ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดินแดนเลือดสาดบ้าบอ

    ลำดับตอนที่ #4 : สมาชิก (?) เพื่อน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 56


     

    4
    สมาชิก (?) เพื่อน



    โอเคผมจะเล่าข้ามละนะ ผมจะเล่าข้ามเรื่องที่ผมเข้าผิดห้อง เรื่องที่ผมพยายามแอบมองเข้าห้องนักเรียนอื่นๆ และมาเล่าต่อตอนที่ผมถึงห้องเรียนของตัวเอง

    คุณแดนนี่ แม็กเคลเวอร์วันแรกของโรงเรียนก็มาสายแล้วนะคะ อาจารย์ตัวสูงใหญ่บึกบึนแต่กลับแต่งชุดหญิงทักผมด้วยสายตาดุๆ อ้า ทำไมมาตัวเปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำขนาดนี่ล่ะคะ ทุกคนในห้องหัวเราะพรืดอย่างสบายอารมณ์ พวกเขามองมาที่ผมอย่างตื่นเต้น

    ขอโทษครับ พอดีนกยักษ์มันทำพิษน่ะครับอีกครั้งที่ทั้งห้องปล่อยก๊ากออกมา

    ครูไม่อยากฟังคำแก้ตัวงี่เง่าๆนะแดนนี่ เอาล่ะแดนนี่แนะนำตัวซะซิ รวมถึงเรื่องพลังของตัวเองด้วย คำว่าพลังแทบทำให้ผมสะอึก ผมยังไม่รู้ซะด้วยซ้ำพลังของตัวเองคืออะไร นักเรียนทั้งห้องมองมาที่ผมอย่างใคร่รู้ มันทำให้ผมกังวลยิ่งกว่าเดิมอีกสองเท่าตัว

    หวัดดี ฉันชื่อแดนนี่ แดนนี่แม็กเคลอเวอร์อายุสิบหกปีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ผมทำท่าจะจบแค่นั่นแต่ครูบึกบึนกลับส่งสายตามาให้ผม เพื่อย้ำให้ผมแนะนำเรื่องพลัง ตอนนี่ผมยังไม่สามารถปลุกพลังตัวเองได้ทีครับ คำกล่าวสั้นๆของผมเรียกเสียงฮือฮาทันที ทุกคนมองผมด้วยสายตาผิดหวังก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่เห็นหัวของผม อาจารย์บึกบึนมองมาที่ผมอย่าสงสารและเอ่ย

    ไปนั้งได้แล้ว

    ครับ ผมเริ่มรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมาทันที ทำไมผมยังไม่สามารถปลุกพลังตัวเองได้นะ นี่ถ้าอาทิตย์นี่จบไปแล้วผมคงโดนฆ่าไปไม่ต่ำกว่าร้อบรอบแล้วแน่ๆ

    เอาล่ะวิชานี่เดิมคือวิชาฝึกใช้และปลุกพลังของตัวเองอย่างน้อยก็สำหรับเด็กมาใหม่... แต่ตอนนี่ทางโรงเรียนนั่นได้เปลี่ยนนโยบายเป็นการส่งนักเรียนออกไปทำภารกิจในที่ต่างๆเพื่อฝึกเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองเหมือนนักเรียนคนอื่นๆในโรงเรียน

    ครูจะให้เวลาทั้งคาบนี่ออกไปหาสมาชิกในทีมของตัวเองที่ห้ามมากกว่าสี่คน... จะเป็นใครก็ได้แต่มีข้อแม้ว่าพวกเขาต้องเป็นนักเรียนของโรงเรียน... และท้ายที่สุดครูขอแนะนำให้หาสมาชิกเป็นพวกพลังแข็งแกร่งเพื่อพึ่งพาในภารกิจอันตรายต่างๆที่เราจะมอบหมายให้...... ไปได้ครูบึกบึนออกปากไล่เด็กนักเรียนที่พากันพรวดพราดออกมาจากห้องเรียนเหมือนกระแสน้ำ นักเรียนบางคนถึงขั้นต่อยกันเพื่อจะออกจากห้องก่อน (แม้มันจะชะลอพวกเขาทั้งคู่ก็ตาม)

