คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 ถนนสู่เมืองน้ำหอม (ลงใหม่)
ตอนที่1
ถนนสู่เมืองน้ำหอม
รถยนต์ยุโรปคันโตแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าตึกฝรั่งหลังเก่าแต่แลดูได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีจากผู้อยู่อาศัย ทอเรชด้านหน้ายกพื้นขึ้นสูงเป็นบันไดสามขั้นร่มครึ้มด้วยซุ้มกุหลาบพวงหลากสีส่งกลิ่นหอมกรุ่น สนามหน้าตึกยังมีต้นกุหลาบอีกหลายกอ บางต้นเป็นพันธ์หายากเช่นกุหลาบสีม่วงกลิ่นจรุงในนามของจอมพลผู้ยิ่งยงแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส La Charles de gaule1 ที่ชายกลางคนผู้เป็นเจ้าของหวงแหนเป็นหนักหนา ฌองใช้เวลาส่วนใหญ่คลุกลคีกับรานีแห่งปุบผาหลังจากปลดเกษียณตัวเองจากงานประจำ มาเพียงควบคุมดูแลกิจการขนาดเล็กของครอบครัว เลอ โนตรอยู่ห่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ กุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่ฌองทะนุถนอมเป็นพิเศษ
วันนี้ก็เช่นทุก ๆวัน ชายผู้ที่หัวใจกลายเป็นคนไทยแม้ไรผมแซมขาวจะเคยเป็นสีน้ำตาลมาก่อน เขาก้มเงยอยู่ใต้ซุ้มกุหลาบ มือที่เริ่มมองเห็นริ้วรอยของกาลเวลากำกรรไกรคมกริบไว้แน่นพร้อมจะปลดปล่อยกิ่งก้านที่อ่อนล้า
“ปาปู๊เน2...หนูกลับมาแล้วค่ะ”
กุหลาบดอกที่สวยที่สุดในสายตาของพ่อส่งเสียงเจื้อยแจ้วทันทีที่ก้าวลงจากรถยนต์คันงาม ฌองมองตามเสียงเรียก ส่ายศีรษะด้วยความระอากับลูกสาวที่ย่างยี่สิบปีแล้วยังไม่ยอมโตเสียที โรสอินทวายังคงเรียกผู้เป็นพ่ออย่างเคยปากในสมัยเด็ก และทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ ชายผมสีดอกเลาอดแปลบปลาบในใจไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเรียกใครบางคนเช่นนี้มาก่อน ...ปาป้า ...ปาปู๊เน ฌองวางกรรไกรลงบนโต๊ะเหล็กดัด เดินลงมารับลูกสาวคนเดียวของเขาที่โถมตัวเข้ากอดผู้เป็นพ่อด้วยความรักจนชายกลางคนแทบจะหงายผลึ่งลงไปกับพื้นจากน้ำหนักตัวของหญิง-สาว พร้อมเสียงกลั้วเราะ ฌองยกมือรับไหว้สารถีหนุ่มหน้ามน ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเชื้อสายลุ่มแม่น้ำฮวงโห กับน้องสาวฝาแฝดอีกสองคนในรถ
“ป๊าสวัสดีครับ” พระลอเดินตามลงมาส่งเพื่อนของน้องสาวฝาแฝด เพื่อนพี่ และ แพงน้อง เมื่อเห็นชายหนุ่มยังรีรอหันรีหันขวาง ฌองก็เข้าใจได้จากประสพการณ์เมื่อสมัยตามจีบแม่ของโรสอินทวา จึงทำเป็นเชิงชวน
“ไม่ลงมากันก่อนรึเด็ก ๆ แม่เค้าทำมากาฮง3ไว้ยังเหลืออีกสักกล่องเห็นจะได้ กินกับกาแฟร้อนๆอร่อยนะลูก” แม้ปากที่พาทีจะเปื้อนรอยยิ้ม แต่สายตาที่ประสานของชายสองวัยมีสัญญาณเตือนฝ่ายที่ด้อยวัยวุฒิกว่า ว่า * โปรดระวัง พ่อดุมาก*
เมื่อช่องแห่งโอกาสถูกเปิดขึ้นแม้จะโดยมารยาท คนจ้องฉวยก็ไม่คิดจะรีรอ พระลอรีบรับคำทันทีทันใด แต่ประตูสวรรค์ถูกปิดลงโดยเสียงใสของน้องสาวจอมแก่นกับหน้าหมวยนัยตากลมเเป๋วยื่นออกมาประท้วงจากหน้าต่างข้างหลังรถ
“โอย...ไม่ได้นะคะพี่ลอ แพงรีบมากเลยเนี่ย”แล้วเจ้าของตากลมก็ส่งยิ้มหวานไปประจบคนแก่
“ป๊าให้แม่หอมเก็บไว้ให้พี่เพื่อนหน่อยสิคะ พรุ่งนี้ แพง ...เอ้ยพี่เพื่อนเค้าจะมากิน”
