ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม Short Fanfiction Katekyo Hitman Reborn [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #11 : Gift (6927) - Warning NC17! -

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 52


    href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Cxxx%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml" />



    คำอวยพรที่มีค่ามากที่สุดในโลก

     

     

    คำอวยพรจากคุณ

     

     

    ของขวัญที่มีค่าที่สุดในโลก

     

     

    ของขวัญจากคุณ

     

     

     

     

    ไม่มีอะไร...สำคัญและมีคุณค่ามากไปกว่า

     

     

    ...คุณ...

     

     

     

     

     

     

    ดวงตากลมโตยังคงเปล่งประกายอยู่ภายใต้แสงของเปลวเทียน  มันสะท้อนความอ่อนไหว  โหยหา  และโศกเศร้าอาลัยในคราเดียว  แต่กระนั้น....ถึงอย่างนั้น  มันก็ยังคงเข้มแข็ง  ไม่มีแม้หยาดน้ำตาสักหยดที่แสดงถึงความอ่อนแอของตน

     

    เพราะน้ำตา...จะทำให้คนที่จากลาห่วงหาอาวรณ์

     

    สายลมเย็นยะเยียบโบกพัด  รุนแรงจนทำเอาต้นไม้ใหญ่โอนเอนไปมา  เสียงปะทะกันของใบไม้เล็ก ๆ นับร้อยนับพันก้องกังวาน  ผสานกับเสียงของท้องฟ้าบ้าคลั่งที่เริ่มขู่คำรามเรียกร้องสายฝน

     

    หนึ่งวัน  หนึ่งสัปดาห์  หนึ่งเดือน  ....เวลาล่วงเลยมากว่าหนึ่งปีแล้ว  เขาเฝ้านับวันรอ  ทุกคืน....ทุกคืน  เฝ้ารอให้เวลาเดิม ๆ  กลับคืนสู่ตนอีกครั้ง  อ้อมกอดอันอบอุ่น  เสียงกระซิบอันหอมหวาน  ลมหายใจระเรื่อที่เรียกเอาความร้อนจากร่างกายของเขาให้ปะทุขึ้นได้ทุกครั้ง

     

     

    มุคุโร่

     

     

    มุคุโร่

     

     

     

    นายอยู่ไหนกัน?

     

     

    กี่สิบกี่ร้อยครั้งที่หยาดน้ำใสต้องร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน  กี่ร้อยกี่พันหนที่เสียงสะอื้นแห่งความเจ็บปวดดังอยู่อย่างเงียบเชียบ  ไม่มีใครได้ยิน  ไม่มีใครรับรู้  หากแต่แค่เห็น....แค่มองผ่าน  มันก็บีบหัวใจผู้เฝ้ามองจนแทบคลั่ง

     

      วันนี้....ครบหนึ่งปีที่นายหายไป  และวันนี้....ก็เป็นวัน... 

     

    วันครบรอบวันเกิดของนาย

     

    สึนะนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาตัวใหญ่  มองเค้กเบื้องหน้าที่เขาตั้งใจทำมันเองกับมือ  เปลวเทียนทั้งสิบสองเล่มยังคงสว่างไสว  แม้จะถูกแรงลมที่เล็ดลอดจากภายนอกเข้ามาทำให้ไหววูบในบางครั้งบางคราวก็ตาม

     

    แต่ยังคงเชื่อมั่น....เชื่อมั่นว่าจะกลับมา

     

    ดวงตากลมโตเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาตุ้มโบราณเรือนใหญ่  เข็มยาวของมันค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ เข้าหาตัวเลขด้านบนสุด  บ่งบอกถึงวันเวลาที่กำลังจะแปรเปลี่ยนไป 

     

    หากพูดกันตามจริง...นี่จะเป็นวันเกิดปีแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง  เป็นวันเกิดครั้งแรกของมุคุโร่ที่ไม่มีเจ้าของวันเกิดมาอยู่เคียงข้าง  หลายปีที่ผ่าน....ทุกครั้งที่ผ่านมา  วัน ๆ นี้จะเปรียบเสมือนวันแห่งความอบอุ่น  วันที่เขาแสนจะยินดี

     

    มันเป็นวันแรกที่เขาได้รับรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน...