    ผมเองก็อยากจะหาสมาชิกทีมเก่งๆเพื่อพึ่งพานะแต่ผมเป็นแค่คนอ่อนแออยู่ (อย่างน้อยก็แค่ตอนนี่เชอะ) ผมเกรงว่าจะไม่มีคนรับคนอ่อนแออย่างผมเข้าไปในกลุ่ม พูดแล้วยิ่งสมเพชตัวเองยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

    แดนนี่ นายไม่ออกไปหาสมาชิกทีมหรอ ครูบึกบึนถามผมซึ่งยังคงนั้งอยู่นิ่งๆในห้องเรียนขณะที่นักเรียนคนอื่นๆพยายามไปห้องอื่นๆและตึกอื่นๆเพื่อหาสมาชิกแข่งแกร่งก่อตั้งกลุ่มของตัวเอง

    ไม่ล่ะ ผมยังปลุกพลังตัวเองไม่ได้เลยเรื่องอะไรใครจะเอาผมเข้ากลุ่มล่ะ ผมเบื่อนหน้าหนีจากครูบึกบึนและมองออกจากหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

    นายก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ซิ ครูบึกบึนให้กำลังใจผม (หรือเปล่านะ)

    ยังไงล่ะครับ ผมไม่ได้ฉลาด ผมไม่มีพลังพิเศษอย่างน้อยก็ตอนนี่ และผมเองก็ทำอาหารหรือรักษาบาดแผลคนไม่ได้ด้วย (รู้สึกต่ำต้อยเว่อร์ๆ)

    ลองออกไปหาสมาชิกทีมหรือยังล่ะ ครูถาม

    ยังครับ และผมไม่คิดจะออกไปด้วย

    ครูบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าในภารกิจมีนักเรียนบาดเจ็บกันมากมายถึงขั้นสลบกลายเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายนิทรายังมีเลย ถ้าไม่หาสมาชิกทีมเก่งๆระวังตายเอานะ

    ผมก็ตายอยู่แล้วนี่ ผมพูดประชด ครูบึกบึนถอนหายใจและเหมือนจะระความพยายามที่จะให้กำลังใจผม ครูเดินกลับไปนั้งบนเก้าอี้ของครูดั่งเดิม ผมหลับตาลงและตั้งท่าจะหลับ ตอนนี่เหมือนผมจะเริ่มฝันอะไรแปลกๆอีกแล้ว มันเป็นฝันที่เหมือนจริงมาก ความรู้สึกเหมือนวิญญานผมลอยออกจากร่าง ผมมองเห็นโต๊ะเรียนและตัวผมซึ่งกำลังฟุบหน้านอนอยู่บนโต๊ะ บวกกับหน้าห้องที่มีครูบึกบึนนั้งอ่านหนังสืออยู่อย่างสบายอารมณ์อยู่

    จะให้ผมฝันก็ขอให้เป็นเรื่องอื่นทีได้ไหม? ผมปลงกับความฝันตัวเองและลอยนิ่งๆเหมือนผีเร่ร่อน ทันใดนั่น เสียงระเบิดก็ดังสนั่นขึ้นมา เสียงและแสงของมันแทบจะกลืนกินวิญญาณของผมเข้าไป ดวงตาของผมนั่นถูกทำให้บอดชั่วคราวจากแสงของระเบิด

