ตอนที่ 2 : STORY 2 : Fall in love [IwaHina]
#IwaHina
Story 2
▃▃▃▃▃▃▃▃
สวัสดีครับ ผมฮินาตะ โชวโย อายุ 19 เรียนอยูที่มหาวิทยาลัยคาราสึโนะ ปี 1 ผมเป็นคนที่รูปร่างเล็กครับแต่ชอบกีฬามากโดยเฉพาะวอลเลย์บอลแต่ทว่าตัวผมมีรูปร่างค่อยข้างเล็กก็เลยโดยพูดอะไรให้เจ็บใจอยู่เป็นประจำ
“มัวยืนเหม่ออะไรอยู่น่ะฮินาตะ”คาเงยามะเอ่ยถาม เขาเป็นเพื่อนผมครับตัวสูงแต่นิสัยค่อยข้างจะเสีย
“โทบิโอะจังช่วยกรอกรายละเอียดพวกนี้ของเด็กปี 1 ให้หน่อยสิ”โออิคาวะเอ่ย เขาคือกัปตันชมรมครับเป็นคนที่ตัวสูงมีเสน่กับผู้หญิงมาก ๆเลยละ
ตุบ
ลูกวอลเล่บินมาใส่หัวโออิคาวะ “แล้วทำไมนายไม่ทำเองละโออิคาวะนายเป็นกัปตันชมรมนะหัดมีความรับผิดชอบหน่อยสิ”อิวาอิสึมิเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เขาคือรองกัปตันครับและยังเป็นผู้ชายที่ผมไม่ค่อยจะถูกชะตาด้วยยังไงก็ไม่รู้ชอบมองผมแปลกๆ
“อิวะจังใจร้าย”โออิคาวะพูดพลางหันไปมองชายร่างสูงที่ตีหน้ายักใส่ตน
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยทำเองซะบ้างสิ นายก็ไปซ้อมซะคาเงยามะ”อิวาอิสึมีหันมามองคาเงยามะก่อนจะเหลือบมามองผม
กึก
ผมแอบสะดุ้งหน่อยก่อนจะเดินหนีออกมาซ้อมของผมห่าง ๆ และหลังจากที่ซ้อมเสร็จผมก็มีเรียนตามปกติ
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะ”คาเงยามะเอ่ย
“อ่า”คุยกันเสร็จผมกับคาเงยามะก็แยกกันที่ตึกศิลป์ และใสขณะที่เดินไปยังตึกดนตรีผมก็บังเอิญไปได้ยินบทสนทนาที่ไม่ควรจะได้ยินเข้า
“ขอโทษด้วยนะฮาจิเมะคุง ฉันคงจะคบกับนายไม่ได้หรอก”
เอ๊ะ !! ชื่อนี้มันคุ้นหูจังเลย
“ทำไมละคิคุโนะ”เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น
เสียงของรองกัปตันอิวาอิสึมินี้
“ฉันชอบโออิคาวะน่ะ ขอโทษด้วยนะ”พูดจบหญิงสาวคนนั้นก็วิ่งมาทางที่ผมยืนอยู่
ตายละหว่าต้องหาที่หลบแล้ว
คิดได้ดังนั้นผมก็หาที่หลบเพื่อซ่อนตัวใกล้ๆแถวนั้น
แล้วฉันจะไปเรียนตึกเรียนยังไงละเนี้ยถ้าออกไปทั้งอย่างงี้มีหวังโดนจับได้แหงเลยว่าแอบฟังการสารภาพรักอันแสนจะเจ็บปวด
ผมนั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะนึกได้มาตัวเองมีเฮดโฟนอยู่
ดีละอันนี้แหละ
แล้วผมก็เอาเฮดโฟนมาสวมแล้วเปิดเพลงฟังก่อนจะเดินออกมาจากที่ซ่อนตัวเดินผ่านตรงลานที่เป็นที่เกิดเหตุเมื่อกี้นี้ด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะที่เดินอยู่ผมก็ไม่รู้ตัวเลยว่าชายร่างสูงได้เดินเข้ามาประชิตัวแล้วก็
ฟุบ
เฮดโฟนผมโดนถอดออกไปก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเอ่ยถาม “ฉันเรียกนายไม่ได้ยินรึไงฮินาตะ”ผมมองร่างสูงที่ถือเฮดโฟนของผมด้วยความงงและสงสัย
“โทษทีครับไม่ได้ยิน”ผมแย่งเฮดโฟนคืนมาแล้วสวมไว้ที่คอ “รุ่นพี่มีอะไรงั้นเหรอครับสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”ผมเนียนๆถามถึงผมจะอยู่อยู่แล้วก็เถอะ
“ไม่ต้องสนใจหน้าฉันเหรอน่า”อิวาอิสึมิเอ่ย
“งั้นเหรอฮะ แล้วมีอะไรงั้นเหรอ”ฮินาตะเอ่ยถาม
“เปล่าแค่ฉันไม่รู้ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรดี”ร่างสูงเอ่ย
“งั้นเหรอครับ”
คงกำลังสับสนอยู่สินะคนที่ชอบดันไปชอบเพื่อนรักของตัวเองนี้นะ
“งั้นเอานี้ไปฟังสิครับ ฟังตอนนี้มันอาจจะไม่ค่อยเข้าหัวนักแต่มันก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”พูดจบผมก็ถอดเฮดโฟนให้รุ่นพี่ “อย่าทำหายนะครับผมรักมันมาก ผมไปเรียนก่อนนะ”พูดจบแล้วผมก็เดินตรงไปยังตึกดนตรีทันที
อ่า ไม่มีเฮดโฟนแล้วคอมันโล่งๆแฮะ
