ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกมนต์ตรา

    ลำดับตอนที่ #9 : ศัตรูที่มองไม่เห็น

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 46


       สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของนักเดินทางทั้งสี่คน สร้างความหดหู่และอ้างว้างอย่างไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง  สภาพของเมืองรกร้างเหมือนไม่มีคนอยู่มานานับศตวรรษ  มีวัชพืชปกคลุมไปทั่ว  ซากสัตว์ที่ชาวเมืองเลี้ยงไว้โดนฝูงสัตว์ขนาดใหญ่ฆ่าตาย  มีรอยเลือดอยู่ตามทาง  ซีนมองภาพด้วยความรู้สึกสงสารต่อประชากรของเมืองยิ่งนัก  โปวามองหญิงสาวอย่างสงสารและเห็นใจในชะตากรรม  โรมถามซีนว่า

         \"ที่นี่คงจะเป็นเมืองคาชินใช่ไหม\"

       ซีนพยักหน้าก่อนจะอธิบายว่า

         \"เมืองคาชินของเราได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งหมอก  ที่นี่ในยามปกติจะมีหมอกปกคลุมตลอด 24 ชั่วโมง  ศัตรูจากภายนอกจะมองไม่เห็นทางเข้าเมือง แต่เราจะมองเห็นศัตรูจากด้านใน  แต่เหตุการณ์ที่เกิดมาจากภายในทำให้เราอยากจะป้องกัน\"

         \"แล้วเหล่าพ่อมดพวกนั้น  เข้ามาในเมืองเจ้าได้ยังไง\" โปวาถามขึ้น

        \"พวกมันได้ช่วยชีวิตชาวเมืองที่ออกนอกเขตไปหาของป่า  และถูกสัตว์ร้ายทำร้ายเอา  ชาวเมืองคนนั้นจึงชักชวนให้เข้ามาในเมือง ปกติเราจะกำหนดเวลาเปิดปิดประตูเมืองไว้ คือตั้งแต่ตะวันพ้นขอบฟ้าจนถึงช่วง 8 เวลา(8 โมงเช้า) แล้วประตูจะปิดลง  ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกนอกเมืองอีก  พ่อมดเหล่านั้นสร้างความน่าเชื่อถือแกคนในเมือง  จนชาวบ้านเกิดความไว้วางใจจึงแบ่งที่ดินให้พ่อมดเหล่านั้นอาศัย  แถมยังเล่าเรื่องราวภายในเมืองให้ฟังอีก  พ่อมดเหล่านั้นอาศัยอยู่ราว ๆ หนึ่งเดือน พระบิดาของข้าก็เชิญมาพักในพระราชวัง พ่อมดเหล่านั้นจึงได้อาศัยความน่าเชื่อถือ ให้พระบิดาของข้าไปนับถือวิญญาณชั่วแทนการเชื่อถือพระผู้สร้างจักรวาล  จนบ้านเมืองเริ่มตกตํ่า  พวกพ่อมดเข้ายึดอำนาจภายในเมืองอย่างรวดเร็วและทำให้ทุกคนกลายเป็นหิน  ข้ากับทหารกล้าจำนวนหนึ่งได้หนีออกมาจากพระราชวัง  และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ภายนอกเมืองเพราะกลับไม่ทันเวลารับทราบข่าวก็ตามมาชุมนุมกันกับเรา  เราจึงตั้งกองกำลังกู้แผ่นดินคาชินขึ้น\"

        \"หยุดก่อน!\" เมร่าบอกขึ้นอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับเอาหูฟังแนบกับพื้นดิน \"มีคนกำลังมา\"

        \"เป็นพวกมันแน่!  ข้าจะสู้ตายกับมัน\"ซีนบอกด้วยความแค้น  แต่โปวาและนักเดินทางอีกสามคนรีบหลบเข้าไปยังบ้านร้างหลังหนึ่ง  ก่อนจะแอบดูผู้มาเยือน  พ่อมดในชุดสีเขียวปรากฏกายขึ้นกลางหมู่บ้าน  หน้าตาเหมือนกับปีศาจมากกว่ามนุษย์  ใบหน้าเหี้ยวยน  มีรูปพระจันทร์ครึ่งเสี่ยวที่หน้าผาก  พ่อมดตนนี้กำลังรอคอยบางสิ่ง  ไม่นานมีลำแสงส่องสว่างเหมือนการถอดจิตได้ปรากฏขึ้น  ร่างของบุรุษผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้น  พ่อมดในชุดสีเขียวคุกเข่าทำความเคารพพร้อมกับเอ่ยว่า

        \"คาราวะท่านแม่ทัพเวชา\"

        \"ตามสบายท่านพ่อมดไบเกอร์\"

        พ่อมดในชุดสีเขียวนามว่าไบเกอร์ลุกขึ้น รายงานว่า \"ตามแผนการของท่านจักรพรรดิบูชาร์ด  จรชนจำนวนหนึ่งกำลังแทรกซึมลงไปยังนครเปโลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้  กำลังพลที่เราสุ่มไว้เตรียมรอการโจมตีก็กำลังขยายาเพิ่มขึ้น  รอเพียงกำลังพลส่วนหน้าของอารายามาถึงเราจะได้รับชัยชนะทันที\"

       นักเดินทางทั้งห้าได้ยินการสนทนาทุกคำ ทุกคนทั้งตกใจและตระหนกในสถานการณ์ที่กำลังจะเลวร้าย  คนของอารายากำลังแฝงตัวอยู่ในนครเปโลนับจำนวนเท่าใดแล้ว  พวกมันผ่านเข้ามายังนครเปโลได้ยังไง  นับเป็นการวางแผนที่แยบยลมาก  เป็นกลศึกการรบของฝ่ายมนุษย์มากกว่าผู้วิเศษ  จักรพรรดิบูชาร์ดเรียนรู้วิธีการนี้มาได้ยังไง  ในเมื่อชนเผ่าอารายากับมนุษย์โลกนั้นอยู่คนละช่วงมิติเวลา มนุษย์ไม่สามารถเข้ามายังดินแดนแห่งเวทมนต์ได้  ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม  ไม่นานร่างของแม่ทัพเวชาก็หายวับไป  เช่นเดียวกับพ่อมด

    ไบเกอร์  ทั้งห้าคนจึงออกมาไม่มีใครพูดอะไร  ทั้งห้าเริ่มรู้สึกว่าสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น  ไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้แล้ว          
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×