    ทันทีที่ดวงตาทั้งสองข้างของผมกลับมากระจ่างอีกครั้ง ทั้งห้องไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ กระดานดำ หรือแม้กระทั่งร่างของผมกับครูก็เหลือแต่เศษ เลือดของผมและครูบึกบึนเลอะทั่วทั้งห้องเรียนซึ่งพังอย่างไม่เป็นท่า เศษสมองและเนื้อเยื้อบางส่วนของผมลอยไปติดเพดาน หัวของผมที่ไม่ได้ติดอยู่กับร่างกระเด็นไปถึงหน้าห้อง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าผมมันน่าสะเอียดสะเอียน มันทำผมคลื่นไส้จนแทบจะอ้วกออกมา

    ผมลืมตาโพล่งขึ้นมาทันทีและตื่นขึ้นมาจากฝันกลางวันที่แสนจะน่าเกลียดนั่น

    ครูบึกบึนมานี่กับผมหน่อย ผมลุกขึ้นมาและเรียกครูบึกบึนให้เดินออกจากห้องนั่นพร้อมกับผมและผมไม่ลืมที่จะคว้าเป้ของผมมาด้วย

    ครูเป็นสมาชิกทีมของแดนนี่ไม่ได้นะ ครูแย้งด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของผมซึ่งผมกำลังลากครูออกมาจากห้องเรียน

    ผมรู้แต่ครูตามผมมาเถอะหน่า ผมจ้ำขาอาดๆเดินไกลออกมาจากห้องพอสมควร ผมหันกลับไปมองห้องเรียนที่ยังคงอยู่ในสภาพปกติไร้สิ่งชำรุดแต่อย่างใด

    ตกลงมีอะไรกันหือ? อาจารย์ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ สิ้นเสียงคำพูดของครูเสียงระเบิดเหมือนในฝันของผมก็บังเกิดขึ้น ประตูและผนังของห้องถูกระเบิดกระจุยกลายเป็นผุยเป็นผง แรงระเบิดทำให้ผมต้องถอยหลังออกมาสองสามก้าว ครูบึกบึนหน้าซี้ดเผือดมองห้องที่เละกลายเป็นเศษขยะอย่างตกใจ

    ... ผมไม่ต้องพูดอะไรให้มากกว่านี่อีกแล้ว ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่อย่างน้อยผมกับอาจารย์ก็ยังไม่ตาย

    แดนนี่ นายรู้ไดยังไง ครูที่เพิ่งตั้งสติได้หันหน้าลงมาถามผม

    ลางสังหรณ์ล่ะมั้ง ผมเปรยอย่างผ่านๆ หวังจะเบี่ยงเบนประเด็นที่ผมไม่สามรถตอบได้ ผมคงต้องไปหาสมาชิกทีมแล้วจริงๆ ผมเดินออกห่างจากอาจารย์ก่อนจะเปิดหน้าต่างใกล้ๆและปีนลงจากตึกสูงสามชั้น (ทำไมไม่ใช้บันได้ล่ะจ้ะอีหนู?)

    แดนนี่ นายอาจจะมีพลังพยากรณ์ก็ได้นะ พลังที่หายสาบสูญไปนานแล้ว นายอาจจะกลับมาพร้อมพลังนั่นก็ได้นะ ครูบึกบึนตะโกนใส่ผมที่ปีนลงมาจนถึงพื้นแล้ว ผมหันขึ้นส่งยิ้มให้ครูก่อนจะวิ่งไปที่ตึกพีซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากตึกคิวนัก

    ผมเดินเข้ามาในตึกพีซึ่งมีคนจากห้องผมและคนจากห้องในตึกคิวมากมายพยายามหาสมาชิกกันอย่างเร่งรีบ บ้างถึงกับใช้พลังขอตัวเองให้พวกพลังแข็งแกร่งดูเผื่อจะทำให้พวกเขาประทับใจขึ้นมา

    นายนั่นมีพลังอะไร ผู้หญิงผมบลอนด์ยาวและตาสีฟ้าชี้มาที่ผมและถามเกี่ยวกับพลังของผม เธอดูเหมือนลูกคุณหนูจากตระกูลชื่อดังที่มีพลังอันแข็งแกร่งเหมือนในนิยายเลยแฮะ หรือว่าเธอคือเนื่อคู่ของผมกัน (นอกเรื่องแล้วนาย)