พูดจบเจ้าตัวก็ขำกิ๊กกั๊กกับความพลั้งพลาดของตัวเอง ฌองหันไปหัวเราะกับโรส ทั้งสองคนรู้นิสัยชอบกินจุกจิกของแพงน้องเป็นอย่างดี เพื่อนพี่ถูกพาดพิงทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับมากาฮงแต่อย่างใด นึกอยากจะถองศอกเข้าสีข้างยายแฝดน้องตัวร้ายที่ชอบป้ายความผิดมาที่เธออยู่เป็นประจำ ส่วนพระลอพี่ชายถึงกับเกาหัวแกรกกรากด้วยความหงุดหงิด ที่ถูกขัดทั้งลาภปากและลาภใจจนถึงกับหันไปทำตาขวางกับน้องสาวคนเล็ก
“แล้วรีบไปทำอะไรนักหนายายแพง อุตส่าห์มาถึงที่แล้วจะได้ไปกราบแม่หอมซักหน่อย” ชายหนุ่มแทบจะโผนไปเขกกระโหลกน้องตัวแสบ ที่เบิกตาโตเชิงรู้ทันเหลี่ยมของผู้เป็นพี่ชาย
“ฮั่นแน่ ...เอาแม่หอมมาอ้าง บาปนะพี่ลอ ... แพงรีบสิ จะไปซ้ำบนอีกสักยกกันเหนียว แล้วถ้าแพงกับพี่พื่อนสอบตก จะฟ้องเตี่ยว่าพี่ลอแกล้งน้อง”
โดนอ้างชื่อผู้เป็นพ่อ นายพระลอจึงต้องจำยอม เพื่อนพี่กับแพงน้องเป็นยอดรักของเตี่ย ...ใครก็ตามที่หลงรักลิลิตพระลอจะต้องหลงใหลความงามของสองนางกษัตรี เตี่ยของเขาไม่อยู่เหนือกฏเกณฑ์นั้น ชายหนุ่มจึงจำต้องหมุนตัวกลับขึ้นนั่งประจำที่สารถีหลังจากที่กล่าวลากับเจ้าของบ้านพร้อมทั้งนัดหมายกับคนเป็นลูกสาว
“พรุ่งนี้พี่จะมารับไปฟังผลสอบนะน้องโรส”
รถยนต์คันเดิมเล่นออกไปจากหน้าบ้าน เลอ โนตร พร้อมทั้งเสียงล้อเลียนคิกคักจากสองสาวทางด้านหลัง *น้องโรส ...คิก คิก* ในขณะที่คนขับนึกแช่งชักหักกระดูกเจ้าของเสียงเย้าทั้งสอง
“เพี้ยยยง... บนเท่าไหร่ขอให้พลาดด้วยเถอะ เด็กดื้อสองคนนี่ ท่าจะเพี้ยน ไปบนตอนสอบเสร็จแล้ว จ้าวที่ไหนจะมาช่วยทันวะ”
โรสและผู้เป็นพ่อพากันเดินไปทางหลังบ้านที่หอมจันทน์ วิศวกรบ้านกำลังกุลีกุจอปรุงอาหารสูตรใหม่ ฌองมองดูภรรยาด้วยความรักและซึ้งในมานะน้ำอดน้ำทนของสตรีร่างบ่างแต่แกร่งราวเหล็กไหลคนนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะคนเป็นแม่ ที่จะหอบผ้าทิ้งชีวิตเพื่อตามความรักไป แล้วห้าปีต่อมาต้องใช้เส้นทางเดียวกันแต่ในทิศตรงกันข้าม หอบลูกและสามีกลับมาเริ่มต้นใหม่ ณ.แผ่นดินไทย
เมื่อหอมจันทน์และเขาตัดสินใจทิ้งชีวิตที่ปารีสนั้น สองผัวเมียมีเงินเหลือจากการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดไม่มากมายนัก โชคยังดีเมื่อคำนวนกลับเป็นค่าเงินบาทไทยแล้ว มากพอทำให้เขาสองคนสามารถเปิดกิจการทำขนมปังเล็ก ๆ ขึ้นมาได้ ร้าน *บาเก็ต* ร้านแรกถือกำเนิดเมื่อ15ปีก่อน ฌองเองยังต้องหารายได้พิเศษโดยการรับสอนภาษาฝรั่งเศส แม้ว่าเขาไม่เคยคิดที่จะกลับไปเหยียบประเทศนั้นอีกในชีวิตนี้ แต่ก็ยังขอบคุณทั้งภาษาและขนมปังฝรั่งเศสที่ชุบเลี้ยงเขาและครอบครัวมาจนเป็นปึกแผ่นเช่นทุกวันนี้ แล้วยังมีครอบครัวของภรรยาเขาที่ให้หลังคาคุ้มสามชีวิต ทุกวันนี้ ฌองพยายามตอบแทนครอบครัวของหอมจันทน์ด้วยการดูแลรักษาบ้านของคุณทวดของเธอให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ตึกฝรั่งร่มรื่นแบบนี้หาได้ไม่ง่ายนักแถบริมคลองบางกอกน้อย
ฌองเดินเข้าไปหอมท้ายทอยภรรยาฟอดใหญ่ ขณะที่โรสยืนมองบุพการีด้วยชื่นชมในความรักของท่านทั้งสอง แล้วเธอเล่าหนอ จะมีใครรักเธอแบบที่พ่อรักแม่ไหมนะ ...
