ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Old AuFic Naruto] My Immortal (SasuNaru) [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 52


    />

    Fic Naruto ( saseukeXnaruto )

     

    My Immortal. 

     

    ตอนที่ 2

     

     

     

     

     

     

     

     

    แคว้นอิวะโนะคุนิ

     

    เสียงฝีเท้าม้าหลายตัวดังเป็นจังหวะรับกันบนถนนที่ทอดยาวไปยังจุดหมายปลายทาง  สองข้างเต็มไปด้วยผู้คน ร้านค้า และบ้านเรือน ซึ่งดูแล้วเหมือนจะสงบสุขและครึกครื้น  แต่เปล่าเลย  บนใบหน้าของผู้คนบางกลุ่มนั้นไร้ซึ่งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บางกลุ่มมีทั้ง 2 สิ่งแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและหยิ่งทะนง  มันทำให้รู้ว่าที่นี่มีการแบ่งชนชั้น ซึ่งก็มีมานานแล้วตั้งแต่คนผู้นั้นขึ้นเป็นผู้นำ

     

    ท่านอุจิวะค้า~ ”  เสียงหญิงสาวดังขึ้นระหว่างทาง  ชายหนุ่มผมสีดำ ใบหน้าคมเข้มที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจหันมองตามเสียงเรียก 

     

    ไม่ว่าวันไหนท่านก็ยังคงสง่างามเหมือนเดิม  หญิงสาวหลายคนพูดขึ้น 

     

    “ …. ”  ผู้ถูกกล่าวถึงมองคนเหล่านั้นก่อนจะหันหลับและควบม้าตรงไปตามทางเดินอย่างไม่สนใจอะไร  แต่ถึงกระนั้น เหล่าหญิงสาวพวกนั้นก็ยังคงไม่ละสายตาหรือเกิดอาการรังเกียจแต่อย่างใด  เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้กระทำเป็นประจำ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทั้งคนและม้าในตอนนี้กำลังก้าวผ่านประตูใหญ่เข้ามาด้านในปราสาท  เหล่าทหารที่ยืนรักษาการอยู่ที่ประตูต่างคุกเข่าให้ผู้มาเยือนด้วยความเคารพ  ร่างสูงกระโดดลงจากม้าสีดำสง่าด้วยท่าทางนิ่ง  ความสุขุม เยือกเย็นแผ่ออกมาจากตัวของคนผู้นี้อย่างน่าเกรงขาม

     

    ท่านผู้นั้นอยู่ที่ใด? ”  เสียงเรียบกล่าวถามทหารรักษาการที่นั่งคุกเข่าอยู่

     

    เรือนกลางน้ำด้านหลังขอรับ  ผู้ถูกถามกล่าวตอบ

     

    ผ้าคลุมสีดำพลิ้วไหวตามแรงของผู้สวมใส่  ฝีเท้าแต่ละก้าวที่ก้าวออกไปช่างนิ่งเงียบและมั่นคงยิ่งนัก  ใบหน้าคมนิ่งงันราวกับไร้ความรู้สึกใดๆ  ผู้ที่เดินตามมาด้วยก็เช่นกัน ไม่ต่างจากผู้เป็นนายเลยแม้แต่น้อย  ดูเกรงขามและน่าหวั่นเกรงยิ่ง

     

    ตรงเวลาไม่เคยเปลี่ยนนะ ซาสึเกะ... ”  ร่างหันหลังอยู่กล่าวต้อนรับผู้มาใหม่

     

    ท่านทสึจิคาเงะมีอันใดให้กระผมรับใช้หรือขอรับ  ผู้มาคุกเข่าลงทำความเคารพ  ผู้เป็นนายหันมามอง ใบหน้างามราวกับหญิงสาว ผมสีดำสลวย และรอยยิ้มอันน่าหลงใหลนั่นอีก(ไปขโมยหน้าชาวบ้านมา-*-)

     