    ยังหาไม่เจอครับ ผมตอบไปด้วยความระวังและก้มหัวเป็นการให้เกียรติเธอที่มาถามผู้มาใหม่อย่างผม

    งั้นไปไกลๆเลย ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับพวกอ่อนแออย่างนาย เธอทำมือชิ่วๆและไล่ผมออกห่างพลางเดินออกห่างจากผมที่ยังคงยืนอึ้งอยู่ ความโกรธเคืองกำลังก่อตั้งขึ้นในใจของผมอย่างรวดเร็ว ให้ตายซิทำไมมารยาทต่ำได้ขนาดนี่กันนะ...

    มันเป็นอีกครั้งที่ผมเห็นภาพแปลกๆที่โผล่เข้ามาในสมองของผมตอนที่ผมอยู่ห้องเรียน ถ้าจะแตกต่างก็ตรงที่มันชัดเจนยิ่งขึ้นและผมไม่ได้หลับตาฝันอยู่ มันเหมือนภาพซ้อนภาพมากกว่า

    บรรยกาศที่เสียงดังและเร่งรีบได้หายสาบสูญทิ้งไว้เพียงแต่ความเงียบงันและผู้คนที่ขยับช้าลงเรื่อยๆ ภาพของสาวบลอนด์คนนั่นลุกไฟขึ้นมาอย่างไม่มีคำบอกกล่าว เธอกรีดร้องอย่างโหยหวนระบายความเจ็บปวดที่เธอได้รับ เธอล้มคุกเข่าลงไปกับพื้นด้วยใบหน้าอาบน้ำตาที่คงจะระเหยภายในไม่ช้าจากความร้อนของไฟที่แผดเผาเธอก่อนที่ผมจะพยายามวิ่งไปช่วยเธอภาพนั่นก็หายไปกลับมาเป็นภาพของเด็กนักเรียนที่พยายามหาสมาชิกตามเดิม

    เสียงกรีดร้องอันคุ้นหูจากภาพเมื่อกี้ที่ผมเห็นดังกึกก้องไปทั่ว ร่างของสาวบลอนด์นั่นไฟลุกอย่างเต็มที่ ความร้อนระอุทำให้นักเรียนรอบกายเธอวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมา เธอกรีดร้องขอความช่วยเหลือและล้มลงไปกับพื้นตามภาพที่ผมเห็น ผมรีบตั้งสติและตะโกนออกไปว่า

    ใครที่มีพลังน้ำดับไฟนั่นที และเหมือนเสียงตะโกนของผมจะเรียกสติของคนหลายคนกลับมา ผู้ควบคุมน้ำที่บังเอิญอยู่ตรงนั่นพอดีสร้างน้ำก้อนใหญ่และดับไฟกันยกใหญ่ พวกเขาเสกข์น้ำก้อนเท่าช้างตัวหนึ่ง มันลอยเหนือหัวของสาวบลอนด์ที่กำลังกรีดร้องนั่น และทันทีที่ผู้ควบคุมน้ำปล่อยมันลงมา ไฟที่ลุกไหม้อยู่ก็ดับไปทันตาเห็น ทันทีที่ไฟนั่นดับร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลผุพองก็ล้มลงกับพื้น หมดสติจากความเจ็บปวดนั่นไป