    มันเป็นวันแรกที่เขาสามารถเข้าถึงจิตใจที่ถูกปิดกั้นนั่นได้....

     

    เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาดังสนั่นทั่วห้อง  คนเหม่อลอยสะดุ้งด้วยความตกใจ  ก่อนจะหันมองรอบ ๆ อย่างระแวดระวังตามความเคยชิน  มือบางเลื่อนขึ้นสัมผัสหน้าอก  พลางถอนหายใจเบา ๆ

     

      เที่ยงคืนแล้ว...สุขสันต์วันเกิดนะมุคุโร่ 

    สึนะมองที่เค้กก้อนนั้น  เค้กก้อนที่เคยสัญญาว่าจะเป็นคนลงมือทำมันขึ้นด้วยตนเอง  แต่ทำไม....ในเมื่อฉันรักษาสัญญาแล้ว  แต่ทำไมนายถึงไม่รักษาสัญญาบ้าง!! นายหายไปไหนมุคุโร่!! นายหายไปไหน!!

     

    สิ่งที่หายไปนาน  น้ำตาที่ถูกข่มกลั้นไว้  มาบัดนี้มันได้หลั่งรินออกมาอย่างยากจะห้าม  ไหลลงใส่เปลวเทียนที่ส่องสว่างให้ดับวูบลง  สึนะยกมือขึ้นปิดใบหน้า  ร้องไห้ออกมาอย่างไม่สนใจใคร  ร่างบางสะอื้นหนัก  หอบขนตัวโยน

     

    โหยหา....คิดถึง

     

      น้ำตาหยดลงไปแบบนั้น  เค้กก็หมดอร่อยพอดีสิครับ    เสียงทุ้มเอ่ยเจือขบขัน

     

    เสียงร้องไห้อย่างเด็กเล็กเงียบลงทันที  เหลือเพียงแต่เสียงสะอื้นเบา ๆ  ใบหน้าหวานที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาค่อย ๆ หันมองต้นเสียง  ดวงตาบวมช้ำพยายามเปิดมองใบหน้าของผู้พูด

     

    ใบหน้า....ที่คิดถึงมาหนึ่งปีเต็ม ๆ

    น้ำเสียง....ที่เฝ้าคร่ำหามากว่าหนึ่งปีเต็ม ๆ

     

    ร่างเล็กลุกขึ้นวิ่งไปโอบกอดผู้มาเยือน  อีกฝ่ายอ้าแขนรับความคิดถึงนั่น  ทั้งสองกอดกันแน่น  สัมผัสยาวนานราวกับหุ่นที่ถูกแช่แข่งไว้   มุคุโร่ซุกหน้าลงบนเส้นผมนุ่ม  คิ้วเรียวขมวดราวคนกำลังร้องไห้หนัก

     

      คิดถึงเหลือเกินครับ  คิดถึงมากมายเหลือเกิน 

     

    สึนะพูดไม่ออก  ได้แต่พยักหน้ารับ  กลิ่น  ความอ่อนโยน  ความอบอุ่นที่ได้รับในเวลานี้  เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี  ว่ามันไม่ใช่ความฝัน  และไม่ใช่ภาพนิมิตที่ก่อตัวขึ้นแต่อย่างใด

     

    ความจริงที่เฝ้าฝัน

     

    ร่างเล็กค่อย ๆ ผละออก  มือเรียวเลื่อนสัมผัสใบหน้าคม  มอง.....จ้องมองอย่างเต็มสองตา  ยืนยัน....ยืนยันให้มั่นใจด้วยตัวของตนเอง    นายกลับมา....นายกลับมาแล้ว 

     

      ครับ....ผมกลับมาแล้ว    ริมฝีปากได้รูปจุมพิตลงบนมือเล็กนุ่มนั่นเบา ๆ

     

    แต่แล้วสึนะก็รับรู้ได้ถึงความเย็นของอะไรบางอย่างที่ตกกระทบลงบนมือของเขา  ดวงตากลมจ้องมองผ่านความมืดในห้อง  เขาเห็น.....เห็นน้ำตาของอีกฝ่ายที่กำลังไหลบ่าอย่างเงียบงัน 

     

      นายร้องไห้ทำไม? 

