ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Old AuFic Naruto] My Immortal (SasuNaru) [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 52


    />

    Fic Naruto

     

    My Immortal. 

     

    ตอนที่ 4

     

     

     

     

     

     

     

    แสงแดดอ่อนๆยามเช้าตกกระทบกับเปลือกตาบาง  ดวงตาสีฟ้าใสกระพริบถี่  เขารู้สึกงัวเงียอยู่ครู่ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่ง  แต่แล้วก็รู้สึกอะไรบางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามาในชีวิตการนอนของเขา

     

    แขนแกร่งของใครบางคนกำลังโอบรัดตัวของเขาอยู่  นารุโตะหันหลังมองทันที  และปะทะเข้ากับดวงตาสีดำทมิฬ  ซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะจ้องมองเขามานานพอดูแล้วเสียด้วย   นั่นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจเข้าไปใหญ่

     

      ปล่อย...    นารุโตะกล่าวเสียงเย็นอย่างสะกดอารมณ์เต็มที่

     

    เจ้าของเรือนผมสีดำไม่ได้คลายอ้อมกอดลง  หากแต่กับรัดแน่นเข้าไปอีก  พลางทำเสียงงัวเงียเบาๆก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง  ทำราวกับไม่ได้ยินเสียงอีกฝาก  และนั่นก็ยิ่งทำให้นารุโตะไม่พอใจมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อีก - -

     

      ก็บอกให้ปล่อยข้าไง!!    ไม่พูดเปล่า  เขาศอกเข้าเต็มท้องของอีกฝ่าย  สำเร็จ...อ้อมกอดเมื่อครู่คลายออกทันที 

     

      รุนแรงจริง...เมื่อคืนเจ้ายังกอดข้าแน่นไม่ยอมปล่อยเลย    ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพลางกุมท้อง  ก่อนจะพูดจายียวนกวนประสาทต่อ

     

      ใครกอด!!พูดให้มันดีๆนะ!!    ว่าแล้วก็คว้าหมับเข้าให้ที่เสื้อของอีกฝ่าย  ดวงตาสีฟ้าจ้องเขม็งอย่างไม่มีทีท่ากลัวเกรงแม้แต่น้อย  แต่สายตาที่ได้รับกลับคือ ความทะเล้นและซุกซน -*-

     

    นารุโตะฮึดฮัด...ก่อนจะปล่อยอีกฝ่าย  เขารู้ว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถเอาชนะชายคนนี้ได้เลยแม้แต่น้อย  แล้วยิ่งนิสัยแบบนี้อีก  นิสัยที่เขาไม่ค่อยถูกโรคเท่าไหร่เลยจริงๆ

     

      แล้วนั่นจะไปไหน??    ซาสึเกะนอนเท้าคางมองอีกฝ่ายพลางยิ้ม

     

      ไปอาบน้ำ!!    นารุโตะตวาดกลับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  เวลาอยู่ต่อหน้าคนๆนี้ทีไร เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เป็นปรกติได้เลยสักครั้ง

     

      แล้วรู้หรือว่าไปทางไหน?    อีกฝ่ายถามต่อ  ใบหน้าขาวของนารุโตะแต้มสีแดงแทบจะในทันที 

     

    และสุดท้ายเขาก็ต้องอาบน้ำกับซาสึเกะอยู่ดี  เช้านี้สำหรับนารุโตะดูจะไม่สดใสเอาเสียเลย  เขารู้สึกว่าความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวที่เคยได้รับหายไปสิ้น  มันไม่เงียบและไม่.......เหงา.....

