คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Happiness (1827)
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สึนะได้เข้ามานั่งที่ห้องกรรมการนักเรียนอันแสนน่ากลัวแห่งนี้ และที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สึนะได้มานั่งอยู่ใกล้ ๆ ฮิบาริ เคียวยะ ชายหนุ่มสุดแสนหน้าตาดีและสุดแสนโหดที่สุดในโรงเรียนนามิโมริ
ดวงตาสีน้ำตาลนั่งก้มลงมองถ้วยน้ำชาที่ถูกยกมาให้อย่างหวาด ๆ “อะ...เอ่อ...”
ดวงตาสีดำคมละจากกองงานตรงหน้าขึ้นมองคนพูด “อะไร?”
ยังจะมาถามว่าอะไรอีก สึนะบ่นในใจ เป็นคนเรียกเขามาเองแท้ ๆ แต่กลับไม่พูดอะไรเลยเนี่ยนะ ให้มานั่งมองตอนทำงานหรือว่าจะให้มานั่งกินน้ำชา(??)ให้หมด ๆ กันแน่เนี่ย!!
“คุณ....คุณฮิบาริมีอะไรกับผมรึเปล่าครับ?” ทูน่าตัวน้อยตัดสินใจถามออกไปตรง ๆ นี่มันเวลาเลิกเรียนนะครับ ผมอยากกลับบ้าน...
อีกฝ่ายดูจะไม่สนใจคำถามของเขาเลยสักนิด ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานของตนเองต่อ “รอไป..”
สั่งให้รอก็ต้องรอใครจะกล้าหนีไปไหนได้ล่ะ สึนะมองเวลาที่ไหลผ่านไปเรื่อย ๆ มองท้องฟ้าซึ่งค่อย ๆ เปลี่ยนสีเข้มขึ้น ๆ จะหกโมงเย็นแล้ว ฮิบาริยังคงไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหนเลยสักนิดเดียว
“นาย...”
ร่างเล็กสะดุ้งกับเสียงเรียก “คะ...ครับ?”
“นายกลับบ้านดึกได้รึเปล่า?”
ถามทำไมกัน?... “ก็คงได้ครับ แต่ต้องโทรไปบอกแม่ก่อน”
เด็กหนุ่มโยนโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งให้ สึนะรีบรับมันอย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่านอกจากจะโดนขังลืมแล้วอาจจะโดนเสียค่าปรับกองทั่วหัวแน่ถ้าทำมันพัง “จะให้ผมโทรบอกแม่หรือครับ?”
“ใช่...โทรหาซะ พรุ่งนี้วันหยุด โทรบอกว่าอาจจะค้างเลยก็ได้”
อาจจะค้าง!!! นี่อย่าบอกนะ.... “ตะ....แต่ผมว่ากลับบ้านน่าจะดีกว่านะครับ....”
ดวงตาสีคำคมปราดมอง เล่นเอาคนบอกจะกลับบ้านแทบหัวใจวาย “ไม่...ไม่กลับก็ได้ครับ!”
“ก็ตามใจสิ...”
คำพูดที่ฮิบาริขัดขึ้นทำเอาสึนะถึงกับงงหนัก “เอ๋?”
“จะกลับก็ตามใจ ไว้ฉันจะไปส่งแล้วกัน ตอนนี้โทรบอกแม่นายไปก่อน” เสียงทุ้มเรียบเอ่ย
รอ...รอ...และก็รอ สึนะนั่งรอฮิบาริทำงานจนตัวเองผลอยหลับไปแต่เมื่อใดไม่รู้ อาจเพราะมันเงียบสงบและอากาศเย็นสบายเกินไปก็ได้ ซ้ำหมู่นี้ก็เจอแต่เรื่องที่ทำให้ต้องเหนื่อยทั้งกายและใจ เลยทำให้รู้สึกหลับง่าย อยากพักผ่อนมากกว่าปกติ
เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยความงัวเงีย ดวงตามองไปยังโต๊ะทำงานใหญ่ตรงกลางห้อง ฮิบาริไม่ได้นั่งอยู่ที่นั่น...เขาหายไปไหนกัน? “คุณฮิบาริไม่อยู่?”
