คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Gift (6927) - Warning NC17! -
คำอวยพรที่มีค่ามากที่สุดในโลก
คำอวยพรจากคุณ
ของขวัญที่มีค่าที่สุดในโลก
ของขวัญจากคุณ
ไม่มีอะไร...สำคัญและมีคุณค่ามากไปกว่า
...คุณ...
ดวงตากลมโตยังคงเปล่งประกายอยู่ภายใต้แสงของเปลวเทียน มันสะท้อนความอ่อนไหว โหยหา และโศกเศร้าอาลัยในคราเดียว แต่กระนั้น....ถึงอย่างนั้น มันก็ยังคงเข้มแข็ง ไม่มีแม้หยาดน้ำตาสักหยดที่แสดงถึงความอ่อนแอของตน
เพราะน้ำตา...จะทำให้คนที่จากลาห่วงหาอาวรณ์
สายลมเย็นยะเยียบโบกพัด รุนแรงจนทำเอาต้นไม้ใหญ่โอนเอนไปมา เสียงปะทะกันของใบไม้เล็ก ๆ นับร้อยนับพันก้องกังวาน ผสานกับเสียงของท้องฟ้าบ้าคลั่งที่เริ่มขู่คำรามเรียกร้องสายฝน
หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน ....เวลาล่วงเลยมากว่าหนึ่งปีแล้ว เขาเฝ้านับวันรอ ทุกคืน....ทุกคืน เฝ้ารอให้เวลาเดิม ๆ กลับคืนสู่ตนอีกครั้ง อ้อมกอดอันอบอุ่น เสียงกระซิบอันหอมหวาน ลมหายใจระเรื่อที่เรียกเอาความร้อนจากร่างกายของเขาให้ปะทุขึ้นได้ทุกครั้ง
มุคุโร่
มุคุโร่
นายอยู่ไหนกัน?
กี่สิบกี่ร้อยครั้งที่หยาดน้ำใสต้องร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน กี่ร้อยกี่พันหนที่เสียงสะอื้นแห่งความเจ็บปวดดังอยู่อย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครรับรู้ หากแต่แค่เห็น....แค่มองผ่าน มันก็บีบหัวใจผู้เฝ้ามองจนแทบคลั่ง
“ วันนี้....ครบหนึ่งปีที่นายหายไป และวันนี้....ก็เป็นวัน... ”
วันครบรอบวันเกิดของนาย
สึนะนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ มองเค้กเบื้องหน้าที่เขาตั้งใจทำมันเองกับมือ เปลวเทียนทั้งสิบสองเล่มยังคงสว่างไสว แม้จะถูกแรงลมที่เล็ดลอดจากภายนอกเข้ามาทำให้ไหววูบในบางครั้งบางคราวก็ตาม
แต่ยังคงเชื่อมั่น....เชื่อมั่นว่าจะกลับมา
ดวงตากลมโตเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาตุ้มโบราณเรือนใหญ่ เข็มยาวของมันค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ เข้าหาตัวเลขด้านบนสุด บ่งบอกถึงวันเวลาที่กำลังจะแปรเปลี่ยนไป
หากพูดกันตามจริง...นี่จะเป็นวันเกิดปีแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง เป็นวันเกิดครั้งแรกของมุคุโร่ที่ไม่มีเจ้าของวันเกิดมาอยู่เคียงข้าง หลายปีที่ผ่าน....ทุกครั้งที่ผ่านมา วัน ๆ นี้จะเปรียบเสมือนวันแห่งความอบอุ่น วันที่เขาแสนจะยินดี
มันเป็นวันแรกที่เขาได้รับรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน...
มันเป็นวันแรกที่เขาสามารถเข้าถึงจิตใจที่ถูกปิดกั้นนั่นได้....
เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาดังสนั่นทั่วห้อง คนเหม่อลอยสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนจะหันมองรอบ ๆ อย่างระแวดระวังตามความเคยชิน มือบางเลื่อนขึ้นสัมผัสหน้าอก พลางถอนหายใจเบา ๆ
“ เที่ยงคืนแล้ว...สุขสันต์วันเกิดนะมุคุโร่ ”
สึนะมองที่เค้กก้อนนั้น เค้กก้อนที่เคยสัญญาว่าจะเป็นคนลงมือทำมันขึ้นด้วยตนเอง แต่ทำไม....ในเมื่อฉันรักษาสัญญาแล้ว แต่ทำไมนายถึงไม่รักษาสัญญาบ้าง!! นายหายไปไหนมุคุโร่!! นายหายไปไหน!!
