ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เมร่า หญิงสาวนักเดินทาง
  20 ปี ต่อมา...
  หิมะที่ตกลงอย่างหนักหาได้เป็นอุปสรรค์ต่อการฝึกฝนของชายหนุ่มทั้งสามไม่  ทั้งสามกำลังลอยตัวต่อสู้กันเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกท่าและทุกคาถาล้านแต่มีพลังทำลายรุนแรก ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางองอาจสมชายชาตรีกำลังจะปล่อยคาถาไม้ตายใส่ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี ไว้ผมยาวที่รอตั้งรับอยู่พร้อมม่านพลังนํ้าปกป้องคุ้มกาย ชายคนแรกปล่อยพลังไฟอันแรงกล้าพุ่งใส่อย่างแรง 
  บึ้ม !
  ประกายไฟจากการระเบิดส่องสว่างไปทั่วบริเวณโดยรอบหุบเขา  เมื่อควันจางชายหนุ่มผู้มีพลังนํ้าคุ้มกายก็ไม่เป็นอะไร  ห่างออกไปมีชายหนุ่มหน้าอ่อนเยาว์ ผิวขาวยืนกลางอากาศด้วยเวทมนต์ลอยตัวมองอย่างชื่นชม  เขาบอกชายหนุ่มทั้งสองว่า
    \"โรม โปวา ไปหาท่านอาจารย์กัน\"
  ชายหนุ่มเจ้าของลูกไฟเขาคือ โรมนั่นเอง  ส่วนชายผู้มีพลังนํ้าก็คือ โปวานั่นเอง ทั้งสามเหาะมายังบ้านไม้ที่ตั้งกลางป่าลึก  ทั้งสามเหาะลงมายังพ่อมดเวทไกวาที่ยืนคอยอยู่หน้าที่พัก ทั้งสามยืนเรียงแถมเหมือนที่เคยทำมาในอดีต  พ่อมดเวทไกวากล่าวขึ้นด้วยนํ้าเสียงจริงจังว่า \"เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน  บัดนี้ได้เวลาที่พวกเจ้าจะห้องเดินทางไปแสวงหาความรู้และพบกับหลายสิ่งหลายอย่างที่รอพวกเจ้าอยู่และอย่าลืมสิ่งที่อาจารย์บอกพวกเจ้าไว้ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาละ\"
    \"อาจารย์...พวกเราอยากจะอยู่รับใช้อาจารย์\" โปวาพูดขึ้นจากใจจริง
    \"ไม่ได้หรอกโปวา  ผู้สร้างกำหนดเลือกพวกเจ้าไว้ตั้งแต่เวลากาลอันยาวนาน  เหมือนกับที่พระองค์ได้ส่งพระบุตรไถ่บาปให้กับพวก
มนุษย์เหมือน 2000 ปีก่อนในโลกมนุษย์ แต่หน้าที่ของพวกเจ้าจะต่างออกไปตรงที่พวกเจ้าจะต้องขับไล่ความชั่วร้าย จงเดินทางไปยังนครเปโล อันเป็นศูนย์กลางของมิตินี้  ไปอาสาเป็นนักรบที่จะทำศึกกับผู้มาเยือนในอีกไม่นาน\"
    \"พวกเราคงจะคิดถึงอาจารย์\"โรมกล่าวด้วยนํ้าตาไหลอาบสองแก้ม  พ่อมดเวทไกวายิ้มก่อนจะกางมือออก ทั้งสามคนวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของอาจารย์ตนเองเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งสามไม่ดีคนใดเลยที่จะไม่ร้องไห้ออกมา
  เช้าตรู่วันต่อมา...ทั้งสามเก็บสัมภาระก่อนจะเดินทางออกจากดินแดนที่พวกเขาเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสามไม่มีวันลืมคำสั่งของอาจารย์ของตนที่ว่า \"ไม่ว่าพวกเจ้าจะพบเจอสิ่งใดที่เป็นอุปสรรค์ จงเอาชนะมันด้วยปัญญา อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ มันอาจจะพบทางตายได้\"
ทั้งสามเดินด้วยเท้าตามคำสั่งอาจารย์  เมื่อเดินมาได้สองวันเต็ม ๆ พวกเขาจึงหยุดพักที่ริมธารนํ้าที่ใสสะอาด  โรมถอดเสื้อผ้าก่อนจะลงไปว่ายนํ้าให้หายยากเช่นเดียวกับดอลและโปวา  ทั้งสามดำลงไปเพื่อจะจับปลา ที่แวกวายหนีการจับของทั้งสาม  เมื่อได้ปลามาคนละตัวโดยไม่ใช้พลังเวท ทั้งสามแต่งตัวก่อนจะย่างปลาโดยการก่อไฟ  ดอลถามโรมว่า
    \"เราต้องเดินทางอีกกี่วันจึงจะถึงนครเปโล\"
    \"คิดว่าคงไม่เกิน 5 วันนับแต่พรุ่งนี้\"
