ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวม Short Fanfiction Katekyo Hitman Reborn [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #1 : Surrender to you (6927)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 52


    />


    ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นช่างน่าขบขันนัก....

     

     

     

     

    ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองใบหน้าของผู้ที่ยืนถือแฟ้มเอกสารอยู่ข้างโต๊ะทำงานตัวใหญ่  มือเรียวเท้าปลายคางของตนนิ่ง  เหมือนจงใจจะหาคำตอบอะไรสักอย่างให้ได้จากนัยน์ตาสองสีแปลกประหลาดนั่น  นาทีแล้วนาทีเล่า ผ่านไปจนคนถูกมองรู้สึกหงุดหงิด

     

    มุคุโร่สาวเท้ามาใกล้  ใบหน้าคมเลื่อนเข้าปะทะ  จะมองอีกนานไหมครับ?

     

    ก็จนกว่าจะหาคำตอบได้ละมั้ง?  สึนะยิ้มกว้าง  ไม่ได้หวั่นเกรงอีกฝ่ายเลยสักนิด

     

    ชายหนุ่มยืนตรงพลางถอนหายใจยาว  มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นกุมศีรษะ  ถ้ามองแล้วงานเอกสารเดินไปด้วยผมก็จะไม่ว่าหรอก  แต่นี่วองโกเล่หยุดทำงานมาจะร่วม 20 นาทีแล้วนะครับ  เสียงทุ้มเอ่ยแกมต่อว่า

     

    คนถูกว่าก้มลงมองเอกสารบนโต๊ะ  แล้วเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มสลับไปมา  ถ้าฉันทำได้จริง ๆ ฉันคิดว่าฉันคงรู้คำตอบที่ต้องการไปนานแล้วล่ะ

     

    มุคุโร่รู้สึกว่าตนเองกำลังนั่งเถียงอยู่กับเด็กเอาแต่ใจที่ไม่มีวันรู้จักโต  ให้ตายเถอะ...ตั้งแต่เมื่อไหร่นะที่ดวงตาคู่สวยส่องประกายของเพลิงนภางดงามนั่นถึงได้กลายเป็นแบบนี้  ไม่สิ...ต้องถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่กลายมาเป็นแบบนี้

     

    ตามปกติแล้วไม่ใช่หน้าที่ของเขาเลยที่จะต้องมายืนคอยเฝ้าดูแลการทำงานของบอสวองโกเล่  แต่โกคุเทระมือขวาแสนหวงเจ้าของรายนั้นดันติดภารกิจสำคัญที่จะต้องบินไปเจรจาการค้าแทน  เพื่อลดความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นต่อชีวิตของสึนะโยชิ

     

    ทำให้ภาระที่เหลือตกมาเป็นของเขาที่ดันไม่มีงานจำทำในช่วงนี้พอดิบพอดี  รีบสะสางให้เสร็จเถอะครับ  ผมไม่ได้มีเวลามานั่งรอคุณทั้งวันหรอกนะ

     

    ริมฝีปากบางทำท่าจะเอื้อนเอ่ยอะไรบางอย่างก่อนจะปิดนิ่งลง  ดวงตาสีน้ำตาลก้มลงมองงานตรงหน้านิ่ง  มือเริ่มขยับลงนามในเอกสารต่อดังเดิม  ฉันรู้...  เขาพึมพำเบา ๆ

     

    คิ้วเรียวเลิกสูงอย่างแปลกใจให้กับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันนั่น  มุคุโร่พยายามมองสีหน้าอีกฝ่าย  ใบหน้าหวานดูหม่นหมองลงทันตา  เพราะเขางั้นหรือ?

     

    ความรู้สึกมากมายไหลล้นท่วมในห้วงความคิดและจิตใจ  ชายหนุ่มกำมือแน่นอยู่นานก่อนจะตัดสินใจวางแฟ้มในมือของตนลงบนที่ว่างที่เหลือเพียงน้อยนิดบนโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่นั่น  แล้วหันหลังให้คนก้มหน้าก้มตา

     

    ผมจะให้คนมาคอยดูแลแทน  หากมีอะไรก็ให้คนไปตามผมได้ที่ห้องสมุดนะครับ  มุคุโร่เอ่ยพลันเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

     

    เสียงบานประตูปิดลงแผ่วเบา  ดวงตาสีน้ำตาลเงยมองไปยังทิศทางนั้น  ฉันยังไม่รู้คำตอบเลยนะ....