สิ่งที่หายไปนาน น้ำตาที่ถูกข่มกลั้นไว้ มาบัดนี้มันได้หลั่งรินออกมาอย่างยากจะห้าม ไหลลงใส่เปลวเทียนที่ส่องสว่างให้ดับวูบลง สึนะยกมือขึ้นปิดใบหน้า ร้องไห้ออกมาอย่างไม่สนใจใคร ร่างบางสะอื้นหนัก หอบขนตัวโยน
โหยหา....คิดถึง
“ น้ำตาหยดลงไปแบบนั้น เค้กก็หมดอร่อยพอดีสิครับ ” เสียงทุ้มเอ่ยเจือขบขัน
เสียงร้องไห้อย่างเด็กเล็กเงียบลงทันที เหลือเพียงแต่เสียงสะอื้นเบา ๆ ใบหน้าหวานที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาค่อย ๆ หันมองต้นเสียง ดวงตาบวมช้ำพยายามเปิดมองใบหน้าของผู้พูด
ใบหน้า....ที่คิดถึงมาหนึ่งปีเต็ม ๆ
น้ำเสียง....ที่เฝ้าคร่ำหามากว่าหนึ่งปีเต็ม ๆ
ร่างเล็กลุกขึ้นวิ่งไปโอบกอดผู้มาเยือน อีกฝ่ายอ้าแขนรับความคิดถึงนั่น ทั้งสองกอดกันแน่น สัมผัสยาวนานราวกับหุ่นที่ถูกแช่แข่งไว้ มุคุโร่ซุกหน้าลงบนเส้นผมนุ่ม คิ้วเรียวขมวดราวคนกำลังร้องไห้หนัก
“ คิดถึงเหลือเกินครับ คิดถึงมากมายเหลือเกิน ”
สึนะพูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับ กลิ่น ความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ได้รับในเวลานี้ เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี ว่ามันไม่ใช่ความฝัน และไม่ใช่ภาพนิมิตที่ก่อตัวขึ้นแต่อย่างใด
ความจริงที่เฝ้าฝัน
ร่างเล็กค่อย ๆ ผละออก มือเรียวเลื่อนสัมผัสใบหน้าคม มอง.....จ้องมองอย่างเต็มสองตา ยืนยัน....ยืนยันให้มั่นใจด้วยตัวของตนเอง “ นายกลับมา....นายกลับมาแล้ว ”
“ ครับ....ผมกลับมาแล้ว ” ริมฝีปากได้รูปจุมพิตลงบนมือเล็กนุ่มนั่นเบา ๆ
แต่แล้วสึนะก็รับรู้ได้ถึงความเย็นของอะไรบางอย่างที่ตกกระทบลงบนมือของเขา ดวงตากลมจ้องมองผ่านความมืดในห้อง เขาเห็น.....เห็นน้ำตาของอีกฝ่ายที่กำลังไหลบ่าอย่างเงียบงัน
“ นายร้องไห้ทำไม? ”
มุคุโร่ส่ายศีรษะ “ ผมไม่ได้ร้องไห้ครับ ”
“ แล้วมันอะไรกันล่ะ? ”
ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ “ มันคือน้ำตาของคุณ.... ”
น้ำตาที่คุณได้รินหลั่งให้กับผม
รินหลั่งให้กับความรู้สึกที่คุณมีต่อผมอย่างมากมาย
สึนะหัวเราะเบา ๆ แล้วก้มลงจูบซับน้ำตาบนใบหน้าคมนั้น “ น้ำตาของฉัน ฉันก็ต้องร้องเองสิ ถ้านายร้อง มันก็ต้องเป็นน้ำตาของนาย.... ”
“ แต่....เป็นน้ำตาของฉันก็ได้นะ เพราะฉันจะเสียใจมาก หากนายร้องไห้เพราะฉัน ”
ท้องฟ้าสดใสเปรยยิ้มท่ามกลางเมฆหมอกสีดำสนิทและพายุฝนอันบ้าคลั่ง ธรรมชาติผู้รังสรรค์ความไม่คาดคิดยังไม่อาจสั่นคลอนความงดงามนี้ลงได้ มุคุโร่มองภาพนั้น....แล้วหลับตา....
