คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Always with you (6927)
ประตูไม้บานใหญ่เปิดอ้าออกพร้อม ๆ กับเสียงแก้วและถาดร่วงหล่นดังในเวลาต่อมา โกคุเทระวัยหนุ่มยืนเบิกตาค้างอย่างตกใจ เมื่อมองไม่เห็นร่างเล็กที่แสนคุ้นเคยอยู่ประจำที่โต๊ะทำงาน แน่นอนว่าไอ้คนจอมโวยวายอย่างเขามีรึจะให้เรื่องมันเป็นไปอย่างสงบเงียบ
“ รุ่นที่ 10 คร้าบบบบบบบบบบบบบบ!!! ” เสียงตะโกนที่ไม่ว่าใครได้ยินก็ต้องนึกใบหน้าหล่อเหลาที่คลอไปด้วยน้ำตาน้อย ๆ ออก
ชายหนุ่มวิ่งสอบถามคนโดยทั่ว ไม่ว่าจะเป็นคนภายใน คนดูแลบ้าน แม้กระทั่งคนดูแลสวนหรือคนผ่านทางมาก็ยังไม่วายที่จะถาม ทำเอาวรุณเพื่อนผู้ขี้เล่นและมองโลกในแง่ดีอดจะถามขึ้นไม่ได้
“ คราวนี้อะไรอีกล่ะเนี่ย? ” ยามาโมโตะเอ่ยถามคนที่วิ่งหน้าตาตื่นไปมา นี่แค่ออกไปด้านนอกครู่เดียวกลับมาก็เกิดเรื่องเสียแล้ว
เจ้าของผมสีเทาหายใจหอบหนัก “ รุ่น....รุ่นที่ 10 หายไป!! ”
“ สึนะน่ะหรือ? ไปห้องน้ำรึเปล่า? ” ชายหนุ่มผมเดาเกาศีรษะเบา ๆ มองไปยังคนตรงหน้า
โกคุเทระแทบอยากจะงัดไม้ตายมาใช้กับไอ้เจ้าเบสบอลหัวทึ่มตรงหน้านัก หากว่าแค่ไปเข้าห้องน้ำ เขาจะมาวิ่งตามหาจนจะพลิกแผ่นดินแบบนี้งั้นหรือ!!!
“ ไอ้เจ้าบ้า!!ถ้ามีฉันจะมามัวหาแบบนี้ไหมเล่า!! ” คนขี้โวยวายตะโกนใส่ มือทั้งสองกระชากคอเสื้อสีดำนั่นมาใกล้ ๆ อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ กลับ
“ เกิดอะไรขึ้นรึครับ? ” เสียงเรียบเย็นที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลังของคนทั้งสอง ใบหน้าเปื้อนยิ้มหนึ่งในผู้พิทักษ์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจอมหลอกลวง แต่ทั้ง ๆ ที่เป็นเช่นนั้น กลับไม่มีสักครั้งที่เขาจะละเลยหน้าที่ยอมปล่อยให้นภาแสนสำคัญต้องเป็นอันตราย
ยามาโมโตะยิ้มพลางยกมือขึ้นทักทายตามนิสัย “ โย่!มุคุโร่ พอดีสึนะหายไปน่ะ เจ้านี่เลยโวยวายใหญ่ ”
“ แล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ตรงไหนกันว่ะไอ้เจ้าเบสบอล!! ” คนถูกพาดพิงอารมณ์เดือดขึ้นอีกครั้ง
แต่ผู้มาเยือนใหม่ไม่ได้สนใจการกระทำของคนทั้งสอง มือเรียวยกขึ้นจับปลายคางอย่างใช้ความคิด ดวงตาสองสีมองออกไปภายนอก เหมือนกำลังนึกถึงอะไรสักอย่าง อะไรสักอย่างที่จะทำให้การหายตัวไปครั้งนี้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
“ ไว้เป็นหน้าที่ของผมเองครับ วองโกเล่คงไปไหนไม่ไกล โกคุเทระคุงกับยามาโมโตะคุงกลับไปทำงานเถอะครับ ” รอยยิ้มฉาบบนใบหน้าคมอีกครั้ง
เจ้าของผมสีเทามองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่โกคุเทระก็ยังไว้ใจคนได้ยากอยู่ดี ยิ่งเกี่ยวกับเรื่องนายเหนือหัวผู้เป็นที่รักด้วยแล้วยิ่งยากใหญ่
