คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
แฮ่ก แฮ่ก เสียงหอบหายใจอย่างหนักดังขึ้น ร่างของชายปริศนากำลังวิ่งไปตามซอกตึกอย่างรีบร้อน ด้านทั้งสองข้างของซอกตึกเต็มไปด้วยกำแพงตึกเก่าๆ ถังขยะที่ถูกตั้งไว้ตามซอกทางถูกร่างปริศนาผ่านไปเป็นระยะๆเหงื่อผุดพรายเต็มไปทั้งใบหน้าของเขา ใบหน้าของเขาหันไปด้านหลังแล้วหันกลับมาอย่างลุกลี้ลุกลน
มือขวาของเขาถือมีดเล่มยาวไว้หนึ่งเล่ม โดยใช้มือซ้ายในการขจัดสิ่งกีดขวางที่ขัดขวางการวิ่งของเขา ฝีเท้าของเขายังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ในที่สุดเบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏแสงสว่าง มันคือทางออกของซอกตึกนั้น ใบหน้าของชายปริศนาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสยะ ในที่สุดเขาก็หนีพ้นจากนรก
แต่เหมือนราวกับสวรรค์กลั่นแกล้ง ร่างของชายปริศนาถูกของมีคมแทงเข้าที่ท้องด้านซ้ายจนทะลุ นัยน์ตาของเขากำลังพร่ามัว ก่อนสติของเขากำลังจะขาดผึง มือขวาที่ถือของมีคมก็พุ่งตรงไปยังผู้ที่ทำร้ายเขาเบื้องหน้า แต่ว่าร่างกายของผู้ที่ทำร้ายเขาได้อันตรธานหายไปราวกับภูตผี ใบหน้าของชายปริศนาเปรอะไปด้วยน้ำตา
“ฉันยอมแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”เสียงโอดครวญขอชีวิตดังขึ้นจากชายคนนั้น ใบหน้าของเขาเปรอะไปด้วยน้ำตาที่น่าสมเพช มีดที่มือขวาร่วงผล่อยลงกับพื้น “ไว้ชีวิตฉันด้วยนะ โซลเบรคเกอร์”
ชายปริศนาโอดครวญขอชีวิตอีกครั้ง ร่างกายของบุคคลลึกลับได้มาปรากฏต่อหน้าเขาอีกครั้ง ใบหน้าของบุคคลปริศนาปรากฏรอยยิ้มที่มุมปาก มือขวาขยับดาบที่ใช้แทงชายตรงหน้าขึ้นมา
“ไว้ชีวิตฉันด้.....”
ไม่ทันที่ชายปริศนาจะได้พูดจบ ส่วนหัวของเขาก็ปลิวว่อนไปในอากาศด้วยคมดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็วราวกับสายลมที่ผ่านไป ร่างกายของชายคนนั้นร่วงลงกับพื้น ก่อนที่เลือดจะพุ่งออกมาเป็นสาย ส่วนที่ปลิวว่อนตกลงสู่พื้น ร่างของบุคคลลึกลับได้หายไปราวกับภูตผีอีกครั้ง
นี่เป็นช่วงเช้าที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ.... การที่มีผู้หญิงแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้เข้ามาในห้อง แถมยังมากินมานอนในห้องของผมอีก.....
กินกับนอนผมไม่ว่า แต่ว่า.....