    ไม่เอาน่าซาสึเกะ ทำแบบนี้ห่างเหินแย่ ลุกขึ้นเถอะๆ  ผู้นำกล่าว  ก่อนจะเดินมาประคองซาสึเกะให้ลุกขึ้น  แต่ดูถ้าว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมลุกขึ้นง่ายๆ

     

    กระผมมิบังอาจ  อีกฝ่ายกล่าวเรียบๆ

     

    งั้นนี่ถือว่าเป็นคำสั่ง 

     

    ขอรับท่านโอโรจิมารุ  ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน แต่ก็ยังคงอยู่ในท่าที่เคารพนบนอบอยู่

     

    ร่างบางเข้ามาใกล้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่  มือเรียวลูบไล้ยังใบหน้าเข้มเรื่อยไปจนถึงแผงออก ส่วนมืออีกข้างกำลังหยอกล้อกับเส้นผมสีดำเงานั่น  แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ถูกกระทำ(??)ก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง ทำเอาโอโรจิมารุหัวเราะออกมาในทันที

     

    ข้าไม่ยักรู้ว่าคนของข้าตายด้านนะซาสึเกะ  เขากล่าวออกมาพลางหัวเราะ  ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่เตรียมไว้เป็นอย่างดี

     

    ท่านโอโรจิมารุมีเรื่องอันใดหรือขอรับ  ผู้ถูกว่ากล่าวถามกลับอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก

     

    เรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว... ”  ผู้เป็นนายกล่าวถาม ดวงตาสีดำมองออกไปด้านนอก

     

    กำลังดำเนินไปตามแผนที่ท่านวางไว้ทุกอย่างขอรับ  ซาสึเกะตอบรับ

     

    เท่าที่เจ้าดูๆมีใครที่คิดจะออกห่างจากข้าบ้างไหม  น้ำชาที่วางอยู่ด้านหน้าถูกยกขึ้นจิบ  น้ำเสียงที่กล่าวออกมายังคงเป็นปรกติไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

     

    ข้าไม่ทราบได้  ร่างสูงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเดียวกัน 

     

    อืม...ฆ่าเนจิซะ..หวังว่าข้าคงจะไม่ได้เห็นหน้ามันอีก  โอโรจิมารุกล่าวน้ำเสียงเรียบแต่ฟังดูเด็ดขาด  คำสั่งของเขาที่ถ่ายถอดออกไป ไม่มีคำว่าปฏิเสธหรือไม่สำเร็จ

     

    รับทราบ  ซาสึเกะโค้งให้อีกครั้งก่อนจะเดินหันหลังกลับไป 

     

    ซาสึเกะและผู้ติดตามอีก 4 คนมาถึงยังที่พักแล้ว ร่างสูงนิ่งคิดสักครู่  ก่อนจะเอ่ยปากสั่งให้ลูกน้องคนสนิทแยกย้ายกันไปทำภารกิจ จนเหลือเพียงแค่ นารา ชิกามารุ คนสนิทที่สุดในบรรดาลูกน้องทั้ง 4 ของเขา

     

    นำสิ่งนี้ไปมอบให้เนจิกับท่านผู้นั้น รู้ใช่ไหมจะต้องทำอย่างไรบ้าง  ซาสึเกะถาม ดวงตาสีดำทมิฬยังคงมองไปด้านหน้า

     

    ข้าน้อยทราบดี  ชิกามารุกล่าวรับคำผู้เป็นนายก่อนจะค่อยๆหายตัวไปในเงามืด

     

    แคว้นโคโนฮะโนะคุนิ

     

    ร่างบางยืนอยู่หน้ากระจกบานเดิม เสียงหยดน้ำไหลสู่พื้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ดวงตาสีฟ้าใสที่เคยกระจ่างถกปิดสนิท  ใบหน้างามนิ่งคิด  แม้เสียงโดยรอบจะดังขึ้นมากแค่ไหน แต่ก็ราวกับว่าเสียงนั้นเป็นเสียงแค่เสียงสายลม ไม่ได้ไหลซึมเข้าสู่เขาแต่อย่างใด

