คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 มันคงเป็นความหึง
“อื้ออ ปล่อยดิ๊ มึงจะกอดห่าอะไรนักหนาเนี้ย”
“หยุดเลย มึงห้ามหันหน้ามานะ”
“เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก”
“กูงอนมึงอยู่”
“ห๊ะ?”
ในช่วงเวลาเช้าตรู่ มันคงเป็นภาพน่าขนลุกที่ผู้ชายสองคนจะมานอนกอดกันกลมนมแนบหลังแบบนี้ คนตัวเล็กเอี้ยวตัวไปมองคนที่เอาแต่ซุกหน้าลงกับหลังของเขาอย่างหัวเสียและงัวเงีย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปทำให้อีกฝ่ายงอนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องปกติของจงอินคนไร้สาระที่ชอบเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว
“ในฝันมึงด่ากู”
“ห๊ะ?”
“ กูบอกว่าในฝันอ่ะ มึง ด่า กู”
หรือไม่จงอินก็แค่พวกอ้อนตีน..
“คยองซู อยากกินไข่ตุ๋นป่ะ”
“มึงหยุดคิดเลยนะ นี่แกงของแม่มึงกินไปซะ”
“เฮ้ย กูทำได้จริงๆนะ”
“กูจะรีบไปเรียน!”
บางครั้งคยองซูคิดว่าคำพูดของเขามันอาจจะแค่ทะลุหูจงอินไปโดยที่ไอ้บ้านี่ไม่คิดจะฟังด้วยซ้ำ ไข่ไก่ถูกตอกลงไปในชามพลาสติกถูกๆที่พวกเขาซื้อมาจากร้านทุกอย่างราคาเดียวพร้อมกับเสียงตีไข่ที่น่ารำคาญ จงอินเดินเกาก้นสองสามตีก่อนจะใส่ชามไข่เข้าไปในไมโคเวฟ คยองซูได้แต่นั่งมองภาพนั้นอย่างผะอึดผะอม เรื่องสุขอนามัยเนี้ยไม่ต้องห่วงเพราะมันคงไม่เหลือแล้วล่ะ แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ..มึงโง่หรือมึงควายที่ใส่ชามพลาสติกเข้าไปในไมโคเวฟ!
ติ้ง!
“หอมใช่มั้ย หิวเลยอ่ะดิ”
“รำคาญ ถ้ามึงทำชามหกลวกตัวเองกูจะฟาดซ้ำ”
คยองซูยังนั่งกอดอกมองจงอินที่ค่อยๆยกไข่ตุ๋นเมลามีนออกมาจากไมโคเวฟอย่างทุลักทุเล เอาจริงๆมันดูเหมือนซุปไข่มากกว่าเพราะจงอินเติมน้ำมากเกินไป ชามไข่ตุ๋นถูกวางคู่กับแกงกิมจิฝีมือแม่จงอิน สาบานได้ว่าคยองซูไม่ต้องคิดช่างใจด้วยซ้ำว่าเขาควรจะตักอะไรเข้าปาก...
“ทำเองก็แดกเอง ไม่หมดก็เก็บไว้กินเย็นนี้”
ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ช้อนในมือกับตักไข่ตุ๋นเข้าปากเป็นการเปิดพิธี จงอินมองภาพนั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาก่อนที่จะเริ่มตักข้าวในจานของตัวเองบ้าง ไม่มีเสียงสนทนาอะไรนอกจากเสียงช้อนกับส้อมที่กระทบจาน พวกเขาทานข้าวเช้ากันไปอย่างเงียบๆ มีบ้างที่คยองซูเงยหน้าขึ้นมาส่งเสียงเตือนว่าให้รีบเพราะเดี๋ยวรถจะติดและอาจจะไปเรียนคาบแรกไม่ทัน
“วันนี้กลับเองนะกูจะไปกินเหล้า”
“อืม”
“ไปกับพวกไอ้ฮุน”
“แล้วแต่ ตามใจ”
“น่าจะกลับประมาณสามทุ่ม”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ่”
“น่ารำคาญว่ะ ไม่ปงไม่ไปแม่งแล้ว!”
