ผู้เข้าชมรวม
13,623
ผู้เข้าชมเดือนนี้
29
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผู้หญิง เป็นเพศที่มักถูกกำหนดให้อยู่เบื้องหลังเสมอ
แม้ว่าในประวัติศาสตร์จะปรากฏ ชื่อผู้หญิงหลายคน ที่เป็นผู้ชี้นิ้วกำหนดชะตาผู้ชายด้วยวิธีแยบยลนุ่มนวล
อย่าง เนเฟอร์ตีติ ที่กำ
เช่นเดียวกับพระนางฮัทเซปซุทแห่งอียิปต์ที่ก้าวขึ้นเป็น ฟาโรห์ ได้สำเร็จ
นางบูเช็คเทียน เป็นหญิงที่ประวัติศาสตร์จีนต้องจารึกไว้
ในความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เหี้ยมโหด อย่างผู้ชายอกสามศอกยังต้องถอย
เพราะนางคือ ผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็น ฮ่องเต้สตรีองค์แรก และองค์เดียวของจีน
นางเกิดมาในสมัยที่ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้าผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ไม่มีสิทธิ์มีเสียงแต่บูเช็คเทียนกลับตาลปัตรมานำหน้า
ทั้งยังหาความสำราญให้ตัวเองแบบที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทำ ผู้คนก็เลยพูดถึงพระนางในแง่ลบ
ว่าเป็นคนเลวร้ายมักมากในกามคุณมักใหญ่ใฝ่สูง อำมหิตโหดร้าย ฆ่าคนยังกับผักปลา แต่นางกลับปกครองแผ่นดินที่กว้างใหญ่
และพลเมืองมากที่สุดในโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
บูเช็คเทียนเกิดมาจากครอบครัวธรรมดา พ่อของนางเป็นพ่อค้าธรรมดาๆ ภายหลังรับราชการอยู่หัวเมืองรอบนอก
ส่วนมารดาก็เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา
นามเดิมก่อนที่นางจะได้เข้าไปอยู่ในพระราช สำนักคือ บูเหม่ยเหนียง
สมัยที่ยังเป็นเด็กมารดามักจับนางแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของเด็กชายจนใครๆ ที่พบเห็นนึกว่าเป็นเด็กผู้ชาย
มีเรื่องเล่าว่ามีโหรใหญ่คนหนึ่งชื่อหยวนเทียนกังมา เห็นเข้า นึกว่าหนูน้อยน่ารักคน นี้เป็นเด็กชายจึงออกปากทักว่า
เด็กคนนี้ถ้าหากเป็นหญิงล่ะก็ ต่อไปจะได้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีนเป็นแน่
ยิ่งกว่านั้นเมื่อเข้าวังไปแล้ว โหราศาสตร์แห่งราชสำนักยังพยากรณ์สำทับอีกว่า ต่อไปสตรีแซ่อู่จะมีอำนาจขึ้นล้มราชวงศ์ถัง
ด้วยอายุเพียง 14 ปี กิตติศัพท์ความงามของนางก็ลือลั้นไปทั่ว จนรู้ไปถึงพระกรรณพระเจ้าถังไทจง
ฮ่องเต้ผู้
พระองค์จึงทรงมีดำรัสตรัสสั่งให้นำนางเข้าวังมาถวายตัวเป็นนางสนมในราชสำนักและด้วย ความงามกับเสน่ห์อันเย้ายวน
นางจึงกลายเป็นสนมที่พระเจ้าถังไทจงรักและหลงเป็นยิ่งนัก
ขณะเดียวกันไทจือหรือราชโอรสที่เป็นรัชทายาทผู้มีนามว่า “ หลี่จื้อ “ ก็มีจิตปฏิพัทธ์ต่อบูเช็คเทียนด้วย
ความสวยของบูเช็คเทียนจึงเปรียบเสมือนถนนราดยางอย่างดี นำพาตัวเองไปสู่ความโดดเด่นเหนือสนมกำนัลในทั้งปวง
ว่ากันว่า
องค์ไทจือนั้นสนิทเสน่หาในตัวนางมากๆทั้งที่มีมเหสีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจทำอะไรนอกลู่นอกทางได้
นอกจากเฝ้ารอคอยเวลาที่ จะได้ชื่นชมตัวนางเท่านั้น
แต่แล้วไทจือก็ไม่ต้องทรงรอนาน เมื่อพระเจ้าถังไทจงผู้เป็นพระราชบิดาสิ้นพระชนม์ลง
พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์
ความสนิทเสน่หาในตัวบูเช็คเทียนที่ตรา อยู่ในดวงหทัยของพระองค์เพิ่มมากขึ้นเป็นเงา และเมื่อพิษสวาทกำเริบหนัก
พระองค์ก็อาจหาญสึกบูเช็คเทียนซึ่งจำ ต้องโกนหัวเข้าวัดบวชตามโบราณราชประเพณี
มาเป็นสนมเอกของพระองค์สมความปรารถนา
บูเช็คเทียนได้เข้าวังอีกครั้ง และรั้งตำแหน่งใหญ่กว่าเดิม
นางเริ่มคิดกำเริบในใจว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นข้าบาทบริจาริกาเท่านั้น
หากจะต้องยิ่งใหญ่กว่าใครในราชสำนักฝ่ายในและหนทางที่จำไปสู่อำนาจได้นั้นต้องอาศัยความแยบบลและรอบคอบ
นางจึงใช้ความฉลาดวางหมากเดินแต้ม โดยเหยียบย่ำลงบนเลือดเนื้อและชีวิตของผู้คนมากมาย
ไม่เว้นแม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไข ลูกในไส้ของตนเอง !