    เสียงดังโหวกเหวกอะไรกัน เสียงกวนๆของแมกซ์ดังขึ้นจากข้างหลังกลุ่มนักเรียนที่มุงดูกันอยู่ เขาเดินแหวกกลุ่มคนเข้ามาดู อ่าว เริ่มฆ่ากันแล้วหรอ ใครเป็นคนโจมตีคนๆนี่ออกมาเดี๋ยวนี่!! ตามกฏแล้วก่อนจะฆ่าคนต้องส่งสาสน์ดวลเป็นการบอกล่วงหน้าว่าจะโจมตีถึงแม้อีกฝ่ายจะปฏิเสธไม่ได้ก็ต้องบอกก่อน ไม่งั้นอาจารย์จะวาปร่างนักเรียนเกือบตายไปทันงั้นเรอะ แมกซ์สบถ (ยาวมาก) ออกมาอย่างหงุดหงิดและเดินไปยังสาวบลอนด์นั่นก่อนจะคว้าเอาบัตรนักเรียนในกระเป๋ากระโปรงของเธอคนนั่นและเอาขึ้นประชิดปากและกล่าวออกไปว่า ข้าในนามแห่งแมกซ์ผู้มีพลังรักษา ขอให้ข้าได้ทำให้เจ้ากลับเป็นดั่งเดิมให้กลายเป็นหญิงสาวสุขภาพแข็งแรง และข้าในนามแห่งแมกซ์ผู้รักษาจะเอาค่ารักษาเท่ากับสี่พันแต้ม แมกซ์เอาบัตรตัวเองออกมาทาบไว้กับบัตรของหญิงสาวบลอนด์นั่นและดึงมันออกมา (เอาหน่าผมเองก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นอยู่)

    เขาทาบมือไว้บนหน้าผากของเธอคนนั่นและทันใดนั่นแสงสีเหลืองอ่อนโยนก็แผ่ซ่านออกมา แผลเหวอหวะของหญิงสาวเริ่มหายไปทีละนิดอย่างช้าๆ ผิวสีน้ำตาลไหม้ของเธอค่อยๆแปรสภาพกลับเป็นผิวสีขาวอมชมพูดั่งเดิม

    ไม่น่าเชื่อพลังรักษามันจะทำได้ขนาดนี่...

    ตอนนี่ร่างของสาวบลอนด์ได้กลับเป็นเหมือนเดิมแถมไมมีรอยแผลเป็นเลยซะด้วยซ้ำ แมกซ์ลุกขึ้นมาและปาดเหงื่อของตัวเองและเหมือนจะเพิ่งสังเกตผม

    โอ้วไงแดนนี่ เป็นไงฉันเท่ไปเลยใช่ไหมล่ะ แมกซ์ปล่อยให้หญิงบลอนด์คนนั่นนอนบนพื้นและเดินมาหาผมอย่างเริงร่า..

    นายเพิ่งปล้นสี่พันแต้มจากผู้หญิงคนนั่นชัดๆ ผมเบะปากด้วยความหงุดหงิด ทำไมแมกซ์ถึงมีพลังแข็งแกร่งขนาดนั่นในขณะที่ผมยังเป็นแค่ผมด้วยล่ะ

    ถ้าฉันไม่ช่วยเธอเขาก็ตายได้นะ... ดูจากลอยแผลแล้วไฟนั่นเป็นไฟที่แข็งแกร่งเอาพอสมควรเลยล่ะ... การฆ่าคนด้วยวิธีนี่ผิดกฏโรงเรียนชัดๆ แมกซ์เหล่ตาไปมองสาวบลอนด์คนนั่นที่นอนสลบบนพื้นไม่รู้เรื่อง ใครก็ได้หามยัยนี่ไปห้องนอนของเธอที เธอคงหมดสติไปอีกสักสองสามวันได้มั้ง แต่ไม่ต้องห่วงฉันรักษาไว้แล้ว เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว ว่าแล้วหญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของสาวบลอนด์คนนั่นก็พากันยกเธอกลับเข้าหออย่างถนุถนอม

    นายกำลังเบี่ยงเบนประเด็นนะ ผมมองไปที่แมกซ์อย่างจับผิด

    เรื่องนั่นช่างเถอะ... นายเห็นเมื่อกี้ที่ฉันพูดเรื่องข้าในนามอะไรนั่นแล้วใช่ไหม ผมพยักหน้าตอบ ฉันได้รับสิทธิ์นี่เป็นพิเศษ... มันเป็นคล้ายๆโค้ดลับเฉพาะตัวเพื่อเอาแต้มของคนอื่นมาระหว่างที่ฉันรักษาเขาไงล่ะ