     

    มุคุโร่ส่ายศีรษะ    ผมไม่ได้ร้องไห้ครับ 

     

      แล้วมันอะไรกันล่ะ? 

    ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ    มันคือน้ำตาของคุณ.... 

     

    น้ำตาที่คุณได้รินหลั่งให้กับผม

    รินหลั่งให้กับความรู้สึกที่คุณมีต่อผมอย่างมากมาย

     

    สึนะหัวเราะเบา ๆ แล้วก้มลงจูบซับน้ำตาบนใบหน้าคมนั้น    น้ำตาของฉัน  ฉันก็ต้องร้องเองสิ  ถ้านายร้อง  มันก็ต้องเป็นน้ำตาของนาย.... 

     

      แต่....เป็นน้ำตาของฉันก็ได้นะ  เพราะฉันจะเสียใจมาก  หากนายร้องไห้เพราะฉัน 

     

    ท้องฟ้าสดใสเปรยยิ้มท่ามกลางเมฆหมอกสีดำสนิทและพายุฝนอันบ้าคลั่ง  ธรรมชาติผู้รังสรรค์ความไม่คาดคิดยังไม่อาจสั่นคลอนความงดงามนี้ลงได้  มุคุโร่มองภาพนั้น....แล้วหลับตา....

     

    จดจำ....จะขอจดจำไปจนวันตาย

     

      จริงสิ!! ถึงจะเอ่ยไปแล้ว  แต่คงไม่เป็นไร  มานี่สิ    สึนะดึงมืออีกฝ่ายให้เดินตามตนไปยังโต๊ะรับแขกซึ่งไม่ไกลจากตรงนั้นมากนัก  ก่อนลงมือจุดเทียนที่เริ่มมอดไหม้นั่นอีกครั้ง

     

    ดวงตาสองสีจ้องมองกริยานั้นทุกกระเบียดนิ้ว  ไม่มีอะไรที่เล็ดลอดสายตาของเขาไปได้แม้แต่น้อย  รอยยิ้มแห่งความสุข  ริมฝีปากบางที่พึมพำพร่ำบนอะไรต่อมิอะไรตลอดเวลา 

     

      สุขสันต์วันเกิดนะมุคุโร่  เอ้า! เป่าเทียนสิ  แล้วอธิษฐานด้วยนะ!! 

     

    เค้กก้อนเดิมถูกยกมาไว้ตรงเบื้องหน้า  มุคุโร่หลับตาลงชั่วครู่ก่อนจะเป่าเทียนนั้นให้ดับหมดในรวดเดียว  สึนะวางเค้กลงก่อนจะปรบมือดีใจเป็นการใหญ่    เขาว่าเป่าเทียนหมดในครั้งเดียว  สิ่งที่ขอจะสมหวังล่ะ!! 

     

    มุคุโร่ยิ้มเอ็นดู  พลางดึงมืออีกฝ่ายให้มานั่งลงบนตักตน  แขนแกร่งกอดรอบเอวบางแน่น    แล้วไม่อยากรู้หรือครับว่าผมขออะไร? 

     

    ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ    ไม่ล่ะ...ฉันไม่อยากให้มันไม่เป็นความจริง  ของแบบนี้เขาห้ามบอกกันรู้รึเปล่า 

     

      แต่ผมอยากบอกคุณนะ    ชายหนุ่มหัวเราะ

     

      ไม่กลัวจะไม่เป็นความจริงหรือไง?   

