ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม One Shot Fanfiction [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : [Sengoku Basara] Why you KISS ME?! (DateXYukimura)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 52


    href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Cxxx%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml" />

    Sengoku Basara Fanfiction

     

     

    ความปั่นป่วนที่ 1

     

     

    Title : Why you KISS ME?!

    Author : Derick

    Pairing : DateXYukimura

    Rate : PG13


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทนไม่ไหว...

     

    ทนไม่ไหวแล้ว......

     

    ทนไม่ไหวแล้วนะขอรับ!!!!!!

     

    ร่างในชุดยูกาตะสีแดงนั่งกำมือแน่น  เนื้อตัวสั่นเทาไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง  ใบหน้าและสายตาซึ่งเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นบัดนี้กลับเอาแต่ก้มลงมองผืนเสื่อสีอ่อนภายในห้องพัก  ไม่ขยับกายหรือแม้แต่จะลุกเดินไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อน

     

    สร้างความเป็นห่วงให้นินจาคนสนิทผู้รับบทเป็นพี่เลี้ยงกลาย ๆ จนต้องออกมาจากเงามืด  เป็นอะไรไปขอรับนายน้อย?

     

    อีกฝ่ายยังคงเงียบ  นายน้อย?

     

    ดวงตาคมจ้องมองร่างนั้นอยู่พัก  อาการแบบนี้มักเกิดขึ้นจากความคับข้องใจบางอย่างที่เจ้าตัวยังไม่ได้รับการชี้แจงแถลงไข  หรือไม่ก็คงเกิดจากความค้างคาใจ  แต่ไอ้ความค้างคาใจที่เห็นก็ดูเหมือนจะได้รับการปลดเปลื้องไปแล้ว  หลังจากได้ดวลกับมังกรตาเดียว ดาเตะ มาซามุเนะ อยู่แทบทุกเมื่อเชื่อวัน

     

    เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยว  หลายแคว้นจึงพร้อมใจกันหยุดทำสงครามชั่วคราว  หันไปเก็บเกี่ยวกักตุนเสบียงไว้ให้กับเมืองของตนและใช้ในยามรบ  ทาเคดะเองก็เช่นเดียวกัน

     

    นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนายน้อยของเขาถึงได้พบเจอกับดาเตะได้บ่อยครั้งขนาดนั้น...

    การทำสงครามใช่จะสามารถยุติและจบลงได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ผืนแผ่นดินไม่ใช่เพียงก้อนเล็ก ๆ มันกว้างใหญ่เกินกว่าจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นได้ในเวลาสามวันเจ็ดวัน 

     

    และสำหรับพวกเขาการทำสงครามด้วยอุดมการณ์ของตนเองมันคือสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจมากกว่า  ความบ้าระห่ำในอำนาจกับการฆ่าฟัน 

     

    ซาสึเกะถอนหายใจยาว  ส่ายศีรษะไปมาช้า ๆ  ถ้านายน้อยไม่พูดแล้วข้าจะรู้ไหมขอรับ?  นอกจากความดื้อรั้นเกินมนุษย์แล้ว  ไอ้เรื่องหัวแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้านี่ก็ทำเอาเขาแทบบ้าไปหลายรอบ

     

    แต่แล้วจู่ ๆ ใบหน้านั้นก็เงยขึ้น  ดวงตาสีน้ำตาลส่องประกายระยับ  ซาสึเกะ!!!”

     

    เสียงเรียกนั่นทำเอาคนฟังสะดุ้ง  ขะ...ขอรับ?

     

    ดวงตานั้นยังคงเพ่งมอง  พร้อมกับค่อย ๆ ขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ซาสึเกะเห็นแบบนั้นก็รู้สึกหวาด ๆ อยู่เหมือนกัน  จะพูดตรง ๆ ก็คือคนตระกูลนี้ยิ่งไม่ค่อยจะธรรมดากับเขาอยู่ด้วย

     

    ซาสึกะ!!”