    \"คืนนี้เราจะนอนที่นี่ไหม นี่ก็ไม่กี่ราตรีก็มืดแล้ว\"โปวาเสนอความคิด
    \"เอาสิ  เราเดินป่ามาสองวันเต็ม ๆ ยังไม่ได้นอนพักเลย\"โรมตอบยิ้ม ๆ
    \"เรามีกันสามคน  ถ้านอนกันหมดใครจะเฝ้ายาม\"ดอลสงสัยขึ้นมา
    \"ไม่ยากพี่ดอล\"โปวายิ้ม ก่อนจะร่ายเวทที่ตนเองถนัด
    \"วารีนาชา\"
    คลื่นนํ้าห่อห้มพวกเขาทั้งสามในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร  ไม่ว่าสัตว์ป่าหรือจอมเวทไม่มีใครสามารถทำลายม่านพลังนี้ได้  ทั้งสามจึงเอนกายลงหลับสนิทจนถึงเช้าวันที่สี่ในการเดินทาง  วันต่อมาทั้งสามออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง  ทั้งสามก็ต้องพบกับกลุ่มพ่อมดแตกแถวที่ตั้งตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ชอบข่มเหงผู้ที่ผ่านไปมา ฆ่าและยึดเอาสมบัติ  ตอนนี้พวกมันประมาณ 10 คนกำลังล้อมหญิงสาวหน้าตาดี  ผู้หนึ่งอยู่  หญิงสาวนอกจากจะมีใบหน้าอันงดงามแล้วยังมีรูปร่างที่สวยงามอีกด้วย หญิงสาวยืนสงบไม่มีท่าทีหวาดกลัว  พวกมันคนหนึ่งดึงสัมภาระแต่ไม่ทันจะแตะต้อง หญิงสาวก็ร่ายเวทมนต์ทันที
    \"ไคน่าตอล\"
    คลื่นพลังทำลายที่รุนแรงสะท้อนออกมาเป็นวงกว้างทำลายพวกพ่อมดนอกแถวเหล่านั้น  โปวาใช้พลังม่านนํ้าป้องกันเอาไว้ทั้งสามคนจึงไม่ได้รับผลกระทบ  หญิงสาวหันมาเห็นจึงถามอย่างไม่เป็นมิตรว่า
    \"พวกแกสามคนก็เป็นพวกมันหรือ?\"
    \"เปล่า นางเข้าใจเราผิดแล้ว พวกเราเป็นนักเดินทางผ่านมา ข้าชื่อ โรม นี่ ดอล กับโปวา เพื่อนรักข้า  ไม่ทราบว่าแม่นาง...\"
    \"เมร่า  นักเดินทาง\" เธอตอบอย่างเสียมิได้ก่อนจะเดินจากไป         
  หิมะที่ตกลงอย่างหนักหาได้เป็นอุปสรรค์ต่อการฝึกฝนของชายหนุ่มทั้งสามไม่  ทั้งสามกำลังลอยตัวต่อสู้กันเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกท่าและทุกคาถาล้านแต่มีพลังทำลายรุนแรก ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางองอาจสมชายชาตรีกำลังจะปล่อยคาถาไม้ตายใส่ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี ไว้ผมยาวที่รอตั้งรับอยู่พร้อมม่านพลังนํ้าปกป้องคุ้มกาย ชายคนแรกปล่อยพลังไฟอันแรงกล้าพุ่งใส่อย่างแรง 
  บึ้ม !
  ประกายไฟจากการระเบิดส่องสว่างไปทั่วบริเวณโดยรอบหุบเขา  เมื่อควันจางชายหนุ่มผู้มีพลังนํ้าคุ้มกายก็ไม่เป็นอะไร  ห่างออกไปมีชายหนุ่มหน้าอ่อนเยาว์ ผิวขาวยืนกลางอากาศด้วยเวทมนต์ลอยตัวมองอย่างชื่นชม  เขาบอกชายหนุ่มทั้งสองว่า
    \"โรม โปวา ไปหาท่านอาจารย์กัน\"
  ชายหนุ่มเจ้าของลูกไฟเขาคือ โรมนั่นเอง  ส่วนชายผู้มีพลังนํ้าก็คือ โปวานั่นเอง ทั้งสามเหาะมายังบ้านไม้ที่ตั้งกลางป่าลึก  ทั้งสามเหาะลงมายังพ่อมดเวทไกวาที่ยืนคอยอยู่หน้าที่พัก ทั้งสามยืนเรียงแถมเหมือนที่เคยทำมาในอดีต  พ่อมดเวทไกวากล่าวขึ้นด้วยนํ้าเสียงจริงจังว่า \"เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน  บัดนี้ได้เวลาที่พวกเจ้าจะห้องเดินทางไปแสวงหาความรู้และพบกับหลายสิ่งหลายอย่างที่รอพวกเจ้าอยู่และอย่าลืมสิ่งที่อาจารย์บอกพวกเจ้าไว้ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาละ\"
    \"อาจารย์...พวกเราอยากจะอยู่รับใช้อาจารย์\" โปวาพูดขึ้นจากใจจริง