     

    มุคุโร่นิ่งไปพัก    ไม่หรอกครับ  เพราะมีแต่คุณคนเดียวที่จะทำให้คำอธิษฐานของผมเป็นจริงได้ 

     

    สึนะทำท่าสงสัย  คำขอของมุคุโร่คืออะไร  แล้วทำไมถึงมีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้มันเป็นจริงได้  แต่ก็อย่างว่าละนะ....แต่ไหนแต่ไรมา  มุคุโร่ก็ไม่เคยเชื่อในพระเจ้าอยู่แล้วนี่นา....

     

      อยากฟังไหมล่ะครับ? 

    ร่างเล็กในอ้อมแขนกอดอก    อยากฟังก็ได้ 

     

    ริมฝีปากได้รูปอ้าออกเหมือนจะขยับเอาคำพูดบางอย่างออกมา  แต่แล้วก็กลับปิดลงแล้วนิ่งไป    ผมว่าผมไม่บอกดีกว่า 

     

    ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง  เบนกายไปมองหน้าอีกฝ่าย    ทำไมแบบนั้นล่ะ! ทีอยากฟังก็ไม่ยอมพูด!! 

     

    มุคุโร่อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังอ่อนพลิกกายคร่อมทับพร้อมกดอีกฝ่ายลงแนบผืนโซฟานุ่ม   สึนะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน 

     

      แกล้งกันนี่นา    คนถูกแกล้งมองหน้าคนแกล้งพลางทำหน้าบูด

     

    มุคุโร่หัวเราะในลำคอเบา ๆ    ไว้เสร็จธุระแล้วผมจะบอก... 

     

    สึนะไม่ได้รังเกียจหรือปฏิเสธทั้งที่รู้ความหมายของคำพูดนั้น  ระยะเวลา  ความห่างไกลกันเป็นเวลานานทำให้พวกเขาต่างโหยหากันและกัน  มันไม่ใช่การกระทำเพื่อบำบัดความต้องการ  ไม่ใช่การกระทำที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่หรือข้ามคืน  สำหรับพวกเขา....สำหรับคนทั้งคู่  มันคือการแบ่งปันความอบอุ่น  ถ่ายทอดความรักที่มีให้แก่กัน...

     

    อาภรณ์ที่สวมใส่ถูกถอดออกอย่างง่ายดาย  ร่างสองร่างตระกองกอดแนบแน่นจนรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิและความชื้นของคราบเหงื่อไคล  เสียงลมหายใจหอบถี่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นอย่างเกินห้าม

     

    ริมฝีปากได้รูปจุมพิตสัมผัสผิวใสบอบบางอย่างเชื่องช้า  อ่อนโยน  สูดกลิ่นความหอมหวานที่แสนคิดถึง  มือแกร่งเลื่อนแปะป่ายทั่ว    คุณผอมลงนะครับ... 

     

    ดวงตากลมโตหยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์ช้อนขึ้นมองดวงตาสองสีของผู้พูด    นายก็เหมือนกัน    สึนะเองก็รับรู้ได้ถึงรูปร่างที่แปรเปลี่ยนไปของอีกฝ่ายเช่นกัน 

     

    ยิ่งทำให้เขาอยากรู้เหลือเกินว่าช่วงเวลาหนึ่งปีนั้นมุคุโร่หายไปไหน?

     

    แต่ความคิดที่แล่นขึ้นก็มีอันต้องสลายไปพลันเมื่อคนที่เขาคิดถึงนั้นกำลังมอบสัมผัสบางอย่างให้  เสียงหวานครางออกมาจากลำคออย่างเกินห้าม  ร่างกายแอ่นเกร็งรับเรียวลิ้นร้อนที่โลมเลียบริเวณยอดอก

     

      อึ....     แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก  เขาก็ยังคงอายอยู่ดี  เสียงที่เปล่งออกมาจึงได้แต่ข่มกลั้นไว้  ไม่ระบายออกมาอย่างเต็มที่

     