เพื่อนรักพอเห็นแบบนั้นก็เข้าใจความคิด “ ฝากด้วยนะครับคุณมุคุโร่ เราก็ไปทำงานกันต่อเถอะ ” ก่อนจะกึ่งลากกึ่งฉุดผู้เป็นมือขวาจากไป
“ เฮ้ย!!จะไปไหนปล่อยฉัน!!ฉันจะไปหารุ่นที่ 10!!! ” คนถูกลากยังคงโวยวายไม่เลิก
มุคุโร่เริ่มออกตามหาตามที่รับปาก ใช่ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสถานที่ใดเลยภายในคฤหาสน์แฟมิลี่หลังโตนี้ที่จะไม่ตกเป็นจุดน่าสงสัย
ชายหนุ่มตริตรองอยู่พัก ก่อนจะตรงไปยังที่หมาย ลัดเลาะผ่านสวนขนาดใหญ่ภายใน ตรงเข้าไปยังด้านหลังซึ่งอยู่ติดกับทะเลสาบ ที่นั่นเป็นที่รกร้างไม่เหมาะแก่การพักอาศัยเท่าไหร่ แต่มันกลับเงียบสงบและสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อพ้นไปจากป่ารกก็จะพบกับพื้นที่โล่ง ต้นไม้ต้นใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณริมฝั่งซึ่งเป็นเนินดินก่อตัวขึ้นมาสูงจากพื้นปกติเล็กน้อย ใต้นั้น....ใต้ร่มเงาผืนนั้น เขาสังเกตเห็นปอยผมสีน้ำตาลอ่อนของใครบางคนเรี่ยอยู่บนผืนหญ้าสีเขียวอ่อนนุ่ม
มุคุโร่คลี่ยิ้มบาง ดวงตาสองสีจับจ้องร่างเล็กซึ่งบัดนี้กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียที่มีอิทธิพลอันดับต้น ๆ ในอิตาลี นภาของพวกเขาเหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหก “ ถ้าง่วงทำไมไม่ไปนอนในห้องล่ะครับ โกคุเทระคุงตามหาเสียให้วุ่นใหญ่ ” เมื่อเห็นว่าคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่นั้นยังมีสติอยู่ก็จึงเอ่ยทัก
“ ไม่ได้ง่วงสักหน่อย ” สึนะยังคงไม่เปิดเปลือกตา เพียงแต่ใช้มือข้างหนึ่งที่หนุนศีรษะยกขึ้นมาตบบนพื้นหญ้าข้าง ๆ ตนเบา ๆ คล้ายกับกำลังบอกความต้องการบางอย่างแก่ผู้ที่ยืนอยู่
ร่างสูงกว่าเข้าใจความหมายนั้นเป็นอย่างดี เขาเดินมานั่งลงตรงที่อีกฝ่ายบอกไว้ “ แล้วทำไมมาหลบที่นี่ล่ะครับ? ”
“ ก็ไม่ได้หลบอีกนั่นแหละ ” เสียงหวานเอ่ยเบา ก่อนจะขยับตนเองขึ้นมานอนหนุนตักแข็งแกร่งแต่อ่อนโยนนั่น
มุคุโร่สัมผัสเส้นผมอ่อนนุ่มขึ้นสูดกลิ่นเบา ๆ เฉกเช่นที่เขามักจะกระทำอยู่เสมอ ในหมู่ผู้พิทักษ์ทั้งหมด เขาอาจเป็นคนเดียวที่เข้าใจคนตรงหน้าดีที่สุด ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหา สึนะมักจะได้รับความช่วยเหลือจากมุคุโร่เสมอ และมุคุโร่เองก็มักจะปรากฏออกมาให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีเสมอเช่นกัน
“ นี่....ฉันเหมาะจะเป็นบอสของพวกนายแน่หรอ? ” จู่ ๆ คนที่เงียบไปนานก็เอ่ยขึ้น ดวงตากลมโตคู่สวยแหงนมองยังอีกฝ่าย
คนถูกถามเลิกคิ้วสูง “ อะไรทำให้คิดแบบนั้นครับ? ”
สึนะไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดกับคำถามที่ถูกย้อนมา นั่นเป็นเพราะว่ามุคุโร่น่ะมักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาเขาต้องการขอความเห็น จะเรียกได้ว่าโกรธจนชินแล้วก็คงไม่แปลก
“ นั่นสินะ....อะไรทำให้คิดแบบนั้น ” คนกล่าวยกมือขึ้นทาบไปบนท้องฟ้า แสงแดดอ่อนเล็ดลอดมาตามช่องว่างของใบไม้ที่กำลังพลิ้วไหวไปตามแรงลมอ่อน ๆ ให้ตายสิ.....ยอกย้อนแบบนี้ นี่เขาติดนิสัยมุคุโร่ไปแล้วแหง ๆ
“ วองโกเล่ครับ....นี่ผ่านมากี่ปีแล้ว? ”
สึนะลดมือลง สบกับตาสองสีที่มองมา “ อืม...8 ปีแล้วล่ะ ”
คนถามเมื่อครู่หัวเราะตามนิสัย “ แล้วคิดว่ามีคนบ้าที่ไหนยอมติดตามคนที่พวกเขาคิดว่าไม่คู่ควรถึง 8 ปีบ้างไหมครับ? ”
แม้จะเหมือนเป็นคำถามแต่สึนะรู้ดีว่านั่นไม่ใช่ มันคือการพูดปลอบประโลมในแบบของร่างสูงเอง อาจจะดูแปลกไปเสียหน่อย แต่เขาก็รู้ดี.....เข้าใจมันดี “ ก็คงมีแต่พวกนายล่ะมั้ง ” เขาหัวเราะ
“ ไม่ใช่ว่าเพราะคุณคือสายเลือดของวองโกเล่ ไม่ใช่เพราะคุณคือคนที่ถูกเลือกมา แต่เพราะคุณเป็นคุณ เป็นนภาที่แม้นจะอ่อนแอสำหรับคนอื่น แต่เข้มแข็งเสมอสำหรับพวกผม ”
ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตเบิกกว้าง นี่เป็นประโยคแรกเลยก็ว่าได้ในรอบหลายปีที่ผ่านมาที่เขารู้สึกว่ามันช่างจริงใจและอ่อนโยนเหลือเกิน ทำเอาคนอารมณ์คล้ายต้นไม้ใกล้ตายอย่างเขาชุ่มชื่นขึ้นทันที
และรับรู้ได้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาออกสีแค่ไหน ....
“ เป็นอะไรไปครับ? ” มุคุโร่แสร้งถามทั้ง ๆ ที่รู้แก่ใจ เขาเหยียดยิ้มอย่างเช่นทุกครั้ง
“ จะนอน....เดี๋ยวสักพักปลุกด้วยนะ ” คนว่าเบี่ยงหน้าหนีอย่างขัดเขิน คนฟังได้แต่หัวเราะเบา ๆ
ไม่นานนักมุคุโร่ก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอเรื่อยไปกับสายลม แม้จะบางเบาแต่ก็ทำให้รู้ได้ถึงห้วงนิทราอันแสนสุขของร่างที่นอนหนุนตักของเขาอยู่ ชายหนุ่มถอดเสื้อของตนคลุมร่างที่นอนคู้อยู่ มือแกร่งยังคงสัมผัสเส้นผมเล่นไปมาอย่างคุ้นเคย
“ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี...ผมก็จะยังคงเดินเคียงข้างคุณเสมอ สึนะโยชิ... ” ริมฝีปากบางก้มลงสัมผัสหน้าผากมนเบา ๆ ความอ่อนโยนที่ได้รับทำให้คนร่างเล็กกว่าคลี่ยิ้ม ไม่ได้ตื่นขึ้น....หากแต่สัมผัสนั้นคงทำให้ความฝันที่เป็นอยู่ดีขึ้นจนเกิดรอยยิ้ม
....นภาผ่อนคลายกลายเป็นสายลม...
....หลั่งรินกลายเป็นสายฝน...
...บ้าคลั่งกลายเป็นสายฟ้า...
...หลอกลวงกลายเป็นสายหมอก...
...หม่นหมองกลายเป็นเมฆา....
....กระจ่างฟ้ากลายเป็นอรุณ....
End.
ความคิดเห็น