“เฮดโฟนเหรอ นี้ฉันกำลังอกหักอยู่นะนายให้ฉันฟังเพลงงั้นเหรอฮินาตะ”ผมยืนมองเฮดโฟนที่ได้รับมาจากชายร่างเล็กก่อนจะเอาขึ้นมาสวมแล้วเปิดเล่นและผมก็ต้องอึ้งเพราะเพลงที่เปิดฟังมันไม่ได้เป็นเพลงแบบที่ผมคิดไว้เลยทั้งเสียงทั้งจังหวะมันทำให้เลือดลมของผมสูบฉันเหมือนตอนผมลงแข่งวอลเล่ “อ่า จะทำไงดีละทีนี้สับสนไปหมดเลยตกลงฉันเสียงที่โดนปฏิเสธหรือจะตื่นเต้นดี”ผมยกมือทั้ง 2 ข้างยกมือขึ้นมากุมหัวตัวเอง
ตึกตักๆ
“เอ๊ะ !! ทำไม??”ผมเลื่อนมือลงมาทาบที่อกซ้าย “ทำไมมันถึงเต้นแรงละเพราะเพลงงั้นเหรอ?? หรือว่าเพราะ... เป็นไปไม่ได้ๆ”ผมส่ายหน้าไปมา “แต่ว่านะเพลงนี้ไม่คุ้นหูเลยแต่ก็เพาะละนะ”
หลังจากที่เรียนเสร็จตอนเย็นของวันสมาชิกของชมรมวอลเลย์บอลก็มาซ้อมกันตามปกติผมเดินมาที่ห้องชมรมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“มาไวจังฮินาตะ วันนี้เลิกเร็วงั้นเหรอ”คุนิมิเอ่ยถามเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในห้อง
“อ่า วันนี้อาจารย์สั่งงานแล้วก็ออกไปทำธุระก็เลยเลิกไว แล้วคินไดจิไปไหนเหรอ”ผมเอ่ยถาม
“วันนี้เลิกช้ามั่งยังไม่เห็นโผล่มาเลย”คุนิมิเอ่ย
“เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ไปซ้อมได้แล้วอย่ามัวแต่ยืนคุยกัน”เสียงของอิวาอิสึมิดังขึ้น
“คะ ครับ”ฮินาตะสะดุ้งตกใจแล้วก็วิ่งออกไป
“รุ่นพี่ทำไมถึงไปตะหวาดใส่ฮินาตะอย่างนั้นละ ก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอว่าหมอนั้นขวัญอ่อน”คุนิมิเอ่ยก่อนจะเดินผมออกมา
หลังจากที่ผมเรียนเสร็จผมก็ตรงมายังห้องชมรมทันทีในขณะที่เดินเกือบจะถึงผมก็ได้ยินคุนิมิกับฮินาตะคุยกันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเดินพูดโพ่งออกไปด้วยน้ำเสียงกร้าวทำให้คนตัวเล็กหน้าถอดสีแล้ววิ่งออกจากห้องไป
“รุ่นพี่ทำไมถึงไปตะหวาดใส่ฮินาตะอย่างนั้นละ ก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอว่าหมอนั้นขวัญอ่อน”คุนิมิเอ่ยแล้วเดินออกไป
“เป็นอะไรไปอิวะจังมายืนเอ๋ออยู่หน้าประตู”โออิคาวะเอ่ย
“นี้โออิคาวะ ฉันนิสัยไม่ดีงั้นเหรอ”ผมเอ่ยถามคนมาใหม่
“ห๊า !! อะ อิวะจัง เป็นไข้รึเปล่า ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า รึว่า ไปล้มหัวฟาดพื้นมา”โออิคาวะเอ่ยถามพลางเขย่าตัวผมแล้วสำรวจว่ามีมีแผลตรงไหนแล้วก็เอมือมาแตะที่หน้าฝาก
“ฉันไม่ได้เป็นไข้ แล้วก็หัวไม่ฟาดพื้นด้วย แค่ไม่เข้าใจตัวเองว่าหงุดหงิดอะไรเท่านั้นเอง”
“เฮ่ !! หงุดหงิดใครละอิวะจัง”โออิคาวะพูดด้วยท่าทีสนใจ
“ฮินาตะนะสิ”ผมพูดในขณะที่เดินเอากระเป๋าไปเก็บที่ล๊อคเกอร์
“เฮ่ !! นี้ ๆ อิวะจังลองจิตนาการตามที่ฉันบอกดูนะ”โออิคาวะเอ่ย
“จิตนาการ!? ทำไมอะ??”ผมถาม
“เถอะน่า หลับตาเร็วสิ”โออิคาวะพยายามคะยั้นคะยอให้ผมหลับตาแล้วผมก็ทำตามที่หมอนั้นบอก
“หลับตาแล้วจะให้จิตนาการแบบไหนว่ามา”ผมถามโออิคาวะ
“งั้นก็เอาเป็นว่าลองจิตนาการนะว่าถ้าเกิดวันนึงนายรูว่ามีผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้หลอกอินาตะไปเขมือบนายจะรู้สึกยังไง”ในขณะที่ผมกำลังฟังโออิคาวะพูดไปเลื่อยๆภาพในหัวก็ค่อยๆผุดขึ้นมา
พรึบ
ผมลืมตาหันไปมองโออิคาวะทันที “ไอบ้านี้ให้ฉันจินตนาการอะไร”ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยว
“บอกฉันมาสิว่านายรู้สึกยังไงหรือว่าอยากทำอะไรบ้าง”โออิคาวะเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง
“ยังไงนะเหรอก็อยากฆ่ามันทิ้งนะสิต่อยมันสักหมัด 2 หมดคงจะไม่พอใจหรอก”ผมพูดด้วยอารมณ์ที่เดือดพล่าน
“อ่า ฉันว่านายคงเป็นเอามากแล้วละอิวะจังไปสารภาพรักกับฮินาตะตรง ๆเลยไม่ดีกว่าไง”โออิคาวะเอ่ย
“หมายความว่าไง”ผมมองหน้าโออิคาวะงงๆ