จดจำ....จะขอจดจำไปจนวันตาย
“ จริงสิ!! ถึงจะเอ่ยไปแล้ว แต่คงไม่เป็นไร มานี่สิ ” สึนะดึงมืออีกฝ่ายให้เดินตามตนไปยังโต๊ะรับแขกซึ่งไม่ไกลจากตรงนั้นมากนัก ก่อนลงมือจุดเทียนที่เริ่มมอดไหม้นั่นอีกครั้ง
ดวงตาสองสีจ้องมองกริยานั้นทุกกระเบียดนิ้ว ไม่มีอะไรที่เล็ดลอดสายตาของเขาไปได้แม้แต่น้อย รอยยิ้มแห่งความสุข ริมฝีปากบางที่พึมพำพร่ำบนอะไรต่อมิอะไรตลอดเวลา
“ สุขสันต์วันเกิดนะมุคุโร่ เอ้า! เป่าเทียนสิ แล้วอธิษฐานด้วยนะ!! ”
เค้กก้อนเดิมถูกยกมาไว้ตรงเบื้องหน้า มุคุโร่หลับตาลงชั่วครู่ก่อนจะเป่าเทียนนั้นให้ดับหมดในรวดเดียว สึนะวางเค้กลงก่อนจะปรบมือดีใจเป็นการใหญ่ “ เขาว่าเป่าเทียนหมดในครั้งเดียว สิ่งที่ขอจะสมหวังล่ะ!! ”
มุคุโร่ยิ้มเอ็นดู พลางดึงมืออีกฝ่ายให้มานั่งลงบนตักตน แขนแกร่งกอดรอบเอวบางแน่น “ แล้วไม่อยากรู้หรือครับว่าผมขออะไร? ”
ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ “ ไม่ล่ะ...ฉันไม่อยากให้มันไม่เป็นความจริง ของแบบนี้เขาห้ามบอกกันรู้รึเปล่า ”
“ แต่ผมอยากบอกคุณนะ ” ชายหนุ่มหัวเราะ
“ ไม่กลัวจะไม่เป็นความจริงหรือไง? ”
มุคุโร่นิ่งไปพัก “ ไม่หรอกครับ เพราะมีแต่คุณคนเดียวที่จะทำให้คำอธิษฐานของผมเป็นจริงได้ ”
สึนะทำท่าสงสัย คำขอของมุคุโร่คืออะไร แล้วทำไมถึงมีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้มันเป็นจริงได้ แต่ก็อย่างว่าละนะ....แต่ไหนแต่ไรมา มุคุโร่ก็ไม่เคยเชื่อในพระเจ้าอยู่แล้วนี่นา....
“ อยากฟังไหมล่ะครับ? ”
ร่างเล็กในอ้อมแขนกอดอก “ อยากฟังก็ได้ ”
ริมฝีปากได้รูปอ้าออกเหมือนจะขยับเอาคำพูดบางอย่างออกมา แต่แล้วก็กลับปิดลงแล้วนิ่งไป “ ผมว่าผมไม่บอกดีกว่า ”
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง เบนกายไปมองหน้าอีกฝ่าย “ ทำไมแบบนั้นล่ะ! ทีอยากฟังก็ไม่ยอมพูด!! ”
มุคุโร่อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังอ่อนพลิกกายคร่อมทับพร้อมกดอีกฝ่ายลงแนบผืนโซฟานุ่ม สึนะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
“ แกล้งกันนี่นา… ” คนถูกแกล้งมองหน้าคนแกล้งพลางทำหน้าบูด
มุคุโร่หัวเราะในลำคอเบา ๆ “ ไว้เสร็จธุระแล้วผมจะบอก... ”
สึนะไม่ได้รังเกียจหรือปฏิเสธทั้งที่รู้ความหมายของคำพูดนั้น ระยะเวลา ความห่างไกลกันเป็นเวลานานทำให้พวกเขาต่างโหยหากันและกัน มันไม่ใช่การกระทำเพื่อบำบัดความต้องการ ไม่ใช่การกระทำที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่หรือข้ามคืน สำหรับพวกเขา....สำหรับคนทั้งคู่ มันคือการแบ่งปันความอบอุ่น ถ่ายทอดความรักที่มีให้แก่กัน...
