ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Animals (fanfic Kuroko no basket) pairing: แล้วแต่รีเควสท์

    ลำดับตอนที่ #2 : Kagami X Kuroko

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 459
      2
      1 ม.ค. 56

    2
    Kagami X Kuroko � � � � ��


    ตั้งแต่วันนั่นแล้ว ไอ้ใบหน้านิ่งๆไร้อารมณ์ที่คล้ายคนง่วงนอนนั้นมันทำให้เขาอยากจะกระโดดเตะหมอนั้นให้ตายสามรอบเศษ แต่เพราะหลายสาเหตุเขาต้องติดแหง็กกับเจ้าเงาหัวฟ้าเฉื่อยชานี่

    ����������� ชายผมสีแดงถอนหายใจและผัดข้าวผัดอย่างเหนื่อยใจ

    ����������� ถ้าเรื่องมันจบแค่ตรงที่เขาหงุดหงิดก็ดีอยู่หรอก แต่คราวนี้มันเริ่มมีอะไรแปลกขึ้น วันนั้นที่เขาเรียนรู้ว่าเจ้าเปี๊ยกคูโรโกะเคยไปคู่หูของอาโอมิเนะดั่งแสงและเงาซึ่งอยู่คู่กันมันทำให้เขาแทบจะบ้าตาย ใบหน้าง่วงนอนเริ่มมีอารมณ์เพิ่งขึ้น แล้วไหนจะยัยผู้หญิงหัวชมพูนมเด้งที่ชื่อโม... โมอะไรสักอย่างอีก มันทำให้เขาอยากจะวิ่งเข้าไปบีบคอคูโรโกะและถามว่า

    ����������� “นายจะจมปลักอยู่กับอดีตหรือจะเป็นคู่หูของฉันหา!?

    ����������� “ฉันก็เป็นคู่หูของนายอยู่นี่ไง” ใช่วันนั้นตอนทั้งสามคน อาโอมิเนะ โมโมอิ และคูโรโกะ กำลังคุยกันคูโรโกะมีใบหน้ายิ้มแย้มและแสดงสีหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันทำให้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน หัวใจของเขาบีบรัดแน่นจนเขาแถบจะหายใจไม่ออก

    ����������� สมองของเขาไม่คิดคำนึงถึงอะไรทั้งนั่น รางกายของเขาก็รีบเคลื่อนที่ไปยังสามคนและแหกปากตะโกนลั่นยิม นายจะจมปลักอยู่กับอดีตหรือจะเป็นคู่หูฉันหา พอเขาได้สติตื่นจากอาการหน้ามืดเพราะความโกรธเขาก็รีบวิ่งหนีออกมาทันที เฮ้อ

    ����������� “คางามินายแปลกมาก ไม่สบายหรือไง” แต่...เอ๊ะ เสียงนิ่งๆนี่มันมาจากไหนกัน เขาอยู่ในห้องพักของเขาไม่ใช่หรอ มันคงไม่มีผีตอบเขาหรอกนะ... คางามิหันหน้าขวับตามต้นเสียงทัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างและจ้องชายหนุ่มร่างเล็กตรงหน้า ชายหนุ่มเจ้าของดวงตากลมโตสีเดียวกับท้องฟ้า ชายหนุ่มร่างเล็กที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์หายาก

    ����������� “เฮ้ย นายเข้ามาตั้งแต่ตอนไหน” พอเห็นคูโรโกะใบหน้าของคางามิก็พลันเปลี่ยนเป็นสีตำลึงถอยหลังห้าก้าวและปิดปากตัวเอง

    ����������� “ตั้งนานแล้วล่ะ... ฉันได้กลิ่นข้าวผัด” สีหน้าของชายร่างเล็กไม่ได้เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย เขาเดินมายังโซฟาและนั้งลงนิ่งๆจ้องหน้าคางามิตรงๆ เล่นเอาหัวใจของคางามิเต้นในจังหวะแปลกๆ คางามิเบื่อนหน้าหนีและใช้หางตาเหลือบไปมองคนร่างเล็กด้วยสายตาดุดัน

    ����������� “ฉันไม่เชิญนายมา” คางามิเดินกลับไปจับกระทะและหยิบตะหลิวขึ้นมาทำกับข้าวต่อ... แม้ปากของคางามิจะพูดแขวะคูโรโกะเขาก็เดินไปตักข้าวเพิ่ม หยิบไข่มาอีกสองฟองและหั่นผักทำอาหารเผื่อคูโรโกะ

