ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Answer Stone ดิ อานเซอร์สโตน ปริศนาตำนานศิลาเวท

    ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มเรื่อง

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 50



                       ความรักไม่มีขอบเขต ความรักไม่มีเส้นพรมแดนกั้นขวางไม่แบ่งชนชั้นวรรณะแค่คนสองคน
    มีใจให้กันก็เกินพอแล้ว
                      โครม! โอ๊ย! เกิดเสียงวัตถุบางอย่างกระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรงตามมาด้ยวเสียงร้องของเด็กชายคนหนึ่ง
                      "โถ่เจ้าโต๊ะเฮ็งซวยนี่ทำไมไม่หลีกนะคนยิ่งรีบๆอยู่ด้วย"
    เด็กชายคนหนึ่งผู้ทีหน้าตาในเกณใช้ได้ผมดำสั้นสีน้ำตาลสูง165 ซม. วิ่งออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ
                    "นี่ลูกระวังหน่อยซิเดือนนี้ลูกทำข้าวของพังไป 6 ชิ้นแล้วนะ"
    ผู้เป้นแม่พูดอย่างหงุดหงิด
                  "ถ้ารีบนักคราวหลังก็รีบตื่นแต่เช้าซิ""นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้"
    พี่สาวสองคนช่วยเสริม  เด็กหนุ่มกล่าวลาทุกคนในบ้านแล้ววิ่งไปที่ถนนโบกรถประจำทางสาย 1 
    แล้วกระโดดเข้าไปในรถทั้งที่รถยังไม่จอดสนิดด้วยซ้ำ

                   "สายประจำเลยนะคิง" แจ็คผู้ทำหน้าที่เก็บค่าโดยสารแซวอ่างที่เมื่อก่อนเคยทำเป็นประจำ

    ทุกวัน

                   "ผมก็รีบแล้วนะไม่รู้ทำไมยังสายทุกที" คิงตอบอย่างหน้าชื่นตาบาน

                   "วันนี้เปิดเรียนวันแรกใช่ไหมคิง" แจ็คถามพลางรับเงินจากคิง

                  "ก็ใช่นะ"คิงตอบแล้วส่งเงินให้

                 "ดีนะนายนี่สายตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียนเลย ปีสองแล้วนะแต่นิสัยยังเหมือนเดิมเปี๊ยบเลย"

    แจ็คพูดพลางหัวเราะอย่างสบายใจ

                 "โหให้พรกันแต่เช้าเลยนะ" คิงพูดขึ้น

                 "เอาเป้นว่าโชคดีวันเปิดเรียนไหม่แล้วกันนะ"

    แจ็คพูดพลางเดินจากไปประจำที่ข้างประตูทางขึ้นรถ ไม่กี่นาทีต่อมารถก็หยุดลงหน้าสถานที่แห่งหนึ่ง

    ที่มีสภาพค้อนข้างทรุดโทรมเอาการแต่อาคารที่มีอยู่กลับยังคงสภาพไว้ได้อย่างน่าประหลาดใจ

    ราวกับว่ามันไม่ได้คงอยู่ได้ด้วยตนเอง ที่รั่วด้านนอกมีข้อความเขียนไว้ว่า

                "ดินแดนแห่งนักปราชญ์และนักต่อสู้"

    ถัดไปเป็นชื่อสถานที่นี้ ใช่มันคือโรงเรียนมหาเวทซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดโรงที่แข็งแกร่งที่ด้านเวทมนต์และการต่อสู้

                คิงเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกับคนอื่นๆแต่รอบข้างดูไม่ค่อยจะคึกคักนักคงเป้นเพราะว่าคนอื่นส่านมากเขาเข้าห้องเรียนกันหมดแล้วมั้ง
               "คิง" เด้กชายวัยเดียวกับคิงตะโกนเรียกเขาจากด้านหลังในขณะที่กำลังพยายามจะวิ่งให้ทันคิง
               "เอ้า ไซทอล สงสัยวันนี้ลางไม่ดีอีกแน่พบนายคนแรกเลย"
    คิงตอบกลับไปอย่างกอนพระบาทจนไซทอนทำตาดุใส่
              "เชื่อแล้วนายนี่ปากเสียจริงๆถ้าไม่ใช่เพื่อนกันป่านนี้นายได้ไปนอนหงายบนพื้นถนนแล้ว"
    ไซทอลสวน
              "ล้อเล่นนะทำเป็นซีเรียสเป็นคนแก่ไปได้"คิงพูดพลางหัวเราะ
                ทั้งสองเดินขึ้นไปบนอาคารเรียนหลังเก่าๆ หลังหนึ่งที่ตั้งกระห่านเด่นชัดให้เห็นแต่ไกล
               "หวัดดีไซทอล คิง " ดิลูทผู้มีฉายาเสือเย็นทักทั้งสองอย่างดีใจ
                "หวัดดีดิลูท" คิงตอบกลับไปส่วนไซทอลก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
                "นายสูงขึนแยะเลยนะคิง" เคิร์ฟเด็กชายร่างใหญ่ทักขึ้นพร้อมส่งยิ้มให้
                "แน่นอนซิครับ ทีถนนยิ่งตัดยิ่งยาวแล้วคนอย่างฉันจะสูงขึ้นบ้างไม่ได้รึไง" คิงตอบ
                "แล้วถนนกับความสูงของนายมันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย" เคิร์ฟพูดอย่างหัวเสียพลางส่ายหน้า
    เป็นเชิงปล่อยวาง
               " หลีกหน่อยๆ..." โครม! ตึง!  " โอ๊ย! "
               "ไอ้บ้าออกไปนะ ออกไปซิโถ่เอ๊ย" เด็กหญิงร่างเล็กตะโกนลั่นเมื่อถูกเด็กชายร่างใหญ่กว่า
    ล้มทับบนตัวเธออีกทั้งยังกอดเธอไว้อีกต่างหาก
                "โกดส์ นายนี่ซุ่มซ่ามได้ถูกเวลาจริงนะ"มิแรคชายผู้เยือกเย็นแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันแซวขึ้นขณะเดินเข้ามารวมกลุ่ม
                  "โทษทีๆ ฉันตั่งใจเอ๊ย! ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ"  โกดส์พูดขึ้นพลางยิ้มนิดๆ
                  "ทีหน้าทีหลังนายก็หัดระวังบ้างซิ เห็นไหมทำคนอื่นเดือดร้อนเลย" เด็กหญิงร่างเล็กนามญาญ่า
    ลุขึ้นปัดก้นพร้อมกับเทศนาเพื่อนของเธอโทษฐานทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง
                 "คิง! ได้ข่าวว่าตอนปิดเทอมนายไปสร้างรีรกรรมไว้ไม่ใช่เหรอ เล่าให้เราฟังบ้างซิ"
    เด็กผู้หญิงน่ารักอ่อนหวานแต่ปากไม่ค่อยจะน่าพิศมัยนักพูดขึ้น
                "นี่ใยน้ำแข็งแห้ง ไอ้ฉันอุส่าไม่พูดเรื่องนี้แล้วเชียวดันปากโป้งซะได้"
    คิงพูดอย่างฉุนสุดๆขณะทำสายตาดุๆใส่
                "ฉันชื่อสโนเบลย๊ะไม่ใช่ยัยน้ำแข็งแห้งที่นายตั้งให้ซะหน่อย แล้วที่สำคัญนายไม่ต้องกลัวว่าฉันจะบอกใครเรื่องที่นายพังกำแพงเพราะกลัวหนูตัวกะเปี๊ยกหรอก"
                 "ใช่เธอไม่เคยบอกเลย ขอบคุณมาก"  คิงพูดฉุนกว่าเก่าขณะที่เพื่อนๆพากันขำเป็นการใหญ่แต่เด็กสาวกลับทำหน้าระรื่นเพราะรู้อยู่ว่าถึงเธอจะทำให้คิงโกรธมากขนาดไหนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนื่องด้วยคิงเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีอย่างเหลือเชื่อทีเดียว แต่เหตุผลข้อนี้สงวนไว้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น
                 ตลอดสองชั่วโมงที่อาจารยฺ์ผู้ควบคุุมดูแลคิงและเพื่อนๆของเขาพูดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎข้อห้ามต่างๆ ของโรงเรียน ซึ่งพวกเขาทั้งหมดก็เคยฟังมาแล้วครั้งหนึ่งตอนเข้าเรียนใหม่ๆ  แต่ปีนี้มีกฎข้อหนึ่งที่ติดใจนักเรียนทั้งห้องเป็นขอที่ตั้งขึ้นใหม่และชวนให้ขบคิด นั้นก็คือ "ห้ามนักเรียนเข้าไปในป่าทึบหลังโรงเรียนอย่างเด็ดขาด  ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษขั้นหนัก" แต่การลงโทษไม่ใช่ปัญหาเพราะพวกเขาก็ถูกลงโทษเป็นประจำอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่ว่าทำไมถึงห้าม ในป่านั้นมีอะไร จะเป้นอันตรายไหมถ้าเข้าไปเมื่อถึงประเด็นนี้ยิ่งทำให้พวกอยากลองดีอย่างคิงและเพื่อนๆแล้วก็คงยังมีใครอีกหลานยๆคนอยากรู้คำตอบนี้มากขึ้นแต่ทุกคนก็ยังอยู่ในความสงบ