“ก็อิวะจังชอบจิบิจังขนาดนั้นแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”ผมนิ่วหน้ามองโออิคาวะที่กำลังเดินไปที่ล๊อคเกอร์ของตัวเอง
“ฉันกับฮินาตะเป็นผู้ชายนะโว้ย !! แล้วฉันก็ชอบผู้หญิงด้วยผมตะโกนออกไปเสียงดัง
“เฮ้อ !! ไอผู้ชายหัวแข็งเอ้ย ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ ถ้าฮินาตะโดนอีกาตัวไหนคาบไปกินอย่าหาว่าฉันไม่เตือนละกัน”พูดจบโออิคาวะก็เดินออกไปเหลือผมคนเดียวในห้องชมรม
“โออิคาวะซังกับอิวาอิสึมิซังทำอะไรกันอยู่น่ะวันนี้มาช้าจัง”คาเงยามะเอ่ย
“เดี๋ยวก็เองนั้นแหละ”คินไดจิพูด
“ไงฮินาตะ เป็นไงบ้าง”ชายร่างเล็กตัวเตี้ยวกว่าผมนามว่านิชิโนยะซังเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางสบายๆ
“เรื่อย ๆ ครับโนยะซังผมยังรับลูกได้ห่วยอยู่เลย”ผมเอ่ยจากนั้นโนยะซังก็หัวเราะชอบใจแล้วตบที่ไหล่ผมเบาๆแล้วพูดว่า
“ของแบบนี้ใช่ว่าทำแค่วัน 2 วันจะเก่งได้เลยที่ไหนละ ไปซ้อมกันดีกว่าเดี๋ยวฉันสอนเทคนิคเพิ่มให้”แล้วโนยะก็ลากผมไปซ้อม
“ยืนทำอะไรอยู่ละนาย 2 คน ไปซ้อมได้แล้ว”เสียงเข้มๆของโค้ชดังขึ้น
“ครับ”จากนั้นทุกคนก็ซ้อมกันอย่างขะมักเขม้น ผมรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆเมื่อโออิคาวะซังและอิวาสึมิซังเดินเข้ามาในโรงยิม การซ้อมก็ดำเนินไปตามปกติแต่บรรยากาศแปลกๆนี้มันอะไรกันมันทำให้ผมรู้สึกอึกอัดชะมัดเลย รู้สึกว่าอยากจะออกจากยิมไปซะเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ
“เฮ่ !! โชวโยหน้าซีดมากเลยเป็นอะไรไปไม่สบายตรงไหนรึเปล่า”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ผม...ไม่เป็นอะไรครับโนยะซัง”ผมพูดออกไปเพราะไม่อยากให้รุ่นพี่เป็นห่วง
“มีอะไรงั้นเหรอนิชิโนยะ”เอนโนชิตะเดินเข้ามาถามโนยะซัง
“ก็โชวโยนะสิชิคาระหน้าซีดขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นอะไรอยู่อีก”โนยะซังพูดจบเอนโนชิตะซังก็หันมามองผมทันที
“ฉันว่านายขอโค้ชกับก่อนจะดีกว่าสีหน้านายไม่ค่อยดีเลยเพื่อตัวของนายเองด้วย”เอนโนชิตะเอ่ย
“เอ๊ะ !! แต่ว่า...”ผมยังไม่ทันได้แย้งอะไรโนยะซังก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
“ไม่มีแต่ทั้งนั้น นายสำคัญกับทีมมากนะดูแลตัวเองให้มากกว่านี้สิ”เรื่องนั้นผมก็รู้อยู่หรอกแต่ว่ายิ่งทุกคนลุมห่วงผมรู้สึกกว่าผมยิ่งอึดอัดมากกว่าเดิมอีกนี้มันเพราะอะไรกัน
“งั้นผมกับก็ได้ครับ”เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องห่วงผมผมจึงตัดสินใจกลับบ้านแล้วผมก็เดินไปขอโค้ชเมื่อโค้ชเห็สีหน้าผมก็ตกใจเอามาก ๆแล้วให้ผมรีบกับบ้านทันที
“เพราะนายคนเดียวเลยนะอิวะจังเอาแต่จ้องแล้วก็แผ่รังสีดำมืดอยู่ได้อยู่รู้อยู่นิว่าจิบิจังขวัญอ่อน”โออิคาวะเอ่ยเมื่อเห็นเอนโนชิตะและนิชิโนยะพาฮินาตะไปที่ห้องชมรมแล้ว
“ใคร ใครกันฉันไม่ได้แผ่รังสีไม่ได้จ้องอะไรใครเลยนะ”ผมปฏิเสธข้อกล้าวหา
“เหรออออ”โออิคาวะมองผมด้วยหางตาแล้วหันไปหาคินไดจิ “เฮ่ คินไดจิถ่ายคลิปไว้ใช้เปล่าเอามาเปิดให้เจ้าบ้านี้ดูดิว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง”
“เอ๊ะ !! คลิป!? คลิปอะไรอะ??”แล้วคลิปก็ถูกเปิดจากมือถือของคินไดจิ
เผี๊ยะ
มือหนาตบลงมาที่ไหล่ของผมแรงๆ 1 ที
“อั๊ก !! เจ็บ”
“เห็นรึยังว่านายมองฮินาตะด้วยสายตาแบบไหน ลองคิดสิคนถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นจะคิดยังไง”โออิคาวะตะหวาดใส่ผม
“อะ อ่า”ผมพยักหน้าเบาๆ
“ไปขอโทษฮินาตะด้วยละอิวะจัง”โออิคาวะพูดด้วยน้ำขุ่นก่อนจะเดินห่างออกไป
“ผมเพิ่งเคยเห็นโออิคาว่าโกรธนี้และ”คุนิมิเอ่ย