     

    ท่านอิรุกะติดต่อมาหรือยัง? ”  นารุโตะถาม

     

    ยังขอรับแต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2 วัน  ร่างคุกเข่าในเงามืดกล่าวอย่างนอบน้อม

     

    อืม...นำนี่ไปให้ท่านโฮคาเงะ แล้วบอกด้วยว่าข้าจะเดินทางคืนนี้  ร่างบางเดินไปหยิบม้วนกระดาษบนโต๊ะส่งให้อีกฝ่าย

     

    ต้องการให้พวกข้า.... ”

     

    ไม่ต้อง...พวกเจ้ารอรับคำสั่งที่นี่เถอะ  นารุโตะกล่าวขัดขึ้น  ราวกับรู้ว่าลูกน้องของตนกำลังจะพูดอะไร

     

    รับทราบคำสั่งเมื่อสิ้นเสียงร่างทั้งร่างก็หายไป  ดวงตาสีฟ้าใสจ้องมองไปยังสภาพด้านนอก รอยยิ้มและความครึกครื้นในตอนนี้กำลังจะถูกพรากไปงั้นหรือ ไม่มีทาง เขาขอสาบาน จะไม่มีทางให้เป็นอย่างเมื่อ 12 ปีที่แล้วเป็นแน่

     

    ในยามราตรีอันเงียบสงัด ท่ามกลางเสียงสายลมที่ปะทะกับต้นไม้ ใบไม้จนก่อเกิดเป็นเสียงเพลงยามค่ำคืน ใจกลางเสียงนั้น ยังมีเสียงฝีเท้าม้าควบแล่นไปข้างหน้าเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยอ่อน ร่างบางบนหลังม้าภายใต้เสื้อคลุมและฮูดสีดำดูเร้นลับยิ่ง

     

    ที่นี่สินะ... ”  บุคคลลึกลับกล่าว ในที่สุดการเดินทางก็จบลงเสียที  เขาก้าวลงจากหลังม้าก่อนจะจูงมันและเดินไปยังประตูใหญ่ ประตูที่กั้นซึ่งเขตแดนระหว่างแคว้นโคโนะฮะโนะคุนิและอิวะโนะคุนิ

     

    เจ้าเป็นใครกัน...เหตุใดจึงมายามรัตติกาลเช่นนี้  ทหารยามเฝ้าประตูกล่าวถามผู้มาเยือน

     

    ข้าเป็นนักเดินทาง เดินทางร่อนเร่ไปทั่ว  ร่างนั้นตอบกลับ

     

    มีใบผ่านทางสำหรับนักเดินทางหรือเปล่า? ”  ทหารยามถามต่อ พลางนำหอกในมือชี้ไปยังอีกฝ่าย

     

    แน่นอน..... ”  เขาตอบก่อนจะส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้  ทหารยามคนนั้นมองร่างลุกลับไปมาสลับกับใบอนุญาตบนมือ

     

    เปิดหน้า!! ”  ทหารยามกล่าวพลางขู่

     

    ขออภัย....ท่านคงไม่อยากเห็นใบหน้าอันน่ารังเกียจในยามนี้หรอกจริงไหม? ”  อีกฝ่ายกล่าวอย่างนอบน้อม

     

    บอกให้เปิด!! ”  ทหารยามอีกคนตะโกนมาจากอีกด้าน 

     

    ตกลง....ข้าเตือนแล้วน่ะ  เขาเปิดฮูดออกจริงๆ ภายใต้ฮูดนั่นมีใบหน้าที่ไม่สามารถบรรยายได้ รอยกำไหม้ถูกกินไปกว่าครึ่งหน้า  ดูแล้วน่าขยะแขยงนัก

     

    ไป๊ๆๆๆเปิดประตูๆๆๆ  ทหารยามทั้งสองทนไม่ไหวจนต้องยอมให้เข้าไป ร่างนั้นสวมฮูดกลับอีกครั้ง

     