“นี่ สบู่มีตรงไหนเหรอ”เสียงหวานดังแว่วจากห้องน้ำในห้องของชายหนุ่มผมสีดำดังขึ้น ประตูห้องน้ำถูกแง้มออกมา ใบหน้าของหญิงสาวโผล่ออกมาจากบานประตูที่ถูกแง้ม ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เปียกน้ำปรกที่ข้างแก้มนวลของหญิงสาว นัยน์ตาสีเขียวอ่อนมองมายังชายหนุ่มที่อยู่คนละฟากของประตู
“ในกล่องข้างอ่างล้างหน้าน่ะ”ซีตอบ หญิงสาวยิ้มให้ก่อนจะหายเข้าไปในประตู “เสื้อกับกระโปรงของเธอ ฉันซักให้แล้วนะตอนนี้กำลังผึ่งอยู่ ใส่เสื้อฉันไปก่อนแล้วกัน”
ชายหนุ่มพูดก่อนจะนั่งลงบนพื้น มือกดรีโมทเปิดทีวี
‘สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาวเหยี่ยว ข่าว วันนี้เราจะมารู้จักบ้านภรรยาของคุณโยชิคาว่า นักธุรกิจหนุ่มต่างชาติที่กำลังมาแรงในช่วงนี้นะคะ’เสียงของผู้รายงานข่าวดังขึ้น ภาพด้านหลังของเธอคือ บ้านขนาดใหญ่ หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ ก็ได้
“อ๊ะ....”เสียงประหลาดใจดังขึ้นทางด้านหลังของซี
“อ้าว อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ พรวด....เฮ้ย”ทันทีที่หนุ่มคนนี้หันหน้าไปมอง เส้นเลือดฝอยที่จมูกก็พลันแตกกันเป็นแถว เลือด(กำเดา)พุ่งเปรอะไปที่พรมอย่างมหาศาล “ใส่เสื้อให้มันดีๆหน่อยสิ”
ภาพของหญิงสาวร่างบางที่สวมเสื้อหลวมโคร่งกับกางเกงตัวใหญ่ที่ไม่พอดีกับเอว ติดตาชายหนุ่ม(และคนเขียน)โดยไม่จางหาย ซีใช้กระดาษทิชชู่ม้วนแล้วยัดเข้าไปในจมูกเพื่อกันตัวเองเป็นโรคขาดเลือด
“อ๊ะขอโทษ”หญิงสาวขยับคอเสื้อที่ตกไปบริเวณหัวไหล่ขึ้นมาก่อนจะ ติดกระดุมเม็ดบนสุด
“แล้วเมื่อกี้มีอะไรเหรอ”ซีถาม โดยที่มือกำลังเช็ดคราบเลือดที่เปื้อนพรมอยู่
“อ๊ะ..จริงสิ เมื่อกี้น่ะ บ้านฉันเอง...”
“.................................................................................”
ช็อคครับท่าน....อะไรจะบังเอิญเช่นนี้....ถ้าให้เดา อีกซักพัก จะมีคนใส่ชุดสูทสีดำ สวมแว่นตากันแดด มากดกริ่งที่หน้าบ้าน.....
กิ๊งก่อง....
.....กระผมว่าแล้ว........เดินไปเปิดดีมั้ย
ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดกับตัวเองอย่างหนัก
“มาแล้วค่ะ”
“เฮ้ยแม่คุณ!”
หญิงสาวร่างบางเดินไปเปิดประตูห้องทันที
เมื่อประตูเปิดออก ชายสวมชุดสูทสีดำร่างใหญ่ใส่แว่นกันแดด สองคนยืนขวางประตูหน้าห้องไว้ ชายคนแรกถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นรอยแผลเป็นใต้ตาที่เหมือนกับถูกดาบฟัน
“คุณหนู~”ชายชุดดำคนแรก ทรุดตัวลงก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับมือหญิงสาวร่างบางไว้ น้ำตาไหลลงอาบแก้ม น้ำตาแห่งความปิติยินดี
นี่มันใช่เรื่อง ยากูซ่าภักดี รึเปล่าฟะ.........ชักไม่แน่ใจ
“ผมตามหาคุณหนูมาทั้งคืน ทั้งวิ่งตามหาทั้งจังหวัด คุ้ยขยะ ปีนกรง บุกน้ำ ลุยโคลน กระโจนข้ามไฟทั้งคืน ในที่สุดผมก็ตามหาคุณหนูเจอ ผม.....ผมไม่เคยรู้สึกยินดีเช่นนี้มาก่อนเลยครับ”ชายชุดดำโอดครวญไปด้วยน้ำตา “หากผมขาดคุณหนูไป ผมคงไม่มีใครให้รับใช้อีกแล้ว ยามใดที่คุณหนูไม่อยู่ หรือหายตัวไป น้ำตาของผมแทบไหลเป็นเลือด ชีวิตของคุณหนูเปรียบได้กับพระเจ้าของผม แม้ชีวิตผมก็สละให้คุณหนูได้”
“ผมนึกภาพออกเลยครับ วันใดหากขาดคุณหนูไป ชีวิตผมก็ไม่เหลืออะไรแล้ว หากถึงวันนั้นจริงผมขอทำฮาราคีรี...”