จงอินไม่ได้งอนหรือน้อยใจอะไรทั้งนั้น เขาคิดว่ามันก็แค่ความรู้สึกขี้เกียจนั่งรถประจำทางกลับคอนโดคนเดียว ถ้าคยองซูไปเที่ยวนั่นก็เท่ากับว่าเจ้าของรถก็จะเอารถไว้แล้วก็ปล่อยให้เขานั่งรถเมล์กลับไปเหงาคนเดียวอยู่ที่ห้อง จงอินได้ยินเสียงคยองซูบ่นและกล่าวหาว่าเป็นเพราะเขาที่เอาแต่เล่นเกมส์และอ่านหนังสือการ์ตูน คนสายตาสั้นแต่ไม่ชอบใส่แว่นอย่างคยองซูน่ะไม่อินกับเรื่องที่ต้องใช้สายตาจดจ้องกับอะไรนานๆแบบนั้นสุดท้ายมันก็เลยกลายเป็นความเบื่อและคยองซูก็แค่อยากไปหาอะไรทำแก้เซงก็เท่านั้นเอง
“กดอยู่นั้นแหละ ไฟแดงหน้ามึงเปลี่ยนมาขับแทนเลยนะ”
“อะไร? อีกแค่ไม่กี่กิโลก็ขับไปดิ”
“กูรำคาญอีบี๋ อีผีอะไรนี่มากเลย สรุปว่ามันเป็นแฟนหรือเป็นแม่มึงกันแน่เนี้ยจิกตั้งแต่เช้ายันค่ำ”
คยองซูไม่ได้พูดเล่นๆ พอรถติดไฟแดงเขาก็เอื้อมมือไปฉกโทรศัพท์ในมือจงอินมาถือไว้ก่อนจะเปิดประตูรถออกไปยืนกลางถนนที่รถติดแบบนั้นแล้วเดินตรงไปเปิดประตูฝั่งจงอิน ร่างสูงที่ยังดูงงๆทำได้แค่ออกมาจากรถแล้วอ้อมไปเปิดประตูด้านคนขับก่อนที่จะกลายเป็นว่าตอนนี้เขาสองคนสลับตำแหน่งกัน จงอินออกรถทันทีเมื่อเห็นว่าไฟเขียวแล้ว คยองซูโยนโทรศัทพ์ของเขาไปเบาะหลังก่อนที่คนขี้งอนจะนั่งกอดอกหน้าบึ้งและเบนหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
“ทำไม หึงหรอ?”
“หลงตัวเองว่ะ”
ถึงตาจะจ้องมองออกไปข้างหน้าแต่ริมฝีปากของจงอินกลับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ผิดกับคนตัวเล็กที่หันมามองค้อนอย่างเอาเรื่อง คยองซูแค่ไม่ชอบเสียงแจ้งเตือนไลน์ที่น่ารำคาญเขาเป็นคนไม่ติดโซเชียลเท่าไหร่ถึงมีแต่ก็ไม่ได้เข้าไปสนใจอะไรมากมาย คยองซูคิดว่าการคุยกันแบบเห็นหน้าเนี้ยแหละมันจริงใจที่สุดแล้ว เสียงเตือนและแรงสั่นยังดังจากเบาะหลัง แบคฮยอนเป็นเด็กน่ารำคาญที่สุดในโลกเท่าที่เขาเคยเจอ ทั้งๆที่ตัวเองพึ่งจะเรียนม.ปลายปีแรกแทนที่จะตั้งใจเรียนแต่ไม่เลย.. แบคฮยอนเอาแต่โทรหาไลน์หาจงอินทั้งวันและแทบจะทั้งคืนด้วยซ้ำ คยองซูเคยเจอแบคฮยอนสองสามครั้งตอนที่เด็กนั่นบอกว่าปวดท้องแล้วขอมาเข้าห้องน้ำที่ห้อง ไม่รู้ว่าจงอินคิดอะไรอยู่ถึงไปคว้าเด็กที่เรดาร์พังแบบนั้นมาเป็นแฟน ภาพแบคฮยอนที่กัดปากใส่เขาแถมยังก้มเก็บของด้วยท่าทางอ่อยๆยังติดตาตรึงใจจนถึงทุกวันนี้ ตุ๊ดลูกเจี๊ยบอย่างแบคฮยอนน่ะยังดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าใครกินได้หรือใครพวกเดียวกัน ...ถ้าคิดจะมีแฟนใหม่ก็ช่วยหาให้ดีกว่าเขาหน่อยไม่ได้หรือไง..
จงอินคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามันเป็นเรื่องที่พูดยาก ใช่ เมื่อก่อนเขากับคยองซูเคยเป็นแฟนกัน ไม่สิต้องเรียกว่าเป็นผัวเมียกันเลยถึงจะถูก แต่ตอนนี้เขากับคยองซูเลิกกันแล้ว ถึงแบบนั้นก็ยังเป็นผัวเมียกันอยู่ดีนั้นแหละ(?) คยองซูบอกว่าคำหยาบจะทำให้เราดูเหมือนเพื่อนกันมากขึ้น ถึงจงอินจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยอมเออ.ออกับคยองซูไปแบบงงๆ ถ้าถามว่าพวกเขาเลิกกันได้ยังไง จงอินคิดว่ามันก็คงเป็นแค่เรื่องงี่เง่าของคนที่คบกันมานาน...