     

     

     

     

    ทั้ง ๆ ที่ไม่คิดจะเปิดใจ  ทั้ง ๆ ที่ไม่คิดจะให้ใครเข้ามาครอบครอง....

     

     

     

     

    มุคุโร่ไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือเลยสักนิด  ถึงจะเป็นเล่มที่ตนโปรดปรานแค่ไหนก็ตาม  เขาปิดมันลงอย่างหงุดหงิด  แล้วเอนกายลงจนศีรษะพิงบนพนักของโซฟาตัวใหญ่นุ่มได้ 

     

    เปลือกตาบางปิดลงทาบทับดวงตาสองสี  มือสองข้างวางบนหนังสือที่ถูกวางไว้บนตัว  หากเป็นไปได้ก็อยากนอนหลับไปเรื่อย ๆ แบบนี้  ไม่ต้องรับรู้ความเป็นไปหรืออะไรที่มารบกวนจิตใจในตอนนี้  ไม่อยากทำหรือคิดอะไรเลยสักนิด

     

    เพราะกลัว...กลัวใจของตัวเอง  จะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่...?

     

    สึนะลงนามเอกสารฉบับสุดท้ายบนโต๊ะเสร็จสิ้น  เขาปิดมันลงพร้อมกับหันไปยิ้มให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ  รบกวนจัดการต่อทีนะ

    อีกฝ่ายค้อมศีรษะให้  ครับบอส

     

    บอส...เป็นคำเรียกที่เขาน่าจะชินหูได้แล้วแต่กลับไม่  สึนะรู้สึกถึงลำดับชั้นและความห่างไกล  จริง ๆ เขาชอบจะให้เรียกเป็นชื่อตนเองมากกว่า  แต่ธรรมเนียมก็ต้องเป็นธรรมเนียม  ใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้ง่าย ๆ

     

    แบบนี้เขาเลยรู้สึกกดดันทุกครั้งที่ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ตน  ขอบคุณนะ  เขาเอ่ยกับลูกน้องระดับสูงในวองโกเล่แฟมิลี่  อีกฝ่ายก็ยังคงทำความเคารพเพื่อรักษาความห่างไว้ดังเดิม

     

    เมื่อมั่นใจว่าอยู่ในห้องเพียงลำพังสึนะจึงลุกขึ้นยืน  บิดกายไปมาน้อย ๆ เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งอยู่กับที่มาทั้งวัน  แล้วหันมองออกไปยังท้องฟ้าสีแสดด้านนอก

     

    อีกไม่นานก็คงจะมืดแล้ว  และจะเป็นอีกคืนที่เขาต้องนั่งทานอาหารเย็นเพียงลำพังคนเดียว...  ชินเสียเถิดเรา..

     

    ความจริงเขาควรจะดีใจไม่ใช่หรือที่เวลาที่เหลือต่อจากนี้จะเป็นเวลาว่างเพียงน้อยนิดของบอสมาเฟีย  สึนะมองนาฬิกาบนโต๊ะพลางคิดในใจ  ตอนนี้เวลาห้าโมงเย็น...ถ้าออกไปข้างนอกก็คงจะพอได้ผ่อนคลาย

     

    ที่สำคัญ...เผื่อเขาจะนึกคำตอบที่ค้างคาอยู่ในใจออกบ้าง...

     

    ออกไปแค่นี้ไม่ต้องบอกก็คงไม่เป็นไรมั้ง...  เขานึกถึงคนที่ยังอยู่อีกคนหนึ่ง  แต่ถึงอย่างไรซะก็คงไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกหากบอกไป

     

    ไม่รู้ว่าเพราะความหละหลวมในการป้องกันดูแลหรือสึนะนั้นเชี่ยวชาญชำนาญทางเกินไปกันแน่  จึงไม่มีใครรู้เลยว่าบอสของพวกเขากำลังออกไปจากคฤหาสน์เงียบ ๆ ตามลำพัง  ไม่แม้กระทั่งจะสนใจสังเกตหรือไถ่ถามสักนิด

     

    มั่นใจว่าจะไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวนโดยพละการเลยสามารถจะออกมาได้อย่างสบาย ๆ  จะว่าไปออกมาแบบนี้คนเดียวนี่นับครั้งได้เลยแหะ...