“ฉันก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน”คินไดจิเอ่ย
“แต่ฉันเคยเห็นนะ ตอนอยู่ ม.ต้น ตอนที่โออิคาว่าซังทะเลาะกับอิวาอิสึมิซังเรื่องอะไรซักอย่างในโรงยิมหลังซ้อมเสร็จตอนเย็น”คาเงยามะพูดขึ้น
“เอ๊ะ !! นายเห็นด้วยเหรอ”อิวาอิสึมิเอ่ยถามด้วยความตกใจเล็ก ๆ
“อ่า ครับ ผมกำลังจะกลับบ้านพอดีเลยได้เห็นนิดหน่อย”คาเงยามะพูดจบก็เดินไปซ้อมต่อ
“อ่า ฉันขอกลับก่อนดีกว่า”ผมหันไปบอกคุนิมิกับคินไดจิแล้วเดินไปหาโค้ชเพื่อขอกลับก่อนแล้ววิ่งออกมาจากโรงยิม
หลังจากที่ผมขอโค้ชกลับก่อนผมก็ตรงกลับหอพักทันที “อ่า รู้สึกอึดอัดชะมัดเลย ทำไมอิวาอิสึมิซังถึงได้มองเราด้วยสายตาน่ากลัวแบบนั้นนะ”พูดจบผมก็ล้มตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม ๆ ขนาด Single size แต่สำหรับตัวผมมันก็ยังคงใหญ่อยู่ดี “เหนื่อยชะมัดนอนสักงีบดีกว่าค่อยออกไปหาอะไรกิน”พูดจบผมก็ค่อยๆหลับตาลงแล้วก็หลับในความรู้สึกของผมเวลามันผ่านไปไวมากผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตู
ก๊อก ๆ ๆ
“ครับ ๆ มาแล้วครับ”ผมเสียงในขณะที่ตัวผมค่อยๆย่างก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดก่อนจะออกไปที่ประตู
แอ๊ด
ผมเปิดประตูเพื่อทีจะดูผู้มาเยือนในระหว่างที่กำลังเปิดเสียงฝนตกก็ดังขึ้นมาก่อนที่เสียงผู้มาเยือนจะดังขึ้น “มาเปิดช้าชะมัดเลยฉันยืนหนาวอยู่นี้นานแล้วนะ ฮัดชิ้ว !!”
“เอ๊ะ !! อิวาอิสึมิซัง ทำไม???”ผมพูดด้วยน้ำเสียงตกใจไม่คิดว่าเขาจะมายืนอยู่หน้าห้องผม
“จะฉันเข้าไปได้ยัง หนาวจะตายอยู่แล้ว”อิวาอิสึมิเอ่ยเสียงสั่น ร่างกายสูงใหญ่ยืนสั่นอยู่หน้าห้องผมเนื้อตัวเปียกไปหมด
“อ๊ะ !! เชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ”แล้วผมก็ให้อิวาอิสึมิเข้ามาในห้อง “รออยู่ตรงนี้แปบนึงนะครับเดี๋ยวผมไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้”พูดจบผมก็วิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้อิวาอิสึมิซัง “เข้าไปข้างในเถอะครับผมจะชงอะไรร้อน ๆให้ดื่ม”ผมเอ่ยก่อนจะเดินนำเข้าไปที่ห้องแล้วปลีกตัวเข้าไปในครัวแล้วเดินออกมาพร้อมกับโกโก้ร้อน 1 แก้ว “นี้ครับ”ผมวางแก้วโกโก้ลงตรงหน้าอิวาอิสึมิซัง
“ขอบใจ”อิวาอิสึมิเอ่ยก่อนจะเลื่อนแก้วโกโก้ไปใกล้ๆ
“เดี๋ยวมไปหาเสื้อมาให้เปลี่ยนนะครับ ใส่เสื้อผ้าแบบนั้นคงจะได้หวัดกินแน่ ๆเลย”ผมรีบร้อนวิ่งเข้าห้องไป
หลังจากที่ผมขอโค้ชกับก่อนผมก็ตรงมายังหอพักที่ฮินาตะอยู่แต่ระหว่างทางฝนก็ตกลงมาซะเฉยๆกว่าจะถึงหอพักที่ฮินาตะอยู่ก็ทำเอาผมเปียกทั้งตัวจนตอนนี้ก็ยังคงตกอยู่และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในขณะที่ผมนั่งดื่มโกโก้ร้อนที่ฮินาตะชงให้ฮินาตะก็เอาเสื้อผ้ามาให้ผมเปลี่ยน
“นี้ครับ เสื้อแล้วก็นี้กางเกงครับผมไม่รู้ว่าคุณใส่ไซต์ไหนเลือกเอาแล้วกันครับ”ชายร่างเล็กเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับเสื้อ 1 ตัวและกางเกงประมาณสัก 4-5 ตัวได้ก่อนจะส่งมาให้ผม “ห้องน้ำอยู่ซ้ายมือนะครับ”เสียงเล็ก ๆเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปในครัว แล้วผมก็เดินเข้าห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับเปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อย
“ขอบใจนะ”ผมเอ่ย
“เอ่อ คือว่า...”เสียงเล็กเอ่ยก่อนจะหันมามองผม “วันนี้...จะค้างที่นี้มั้ยครับ”ฮินาตะเอ่ยถาม
“เอ๊ะ !!”ผมอุทานด้วยความแปลกใจ
“ก็ฝนมาดูท่าว่าจะตกไม่หยุดนี้ครับ”ร่างเล็กมองออกไปนอกหน้าต่าง
