คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พบเพื่อนใหม่
ตอนที่ 2
หญิงสาวสวย ผมยาวตรงสีดำราวกับขนกาน้ำ นัยน์ตารูปสีน้ำตาล เธอคือรวิณภานี่เอง วันนี้หญิงสาวต้องมาที่คอนโดของรัชตะ เพื่อมาขอสัมภาษณ์อีกครั้ง เธอติดต่อที่ประชาสัมพันธ์ของคอนโดแล้ว ทราบว่า รัชตะตอนนี้อยู่ที่สระว่ายน้ำ เธอจึงเดินตรงไปที่นั่นเลย
ที่ข้างสระว่ายน้ำ มีคนกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียวที่เป็นจุดเด่น คือกลุ่มของรัชตะนั่นเอง
นอกจากรัชตะแล้วยังมีเพื่อน ๆ ของพวกเขาอีก 3 คน คนหนึ่งรวิณภารู้จักเป็นอย่างดีนั่นคือ ศเรนทร นักธุรกิจรูปหล่อไฟแรงอีกคนหนึ่ง
"เฮ้ยไอ้จักรทำไมนายไม่นั่งเสียทีวะ ยืนทำบื้ออะไร นี่มันคอนโดฉันนะไม่ใช่สวนสนุก เฮฮาหน่อยสิวะ" เสียงของรัชตะหันไปบอกคนที่ยืนขนาบข้างรัชตะ ได้ผลเขานั่งลงทันที
"สวัสดีค่ะ"
คนทุกคนที่นั่งอยู่ที่กลุ่มนั้นหันมาหารวิณภาทันที เธอกล่าวทักทายออกไป
"ใครนัดสาวมาสังสรรค์กะเราวะ" ศเรนทรพูดขึ้นมาทันที เพราะนาน ๆ ทีพวกเพื่อน ๆ จะนำเอาหญิงสาวมาร่วมแจม
"เธอมาหาใคร มีธุระอะไรกับพวกเรา" เสียงของรัชตะห้วน ๆ
"คุณรัชตะคงจำไม่ได้หรอกมั้งว่า คุณนัดฉันไว้"
เพื่อนของพวกเขาหันไปมองรัชตะทันที ต่างพากันคิดว่า นี่คู่ควงคนใหม่ของรัชตะหรือไง
"เธอคงเป็นรวิณภา ที่โทรมาเมื่อวานนี้ใช่ไหม" ดวงตาของเขาดูวาวโรจน์ขึ้นมาทันที เขาก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงจำชื่อนี้ได้อย่างแม่นยำ
ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อไปมากกว่านี้ ศรุต ทนายหนุ่มผู้เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับรัชตะ พูดขึ้นทันที
"นี่นายไม่คิดจะแนะนำผู้หญิงคนนี้ให้พวกเรารู้บ้างหรือไงกันนะ"
"ไม่เป็นไรคะ เพราะฉันก็ไม่คิดว่าพวกคุณกำลังคุยธุระกันอยู่ ไว้ฉันมาวันหลังก็ได้"
"อะไรกันแค่นี้ยอมแพ้แล้วเหรอ แต่ฉันกำลังคิดว่าจะหาข้อเสนอให้เธอทำ ถ้าเธอทำตามทุกอย่างฉันอาจจะให้สัมภาษณ์ก็ได้"
"สัมภาษณ์อะไรวะ อย่าบอกนะว่าคุณเป็นนักข่าว!!!" ทุกคนยกเว้นวินนี่และรัชตะต่างตกตะลึง
"ใช่ค่ะ ฉันเป็นนักข่าวที่นิตยสารสร้างเงิน"
ทุกคนพูดพร้อมกันว่า "คุณนึกอย่างไรถึงจะมาสัมภาษณ์ไอ้เนี่ย คุณไม่รู้กิตติศัพท์มันหรือไง"
"แล้วคิดหรือว่าฉันจะยอมให้สัมภาษณ์ง่าย ๆ ฉันเกลียดคนอาชีพอย่างเธอเป็นที่สุด แล้วเรื่องอะไรที่ฉันจะต้องยอมให้คนอาชีพอย่างเธอง่าย ๆ" รัชตะพูดขึ้นบ้าง
"นี่ต้าร์นายยังไม่ลืมเรื่องเก่า ๆ อีกเหรอวะ นายไม่สงสารคุณรวิณภาบ้างหรือไงอุตส่าห์ถ่อสังขารมาขอสัมภาษณ์นายถึงที่นี่" เสียงของศเรนทร ยิ่งทำให้นัยน์ตาของต้าร์นั้นหม่นหมองลงไปอีก
ซึ่งวินนี่ก็สังเกตแววตานั่นได้
"ทำไมฉันจะต้องสงสารเธอ นายอยากสงสารยัยนี่ก็สงสารไปเถอะ แต่ฉันขอแนะนำอะไรเธอหน่อย อย่าคิดจะมาหวังล้วงความลับอะไรจากฉันเลย แล้วทางที่ดีเธอสมควรยกเลิกอาชีพนั้นซะ"
ถ้าวินนี่ไม่เห็นแววตานั่นของเขา คงได้พูดเถียงคอเป็นเอ็นเรื่องที่ขอให้เธอเลิกอาชีพนักข่าวเนี่ย เพราะว่าเธอรักอาชีพนักข่าวเป็นชีวิตจิตใจ เธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีคนเกลียดอาชีพนี้เป็นอย่างมากเหมือนเขาคนนี้
"ไม่เป็นไรก็ได้ค่ะ ฉันจะไม่ขอสัมภาษณ์คุณอีกก็ได้"
"พวกผมต้องขอโทษแทนนายต้าร์ด้วยนะครับ ที่เขาไม่มีเหตุผลอย่างนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนใจอยากมาสัมภาษณ์ผมก็ตามสบาย"