    \"ไม่ได้หรอกโปวา  ผู้สร้างกำหนดเลือกพวกเจ้าไว้ตั้งแต่เวลากาลอันยาวนาน  เหมือนกับที่พระองค์ได้ส่งพระบุตรไถ่บาปให้กับพวก
มนุษย์เหมือน 2000 ปีก่อนในโลกมนุษย์ แต่หน้าที่ของพวกเจ้าจะต่างออกไปตรงที่พวกเจ้าจะต้องขับไล่ความชั่วร้าย จงเดินทางไปยังนครเปโล อันเป็นศูนย์กลางของมิตินี้  ไปอาสาเป็นนักรบที่จะทำศึกกับผู้มาเยือนในอีกไม่นาน\"
    \"พวกเราคงจะคิดถึงอาจารย์\"โรมกล่าวด้วยนํ้าตาไหลอาบสองแก้ม  พ่อมดเวทไกวายิ้มก่อนจะกางมือออก ทั้งสามคนวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของอาจารย์ตนเองเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งสามไม่ดีคนใดเลยที่จะไม่ร้องไห้ออกมา
  เช้าตรู่วันต่อมา...ทั้งสามเก็บสัมภาระก่อนจะเดินทางออกจากดินแดนที่พวกเขาเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสามไม่มีวันลืมคำสั่งของอาจารย์ของตนที่ว่า \"ไม่ว่าพวกเจ้าจะพบเจอสิ่งใดที่เป็นอุปสรรค์ จงเอาชนะมันด้วยปัญญา อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ มันอาจจะพบทางตายได้\"
ทั้งสามเดินด้วยเท้าตามคำสั่งอาจารย์  เมื่อเดินมาได้สองวันเต็ม ๆ พวกเขาจึงหยุดพักที่ริมธารนํ้าที่ใสสะอาด  โรมถอดเสื้อผ้าก่อนจะลงไปว่ายนํ้าให้หายยากเช่นเดียวกับดอลและโปวา  ทั้งสามดำลงไปเพื่อจะจับปลา ที่แวกวายหนีการจับของทั้งสาม  เมื่อได้ปลามาคนละตัวโดยไม่ใช้พลังเวท ทั้งสามแต่งตัวก่อนจะย่างปลาโดยการก่อไฟ  ดอลถามโรมว่า
    \"เราต้องเดินทางอีกกี่วันจึงจะถึงนครเปโล\"
    \"คิดว่าคงไม่เกิน 5 วันนับแต่พรุ่งนี้\"
    \"คืนนี้เราจะนอนที่นี่ไหม นี่ก็ไม่กี่ราตรีก็มืดแล้ว\"โปวาเสนอความคิด
    \"เอาสิ  เราเดินป่ามาสองวันเต็ม ๆ ยังไม่ได้นอนพักเลย\"โรมตอบยิ้ม ๆ
    \"เรามีกันสามคน  ถ้านอนกันหมดใครจะเฝ้ายาม\"ดอลสงสัยขึ้นมา
    \"ไม่ยากพี่ดอล\"โปวายิ้ม ก่อนจะร่ายเวทที่ตนเองถนัด
    \"วารีนาชา\"
    คลื่นนํ้าห่อห้มพวกเขาทั้งสามในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร  ไม่ว่าสัตว์ป่าหรือจอมเวทไม่มีใครสามารถทำลายม่านพลังนี้ได้  ทั้งสามจึงเอนกายลงหลับสนิทจนถึงเช้าวันที่สี่ในการเดินทาง  วันต่อมาทั้งสามออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง  ทั้งสามก็ต้องพบกับกลุ่มพ่อมดแตกแถวที่ตั้งตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ชอบข่มเหงผู้ที่ผ่านไปมา ฆ่าและยึดเอาสมบัติ  ตอนนี้พวกมันประมาณ 10 คนกำลังล้อมหญิงสาวหน้าตาดี  ผู้หนึ่งอยู่  หญิงสาวนอกจากจะมีใบหน้าอันงดงามแล้วยังมีรูปร่างที่สวยงามอีกด้วย หญิงสาวยืนสงบไม่มีท่าทีหวาดกลัว  พวกมันคนหนึ่งดึงสัมภาระแต่ไม่ทันจะแตะต้อง หญิงสาวก็ร่ายเวทมนต์ทันที
    \"ไคน่าตอล\"
    คลื่นพลังทำลายที่รุนแรงสะท้อนออกมาเป็นวงกว้างทำลายพวกพ่อมดนอกแถวเหล่านั้น  โปวาใช้พลังม่านนํ้าป้องกันเอาไว้ทั้งสามคนจึงไม่ได้รับผลกระทบ  หญิงสาวหันมาเห็นจึงถามอย่างไม่เป็นมิตรว่า
    \"พวกแกสามคนก็เป็นพวกมันหรือ?\"
    \"เปล่า นางเข้าใจเราผิดแล้ว พวกเราเป็นนักเดินทางผ่านมา ข้าชื่อ โรม นี่ ดอล กับโปวา เพื่อนรักข้า  ไม่ทราบว่าแม่นาง...\"
    \"เมร่า  นักเดินทาง\" เธอตอบอย่างเสียมิได้ก่อนจะเดินจากไป         
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น