    แล้วถ้านายโกงขึ้นมาล่ะ

    ก็โกงไปแล้วไงจะให้ทำอะไรล่ะ... อีกอย่างฉันไม่โกงหรอกเฟ้ย... ดูนี่ แมกซ์ยื่นบัตรตัวเองออกมาให้ผมดู มันจะใช้เวลาสักครู่ก่อนที่แต้มบนบัตรนักเรียนนายจะเพิ่ม ดูนี่นะอีกประเดี๋ยวบัตรนี่จะส่งเสียงและแต้มของฉันจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนสี่พันแต้ม และอย่างที่แมกซ์พูดบัตรนักเรียนของเขาส่งเสียงออกมาและแต้มของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกสี่พัน แจ๋มเลยใช่ไหม

    ก็นิดๆอ่านะ ผมทำเหมือนมันไม่ค่อยน่าตื่นเต้นซะเท่าไหร่แต่จริงๆแล้วมันเท่มากเลย ที่โลกมนุษย์ไม่มีบัตรนักเรียนที่ทำได้ถึงขนาดนี่หรอก มันไม่สามารแลกเปลี่ยนแต้มกันได้ มันไม่สามารถตรวจจับเสียงคนได้ ให้ตายเหอะ โลกนี่มันเว่อร์จริงๆ ผมเปิดเป้ตัวเองและเอาบัตรนักเรียนออกมาดู... ร้อยแต้ม... ตอนนี่ผมมีแค่ร้อยแต้มเพื่อประทังชีวิตในรั้วโรงเรียน แค่ร้อยแต้มเนี่ยน้ะ?

    จู่ๆบัตรของผมก็ส่งเสียงเดียวกันกับบัตรของแมกซ์ แต้มบนบัตรผมเพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราดจากร้อยแต้มกลายเป็นสองร้อยยี่สิบแต้ม ผมตกใจจนแทบจะทิ้งบัตรลงกับพื้น

    แดนนี่ทำไมแต้มของนายเพิ่มขึ้น...?

    ฉันไม่รู้ ผมตอบอย่างงงวย ผมพลิกบัตรนักเรียนที่มีรูปภาพของผมและข้อมูลเบื้องต้นของผมเขียนไว้อยู่เพื่อจะพยายามหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงเพิ่ม ผมกลับหาไม่พบสาเหตุที่ทำให้แต้มของผมจู่ๆก็เพิ่มขึ้นกะทันหันอย่างนั่น แมกซ์ชิงบัตรไปจากมือผมก่อนจะพิจราณามันอย่างเคร่งเครียด

    หรือว่า... เมื่อกี้ฝีมือนาย... ฝีมือนายหรอเมื่อกี้ที่ฆ่าแม่สาวบลอนด์นั่น ผมส่ายหน้าหงึกๆเป็นการตอบ ถึงผมจะเห็นภาพนั่นล่วงหน้าแต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะเป็นคนโจมตีสาวบลอนด์นั่นนะ

    ฉันเปล่าทำ...จริงๆนะ แมกซ์ถอนหายใจออกมาและทำหน้าประมาณว่า ก็จริงฉันสงสัยนายได้ยังไง เรื่องนั่นค่อยว่ากันอีกที แมกซ์นายมาทำอะไรที่นี่ ผมตวัดสายตามองคนที่มองเราสองคนเป็นตาเดียว มองอะไรกันหา ฉันเปล่าขี้อยู่โว้ย มองอะไรกันนักกันหนา