     

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สึนะแอบออกมาคนเดียวเพียงลำพัง  แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสบ่อยครั้งนักที่จะทำได้  ปกติอย่าว่าแต่จะออกจากคฤหาสน์เลย  แค่จะก้าวออกจากห้องทำงานของตนยังต้องมีคนคอยตามติด  อย่างน้อยสายลมของเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนง่าย ๆ หรอก...

     

    หาอะไรกินเล่นดีกว่า...

     

    สึนะดูเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ  รูปร่างเล็กผอมเพรียวในเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว  สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวมีฮูดสีเข้ม  เส้นผมสีน้ำตาลนุ่มยาวกับดวงตาสีเดียวกัน  ดูยังไงก็เหมือนเด็กชายชาวเอเชียที่ไม่น่าจะมาเดินเล่นคนเดียวในเมืองใหญ่แบบนี้ได้

     

    และนี่เป็นข้อเสียสำคัญที่ทำให้ความปลอดภัยของเขาลดต่ำลง  อะไรดี....  สึนะกำลังคิดถึงคำตอบของสิ่งที่ตนพยายามค้นหา  ขนาดนั่นมองหน้าอีกฝ่ายตั้งนานสองนานยังนึกไม่ออก

     

    ไม่มีมาเฟียคนใดในอิตาลีที่จะไม่รู้ว่าบอสรุ่นที่สิบแห่งวองโกเล่เป็นคนเอเชีย  แต่ที่พวกเขาไม่รู้คือผู้ยิ่งใหญ่เหนือคนอื่นคนนี้นั้นจะเป็นแค่ชายหนุ่มตัวเล็กซึ่งดูไม่ออกเลยว่าเคยผ่านความมืดมนโหดร้ายมาก่อน

     

    ถือว่าเป็นโชคดีในโชคร้ายสินะ  อ๊ะ....  ดวงตากลมโตเหลือบมองไปในร้านขายเครื่องประดับ  จะว่าไปสึนะก็เคยได้ยินเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวเนื่องกับพวกของเหล่านี้อยู่เหมือนกัน

     

    เข้าไปดูหน่อยก็ไม่เสียหายนี่นะ....

     

    มุคุโร่เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาเรือนใหญ่  ใกล้จะหกโมงเย็น  ป่านนี้งานต่าง ๆ ที่มีคงจัดการได้เรียบร้อยหรือไม่ก็คงใกล้จะสำเร็จเต็มทน   เขาวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะเล็ก ๆ พลางลุกขึ้นยืน

     

    เป็นสีที่สวยแต่ไม่น่ารื่นรมย์เอาเสียเลยนะครับ  ดวงตาสองสีมองออกไปยังท้องฟ้าด้านนอก  แสงสีแสดที่เริ่มถูกปะปนด้วยความมืดหม่นของช่วงเวลากลางคืน

     

    ชายหนุ่มเดินตรงไปยังห้องทำงานของบอสแห่งวองโกเล่  มือแกร่งยกขึ้นเคาะประตูเป็นสัญญาณบอกคนภายในให้รับรู้ถึงการมาเยือนของตนเบา ๆ  ก่อนจะหยุดนิ่งฟังเสียงตอบรับ

     

    ทุกอย่างเงียบงัน...  วองโกเล่ครับ?

     

    ยังคงไม่มีเสียงตอบรับคำใด ๆ มุคุโร่เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี  เขาผลักบานประตูเข้าไป  กวาดสายตามองโดยรอบแต่กลับไร้วี่แววของร่างที่สมควรจะปรากฏให้เห็น  บ้าจริง...  เขากัดฟันแน่น  นึกโมโหตัวเองและคนรอบข้างที่ไม่ได้คิดจะสนใจคอยดูแล

     

    หากเกิดอะไรขึ้นกับคน ๆ นี้เขาคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตแน่...  สึนะโยชิคุง...  

     

     

     

     

    แต่สุดท้าย...ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปดังคาดหวัง...