    ขอบคุณพี่ชาย  เขาโค้งให้ก่อนจะจูงม้าต่อไป  ดวงตาที่มองเห็นในความมืดได้เป็นอย่างดี กำลังสำรวจที่หาง พลางมองหาที่พักสำหรับค่ำคืนนี้

     

    เมื่อเดินเข้ามาถึงใจกลางตัวเมือง สิ่งที่ได้เห็นคือแสงไฟยามราตรีสว่างไสวไปทั่ว ต่างกับเส้นทางที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง บรรดาเหล่าเศรษฐี ต่างพากันมาหาความสำราญยามค่ำคืน  ร่างในชุดคลุมดำมองไปรอบๆอย่างเวทนา

     

    พี่ชายคะ~~ ”  เสียงหญิงสาวกลุ่มหนึ่งกล่าวเรียก ก่อนจะเข้ามาพัวพันกับเขา

     

    อาหารดีๆสักมื้อ หญิงสาวงามๆสักคน ข้ารู้ว่าท่านต้องการพ่อนักเดินทาง  หล่อนคนหนึ่งในกลุ่มกล่าวออกมา ก่อนจะใช้มือของตนลูบไล้ไปทั่ว แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยังคงนิ่งอยู่

     

    ข้าต้องการที่พักและอาหารสำหรับข้าและม้าของข้า  เขากล่าว น้ำเสียงช่างฟังดูน่าเคลิบเคลิ้มยิ่งนัก เหล่าหญิงสาวที่รายล้อมอยู่กลับยิ่งเบียดตัวเข้ามาอีก

     

    แน่นอนค่ะ....เรามี...ท่านไม่สนใจอย่างอื่นด้วยหรือคะ? ” เธอถาม ฮูดที่ปิดบังใบหน้าอยู่ค่อยๆเลื่อนลงมาเผยให้เห็นเรือนผมสีทอง ใบหน้างามและดวงตาสีฟ้าใสอันดึงดูดใจผู้พบเห็นนั่น

     

    ข้าต้องการที่พัก อย่างอื่นข้าไม่สน ขอตัว  นารุโตะตัดบท ก่อนจะรีบสวมฮูดและเดินเลี่ยงออกไป เสียงร้องกรี๊ดกร๊าดของหญิงสาวยังดังไล่หลังเขามา 

     

    รู้แบบนี้ไม่น่าคืนร่างเลย  เขาพูดอย่างเหนื่อยๆก่อนจะมุ่งหน้าหาที่พักต่อ

     

    นารุโตะจูงม้าของตนต่อไปตามทาง ยิ่งเสียงครึกครื้นเบาบางลงเท่าไหร่ แสงไฟก็มืดสลัวลงเท่านั้น ดวงตาสีฟ้าพยายามมองแหวกผ่านความมืด  ในที่สุดเขาก็พบแสงไฟเล็กๆ ที่พักที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา

     

    เชิญคร้าบ.....ไม่ทราบว่าท่านจะรับอะไรดีขอรับ  เด็กรับใช้วิ่งมาต้อนรับถึงหน้าประตู  ที่นี่ดูราวกับว่าไม่มีแขกมาพักนานแล้วอย่างนั้นล่ะ

     

    ข้าต้องการที่พัก แล้วก็อาหารสำหรับข้าและม้าของข้า  ร่างบางชี้ไปยังม้าของตน เด็กรับใช้มองตามก่อนจะยิ้มให้

     

    ได้ขอรับ ไม่ทราบว่าท่านจะพักกี่คืนขอรับ? ”  เขาถามต่อ

     

    ข้ายังไม่แน่ใจ  นารุโตะตอบ

     

    ขอรับ งั้นเชิญท่านด้านในก่อน  เด็กรับใช้ผายมือเชิญ  ก่อนจะจูงม้าของนารุโตะไปไว้ด้านหลัง  ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านใน  ที่นี่มีเพียงแสงไฟจากตะเกียงเท่านั้น ผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ

     