    ฉันรู้เรื่องภารกิจของพวกเด็กมาใหม่แล้วล่ะ... ฉันเลยอาสาจะเป็นทีมกับนายไงล่ะ ผมคงเป็นพวกโชคดีในโชคร้ายใช่ไหมล่ะเนี่ย คิดอยากได้สมาชิก สมาชิกก็มาหาผม (พยายามทำให้ตัวเองฟังดูดี)

    เอาซิ... แต่นายแน่ใจหรอจะเป็นสมาชิกกับฉันที่ยังหาพลังตัวเองไม่ได้

    คุยกับนายสนุกดีนี่นา อีกอย่างเพื่อนมีไว้เพื่ออะไรล่ะ ซึ้งเลยอ่ะเพื่อน

    จริงๆหรอ ผมทำหน้าซาบซึ้งให้กับแมกซ์

    แต่นายต้องจ่ายค่าอาหารและทุกอย่างนะ แมกซ์แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะตบไหล่ผมเป็นเชิงให้กำลังใจ (ล่ะมั้ง) หรือไม่ก็บอกให้ผมปลงกับมันซะเถอะ

    ฉันจนกว่านายอีกนะ อีกอย่างแต้มพวกนี่ใช้ได้แต่ในโรงเรียนเท่านั่น ผมค้านอย่างสุดความสามารถ ผมไม่คิดจะจ่ายค่าทุกอย่างให้เขาหรอกนะ ดูจากส่วนสูงแล้วหมอนี่กินเยอะชัวร์ๆ แถมยังดูเป็นคุณชายจากตระกูลเก่าแก่ แบบนี่ต้องทั้งกินจุและกินขอแพงแน่

    ทำงานซิ... และอีกอย่างแต้มสามารถแลกเป็นตังค์ของโลกนี่ได้ด้วยนะ มิน่าล่ะถึงมาหาผม ก่อนที่ผมจะได้ขัดแมกซ์อีกที มีชายแปลกหน้า (ที่คาดว่าน่าจะเป็นเด็กจากโรงเรียนนี่) เดินเข้ามาจับไหล่ของแมกซ์จากทางข้างหลัง แมกซ์หันหลังไปมองก็พบว่าคนที่มาจับเป็นชายร่างสูงพอๆกับแมกซ์ (ที่สูงกว่าผมค่อนข้างเยอะ) เขาคนนั่นมีผมกับดวงตาสีดำสนิทดั่งค่ำคืนอันมืดมิด ใบหน้าปราศจากอารมณ์ปานเจ้าชายน้ำแข็งแถมยังแผ่รังศีโหดร้ายออกมาด้วย แต่ต้องยอมรับว่าเขาจัดอยู่ในพวกหน้าตาดี (รวมถึงแมกซ์ด้วย)

    ข้างหลังของนักเรียนแปลกหน้ามีนักเรียนสาวหน้าคมคอยจับจ้องพวกเราทั้งสามด้วยสายตาปลาบปลื้ม ทันทีที่เธอสังเกตว่าผมจ้องเธออยู่เธอก็ฉีกยิ้มให้ผมอย่างสนิทสนม เธอมีรูปร่างสูงเพรียว ผมของเธอมัดเป็นหางม้ายาวถึงแผ่นหลังของเธอ เธอมีดวงตาสีส้มสวย

    หลังจากที่ฉันเห็นความสามารถของพวกนายทั้งคู่ ฉันจะเข้าทีมนายด้วยนักเรียนหน้านิ่งเอ่ยประโยคคำสั่งที่ควรจะเป็นประโยคขอร้องซะมากกว่าใส่ผมและแมกซ์ ว่าแต่ผมไปแสดงพลังของผมตอนไหนหรอ?