     

    ขอรับ...นายน้อยมีอะไรก็พูดมาเถอะขอรับ  เขาถอนหายใจอีกครั้ง

     

    นายน้อยยังคงจ้องนินจาหนุ่มอยู่แบบนั้น  คือว่านะ.....คือ....

     

    คือ?

     

    แล้วสุดท้ายไอ้คนที่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก็ดันมาถอนหายใจหนักเสียแทน  เฮ้อ....

     

    ซาสึเกะยิ้มน้อย ๆ มือหนึ่งยกขึ้นเกาศีรษะตามนิสัย  อ่า...ถ้านายน้องคับข้องใจอะไร  ก็ลองไปหาคน ๆ นั้นดูสิขอรับ

     

    ไปหา?

     

    ใช่แล้วขอรับ  ปัญหาเกิดจากจุดไหนก็ต้องแก้ที่จุดนั้น  เขาขยิบตาให้ผู้เป็นนายตน  จริงไหมขอรับ?

     

    ร่างนั้นก้มหน้าลงอีกครั้งหนึ่ง  แล้วก็ลุกพรวดขึ้น  เข่าข้างหนึ่งชันตั้ง  หมะดสองข้างกำไว้แน่นแนบกาย  นั่นสินะ!!ไปถามกับเจ้าตัวก็หมดเรื่อง!!!”  ใบหน้าอ่อนวัยหันมายิ้ม  ขอบคุณนะซาสึเกะ!!”

     

    คู่สนทนาหัวเราะ  แล้วก็ต้องงุนงงกับการกระทำของนายน้อยตนอีกครั้ง  นั่นจะทำอะไรน่ะขอรับ?  เขาเห็นอีกฝ่ายเร่งเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่คฮากามะสีแดงคล่องตัว  ก่อนจะฉวยเอาฮาโอริมาสวมทับอีกครั้ง 

     

    ก็ไปพบเจ้าตัวไง!”  เสียงใสเอ่ยตอบพลางวิ่งแจ้นออกไปยังด้านหน้า

     

    ซาสึเกะตะโกนตาม  ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล  โฮ่ย ๆ ไปพบใครน่ะขอรับ!!”  เผลอเพียงชั่วเวลา  ร่างของนายน้อยเขาก็ขี่ม้าควบตะบึงตรงไปยังทางออกปราสาทเสียแล้ว

     

    โอชู!!!!!!!!”  เสียงนั้นตะโกนกลับมา  ฝากบอกท่านเจ้าด้วย!!!ยูคิมุระคนนี้จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด!!!”

     

    เอาอีกแล้วสิน่า...  นินจาหนุ่มส่ายศีรษะ  เดี๋ยวนะ....โอชู.....ดาเตะ มาซามุเนะ!!!”  ดวงตาเบิกกว้างหันไปมองยังทิศทางที่นายน้อยของตนเพิ่งจากไป  มือแกร่งยกขึ้นกุมหน้าผาก  จะเป็นเรื่องอีกแล้วไหมเนี่ย?

     

    ยูคิมุระควบตะบึงม้าสุดแรงโดยไม่แวะพักที่ไหน  ใจเขาอยากจะไปให้ถึงที่หมายโดยเร็ว  ขนาดเวลาแค่เพียงเสี้ยววินาทีก็ทำเอาความคับข้องใจนี้แทบระเบิด  ต้องไป...ต้องไปให้ถึงและสอบถามความจริงให้รู้เรื่องเพียงเท่านั้น!

     

    รอยยิ้มเปรยแต้มบนใบหน้า  เขาค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าม้า  จนมันหยุดนิ่งหน้าปราสาทโอชู  ข้ายูคิมุระ เก็นจิโร่ ซานาดะ มาขอพบท่านดาเดะ มาซามุเนะ!”  เสียงใสประกาศก้อง  นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววความมุ่งมั่น

     