    ����������� คูโรโกะยิ้มๆบางราวกับเขารู้ล่วงหน้าแล้วว่าคนตัวโตใจน้อยอย่างคางามิจะต้องทำอาหารให้เขาแน่ๆ

    ����������� “ทำไมนายโกรธขนาดนั้นกัน” ดวงตาสีฟ้าประกายและถามคนตัวโต คางามิชะงักมือชั่วครู่และทำกับข้าวต่อ คางามิไม่รู้หรอกทำไมเขาโกรธขนาดนั้น แต่พอคูโรโกะยิ้มให้พวกนั้น ทำท่าสนิทสนมกับพวกนั้นมันทำให้อะไรบางอย่างในตัวเขาเปลี่ยนไป มันทำให้เขาสูญเสียการควบคุมชั่วขณะ พอเขารู้ตัวอีกทีเขาก็ได้ทำอะไรบุ่มบ่ามไปแล้ว อันที่จริงเขาเป็นคนหัวร้อนอยู่แล้วผิดกับเจ้าเปี๊ยกที่นิ่งได้ทุกเมื่อ

    ����������� “เปล่าไม่ได้โกรธ ฉันแค่หิวข้าวน่ะ ขี้เกียจรอนายนาน” คางามิโกหกด้วยน้ำเสียงที่เด็กฟังยังรู้ว่าไอ้บ้านี่มันโกหก แถมอาการท่าทางยังแสดงออกซะขนาดหนัก ริมฝีปากเรียวที่ขบจากความไม่พอใจ หูแดงเถือก สายตาดุดัน

    ����������� “นายชอบฉันหรอ” ชายร่างเล็กถามออกไปด้วใบหน้านิ่งๆ มันช่างสมกับเป็นคูโรโกะอะไรอย่างนี้ ถามกันโต้งๆไร้ซึ่งความเขินอาย คำถามของคูโรโกะทำให้คางามิสะอึกสำลักน้ำหูน้ำตาน้ำลายไอค่อกแค่กวิงเวียนศรีษะกระโดดโหยงเหยงหน้ามืดตาลาย (อาการเหมือนจะหนัก) คางามิหันหน้าขวับไปหาคูโรโกะทันที เขาปล่อยกระทะไว้และสาวเท้าไปหาคูโรโกะ

    ����������� “ฉันเนี่ยนะชอบนาย ฮ่าๆๆ บ้าไปแล้ว แข่งกับทีมนู่นจนสมองเบลอแล้วงั้นหรอ” คางามิหัวเราะเก้อๆด้วยใบหน้าแดงยอ่งกว่าลูกตำลึง แถมมือของเขายังอยู่ไม่นิ่งขยับไม่ทั่ว ดวงตาสีเพลิงก็ไหววูบอยู่ตลอดเวลา

    ����������� “งั้นจูบฉันดูซิ” คางามิค้างและหันมามองคูโรโกะ ดวงตาของคูโรโกะไม่มีวี่แววของคำโกหกหรือคำท้าทายใดๆทั้งสิ้น ดวงตาสีท้องฟ้าใสจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคางามิ ดวงตาซึ่งไร้คำโกหกเต็มไปด้วยความหนักแน่น มันยืนยันว่ามันไม่ได้แค่ท้าทายแต่ต้องการให้คางามิพิสูจน์จริงๆ

    ����������� “จะบ้าหรอ ฉันไม่นิยมผู้ชาย” คางามิเบือนหน้าหนีอีกครั้ง

    ����������� “ลองดูซิ นายโตที่อเมริกาแค่จูบจะเป็นอะไรไป” คางามิถอนหายใจ เขาหันหน้ากลับมาและนั้งข้างๆคูโรโกะบนโซฟา

    ����������� โว้ยยย นี่เขากำลังจะจูบผู้ชายงั้นหรอ แต่คูโรโกะก็ไม่ยักจะเหมือนผู้ชายสักเท่าไหร่ ผิวพรรณขาวเนียนสวย ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดวงตากลมโต ขนตายาวงอนเป็นแพ... อันที่จริงคูโรโกะสวยกว่าผู้หญิงอีกกระมั่งเนี่ย ถึงนมจะเล็กไปหน่อยก็เถอะ..... คางามิยื่นมือไปประของใบหน้าของคูโรโกะอย่างอ่อนโยน