     

    ระหว่างนั่งทานอาหารเช้า  ซาสึเกะก็กล่าวถึงภารกิจที่จะต้องทำสำหรับวันนี้ให้อีกฝ่ายฟัง  นารุโตะนั่งฟังนิ่ง  และรับทำตามแต่โดยดี  สมแล้วที่เคยทำงานเป็นมือสังหาร -*-

     

      ทำไมต้องให้ข้าไปพบ...    นารุโตะเอ่ยถามขณะทั้งคู่กำลังเดินทางเพื่อไปพบโอโรจิมารุ

     

      เจ้าไม่สามารถอยู่โดยรอดพ้นสายตาของคนๆนี้ไปได้หรอก....ทางที่ดีเจ้าควรจะไปพบเสีย    ซาสึเกะอธิบาย  ที่นี่คือถิ่นของเขา  และก็เป็นที่รู้ๆกันดีว่าคนๆนี้หูตากว้างไกลแค่ไหน

     

    นารุโตะพยักหน้ารับเบาๆโดยไม่ถามค้านต่อ  เขาเข้าใจในความคิดของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี  การอยู่ที่นี่ไม่ใช่จะอยู่ได้อย่างง่ายๆสบายๆเสียเมื่อไหร่  หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างแทบจะไม่หลุดพ้นจากสายตาของโอโรจิมารุไปได้ 

     

    ดวงตาสีฟ้าจ้องมองปราสาทหลังโตอย่างละเอียดถี่ถ้วน  ใหญ่โตและหรูหราสมตนจริงๆ  กำแพงโดยรอบนอกแน่นหนา  มีทหารยามเฝ้าอยู่ทั่วไม่ขาดสาย  การคุ้มกันจัดอยู่ในระบบเยี่ยมยอด  ถ้าไม่เข้าถึงตัวจริงๆคงลงมือทำอะไรได้ยาก 

     

    ทันทีที่ย่างกรายผ่านประตูชั้นในสุดเข้ามา  นารุโตะก็แลเห็นใบหน้างดงามหมดจดที่ดูราวกับหญิงสาว  ผมสีดำสนิทยาวเงางาม  ดวงตาสีดำไร้แวว  รูปร่างบอบบางแต่กลับดูสมส่วน  และความรู้สึกของนารุโตะก็สัมผัสได้ถึงจักระอันมหาศาลที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายคนๆนี้

     

      วันนี้ถึงกับมาหาข้าด้วยตนเองเลยรึ...ซาสึเกะ...    อีกฝ่ายค่อยๆเดินมาด้วยท่วงท่าที่สง่างาม  ก่อนจะเอื้อมแขนเรียวโอบรอบคอร่างสูงไว้  ดวงตาสีดำนั่นจ้องมองมาที่นารุโตะ

     

      ข้าพาผู้ติดตามคนใหม่ของข้ามาแนะนำให้ท่านรู้จัก...    ร่างสูงกล่าวพลางโค้งศีรษะ ก่อนจะถอยตัวออกห่างจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย

     

      หืม.....เจ้าชื่ออะไร....    โอโรจิมารุไม่พอใจเล็กน้อย  แต่ก็ยังคงสงวนท่าทีไว้  ก่อนจะค่อยๆเดินมาหานารุโตะที่นั่งคุกเข่าอยู่

     

      นารุโตะ...อุ....อุเมะซาวะ  นารุโตะ ขอรับ.    นารุโตะกล่าว  เขาเกือบพลั้งปากถึงนามแท้จริงออกไปเสียแล้ว  จะว่าไปมีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักชื่อและตัวตนจริงๆของเขา

     

    โอโรจิมารุช้อนคางนารุโตะขึ้นให้มองสบตากับตน  ดวงตาสีดำไร้แววสำรวจไปทั่ว  และก็รู้สึกได้ถึงความไม่เกรงกลัวหรือหวาดหวั่นในดวงตาสีฟ้าคู่นั้นสักนิด....เหมือนกับใครคนหนึ่งไม่มีผิด

     

      ฮ่าๆๆ....สมแล้วที่เป็นคนของเจ้า..ข้าไม่ว่าอะไรหากเป็นความต้องการของเจ้า ซาสึเกะ....    ร่างบางเดินหันหลังกลับไปหาซาสึเกะ

     

      ขอบคุณท่านมากขอรับ    ร่างสูงก้มศีรษะให้อีกฝ่าย

     

      เจ้าออกไปก่อน...ข้ามีเรื่องจะคุยกับซาสึเกะ ตามลำพัง...    โอโรจิมารุเน้นเสียง  อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ  นารุโตะรู้สึกได้เช่นนั้น  ก่อนที่เขาจะออกมาพร้อมกับทหารยามและคนอื่นๆ

     

    ระหว่างที่ยืนรออยู่นั้น  เขาสัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา  นารุโตะรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก  แต่ก็ต้องสงบใจเอาไว้  เพื่องานแล้วเขาจำต้องยอมทำ  เพื่องานและ...การแก้แค้น...