“เอ่อ จะว่าไปมันก็ใช่ละนะ”ฝนตกไม่ยอมหยุดแล้วก็ดูท่าว่าวันนี้จะคงตกทั้งคืน “ว่าแต่เสื้อผ้าพวกนี้ของใคร ดูจากตัวนายแล้วมันดูใหญ่เกินไป”ผมเอ่ยถามฮินาตะ
“ก็ของผมนั้นแหละครับ ตัวมันใหญ่เพราะส่วนใหญ่คนอื่นเขาซื้อมาให้จะปฏิเสธก็เกรงใจก็เลยเอามาใส่เป็นชุดนอน”ฮินาตะเอ่ย จะว่าไปตัวที่ฮินาตะใส่ตอนนี้ก็ใหญ่อยู่นะ
“งั้นเหรอเพราะนายตัวเล็กนี้นะ”ผมพึมพำเบาๆ
“แล้วมาหาผมมีอะไรเหรอครับ”ฮินาตะเอ่ยถามพลางนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผม
“เอ่อคือว่า ฉันจะมาขอโทษนายที่ทำให้นายกลัว”
“อ๋อ เรื่องนั้นเหรอครับ ช่างมันเถอะ ผมไม่เป็นอะไรหรอก”คนตัวเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆดูไม่ค่อยจะใส่ใจอะไรแต่แววตากลับตรงข้างกับสิ่งที่พูดมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่อกซ้ายยังไงชอบกล
ไม่ชอบเลยมันเพราะอะไรกัน
ในขณะที่ผมคิดคำพูดของโออิคาวะก็ผลุดขึ้นมาในหัว ‘ก็อิวะจังชอบจิบิจังขนาดนั้นแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ’
เดี๋ยวนะฮินาตะเป็นผู้ชายนะฉันจะชอบหมอนั้นได้ไงกัน
และในขณะที่ผมนั่งคิดนั้นคิดนี้อยู่ก็มีคนมาเคาะประตูเรียกฮินาตะหน้าห้อง
“เดี๋ยวผมมานะครับ”แล้วร่างเล็ก ๆก็ลุกออกไป เสียงพูดคุยกันหน้าห้องดังเข้ามาถึงในห้องก่อนที่ฮินาตะจะเดินกลับเข้ามาพร้อมกับถุงอะไรสักอย่าง
“ใครงั้นเหรอ”ผมเอ่ยถาม
แล้วทำไมถึงถึงได้อยากรู้ละวะเนี้ย
“เจ้าของหอพักครับ วัตถุดิบทำอาหารมันหมดแล้วผมก็เลยสั่งซื้อจากเจ้าของหอเพราะบ้านของเขาทำสวนผักผลไม้”ฮินาตะเอ่ยพลางยกถุงที่เต็มไปด้วยผักและผลไม้ขึ้นมาให้ผมดู
“งั้นเหรอ”ผมพยักหน้าในขณะที่ในใจยังคงเกิดความวุ่นวายเมื่อความคิดของผมมันกำลังตีกัน
“เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าตาซีเรียสจัง”ฮินาตะเอ่ยถามพลางวางจานอะไรสักอย่างลงตรงหน้าผม “แต่มันก็เรื่องของคุณนี้นะ อะนี้ !! กินสิครับ ผมไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆลงไปหรอกแต่ไม่รับรองนะว่ารสชาติจะถูกปากคุณ”ฮินาตะพูด
“ขอบใจ”ผมพูดก่อนจะมองลงอาหารตรงหน้าผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร หน้าตามันคล้ายๆข้าวผัดนะแต่มันมีแซลมอนแล้วก้เทมปุระวางอยู่บนข้าวด้วยแถมมีผักสดอีกต่างหาก
“ทำเองเหรอ”ผมเงยหน้าถามคนตัวเล็กที่หน้าอยู่ตรงข้ามผม
“ครับ หน้าตามันพิลึกสินะ ถ้ากลัวท้องเสียก็ไม่ต้องกินก็ได้นะ”ฮินาตะเอ่ยก่อนจะตักข้าวผัดใส่ผักห่อๆแล้วเอาเข้าปาก
“มันกินแบบนั้นงั้นเหรอ”ผมถาม
“แล้วแต่เลยครับ ไม่ได้จำกัดวิธีกินไว้หรอก”คนตัวเล็กเอ่ย งั้นผมก็ลองบ้างแล้วกันจากนั้นผมก็เลียกแบบวิธีกินของฮินาตะแล้วก็เอาเข้าปากแล้วก็ต้องตกใจกับความอร่อยที่ไม่เคยได้กินที่ไหนมาก่อน
“อร่อยนี้ถึงวิธีกินมันจากแปลกๆก็เถอะ”ผมพูด
ฮินาตะยิ้มแล้วก็หัวเราะด้วยสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนจะว่ายังไงดีละมันน่ารักมากน่ารักเกิ๊นไปแล้วละจะทำไงดีละทีนี้ ผมไม่อยากให้ใครได้เห็นเลยอยากจะเก็บไว้คนเดียว
“นี้ฮินาตะเคยมีแฟนรึเปล่า”ผมถามออกไปฮินาตะชะงักเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม
“ไม่เคยหรอกครับใครจะมาชอบคนอย่างผมเตี้ยก็เตี้ยเรียนก็ไม่เก่งแถมยังทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องไปซะหมด”ฮินาตะพูดด้วยน้ำเสียงตักพ้อ
“ใช่ที่ไหน นายก็ทำอาหารอร่อยออกนี้”ผมพูด
“อ่า ผมไม่เคยทำอาหารให้ใครกินหรอกครับนอกจากคนที่บ้าน”ฮินาตะเอ่ยทำเอาใจผมเต้นโครมครามขึ้นมามันทำให้ผู้รู้สึกว่าผมเป็นคนพิเศษกลายๆ
“งั้นฉันก็คนอื่นคนแรกที่ได้กินฝีมือนายสินะ”ผมเอ่ย