ในตอนแรก บูเช็คเทียนค่อยๆ ดำเนินการตามเป้าหมายอย่างนิ่มนวล รวบอำนาจฝ่ายในไว้ในมือ
โดยแผนการของนางนั้นเรียกได้ว่าต้องลงทุนมหาศาลและต้องใช้ความเหี้ยมโหดจนใครก็นึกไม่ถึง
นั่นคือ
นางลงทุนบีบคอธิดาน้อยองค์เดียวของตนเองจนตายคามือ และป้ายความผิดให้กับฮองเฮา !
มันเป็นหมาก ที่บูเช็คเทียนมอง ไว้ทะลุปรุโปร่ง
ทรงพิโรธโกรธเกรี้ยวและทรงสั่งถอดถอน พระนางออกจากตำแหน่งทันที
ก่อนจะนำไป คุมขังไว้ในตำหนักเย็นอันเป็นเสมือนคุกดีๆ นี่เอง
บูเช็คเทียนคิดว่าคงจะพบทางสว่างที่จะได้ขึ้นตำแหน่งใหญ่แทนฮองเฮา
แต่ก็ยังได้รับการคัดค้านจากขุนนางผู้ใหญ่ นางแค้นใจแต่ก็ไม่ว่าอะไร ค่
อยๆ กระเถิบก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเอง โดยการคบหาบัณฑิตจอหงวนรุ่น ใหม่เสมอ
ทำให้รอบรู้กว้างขวาง มีสายตากว้างไกล
ความพยายามของนางในการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงก็สัมฤทธิ์ผล
เมื่อเสนาบดีฝ่ายกลาโหมให้ความสนับสนุนทำให้พระเจ้าถังเกาจงสามารถแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮา
โดยไม่หวั่นไหวต่อคำทัดทานของเสนาบดีคนใดอีกนับว่า ได้ก้าวขึ้นมาถึงจุดสุดยอดของอำนาจฝ่ายในอย่างที่นางต้องการได้สำเร็จ
แต่ว่าเส้นทางสู่อำนาจวาสนาของนางมิใช่จะสิ้นลงตรงนี้ หากทอดยาวไปถึงบัลลังก์ฮ่องเต้เลยทีเดียว
พระเจ้าถังเกาจงฮ่องเต้พระสวามี แม้จะอยู่ในวัยหนุ่มแน่นแต่ทรงอ่อนแอประชวรจนพระวรกายซูบซีดลงเป็นลำดับ
ไม่ช้าก็ทรงเห็นราชการเป็นงานหนัก
เมื่อพระองค์ทรงท้อแท้พระนางบูเช็คเทียนจึงเข้ามากำกับราชการถวายอยู่หลังพระวิสูตร (ม่าน)
ในขณะที่ประทับบัลลังก์มังกรว่าราชการในท้องพระโรง
นางมีความรู้เรื่องในการปกครองไม่เหมือนผู้ชายจนมีความเห็นว่าน่าจะกระทำการคัดเลือกข้าราชการด้วยการสอบ แทนที่จะใช้ “ เส้น “
ฮ่องเต้ก็ทรงเห็นด้วย ต่อมาฐานของบูเช็คเทียนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถสอบผ่านเข้ามาเป็นขุนนางได้ จึงทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว
นางวางหมากไว้อย่างเป็นระบบ และนางก็กลายเป็นผู้มีอำนาจสามารถสั่งงานแทนฮ่องเต้หมดทุกเรื่อง
ด้วยเหตุผลนี่ฮ่องเต้ทรงเกรงในความเด็ดขาดของนางที่สามารถว่าราชการแทนพระองค์และประสบความสำเร็จทุกครั้ง
ในเวลาต่อมาไม่ว่าบูเช็คเทียนจะสั่งอะไรก็ไม่มีใครกล้าไปขัดขวาง ไม่อย่างนั้นจะมีชีวิตอยู่ในโลกได้ไม่นาน
ขุนนางที่กระด้างกระเดื่องล้มตายลงไปมาก เพราะคำสั่งของพระนางไม่ว่าทาง ตรงหรือทางอ้อม
หนึ่งในจำนวนคนที่ต้องตายเพราะขวางหูขวางตาฮองเฮานี้ยังรวมไปถึงพี่น้องของนางเองด้วย