“โรสกลับมาแล้วหรือลูก หิวไหม จ๊ะ”หอมจันทน์ทักลูกสาวชายตาไปทางกล่องขนมที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารมุมห้องครัว ส่วนผู้เป็นพ่อไม่รอให้ใครถาม ก้าวสวบสาบไปเปิดกล่องชิมผีมือเมียพลางงึมงัมขนมเต็มปาก
“พ่อไม่ถามนะถามแต่ลูกสาว”
“จะถามทำไมพ่อน่ะ กินตุ้ย ๆ ตั้งแต่เช้ายังไม่หยุด ความดันถามหาแล้วจะว่าแม่ไม่เตือนนะ” ผู้เป็นเมียมองค้อนสามีควับใหญ่ พลางรินน้ำอ้อยคั้นสดใส่แก้วยื่นให้ ด้วยเกรงว่าจะติดคอ
“ถึงถามหาคุณก็อย่าบอกเจ้าความดันสิว่าผมซ่อนอยู่ที่ไหน” ฝ่ายสามีตอบรวนก่อนจะเปล่งเสียงหัวร่อก๊ากใหญ่พลางหันไปพยักเพยิดกับลูกสาว
โรสโคลงหัวกับความขี้เล่นของพ่อ หญิงสาวจำได้เลือนราง ว่าในตอนแรกที่มาเมืองไทย พ่อไม่สนุกอย่างนี้ กำแพงภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง มันครอบคลุมจนพ่ออึดอัด แต่เมื่อพอเหลียวมองแม่ ทำให้พ่อคิดได้ว่าแม่ก็เคยอดทนกับกำแพงแบบเดียวกันเพื่อพ่อ เพื่อลูก พ่อจึงกัดฟันสู้ ทุกวันนี้ ผลของความอดทนช่างหอมหวานนัก พ่อ พูด อ่านและเขียนภาษาไทยได้ดีกว่าคนไทยบางคนเสียอีก โรสคิดเสมอว่าเธอโชคดี ที่ถูกเลี้ยงมาโดยสองวัฒนธรรม เธอได้ความอ่อนโยนนุ่มนวลแบบคนไทยและกล้าแกร่งแบบชาวตะวันตก บางทีฌองเคยเปรียบลูกสาวของเขากับไวน์ขาวรสชาติกลมกล่อม *entre deux mer*(อองเทรอ เดอ แมร์) 4 ที่บ่มจากองุ่นที่ขึ้นในที่ราบลุ่มระหว่างแม่น้ำสองสาย ดอร์โดญจ์Dordogne และ กาโคฮนน์Garonne ละมุนลิ้นเสียจนพ่อน้ำตาตกตอนที่แม่รินไปครึ่งขวดเพื่อไปทำน้ำซอสราดหอยนางรมอบแล้วยังหันมาทำตาเขียวสำทับพ่อ
“ถ้าคุณยังโวยวาย ชั้นจะเปิดเชมเปญมาทำซอสแทน”
คำขู่ของแม่ได้ผลเสมอ พ่อหยุดโวยวายราวกับติดเบรค นึกถึงตอนนั้นแล้ว โรสอดจะยิ้มขึ้นมาเสียไม่ได้ แต่พอนึกถึงผลสอบแล้วก็ใจหาย...หากเป็นเช่นที่เธอคิดหวัง แล้วเธอจะบอกพ่อกับแม่อย่างไร แม่คงจะไม่เท่าใหร่แต่พ่อน่ะสิ จะยอมให้เธอกลับที่นั่นไปไหม
บนรถเก๋งที่มุ่งตรงไปยังสมคมฝรั่งเศสบนถนนสาธรใต้ สามสาวภายใต้การนำทางของสารถีหน้าหยกกำลังนั่งกระสับกระส่ายเมื่อคิดถึงการทดสอบภาษาฝรั่งเศสที่กำลังจะรู้ผลในไม่ช้านี้ โดยเฉพาะสองเพื่อนพี่แพงน้องทางด้านหลัง ที่ไม่ค่อยจะมั่นใจนักแม้ว่าจะผ่านชั่วโมงเรียนมาพอ ๆกัน กับสาวหน้าหวานที่นั่งหน้าคู่กับพี่ชาย
“โรสก็สบายอยู่แล้วนี่ ป๊าสอนให้ทุกวัน” คนพาลทำหน้ามุ่ย เพื่อนพี่หัวเราะความพาลของน้องสาวฝาแฝด แก้แทนเพื่อนรักกลั้วเสียงหัวเราะคิกคัก
“แล้วทีเราล่ะแพง เตี่ยคุยภาษาจีนด้วยทุกวันน่ะ ยังหนีห่าวไหม5...เห่าฮ่งเลยน่ะ”
