ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Magis blade:First destiny

    ลำดับตอนที่ #1 : ฟิโอเน่ แองเจิ้ลไลฟ์

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 49


       เฮ้ย!ตื่นได้แล้วโว้ย
     
    เงียบ
     
    ถ้าชั้นพูดอีกครั้งเดียว
     
    ยังเงียบ
     
    ..........................................
     
    "ว้าย!ร้อน ร้อน นี้พ่อปลุกแบบคนธรรมดาหน่อยได้ไหม~~"เสียงหวานตวาดใส่พ่อซึ่งตอนนี้เอาไฟแช็กมาลนใส่กางเกงของเธอ

     ช่วยไม่ได้ชั้นปลุกแบบคนธรรมดาแกก็ไม่ตื่น"คนโดนตวาด ตวาดกลับ
     
    "แต่นี่มันตัวที่สิบสามที่โดนพ่อเผาจนเป็นรูแล้วนะ"
     
    "ไม่ต้องพูดมากรีบลุกไปอาบน้ำแปรงฟันได้แล้ว"แล้วคนสั่งก็หันหลังเดินออกจากห้องไป

     "แบร่"คนถูกสั่งแลบลิ้นก่อนจะพล็อยหลับลงไปอีก

     "เอ~~~ชั้นจำได้ว่าต้มน้ำร้อนไว้นี้หว่าวันนี้เอามาสาดคนกินบ้านกินเมืองดีกว่า"
     
    "อ้ายตื่นก็ได้ตื่นก็ได้ ยอมแล้ว~~~"เจ้าคนหลับสะดุ้งโหยงลุกจากเตียงทันที

     บัดนี้คนที่ตื่นมา ช่วงบนเปลือยเปล่า มีหน้าอกนิดหน่อยถ้าไม่มองดีๆจะเห็นว่ามันแบนลาบ ไม่ใช่เพราะถูกใครที่ไหนรุมข่มขืนมา แต่มันเป็นปกติของสาวน้อยวัย 15 ปีนาม ฟิโอเน่ แองเจิ้ลไลฟ์ เพราะเกาะทางใต้มันช่างร้อนดีจริงๆใบหน้ารูปไข่ผมยาวเหยียดตรงสีเหลืองออกทองๆตวงตาโตสีฟ้า ซึ่งบัดนี้ผมยุ่งหน้างัวเงีย ซึ่งทำให้ดูสวยไปอีกแบบ ตาหรี่เนื่องจากแสงสุริยะยามเช้าส่องลอดหน้าต่างเข้ามา สภาพคนพึ่งตื่นนอนไม่มีผิด
     
    "ถ้าชั้นนับ3แล้งไม่ลงมาล่ะก็~~~~"
     
    ไม่ต้องพูดจบเสียงบันไดก็ดังตึงๆทันที"

     "พ่อวันนี้มีอะไรกิน"คนงัวเงียถาม ซึ่งพูดทุกวันจนมันเป็นคำอรุณสวัสของเธอไปแล้ว
     
    "ไปอาบน้ำก่อน"ผู้มีศักดิ์เป็นพ่อสวนกลับ
     
    ลาสปุติน แองเจิ้ลไลฟ์ผู้ที่สังลูกสาวที่พึ่งตื่นไปอาบน้ำ ผมดำสนิท ไว้เปียยาวถึงกลางหลังนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนลูกสาวเครายาวนิดๆใส่เสื้อกล้ามกางเกงขายาวกำลังจัดแจงข้าวของเพื่อทำอาหารเช้าให้ลูกสาวตัวดีของเขาและหน้าอย่างงี้ก็ดูยังไงก็ไม่ต่างไปกว่า โจร
     
    ใช่เขาคือโจรที่เก่งที่สุด(ในละแวกนั้น)
     
    "อาบน้ำอย่างเดียวใช้ไหมพ่อ"
     
    "แปรงฟัน สระผม เช็ดตัว ทาแป้ง"ผู้เป็นพ่อพูดดักคอ เจ้าลูกตัวดียิ้มแห้งๆก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
                                        …………………
     หลังจากที่เธอ อาบน้ำ แปรงฟัน สระผม เช็ดตัว ทาแป้ง ตามที่พ่อของเธอสั่งเรียบร้อย เธอก็รีบวิ่งรี่มาโต๊ะอาหารทำหน้าหยั่งกะคนไม่ได้กินข้าวมาสิบวัน ทำให้ผู้เป็นพ่อบัดนี้แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่
     
    ทำตัวไม่เหมือนผู้หญิงเล้ย เสียงนั้นไม่ได้ดังออกมา แต่มันก้องอยู่ในความคิดของผู้เป็นพ่อ
     