    ����������� เขาขยับเข้าใกล้คูโรโกะมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เขาขยับและเลื่อนใบหน้าเขาเข้าใกล้คูโรโกะเขาเหมือนจะเป็นลม หัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้นเร็วขึ้นในจังหวะที่มันไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าเขาร้อนเป็นไฟจนทำให้เขาอยากเบือนหน้าหนีแต่ดวงตาคู่สวยกลับสะกดเขาไว้

    ����������� คางามิเลื่อนใบหน้าของตัวเองจนลมหายใจอุ่นๆของทั้งคู่เป่ารดใบหน้าซึ่งกันและกัน... คางามิไม่มีความกล้าที่จะเลื่อนใบหน้าเขามากกว่านี้ ริมฝีปากของพวกเขาห่างกันเพียงแค่คืบเดียว ริมฝีปากของเขาและริมฝีปากสีชมพูน่าจูบของคูโรโกะห่างกันเพียงแค่คืบเดียว แค่คืบเดียว... เขากำลังจะได้ครอบครองมัน...

    ����������� หากแต่ว่า

    ����������� “เฮ้ยข้าวผัด ไหม้ ไหม้แล้วโว้ย” กลิ่นไหม้แตะจมูกของคางามิจนเขาพลันลุกขึ้นและวิ่งไปดูข้าวผัดที่ข้างไว้ในกระทะ ข้าวผัดได้กลายเป็นสีดำส่งกลิ่นสุดยอดฟุ้งทั่วห้องเขา... แม้พวกเขาจะห่างกันแล้วใบหน้าเขาคางามิยังคงแดงเถือก

    ����������� คางามิจัดการเอาข้าวผัดลงถังขยะและแช่กระทะไหม้ของเขาไว้ เขาหันหน้ามาหาคูโรโกะใหม่อีกครั้ง เขาต้องทำให้มั่นใจว่าเขาไม่ชอบเจ้าหน้าบื้อนี่

    ����������� คางามิเดินเข้าไปหาคูโรโกะอีกครั้งและนั้งที่เดิม เขากุมมือคูโรโกะไว้

    ����������� แต่ทันใดนั้น (อีกครั้ง)

    ����������� “โอ้สส พวกเรามาปาร์ตี้ห้องนายกันคางามิ อะเด่ะ....กลิ่นอะไรไหม้ๆอ่ะ” เสียงใสแจ๋วของเพื่อนร่วมก๊วนในทีมมเซอิรินโผล่เข้ามา ฮโยกะเดินเข้ามาพร้อมกับชูถุงกับข้าวขึ้นสูง

    ����������� คางามิรีบปล่อยมือคูโรโกะทันทีและลุกขึ้นโวยวาย

    ����������� “ใครเชิญพวกนายมาฟะ”

    ����������� “พวกเรามาเอง ฮ่าๆ” เทปเปยิ้มและหยีหัวคางามิจนฟู คางามิส่งสายตาเสือแฮ่ๆกลับไป เขาหลบใบหน้าตัวเองคนอื่นจะได้จับไม่ได้ว่าตอนนี้หน้าเขาแดงแค่ไหน เมื่อกี้เขากำลังจะจูบคูโรโกะเลย.... ว๊ากก อาย เขิน กรี๊ด (?)

    ����������� “ทำไมหน้าแดงจัง” แต่ไม่มีใครคนไหนตาไวยิ่งกว่าผู้จัดการสาวโหดของทีมบาสฯเซอิรินเธอคนนี้แล้ว คางามิไม่ตอบแต่กลับไปหยิบจานและช้อนส้อมจากตู้ ปกติห้องพักเขาร้างจะตายแต่พวกนี้ชอบมาปาร์ตี้บ้านเขาก็เหลือเกินเขาจึงต้องไปซื้อของมันเพิ่ม

    ����������� “เอาจะปาร์ตี้ไหมเนี่ย”

    ����������� “ปาร์ตี้ดิ เอาจานมาๆ เอาเหล้ามาๆ เอาสาเกมาๆ เอาไวน์มาๆ เอามาให้หมด ฉันจะดื่มให้เมาแอ๋เลย”