หรือว่าตัวเองโดนหลอกให้อยู่คนเดียว สึนะสะดุ้งกับความมืดที่รายล้อมตัวเอง “คะ...คุณฮิบาริครับ!!” เด็กหนุ่มลุกพรวดขึ้นมองโดยรอบ เสื้อที่ห่มทับให้ตนอยู่ถูกกำแน่น
แม้จะเป็นเสื้อที่ฮิบาริสวมใส่เสมอ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องอยู่ติดกับเจ้าของ “คุณฮิบาริครับ??!”
ความมืดมิดมันน่ากลัวจนทำให้เขาไม่กล้าลุกเดินไปไหน สึนะหดขาของตนขึ้นมาแนบลำตัว เสื้อนั้นยังถูกกอดไว้แน่นด้วยความเชื่อมั่นบางอย่าง น้ำใสเริ่มรื้นขึ้นบนนัยน์ตาหวาน
“อ้าว...ตื่นแล้วรึ?” เสียงที่ได้ยินทำเอาคนฟังหันมอง น้ำตาที่พยายามฝืนทนไว้ไหลบ่าลงมาด้วยความโล่งอก
ดวงตาสีดำเพ่งมองก่อนเดินไปเปิดไฟภายในห้อง พอเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ก็รู้สึกไม่พอใจ “ร้องไห้ทำไม??”
สึนะยกมือปาดน้ำตาทันทีที่น้ำเสียงนั้นดูจะเข้มขึ้น “ปะ...เปล่าครับ”
“ร้องไห้ทำไม?” ฮิบาริเน้นคำ มือแกร่งจับมือเล็กทั้งสองข้างไว้แน่น
“ผม....ผมกลัว พอตื่นมาไม่เห็นใคร ในห้องก็มือหมด....ก็เลย....” เขาก้มหน้าลงต่ำ สารภาพความจริงที่ตนคิดในเวลานั้น
“งี่เง่า....” เด็กหนุ่มผมสีดำเอ่ยแผ่ว “คิดว่าฉันจะทิ้งนายหรือไง?”
สึนะรีบส่ายศีรษะไปมาอย่างรวดเร็ว “เปล่าครับ! เพียงแต่ผมไม่เห็นใคร...ก็เลย...”
ฮิบาริมองร่างที่ยังคงสั่นไหวนั่น ก่อนลุกขึ้นยืนหยิบกระเป๋าอีกฝ่ายส่งให้ “ไป”
“ไปไหนครับ?” สึนะยื่นมือไปรับกระเป๋าตนเอง
“หุบปากแล้วตามฉันมา”
เด็กหนุ่มวิ่งตามร่างที่ก้าวฉับ ๆ เดินอย่างรวดเร็วไป ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรและกำลังจะพาเขาไปไหน แต่เวลานี้ไม่ว่าอะไรยังไง เขายอมที่จะถูกอัดตายดีกว่าถูกทิ้งให้อยู่ภายในโรงเรียนที่มืดมิดและน่ากลัวนั่น
ฮิบาริสตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ของตน เหลียวหลังมองยังร่างที่ยืนนิ่ง “ขึ้นสิ...”
“เอ๋?”
“หรืออยากจะอยู่ที่นี่?”
พอได้ยินคำนั้นไอ้ประโยคคำถามที่น่าจะมีก็หายไปหมด สึนะรีบก้าวขึ้นซ้อนท้าย มือสองข้างกอดกระเป๋าตนเองนิ่ง นั่งแข็งอย่างกับรูปปั้นหิน อีกฝ่ายเห็นก็ถอนหายใจยาว
“นั่งแบบนั้นอยากตกรถตายหรือไง?” ว่าแล้วเขาก็จับมือเล็กข้างหนึ่งมาวางไว้บนเอวของตน “เกาะไว้แน่น ๆ ฉันไม่อยากต้องชดใช้ค่าเสียหายหรอกนะ”
ไม่รู้ว่าสึนะคิดไปเองหรือเปล่า แต่สิ่งที่ได้รับแถวบ้านเขามันเรียกว่า ความอ่อนโยน เด็กหนุ่มกอดเอวอีกฝ่ายแน่น วางกระเป๋าหนังสือของตนเองไว้ตรงกลาง อย่างน้อยก็ไว้ใจว่าจะไม่มีทางร่วงไปนอนกลิ้งเล่นบนถนนแน่ ๆ
“ว่าแต่คุณฮิบาริกำลังจะไปไหนครับ?”