สาเหตุเพราะพี่สาวของนางบังอาจเข้ามาเป็นสนมอีกคนหนึ่งของฮ่องเต้ ซึ่งบูเช็คเทียนถือว่าเป็นการทรยศอย่างที่ให้อภัยไม่ได้
พี่สาวผู้นั้นมีความสุขกับฮ่องเต้ได้ไม่นานก็ต้องตายกระทันหันด้วยสาเหตุอาหารเป็นพิษ
ทั้งฮ่องเต้และทุกคนในวังรู้ดีว่าเป็นฝีมือ ของบูเช็คเทียนแต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้
ยิ่งไปกว่านั้นพระนางยังมีอำนาจในมืออย่างเต็มที่ พระนางเริ่มกำจัดขุนนางตงฉินหลายคน ทรงวางยาเจ้าชายรัชทายาทอีกด้วย
บ้านเมืองเริ่มไม่สงบสุข โดยเฉพาะซิกังบุตรของซิเตงซันผู้เคยมีบทบาทในราชสำนักอย่างมาก
มีความเคียดแค้นการกระทำของพระนางจนก่อการกระด้างกระเดื่อง พระนางรับสั่งให้จับตัวมาประหารทันที
พระเจ้าถังเกาจงก็ช่วยอะไรไม่ได้
ผู้เป็นไทจือขึ้นครองราชบัลลังก์มังกรต่อ ทรงพระนามว่า “ พระเจ้าถังจงจงฮ่องเต้ “ บูเช็คเทียนเปลี่ยนฐานะจากมเหสี-ฮองเฮา
เป็นพระราชชนนีฮองไทเฮา
ไม่ว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะทำอะไร เป็นต้องได้รับความเห็นชอบ จากฮองไทเฮาก่อนเสมอ
หนทางอำนาจนั้นย่อมโรยด้วยขวากหนามเป็นธรรมดา พระนางต้องผจญกับการต่อต้านจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมากมาย
แต่พระนางก็ปราบได้ด้วยความเข้มแข็ง ต่อมาพระนางก็ได้ลงมือโค่นอำนาจฮ่องเต้ซึ่งเป็นโอรสของพระนางเอง
แล้วสถาปนาขึ้นเป็นฮ่องเต้สตรีคนแรก (องค์เดียว) ของจีน เปลี่ยนราชวงศ์ใหม่เป็นราชวงศ์โจว
ปีนั้นพระนางอายุถึง 64 ชันษาแล้ว
บุคคลิกที่ขัดแย้งของพระนางบูเช็คเทียนนอกจากความเหี้ยมหาญไม่แพ้ชายแล้ว
อีกด้านหนึ่งนางกลับเป็นคน ที่มีความละเอียดอ่อนละเมียดละไมมากพอที่จะเขียนกลอนได้อย่างไพเราะ
พระนางแต่งกวีได้หลายบทตั้งแต่สถาปนา
พระนางยังเป็นคนที่คิดวิธีเร่งดอกไม้บานได้ มีเรื่องเล่าว่าพระนางดำรัสสั่ง ให้นางกำนัลออกไปบังคับดอกไม้ให้บาน
วันรุ่งขึ้นดอกไม้ก็บาน ด้วยวิธีที่ง่ายนิดเดียวคือ ต้มน้ำร้อนให้เดือด แล้วนำไปตั้งไว้ในราชอุทยานทุกหนทุกแห่ง
ไอน้ำเป็นตัวช่วยเร่งให้ดอกไม้แย้มกลีบบานได้ทุกดอก ถือเป็นความเฉลียวฉลาดของพระนางที่ยากจะหาใครมาเทียบรัศมีได้
เรื่องราวของฮ่องเต้สตรีคนนี้ตื่นเต้นกว่านิยายเสียอีก นอกเหนือจากความเหี้ยมโหดผิด ผู้หญิงของพระนางแล้ว
ต้องถือว่าพระนางสมควรจะได้รับการยกย่อง ว่าเป็นหญิง ที่สามารถที่บริหารบ้านเมืองได้ในทุกๆ ทาง
ไม่เว้นแม้แต่ด้านศึกสงคราม
ในบั้นปลายชีวิตของพระนางบูเช็คเทียนทรงพระชันษายืนยาวถึง 80 ปี แต่ก็ยังไม่ยอมมอบอำนาจให้ใคร