ศเรนทรพูดขึ้นแล้วทำท่ายิ้มหวานเข้าใส่วินนี่ทันที รัชตะรู้สึกหมั่นไส้ผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา เพราะเพื่อน ๆ เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้หญิงใด ๆ มากไปกว่าจิตใจของเขาเอง
"ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ"
"อย่าเพิ่งไปสิครับ พวกเราชักอยากรู้จักคุณ อยากเป็นเพื่อนกับคุณ นะครับอยู่คุยกันก่อน"
"แต่ เอ่อ..." แต่ใครบางคนอาจไม่พอใจเห็นเขานั่งหน้าตาบูดบึ้งเหมือนไปกินรังแตนที่ไหน
ศเรนทรพูดเหมือนรู้ใจเธอดี "นะครับ พวกเรานะอยากเป็นเพื่อนกับคุณจริง ๆ อย่าไปถือสานายต้าร์เขาเลยนะครับ เขาเป็นคนพูดหวานไม่เป็น จนสาว ๆ เขาหนีไปหมด"
"เฮ้ยพวกนี้จะเผาเพื่อนกลางวงเลยใช่ไหม นายอยากเป็นเพื่อนยัยนี่ก็เป็นไปสิ แต่อย่าหวังว่าจะมาล้วงความลับอะไรแล้วกัน" ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นเพราะความหงุดหงิดที่เห็นยัยนี่มานั่งคุยกับพวกเพื่อนเขา แล้วดูจะสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เขากระโจนลงน้ำไปทันที
เธอกลับไปถึงบ้านด้วยสดชื่น ลืมเรื่องสัมภาษณ์และปัญหาเกี่ยวกับงาน เพราะเธอไม่ค่อยได้มีเพื่อนที่ดูน่าอบอุ่น เท่ากับกลุ่มของคุณต้าร์ ถึงแม้เขาคนนั้นจะไม่ค่อยชอบหน้าเรา ศเรนทรเป็นคนที่คุยเก่ง และเป็นขวัญใจของสาว ๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึกคืนนั้น
"สวัสดีคะ ขอสายใครคะ" วินนี่ยกหูโทรศัพท์แล้วกรอกเสียงลงไปทันที
"สวัสดีครับ นี่พี่คินเองนะ วินนี่"
"พี่คิน!! โทรมาเสียดึกดื่น วินนี่กำลังคิดถึงพี่คินอยู่พอดี เมื่อไหร่จะกลับเมืองไทยค่ะ"
"ไม่บอก บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ ฮึฮึ"
"แหมพี่ยังร้ายกาจเหมือนเดิม นึกว่าลืมวินนี่ไป เสียเพราะไม่ติดต่อมาเลย"
"แหม ก็พี่มาทำงานนี่ไม่ได้มาเที่ยวเล่น อยู่ที่นี่ก็คิดถึงวินนี่อยู่ตลอด นับวันเวลาเมื่อไหร่หนอจะได้กลับเมืองไทย จะได้แต่งงานเสียที ไม่รู้คู่หมั้นพี่มีใครเกาะแกะหรือเปล่า ไม่มีพี่คุมเนี่ย"
หน้าของวินนี่สีแดงระเรื่อขึ้นมา คู่หมั้นของพี่คิน หรือภคินไม่ใช่ใครที่ไหนก็วินนี่นี่เอง
"แหมไม่เชื่อหรอกว่าพี่คินคิดถึงวิน พี่คงคิดถึงพวกเพื่อน ๆ มากกว่า เพราะมาทีไรแทนที่จะมาหาวินก่อน ต้องแจ่นไปพวกเขาทุกที"
"โถ ๆ วินน้อยใจพี่หรือเนี่ย พี่นะให้ความสำคัญกับวินเสมอ คอยดูนะถ้ากลับไปเมื่อไหร่ พี่จะไปขอวินแต่งงาน ว่าแต่ที่นู้นมีหนุ่มมาจีบวินเยอะใช่ไหมเนี่ย"
"ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย หนุ่มไหนจะมาจีบ ถ้ามีเพื่อน ๆ ใหม่นะไม่ว่า วันนี้วินนี่ก็มีเพื่อนเพิ่มขึ้น เป็นหนุ่มทั้งแก็งค์เลยด้วย หล่อทั้งนั้น ถ้าพี่คิดไม่กลับมาระวังวินนี่จะปันใจไปให้กับเขานา" เธอมีอารมณ์ล้อเล่น
"เออ... พวกมันรู้ยังว่าน้องวินนี่คนนี้มีแฟนแล้ว หนุ่มหล่อด้วย"
"ฮึ ๆ พวกเขาจะรู้อะไรละในเมื่อรู้จักวันนี้เอง" เธอนึกถึงแววตาของรัชตะขึ้นมา ทำไมนะเขาถึงต้องทำท่าไม่ชอบหน้าเธอนักหนา
"แค่นี้ก่อนนะวินนี่เปลืองตังค์"
"พี่เป็นคนโทรไปนะไม่ใช่วินนี่" เธอวางสายทันที
นึกถึงแววตาและคำพูดของเขาคนนั้นทำไมนะ ทำไมเราต้อง....
คนที่ยืนในห้องคอนโดอาการไม่ต่างจากนักข่าวสาวเท่าไหร่ เพราะเขาไม่เข้าใจตัวเองเอาเสียเลย ทำไมต้องนึกหงุดหงิดที่เพื่อน ๆ เขารับยัยวินนี่เป็นพรรคพวกด้วย
ความคิดเห็น