ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม Short Fanfiction Katekyo Hitman Reborn [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #14 : Because of you (6927)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 52


    />


    เพราะคุณเพียงคนเดียว...ทำลายความตั้งใจเดิมที่ผมมีจนหมดสิ้น

    เพราะคุณเพียงคนเดียว....ทำให้คนที่ทำทุกอย่างได้เพื่อเป้าหมายอย่างผมเปลี่ยนแปลงไป

    เพราะคุณเพียงคนเดียว....ทำให้ความมืดหม่นในจิตใจของผมเบาบางลงได้

    และเพราะคุณเพียงคนเดียว....ทำให้คนที่ไม่คิดจะทำเพื่อใครอย่างผมยอมจำนนทุกอย่าง

     

     

     

    ทั้งหมด....เพราะคุณเพียงคนเดียว

     

     

     

     

     

     

    ท่ามกลางความมืดมิดในห้องขังแสนคับแคบ  ร่างสองร่างซึ่งถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนากำลังนั่งนิ่งเงียบ  ฟังเสียงพูดคุยและเสียงฝีเท้า  มันดูวุ่นวาย  เวียนวนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ราวกับว่าผู้อยู่ภายนอกกำลังวาดระแวงและเกรงกลัวผู้อยู่ภายในทั้งสองจับใจ

     

      นายไม่น่าออกมาเลย....    เสียงหวานเอ่ยทำลายบรรยากาศด้วยความรู้สึกผิด

     

    คิ้วเรียวเลิกสูง  พลางส่งเสียงหัวเราะตามนิสัย    ถ้าผมไม่ออกมา  ใครจะช่วยคุณล่ะครับ? 

     

    ใช่แล้ว....หลังจากที่ตัดสินใจบุกเข้าไปยังฐานของศัตรู  การต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสผ่านพ้นไปทีละนิด ๆ พร้อมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายพรรคพวกทั้งหมดต้องกระจัดกระจาย  เหลือเขาเพียงที่พลาดท่าตกลงมายังกับดักกระจอก ๆ แบบนี้

     

    แต่ไม่ใช่เพราะความโง่เขลา  หากแต่เป็นเพราะเรี่ยวแรงที่ถดถอยลงมากจากการต่อสู้ต่างหาก  และนั่นสร้างความเหนื่อยอ่อน  ปวดร้าวไปทั่วอวัยวะทุกส่วน  แม้แรงจะขยับตนให้ไปในทิศทางตามต้องการยังแทบไม่มี

     

      ขอโทษนะ...นายช่วยฉัน...ทุกที    สึนะกล่าวด้วยน้ำเสียงขาดห้วง  ลมหายใจหอบถี่บ่งบอกถึงความอึดอัด

     

    ดวงตาสองสีเริ่มมองไปยังร่างบางที่นั่งหอบสะท้าน  เนื้อตัวสั่นเทาพิงกำแพงเย็นยะเยียบ  แสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านเมฆดำมืดเล็ดลอดเข้าช่องว่างเล็ก ๆ ด้านบน  เห็นทุกอย่าง....ชัดเจน

     

    ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากอีกฝ่าย  นั่นทำให้จิตใจที่กำลังอ่อนแอหวั่นไหวลงอีก  สึนะรู้สึกโทษตัวเองเหลือเกินที่สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้างมากมาย  ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ที่เคยเป็นศัตรู

     

    มุคุโร่ปลดโซ่ที่พันธนาการออกอย่างง่ายดายราวกับเป็นแค่ด้ายเส้นเล็ก ๆ ดวงตากลมโตมองการกระทำนั้นด้วยสติที่เลือนรางเต็มที  เลือนรางจนภาพทุกอย่างแทบจะจบลงด้วยความดำมืด

     

      เข้มแข็งไว้นะครับวองโกเล่    มือเย็น ๆ ทาบทับบนแก้มเนียน  สึนะรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย 

     

    วงแขนแกร่งช้อนร่างตรงหน้าขึ้นอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะใช้พลังต้องห้ามของตนทำลายบานประตูแกร่ง  เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นรอบนอก  ก่อนจะจบด้วยเสียงกรีดร้องสุดท้ายและกลิ่นคาวเลือด

     

    เลือด....ที่หลั่งจากศัตรูด้วยความผิดอันยากจะอภัย

    โทษ....ที่กักขังท้องฟ้าไว้ในความมืดมิด

     

    สึนะใกล้สิ้นสติเต็มที่  เขารับรู้เพียงแต่แรงกระเทือนและฝีเท้าคู่หนึ่งที่กำลังเร่งจังหวะวิ่งอยู่บนพื้นปูน  แม้พยายามข่มไม่ให้หลับใหล  แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ความอ่อนแอของร่างกายตน

     

    เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง  มองเห็นเพียงเพดานสีขุ่น  ดวงไฟสีส้มเรือง ๆ สะท้อนเข้าดวงตา    นี่ที่ไหนกัน? 