    ฉันไปแสดงพลังให้นายดูตอนไหน ผมถาม

    ตอนที่นายตั้งสติและตัดสินใจช่วยเหลือผู้หญิงคนนั่นอย่างรวดเร็วยังไงล่ะ ถึงนายจะยังไม่มีพลังแต่ไหวพริบนายดี ถึงเวลาตอนที่พวกเราไปยังที่อันตรายนายสามารถช่วยพวกเราได้ นักเรียนสาวหน้าคมคนนั่นตอบ และอีกอย่างฉันไม่เคยมีเพื่อนเกย์ เธอตอบอย่างยิ้มแย้ม

    ใครเกย์เอาดีๆ ผมมองไปด้วยสายตาขุ่นเคือง และรื่องไหวพริบของผมน่ะมันไม่ดีเลยนะเออ แค่ผมดัน (โชคดี) เห็นก่อนแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น

    อ่าวไม่ใช่หรอกหรอ เธอถามด้วยน้ำเสียงกวนๆและยิ้มมาให้ผมอีกที

    เอาเป็นว่าฉันจะเข้าทีมกับนายด้วยเข้าใจไหม ตอนนี่สมาชิกก็สี่คนไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เราไปเขียนรายชื่อพวกเรากันเถอะ นักเรียนหน้าโหดตัดสินใจเอาเองและลากแมกซ์ที่ยังคงอึ้งใบ้กินอยู่

    หา?.. จะเข้ากลุ่มด้วยกันสี่คนที่ไม่รู้ว่าใครมีพลังอะไรยังไงเนี่ยนะ... จะเข้าก็หัดอธิบายเสียก่อนซิว่าตัวเองชื่ออะไรพลังยังไง แมกซ์ที่เพิ่งตั้งสติได้รีบขวางทางและส่งสายตาคาดคั้นไปหาผู้มาเยือนใหม่ทั้งสองคน โอ๊ะโอ๋... แต่เธอสวยดีนะ แมกซ์ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับนักเรียนสาวหน้าคมนั่น... ถ้านายโดนตบเอา ฉันไม่ช่วยนะ

    ...ฉันชื่อสแมนต้าอายุสิบเจ็ดปีเรียนอยู่ตึกบี เจาะจงด้านการโจมตีแบบประชิดพลังพิเศษคือสะกดจิต แต่สะกดได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงนะ สแมนต้าแนะนำตัวเองอย่างรวดเร็วและวิ่งเข้ามาเกาะแขนผม นายล่ะชื่ออะไร

    อ่า... ฉันชื่อแดนนี่ แดนนี่แม็กเคลเวอร์ พลังพิเศษ ปลุกไม่ตื่นที ท่อนหลังผมพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ผมไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าผมเป็นคนอ่อนแอแล้ว

    เรื่องพลังเรารู้ตั้งแต่สาวบลอนด์ถามนายแล้วล่ะ สแมนต้ายิ้มให้กำลังใจผม

    อ่อนแอ... แต่กำลังใจที่ค่อยๆกลับมากลับถูกทำลายโดยไอ้หน้าโหด ไอ้เลือดเย็นนั่น (กร๊าซซ พ่นฟายยยย)

    โหสวยยังไม่พอโหดอีกนะ...ชอบแฮะ แมกซ์พึมพำกับตัวเอง แต่ผมมั่นใจว่ามันดังพอที่พวกเราทั้งสามจะได้ยิน

    ดอมนิก...ไฟ ดอมมินิกพูดประโยคสั้นๆแนะนำตัวเอง สั้นซะจนน่าถีบ (มาก)

    สุดยอด... พวกเราเป็นทีมที่เจ๋งมากเลย ผู้ควบคุมไฟที่โคตรจะหายาก นักสะกดจิดถนัดสู้ประชิด นักเวทย์รักษา และ เอิ่ม... แดนนี่ แมกซ์ยิ้มตาประกาย มีทีมนี่พึ่งพาได้ชัวร์ๆ ไม่ต้องทำงานอีกแล้วเรา 

    และแล้วทีมที่มีสมาชิกประหลาดก็ถูกก่อตั้งขึ้น (ง่ายๆอย่างนั่นเลยเรอะ)

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×