---
‘จงอินทำไมกินแล้วไม่เก็บ’
‘แปปนึงนะ เล่นเกมส์อยู่’
‘กินแล้วก็ทิ้งส่ง รู้ป่ะว่าห้องมันสกปรก’
‘แค่นี้ทนไม่ได้หรอ’
‘ไม่ใช่ทนไม่ได้ แค่ทนมานานแล้วไง’
---
ไม่รู้ว่าเพราะจงอินแพ้เกมส์ตอนนั้นด้วยหรือเปล่าเลยทำให้หงุดหงิดที่คยองซูเอาแต่บ่น สุดท้ายก็กลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต เขายังจำได้ว่าคยองซูร้องไห้หนักมากแค่ไหน คนตัวเล็กบอกให้เราลองห่างกันดูสักพักไม่ก็ลองกลับไปเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะไม่มีที่ไปหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้จงอินยังติดรถคยองซูออกมาเรียนและคยองซูก็ไม่ได้ย้ายออกไปจากห้องจงอิน ...บอกแล้วว่ามันพูดยากและมันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก
ส่วนแบคฮยอน จงอินเพิ่งคุยกับเด็กคนนี้ได้เดือนกว่าไม่แน่ใจว่าเป็นแฟนกันหรือเปล่าแต่จงอินแค่คิดว่าแบคฮยอนน่ารักดี มันไม่ได้เกิดจากการประชดประชัน เขาคิดว่าแบคฮยอนน่ารักจริงๆและในเมื่อคยองซูไม่ได้ว่าหรือแสดงท่าทางหึงหวงอะไรนอกจากทำเป็นรำคาญ จงอินที่อยู่ในสถานะโสดก็มีสิทธิที่จะคุยกับใครก็ได้..ตราบใดที่คยองซูไม่ได้บอกว่าหึง เพราะถ้าคยองซูพูดสักครั้ง จงอินก็จะเลิกคุยให้ทันที...
“มึงอ่ะ ตั้งใจเรียนบ้างนะ ถ้ามองไม่เห็น..แว่นมีก็หัดใส่ซะบ้าง”
“เป็นพ่อกูหรอ?”
สีหน้าของคยองซูมันดูกวนประสาทจนอยากจะลากเข้าไปต่อยข้างตึก ถ้าดีใจหรือเขินก็แค่เงียบๆไม่ก็พยักหน้าหรือยิ้มให้ก็พอมั้ง ไม่เห็นต้องมากวนกันแบบนี้เลย จงอินส่ายหัวให้กับความดื้อของคยองซูตั้งแต่ไหนแต่ไรพวกเขาก็ไม่ได้นั่งเรียนติดกันอยู่แล้ว แม้กระทั่งตอนเป็นแฟนก็เถอะ แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเพื่อนคยองซูเป็นแก๊งค์เพื่อนสาวอะไรทำนองนั้นนะ เพราะเพื่อนคยองซูแต่ละคนเนี้ยเด็ดๆทั้งนั้น กวนตีน ขี้เมา ชอบใช้กำลัง ทำตามห่ามๆไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวอะไรจะมีข้อดีหน่อยก็ตรงที่รักเพื่อนและเพราะคยองซูชอบเพ่งมองคนอื่นด้วยความสายตาสั้น สำหรับคนที่ไม่เข้าใจมันดูเหมือนไปสะกิดเท้าเขายิกๆซึ่งจงอินคิดว่าการที่คยองซูคบเพื่อนแบบนั้นมันก็ดีแล้ว เผื่อเวลาจงอินไม่อยู่จะได้มีคนคอยช่วยเหลือ
“ถ้ากูเห็นมึงพูดมาก กูจะย้ายไปนั่งข้างมึง”
คยองซูนึกอยากจะด่าทั้งจงอินและเพื่อนจงอินที่เอาแต่ชวนกันคุยเรืองการ์ตูนทั้งๆที่ก็อ่านเรื่องเดียวกัน เนื้อหาทุกเล่มมันก็เหมือนกัน แล้วมันมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมานั่งเล่าซ้ำให้กันฟังหรือไม่ก็นั่งวิเคราะห์ตัวละครประหนึ่งลายเส้นพวกนั้นเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริงๆ เขาเองก็เคยอ่านการ์ตูนที่จงอินอ่านเหมือนกันมันก็สนุกดีแต่เพราะความขี้เกียจคยองซูเลยรู้สึกตัวหนังสือกับสายตาของเขามันไม่ถูกกันเท่าไหร่ สุดท้ายก็เลยได้แต่ฟังที่จงอินเล่าพอนานๆไปอีกฝ่ายก็เริ่มเบื่อคำถามจุกจิกของเขาจนไล่ให้ไปอ่านเองในที่สุด...แม่งก็วนกลับไปที่เดิมคือกูต้องใช้สายตาซึ่งกูไม่โอเคไง