เอ่อ....เพ่ครับผมอยากบอกเพ่ว่าเพ่เข้ามาในห้องคนอื่นเพื่อบ่นอะไรครับเพ่....
“ว่าแต่คุณหนูทำไมถึงอยู่สภาพเช่นนี้ได้ครับ .... หรือว่า...”ชายชุดดำรีบลุกขึ้น แววตาแฝงไปด้วยความโกรธ
“เอ้อ....ผมเปล่านะค้าบ”
“ไอ้สารเลวเอ้ย”ชายชุดดำอีกคนหนึ่งชักดาบออกมาจากฝัก
“พ้มบอกว่าพ้มไม่ได้ทำอะไรนะค้าบ”
“ไม่ต้องริว เจ้านี่ฉันจัดการเอง.....แกจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต ที่กล้าทำกับคุณหนูแบบนี้”ชายชุดดำคนแรก ล้วงมีดออกมาจากหลังเสื้อ
“ผม(ตรู)บอกว่าไม่ได้ทำนะค้าบ(ว้อย)”เสียงที่ผ่านไปราวกับสายลม โดยไม่เข้าหูผู้ฟังแม้แต่น้อย....
“แกจะต้องเจอจิตวิญญาณแห่งบูชิโด ฉันจะสับแกเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปเผาให้เจ้า คิเรเร่ กินซะ!”
“บอกว่าไม่ได้ทำไงว้อย ว่าแต่ไอ้คิเรเร่มันคือตัวอะไร”
“ไม่ต้องพูดมาก~!!! ว้ากตายซะ ดาบนี่มีไว้เพื่อฆ่าคนอย่างแก!!”
“แล้วหูพี่มีไว้ทำอะไรล่ะค้าบบ”
ชายชุดดำพุ่งเข้าหาซีด้วยความเร็วสูง มีดเล่มยาวถูกตวัดไปด้านหน้า ชายหนุ่มผมสีดำก้มแล้วกระโจนหลบอย่างรวดเร็ว
“เร็วเป็นลิงเลยนะแก สงสัยจะประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำคนนั้นพูด
“ผมไม่ได้ทำคร้าบ”เสียงโอดครวญที่แม้จะโอดครวญออกไปแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็เป็น “ศูนย์” เหมือนเดิม....
ชายชุดดำพุ่งเข้ามาใส่ซีอีกครั้ง
“บอกว่า.....”ซีขยับขาขวาถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ไม่ได้ทำ...”