     

     

     

     

    สึนะมองกล่องผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินในมือของตนด้วยรอยยิ้มกว้าง  ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจซื้อมาจนได้  อาจเพราะคำแนะนำของหญิงสาวผู้ขายที่บังเอิญมาตรงกับใจของเขาเสียเหลือเกินก็ได้  ทำให้คิดตัดสินใจที่จะซื้อ

     

    ต่างหูน่ะเหมาะดีนะคะสำหรับจะซื้อให้คนสำคัญ  ยิ่งถ้าต่างคนต่างใส่ไว้คนละข้างล่ะก็  จะยืนยันความเป็นคู่ได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ  แม้จะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปอาจไม่ได้สังเกตเห็น แต่สำหรับคนที่ใส่มันไว้คงจะมีความหมายและยินดีมากอย่างแน่นอนค่ะ

     

    ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสังเกต...แต่มีความหมายมากสำหรับผู้สวมใส่....

    หวังว่าคงจะชอบนะ...  เสียงหวานกล่าวกับตนเองด้วยรอยยิ้ม  สองมือกำของสิ่งนั้นไว้แนบอก

     

    ความปลอดภัยที่ตั้งอยู่บนความไม่ปลอดภัย  จริง ๆ แล้วทุกฝีเท้าที่ก้าวเดินของเขาถูกจับตามองจากใครบางคนโดยตลอด  จากที่ไหนสักแห่งไกลห่างออกไป  แต่ก็ไม่ไกลเกินกว่าระยะซึ่งจะสามารถเข้าถึงได้ 

     

    ผิดพลาดครั้งใหญ่...ความเสียใจที่เกิดขึ้นไปตลอดชีวิต....

     

    ปัง!!!!!

     

    เสียงกระสุนนัดหนึ่งดังขึ้น  มันแล่นตรงไปยังเป้าหมายที่ถูกเล็งไว้เป็นอย่างดี  สึนะซึ่งมีความไวต่อเสียงเหล่านี้เป็นพิเศษหันหลังมองตามทิศทางที่มา 

     

    ดวงตาสีน้ำตาลเห็นเพียงกระสุนที่พุ่งตรงเข้าหาเพียงเท่านั้น....

     

    มุคุโร่ซึ่งออกมาตามหาสึนะพอได้ยินเสียงปืนไกล ๆ ก็รู้สึกใจไม่ดี  รีบเร่งไปยังทิศทางนั้นทันที  บรรดาลูกน้องพรรคพวกที่เหลือก็แยกกันออกตามหาให้จ้าละหวั่น  ด้วยกลัวว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับบอสของตน  ชีวิตที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวนี้อาจจะถูกพรากไปด้วยเช่นกัน

     

    เสียงพูดคุยด้วยความตื่นตระหนกดังเข้าโสตการฟัง  น่ากลัวจริง ๆ เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มคนเอเชียนะ...

     

    หัวใจกระตุกวาบ  ใบหน้าคมเริ่มซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด  มือสั่นไปด้วยอารมณ์ความหวั่นเกรง  ขอให้ไม่เป็นดั่งที่คิด  ขอให้ไม่เป็นดั่งที่ได้ยิน  ขอให้ปลอดภัย....

     

    แล้วเขาคนนี้จะยอมทุกอย่าง....ยอมทุกอย่างอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ  สึนะโยชิคุง...

     

    คราบเลือดสีแดงสดบนทางเดินเท้าทำเอามุคุโร่แทบคลั่ง  ดวงตาสองสีกวาดมองโดยรอบ  ความสุขุมเยือกเย็นดูเหมือนจะค่อย ๆ เลือนหายไป  ยิ่งได้กลิ่น  ยิ่งมองเห็น  มันก็ทำเอาสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดแทบขาดออกจากกัน

     

    มุคุโร่เหลือบเห็นแสงบางอย่างซึ่งอยู่ภายในความมืดมิดของตัวอาคารเก่า  สองขายาวออกวิ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว  สุดแรงชีวิตเท่าที่ตนจะทำได้  วองโกเล่!!!”

     

    ภาพที่เห็นคือร่างของคนร้ายที่นอนหมดสติอยู่ภายใต้เปลวเพลิงสวยของท้องนภา  ดวงตากลมโตหันมองก่อนค่อย ๆ หรี่ลงและแปรเปลี่ยนเป็นสีปกติ  สึนะทรุดลงกับพื้นทันทีที่พลังไฟมอดลง 

     

    วองโกเล่!”  ชายหนุ่มตรงเข้าประคอง

     

    ใบหน้าหวานค่อย ๆ แหงนมอง  มุคุโร่...มาได้ยังไงกัน??