     

    สึนะค่อย ๆ พยุงร่างกายตนลุกขึ้นนั่ง  เสื้อที่คอยคลุมร่างกายไว้หล่นลงกับพื้น  มือเล็กเอื้อมหยิบ  สำรวจดูทั่ว...มันเป็นเสื้อของมุคุโร่ไม่ผิดแน่  เช่นนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คงไม่ใช่ความฝัน

     

      ตื่นแล้วหรือครับ?    เสียงทุ้มเรียบเอ่ยเบา  เขาขยับกายหันมอง

     

    มุคุโร่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง  แสงนวลจากดวงจันทร์ส่องบนร่างสูง  เส้นผมสีน้ำเงินเข้มยาวเป็นประกาย  ใบหน้าคมหล่อเหลากว่าเมื่อก่อนมากนัก  ดวงตาสองสีมั่นคง  และรอยยิ้มอ่อนโยนที่ถูกแต่งแต้มขึ้น

     

    เขาหลบสายตาจากภาพตรงหน้า    อะ...อืม 

     

    แม้จะเคยได้เห็นลาง ๆ ในความฝัน  แต่ไม่นึกว่าพอได้เห็นเต็มตาแล้วมันจะรู้สึกแปลกไปได้ถึงเพียงนี้  ทำให้เขาคิดว่าการเจริญเติบโตของร่างกายนี่มันน่ามหัศจรรย์จริง ๆ  แล้วตัวเขาล่ะ?....อีกสิบปีข้างหน้าเขาจะเป็นเช่นไรกัน

     

    อีกฝ่ายหัวเราะเบาพลางเดินเข้ามาใกล้  นั่งลงยังปลายโซฟาที่มีที่เหลือพอประมาณ    ร่างกายดีขึ้นแล้วนะครับ? 

     

    สึนะพยักหน้า  ก้มหน้าก้มตาไม่มองตอบ    ว่าแต่....มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? 

     

      เมื่อครู่?  หรือว่า? 

      เมื่อกี้....แล้วก็กับนาย... 

     

    มุคุโร่แย้มยิ้มอีกครั้ง  มือเรียวถือวิสาสะเอื้อมสัมผัสผิวแก้มใส  เบี่ยงให้คนหลบหน้าหันมองตอบ  ดวงตาทั้งสองประสานกัน    ผม....พาคุณออกมา  ความมืดไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผม 

     

    นั่นสินะ....หลังจากเขาถูกจับ  เขาก็ถูกมัดมืดมัดเท้าไว้  แม้แต่ดวงตายังถูกปิดไม่ให้มองเห็น  และก่อนที่จะแย่ไปกว่านี้  เสียงของมุคุโร่ก็ดังขึ้นขัด  แล้วอีกฝ่ายก็ยอมถูกจับตัวมาเสียเฉย ๆ

     

    สึนะพินิจมองใบหน้าคม  เอื้อมมือสัมผัสกลับ  ดวงตาสองสีแสดงความแปลกใจเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร  ซ้ำยังยกมืออีกข้างที่ว่างอยู่ขึ้นจับมือที่ทาบบนหน้าตน 

     

      เปลี่ยนไปมากเลยนะ  ดูดีขึ้น    คนร่างเล็กหัวเราะคิกคัก  ดูผ่อนคลายทุกครั้งที่อยู่กับมุคุโร่  ไม่ว่าจะเป็นเพียงความฝัน  หรือความจริง....

     

      คุณไม่เปลี่ยนไปเลย....แต่ผมเชื่อว่าภายในของคุณแข็งแกร่งขึ้น    อีกฝ่ายเอ่ยตอบ

     

    ปลายนิ้วโป้งเลื่อนขึ้นลูบใต้ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต    แววตาของคุณ....สวยขึ้นมากนะครับ 

     

    ทว่าคำชมนั่นกลับได้เป็นหยาดน้ำตารินหลั่งแทน  สึนะก้มหน้าลงซุกมือแสนเย็นแต่อบอุ่น  พยายามเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก  มันฟังไม่เป็นศัพท์  มุคุโร่แลมองนิ่ง

     

      น...นาย  กลัวไหม  เหงาไหม?   