    จริง ๆ เขาไม่ต้องประกาศตัวขนาดนั้นคนที่นี่ก็ให้เขาเข้าไปได้โดยง่ายแล้ว  เป็นที่รู้กันดีหลังจากช่วงสงครามปราบจอมมารฟ้าที่หก โนบุนากะ  นอกเวลารบพวกเขาทั้งหมดก็คือสหายร่วมจิตวิญญาณเดียวกัน  ซ้ำยูคิมุระเองก็เคยมีบุญคุณต่อคนของทัพดาเตะ

     

    พี่ชายซานาดะนี่เอง!!”  เสียงหนึ่งร้องทักอย่างเป็นมิตรเมื่อเห็นเขากำลังเดินเข้าสู่ภายใน 

     

    อ้าว  ไม่ได้เจอกันนานนะขอรับ  ยูคิมุระยิ้ม  แม้จะเป็นเพียงทหารธรรมดา  แต่เขาก็ถูกสอนให้มองคนทุกคนเท่าเทียมกัน

     

    หลังจากพูดคุยได้เพียงครู่เขาก็ขอตัวไปพบกับนายเหนือหัวแห่งโอชู  เมื่อเห็นว่ามาถึงห้องพักของอีกฝ่าย  ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ นั่งคุกเข่าลง  รอเข้าพบตามมารยาทของแขกที่มาเยือนอย่างกะทันหัน 

     

    ไม่ได้พบกันเสียนานนะครับท่านซานาดะ  บานประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมเสียงทักทายจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นดวงตาสำคัญ 

     

    ยูคิมุระค้อมศีรษะ  สบายดีนะขอรับท่านคาตาคุระ

     

    ท่าทางท่านจะเร่งรีบมา  เขามองสำรวจ  แม้จะในยามปลอดจากสงครามท่านก็ควรจะระวังตัวไว้บ้างนะขอรับ  ชายมากประสบการณ์กว่าเอ่ยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงรีบร้อนจนลืมหยิบเอาอาวุธคู่กายมาด้วย

     

    คนถูกทักพอนึกออกก็หัวเราะแห้ง ๆ ตอบ  ข้าแค่อยากจะมาถามข้อสงสัยจากท่านมาซามุเนะเท่านั้นน่ะขอรับ  เลยลืมฉุกคิดไป

     

    โคจูโร่ยิ้ม  นายท่านรออยู่ด้านในขอรับ  เขาผายมือเชิญให้อีกฝ่ายเข้าไปพบนายเหนือหัวแห่งโอชู

     

    ขอบพระคุณขอรับ!”  ยูคิมุระเอ่ยเต็มเสียง  ก่อนจะเดินเข้าสู่ด้านใน

    บานประตูถูกปิดลง  เขาค่อย ๆ หย่อนกายนั่งในห้องที่เงียบสนิท  มีเพียงกลุ่มควันและกลิ่นหอมจากยาสูบลอยอบอวลอยู่ภายใน  ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องมองไปยังผู้สวมยูคาตะสีน้ำเงินเข้มที่นั่งพิงหมอนอิงสบายอารมณ์อยู่เบื้องหน้า

     

    “See you again ซานาดะ ยูคิมุระ  เสียงทุ้มห้าวเอ่ย  คนฟังสังเกตเห็นรอยยิ้มประหลาดหลังม่านควันนั่น

     

    จริง ๆ  เขาก็ชินแล้วล่ะกับภาษาญี่ปุ่นคำ  ภาษาประหลาดคำ  เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้  ต้องขออภัยที่ข้ามารบกวนกะทันหันขอรับ  ชายหนุ่มกำมือทั้งสองข้างวางบนพื้นเบื้องหน้าเข่าทั้งสองของตนก่อนจะค้อมศีรษะลงน้อย ๆ

     

    มีอะไรก็ว่ามา  ดาเตะเอ่ยตามนิสัยคนไม่ชอบพูดมากความ

     

    ใบหน้าอ่อนวัยก้มลง  ทุกอย่างนิ่งเงียบอยู่พัก  คือ......

     

    “What?”

     

    คือว่า......