     

    ในช่วงเวลาที่นารุโตะกำลังคิดอยู่นั้น  เขาก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังพุ่งตรงมาทางเขา  รวดเร็วและรุนแรงมาก  แต่โดยสัญชาตญาณของร่างกายแล้ว  สำหรับนักฆ่าอย่างเขา  มีหรือที่จะไม่สามารถหลบพ้น  แต่ก็ยอมรับว่า  ถ้าหากรู้ช้ากว่านี้อีกเพียงสักนิด  ชีวิตเขาก็อาจจะไม่เหลือเป็นแน่

     

      ....    นารุโตะไม่ได้พูดอะไร  เพียงแต่จ้องมองไปตามต้นทางที่อาวุธลับนั่นพุ่งตรงมา 

     

    ร่างชายลึกลับปรากฏขึ้น  ใบหน้าคมสัน  ผมสีดำทมิฬ  ดวงตาสีดำ ดูสุขุม เยือกเย็นและน่าหวั่นเกรงในเวลาเดียวกัน  และที่สำคัญเขายังรู้สึกเหมือนกับว่า  คนนี้ๆคล้ายคลึงกับใครบางคน  เป็นอย่างมาก...

     

      ยอดเยี่ยม...สมกับเป็นคนของซาสึเกะ...    ชายผู้นั้นปรบมือให้เขา  ร่างบางสังเกตเห็นว่าคนรอบข้างตนต่างคุกเข่าลงให้ชายผู้นี้ทั้งหมด

     

      เหตุใดจึงไม่คุกเข่า!!    เสียงชายผู้หนึ่งตะโกนมาทางเขา

     

      ไม่เป็นไร....เขาคงยังไม่รู้จักข้า...ข้า อุจิวะ  อิทาจิ...หัวหน้าหน่วยลับ มือขวาของท่านทสึจิคาเงะ    ร่างนั้นกล่าวพลางยิ้ม  ใช่แล้ว...ใช่จริงๆ คนๆนี้เกี่ยวข้องกับซาสึเกะ 

     

      ข้า อุเมะซาวะ  นารุโตะ ขอรับ ขออภัยด้วยที่ข้าไม่ทราบ จึงทำให้เป็นการลบหลู่ท่าน    นารุโตะคุกเข่า  อิทาจิเดินเข้ามาพยุงเขาให้ลุกขึ้น  และก็ยังคงยิ้มอยู่เช่นนั้น

     

    เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ซาสึเกะออกมาพอดี  ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองมายังคนข้างๆนารุโตะราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ  นารุโตะเองก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารนี้  ทำให้เขาหันหน้าไปมองอีกฝ่าย

     

      มาพอดีอิทาจิ...    โอโรจิมารุกล่าวขัดบรรยากาศทั้งหมด  ซาสึเกะก็สะกดอารมณ์ให้กลับเป็นปรกติ

     

      ขอรับ.    อิทาจิปล่อยมือจากนารุโตะ  ก่อนจะเดินตรงไปทางโอโรจิมารุ  แน่นอนว่าเขาต้องสวนกับซาสึเกะ

     

    ดวงตาของทั้งสองจ้องมองกัน  อีกฝ่ายจ้องมองด้วยท่าทีสบายๆ  แต่ตรงกันข้ามกับซาสึเกะโดยสิ้นเชิง  นารุโตะรู้ได้ถึงความสัมพันธ์อันไม่ธรรมดาของสองคนนี้

     

      ระวังหน่อยนะน้องชาย....ระวังคนของนายจะหายไปนะ  ดูแลดีๆหน่อยละ  เดี๋ยวแมวจะมาขโมยไปเสียก่อน    อิทาจิกระซิบเบาๆ  ก่อนจะตบบ่าซาสึเกะ  ผู้รับฟังกำหมัดแน่น  หากเขาไม่ได้อยู่ในหน้าที่ละก็  จะเป็นเช่นไรนะ.....