     

    การถูกกักขังเพียงลำพัง  ช่างเงียบเหงาและน่าหวาดกลัวเหลือเกิน

     

      ข....ขอโทษที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย   

     

    ผิด....เจ็บใจ  ที่ไม่อาจช่วยอะไรได้แม้แต่น้อย

     

    มุคุโร่คว้าร่างที่กำลังสั่นด้วยแรงสะอื้นมากอดแน่น  กดใบหน้างามให้ซุกลงกับแผ่นอกกว้าง  มือแกร่งลูบเส้นผมนุ่มไปมา  อ่อนโยน....แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกมากมาย

     

      มันไม่ใช่ความผิดของคุณแม้แต่น้อย 

     

    มันคือความผิดของผมเพียงคนเดียว

     

      อย่าร้องไห้ 

     

    เพราะน้ำตาทุกหยาดหยดที่รินหลั่งนั้น  มันสามารถกัดกร่อนจิตใจของผมให้ผุพังลงได้ไม่ยาก

     

    ราวกับว่าจิตใจเบื้องลึกที่มุคุโร่พยายามเก็บกักไว้สามารถสื่อไปถึงสึนะได้  ร่างในอ้อมกอดผละตัวออกช้า ๆ มือเล็กสองข้างยกขึ้นเช็ดน้ำตา  ชั่วอึดใจก็กลับมายิ้มอีกครั้ง 

     

    รอยยิ้มงดงาม....ที่สายหมอกหมายจะได้เห็น

     

      ฉันจะไม่ร้องไห้ 

     

    ถ้ามันทำให้นายเจ็บปวด

     

      ฉันจะไม่โทษตัวเอง 

     

    ถ้ามันทำให้นายรู้สึกผิดยิ่งกว่า

     

    ร่างสูงแย้มยิ้มกว้าง  ไม่ปฏิเสธว่าตนเองเปลี่ยนแปลงไปเพราะใคร  ใบหน้าอันตั้งมั่นกับดวงตาที่แข็งแกร่งจริงจัง 

    แม้ไม่ใช่สีเดียวกับท้องฟ้า  แต่กลับทรงพลังและงดงามเทียมเท่า

     

    ว่ากันว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า  แต่สำหรับสายหมอกผู้นี้แล้ว  ไม่มีท้องฟ้าใดจะเหนือไปกว่าท้องฟ้าผืนนี้

     

    ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าใด  พวกเขาทั้งคู่รับรู้เพียงแต่สีดำมืดของนภายามค่ำ  มันคงไม่สะดวกที่จะกระทำการใด  อักทั้งร่างกายของสึนะตอนนี้ก็ไม่พร้อมจะเคลื่อนไหว  เขายังคงอ่อนแอเกินกว่าใช้พลังได้

     

    ร่างบางนั่งอยู่บนตักแกร่ง  จับปอยผมสีเงินเล่นไปมาราวเด็กที่กำลังเล่นของถูกใจ  มุคุโร่มองภาพตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี  เดาได้จากที่ใบหน้าคมไม่เคยคลายรอยยิ้มสักครั้ง

     

    ความห่างไกลกันใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียเสมอไป 

    เพราะมันทำให้เวลาเจอหน้ากันจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าของความรักได้มากกว่า

     

    ความรักเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดกัน  สึนะฉุกคิดเมื่อมองยังนัยน์ตาสองสี   เคยเจอกันจริง ๆ ก็ตั้งแต่ที่สู้กัน  นอกนั้นก็พบเพียงในฝัน  ในฝันที่เหมือนโลกแห่งความจริงไปเสียทุกอย่าง 

     

    ครั้งแรกคือศัตรู  ครั้งที่สองคือคนรู้จัก  ครั้งที่สามคือผู้พิทักษ์ 

     

    ความคุ้นเคยเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาด  หลายคราที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้อีกฝ่ายฟัง  ระบายความรู้สึกที่อัดอั้น  มุคุโร่กลายเป็นเหมือนสิ่งที่รองรับอารมณ์ของเขา  แต่ทั้งอย่างนั้น....ทั้ง ๆ ที่เป็นอย่างนั้น

     

    สายหมอกยินดีแบ่งเบา      

    บรรเทาความเจ็บปวดให้ท้องฟ้า

     

    เมื่อรู้ตัวอีกทีก็เกิดความรู้สึกนี้อย่างไม่อาจหักห้ามใจ  วินาทีแรกที่รู้ว่าโครมบาดเจ็บหนัก  จิตใจของเขาว้าวุ่นไปหมด  เป็นห่วงคนไกลที่ไม่ได้พบหน้ามานาน  ทั้งในความจริงและความฝันนั่น

     

    เมื่อเห็นมือซุกซนหยุดนิ่ง  ดวงตากลมโตเหม่อลอย  จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น    คิดอะไรอยู่ครับ? 

     

    คนถูกถามเมียงมอง    กำลังคิดว่า....ทำไมนายถึงไว้ผมยาว... 