โรสกับคนขับหลุดเสียงหัวเราะออกมาพรืดหนึ่ง แล้วจึงบรคแตกกลายเป็นก๊ากใหญ่ เมื่อแพงน้องต่อลิลิตพระลอตอนโปรดของสัวเจ้าสรอง ด้วยสำเนียงจีนหน้าตาเฉย
ลางลิงลิงลอดไม้ ลางลิง
แลลูกลิงลงชิง ลูกไม้
ลิงลมไล่ลมติง ลิงโลด หนีนา
แลลูกลิงลางไหล้ ลอดเลี้ยวลางลิง
สี่หนุ่มสาวซาบซึ้งในความหลงใหลของท่านเจ้าสัวต่อลิลิตพระลอ ขนาดชื่อเรียกตนเองยังต้องกลับ เป็น สัวเจ้า ให้เข้ากับ ชื่อ สรองที่เปลี่ยนจากชื่อจีนตามชื่อเมืองในลิลิต
พอเพื่อนพี่ทำสีหน้า*อิน*ตามแพงน้อง เจ้าไก่ฟ้าที่นั่งข้างพระลอคนขับ ถึงกับลงไปกุมท้องงอก่องอขิง แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เสียงเฮฮาก็ค่อยจางหายไปเมื่อยานยนต์ใกล้ถึงที่หมาย ลูกลิงลมเสียงเจื้อยแจ้ว เมื่อครู่นี้ ทำหน้าเหย๋เกจนเพื่อนสาวต้องปลอบใจ
“แพงไม่ต้องกลัวหรอก โรสว่าแพงสอบผ่านนะ แล้วยังไงพอไปถึงแพงยังมีเวลาเรียนเพิ่มอีกหลายเดือนนะกว่าจะถึงวันรับสมัคร”
ฮื่อ ...แพงรู้จ้ะ แต่ก็อยากให้ผ่าน ๆ ซะทีเดียวเลย ไปถึงที่นู่นแล้วจะได้เที่ยวซะก่อน สบายใจไป” เจ้าตัวพูดจบก็โยกหัวหลบมะเหงกของพี่สาวกับตาสายตาเขียวปั้ดของพี่ชายที่จ้องมองทางกระจกส่องหลัง
“มะเหงกไหมยายแพง... ว่าแต่โรสเถอะ เพื่อนสงสัยว่าทำไมโรสต้องสอบสองตัว ในเมื่อโรสสอบ DALF6 ได้แล้ว ไอ้ TEF6 นี่ก็ไม่น่าจะจำเป็นเลยนะ แถมจริง ๆ แล้วโรสถือสัญชาติฝรั่งเศสอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“เรื่องเรียนต่อน่ะไม่เท่าใหร่นะ แต่เรื่องงานน่ะสิ...โอกาสของเราจะสูงกว่าถ้ามีดีกรีทางภาษาด้วยน่ะ”
“เป็น พี่เลี้ยงเด็กนี่นะ” แฝดน้องหน้ายู่
เค้าเรียก*Jeune fille au pair* (เจิน ฟียย์ โอ แปร์) 7 จ้ะแม่แพนง”โรสแกล้งเรียกชื่อเพื่อนเพี้ยน ๆ
“พี่ว่าโรสไม่เห็นจะต้องลำบากเลย ขอป๊าก็เรียบร้อยแล้วจะต้องไปรับจ้างเค้าทำไม” พระลอออกความเห็นบ้างหลังจากที่นั่งฟังเงียบ ๆ มานาน
“นั่นสิโรส” เพื่อนสนับสนุนความคิดของพี่ชาย แม้ว่าป๊าของโรสจะไม่ร่ำรวยเท่าสัวเจ้าสรองเตี่ยของเธอ แต่สถานะลูกสาวคนเดียวของเจ้าของกลุ่มเบเกอรี่ชื่อดังหลายสิบสาขาทั่วประเทศ ก็น่าจะสามารถไปเรียนต่อในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของผู้เป็นบิดาได้อย่างสบายๆ
“ไม่หรอกโรสชอบทำด้วยตัวเอง อีกอย่างโรสยังไม่รู้เลยว่าพ่อจะยอมให้โรสกลับไปไหม อย่างที่ทุก ๆ คนรู้นั่นแหละ ว่าพ่อเกลียดทุกอย่างทีเป็นฝรั่งเศสยกเว้น ไวน์กับเนยเน่า”
ทั้งคันรถทำหน้ายี้ เมื่อได้ยินคำ*เนยเน่า* โรสเคยสงสัยว่าป๊ากระเดือกนมหมักบูดขึ้นราเขียวกลิ่นฉุนจัดยิ่งกว่าถุงเท้าหมักค้างปีได้อย่างไร แถมทุกครั้งที่มีคนเอามาฝาก พ่อจะทำท่าราวกับจะขึ้นสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน โรสจำได้ดีถึงคำพูดของผู้เป็น พ่อ