“เอ๊ะ !! อ่า ก็ใช่นะครับคุณเป็นคนแรก”ฮินาตะเงยหน้ามองผมแล้วในแก้มขาวๆก็ดูมีเลือดฝาดขึ้นทันทีก่อนจะก้มลงกินต่อ
“ฮินาตะ”ผมเรียกคนตัวเล็ก
“ครับ”เสียงเล็ก ๆขานรับ
“ช่วยคบกับฉันได้รึเปล่า”ผมเอ่ยถามอย่างไม่ลังเล
“เอ๊ะ !! เอ่อคือว่า...”หน้าของฮินาตะแก้งละลื่นขึ้นมาทันทีนี้มันอะไรกันช่างเป็นคนที่อารมณ์ทุกอย่างออกมาททางสีหน้าหมดเลยว่าว่าจะกลัว จะอาย จะเขิน จะดีใจ หรือจะชอบ “...อิวาอิสึมิซังชอบผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม??”ฮินาตะทำสีหน้าแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เยี่ยมไปเลย
“ไม่รู้สินายคงเป็นข้อยกเว้นละมั่ง”
“คือว่านะครับ ผมเห็นคุณโดนผู้หญิงปฏิเสธวันนี้ด้วยนะ”ฮินาตะเอ่ยทำเอาผมตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าจะมีคนเห็น “ขอโทษนะครับผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังเลยนะ”คนตัวเล็กร้อนรนขอโทษ
“งั้นเหรอเห็นด้วยสินะให้เห็นอะไรหน้าอายๆไปซะแล้วสิ”
“ขอโทษนะครับผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังเลยนะ”ฮินาตะพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดดวงตากลมโตสีส้มอมทองไหวละริกทำเอาผมอยากจะแกล้งขึ้นมาทันที
“แล้วคำตอบละ”ผมทวงคำตอบที่ถามไปเมื่อครู่
“อ่า เรื่องนั้น มันก็...”ฮินาตะทำท่าทางคิดและดูเหมือนว่ากำลังลำบากใจว่าจะตอบยังไงดีสายตาชำเลืองมองผมด้วยท่าทางหวั่นวิตก “คุณก็มีคนที่ชอบอยู่ไม่ใช่เหรอทำไมถึงมีขอผมคบละ”เหมือนว่าฮินาตะพยายามจะเลี่ยงตอบคำถาม
“ก็ตอนนี้ฉันชอบนายนิ ฉันอยากคบกับคนที่ชอบตอนนี้ไม่ได้เหรอ”ผมพยายามคาดคั้นเอาคำตอบ
“เอ๊ะ !! คนที่ชอบ... ผม...งั้นเหรอ ผมคิดว่าอิวาอิสึมิซังเกลียดผมซะอีก ก็เห็นชอบมองผมด้วยสายตาหน้ากลัว”ฮินาตะเอ่ยถามด้วยสีหน้างงๆ
“งั้นเหรอแล้วว่าไงคำตอบ”ผมเอ่ยแล้วเดินอ้อมโต๊ะไปหาคนตัวเล็กที่นั่งทำอะไรไม่ถูกก่อนจะสวมกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน ทำไมเป็นคนที่ดูบอบบางจังเลยตัวเล็กกว่าใครคนไหนที่ฉันเคยคบ
“ผม...ไม่ตอบได้รึเปล่า”เสียงเล็ก ๆเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“เอ๊ะ !! ได้ไงกันก็ฉันอยากรู้นี้นาบอกหน่อยนะ นะ”ผมอ้อนเพราะอยากแกล้งคนตัวเล็กแต่ดูเหมือนว่าฮินาตะจะทำอะไรไม่ถูกเลยเมื่อโดนออดอ้อน หรือว่าจะแพ้ทางคนแบบนี้กันนะ
“เออ คือว่า...”ฮินาตะค่อยๆพูดออกมาช้า ๆ “...ช่วยปล่อยผมก่อนได้มั้ยครับ”คนตัวเล็กดูท่าทางประหม่า
“ทำไมละ??”ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นฮินาตะกำลังประหม่า ช่างเป็นคนที่หน้าแกล้งซะจริงแหย่นิดเดียวก็หน้าแดงแล้ว
“คือว่า....”ฮินาตะอ้ำอึ้งไม่ยอมตอบผมสักที
“งั้นเปลี่ยนคำถามดีกว่า”ผมตัดสินใจเปลี่ยนคำถามใหม่ “ฮินาตะนายชอบฉันรึเปล่า”ผมถามโดยไม่ลังเลในขณะที่แขนทั้ง 2 ข้างยังคงโอบกอดฮินาตะเอาไว้
“เอ๊ะ !! เอ่อ...ผมก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะครับ แต่ชอบรึเปล่านี้ผมก็...ยังไม่รู้เหมือนกัน”ฮินาตะตอบเสียงแผ่วดูไม่ค่อยมั่นใจ
“งั้นเหรอแต่ฉันคงรอจนถึงวันที่นายมั่นใจไม่ไหวหรอก ฉันขอลองทดสอบดูหน่อยนะ”ไม่ทันที่ฮินาตะจะได้เอ่ยถามผมก็ฉวยโอกาส
จุ๊บ
“อุ๊บ !! อื้อ !!”ฮินาตะร้องท้วงในลำคอ ผมค่อยๆบดขยี้ริมฝีปากของฮินาตะทีละน้อยก่อนจะตะวัดลิ้นเย้าหยอกก่อนจะผละออกช้า ๆ เนื้อตัวของฮินาตะสั่นสะท้านเมื่อโดนผมสัมผัสดวงตากลมโตที่จ้องมองผมหยาดเยิ้มดูหน้าหลงใหล
หมับ
ผมช้อนตัวฮินาตะขึ้นมาอุ้ม “ฉันคงทนไม่ไหวถ้านายโดนใครสักคนแย่งไป”ผมเอ่ย
“อิวาอิสึมิซังวางผมลงเถอะ”ฮินาตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ตื่นกลัว
