ย  คิ้วเรียวขมวดหากันอย่างหงุดหงิด  ตกลง ๆ จะถามอะไรก็รีบถามมา

     

    งั้นดี.....  ดวงตาสีน้ำเงินจ้องมองนิ่ง  นายเป็นอะไรรึเปล่า?

     

    เป็นอะไร? ก็ปรกติดี?

     

    ฉัน....รู้สึกว่านายเหมือนกำลังหลบหน้าฉัน  ไคโตะว่าต่อ

     

    อะไคโตะเบิกตากว้างก่อนหรี่ลงเป็นปรกติ  ใบหน้าคมเบี่ยงหลบ  เสมองไปทางอื่น  ไม่มีอะไรนี่

     

    ต้องมีแน่ ๆ!!” เจ้าของผมสีน้ำเงินเอ่ยด้วยความมั่นใจ  เวลาอะไคโกหกอะไคจะไม่มองหน้าเวลาพูด!!”

     

    ทีแบบนี้ทำเป็นรู้ดีเชียว....อะไคล่ะอยากจะจับคน ๆ นี้ผูกกับเตียงแล้วจับขังไม่ให้ไปไหนเสียให้เข็ด  ให้ตายเถอะ...ไอ้เรื่องแบบนี้น่ะถนัดนัก  ไม่มีอะไรจริง ๆ

     

    หรือว่านายรำคาญฉัน?  นั่นสินะ....นายเองก็โตแล้วนี่นา คงไม่ชอบที่ฉันไปนอนด้วย...

     

    ชายหนุ่มหันขวับมองคู่สนทนาตน  ไม่ใช่!!”

     

    งั้นอะไรล่ะ?  ดวงตากลมโตช้อนมอง

     

    รู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุมยังไงยังงั้น  เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่  จะบอกแค่ครั้งเดียวนะ

     

    อืม!”  ไคโตะพยักหน้ารับรู้

     

    ถ้าไม่เข้าใจจะไม่บอกแล้วนะ

     

    ต้องเข้าใจแน่นอน!!” ดวงตานั้นแฝงไปด้วยความกระตือรือร้น

    อะไคโตะระบายรอยยิ้มน้อย ๆ ร่างที่ดูจะสูงกว่าหน่อยก้มลงจนปลายจมูกแทบชนกัน  บอกแล้วนะ...ว่าแค่ครั้งเดียว...

     

    ริมฝีปากได้รูปประกบริมฝีปากสวยนั่นอย่างรวดเร็ว  ดวงตาสีน้ำเงินเบิกค้างกว้างด้วยความตกใจ  ไคโตะไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน  เขาจำได้แค่เพียงรสชาติเผ็ดร้อนที่ถูกส่งผ่านจากส่วนที่สัมผัสอันนุ่มนวลและอ่อนโยนเท่านั้น

     

    ที่เหลือก็ไปคิดเอาเองแล้วกัน....  เขาเอ่ยก่อนจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมข้าวของที่ไคโตะซื้อไว้  ส่วนไคโตะตอนนี้ก็ได้แต่ยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งอยู่หน้าบ้าน

     

     

     

    .....แล้วนายรู้รึเปล่าว่าฉันรักนายมากแค่ไหน?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เพราะทั้งหมดคือนาย

    ...แค่นายเพียงคนเดียวเท่านั้น...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    END.

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×