    "อะไรเนี้ยพ่อ ปลาเค็ม กะผักอีกแล้ว" เสียงตวาดลั่นบ้านของคนหิวพุ่งใส่หน้าพ่อ
     
    "วะก็ไม่มีตังค์ มีแค่นี้แหละจะกินหรือไม่กิน"ผู้เป็นพ่อตวาดสวนกลับ
     นี้มันก็ครึ่งเดือนแล้วนะพ่อที่ฉันกินซ้ำซากนะเนี้ย เพราะอย่างเงี้ยร่างกายฉันก็เลยไม่โต"พลันถกเสื้อขึ้นแล้วเอานิ้วชี้ไปที่หน้าอกตัวเองให้พ่อดู
     
    "เออน่า ทนไปหน่อยเหอะเดี๋ยวขโมยอะไรได้แล้วจะซื้อมาให้กินจนหน้าอกแกระเบิดไปเลย"
     
    "อี้อ้อองไอ้อิ้ดอะอะโอยอะไออาวอ้านเอ้าอีกอ๊ะ อั้นออกแอ้วไออ้าอันไอ้อี"(นี้พ่อคงไม่คิดจะขโมยอะไรชาวบ้านเค้าอีกนะ ฉันบอกแล้วไงว่ามันไม่ดี)
     
    ข้าวเต็มปากยังพูดมาได้
     
    ทุเรศชะมัดผู้หญิงอะไร้ นายลาสปุตินคิดพลางดูแคลนลูกสาวตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ
     
    "ฮ่วย แล้วจะให้ชั้นไปทำอะไร"เขาสวนกลับ

    “ก็มาช่วยงานรับจ้างสารพัดของฉันไง”บัดนี้ข้าวหายไปหมดจากปากเจ้าหล่อนแล้ว แต่ประโยคนั้นก็ทำให้พ่อเงียบอึ้งไปสักพักก่อนจะปล่อยก้ากออกมา

     “พูดหยั่งกับงานรับจ้างสารพัดของแกมันเงินดีกว่างานขโมยอย่างพ่อนี่”ขโมยยังหัวเราะลั่น

     “ก็ยังดีกว่าไปขโมยของคนอื่นเขามากิน หึๆ”ประโยคนี้ทำเอาคนหัวเราะเงียบไปพลันแยกเขี้ยวใส่เจ้าลูกตัวดีก่อนที่จะสงบเพราะรู้ว่าต่อปากต่อคำไปก็มีแต่จะแพ้มัน 

     “แต่ต่อไปแกก็คงไม่ต้องลำบากแล้วล่ะ”

     “ทำไมพ่อจะฆ่าฉันเรอะ”เสียงหวานพูดกวน

     “เปล่า”

     “พ่อจะทิ้งฉัน”เสียงหวานพูดกวนอีก

     “เหอะ”น้ำเสียงคนปฎิเศษเริ่มส่อแววหงุดหงิด

     “พ่อจะส่งฉันไปขายตัว”

     “ว้อย~~~~~~~~~”ในที่สุดเส้นลิมิตของผู้เป็นพ่อก็แตกกระเจิง

     “อ้าวงั้นพ่อก็ตอบมาดิ”น้ำเสียงสั่นสีหน้าผวา เพราะตกใจเสียงพ่อตัวเอง

     “ก็แกเดามั่วแล้วฉันจะเอาจังหวะไหนบอกแก”แล้วอารมณ์คนพูดก็เริ่มเย็นลงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     “ฉันจะส่งแกเข้าโรงเรียน” 

     เงียบไปอึดใจ เงียบมากจนได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจเต้นของคนฟังพลันนั้นเสียงระเบิดหัวเราะก็ถูกจุดระเบิดลั่นบ้านเล่นเอาคนที่คิดจะส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนเกือบหงายหลังตกเก้าอี้

     “ข้าวก็ไม่มีจะกินแล้ว ยังจะคิดส่งลูกสาวตัวเองเข้าโรงเรียนอีก ก้ากๆ”เสียงหวานแบบกวนๆพูดกลั้วหัวเราะ แต่พอไปสบตากับคนที่จะส่งลูกสาวตัวเองเข้าโรงเรียน เจ้าหล่อนก็ต้องรีบสะกดอารมณ์ขันตัวเองทันทีเพราะรู้ว่าขืนหัวเราะต่อไปได้เกิดการประทุษร้ายแน่

     “แล้วนี้พ่อจะส่งฉันเข้าโรงเรียนไหนเนี้ย”น้ำเสียงเจ้าหล่อนยังมีอารมณ์ขันอยู่นิด

     “Element แห่ง ซิลเวอร์คาร์ต”

     “หา~~~~~~~~~~”เจ้าหล่อนตาโตเป็นไข่ห่านไม่สิจะเอาไข่นกกระจอกเทศเลยก็ยังได้เมื่อชื่อโรงเรียนดังออกมาจากปากของบุรุษขโมยตรงหน้า

     “พ่อพูดเล่นใช่ไหม”เธอถามพ่อ

     “แกเคยเห็นฉันล้อเล่นไหมล่ะ”พ่อเธอสวนกลับ

     “แต่นั้นมันโรงเรียนผู้ดีนะพ่อ ค่าเทอมแพงหูฉี่ แถมโรงเรียนประจำอีกนะ”แล้วเจ้าหล่อนก็ถามต่อ