“ไงมึงสรุปวันนี้ไปป่ะเนี้ย”
“ไม่ไปแล้ว รำคาญคน”
“น่ะ ทะเลาะกันแล้วมาลงกับกูตลอด”
“แม่งเด็กห่าไรไม่รู้ เยอะเหลือเกิน”
เซฮุนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าสรุปที่กำลังตกมันอยู่นี่จริงๆแล้วคยองซูกำลังโมโหจงอินหรือใครกันแน่ เพื่อนของเขาไม่ได้มีนิสัยน่ารักๆเหมือนที่เขาเคยเห็นเมียคนอื่นหรือแม้กระทั่งเมียตัวเองด้วยซ้ำ คยองซูใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเองสุดๆคิดจะดีก็ดีใจหายนึกจะโมโหร้ายก็อย่างกับหมูตกมัน ยิ่งพอดูห่างๆกับจงอินก็ยิ่งแล้วใหญ่ กินเหล้าแทนน้ำ เล่นบาส เตะบอล..แม่งไม่ได้แคร์สังขารตัวเองเลย
“เฮ้ออ”
มันไม่ได้เป็นความรู้สึกหงุดหงิดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ คยองซูแค่ไม่ชอบเวลาที่กลับมาอยู่กับจงอินสองคน เสียงกดแป้นพิมพ์มันดังจนน่ารำคาญและพาลให้หงุดหงิดจนอยากจะเข้าไปปาโทรศัพท์จงอินให้พังจนซ่อมไม่ได้ ซื้อมาใหม่ก็จะปาอีก จนกว่าแบคฮยอนจะเลิกส่งข้อความมาหาจงอินนั้นแหละเขาถึงจะพอใจ
“เป็นไรถอนหายใจอยู่ได้”
“เปล่า ปกติดีสบายๆอยู่แล้ว”
คยองซูตอบออกไปทั้งที่เลือดในกายเดือดผุดๆอยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อของคนดำที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่ข้างๆและกรนด่าเสียงดังให้ข้างห้องมาเป็นพยานความน่ารำคาญของจงอิน เสียงหัวเราะคิกคักกับรอยยิ้มแบบนั้นมันน่ารำคาญ และภาษาวิบัติของแบคฮยอนก็น่ารำคาญเช่นกัน..
“เดี๋ยวกูมานะ ออกไปหาแบคฮยอนแปปนึง”
“...”
คยองซูไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดในใจจนน้ำตาไหลวิ่งไปกอดขาขอร้องให้อีกฝ่ายอย่าไป อะไรแบบนั้นเขาแค่ถอนหายใจออกมาช้าๆอย่างเบื่อหน่าย
“งั้นล๊อกห้องด้วย กูจะกลับบ้าน”
“ไปทำไม? มึงจะกลับบ้านทำไม?”
“กูจะคิดถึงแม่กูบ้างไม่ได้หรือไง”
จังหวะที่คยองซูลุกขึ้นจากโซฟาจงอินก็คว้าแขนเขาไว้ทันที ก็บอกแล้วว่าคยองซูน่ะดื้อมากๆ คำว่า ‘ออกไปหา’ ของจงอินหมายถึงการไปเดินเล่น กินข้าวหรือซื้อของอะไรนิดหน่อยไม่ได้มีเรื่องเกินเลยอะไรมากไปกว่านั้น จงอินอนหายใจออกมา มือที่จับข้อแขนเล็กของคยองซูก็ยังไม่ได้ขยับหรือปล่อยไปไหน พูดกันตรงๆจงอินไม่ชอบใจเท่าไหร่หรอกที่คยองซูจะมาน้อยใจกับเรื่องแค่นี้ เขาไม่ได้ออกไปนาน..อย่างมากก็แค่ชั่วโมงสองขั่วโมง และยังไงคืนนี้เขาก็ต้องกลับมานอนที่ห้อง..มานอนกับคยองซูอยู่ดี
“ปล่อย! กูจะไปเก็บเสื้อผ้า”
“ไม่ ถ้าปล่อยมึงก็ไปดิ”
“จะปล่อยไม่ปล่อย..”
“….”
“ไม่ปล่อยกูต่อยนะ”
“เอาดิ มึงต่อยกูต่อยกลับ”
อห. มึงเป็นสุภาพบุรุษมาก คิมจงอิน
#ฟิคมันพูดยาก
ไม่รู้จะชอบกันมั้ยกับคยองซูที่เป็นแบบนี้ แงง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
1 เม้น ก็เป็นกำลังใจได้แล้วค่ะ:)
#ฟิคมันพูดยาก
ขอบคุณทุกคนมากๆ
รักนะคะ
ความคิดเห็น