คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : #HappyHeechulDay 2014 .. Fic สั้น HanChul ตอนเดียวจบ
= ฮีชอล = by Heechul เลิฟเวอร์
“ภายใต้ฟ้าเดียวกัน ถึงจะอยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้า
แค่ได้มองจันทร์ดวงเดียวกัน ก็เหมือนว่าฉันมีเธออยู่ใกล้ๆ ”
มันก็แค่นิทานหลอกเด็ก คำพูดสวยหรูโรแมนติกที่ปั้นแต่งขึ้นมา ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าการที่ต้องจากคนที่รักทั้งที่ยังรักเค้าอยู่เต็มหัวใจมันเจ็บปวดเจียนตายแค่ไหน เจ็บ....จนแทบหายใจไม่ออก เจ็บ...จนเหมือนร่างกายจะแตกสลายไปในอากาศ
ถ้าใช้สมองจดจำวันหนึ่งมันอาจจะเลือนลางแต่ถ้าใช้หัวใจจดจำ มันจะหยั่งรากลึกลงจนไม่สามารถถอนออกไปได้เลย แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนตาม เหมือนที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้
“ฮันคยอง” ของขวัญจากพระเจ้าของผม เด็กเทรนที่ผ่านการออดิชั่นมาจากประเทศจีนตัดสินใจจากบ้านเกิดมาตามหาความฝันที่โซล เกาหลีใต้ วัฒนธรรมที่แตกต่างระหว่างเกาหลีกับจีนทำให้ฮันคยองใช้ชีวิตอยู่ในโซลอย่างยากลำบาก ด้วยต้นทุนชีวิตที่ไม่ได้สูงมากนักทำให้ต้องอดทนอยู่ห้องพักแคบๆสภาพโทรมๆ ความเป็นอยู่ที่ไม่ต่างอะไรจากชนชั้นแรงงาน กว่าจะได้ย้ายมาอยู่อพาร์ตเม้นท์เดียวกันกับผม
ด้วยวัยที่ใกล้เคียงทำให้เราสนิทกันได้ง่าย “คิม ฮีชอล” ผู้ชายหน้าสวยอารมณ์ร้ายที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่ฮันคยองก็ก้าวข้ามกำแพงอารมณ์ของผมเข้ามาได้ เขาสลายกำแพงของผมด้วยความอบอุ่น อ่อนโยน อย่างที่ผมไม่เคยได้รับจากผู้ชายคนไหน
ท่าทีที่เหมือนจะโอนอ่อนผ่อนตามแต่ใครจะรู้เลยว่าในความเป็นจริงฮันคยองแทบจะไม่ยอมลงให้ผมเลยด้วยซ้ำ คนคนเดียวที่ผมยอม คนคนเดียวที่กล้าต่อกรกับผม ผมไม่รู้ว่าไมต้องยอมให้กับฮันคยอง แววตาใสซื่อที่ใครๆบอกนั้นแท้จริงมันแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมอันแพรวพราว “ถ้าเขาไม่อยากทำ เขาก็จะทำเป็นฟังภาษาเกาหลีไม่รู้เรื่อง” นั่นละฮันคยอง
ชีวิตในช่วงเป็นเด็กเทรนถึงจะลำบากแต่มันก็เต็มไปด้วยความสุข พวกเราเรียน ซ้อม เต้น เล่น กิน นอนด้วยกัน สายสัมพันธ์ของเรามันยังเชื่อมโยงไปถึงสัตว์เลี้ยงของพวกเราด้วยแมวของผมกับหมาของฮันคยอง และพวกมันก็ไม่ต่างจากเรา ถึงแม้แมวของผมจะแสบซ่าแค่ไหนสุดท้ายมันก็ต้องลงให้กับหมาของฮันคยองอยู่ดี