     “แล้วใครจะดูแลพ่อ”

     “นี้แกดูถูกพ่อแกขนาดนี้เลยเรอะ”

     “แล้วเงินพ่อจะเอาที่ไหนจ่าย”

     “วะ ฉันมีละกันล่ะ”

     “แล้วนั้นมันก็โรงเรียนกินนอนด้วยนะพ่อ”

     “อันนี้ดีเลยล่ะแกจะได้ไม่ต้องอยู่กับบ้าน ฉันปวดหัวกับแก”พ่อพูดพลางแสยะยิ้ม

     “แล้วคิดยังไงส่งฉันไปเรียนเนี้ย”

     “ก็ให้มีวิชาความรู้ติดตัวไว้ไง ไอ้ลูกบื้อ”คนฟังนั่งตาถลนเมื่อได้ยินคำว่า ไอ้ลูกบื้อ แล้วคนพูดก็พูดต่อตามหน้าที่ “แล้วก็รู้ไว้ซะตระกูลเราจบจากโรงเรียนนี้ทุกคน”พลันนั้นพ่อก็กอดอกทำท่าวางมาดให้ลูกดู

     “ถ้าจบจากโรงเรียนดีเด่นขนาดนี้ แล้วทำไมพ่อถึงมาเป็นโจร”คำถามจากเจ้าหล่อนยิงออกไปพลันบุรุษตรงหน้าสะดุ้งทำสีหน้าซีด

     “เออน่าอย่าไปรู้เลย ไม่รู้สักอย่างจะตายเปล่าวะ”พ่อพูดแก้หน้า

     โม้ชัวว์ 

     “แล้วนี้พ่อสมัครให้ฉันไปตอนไหน”เจ้าหล่อนถาม

     “ยัง” คำตอบสั้นๆจากผู้ถูกถามแล้วเจ้าของคำตอบก็พูดต่อ “เพราะเขาเริ่มสมัครกันพรุ่งนี้ ฉะนั้นไปเก็บเสื้อผ้าซะ เราจะออกเดินทางสายๆ แล้วขึ้นเรือไปสมัคร”
     แล้วขึ้นเรือไปสมัคร”

     “แต่ฉันยังหิว”เสียงหวานของเจ้าหล่อนร้องคราง

     “ไปเก็บเสื้อผ้า เดี๋ยวนี้”เสียงตวาดดังลั่นบ้าน

                                         ............................................

     ท่าเรือแซฟฟาย

     สภาพบรรยากาศตอนสายๆ แดดไม่แรงมาก ท้องฟ้าสีครามสดใส มีเมฆสีขาวราวปุยนุ่นเป็นหย่อมๆบนผืนนภา เสียงนกทะเลนานาชนิดพากันขับขาน บางตัวอยู่บนผิวทะเลเพื่อกินปลา ลมทะเลพัดพาเอาความเย็นมาไม่มีหยุด บรรดาคนประจำถิ่นบ้างก็นักท่องเที่ยวจากต่างแดนพากันเดินจับจ่ายใช้สอย ซื้อของกับร้านที่มาตั้งอยู่บริเวณทางเดินเหนือชายหาด บรรดาคนเล่นน้ำก็พอมีให้เห็นบ้างเป็นหย่อมๆ เรือประมงกลับเข้าฝั่งจากการหาปลายามราตรี ห่างจากชายฝั่งออกไปเรือใบกำลังแล่นนิ่งอยู่เหนือผิวน้ำและเรืออีกมากมายที่จอดเทียบท่า

     “เฮ้ยเร็วเดะเดี๋ยวก็ตกเรือกันพอดีหรอก”นายลาสปุตินตะโกนฝ่าฝูงคนเพื่อเร่งลูกสาว

     “ก็พ่อเล่นวิ่งไม่แบกอะไรเลยอ่ะจะให้ไปทันได้ไง แฮ่กๆๆ” คนถูกเร่งวิ่งทั่กๆฝ่าฝูงคนตามหลังบิดาตนพลางแยกเขี้ยวงุดๆ ในหลังเจ้าหล่อนมีเป้ของใช้ตัวเองมือขวาลากกระเป๋าแบบมีล้อของพ่อตน ส่วนมือซ้ายก็หิ้วกระเป๋าที่ใส่ของสุดรักสุดหวงของพ่อหล่อนเอาไว้ (ซึ่งตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร)

     “วะ งั้นเอากระเป๋าหิ้วมา วู้”

     หวูด~~~~~~

     เสียงหวูดเรือดัง สัญชาติยานบอกให้คู่พ่อลูกรู้ทันทีพากันวิ่งเต็มสปีดยื่นตั๋วให้นายท่าเรือแล้ววิ่งแน่บขึ้นเรือไป



     จบบท1


     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×