“นายอยากกินอะไร?”
“เอ๋?”
“ในหัวนายจะมีแต่ประโยคคำถามรึไงกัน? หรือว่าหูตึง?”
สึนะเอาหน้าซุกลงกับแผ่นหลังกว้าง “ก็ผม...แปลกใจนี่นา...” ร้อยวันพันปีไม่เคยจะถาม...
“ฉันถามว่านายอยากกินอะไร?”
“อะไรก็ได้ครับ...”
“ไม่มี”
สรุปคืออยากให้เขาเอาแต่ใจตัวเองใช่ไหมเนี่ย? แล้วใครมันจะไปกล้ากับพี่ท่านล่ะ!! “คือ....ถ้าผมบอกไป....”
ฮิบาริไม่แสดงท่าทีอะไรนอกจากการนิ่งฟัง สึนะเห็นก็ตัดสินใจพูดต่อ “ถ้าผมบอกไปคุณฮิบาริจะไม่โกรธแน่หรือครับ?”
“แล้วทำไมฉันต้องโกรธ? ในเมื่อฉันเป็นคนถามนายเอง?”
“ก็ปกติคุณฮิบารินะเคยยอมฟังใครที่ไหน...น่ากลัวจะตาย...” พออีกฝ่ายยอมลงให้ก็เผลอหลุดปาก สึนะแทบอยากจะกระโดดลงจากท้ายรถมอเตอร์ไซต์
คนฟังนิ่งเงียบอยู่พัก “เอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะยอมตามใจนายหนึ่งวัน...ว่ามาอยากกินอะไร?”
“แน่นะครับ?” ดวงตากลมโตพยายามมองใบหน้าของคนที่ตนกอดเอวอยู่
รู้สึกเหมือนเส้นประสาทจะกระตุก “หรืออยากให้ฉันเปลี่ยนใจขย้ำนายตอนนี้เลย?” ดวงตาสีดำปราดมอง เล่นเอาคนถามกลืนน้ำลายฝืดคอ
“งะ....งั้นก็...เนื้อย่างก็ได้ครับ....”
“แล้วอะไรอีก?”
“อะ....เอ๋....” มือหนึ่งรีบยกขึ้นปิดปาก “คะ...เค้กก็ได้ครับ”
“เค้ก?”
“ถ้าคุณฮิบาริไม่ชอบจะทานอย่างอื่นก็ได้นะครับ!!”
“ไม่”
ฮิบาริเร่งเครื่องยนต์ พุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง ท่ามกลางแสงสีของดวงไฟที่ประดับประดาถนนและร้านค้ายามค่ำคืน ผู้คนมากมายสัญจร ออกมาหาความสุขสำราญในช่วงเวลาหลังเลิกงาน การพะกผ่อนกับภาพที่ดูจะเป็นสีสันของชีวิตนี่ก็ทำเอาคนมองตื่นเต้นไม่น้อย
สึนะเงยหน้ามองป้ายร้านเนื้อย่างตรงหน้า ถ้าจำไม่ผิดไอ้ร้านนี้มันราคาโคตรแพงเลยไม่ใช่หรือไง?! “คุณฮิบาริครับ!!”