     

    “Shit! จะพูดอะไรก็พูดมาสิ!!”  คนอารมณ์ร้อนเริ่มทนไม่ไหวกับไอ้ท่าทางอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ นั่น

     

    ยูคิมุระสูดหายใจลึก  แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอีกฝ่าย  ข้าอยากจะถามท่านมาซามุเนะว่า  เหตุใดวันนั้นท่านถึง…!!”

     

    วันนั้น? Why?”  กล้องยาสูบยังคงถูกคาบอยู่  ควันของมันถูกพ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง

     

    ทำไมถึงจูบข้าน่ะขอรับ!!!”

     

    ดวงตาสีเข้มที่ปรากฏให้เห็นเพียงข้างเดียวเบิกกว้างอย่างตกใจ  กล้องยาสูบแทบร่วงจากปาก  ไม่นานอาการนั้นก็เริ่มแปรเปลี่ยน  ผู้มาเยือนได้ยินเสียงหัวเราะดังแทนคำตอบที่หวังว่าจะได้ยิน

     

    ไม่ตลกนะขอรับ!! ข้าเฝ้าคิดมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว!!”  ยูคิมุระกำหมัดแน่น  พร้อมแสดงท่าทีจริงจังตามนิสัย

     

    ดาเตะยังคงหัวเราะ  เจ้าอยากรู้รึว่าทำไม?

     

    เขาพยักหน้าขึ้นลง  ดวงตาสีน้ำตาลทอประกายเช่นทุกครั้ง  เห็นแบบนั้นคนถามก็คลี่ยิ้ม  พลางยกนิ้วขึ้นกวักเรียกอีกฝ่ายให้มาหาตน  “Come on.

     

    หา?

     

    มาใกล้ ๆ แล้วข้าจะบอก  เขาขยายความเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่เข้าใจความต้องการของเขาแน่

     

    ยูคิมุระพยักหน้ารับ  ด้วยความอยากรู้ที่มีมากเสียจนไม่คิดถึงสิ่งอื่น  เขาขยับกายเข้าไปใกล้ดาเตะในอีกระดับหนึ่ง  แต่ดูเหมือนว่ามันยังไม่ใกล้พอ  เข้ามาอีก  เสียงทุ้มของนายเหนือหัวแห่งโอชูว่า

     

    เขามั่นใจว่าตอนนี้ตนเองอยู่ใกล้กับดาเตะสุด ๆ ถ้าใกล้กว่านี้มีหวังคงต้องขึ้นไปนั่งทับบนตัวคนเรียกแน่ ๆ  จะบอกได้หรือยังขอรับ?

     

    ชายหนุ่มเจ้าของข้อข้องใจหลับตาลงพลางหยิบกล้องยาสูบออกวางไว้บนที่ของมัน  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มบนใบหน้าคมอีกครั้ง  พลันดวงตานั้นเปิดขึ้น  ยูคิมุระก็รู้สึกว่าตนโดนกระชากอย่างแรงไปด้านหน้า  และรู้ตัวอีกครั้งริมฝีปากที่เต็มไปด้วยรสชาติของยาสูบนั่นก็ประกบทาบทับลงมาเสียแล้ว

     

    รู้สึกเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด.....

     

    ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างตกใจ  ตกใจจนลืมที่จะขัดขืน  ไม่นานร่างอันแข็งทื่อของเขาก็ถูกผลักออกเบา ๆ  ดาเตะเห็นปฏิกริยานั้นก็หัวเราะ  รู้สึกเป็นไง?

     

    พยัคฆ์หนุ่มยังคงนิ่ง  อีกฝ่ายเลยทำท่าจะคว้ามากระทำแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง  พอโดนรั้งไปสติที่เตลิดก็กลับมาทันควัน  หวา!! อย่าขอรับ!!”  คนร้องห้ามพละตัวถอยออกห่าง

     

    เป็นไง?  ดาเตะยิ้ม

     

    มะ....หมายถึงอะไรขอรับ?