     

    อีกฝ่ายไม่ได้สนใจจะตอบคำถาม  เขามองเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดจากต้นแขนทางซ้าย  เกิดอะไรขึ้นครับ?!”

     

    ประมาทไปหน่อยน่ะ....แต่ไม่เป็นอะไรมากหรอก  โชคดีที่เบี่ยงหลบได้ทัน...  เขาพูดราวคนใกล้หมดแรง  อาจเพราะเสียเลือดมากเกิน

     

    มุคุโร่ช้อนร่างเล็กขึ้นทันทีหลังจากทำการห้ามเลือด  อยู่เฉย ๆ นะครับ

     

    สึนะไม่ขัดขืน  ศีรษะที่เต็มไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มเอนพิงอกแกร่ง  เขาไม่อาจมองภาพข้างหน้าได้ชัด  เพราะทุกอย่างเริ่มดูเลือนลางไปหมด  แม้แต่เสียงที่ได้ยินก็เหมือนอยู่ไกลออกไป  ไกลจนทุกอย่างค่อย ๆ เบาลง  มืดมัว...และดับวูบในที่สุด

     

    ดวงตากลมโตลืมตื่นขึ้นอีกครั้งในห้องสีขาวสะอ้าน  เขากระพริบตาเบา ๆ สองสามครั้งแล้วมองไปยังร่างในชุดสูทสีดำสนิทที่นั่งเอนกายอยู่ข้าง ๆ  ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มอย่างรู้สึกถึงความผิด  ขอโทษนะ...ฉันไม่ระวังเอง

     

    รู้ก็ดี  แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดแกคนเดียว  ฉันจำได้ว่าสั่งให้หมอนั่นคอยดูแลแก  รีบอร์นนั่งกอดอกนิ่ง

     

    ฉันแอบหนีออกไปเองแหละ...

     

    นักฆ่าหนุ่มถอนหายใจยาว  แกก็แบบนี้ทุกที  โชคดีนะที่คราวนี้โดนที่แขน

     

    รู้แล้วน่า...จะไม่ออกไปคนเดียวอีกแล้ว....  สึนะเบ้ปาก  ให้ตายสิ...โตขนาดนี้แล้วยังต้องทำอะไรเหมือนเด็ก ๆ อีก  สงสัยต้องมีพี่เลี้ยงคอยตามไปไหนมาไหนด้วยจนตายนั่นแหละ!

     

    เขานึกขึ้นได้  นี่ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหม?

     

    ยัง มีแค่ฉันกับมุคุโร่

     

    คนฟังถอนหายใจอย่างโล่งอก  ดีแล้วล่ะ....  เขายิ้ม  อ๊ะ!!จริงสิ!! กล่องสีน้ำเงินล่ะ???  สึนะนึกถึงของที่ตนซื้อไว้  พอถูกยิงแล้วไล่ตามคนร้ายไปก็ลืมเรื่องของเสียสนิท

     

    รีบอร์นเลิกคิ้วถาม  กล่องอะไรของแก?

     

    กล่องผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินน่ะ  ฉันเพิ่งซื้อมา 

     

    ชายหนุ่มนักฆ่านิ่งคิด  ไม่มีนะ....คนเราที่ไปตรวจบริเวณนั้นก็ไม่พบอะไร

     

    ทำไงดี.....  ใบหน้าหวานก้มลงต่ำ  จริง ๆ กับแต่ของชิ้นสองชิ้นเขาจะซื้อเมื่อไหร่ก็ซื้อได้  แต่ไอ้ของที่ว่ามันคือของที่เขาอุตส่าห์ได้มีโอกาสเลือกกับมือ  ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจที่ไม่ว่าของสิ่งไหนก็อาจไม่มีค่าเทียมเท่า

     

    พักผ่อนซะ  เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเคลียร์งานแทนให้  ถ้ามีอะไรก็บอกเจ้าพวกนั้นแล้วกัน  เขาชี้ไปยังด้านหน้าของห้องพักที่สึนะพักรักษาตัวอยู่

     

    เขาพยักหน้าเบา ๆ ก่อนเอนตัวลงนอน  ขอบใจนะ...

    เป็นเวลาดึกมากแล้ว  มุคุโร่เข้ามาภายในห้องอย่างเงียบเชียบที่สุด  สองขาก้าวเดินมาหยุดข้างเตียงคนไข้ตรงกลาง  แล้วก้มลงมองใบหน้าหวานที่บัดนี้กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข 

     

    มือหนึ่งหยิบเอากล่องผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินวางไว้ยังโต๊ะด้านข้าง  ก่อนเลื่อนขึ้นสัมผัสพวงแก้มใสเบา ๆ  ขอโทษนะครับ....