     

    ตลอดทางกลับ ซาสึเกะไม่ที่จะปริปากอะไรเลยสักคำ  นารุโตะเองก็ไม่คิดที่จะเอ่ยปากถามออกไปเช่นเดียวกัน  ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงเกิดเข้าใจคนข้างหน้าเขาขึ้นมาได้  นัยน์ตาสีดำสนิทที่เคยแน่วแน่บัดนี้กลับไร้แวว เขาดูสับสนจนยากที่จะอธิบายได้

     

    เป็นเช่นดังคาด  ร่างสูงไม่ได้ปริปากพูดคุยหรือกวนประสาทเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา  เอาแต่นั่งนิ่งเงียบ นารุโตะได้แต่เหลือบมองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงขณะที่กำลังนั่งทานข้าวด้วยกัน เป็นห่วง....เอ๊ะ!!...แล้วทำไมเขาต้องเป็นห่วงคนๆนี้ด้วยเล่า??!!

     

      แอบมองข้าตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว...หรือว่าเจ้าแอบหลงรักข้าขึ้นมาหือ?...    เท่านั้นละ...ทำเอาข้าวที่อยู่ในปากแทบล้นออกมาทันที  ดวงตาสีฟ้าใสจ้องไปยังคนตรงหน้าเขม็ง  ไอ้บ้านี่มันยังไงของมันกันละเนี่ย!!

     

       ในสมองคิดเป็นแค่เรื่องแค่นี้รึไง!!    ร่างบางตวาดขึ้น คนโดนได้แต่นั่งอมยิ้ม

     

    จู่ๆสีหน้านั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นทันที  เล่นเอาเขาทำอะไรแทบไม่ถูก  นอกจากจะรับมือยากแล้ว  ยังเดาอารมณ์ยากเสียอีก  ปรกติเห็นแต่เก็กไปวันๆ  ไม่เคยเห็นทำท่าทีอารมณ์ไม่คงที่แบบนี้เลยจริงๆ

     

      หมอนั่น...อิทาจิ...คือพี่ชายแท้ๆของข้า    นารุโตะไม่ได้ตกใจที่ความคิดของตนตรงกับความเป็นจริงจากปากของซาสึเกะ  แต่ตกใจที่ทำไมซาสึเกะถึงเล่าให้เขาฟังต่างหาก

     

      ...    นารุโตะยังคงนั่งเงียบไม่ได้กล่าวอะไรขัด  ซาสึเกะมองเขาแล้วยิ้มน้อยๆ

     

    นารุโตะปล่อยให้ซาสึเกะเล่าเรื่องราวต่างๆในอดีตตามที่เจ้าตัวอยากจะบอกแก่เขา  เป็นครั้งแรกที่เขาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีกับอีกฝ่าย  อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนดีกระมัง....อย่างน้อยก็ดีพอที่จะฟังคนอื่นระบายความทุกข์โดยที่ไม่ขัดได้ละ

     

      หมอนั่น...ฆ่าทุกคน...ครอบครัวของข้า พ่อและแม่แท้ๆของมัน!!  ร่างบางสะดุ้งเฮือก  แววตาสีดำเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเกินบรรยาย  ทำให้เขารู้ได้เลยว่า โลกนี้ยังมีอะไรที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่าที่เขาเจอเสียอีก

     

      เจ้าจะแก้แค้น??    นารุโตะถามกลับ

     