     

    “Kiss รู้สึกยังไง?  เขาหยิบกล้องยาสูบขึ้นมาอีกครั้ง

     

    ใบหน้าของชายหนุ่มฉายแววประหลาด  เหมือนจะสับสน  เขินอาย แต่ในขณะเดียวกันก็ดูวุ่นวายพิกล  ปฏิกริยาแบบนั้นทำเอาคนมองหัวเราะออกมา  เจ้ารังเกียจไหม?

     

    รังเกียจ....?  แขนเล็กยกขึ้นกอดอก  เวลาใช้ความคิดเขามักขะทำแบบนี้เสมอ  ไม่นะขอรับ...

     

    คำตอบนั่นดูเหมือนจะเรียกอาการตกใจให้กับดาเตะอีกครั้ง  ชักอยากจะรู้แล้วว่าตาลุงนั่นเลี้ยงเจ้านี่มาแบบไหน  ไอ้เรื่องจูบน่ะมันไม่แปลกอะไรหรอก  กับผู้ชาย  เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยรึ?

     

    ยูคิมุระเอียงคอน้อย ๆ  เอ๋....แล้วมันต่างกับผู้หญิงยังไงหรือขอรับ?

     

    เห็นแบบนี้ไม่อยากแกล้งมันก็น่าแปลกเกินไปแล้ว  ดาเตะ มาซามุเนะ นายเหนือหัวแห่งโอชู  เกิดมาในชีวิตเป็นครั้งแรกที่รู้สึกอยากแกล้งคนได้มากมายขนาดนี้  แสดงว่าเจ้าไม่เคยมี Sex งั้นสิ?

     

    เซะกะ...คืออะไรขอรับ?

     

    ฮ่า ๆ น่าสนุกจริง ๆ นี่คงแสดงว่า First Kiss สินะ?  ชายหนุ่มหัวเราะร่วน 

     

    แต่อีกฝ่ายดูท่าจะมึนกับภาษาประหลาด ๆ นั่นเต็มทน  อะ....เอ่อ....ข้าไม่เข้าใจหรอกนะขอรับ  แค่อยากรู้ว่าทำไมท่านถึงจูบข้าเท่านั้น

     

    เจ้าคิดว่าจูบคืออะไร?  ดูเหมือนนายเหนือหัวจะสบายอารมณ์อย่าบอกใคร

     

    ยูคิมุระเงยหน้าขึ้นมองเพดาน  ทำท่าทางขบคิดหนัก  การแสดงความรัก? ล่ะมั้งขอรับ?

     

    เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าจูบเจ้าทำไม?

     

    ใบหน้าอีกฝ่ายยื่นเข้ามา  ดวงตาสีน้ำตาลทอประกายมุ่งมั่น  นั่นแหละขอรับที่ข้าอยากรู้!!”

     

    ดาเตะจ้องมองดวงตานั้นพลางยกมือข้างหนึ่งของตนขึ้นปิด  แล้วปล่อยให้กล้องยาสูบที่คาบไว้ร่วงหล่นลงกับพื้น  เขาเคลื่อนตัวเข้าหาอีกฝ่ายแล้วจูบซ้ำอีกครั้ง  ครานี้ยูคิมุระดูเหมือนจะไม่ตกใจจนตัวแข็ง  ยืนยันได้ชัดเจนเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะดันชายหนุ่มออกและถอยหนี

     

    แต่มือของดาเตะกลับจับแขนอีกฝ่ายไว้แน่น  พลางเลื่อนไปจับเส้นผมสีน้ำตาลนุ่ม  ออกแรงขยำแล้วดึงให้อีกฝ่ายแหงนหน้าตาม  ยูคิมุระรู้สึกเจ็บจึงทำท่าจะเปล่งเสียงร้อง  แต่การกระทำนั้นมันดันเปิดช่องทางให้ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายเข้ามากวาดเอาความหอมหวานได้ดั่งใจ

     

    อื้อ!!”

     

    สติของยูคิมุระค่อย ๆ เตลิดไปทีละน้อย  พร้อมกับเรี่ยวแรงและลมหายใจซึ่งถูกช่วงชิงไปตามเรียวลิ้นที่ควานไปจนทั่ว  รู้สึกถึงรสชาติยาสูบชัดเจนมาก.....