“บอกฉันได้รึยัง”ผมยังไม่ละความพยายาม
“เอ่อคือว่า...”ฮินาตะเงยหน้ามองผมดวงตากลมโตไหวระริกก่อนจะก้มหน้าลง”...ผม...ชอบคุณครับ”เสียงอันแผ่วเบาเอ่ยออกมาแต่ถึงจะเบาแค่ไหนผมก็ยังคงได้ยิน
“แล้วจะยอมคบกับฉันได้รึยัง”
“เอ๊ะ !! เอ่อ...ครับ”ฮินาตะพยักหน้าเบา ๆ ด้วยท่าทางเขินอาย
“นายนี้ น่ารักจริงๆเลย”ผมกอดฮินาตะก่อนจะซุกไซ้ไปตามซอกคอขาว ๆ เนียน ๆ น่ากินชะมัด
“เอ่อ คือว่าผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ”เสียงเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูกังวล
“กลัวอะไร ฉันเองก็ยังไม่ได้อาบ”ผมเอ่ยก่อนจะนึกอะไรออกแล้วหันไปยิ้มให้ร่างเล็กที่ผมกอดอยู่ “จะว่าก็ไปอาบด้วยกันเลยดีกว่า”ฮินาตะไม่ทันได้โต้แย้งอะไรร่างเล็ก ๆก็ถูกผมอุ้มขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็เดินตรงไปยังห้องอาบน้ำ
ซ่า
เสียงน้ำอุ่น ๆจากฝักบัวถูกเปิดไว้ให้ไหลไปตามเลือนร่างของผมและอิวาอิสึมิซังก่อนจะตกกระทบพื้นควันไอน้ำลอยคะคุ้งเต็มห้อง
“อ๊ะ อื้อ ดะเดี๋ยวสิครับ อิ อิวาอิสึมิซัง”ผมพยายามขัดขืนมือหนา ๆที่ลูบไล้ไปตามตัวของผมมือของร่างสูงค่อย ๆไล้ลงไปเลื่อยๆ
“หือ”อิวาอิมิไม่ได้ฟังเสียงห้ามของผมมยังคงลูบไล้ผิวกายผมต่อ “ฉันกลัวนะ กลัวว่าคนอื่นจะแย่งนายไป อยากทำให้นายเป็นของฉันคนเดียวไว ๆ”อิวาอิสึมิซังกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะจับตัวผมหมุนให้ผมหันหน้าเข้าหาเขาร่างสูงค่อยก้มหน้าลงมาประทับจูบอย่างอ่อนโยน
“อิวา อิสึมิซัง ผมไม่ไหว แล้วนะครับ”ผมเอ่ย
“อะไรไม่ไหวงั้นเหรอ”ร่างสูงถามผม
ฟุบ
ผมซบหน้าลงบนอกกว้าง “เวียนหัว ไม่ไหวแล้ว”ผมเอ่ยขาทั้ง 2 ข้างของผมเองก็ดูเหมือนจะหมดแรงค่อยๆทรุดลงแต่ทว่า...
“อ่า งั้นไปทำในห้องแล้วกัน”ร่างสูงพูดพลางเอื้อมมือไปปิดฝักบัวหยิบผ้าเช็ดตัวมาคุมให้ผมแล้วอุ้มผมเดินออกจากห้องน้ำ
“ขอโทษที ฉันรีบร้อนมากไปสินะ”อิวาอิสึมิซังอุ้มผมจนเดินมมาถึงเตียงด้วยสีหน้าดูกังวลอะไรบางอย่าง ผมค่อยๆยกแขนทั้ง 2 ข้างกอดคล้องคอร่างสูง
“ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนี้ครับ”ผมเอ่ยก่อนละเลื่อนมือมาลูบไปตาใบหน้า “ผมก็ไม่เคยมีแฟนหรอกนะ ไม่รู้ด้วยว่ารักคืออะไร ไม่รู้ว่าเป็นแฟนกันเขาต้องทำอะไรบ้างแต่ถ้าคุณคิดว่าเป็นผมดีแล้วละก็ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าคุณจะทำอย่างว่ากับผม”
ผมยืนอึ้งอยู่สักพักเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากฮินาตะ ทำเอาผมอดที่จะดีใจไม่ได้ “นี้ฮินาตะรู้รึเปล่าว่าเมื่อกี้พูดอะไรออกมา”ผมเอ่ยถามชายร่างเล็กที่ผมกำลังอุ้มอยู่
“รู้ครับ”ฮินาตะพดออกมาอย่างไม่ลังเลด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
“ให้ตายสิ อย่าได้ไปเที่ยวพูดแบบนี้กับคนอื่นเชียวนะ”พูดจบแล้วผมก็วางร่างของฮินาตะลงบนเตียง
ฟุบ
หนุ่มน้อยแย้มยิ้มด้วยท่าทางน่ารักดวงตากลมโตเป็นประกายจ้องมองผมก่อนจะพูดว่า “รับทราบ”เป็นใบหน้าที่ชวนให้หลงใหลจริง ๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะชอบเด็กคนนี้ได้มากขนาดนี้ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้ตัวเลยว่าผมหึงเวลาฮินาตะอยู่ใกล้กับคนอื่น ผมอยากให้ฮินาตะเป็นของผมแค่คนเดียว