    มุคุโร่หัวเราะเบา  ก่อนเลื่อนใบหน้าลงต่ำอย่างช้า ๆ เหมือนจงใจให้ลมหายใจของตนเองกระทบกับผิวเนื้อบริเวณที่ผาดผ่าน  สึนะสั่นไหวและอ่อนระทวยทุกครั้งที่รับรู้ถึงลมหายใจร้อน ๆ นั่น

     

    ชายหนุ่มครอบครองส่วนกลางที่แสนบอบบางนั่นอย่างไม่รอช้า  ริมฝีปากและเรียวลิ้นทำหน้าที่สร้างอารมณ์และความเสียวซ่านได้อย่างยอดเยี่ยม  สึนะเผลอเปล่งเสียงร้องครางออกมาดัง  มือบางทั้งสองขยุ้มเส้นผมสีน้ำเงินเข้มแน่น

     

       มะ...มุคุโร่! อ๊ะ!! 

     

    คนถูกเรียกชื่อเผยยิ้มอย่างพึงใจ  ปากยังคงขยับขึ้นลงทำงานจนร่างด้านล่างแทบทนไม่ได้  อยากจะปลดปล่อยสิ่งที่อดกลั้นไว้เสียเดี๋ยวนั้น  มุคุโร่พอรับรู้ได้จึงหยุดการกระทำลงเสียดื้อ ๆ  เปลี่ยนมาเป็นการรุกรานทางช่องทางที่ถูกปิดแน่นไว้เนิ่นนานแทน

     

    นิ้วเรียวยาวซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยบางอย่างค่อย ๆ ถูกสอดใส่เข้า  ทีละนิด.....ทีละนิด  สึนะพอสัมผัสได้ถึงความแปลกปลอมที่ล่วงเข้ามาร่างกายก็เริ่มเกิดอาการเกร็งทันที 

     

    ตั้งแต่มุคุโร่จากไปเขาก็ไม่เคยมีสัมผัสกับใคร  ฉะนั้นระยะเวลาที่ห่างหายไปนั่น  มันก็ทำให้ความเคยชินที่เกิดขึ้นจางหายไปด้วย  ในตอนนี้เขาจึงไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่รู้ประสาเรื่องแบบนี้

     

    มุคุโร่เองก็รับรู้ได้เช่นนั้น  เขาจึงหยุดนิ้วมือ   แล้วเลื่อนตัวขึ้นปลอบประโลมอีกฝ่าย    ไม่เป็นไรนะครับ   

     

    ริมฝีปากของชายหนุ่มประกบลงบนริมฝีปากสีแดงระเรื่อ  บางเบา....ก่อนค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้นจนเร่าร้อนเกินห้าม  ลิ้นยาวถูกส่งเข้าไปพัวพันควานหาความหอมหวาน  ทำเอาสมองหมุนคว้าง  ลืมความเจ็บด้านล่างจนผ่อนคลายลง

     

    เมื่อสิ่งที่บีบรัดคลายตัว  มุคุโร่จึงเริ่มทำสิ่งเดิมอีกครั้ง  และทุกครั้งที่มีการบีบรัด  เขาก็จะทำแบบเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา

     

      ผมรักคุณนะครับ  สึนะโยชิคุง    เสียงทุ้มหวานกระซิบด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงถึงขีดสุด 

     

    นิ้วเรียวถูกถอนออกหลังจากทำหน้าที่เบิกทาง  ก่อนแก่นกายแข็งขนาดใหญ่จะถูกสอดใส่เข้ามาแทนที่   สึนะเกร็งตัวอีกครั้ง  หยาดน้ำตาไหลกลบใบหน้า  ความเจ็บปวดแล่นริ้วเหมือนร่างกายกำลังจะฉีกขาดออกเป็นชิ้น ๆ

     

      เจ็บหรือครับ?    ดวงตาสองสีมองใบหน้าคนรักที่บัดนี้แสดงออกถึงความทรมานอย่างปวดใจ

     