    ผู้ถูกถามไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก  ซาสึเกะนิ่งเงียบไปพักใหญ่  นารุโตะเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อเหมือนกัน  เขาเข้าใจ  เข้าใจความรู้สึกของซาสึเกะ  และคิดว่าเข้าใจดีมากเสียด้วย

     

      เป็นห่วงข้างั้นหรือ??    ซาสึกะถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้นารุโตะที่กำลังเหม่ออยู่

     

      บ้า!!!    ว่าแล้วก็สวนเข้าให้ด้วยหมัดขวาตรง  แต่ก็เท่านั้น เคะหรือจะชนะ เมะ (/me หางโผล่...แคะๆ)

     

    ซาสึเกะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีให้กับท่าทางของร่างบางตรงหน้า  ก่อนที่จะมองตามนารุโตะที่เดินหนีออกไป  บางครั้งในความมืดมิด  ก็ยังคงมีแสงสว่างเพื่อให้เราได้มองเห็นเส้นทางต่อไปบ้างล่ะ...

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างสองร่างกำลังโอบกอดกันท่ามกลางความมืด  ไอร้อนแห่งอารมณ์คละคลุ้งไปทั่ว  หยาดเหงื่อผุดพาย ริมฝีปากกระซิบคำหวาน  ลิ้นต่อลิ้นเกี่ยวกระหวัดรัดกันราวกับจะกลืนกินอีกฝ่ายเสียให้ได้  เสียงลมหายใจหอบถี่  ราวกับจังหวะดนตรีแห่งความปรารถนาที่บรรเลงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

     

      ข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้าชอบเด็กแบบนั้น....    คำพูดหวานกระซิบผสมกับเสียงครางอ่อนๆฟังดูยั่วยวนยิ่ง

     

      ท่านหึง??    ร่างกำยำด้านบนถามแกมหยอก

     

      ของๆข้าก็เป็นของข้า  ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ    เป็นคำพูดธรรมดาเสียยิ่งกว่าธรรมดา  หากแต่กลับดูจริงจังเยี่ยงคำสัตย์

     

      ก็แค่ของเล่นเท่านั้น....ข้า อิทาจิ...เป็นของท่านผู้เดียว    เสียงกระซิบหวานราวน้ำเชื่อมดังก้องข้างหูของร่างข้างใต้  ผู้ได้รับฟังอมยิ้มน้อยๆ  ดวงตาสีดำที่มองมากำลังดึงดูดให้ชายหนุ่มกระทำในสิ่งที่กำลังกระทำด้วยอารมณ์ที่รุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม

     

     

    เสียงครางดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  อารมณ์และความปรารถนารุนแรงอย่างไม่อาจห้ามได้  ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากความใคร่  มิใช่เกิดแต่ความรัก...

     

     

     

     

     

     

     

     

    เปลือกตาบางหลับลงแล้ว  หลังจากก่อนหน้านี้ยังคงต่อปากต่อคำอย่างไม่มีทีท่าจะเหน็ดเหนื่อย  ซาสึเกะมองคนข้างๆเขาก่อนจะยิ้มออกมา  เส้นผมสีทองแผ่สลายไปทั่ว  ตั้งแต่แรกเห็น  เขาก็รู้เลยว่า คนๆนี้สำหรับเขาแล้ว  มีความพิเศษที่ยิ่งกว่าใคร

     

      เจ้าจะรู้ไหมนะ....นารุโตะ...    ร่างสูงกระซิบเบาๆราวกับเสียงกระซิบของสายลม  ก่อนจะค่อยๆก้มตัวลงจุมพิตบริเวณหน้าผากมลอย่างนุ่มนวลที่สุด

     

    ราวกับรู้สึกตัว  ผู้ถูกจุมพิตยิ้มน้อยๆ  นั่นทำให้อีกฝ่ายนึกขำ  ท่าทางคงกำลังฝันดีอยู่ทีเดียว ฝันถึงอะไรกันนะ..อะไรคือความฝันที่ทำให้เจ้าเป็นสุขได้ถึงขนาดนี้กัน....นารุโตะ....

     

     

     

    TBC.

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×