“ไงล่ะโว้ย”
หมัดขวาตรงถูกปล่อยไปเต็มใบหน้าของชายชุดดำที่พุ่งเข้ามา ร่างกายขนาดใหญ่ถูกแรงหมัดสอยปลิวไปตามแรงลม มีดเล่มยาวกระเด็นหลุดมือไปไกล รอยช้ำเกิดขึ้นที่ใบหน้าของชายชุดดำ ในที่สุดร่างกายของเขาก็ร่วงผล่อยลงสู่พื้น ราวกับมังกรที่ถูกสังหารและตกลงมายังสู่ดิน
คุณหนู...ขออภัยด้วยครับที่ผมไม่สามารถปกป้อง..คุณหนู....ได้
“พี่เรียว!!!”ชายชุดดำอีกคนรีบรุดเข้ามาหาชายที่ชื่อ เรียว ที่กำลังนอนกองกับพื้น “พี่จะมาจากผมไปแบบนี้ไม่ได้นะ ลืมแล้วเหรอว่าเราเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง ทั้งภารกิจที่อันตราย ทั้งเสี่ยงชีวิต... พี่จะทิ้งคุณหนูไว้อย่างนี้เหรอ”
“โดนแค่ต่อยเองนะว้อย ไม่ได้โดนยิง ทำอย่างกับใครจะตาย”
“แก....บังอาจทำพี่เรียวได้ แกต้องชดใช้”ชายที่ชื่อ ริว พูดพร้อมน้ำตา ก่อนจะดึงดาบออกจากฝัก ตั้งท่าก่อนกระโจนเข้าไปหาชายร่างสูงตรงหน้า “ตายซ้า”
ทันใดนั้นร่างบอบบางของหญิงสาวก็เข้ามาขวางตรงหน้าเขาไว้ คมดาบถูกหักและตวัดไปอีกทางเพื่อเลี่ยงการโจมตีเธอ ชายชุดดำเงยหน้าขึ้น
“นี่คือผู้มีพระคุณของฉัน ห้ามทำร้ายเขา”อาคาริกางแขนทั้งสองข้างกันซีไว้
“แต่ว่าคุณหนู”ชายคนที่นอนกับพื้นอีกคนนึงพูดขึ้น
“ไม่มีแต่ เรียว..ริว.. เขาคือผู้มีพระคุณของฉัน พวกนายลืมแล้วเหรอว่า บุญคุณมีไว้ให้ตอบแทน”หญิงสาวพูดขึ้น
ชายทั้งสองคนทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดริวก็เก็บดาบลงในฝักอย่างเดิม เรียวค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น
“หากนั่นเป็นความประสงค์ของคุณหนู พวกเราก็พร้อมจะยอมรับ แต่ถึงกระนั้น พวกผมขอให้คุณหนูกลับไปที่คฤหาสน์พร้อมกับพวกเราด้วยครับ...”
“ได้ ขอฉันไปเก็บของก่อนนะ”อาคาริพูดก่อนจะวิ่งไปเอาชุดของเธอที่ตากไว้ และดาบมา ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป
การต่อสู้ด้วยกำลังในห้องหยุดลง แต่การต่อสู้ด้วยจิตกำลังเริ่มขึ้น....ยากูซ่าทั้งสองมองชายหนุ่มผมสีดำด้วยสายตาที่เคียดแค้นราวกับชายหนุ่มคนนั้นไปเผาบ้านของเขาทั้งสอง ชายหนุ่มหมดหนทางที่จะทำอะไรต่อไป.....
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู คันสีดำค่อยๆชะลอและจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังหนึ่ง ชายชุดดำสวมแว่นกันแดดลงจากรถก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูให้หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนลงจากรถ
“ถึงแล้วครับคุณหนู”ชายชุดดำบอก
“ขอบคุณมากจ่ะ”หญิงสาวร่างบางลงมาจากรถ เสื้อและกระโปรงสีขาวของเธอพลิ้วไปตามสายลม ดาบที่เอ็วของเธอขยับเพียงเล็กน้อย
“อ่าถึงแล้วสินะครับ ว่าแต่....ผมต้องมาด้วยเหรอค้าบ”เสียงของชายวัยรุ่นคนหนึ่งดังขึ้นในรถ “แล้วทำไมต้องมัดผมด้วยล่ะค้าบ”
“แกน่ะหุบปากไปซะ ไอ้กระจั๊วะ แกน่ะต้องไปเจอคุณท่าน ให้คุณท่านตัดสินว่าแกจะ ‘ตาย’ ยังไง”
“เฮ้ยๆ ไม่ใช่ให้คุณท่านตัดสินว่าผมจะรอดหรือไม่รอดเหรอค้าบ สรุปรวมแล้วยังไงฉันก็ต้องตายสินะ...”ชายหนุ่มหมดอาลัยตายอยากในตัวเองทันที
“ซีคุง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก คุณพ่อน่ะใจดีจะตาย”อาคาริพุดพร้อมกับยิ้มให้
อย่างน้อย....ผมก็มีความสุขก่อนตายแล้วคร้าบ(เสียงในใจที่ไม่อาจระบายออกไป)
“นี่เรียวคุง ริวคุงไปขู่เขาอย่างนั้นไม่ดีนะจ้ะ”เสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งดังขึ้นจากประตูบ้าน
เธอมีผมสีน้ำตาลอ่อนเหมือนอาคาริ รูปร่างเองก็ผอมเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ความสูงละใบหน้า เธอคนนี้สูงกว่าอาคาริมากและใบหน้าของเธอก็ยิ้มแย้มตลอดเวลา เธอสวมเสื้อยืดสีชมพูแล้วสวมผ้ากันเปื้อนด้านนอก
“วันนี้มีแขกเยอะจังนะ”เธอพูด
“อ๊ะ....สวัสดีครับ”เรียวและริวค้อมตัวให้เธอ
“เอ่อสวัสดีครับ คุณเป็นพี่สาวของอาคาริเหรอครับ”
“พี่สาวป๊ะแกดิ....ท่านนี้คือ คุณหญิง เป็นแม่ของท่านอาคาริว้อย รีบทำความเคารพซะไม่งั้นฉันจะตัดหูแกไปทำหูฉลาม”เรียวพูดก่อนจะดึงมีดออกมา
แม่หรอกเรอะ!!!