*ถ้าลูกได้ลิ้มรสfromage8 (โฟร์มาจญ์)*ถึงถิ่น แล้วลูกจะพูดคำเดียวกับพ่อ c’est bon (เซ บง) อร่อย*
*ได้การ...เราจะใช้คำของพ่อคืนสนอง* หญิงสาวนั่งอมยิ้มเมื่อรู้ว่าจะพูดอย่างไรให้บิดายอมตามใจตน
ที่โต๊ะอาหารเย็น บ้าน เลอโนตร โรสรอเวลาให้พ่อจิบไวน์แดงอึกสุดท้ายชะล้างรสเผ็ดเข้มซ่านกระพุ้งแก้มของเนยเน่าเนื้อเนียนปนราเขียวเข้ม ถ้าดูเผิน ๆ ราวกับโรยผักชีสับหยาบ ๆ ลงผสมกับนมหมัก โรสแทบกลั้นหายใจรอเวลาที่พ่อกระดกแก้วก้านหลังจากที่หมุนแก้วส่องกับแสงไฟ ดูน้ำสีทับทิมค่อย ๆ ไหลรินตามขอบแก้วราวกับ *หยดน้ำตาบนร่องแก้ม*
พ่อว่า เวลาจะดูว่าไวน์ดีหรือไม่ เขาดูว่าไวน์สำออย9แค่ไหน แต่เวลานี้ คนที่สำออยอ้อยอิ่งดูจะเป็น พ่อของเธอมากกว่าไวน์ในแก้ว หรือว่าพ่อรู้อะไรมาเลา ๆ หญิงสาวเหลือบตามองมารดาแวบหนึ่ง ไม่เห็นพิรุธอะไร ...ถึงเวลาแล้ว โรสตัดสินใจ
“พ่อคะ ...แม่คะ หนูจะไปเรียนต่อที่ปารีส” โรสประกาศด้วยเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น เสียงที่หอมจันทน์รู้จักดีว่า หมากกระดานนี้ พระราชาจะถูกเจ้าหญิงน้อยต้อนจนจนมุม ไม่ต้องรุก ฌองก็ถึงฆาตเสียแล้ว
จริงดังว่า ไวน์สำออยแทบจะกระฉอก ดีแต่ความเสียดายมาสะกดกลั้นให้ฌองกล้ำกลืนน้ำองุ่นหมัก ผ่านกระเดือกฉ่ำชุ่มแต่แห้งผากในความรู้สึกของเจ้าของ เขาลอบมองค้อนอย่างขัดเคืองในท่าทางเมินเฉยของภรรยาที่ปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับเจ้าหญิงองค์ตัวเล็กแต่มากพิษสงแต่เพียงผู้เดียว
*ร้ายนักหนาเจ้ากุหลาบซ่อนหนาม เล่นงานพ่อเสียแทบจะสำลัก*
“หนูหมายความว่าอะไร โรสอินทวา”
ฌองปรับน้ำเสียงเข้มขึ้นหลังจากซับมุมปากจนผ้าสีขาวมีรอยแดง ๆ ของบอร์โด (ชื่อเรียกไวน์ตามแคว้นหนึ่งของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงทางการผลิตไวน์แดงเลิศรส) ทุกครั้งที่ผู้เป็นพ่อเรียกบุตรสาวจนเต็มยศเช่นนี้ หมายความง่าย ๆ ถึงความไม่ธรรมดาของเหตการณ์ที่จะบังเกิดในอนาคตอันใกล้ คนถูกเรียก สูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาว ก่อนเน้นคำแต่ละคำที่เปล่งจากริมฝีปาก เรียวบาง
“หนูหมายความอย่างที่พูดค่ะพ่อ หนู จะ ไป ปา รีส” ไม่ทันที่เธอจะจบประโยคดี ผู้เป็นพ่อดังถูกผีเข้าสิง...ผีแห่งอัตตาตัวตนของคนเป็นพ่อ
“โรสก็รู้ ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พ่อไม่อยากให้ไป พ่อมีเหตุผลของพ่อ อีกอย่าง ถ้าโรสดื้อรั้นจะไปพ่อจะไม่ส่งเสียหนูคงต้องดินรนด้วยตัวเอง” เขาพยายามจะขู่ลูกสาว ทั้งที่ลึก ๆ เขารู้ว่าไม่เป็นผล ...ลูกไม้ไม่เคยหล่นได้ไกลต้น