จนโอรสองค์ที่เคยเป็นฮ่องเต้ถังจงจงต้องกราบทูลขอบัลลังก์คืนโดยมีเสนาบดีสนับสนุน บูเช็คเทียนจึงทรงคืนบัลลังก์ให้แล้ว
เสด็จไปประทับนอกเมืองก่อนจะสิ้นพระชนม์ลงด้วยโรคชราเมื่อพระชนม์มายุ 81 ปี
ปัจจุบันสุสานของพระนางนับเป็นสุสานที่สวยงามมาก ตั้งอยู่เคียงคู่กับที่ฝังพระศพของถังเกาจงฮ่องเต้
ซึ่งพระนางได้สั่งให้จารึกแผ่นศิลาสรรเสริญเกียรติคุณไว้ด้านหน้า แต่แปลกที่แผ่นศิลาของพระนางกลับ ว่างเปล่า
เพราะพระนางสั่งไว้ว่าไม่ต้องการให้จารึกอะไรไว้ทั้งสิ้น
ผลงานอื่นๆ ของ delilah_doll ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ delilah_doll
"โอ้เยี่ยมสุโค่ย"
(แจ้งลบ)เขียนยาวขนาดนี้จะไม่ให้สุโค่ยได้ไง เยี่ยมจิงๆๆ สุดยอด สุดเจ่ง สุดcool(เจ๋ง) โอ้วฟ้าประทาน ทุกเรื่องเป็นเกร็ดประหวัดติสาดท๊านน๊าน ต้องปรบมือให้ เก่ง จิงๆ ไม่ติงนังน่ะ ประทัปใจจร์อด อย่างแรง แงๆ(โอ้วจนร้องไห้เลย) แปะๆๆๆๆๆๆ เยี่ยมgood เนี๊ยบมาก เก๊งเก่ง จังอ่ะ 555+ ทำได้ไง มีความรู้มากเลยน่ะเนี่ย เยี่ยมกู๊ด แป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ ... อ่านเพิ่มเติม
เขียนยาวขนาดนี้จะไม่ให้สุโค่ยได้ไง เยี่ยมจิงๆๆ สุดยอด สุดเจ่ง สุดcool(เจ๋ง) โอ้วฟ้าประทาน ทุกเรื่องเป็นเกร็ดประหวัดติสาดท๊านน๊าน ต้องปรบมือให้ เก่ง จิงๆ ไม่ติงนังน่ะ ประทัปใจจร์อด อย่างแรง แงๆ(โอ้วจนร้องไห้เลย) แปะๆๆๆๆๆๆ เยี่ยมgood เนี๊ยบมาก เก๊งเก่ง จังอ่ะ 555+ ทำได้ไง มีความรู้มากเลยน่ะเนี่ย เยี่ยมกู๊ด แป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านน้อยลง
โรคุโด มุคุโร่(ซัง) | 3 เม.ย. 53
3
1
"โอ้เยี่ยมสุโค่ย"
(แจ้งลบ)เขียนยาวขนาดนี้จะไม่ให้สุโค่ยได้ไง เยี่ยมจิงๆๆ สุดยอด สุดเจ่ง สุดcool(เจ๋ง) โอ้วฟ้าประทาน ทุกเรื่องเป็นเกร็ดประหวัดติสาดท๊านน๊าน ต้องปรบมือให้ เก่ง จิงๆ ไม่ติงนังน่ะ ประทัปใจจร์อด อย่างแรง แงๆ(โอ้วจนร้องไห้เลย) แปะๆๆๆๆๆๆ เยี่ยมgood เนี๊ยบมาก เก๊งเก่ง จังอ่ะ 555+ ทำได้ไง มีความรู้มากเลยน่ะเนี่ย เยี่ยมกู๊ด แป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ ... อ่านเพิ่มเติม
เขียนยาวขนาดนี้จะไม่ให้สุโค่ยได้ไง เยี่ยมจิงๆๆ สุดยอด สุดเจ่ง สุดcool(เจ๋ง) โอ้วฟ้าประทาน ทุกเรื่องเป็นเกร็ดประหวัดติสาดท๊านน๊าน ต้องปรบมือให้ เก่ง จิงๆ ไม่ติงนังน่ะ ประทัปใจจร์อด อย่างแรง แงๆ(โอ้วจนร้องไห้เลย) แปะๆๆๆๆๆๆ เยี่ยมgood เนี๊ยบมาก เก๊งเก่ง จังอ่ะ 555+ ทำได้ไง มีความรู้มากเลยน่ะเนี่ย เยี่ยมกู๊ด แป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านน้อยลง
โรคุโด มุคุโร่(ซัง) | 3 เม.ย. 53
3
1
ความคิดเห็น