“เอ๋ ห้ามใช้กำลังนะ ยังไงก็แก้มัดเขาก่อน แล้วลูกก็พาเขาขึ้นบ้านมาก่อนนะจ้ะ”
“ค่ะ แม่”อาคาริพูดก่อนจะช่วยแก้มัดให้ซี “ต้องขอโทษด้วยนะ เธอเป็นผู้มีพระคุณแท้ๆแต่กลับต้องมาโดนแบบนี้”
“ไม่เป็นไรหรอก”ซีขยับข้อมือไปมา “รีบขึ้นไปบนบ้านเถอะ”
อาคาริพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะเดินขึ้นไปในคฤหาสน์หลังโต โดยมีสองผู้ติดตามเดินตามเข้าไป
ภายในห้องที่ซีถูกพาตัวมา ประดับไปด้วยโซฟาราคาแพง พื้นปูด้วยพรมสีแดงกำมะหยี่ ผนังของห้องมีกระจกบานใหญ่ประดับไว้สองบาน ผ้าม่านลายลูกไม้สีชมพูอ่อนเข้ากับสีครีมของกำแพงบ้าน โต๊ะขนาดใหญ่ถูกวางไว้กลางห้องโดยมีโซฟาวางไว้รอบๆ ที่กำแพงประดับด้วยดาบคาตานะ ที่ด้ามดาบถูกแกะสลักอย่างสวยงาม ตัวดาบสะท้อนแสงราวกับเป็นหมอก ถัดไปเป็นตู้หนังสือขนาดใหญ่ ข้างในมีหนังสือเล่มหนาวางซ้อนกันหลายสิบเล่ม
“ทานคุกกี้ ก่อนก็ได้นะ น้าพึ่งอบเสร็จ”แม่ของอาคาริบอกกับซี
ซีพยักหน้าเป็นการขอบคุณ ก่อนจะหยิบคุกกี้เข้าปาก อาคาริที่นั่งตรงข้ามก็เอื้อมมือมาหยบคุกกี้ไปทานเช่นกัน
“อร่อยแฮะ”ซีพูดขึ้นอย่างลืมตัว
“เอ๋ จริงเหรอ น้าดีใจจังเลย”แม่ของอาคาริพูดก่อนจะเอามือมาไว้ที่แก้ม แล้วยิ้มให้ซี “แม่ถูกใจแล้วสิ ลูก”
“เอ๋....ไม่ได้นะครับคุณหญิง”เรียวค้าน “ขออภัยครับ”
เรียวเอาโทรศัพท์มือถือของเขาออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดรับสาย สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นจริงจัง เขาได้แต่ขานรับว่า ‘ครับ’ เพียงอย่างเดียว ซักพักก่อนเขาจะวางสาย
“คุณหญิงครับ คุณท่านกำลังจะมาถึงแล้วครับ”
ความคิดเห็น