“แล้วเหตุผลของโรสล่ะคะ พ่อฟังบ้างไหม” เสียงของลูกสาวยังสม่ำเสมอ เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพต่อบิดา แต่แน่วแน่ในจุดมุ่งหมายของตน
“มันจำเป็นสำหรับหนูค่ะพ่อที่จะกลับไปเหยียบและเรียนรู้จักแผ่นดินเกิด พ่อพูดเองไม่ใช่เหรอคะว่าไม่มีกุหลาบต้นไหนจะงอกงามได้หากขาดราก แล้วรากแก้วส่วนนึงของโรสอยู่ที่นั่น พ่ออย่าลืมสิคะ”
แล้วเมื่อหญิงสาวเห็นแววตาอ่อนแสงเพียงแวบหนึ่งของบิดา เธอจึงรีบเสริมด้วยน้ำเสียงราวเด็กหญิงตัวเล็ก ที่ร้องขอไหมฝันจากผู้เป็นพ่อ
“นะคะ ปาปู๊เน... โรสอยากกินเนยเน่าอร่อย ๆ อย่างที่พ่อว่า ต้องไปกินถึงถิ่น ถึงจะรู้ว่า ...เซบง”
ฌองหันมองภรรยา เธอพยักหน้าน้อย ๆราวจะบอกว่า คำตัดสินอยู่ที่ปลายปากของคุณค่ะ ที่รัก
“แล้วเรื่องค่าใช้จ่าย” ฌองถูกต้อนจนมุมด้วยความรัก ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกสาวราวกับเขากำลังภาวนาให้เธอเปลี่ยนใจ โรสส่ายหน้าน้อย ๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“หนูได้งานแล้วค่ะพ่อระหว่างเรียนภาษาเพิ่มเติมก่อนจะลงทะเบียนเรียนออกแบบลายผ้าที่ ดูแปร์เคร่ 10(Duperré)
สองผัวเมียแทบจะสำลักรอบสองเมื่อได้ยินชื่อโรงเรียนที่ลูกสาวหมายมั่นปั้นมือ โรงเรียนศิลปประยุกต์แห่งชาติ ยากนักที่ชาวต่างชาติจะหาที่นั่งว่างในโรงเรียนนี้ได้ แม้ความภูมิใจจะบังเกิดแต่ความข้องใจนั้นมีมากกว่า ผู้เป็นพ่อเบนความน่าสนใจของโรงเรียนออกแบบลงด้วยคำถามง่ายๆ
“งานที่ว่าน่ะ ...งานอะไร รึโรส” คราวนี้ลูกสาวเป็น ฝ่ายหลบตาบิดา ก่อนตอบออม ๆเสียง
“พี่เลี้ยงเด็กค่ะ”
ท้ายบท
1 La Charles de gaule คือชื่อของดอกกุหลาบสีม่วงกลิ่นหอมจัด ตั้งชื่อให้เป็นที่ระลึกถึง นายพล ชาร์ล เดอ โกลล์ Charles de Gaulle นายพลและประธานาธิบดีผู้นำฝรั่งเศสผ่านสงครามโลกครั้งที่สองมาด้วยตำแหน่งของผู้ชนะ ดอกกุหลาบ ชาร์ล เดอ โกลล์ จัดเป็นกุหลาบหนึ่งในร้อยที่หายาก
2 ปาปู๊เน Papouné เป็นคำเรียกพ่อ ของเด็กๆชาวฝรั่งเศส นอกเหนือไปจาก ที่เรียกว่า ปาป้าpapaตามปกติ
3 มากาฮง Macaron เป็นขนมหน้าตาคล้ายคุกกี้สองฝาประกบกันแบบขนมครก ขนาดราว ๆ สามถึงห้า เซ็นติเมตร ดัดเปลงมาจาก ขนม เมอเค็ง meringue ทำจากไข่ขาว น้ำตาลไอซิ่งและเมล็ดอัลม่อนด์ป่น