ถึงจะได้เดบิวต์แล้วแต่ความยากลำบากของฮันคยองก็ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น ยังคงต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆในการขึ้นแสดง สถานีโทรทัศน์บางช่องไม่อนุญาติให้ฮันคยองขึ้นแสดงเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับ VISA ในช่วงแรกฮันคยองสามารถปรากฏตัวได้แค่ 3 ช่องสถานีเท่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นและพลังอันเต็มเปี่ยมเขาถึงกับขอร้องผู้จัดการโดยยอมที่จะใส่หน้ากากขึ้นแสดงบนเวทีเพียงเพื่อจะได้ทำการแสดงร่วมกับพวกผม พลังที่ฮันคยองแสดงออกมาทำให้ผมตัดสินใจดึงหน้ากากเขาออกระหว่างการแสดง ด้วยความอดทนและตั้งใจเขาสมควรจะได้เปล่งประกายอยู่บนเวทีไม่ใช่แค่การแสดงภายใต้หน้ากากแบบนั้น
นอกจากปัญหาในเรื่องการแสดงออกสื่อแล้วฮันคยองยังต้องผจญกับแฟนคลับจำนวนไม่น้อยที่ไม่ให้การต้อนรับเขา เสียงโห่ร้อง เสียงขับไล่ ที่เขาต้องทนได้ยินมัน ถึงผมจะใช้ความกล้าบ้าบิ่นที่มีจัดการบางส่วนไปได้บ้าง แต่ผมก็แค่ศิลปินหน้าใหม่มันเกินขอบเขตที่ผมจะพูดหรือทำเพื่อเขาได้ สิ่งที่ผมทำได้ก็คืออยู่เคียงข้างและให้กำลังใจให้เขาได้สู้ไปพร้อมกับพวกเรา
แต่ด้วยปัญหาหลายๆอย่างที่ถาโถมไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน ชนชาติ วัฒนธรรม ภาษา สุขภาพ หรืออะไรอีกหลายอย่างทำให้ฮันคยองตัดสินใจหันหลังให้กับความฝันในเกาหลีของเขา เลือกที่จะกลับไปสานฝันต่อที่บ้านเกิด ผมไม่เคยโกรธเคืองสิ่งที่ฮันคยองตัดสินใจ ผมรู้ว่ากว่าจะถึงวันนั้นฮันคยองคงคิดทบทวนมาอย่างดีแล้ว
แต่ละคนย่อมมีทางเดินเป็นของตัวเองผมไม่โทษที่ฮันคยองเลือกที่จะจากผมไปเพื่อตามหาความฝัน วันเวลาดีๆตลอดหลายปีที่ผ่านมายังอยู่ในใจผมเสมอ แม้จะต้องนอนหลับไปพร้อมกับหยาดน้ำตาในทุกค่ำคืนแต่ผมก็ยังสวดมนต์ภาวนาให้เขาพบเจอแต่สิ่งดีๆ รู้สึกยินดีกับทุกความก้าวหน้าถึงแม้จะต้องยิ้มทั้งน้ำก็ตาม
ในคืนที่พระจันทร์เกือบเต็มดวงส่องสว่างสุกใสแบบนี้ ถึงจะยืนมองจันทร์อยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกันมันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกใกล้กับคนที่อยู่ในหัวใจแบบที่ใครหลายคนบอกไว้ กลับรู้สึกได้ถึงเมฆหมอกที่บดบังแสงนวลของจันทร์จนกลายเป็นพระจันทร์สีน้ำเงิน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะครบรอบวันเกิดของผมแล้ว ผมรู้ว่าฮันคยองมีถ่ายละครที่เกาหลีในช่วงนี้ มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวมากไปไหม ถ้าผมอยากจะไปปรากฏตัวให้เขาเห็น “สักครั้ง”
แค่ได้ใช้เพียงเศษเสี้ยวเวลาอยู่ด้วยกันก็ยังดี ไม่เคยอ้อนวอนขอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ขอแค่ได้เจอกันอีกครั้ง คำเดียวที่อยู่ในใจแต่ไม่เคยพูดออกไปให้ได้ยิน วันนี้ผมจะเอ่ยมัน
“...... ผม รัก คุณ ฮันคยอง....”