“ห้องพิเศษ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกพนักงานต้อนรับ
“ได้ค่ะ” เธอค้อมศีรษะให้เด็กหนุ่ม
ดวงตาคมหันมองร่างที่ยืนทำสีหน้าประหลาด “เข้ามาสิ” พลางถือวิสาสะจับมือเล็กนั่นไว้แล้วลากเข้าไปด้านใน
ก็ไม่รู้ว่าอิทธิพลของฮิบาริจะมีมากแค่ไหน แต่ดูจากร้านใหญ่ขนาดนี้ยังสามารถสั่งได้.... “คุณฮิบาริรู้จักร้านนี้หรือครับ?” สึนะเอ่ยถามขณะนั่งอยู่หน้าอาหารชุดใหญ่
“นิดหน่อย...พวกร้านที่อยู่ในคุ้มครอง” เขาว่าพลางยกชาขึ้นดื่ม
กว่าจะทานเสร็จก็ปาไปชั่วโมงกว่า ๆ เกิดมาเพิ่งจะเคยกินเนื้อย่างที่หรูและอร่อยขนาดนี้ เล่นเอาสึนะแทบจะทานอะไรไม่ลง แถมเวลาก็ปาไปจะห้าทุ่มแล้ว ป่านนี้ร้านเค้กคงปิดหมด
“เค้กใช่ไหม?”
“ไม่ไหวแล้วครับ! แค่นี้ก็เยอะแล้ว แถมดูจากราคาอาหารชุดนี้....ผมไม่มีปัญหาจายหรอกนะครับ”
“ฉันเลี้ยง” เขาตอบสั้น ๆ
“ไม่อ่ะครับ ผมเกรงใจ” สึนะรีบปฏิเสธ
ทอนฟาสีเงินวาววับถูกงัดขึ้นมาจ่อลำคอขาว “งั้นก็จ่ายมาเดี๋ยวนี้ ไม่จ่ายฉันจะขย้ำนายให้ตาย”
ใบหน้าหวานซีดเผือด สรุปแล้วเขาก็ต้องยอมให้อีกฝ่ายเลี้ยงจริง ๆ แถมตลอดชั่วโมงฮิบาริแทบกินแบบนับชิ้นได้ มีแต่เขานี่แหละที่ตะบี้ตะบันกินซะ....ก็ใครจะไปรู้ว่าเลี้ยงล่ะ นึกว่าหารกันก็เลยกะกินให้คุ้ม..
เขาและฮิบาริมาถึงร้านเค้กร้านหนึ่ง มันเป็นร้านเล็ก ๆ ที่จัดร้านในแบบยุโรป สึนะมองเค้กหน้าตาหน้าทานที่ถูกวางไว้ในตู้กระจกภายในก็ถึงกับน้ำลายสอ ว่าอิ่มแล้วนะ แต่ความน่ากินของมันทำให้อดจะอยากชิมไม่ได้จริง ๆ
สึนะนั่งลงที่โต๊ะริมกำแพงภายในร้าน กว่าจะเลือกชิ้นที่อยากกินที่สุดได้ก็นานอยู่ “เฮ้อ....ถ้าราคาไม่แพงก็ดีสิ จะได้หาเวลาชวนพวกนั้นมากินบ้าง” เสียงหวานพึมพำ
นี่ก็ร่วมสิบนาทีแล้ว เขาก้มลงมองนาฬิกา นอกจากเค้กจะมาช้า ฮิบาริเองก็หายตัวไปเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า แต่คนอย่างฮิบาริหากเป็นอะไรไปง่าย ๆ ก็คงไม่น่ากลัวขนาดนี้หรอก “เอ....ช้าจัง...”
ดวงตาสีน้ำตาลมองไปรอบ ๆ จะว่านอกจากโต๊ะเขาแล้วก็ไม่มีแขกคนไหนเลย หรือว่าร้านนี้ไม่อร่อย? แต่ลองเป็นร้านที่ฮิบาริพามาก็น่าจะมีชื่ออยู่.... “หวา...เที่ยงคืนแล้วเหรอเนี่ย!!”
เสียงลูกตุ้มในนาฬิกาโบราณเรือนใหญ่เลื่อนกระทบกันไปมา บ่งบอกเวลาที่เข้าสู่วันใหม่ สึนะเป็นกังวลอย่างมาก ป่านนี้ที่บ้านคงเป็นห่วงแย่แล้วแน่ ๆ แถมดันบอกว่าจะกลับอีก
“หรือว่าจะกลับก่อนดี....แต่ขืนทำแบบนั้นพรุ่งนี้โดนคุณฮิบาริตามมาฆ่าที่บ้านแน่ ๆ...”