    ห้องพักใช่ไหมขอรับ เชิญทางนี้ๆ  ชายชราอายุประมาณ 50-60 ปีเดินมายิ้มให้กับเขา ก่อนจะเชิญเขาขึ้นไปยังด้านบน

     

    ห้องที่นี่ดูโทรมๆเก่าๆ หากเป็นคนอื่นคงคิดว่ามันสกปรกและไม่น่าอยู่อย่างยิ่ง  แต่ไม่ใช่สำหรับนารุโตะ  เขาคิดว่าที่นี่ดูเหมาะสมและเงียบสงบ  เขาชอบที่จะอยู่ที่แบบนี้มากกว่า

     

    นารุโตะเดินตรงไปยังระเบียงเล็กๆด้านนอก  ดวงตาสีฟ้าจ้องมองไปยังปราสาทหลังใหญ่ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่พักของเขา  ชายหนุ่มนิ่งคิด

     

    สักพักเราจะนำอาหารขึ้นมาให้นะขอรับ เชิญท่านพักผ่อนตามสบาย  ชายชรากล่าวก่อนจะขอตัวออกไป  นารุโตะมองตามจนแน่ใจว่าปลอดภัย  เข้าจึงปลดฮูดและเสื้อคลุมออก  ผมสีทองยาวของเขาส่องประกายเมื่อต้องกับแสงจันทร์

     

    ไม่นานนักทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกกลืนหายไปในความมืด  การเดินทางอันยาวนานทำให้ร่างกายของเขาอ่อนเพลียไม่น้อย  วันนี้เขาต้องการพักผ่อน  ร่างบางหลับลงอย่างง่ายดาย  ความเงียบแห่งรัตติกาลนี่แหละ ที่เขาโหยหาตลอดการเดินทาง

     

     

     

     

     

     

     

     

    10 ปีที่แล้ว บ้านเล็กๆบนยอดเขาแห่งหนึ่ง

     

    ดูสิๆๆๆฟุยุกิ ข้าชนะโซไคกิแล้วเห็นมั๊ย...ฮ่าๆๆๆ  เด็กน้อยคนหนึ่งหัวเราะร่วน  ในมือถือมีดสั้นเล่มเล็กหลายเล่มไว้ด้วย

     

    เจ้านี่เก่งจริงๆนารุโตะ  ชายหนุ่มเดินจาลูบศีรษะเด็กน้อยด้วยความรักใคร่

     

    อยู่แล้ว....อิอิ  และแล้วเสียงหัวเราะของคนทั้ง 3 ก็ดังขึ้นพร้อมกัน 

     

    ความทุกข์ในใจของเด็กน้อยดูเหมือนกับจะคลายลงแล้วด้วยความรักที่ผู้เลี้ยงดูทั้งสองมีให้แก่เขา  แต่ไม่นานภาพความทรงจำอันเลวร้ายก็ได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง  มันมาเพื่อตอกย้ำความแค้นให้กับเด็กน้อยคนนี้

     

    ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่กลางบ้านไม้หลังนั้น  นารุโตะและโซไคกิที่พึ่งกลับจากการไปหาของป่า รีบวิ่งตรงไปที่ร่างๆนั้นทันที  แต่ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะสายไปเสียแล้ว

     

    ฟุยุกิๆๆ....ไม่นะๆๆไม่เอาอย่าทิ้งข้าไปนะ ฟุยุกิ!!!!!! ”  เด็กน้อยร้องลั่น ดวงตาสีฟ้าเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาที่ไหลล้นออกมาอย่างไม่ขาดสาย เช่นครั้งวันวาน  ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังได้เพียงแต่กำมือแน่น  ไร้ซึ่งเสียงและน้ำตา

     

    ร่างสองร่างนั่งคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพที่ถูกประดับด้วยดอกไม้ป่านาๆชนิด  เสียงสะอื้นยังคงมีอยู่  แต่ในเสียงแห่งความเศร้าโศกนั้น หารู้ไม่ว่ามันแฝงไปด้วยความเคียดแค้นที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ  ภายหลังจากที่เด็กน้อยได้รู้ว่าใครเป็นผู้ทำแบบนี้