     

    อืม....  อาจเพราะฤทธิ์ยาที่เขาได้รับหมดลง  ทำให้ประสาทการรับรู้ของสึนะกลับมาเป็นปรกติ  การถูกสัมผัสแม้เพียงบางเบาจึงทำให้เขารู้สึกตัวได้ไม่ยาก  มุคุโร่?

     

    ขอโทษครับที่ทำให้ตื่น  ผมแค่จะนำของที่คุณทำตกไว้มาคืนเท่านั้น  มือที่ยกสัมผัสเลื่อนลงมาวางแนบลำตัวอย่างรวดเร็ว  ดวงตาสองสีเบนมองไปยังกล่องที่ตนเพิ่งวางไว้

     

    สึนะเบนหน้ามอง  คืนทำไมล่ะ....

     

    คำพูดที่ได้ยินทำเอาคนฟังงุนงง  ไม่ใช่ของ ๆ คุณหรือครับ?

     

    ใช่....แต่ฉันให้นาย...

     

    ให้ผม?

     

    ร่างที่นอนอยู่บนเตียงแย้มยิ้ม  ใช่....มันคือคำตอบของคำถามที่ทำให้ฉันมองหน้านายเมื่อเช้าไงล่ะ

     

    ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ  พอเห็นมุคุโร่ทำหน้าแบบนั้นเขาก็หัวเราะออกมา  ลองเปิดดูสิ...

     

    ชายหนุ่มลังเลอยู่พักก่อนจะหยิบมันออกมาเปิดดู  ต่างหู?  ต่างหูคู่หนึ่งจัดวางอย่างเป็นระเบียบ  ก้านของมันทำจากเงินแท้  ตรงยอดเป็นตุ้มสีแดงสดที่ถูกเจียอย่างละเอียด

     

    ฉันเห็นว่านายใส่ต่างหูก็เลยคิดว่าน่าจะชอบ...จริง ๆ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าชอบไหม  แต่คิดว่ามันน่าจะดีน่ะ  สึนะหัวเราะแห้ง ๆ แก้เก้อ  จริง ๆ แล้วมันมีความหมายแฝงอยู่ต่างหาก

     

    แต่ความหมายนั้นมันจะไร้ค่าถ้าหากอีกฝ่ายไม่ได้มองในทิศทางเดียวกัน  นายชอบไหม?

     

    มุคุโร่เงียบ  มือปิดฝากล่องนั้นลง  ทำไมถึงให้ผมครับ?

     

    น้ำเสียงที่ถามออกมาอย่างจริงจังนั่นทำเอาคนฟังกลืนน้ำลายฝืดคอ  เขาจะบอกว่าอะไร?  อยากจะซื้อให้?  พอใจจะซื้อให้?  หรือว่าคนอื่นก็ได้แต่เห็นนายยังไม่ได้เลยซื้อให้งั้นหรือ?  เขาควรจะบอกว่ายังไงดี???

     

    พอเห็นอีกฝ่ายเงียบอยู่นานเขาก็เอ่ยขึ้น  ถ้าซื้อให้ผมด้วยเหตุผลแค่อยากซื้อให้ล่ะก็...  เขาเว้นจังหวะนาน  ดวงตาสองสีจ้องมองสบกับดวงตาสีน้ำตาล  ผมก็จะขอไม่รับด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากได้เหมือนกัน

     

    คำตอบที่ได้รับทำเอาคนที่กำลังหาเหตุผลสารพัดเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างถึงกับนิ่งอึ้ง  ดวงตาที่มองจ้องตอบอีกฝ่ายค่อย ๆ สั่นไหว  ก่อนหยาดน้ำใสจะไหลรินออกมาเป็นสาย  ทำเอามุคุโร่ถึงกับตกใจ

     

    วองโกเล่....?