อาภรณ์ที่สวมใส่ถูกถอดออกอย่างง่ายดาย ร่างสองร่างตระกองกอดแนบแน่นจนรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิและความชื้นของคราบเหงื่อไคล เสียงลมหายใจหอบถี่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นอย่างเกินห้าม
ริมฝีปากได้รูปจุมพิตสัมผัสผิวใสบอบบางอย่างเชื่องช้า อ่อนโยน สูดกลิ่นความหอมหวานที่แสนคิดถึง มือแกร่งเลื่อนแปะป่ายทั่ว “ คุณผอมลงนะครับ... ”
ดวงตากลมโตหยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์ช้อนขึ้นมองดวงตาสองสีของผู้พูด “ นายก็เหมือนกัน ” สึนะเองก็รับรู้ได้ถึงรูปร่างที่แปรเปลี่ยนไปของอีกฝ่ายเช่นกัน
ยิ่งทำให้เขาอยากรู้เหลือเกินว่าช่วงเวลาหนึ่งปีนั้นมุคุโร่หายไปไหน?
แต่ความคิดที่แล่นขึ้นก็มีอันต้องสลายไปพลันเมื่อคนที่เขาคิดถึงนั้นกำลังมอบสัมผัสบางอย่างให้ เสียงหวานครางออกมาจากลำคออย่างเกินห้าม ร่างกายแอ่นเกร็งรับเรียวลิ้นร้อนที่โลมเลียบริเวณยอดอก
“ อึ.... ” แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก เขาก็ยังคงอายอยู่ดี เสียงที่เปล่งออกมาจึงได้แต่ข่มกลั้นไว้ ไม่ระบายออกมาอย่างเต็มที่
มุคุโร่หัวเราะเบา ก่อนเลื่อนใบหน้าลงต่ำอย่างช้า ๆ เหมือนจงใจให้ลมหายใจของตนเองกระทบกับผิวเนื้อบริเวณที่ผาดผ่าน สึนะสั่นไหวและอ่อนระทวยทุกครั้งที่รับรู้ถึงลมหายใจร้อน ๆ นั่น
ชายหนุ่มครอบครองส่วนกลางที่แสนบอบบางนั่นอย่างไม่รอช้า ริมฝีปากและเรียวลิ้นทำหน้าที่สร้างอารมณ์และความเสียวซ่านได้อย่างยอดเยี่ยม สึนะเผลอเปล่งเสียงร้องครางออกมาดัง มือบางทั้งสองขยุ้มเส้นผมสีน้ำเงินเข้มแน่น
“ มะ...มุคุโร่! อ๊ะ!! ”
คนถูกเรียกชื่อเผยยิ้มอย่างพึงใจ ปากยังคงขยับขึ้นลงทำงานจนร่างด้านล่างแทบทนไม่ได้ อยากจะปลดปล่อยสิ่งที่อดกลั้นไว้เสียเดี๋ยวนั้น มุคุโร่พอรับรู้ได้จึงหยุดการกระทำลงเสียดื้อ ๆ เปลี่ยนมาเป็นการรุกรานทางช่องทางที่ถูกปิดแน่นไว้เนิ่นนานแทน
นิ้วเรียวยาวซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยบางอย่างค่อย ๆ ถูกสอดใส่เข้า ทีละนิด.....ทีละนิด สึนะพอสัมผัสได้ถึงความแปลกปลอมที่ล่วงเข้ามาร่างกายก็เริ่มเกิดอาการเกร็งทันที
ตั้งแต่มุคุโร่จากไปเขาก็ไม่เคยมีสัมผัสกับใคร ฉะนั้นระยะเวลาที่ห่างหายไปนั่น มันก็ทำให้ความเคยชินที่เกิดขึ้นจางหายไปด้วย ในตอนนี้เขาจึงไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่รู้ประสาเรื่องแบบนี้
มุคุโร่เองก็รับรู้ได้เช่นนั้น เขาจึงหยุดนิ้วมือ แล้วเลื่อนตัวขึ้นปลอบประโลมอีกฝ่าย “ ไม่เป็นไรนะครับ ”
ริมฝีปากของชายหนุ่มประกบลงบนริมฝีปากสีแดงระเรื่อ บางเบา....ก่อนค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้นจนเร่าร้อนเกินห้าม ลิ้นยาวถูกส่งเข้าไปพัวพันควานหาความหอมหวาน ทำเอาสมองหมุนคว้าง ลืมความเจ็บด้านล่างจนผ่อนคลายลง