4 Entre deux mers (อองเทรอ เดอ แมร์) เป็นส่วนหนึ่งของ เมือง Gironde ที่อยู่ระหว่างแม่น้ำสองสายคือแม่น้ำ ดอร์ดอญจ์ และแม่น้ำ กาคอนน์ ทำให้ดินบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ปลุกองุ่นได้รสชาติดีเป็นพิเศษ ไวน์ที่ผลิต และใช้ชื่อ อองเทรอเดอ แมร์คือไวน์ขาว บางครั้งเราเปรียบเทียบของที่ผสมสองลักษณะได้ดีกลมกลืนว่า อองเทรอเดอแมร์ เช่นเดียวกับไวน์รสดี
5 หนีห่าวไหม คำทักทายภาษาจีนที่คนฝรั่งเศสชอบใช้ทักกึ่งล้อเลียนเมื่อเจอกับคนเชื้อสายเอเชีย เด็กนักเรียนไทยในฝรั่งเศสโดยเฉพาะพวกผู้หญิงมักตอบคำล้อว่า เห่าฮ้งฮ้ง เป็นการแก้ลำ
6 DELF, TEF เป็นการสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาฝรั่งเศส ของผู้ใช้ภาษานี้เป็นภาษาที่สอง เป็นเอกสารสำคัญในการเรียนต่อหรือทำงานในประเทศฝรั่งเศสของชาวต่างชาติ เช่นเดียวกับการสอบโทเฟล ในประเทศไทย สมามรถติดต่อขอทำการทดสอบ เดลฟ หรือ เทฟ ได้ที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาธรใต้
7Jeune fille au pair* (เจิน ฟียย์ โอ แปร์) คือ พี่เลี้ยงเด็กตามบ้านชาวฝรั่งเศส ที่เป็นชาวต่างชาติ และพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง จะต้องมีอายุระหว่าง18-30ปี นายจ้างต้องจัดการเรื่องกินอยู่ของเจิน ฟี โอ เปร์ พร้อมทั้งเงินค่าขนม ตกราว ๆ 300-400 ยูโร ต่อเดือน และยังต้องจัดการเรื่องที่เรียนภาษาในโรงเรียนที่ทางการรับรองให้อย่างน้อยสัปดาห์ละ10ชั่วโมง เป็นงานที่น่าสนใจของผู้ที่ต้องการหาประสพการณ์ทางภาษาในต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แม้กระทั่งค่าเดินทาง
8 Fromage (โฟร์มาจญ์) Fromage เนยเน่า คือเนยเข็งอย่างที่เรียกกัน มีหลายชนิด ในฝรั่งเศสมี โฟร์มาจญ์อยู่ถึงกว่า365ชนิด เรียกว่าเปลี่ยนกลิ่นปากได้ทุกวันตามรสนิยม ส่วนที่มีราเขียว หรือเรียกกันว่า bleu (เบลอ) คือ ชนิดที่เรียกว่า มีเนื้อแปคร์ซิเย่ย์ Pate persillée คือเหมือนกับสับผักชีลงผสมในเนื้อเนยเข็ง
9 ไวน์สำออย หรือไวน์ร้องไห้ Le VIN pleurer เรียกตามภาษาผู้เชี่ยวชาญการชิมไวน์ Sommelier คือการชิมไวน์ด้วยสายตา ใช้เอียงหรือหมุนแก้วเบาๆ ให้น้ำไวน์จับตามขอบแก้วแล้วค่อยๆไหลรินมารวมกันที่ก้นแก้ว จะเห็นรอยคราบของไวน์ที่เรียกกันว่าคราบน้ำตา ไวน์ที่เก็บนานกว่าหรือไวน์เก่า จะสำออยมากกว่าไวน์ใหม่ ส่วนไวน์ที่ดราม่ามากไปสักนิด ขอแนะนำให้ระวังไว้ว่าอาจมีสารเคมีเสริมแต่งหรือ มีเชื้อเบคที่เรียที่ไม่พึงพิศมัยในน้ำไวน์จึงทำให้เกิดไขมันขึ้นจับเป็นคราบ
10โรงเรียน ดูแปร์เคร่ (Duperré) คือโรงเรียนศิลปประยุกต์แห่งชาติ ตั้งอยู่ ในเขตที่3ของกรุงปารีส
.......................................................................................................................