     

    พวกมัน!!พวกมัน!!ทำไมต้องทำแบบนี้!! ”  เด็กน้อยกล่าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยโทสะ

     

    ใจเย็นๆอาจไม่ใช่พวกมันก็ได้  โซไคกิกล่าวอย่างใจเย็น ถึงแม้จะรู้สึกไม่ต่างจากนารุโตะแม้สักนิด

     

    ไม่ใช่งั้นหรอ...ไหนลองบอกข้าซิ ว่าไอ้ผ้าผืนนี้ ถ้าไม่ใช่ของพวกมันแล้วจะเป็นของใคร ข้าจำได้จำได้ไม่เคยลืม!!! ”  นารุโตะตวาด  น้ำตาที่เกือบแห้งเหือดไปได้ไหลลงมาอีกครั้งด้วยความแค้น

     

    มันต้องการอะไรกันแน่!!ทำไมล่ะ!!ทำไมต้องฆ่าฟุยุกิ ทำไมต้องข้าพ่อกับแม่ ทำไมต้องทำร้ายคนในหมู่บ้านด้วย  ทำไม!!!!    คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ  อีกฝ่ายรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร  แต่ก็ไม่อาจกล่าวออกไปได้

     

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป เด็กน้อยคนเดิมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยความแค้น  สิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงชีวิตของนารุโตะก็คือความแค้น  เขาขอให้โซไคกิสอนทุกอย่าง  นารุโตะเป็นคนหัวไว บวกกับความตั้งใจของเขา ภายในเวลาไม่นาน เขาก็รุดหน้าจนแทบจะเก่งกว่าผู้สอนเสียแล้ว

     

    ความลำบากใจไม่ตกที่ใครอื่น  โซไคกิพยายามเลี่ยงทุกครั้งที่นารุโตะขอให้เขาสอนวิชาให้  แต่ก็ไม่สำเร็จทุกครั้งไป น่าแปลกที่เด็กคนนี้ดูมีอิทธิพลกับคนรอบข้างอย่างประหลาด  เหมือนเช่นพ่อและแม่ของเขาไม่มีผิด  นารุโตะเป็นศูนย์รวมของคนทั้งสอง

     

     

     

     

     

     

    แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบกับใบหน้างามที่กำลังหลับใหลอยู่  ร่างนั้นค่อยๆขยับตัว  ก่อนที่เปลือกตาสีเนื้อจะลืมขึ้นอย่างช้าๆเผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าใส 

     

    นายท่านขอรับ....อาหารเช้ามาแล้วขอรับ  เสียงดังขึ้นหลังจากนารุโตะตื่นได้พักใหญ่  ร่างบางเดินมาเปิดประตูให้ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะไม่สามารถเปิดประตูได้เอง

     

    ขอบคุณ  นารุโตะกล่าว  ชายหนุ่มผู้เสิร์ฟอาหารหันมายิ้มกลับ แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็ค่อยๆลดลง

     

    หืม?....ยังมีอะไรอีกหรือไง? ”  นารุโตะกล่าว  พลางจ้องไปยังอีกฝ่ายที่ยืนตาค้างอยู่

     

    มะ...ไม่มีขอรับๆขะ...ข้าขอตัวก่อน  อีกฝ่ายตอบแบบอึกอัก  ก่อนจะรีบพรวดพราดออกไป

     

    ยังไงคงต้องไปสำรวจรอบๆก่อน  เขากล่าว ก่อนจะนั่งลงทานอาหาร  แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นนักฆ่า แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะประมาทเรื่องที่ทาง  โดยเฉพาะการทำงานที่อยู่นอกเหนือจากเมืองที่เขารู้จัก  เขาจึงจำเป็นต้องออกไปสำรวจเสียก่อน

     

     

     

     

     

    TBC.

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×