     

    ดาเตะรู้สึกถึงการตอบสนองที่แม้จะน้อยนิด  เขาเปล่งเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะผละออกให้อีกฝ่ายได้หายใจอย่างอิสระ  แล้วนี่ล่ะ?  ร่างเล็กกว่าก้มลงพิงอกแกร่ง  มือที่พยายามผลักดันและห้ามปรามนั้นขยำยูกาตะสีน้ำเงินเข้มแน่นเหมือนต้องการหาที่ยึดเหนี่ยว

     

    ว่าไง? Your feeling?”

     

    ร่างในอ้อมแขนของเขายังคงหายใจหอบถี่  ไม่กล้าเงยหน้าสบตากับคนถาม  ชายหนุ่มหัวเราะพลางช้อนคางอีกฝ่ายให้มองตน  ว่ายังไงยูคิมุระ?

     

    ดวงตาคมสบกับดวงตาสีน้ำตาลซึ่งตอนนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ปรารถนา  ดาเตะจ้องมองนิ่ง  เพราะดวงตาของเจ้าไงล่ะ

     

    ตา?

     

    เพราะดวงตาของเจ้าที่มุ่งมั่น  และมองมายังข้าด้วยความรู้สึกแน่วแน่นั่น....

     

    “Yeah.”

     

    พอรู้ตัวอีกครั้งข้าก็ไม่อาจลืมเลือนมันได้

     

    แต่ก่อนที่เขาจะเผยอะไรออกไปมากกว่านี้  ดาเตะก็เบี่ยงประเด็น  จะให้ข้าสอนมากกว่านี้ไหม?

     

    อะ...เอ๋?

     

    ดูท่าเจ้าไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เลยสักนิด  เอาเป็นว่าข้าจะตอบแทนที่เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่ทำให้ข้าสนุกมากก็แล้วกัน  ไม่พูดเปล่า  ใบหน้าคมก้มลงซุกไซ้บริเวณลำคอขาวเนียน  กลิ่นหอมจาง ๆ จากเส้นผมนั่นยิ่งทำให้เขาไม่อยากหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะกระทำ

     

    วะ...หวา!!! ไม่เอานะขอรับ!!!!”  ยูคิมุระออกแรงผลักอีกฝ่าย  ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน  ชีวิตนี้ข้าไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอกขอรับ!!! ข้าคิดเพียงแต่จะอยู่เคียงข้างท่านเจ้าไปตลอดเท่านั้น!!”  เขารีบเดินจ้ำออกไปจากห้อง 

     

    แต่เหมือนกับลืมอะไรบางอย่าง  ยูคิมุระกลับมาอีกครั้ง  นั่งลงแล้วค้อมศีรษะให้  ข้าขอลาขอรับ!” 

     

    ดวงตาที่มีเพียงข้างเดียวเบิกกว้าง  ก่อนจะหัวเราะดังลั่นไปทั่ว  ทีแบบนี้ล่ะฉลาดขึ้นมาเชียวนะ!!”

     

    ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรู้สึกเบื่อสิน่า!!

     

    ยูคิมุระรีบคสบตะบึงม้ากลับอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  ไม่สนว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเช่นไร  ในระหว่างนั้นสมองของเขาก็หวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและความรู้สึกที่ได้รับจากสัมผัสนั่น  มันทำเอาร่างกายเขารู้สึกแปลกไปหมด  มันเป็นความรู้สึกที่ต่างจากความรู้สึกก่อนหน้าที่เคยได้รับมาทั้งหมด

     

    ว่าแต่....ที่บอกว่าเพราะตาข้านี่  มันอะไรกัน?  เขาชะลอฝีเท้าม้า...

     

    ใบหน้านั้นหันกลับไปทางปราสาทโอชูที่จากมา  มันอะไรกันล่ะขอรับ! ท่านมาซามุเนะ!!!!”

     

     

     

     

    จบแล้วล่ะมั้ง?

     

     

     

        

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×