     

      มันไม่เหมาะหรือไงกันครับ?    เสียงทุ้มหัวเราะ

     

    สึนะรีบส่ายศีรษะ    ไม่ใช่ ๆ เหมาะดี  ฉันชอบนะ 

     

    มุคุโร่มองร่างในอ้อมอก  จะว่าไปเขาก็นึกเหมือนกัน  ตั้งแต่เมื่อใดนะที่ตนเปลี่ยนความคิดไป  หมายจะยึดครอง  หมายจะทำลายทุกสิ่งด้วยความเคียดแค้น  สุดท้ายก็ต้องลงเอยที่นี่...

     

    ใต้ท้องฟ้าที่แสนงดงามสดใสผืนนี้

     

      นายยังไม่ตอบคำถามเลยนะ    สึนะดึงผมในมือตนเบา ๆ ราวกับเด็กน้อยไม่มีผิด

     

    ดวงตาสองสีก้มลงมอง  มือแกร่งยกขึ้นสัมผัสพวงแก้มเนียน    ผมอธิษฐานเอาไว้ 

     

    คำพูดที่ออกมาเพียงแค่ไม่กี่ประโยคทำเอาคนนั่งนิ่งถึงกับขยับตัว  ตั้งใจฟังอย่างอดไม่ได้  ก็จะไม่ให้แปลกใจได้อย่างไรล่ะ  คนอย่างมุคุโร่เชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย  เชื่อถึงขนาดจะพูดออกมา...

     

      อธิษฐานว่าอะไรเหรอ? 

     

      ไม่รู้จริง ๆ หรือครับ?    คิ้วเรียวเลิกสูงเป็นเชิงหยั่งถาม

     

      ถ้ารู้จะถามทำไมล่ะ   

     

    มุคุโร่หัวเราะ  ไม่ได้คุยกันเสียนาน  ไปติดนิสัยต่อล้อต่อเถียงขี้กวนประสาทแบบนี้มาจากใครกันนะ    ผมอธิษฐานว่า.... 

     

      ว่า???    สึนะทวนคำ

     

    มุคุโร่ก้มลงจุมพิตริมฝีปากนุ่ม  ก่อนจะประกบแน่นขึ้น  สึนะรับสัมผัสไม่ขัดขืน  เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ปฏิเสธจึงเพิ่มแรง  เร่าร้อน  วาบหวาม  แต่กลับหอมหวานและอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    เขาคลายริมฝีปาก  มองใบหน้าแดงระเรื่อที่บัดนี้หอบถี่อยู่    ขอให้ได้พบกับคุณ  จนกว่าจะถึงวันนั้น  ผมจะไม่มีวันตัดผมทิ้ง 

     

    สึนะพยายามตั้งสติ  คิดตามทุกประโยค    งั้นนายก็จะตัดผมแล้วหรอ??? 

     

      ถ้านั่นเป็นความต้องการของคุณ 

     

    เส้นผมสีน้ำตาลสั่นไหว    ไม่เอา  ไม่อยากให้ตัดเลย  ฉันชอบแบบนี้นะ 

     

    มุคุโร่หัวเราะ    แล้วจะให้ผมไว้เพื่ออะไรดีล่ะครับ? 

     

    จริงสิ....เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน  ปกติถ้าสมหวังแล้วเขาก็จะตัดผมทิ้งตามคำอธิษฐาน  แล้วนี่ถ้าจะไว้ต่อ  จะไว้เพื่ออะไรล่ะ?  เพราะสิ่งที่มุคุโร่ขอไว้  มันก็ได้ผลตามนั้นแล้วนี่นา....

     

      ผมคิดออกแล้วล่ะครับ 

     

    สึนะหันมอง    คิดออกว่าอะไร?? 

     

    ใบหน้าคมเลื่อนเข้าใกล้ใบหู  ก่อนกระซิบแผ่ว  …..

     

    คนฟังใบหน้าแดงก่ำทันทีที่จบประโยค  มือเล็กยกขึ้นดันอีกฝ่ายให้ออกห่าง  แสดงอาการเขินอายอย่างไม่ปิดบัง  มันทำให้มุคุโร่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยความเอ็นดู

     

    มือแกร่งรั้งอีกฝ่ายไว้  โอบกอดไม่ยอมปล่อย    ตกลงไหมครับ? 

     

      จะบ้าเหรอ!! งั้นนายก็ได้ไว้ยาวจนถึงพื้นแน่ ๆ ล่ะ!! 

     

    เสียงหัวเราะยังคงคลอไปกับเสียงกร่นด่า  แต่นั่นก็คือความสุขที่เกิดขึ้น  การรอคอยอันแสนคุ้มค่า  คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของคนทั้งคู่มี   มุคุโร่และสึนะ  สายหมอกและท้องฟ้า  ธรรมชาติซึ่งไม่มีวันแยกจาก

     

      จะไม่ตัดจนกว่า....เราจะได้แสดงความ รัก กันจริง ๆ ดีไหมครับ? 

     

     



     

    ===================END================

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×