.
.
.
.
= ฮันคยอง = by เมายา
“แม้ต้องห่างไกลกันสุดสายตา แต่ใต้แผ่นฟ้าผืนเดียวกัน
เมฆหมอกของเงาพระจันทร์จะโอบกอด รักเอาไว้ไม่เคยห่างหาย”
มันอาจจะฟังเหมือนนิทานหลอกเด็ก แต่ทุกครั้งที่ผมมองพระจันทร์ ความรู้สึกอบอุ่นยังคงโอบกอดผมเอาไว้ และเมื่อหลับตาภาพของใบหน้างดงามนั้นก็ยังอิ่มเอมอยู่เต็มหัวใจ เพราะพระจันทร์ดวงนี้เป็นดวงเดียวกับที่ ฮีชอลของผมก็จะมองเห็นมันด้วยเช่นกัน แม้ระยะทางจะห่างไกลแต่เราก็สบตากันได้ ใต้เงาพระจันทร์
ความรักความผูกพันธ์ ระหว่างเรานั้นฝังรากหยั่งลึกลงในความทรงจำ ในสมอง ในหัวใจ ทุกภาพ ทุกสัมผัส ไม่เคยเลือนหาย ที่พักของผมในปักกิ่ง ภาพถ่ายของพวกเรา ซุปเปอร์จูเนียร์ ทั้ง 13 คน เหมือนทุกอย่างถูกหยุดเอาไว้แม้กาลเวลา จะผ่านไป พวกเราคือกลุ่ม ไอดอลของเกาหลีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
“คิม ฮีชอล” ซินเดอเรลล่า เจ้าหญิง นางพญา ดอกไม้ ดาราแห่งจักรวาล สำหรับเด็กเทรนที่ถูกคัดเลือกจากต่างแดนอย่างผม ฮีชอลคือเพื่อน คือคนรัก คือทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทำให้วันเวลาที่ยากลำบาก ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ความแตกต่างของ วัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ กฎระเบียบ ความคุ้นชินต่อสภาพแวดล้อมต่างๆที่เป็นไป มันก็ยากที่จะอธิบายให้ใครๆได้เข้าใจ มันไม่ใช่เพียงการตามหาความฝัน แต่การมาเป็นเด็กเทรนของ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เป็นทางรอดเดียวสำหรับผมและครอบครัว เมื่อแผ่นดินจีนนั้นกว้างใหญ่เกินไป จนดาวดวงเล็กๆ แม้จะขับแสงให้เปล่งประกายจนหมดกำลัง ก็แทบไม่เป็นที่สนใจ ...ใครจะเชื่อว่า แม้แต่นักยิมนาสติกเหรียญทองโอลิมปิกที่ควรเป็นวีรบุรุษของชาติ ทุกวันนี้กลับกลายเป็น ขอทาน ข้างถนน ที่ถูกลืมเลือน.. หอพักเก่าแคบๆ สภาพทรุดโทรม มันคงดูย่ำแย่มากแต่สำหรับผม เพียงแค่ได้มีหลังคาคุ้มหัว มีที่นอน มีห้องน้ำที่ไม่ต้องใช้รวมกับคนเป็นร้อย เท่านี้ก็สะดวกสบายมากมายเหลือเกินแล้ว และเมื่อได้ย้ายมาอยู่อพาร์ตเม้นท์เดียวกันกับ เจ้าหญิงของผม นั้นก็ไม่ต่างจากการได้ขึ้นสวรรค์ทั้งที่ยังมีชีวิตเลยทีเดียว
ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันทำให้เราสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆ “หานเกิง” ชายหนุ่มจากแดนไกลที่ไม่มีใครอยากคบหา แต่ คิมฮีชอล ก็ก้าวเข้ามาเป็น ความร่าเริงสดใสในชีวิต เขาทำลายความเหงา เหนื่อยล้าของผม ด้วยมิตรภาพ ความอบอุ่น อย่างที่ผมไม่คิดว่าจะได้รับจากใครๆ