“นี้ฮินาตะ ฉันขอโทษนะที่มองนายด้วยสายตาหน้ากลัว ฉันน่าจะรู้ตัวให้ไวกว่านี้”ผมค่อยนั่งลงบนเตียงในขณะที่ฮินาตะก็ค่อย ๆใช้แขนยันตัวลุกขึ้นแล้วขยับมาใกล้ ๆฝ่ามือเล็ก ๆเอื้อมมาประคองหน้าผมก่อนที่ริมฝีปากเล็ก ๆดูน่าทะนุถนอมประทบลงบนหน้าผากของผม ทำเอาใจของผมแทบจะกระโดดออกมาเต้นข้างนอกได้เลย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณก็ขอโทษผมแล้วนี้นะ”ฮินาตะเอ่ยพร้อมกับกอดผมไว้ ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับมาจากคนตัวเล็กก่อนจะผละออกช้า ๆแล้วจับหน้าผมให้แหงนขึ้น “คุณชอบผมใช่มั้ย ทำมันกับผมสิ ตอนนี้ผมอยากให้คุณทำให้ผมเป็นของคุณทั้งหมดเลย”ฮินาตะกระซิบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเย้ายวน
“นี้รู้บ้างมั้ยว่าพูดอะไรออกมา ถ้าฉันควบคุมตัวเองไม่อยู่นายจะแย่เอาได้นะฮินาตะ”ผมเอ่ย
“ไม่เห็นไปไรเลยนิครับ รึว่าคุณไม่อยากทำ”ฮินาตะพูดพร้อมกับยิ้มยั่ว
“ใครบอกว่าฉันไม่อยากละ”ผมพูดจบก็กระชากผ้าเช็ดตัวออกจากร่างของฮินาตะก่อนจะกดร่างเล็ก ๆให้นอนราบกับเตียง “พรุ่งนี้ลุกไม่ไหวอย่ามาบ่นละ”ผมพูดจบก็กดริมฝีปากลงบนเลือนร่างของฮินาตะสำรวจร่างกายของคนตัวเล็กทุกซอกทุกมุม ยิ่งผมได้สัมผัสกับเลือนร่างของฮินาตะก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าความต้องการของในตัวของเขามันไม่ที่สิ้นสุด เสียงครางกระเส่าดังขึ้นไม่มีที่ท่าว่าผมจะหยุด อยากจะทำมากกว่านี้แต่ด้วยความง่วง เหนื่อยและล้า ผมกับฮินาตะก็หลับ
เช้าวันต่อมา
ผมรู้สึกว่ามีอะไรขยับยุกยิก ๆอยู่ตรงหน้าอก ผมค่อยลืมตามองร่างเล็ก ๆกำลังขยับยุกยิก ๆด้วยความเย็นของอากาศตอนเองทีนี้ ผมสีส้มนุ่มฟูดูเหมาะกับผิวขาวเนียนอมชมพูดูเป็นธรรมชาติใบหน้าตอนหลับก็ยังคงน่ารักไม่เปลี่ยน แล้วก็ริมฝีปากอมชมพูเล็ก ๆนั้นทุกอย่างของเขาผมได้มันมาครอบครองหมดแล้ว“เหมือนฝันเลยแฮะ”ผมพึมพำกับตัวเอง
“อื้อ !! เช้าแล้วเหรอครับ”เสียงเล็ก ๆเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพล่า
“อื้อ แต่นอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ”
“แล้วข้าวเช้าละครับ”ฮินาตะเอ่ยถาม
“ไม่ต้องกินก็ได้ฉันอยากอยู่แบบนี้ก่อน”
“ไม่ได้นะ เป็นนักกีฬาต้องดูแลตัวเองหน่อยสิ”ฮินาตะพูดเสียงดุต่อนจะลุกออกจากเตียงอย่างยากลำบาก “อุ๊ย !! เจ็บ”
“ให้ฉันอุ้มไปมั้ย ??”ผมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกฮะแค่ห้องครัวเองพอเดินไหวอยู่”ฮินาตะหันมาพูดแล้วยิ้มให้ผม “อ๊ะ !! จริงสิ”ฮินาตะทำท่าเหมือนเขาจะนึกอะไรออกแล้วหันมามองผมก่อนจะกวักมือให้ผมเข้าไปใกล้ ๆ ในขณะที่ผมกำลังขยับไปใกล้ฮินาตะก็เลื่อนใบหน้าลงมาใกล้ผมก่อนที่...
จุ๊บ
ฮินาตะกดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของผมแปบเดียวแล้วผละออกพร้อมกับพูดว่า“อรุณสวัสดิ์ฮะ My ฮาจิเมะ”พูดจบคนตัวเล็กก็ยิ้มหวานให้ผมก่อนจะเดินไปหยิบเชิ้ตตัวใหญ่สีขาวมาใส่แล้วเดินออกไปจากห้อง มันช่างเป็นเช้าที่มีค่ามากเลย ผมไม่เคยมีแฟนน่ารักขนาดนี้มาก่อนถ้าฮินาตะเป็นผู้หญิงละก็คงเป็นภรรยาในอุดมคติของหลายๆคน ทั้งน่ารัก ทั้งหวานแถวซ้อนเปรี้ยวเล็ก ๆ แอบมีมุมเซ็กซี่หน่อยๆ อ้อนก็เก่ง เอาใจก็เก่ง ยั่วถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ยังเก่ง อยากจะจับกดอีกจังเลย
“เฮ้อ !! จากนี้ฉันคงต้องหนักใจในหลายๆเรื่องเลยสินะ”พูดจบผมก็เดินออกจากห้องนอนเพื่อใจไปอ้อนคนรักที่กำลังทำอาหารให้ผมกิน รู้สึกว่าผมเป็นคนที่โชคดีจัง
ว่าแต่ผมไปตกหลุมรักฮินาตะตั้งแต่เมื่อไรกัน...??
Happy Ending
ตอนต่อไปเคนมะนะคะ
อยากได้คู่ไหนรีเควสมาเลย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ร้ายกาจนักนะ!!!555
อยากให้ฮินาตะคู่กับสึกะซังจังถ้าได้จะดีใจมากเลยค่ะ
ถ้าเห็นแล้วทำให้ได้จะดีใจ?2เลย
ถ้าคิดไม่ออกมาถามได้ ตอนนี้แต่งเกี่ยวกับความรักอยู่ถึงจะเป็นชายหญิงก็เถอะ แต่ที่จริงเป็นสาวy