ท้ายบท
ท้ายบท
1 La Charles de gaule คือชื่อของดอกกุหลาบสีม่วงกลิ่นหอมจัด ตั้งชื่อให้เป็นที่ระลึกถึง นายพล ชาร์ล เดอ โกลล์ Charles de Gaulle นายพลและประธานาธิบดีผู้นำฝรั่งเศสผ่านสงครามโลกครั้งที่สองมาด้วยตำแหน่งของผู้ชนะ ดอกกุหลาบ ชาร์ล เดอ โกลล์ จัดเป็นกุหลาบหนึ่งในร้อยที่หายาก
2 ปาปู๊เน Papouné เป็นคำเรียกพ่อ ของเด็กๆชาวฝรั่งเศส นอกเหนือไปจาก ที่เรียกว่า ปาป้าpapaตามปกติ
4 Entre deux mers (อองเทรอ เดอ แมร์) เป็นส่วนหนึ่งของ เมือง Gironde ที่อยู่ระหว่างแม่น้ำสองสายคือแม่น้ำ ดอร์ดอญจ์ และแม่น้ำ กาคอนน์ ทำให้ดินบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ปลุกองุ่นได้รสชาติดีเป็นพิเศษ ไวนัที่ผลิต และใช้ชื่อ อองเทรอเดอ แมร์คือไวน์ขาว บางครั้งเราเปรียบเทียบของที่ผสมสองลักษณะได้ดีกลมกลืนว่า อองเทรอเดอแมร์ เช่นเดียวกับไวน์รสดี
5 หนีห่าวไหม คำทักทายภาษาจีนที่คนฝรั่งเศสชอบใช้ทักกึ่งล้อเลียนเมื่อเจอกับคนเชื้อสายเอเชีย เด็กนักเรียนไทยในฝรั่งเศสโดยเฉพาะพวกผู้หญิงมักตอบคำล้อว่า เห่าฮ้งฮ้ง เป็นการแก้ลำ
9 ไวน์สำออย หรือไวน์ร้องไห้ Le VIN pleurer เรียกตามภาษาผู้เชี่ยวชาญการชิมไวน์ Sommelier คือการชิมไวน์ด้วยสายตา ใช้เอียงหรือหมุนแก้วเบาๆ ให้น้ำไวน์จับตามขอบแก้วแล้วค่อยๆไหลรินมารวมกันที่ก้นแก้ว จะเห็นรอยคราบของไวน์ที่เรียกกันว่าคราบน้ำตา ไวน์ที่เก็บนานกว่าหรือไวน์เก่า จะสำออยมากกว่าไวน์ใหม่ ส่วนไวน์ที่ดราม่ามากไปสักนิด ขอแนะนำให้ระวังไว้ว่าอาจมีสารเคมีเสริมแต่งหรือ มีเชื้อเบคที่เรียที่ไม่พึงพิศมัยในน้ำไวน์จึงทำให้เกิดไขมันขึ้นจับเป็นคราบ
10โรงเรียน ดูแปร์เคร่ (Duperré) คือโรงเรียนศิลปประยุกต์แห่งชาติ ตั้งอยู่ ในเขตที่3ของกรุงปารีส
6 DELF, TEF เป็นการสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาฝรั่งเศส ของผู้ใช้ภาษานี้เป็นภาษาที่สอง เป็นเอกสารสำคัญในการเรียนต่อหรือทำงานในประเทศฝรั่งเศสของชาวต่างชาติ เช่นเดียวกับการสอบโทเฟล ในประเทศไทย สมามรถติดต่อขอทำการทดสอบ เดลฟ หรือ เทฟ ได้ที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาธรใต้
7Jeune fille au pair* (เจิน ฟียย์ โอ แปร์) คือ พี่เลี้ยงเด็กตามบ้านชาวฝรั่งเศส ที่เป็นชาวต่างชาติ และพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง จะต้องมีอายุระหว่าง18-30ปี นายจ้างต้องจัดการเรื่องกินอยู่ของเจิน ฟี โอ เปร์ พร้อมทั้งเงินค่าขนม ตกราว ๆ 300-400 ยูโร ต่อเดือน และยังต้องจัดการเรื่องที่เรียนภาษาในโรงเรียนที่ทางการรับรองให้อย่างน้อยสัปดาห์ละ10ชั่วโมง เป็นงานที่น่าสนใจของผู้ที่ต้องการหาประสบการณ์ทางภาษาในต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แม้กระทั่งค่าเดินทาง
8 Fromage (โฟร์มาจญ์) Fromage เนยเน่า คือเนยเข็งอย่างที่เรียกกัน มีหลายชนิด ในฝรั่งเศสมี โฟร์มาจญ์อยู่ถึงกว่า365ชนิด เรียกว่าเปลี่ยนกลิ่นปากได้ทุกวันตามรสนิยม ส่วนที่มีราเขียว หรือเรียกกันว่า bleu (เบลอ) คือ ชนิดที่เรียกว่า มีเนื้อแปคร์ซิเย่ย์ Pate persillée คือเหมือนกับสับผักชีลงผสมในเนื้อเนยเข็ง
3 มากาฮง macaron เป็นขนมหน้าตาคล้ายคุกกี้สองฝาประกบกันแบบขนมครก ขนาดราวๆสามถึงห้า เซ็นติเมตร ดัดเปลงมาจาก ขนม เมอเค็ง meringue ทำจากไข่ขาว น้ำตาลไอซิ่งและเมล็ดอัลม่อนด์ป่น
ความคิดเห็น