แล้วจู่ ๆ ไฟในร้านก็ดับวูบลง สึนะหันรีหันขวาง ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไฟดับ? ไฟตก?? หรือเกิดอะไรขึ้น?? “อะ....เอ่อ...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ?” เขาเอ่ยถามพนักงานภายในร้าน
แต่สิ่งที่ปรากฏกลับกลายเป็นเปลวเทียนสว่างที่ลุกโชติอยู่บนเค้กก้อนโต สึนะมองมันอย่างแปลกใจ พลางหันมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง “เอ...” อดนึกสงสัยว่าใครมาจัดวันเกิดรึไง??
เค้กก้อนโตที่ประดับด้วยเทียนหลายแท่งนั่นถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะของเขา เบื้องหน้าเขา “เห?”
“วันเกิดนายไม่ใช่หรือไง?” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นด้านหลัง ดวงตากลมโตหันมอง
ในมือของฮิบาริมีกล่องของขวัญเล็ก ๆ อยู่ เด็กหนุ่มยื่นให้ “รับสิ...แล้วก็เป่าเทียนซะ”
สึนะงงไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก มือเล็กค่อย ๆ ยื่นไปรับของขวัญกล่องนั้น แล้วหันหน้ามองตามร่างอีกฝ่ายที่เดินไปนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามเขา “เอาสิ...”
วันเกิด....นั่นสิ เลยเที่ยงคืนก็เป็นวันเกิดเขานี่นา...ฉลองวันเกิดงั้นหรือ? นึกถึงปีที่ผ่าน ๆ มาจัง แต่นี่เป็นครั้งแรกสินะที่เขาได้มาฉลองวันเกิดกับฮิบาริ อ่า....อยากขอบคุณรีบอร์นขึ้นมาจัง
การฉลองวันเกิดกับคนที่เราแอบหลงใหล มันเป็นเรื่องที่สุดยอดไปเลยสินะ “ขอบคุณครับ” สึนะหลับตาลง อธิษฐานก่อนเป่าเที่ยนทั้งหมดให้ดับในครั้งเดียว
ดวงไฟทั้งหมดส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง “ให้เอากลับบ้านแล้วกัน ดึกป่านนี้แล้วนายคงกังวล” ฮิบาริว่าอย่างรู้เท่าทันความคิด นั่นสิ...เมื่อครู่เขายังเป็นห่วงอยู่เลยนี่นา
สึนะซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซต์ของฮิบาริ แขนทั้งสองโอบรอบเอวไว้แน่น ใบหน้าหวานซุกลงกับแผ่นหลังกว้าง อะไรบางอย่างแปรเปลี่ยนไป เพียงชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
รวดเร็ว...แต่ก็ลึกซึ้ง...
เขารู้สึกว่าเวลามันเดินไวกว่าปกติมากมายนัก ทันทีที่ปลายเท้าของตนแตะลงบนพื้นปูนหน้าบ้าน “ขอบคุณ....สำหรับวันนี้นะครับ” รอยยิ้มหวานแต้มบนใบหน้าอย่างจริงใจ ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไปดี มันมีความสุข ตื้นตันไปหมด
ใบหน้าคมมองจ้อง “ไม่เป็นไร...อย่าลืมเปิดดูล่ะ”
ดวงตาสีน้ำตาลมองแผ่นหลังนั่นไปจนสุดลูกตา พลางก้มลงมองกล่องของขวัญเล็ก ๆ ในมือ “ขอบคุณมากครับ...”
ขอบคุณสำหรับวันเกิดที่มีค่า....ขอบคุณสำหรับความทรงจำที่แสนดี
แหวนหนึ่งวงถูกห่อด้วยกระดาษสีขาว
‘สำหรับคนที่ฉันจะให้เอาแต่ใจไปได้ตลอดชีวิต’
END.
ความคิดเห็น