เมื่อสิ่งที่บีบรัดคลายตัว มุคุโร่จึงเริ่มทำสิ่งเดิมอีกครั้ง และทุกครั้งที่มีการบีบรัด เขาก็จะทำแบบเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา
“ ผมรักคุณนะครับ สึนะโยชิคุง ” เสียงทุ้มหวานกระซิบด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงถึงขีดสุด
นิ้วเรียวถูกถอนออกหลังจากทำหน้าที่เบิกทาง ก่อนแก่นกายแข็งขนาดใหญ่จะถูกสอดใส่เข้ามาแทนที่ สึนะเกร็งตัวอีกครั้ง หยาดน้ำตาไหลกลบใบหน้า ความเจ็บปวดแล่นริ้วเหมือนร่างกายกำลังจะฉีกขาดออกเป็นชิ้น ๆ
“ เจ็บหรือครับ? ” ดวงตาสองสีมองใบหน้าคนรักที่บัดนี้แสดงออกถึงความทรมานอย่างปวดใจ
สึนะที่รับรู้ถึงบางสิ่งซึ่งค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกก็ยกมือขึ้นโอบรัดอีกฝ่ายไว้แน่น “ ไม่....ไม่เป็นไร ทำต่อเถอะมุคุโร่ ฉันไม่เป็นไร ” เสียงหวานเอ่ยเบา
เขาทิ้งร่างที่พยายามโอบกอดนั่นลงบนโซฟานุ่ม แล้วแหงนมองใบหน้าคมที่บัดนี้คิ้วขมวดกันมุ่น “ ฉัน...ต้องการนาย ต้องการนายมากที่สุด ”
รอยยิ้มหวานที่เผยให้เห็นเรียกเอาหยาดน้ำตาของสายหมอกผู้หลอกลวงนั้นให้ไหลลงอีกครั้ง มุคุโร่จับมือบางขึ้นแนบแก้มตน สูดดมสัมผัสเปิดเผยถึงความรักที่มีให้อย่างไม่ปิดบัง สึนะมองภาพนั้นก่อนยิ้มอีกครั้ง
“ ผมเองก็ต้องการคุณที่สุดครับ คุณเท่านั้น ”
มุคุโร่ค่อย ๆ เคลื่อนกายเข้าอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนที่สุด แต่กระนั้นมันก็ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้แก่สึนะ แต่ตลอดเวลา....อีกฝ่ายจะโอบกอดแผ่นหลังแกร่งไว้แน่น โอบกอดด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เมื่อความเจ็บปวดเริ่มกลายเป็นอารมณ์ อารมณ์เริ่มกลายเป็นความต้องการอย่างสุดห้าม แรงถาโถมที่เคยก็เริ่มรุกรานอย่างรวดเร็วขึ้น แก่นกายกระชั้นจนคนรับสัมผัสต้องเปล่งเสียงร้องครางออกมา
“ อะ....อ๊ะ...มุคุ....มุคุโร่!! ”
กลิ่นกายหอมหวาน หยาดเหงื่ออันร้อนระอุ ร่างสองร่างสัมผัสภายใต้อุณหภูมิแห่งสายฝนซึ่งเย็นเฉียบ ไอแห่งความรักความคิดถึงลอยวนอยู่ทั่ว คุกรุ่นจนน่าอิจฉา
มุคุโร่ปลดปล่อยทุกสิ่งออกมาในเวลาหลังจากนั้น เช่นเดียวกับสึนะที่บัดนี้นอนหอบหนักอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง เปลือกตาบางหลับพริ้ม เหนื่อยอ่อนทางร่างกาย แต่ไม่ได้เหนื่อยอ่อนทางจิตใจตามไปด้วย
เพราะได้รับการเติมเต็ม...ความรักและความอบอุ่น
“ ขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณทรมาน ” มุคุโร่จุมพิตบริเวณหน้าผากที่ชื้นไปด้วยเหงื่อนั่นเบา ๆ
สึนะคลี่ยิ้มเหนื่อยอ่อน “ ไม่....ไม่ได้ทรมานเลย ฉันมี....ความสุขมาก.... ”
กล่าวเพียงแค่นั้นก็ผล็อยหลับลงในอ้อมกอด ดวงตาสองสีที่รับรู้ได้ถึงจังหวะหายใจก็ก้มลงมอง มือแกร่งเลื่อนสัมผัสใบหน้างามอีกครั้ง พลางปาดเอาน้ำตาและหยาดเหงื่อที่ไหลปะปนกันออก
“ ผมก็มีความสุขมาก....เช่นกันครับ ”
ผมอธิษฐาน....ขอให้ผมได้ยินคำอวยพรของคุณเช่นนี้
....ตลอดไป.....
ความคิดเห็น