ท่าทีที่ไม่ยอมใคร โมโหร้าย และเจ้าคิดเจ้าแค้น เหวี่ยงวีน เอาเรื่องใครต่อใครไม่พอใจไปซะหมด แต่ใครจะรู้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ฮีชอล อ่อนโยน แคร์ความรู้สึกของทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นน้องๆในวง พี่ๆเพื่อนๆที่ร่วมงานในบริษัท เหล่าครูฝึก และ เมเนเจอร์ทุกคน และที่สำคัญที่สุด คือ E.L.F เหล่า EverLasting Friend ของพวกเรา
ชีวิตในช่วงเป็นเด็กเทรนถึงจะลำบากแต่มันก็เต็มไปด้วยความสุข พวกเราเรียน ซ้อม เต้น เล่น กิน นอนด้วยกัน สายสัมพันธ์ของเรามันยังเชื่อมโยงไปถึงสัตว์เลี้ยงของพวกเรา มันเป็นเรื่องที่หยาบคายมากสำหรับคนจีน ที่ถูกเอาชื่อไปตั้งให้เป็นชื่อสัตว์เลี้ยง “ฮันเจย์ฮีบอม” เจ้าแมวตัวแสบ แต่สำหรับคนเกาหลีมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยและมักจะทำแบบนั้นเมื่อ เรารักใครสักคน..... งั้นฮีชอลก็ รักผม มากพอที่จะเอาชื่อของผม ตั้งให้แมวตัวแสบนี้ แต่ไม่ได้มีชื่อของผมคนเดียวน่ะซิ... -3-
ประเทศเกาหลีมีระบบการรับแรงงานต่างชาติ 2 ระบบ คือ
1.ระบบการฝึกงาน (Training System) ซึ่งคนงาน ทำงานในฐานะผู้ฝึกงาน จะได้รับค่าจ้าง ต่ำกว่า อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ไม่ต่ำกว่า เดือนละ 567,260 วอน) โดยนายจ้างจัดอาหารและที่พักให้
2.ระบบใบอนุญาตทำงาน (Work Permit System) กระทรวงแรงงานเกาหลีคัดเลือกให้ 6 ประเทศ มีสิทธิจัดส่งคนหางานไปทำงานตามโครงการอนุญาตการจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System: EPS) ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และมองโกเลีย
ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ผมมาเป็นเด็กเทรนด้วย ระบบที่ 1 Training System แถมด้วยการที่ต้องผ่านนายหน้าหรือเรียกว่าตัวแทนจัดหางาน นั้นทำให้ผมต้องเข้าทดสอบประเมินความสามารถในการทำงานของกระทรวงแรงงานเกาหลีในทุกๆปี อีกด้วย
การได้มาซึ่งชื่อเสียง หลายครั้งอาจจะไม่จำเป็นต้องมี ข่าวดี ... ข่าวร้ายๆบางเรื่องก็เป็นจุดสนใจให้เกิดชื่อเสียงได้ เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอ ...การที่ผม ถูกจำกัดไม่ให้ออกโทรทัศน์บางช่องในตอนนั้น จนต้องใส่หน้ากากขึ้นเวที มองในอีกมุม ผมกลายเป็นที่จดจำ และจับตามองมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว แต่นั้นก็ต้องแลกกับ ชื่อเสียงร้ายๆของฮีชอล และการขโมยซีนถ่ายทอดจากเสียงหลักของวง ..การเสียสละของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มันทำให้ผมมีกำลังใจที่จะก้าวเดินสู่ความสำเร็จร่วมกับ SJ ทั้ง 13 คน ความรักความผูกพันธ์ที่พวกเราฟันฝ่าอุปสรรคมากมายมาด้วยกัน ยึดเกลียวพวกเราเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ฮีชอลกับผม มีความฝันและถูกฝึกฝนที่จะก้าวเข้าสู่ การเป็นนักแสดง แต่แล้วปัญหาทางกฎหมายมากมายก็ขัดขวางเอาไว้ เพียงการได้ฝึกซ้อม ต่อบทละคร และเห็นฮีชอลได้เดินตามความฝัน ผมก็มีความสุขอย่างมาก หรือผมจะเลิกล้มการเป็นนักแสดงกลับมาเป็นเพียงนักร้อง นักเต้น เท่านั้น แต่ก็เป็น คิม ฮีชอลอีกเช่นเคยที่คอยให้กำลังใจผมอยู่ตลอดเวลา
และเมื่อโอกาสครั้งสำคัญมาถึง วันเวลาที่ผมต้องเลือก ต้องตัดสินใจเพื่อกลับสู่ความฝันของการเป็นนักแสดงอีกครั้ง ยังแผ่นดินบ้านเกิด ที่วงการ K-pop จุดคบเพลิงให้ดาวดวงเล็กๆนี้ได้เป็นที่ จดจำ ในแผ่นดินกว้างใหญ่ของประเทศจีน .... แต่มันก็นำความเจ็บปวดอย่างมากมายมาสู่ แฟนคลับ และ พี่น้องSJ ที่รักของผมด้วย โดยเฉพาะ ฮีชอล แม้ภายนอกจะดูเข้มแข็ง แต่ผมก็รู้ว่าฮีชอล เสียใจที่เราต้อง จากกัน ผมรู้ว่าเขาต้องร้องไห้ในทุกๆคืนที่ไม่มีผมอยู่เคียงข้าง แต่เขาก็จะยินดีและมีความสุขที่จะได้เห็น ผมทำตามความฝันและประสบความสำเร็จในที่สุด
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะครบรอบวันเกิดของฮีชอลแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่ผมสามารถกลับมายืนบนแผ่นดินผืนเดียวกันกับฮีชอลได้อีกครั้ง ในคืนพระจันทร์เกือบเต็มดวงที่แสงสว่างสุกใสแบบนี้ ฮีชอลจะรับรู้ถึงการมาของผมรึป่าวนะ ใบหน้า สวยหวาน แม้จะ ออกจากกรมทหารผ่านการฝึกหนักตากลมตากแดด แต่ความงดงามของฮีชอลก็ไม่ได้จางหาย หรือ ลดน้อยลงไปเลย... มันต้องเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกแน่ๆ ถ้าการมาหาของผม ถูกจับได้โดยสื่อมวลชนทั้งหลาย หรือแม้แต่กับแฟนคลับก็ตาม .... แค่ภาพข่าว ที่ผมได้พบกับ ชีวอนในงานวันเกิดของ คุณเฉินหลง นั้นก็เป็นการส่งสัญญาณบอกแก่ แฟนคลับทุกคนชัดเจนอยู่แล้วว่า แท้ที่จริงนั้น พวกเรา SJ ไม่เคย ขาดการติดต่อจากกันเลย ไม่เคย และไม่มีวันที่ความรักความผูกพันธ์ของเราจะเสื่อมคลายไป..และสิ่งที่แฟนคลับไม่รู้ ผมกับชีวอน นัดแนะกันเพื่อ เซอร์ไพรซ์ วันเกิดให้ ฮีชอล ....
ในหอพักแห่งใหม่ของ SJ ผมแอบเข้ามาทำอาหารเหมือนอย่างที่ฮีชอลชอบ รวมถึง ทำซุปสาหร่ายอวยพรวันเกิด ให้ฮีชอลอีกด้วย แม้ภาพถ่ายที่เผยแพร่ใน IG จะมีเพียงกอนฮี แต่ด้านหลังนั้นมีผมอยู่ไม่ห่างเลย.. แล้วคำรักที่ฮีชอลเอื้อนเอ่ย ก็ ไม่ต่างจาก คำที่ผมจะพูด
“...... ผม รัก คุณ ฮีชอล....”
.................................................................
= END =
โปรเจคร่วมฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิด คิมฮีชอล
ของ 2 นักแต่งนิยาย แฟนฟิคมือใหม่
Heechul เลิฟเวอร์ VS เมายา
ความคิดเห็น