    สึนะที่รับรู้ถึงบางสิ่งซึ่งค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกก็ยกมือขึ้นโอบรัดอีกฝ่ายไว้แน่น    ไม่....ไม่เป็นไร  ทำต่อเถอะมุคุโร่  ฉันไม่เป็นไร    เสียงหวานเอ่ยเบา

     

    เขาทิ้งร่างที่พยายามโอบกอดนั่นลงบนโซฟานุ่ม  แล้วแหงนมองใบหน้าคมที่บัดนี้คิ้วขมวดกันมุ่น    ฉัน...ต้องการนาย  ต้องการนายมากที่สุด   

     

    รอยยิ้มหวานที่เผยให้เห็นเรียกเอาหยาดน้ำตาของสายหมอกผู้หลอกลวงนั้นให้ไหลลงอีกครั้ง  มุคุโร่จับมือบางขึ้นแนบแก้มตน  สูดดมสัมผัสเปิดเผยถึงความรักที่มีให้อย่างไม่ปิดบัง   สึนะมองภาพนั้นก่อนยิ้มอีกครั้ง

     

      ผมเองก็ต้องการคุณที่สุดครับ  คุณเท่านั้น 

     

    มุคุโร่ค่อย ๆ เคลื่อนกายเข้าอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนที่สุด  แต่กระนั้นมันก็ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้แก่สึนะ  แต่ตลอดเวลา....อีกฝ่ายจะโอบกอดแผ่นหลังแกร่งไว้แน่น  โอบกอดด้วยแรงทั้งหมดที่มี

     

    เมื่อความเจ็บปวดเริ่มกลายเป็นอารมณ์  อารมณ์เริ่มกลายเป็นความต้องการอย่างสุดห้าม  แรงถาโถมที่เคยก็เริ่มรุกรานอย่างรวดเร็วขึ้น  แก่นกายกระชั้นจนคนรับสัมผัสต้องเปล่งเสียงร้องครางออกมา

     

      อะ....อ๊ะ...มุคุ....มุคุโร่!! 

     

    กลิ่นกายหอมหวาน  หยาดเหงื่ออันร้อนระอุ  ร่างสองร่างสัมผัสภายใต้อุณหภูมิแห่งสายฝนซึ่งเย็นเฉียบ  ไอแห่งความรักความคิดถึงลอยวนอยู่ทั่ว  คุกรุ่นจนน่าอิจฉา

     

    มุคุโร่ปลดปล่อยทุกสิ่งออกมาในเวลาหลังจากนั้น  เช่นเดียวกับสึนะที่บัดนี้นอนหอบหนักอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง  เปลือกตาบางหลับพริ้ม  เหนื่อยอ่อนทางร่างกาย  แต่ไม่ได้เหนื่อยอ่อนทางจิตใจตามไปด้วย

     

    เพราะได้รับการเติมเต็ม...ความรักและความอบอุ่น

     

      ขอโทษนะครับ  ที่ทำให้คุณทรมาน    มุคุโร่จุมพิตบริเวณหน้าผากที่ชื้นไปด้วยเหงื่อนั่นเบา ๆ

     

    สึนะคลี่ยิ้มเหนื่อยอ่อน    ไม่....ไม่ได้ทรมานเลย  ฉันมี....ความสุขมาก.... 

     

    กล่าวเพียงแค่นั้นก็ผล็อยหลับลงในอ้อมกอด  ดวงตาสองสีที่รับรู้ได้ถึงจังหวะหายใจก็ก้มลงมอง  มือแกร่งเลื่อนสัมผัสใบหน้างามอีกครั้ง  พลางปาดเอาน้ำตาและหยาดเหงื่อที่ไหลปะปนกันออก 

     

      ผมก็มีความสุขมาก....เช่นกันครับ 

     

     

     

     

     

    ผมอธิษฐาน....ขอให้ผมได้ยินคำอวยพรของคุณเช่นนี้

     

    ....ตลอดไป.....

     

     

     

     

     

     

     

     

    ==================END================
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×