               อาจารย์ใหญ่ให้นักเรียนทุกคนกลับบ้าน เพื่อไปเตรียบข้าวของที่จำเป็นสำหรับการพักอยู่ที่โรงเรียนตลอดหนเ้าร้อนนี้ ทุกคนจะได้รัับอนุญาติให้กลับบ้านได้อาทิตย์ละหนึ่งครั้งแต่ว่าใครจะกลับหรือไม่กลับก็ได้ คิงลาเพื่อนของเขาและก้าวขึ้นรถประจำทางที่จอดรอรับนักเรียน  ไซทอลเดินตามหลังเขาไปและนั่งลงข้างๆกับคิง
            "ไซทอล  นายว่าปีนี้มีเรื่องสนุกให้ทำไหม" คิงฑูดขึ้นขณะมองดูไซทอล
            "แน่นอน! มีแน่อย่างน้อยที่สุดก็หนึ่งเรื่องหละ" "ฉันว่ามันคงเป็นเรื่องเดียวกับที่นายกำลังคิดอยู่ ใช่ ไหม" ไซทอลตอบ แล้วทั้งสองก็หัวเราะชอบใจกันยกใหญ่  คิงเบือนสายตาออกไปนอกหน้าต่างรถพลันสายตาของเขาก็เห็นใครคนนึงยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ในมือถือสมุดบันทึกเล่มเล็กๆอยู่เล่มหนึ่ง ตัวสูงกว่าคิงเล็กน้อย แล้วทันทีที่รถอีกคันสวนทางกับรถที่คิงนั่งอยู่พอตัวรถพ้นไปจากสายตาปรากฎว่าเขาคนนั้นได้หายไปแล้วไม่เหลือแม้ร่องรอย คิงกวาดสายตาหาจนทั่วด้วยความงุนงงแต่ก็ไม่พบเลยคิดเอาเองว่าตัวเองคงจะตาฝาดไป
              คิงนอนเอามือกายหน้าฝากพลางนึกถึงผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อตอนเย็น เธอสวยน่ารักมาก เมื่ออยู่ในหมู่ผู้คนดูเธอจะโดดเด่นที่สุด แต่เหมือนกับว่าคนรอบข้่างมองไม่เห็นเธอ ผู้ชายที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่ได้มองมาทางเธอเลยแม้หางตา คิงมั่นใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดแน่เพราะตอนนั้นสติของเขาตื่นอยู่อย่างเต็มที่ "เราต้องเห็นเธอจริงแน่ๆ"คิงบอกตัวเอง แต่สิ่งที่คิงสงสัยและคิดไม่ตกคือ เธอหายไปได้ยังไงแค่ช่วงรถวิ่งสวนทางกัน คิงคิดอยู่พักใหญ่และในที่สุดเขาก็หลับไปโดยไม่รู้ตัวเพราะความเพลีย!
              "อรุณสวัสครับแม่" คิงกล่าวทักทายแม่ของเขาหลังจากตื่นนอนและทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว
              "คิง ลูกเป็นอะไรรึเปล่า ธรรมดาลูกไม่เคยตื่นเช้าเลยนะ" แม่ของคิงถามคิงอย่างสงสัยเพราะตอนนี้มันยังไม่ถึง6โมงเช้าเลยด้วยซ้ำ
             " แม่คับผมสบายดี เผอิญวันนี้ผมต้องรีบจัดของคับ "
             " ของหรือจ๊ะแม่เตรียมไว้ให้แล้ว ลูกรีบแต่งตัวเข้าดีกว่านานๆทีลูกถึงจะตื่นเช้ากับเขาบ้างเดี๋ยวแม่จะทำอาหารเช้าให้กินนะ" แม่ของคิงพูกอย่างเอาใจแล้วก็เดินไปที่ครัวเพื่อทำอาหารให้คิง
            "เออแม่คับพี่เค้าหายไปไหนกันหมดหละคับพ่อก็หายไปด้วย" คิงถามแม่พลางกวาดสายตามองพี่สาวตัวแสบที่ชอบแซวคิงเป็นประจำ
           " อ๋อ พี่เขาไปทำงานกันหมดแล้ว บอกแม่ว่ามีงานเยอะต้องรีบไปแต่เช้าส่วนพ่อก็ไปส่งพี่เขาที่ทำงานไงจ๊ะ"แม่ตอบ
          " งั้น...ผมก็มีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนไปโรงเรียน ผมต้องใช้เวลาที่มีนี้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการ....นอน" คิงพูดพลางทำท่าหาวแล้วเดินโขยกเขยกไปที่ห้องของเขาล้มตัวลงบนเตียงพลางเอามือกายหน้าฝาก แล้วเขาก็นึกถึงเธออีกจนได้
         " เธอเป็นใครกันนะ ไม่รู้หละถ้าเธอมีตัวตนอยู่จริงเราต้องพบเขาอีกแน่" คิงบอกตัวเอง
         .......แต่เมื่อไหร่เมื่อไหร่ที่เราจะได้พบเขาอีก......คิงคิดพลางเอามือขีดเขียนไปในอากาศ
          " มันนานแล้วนะหลายปีอยู่เหมือนกันไม่รู้ว่ามันจะยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า" " ไม่ซิต้องควบคุมได้แน่ตอนนั้นกับตอนนี้มันผิดกันหนิ" คิงพูดพลางลูบแผลเป็นที่หลังมือด้านขวาที่เขาได้มาจากเหตุการณ์หนึ่งตอนเด็กๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×