    ����������� “ผมไม่ดื่มนะ” เสียงนิ่งๆดังขึ้น

    ����������� “เฮ้ยยยย คูโรโกะนายมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” ทุกคนถึงกับตกใจเมื่อพวกเขาเห็นคูโรโกะซึ่งปกติแล้วไม่มีใครสังเกต

    ����������� “ผมมานานแล้วฮะ”

    ����������� “แฮ่ๆ เอ้ากินกานนน” เสียงใสแจ๋งของเทปเปดังทุกคนก็เฮตาม

    ����������� “เดี๋ยวผมไปเอาโต๊ะอีกตัวในห้องคางามิให้” คูโรโกะเดินเข้าไปยังห้องนอนของคางามิ แต่ไม่มีใครสังเกตหรือรู้ว่าคูโรโกะได้หายไปนอกจากคนเพียงคนเดียว คางามิ... คูโรโกะอยู่ในสายตาเขาเสมอ ใช่เสมอมา.... คางามิเดินตามคูโรโกะเข้าไปในห้องและจ้องเจ้าตัวเล็กที่พยายามยกโต๊ะต่ก็ล้มเหลว

    ����������� คางามิถอนหายใจเบาๆและใช้แขนเพียงข้างเดียวยกโต๊ะขึ้นมา เขาหันหน้ามาพูดกับคูโรโกะเบาๆ

    ����������� “ฉันคิดว่าฉันชอบไหนก็ได้” คางามิหน้าแดงถึงหู เขาโน้มตัวลงมาและจุมพิตหน้าผากของคูโรโกะอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของคูโรโกะที่ไร้อารมณ์ก็พลันเปลี่ยนเป็นสีชมพู ทั้งคู่ยืนจ้องหน้าซึ่งกันและกันด้วยใบหน้าแข่งกันแดง คูโรโกะตัวแข็งทื่อ... คางามิหัวใจเต้นเร็บเกินไปมันทำให้เขาไม่ไหว เขาต้องออกจากห้องนี้ก่อนเขาจะบ้าตายเพราะหัวใจเต้นเร็วไป ทว่าชายเสื้อกับถูกคว้าไว้โดยคูโรโกะ

    ����������� “ฉันก็ชอบนาย” คูโรโกะมองคางามิด้วยสายตาหนักแน่น สายตาหนักแน่นคู่นั้นมันทำให้คางามิอึดอัดด อึดอัดแบบดีใจ แต่ก็อึดอัด มันอึดอัดอ่ะ แต่มันก็ดีใจง่ะ.... ตกลงเขารู้สึกยังไงก็แน่เนี่ยยยย แล้วเจ้าบ้าคูโรโกะอย่าจ้องให้นานนักซิฟะ เขินนะเออ เขินมาด้วย

    ����������� “อืม...”....ถึงกระนั้นก็ได้แต่ขานรับเบาๆด้วยความเขินอาย

    ����������� “คูโรโกะไหนล่ะโต๊ะอีกตัว ไม่มีกินข้าวไม่ได้เฟ้ยย” เสียงข้างนอกดังขึ้นทำลายยรรยกาศอย่างสิ้นเชิง คางามิมองหน้าคูโรโกะอีกแวบหนึ่งและโน้มตัวลมอีกครั้งประทับริมฝฝีปากของตัวเองบนริมฝีปากของคูโรโกะอย่างรวดเร็ว และเขาก็รีบเดินหนีออกไปข้างนอกทันที

    ����������� คางามิปล่อยให้คูโรโกะอยู่เพียงคนเดียวในห้อง... ตัวคูโรโกะแข็งทื่อ แม้เขาจะเป็นคนท้าคางามิก็จริงแต่ว่า แต่ว่าพอจูบกันจริงทำไมเขาเข่าอ่อนงี้เลย...

    ����������� คูโรโกะทิ้งตัวลงบนเตียงคางามิพร้อมกับจับใบหน้าที่ร้อนแสนร้อนพร้อมกับบ่นในใจ บ่นถึงหัวใจผิดจังหวะ ความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อนไม่ว่าจะกับใคร มันไม่ใช่จูบแรก เขาเคยจูบรุนแรงกว่านี้แล้วแต่ทำไมเขามีอาการนี้กับคางามิเพียงคนเดียว คางามิพิเศษตรงไหน? แต่ไม่รู้ทำไม... เพราะคางามิคนเดียว...

    ����������� คางามิงี่เง่า....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×