     

    สึนะพอรู้ตัวว่าตนเองกำลังร้องไห้ก็รีบยกมือขึ้นปิดหน้า  เช็ดน้ำตาที่ดูเหมือนจะไหลบ่าไม่หยุดอย่างลวก ๆ  ไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร  ช่วงวางไว้ที่เดิมที

     

    วองโกเล่...  เสียงทุ้มเอ่ยเรียก  มือทั้งสองยกขึ้นจับมือเล็กที่ปิดหน้าปิดตาอยู่

     

    เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลส่ายศีรษะไปมาราวกับต้องการหลบเลี่ยงมือของอีกฝ่าย  ฉันอยากนอนแล้ว  ช่วยออกไปที

     

    วองโกเล่ครับ

     

    ออกไปเถอะนะ....  สึนะดูเหมือนจะไม่ฟังที่มมุคุโร่พูดเลยสักนิด  พยายามที่จะไม่ฟังมากกว่า  บอกตามตรงคือเขารู้สึกช็อคกับคำตอบที่ได้รับ  ไม่คิดว่าตนจะไร้ค่าในสายตาอีกฝ่ายถึงขนาดนี้

     

    มุคุโร่ออกแรงดึงแขนเล็กทั้งสองให้แยกออกจากกัน  ดวงตาสองสีสบกับดวงตาสีน้ำตาลอีกครั้ง  สึนะโยชิคุง...

     

    เขาก้มลงจูบซับน้ำตาที่ยังคงไหลเรื่อยไม่หยุดเบา ๆ  ขอโทษครับที่พูดแบบนั้น...

     

    รู้ไหมว่าคุณทำลายกำแพงในใจของผมลงอย่างไม่มีชิ้นดี

     

    ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น  ผมไม่คิดว่ามันจะทำให้คุณเสียใจเพียงนี้

     

    รู้ไหมว่าสิ่งที่ผมพยายามสร้างมันขึ้นเพื่อขวางตนเองไว้มันพังย่อยยับไม่มีเหลือ

     

    ต่างหูนั่น...ผมดีใจมากที่ได้รับจากคุณ  และจะดีใจมากหากมันมาจากเหตุผลที่นอกเหนือจากเหตุผลอื่น..  เขามองดวงตาคู่นั้นอีกครั้ง 

     

    ความอ่อนโยนจากคำพูดและการกระทำที่ได้รับทำให้สึนะหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้ง  ความคิดแก้ตัวต่าง ๆ นา ๆ ที่เคยมีหายไปสิ้น  ตอนนี้มีเพียงจิตใจพองโตที่กำลังเต้นระส่ำกับความลับภายในที่อยากจะบอกให้อีกฝ่ายรู้เท่านั้น

     

    ฉันตั้งใจซื้อมันให้นาย  อยากให้นายเก็บไว้  ให้เป็นตัวแทนของฉัน  ให้มันอยู่กับนายตลอดไป...  มือเรียวยกขึ้นสัมผัสใบหน้าคมที่อยู่ห่างไปเพียงช่องว่างเล็กกั้น

     

    มุคุโร่ยิ้มบาง  เขายืดตัวตรงพลางหยิบกล่องที่ถูกวางไว้ขึ้นมาอีกครั้ง  ต่างหูข้างนี้...  ชายหนุ่มถอดต่างหูของตนเองออกพลางใส่ต่างหูที่ได้รับแทน  จะอยู่กับผมตลอดไป

     

    เขาหยิบต่างหูที่เหลืออีกข้างขึ้นกำไว้ในมือที่ถือไฟแช็คอยู่  และต่างหูข้างนี้...  เข็มกลัดแหลมถูกนำขึ้นลนไฟ  มุคุโร่ก้มลงเลียใบหูบาง  แล้วใช้ปลายเข็มแทงลงไปอย่างเบามือที่สุด

     

    สึนะหรี่ตาลง  ความเจ็บปวดบริเวณใบหูแล่นผ่านชั่วครู่  อ๊ะ... 

     

    มันจะอยู่กับคุณตลอดไปเช่นกัน  เขาใส่ต่างหูที่เหลือให้กับสึนะ

     

    ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่สิ่งของหรือราคา  แต่อยู่ที่ความตั้งใจและเจตนาของผู้ให้ต่างหาก....

     

    ขอบคุณนะครับ...สำหรับสิ่งที่มีค่า  ริมฝีปากได้รูปก้มลงจุมพิตริมฝีปากสีระเรื่อของผู้ที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้  สึนะหลับตารับสัมผัสอย่างเต็มใจ...

     

     

     

     

    สุดท้าย....ผมก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับใจของตนเอง....   

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×