ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    !!--ถึงจะร้ายอย่างไรก็รัก--++

    ลำดับตอนที่ #11 : ชำระหนี้แค้น และอาการเจ็บของหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 49


    ตอนที่ 11

    เช้าวันรุ่งขึ้น มารินดา และเรซซี่สาวประเภทสอง เจ้าของสำนักพิมพ์ชื่อดัง ได้มาตามนัดของนายภาณิน ธินชนะโชติ นักธุรกิจผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจชื่อดัง มาหาเขาห้องอาหารที่โรงแรม ซึ่งเขาเป็นเจ้าของทันที ที่ทราบว่าเขาอยากพบ

    "สวัสดีครับคนสวยทั้งสอง วันนี้ผมภาณินรู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ได้โอกาสร่วมงานอันสำคัญยิ่งของผม"

    ภาณินมักมีบอร์ดี้การ์ดอย่างน้อยสองคนไว้ติดตามเขาเสมอ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน

    "ทราบว่าคุณภาณินต้องการให้เราสองคนทำงานให้ ก็เลยมานะคะ"

    "พวกคุณอย่าเพิ่งซีเรียสเลย พวกเรามากินอาหารกันก่อนดีกว่าครับ เรื่องงานไว้ค่อยคุยกันทีหลัง" ว่าแล้วเขาก็สั่งอาหารทันที

     

    หลังจากที่พวกเขารับประทานอาหารเสร็จ ภาณินก็เริ่มเปิดการเจรจาทันที

    "หวังว่าคุณคงรู้จักคนชื่อวินนี่ หรือนายรัชตะเป็นอย่างดีกันทั้งสองคนแล้วนะครับ คืออย่างนี้ครับ ผมต้องการให้พวกคุณทำงานให้ผมสักอย่างสองอย่าง เพื่อ...."

     

    ภายในห้องรับแขกในห้องสูทของคอนโด

    ต้าร์กำลังนั่งเอามือกุมขมับตัวเองอยู่โดยที่ศอกติดหัวเข่า

    "โอ้ยปวดหัวจริง ๆ เลยโว้ย" เสียงบ่นดังมาจากต้าร์

    "จะไม่ปวดหัวได้ไงวะ ก็เมื่อวานนี้เล่นดื่มไปเสียหลายแก้วนี่หว่า" จักรพูดขึ้น พวกเพื่อนๆ ของเขาออกมาจากห้องรวมทั้งภคินด้วย

    "เออ ก็คนมัน... " กลุ้มนี่วะ เมื่อวานนี้พวกเขามาถึงคอนโดเมื่อไหร่เขายังไม่ได้สติเลย

    "เห็นท่านายเมื่อวานนี้แล้วกลัวใจนายจริง อ้าวแล้วนี่มันผ้าห่มใครวะ พวกฉันไม่ได้เอาออกมาให้นายนี่หว่า" ศเรนทรเห็นผ้าห่มเลยพูดขึ้น แล้วเขาก็หันไปมองกระติกน้ำ และแก้วน้ำที่ยังมีน้ำอยู่เต็มแก้ว ก็มันสงสัยนี่หว่า

    ไม่มีใครได้ตอบ ทุกคนล้วนแล้วหันไปมองตามต้าร์กันทั้งหมด ต้าร์มองไปยังภคินที่เดินไปยังห้องที่ไว้สำหรับรับรองแขก แล้วเคาะประตูสองสามที แล้วหมุนลูกบิดเข้าไป ห้องนั้นไม่ได้ล็อก เขาเข้าไปในห้องสองสามวินาทีแล้วเดินออกมาเช่นเดิม

    "เฮ้ย พวกนายเห็นวินนี่หรือเปล่า ทำไมไม่เห็นมีใครอยู่ในห้องเลย กระเป๋าก็ไม่อยู่"

    "เอ้า พวกเราก็ตื่น ๆ พร้อมกับนายเนี่ยแหละ วินนี่เขาอาจจะหนีกลับบ้านไปก่อนก็ได้" ศเรนทรล้อคนที่เป็นคู่หมั้นของวินนี่

    ชื่อของวินนี่ทำให้ความทรงจำเมื่อวานเขากลับมาอีกครั้ง ใจเขารู้สึกแปลบขึ้นมาทันที เมื่อคืนนี้วินนี่ค้างที่นี่ งั้นเมื่อคืนนี้อาจจะไม่ใช่ความฝันก็ได้ เขาลุกพรวดมาจากเก้าอี้ที่เขานอนทันที จนเขาเซล้มต้องลงไปนั่งเก้าอี้อีกครั้ง ภายใต้กิริยาอย่างนั้น อยู่ในสายตาของภคินหมดทุกอย่าง คิ้วเข้มของภคินขมวดเข้าหากันทันทีอย่างไม่เข้าใจในปฏิกิริยาของต้าร์

    "เขาไม่น่าจะหนีกลับก่อนโดยไม่ได้บอกพวกเรานี่หว่า" ภคินพูดขึ้นมา

    ในหัวของต้าร์นั้นมีแต่ภาพฝันเมื่อคืน เขาฝันว่า วินนี่เข้ามาหาเขา เธอร้องไห้ให้เขาเห็น แล้วเธอก็ก้มลงประกบริมฝีปากของเธอเข้ากับเขา เพื่อป้อนอะไรบางอย่างเขามาให้เขา เขาเลยยึดมือเธอไว้ แต่เธอก็หนีหายไปครู่หนึ่งแล้ว เอาผ้าห่มมาคลุมให้เขา แล้วก็เธอหายไปจนกระทั่งเขาหลับสนิทไปอีกครั้ง งั้นแสดงว่าคนที่เอาผ้าห่มนี่มาให้เขาก็คือเธอ คนที่เป็นเจ้าของแก้วน้ำนั่นก็คือเธอ รอยยิ้มที่แสนเศร้าปรากฎขึ้นมาบนริมฝีปากของเขาอีกครั้ง เขาไม่ลืมหรอกว่าเพื่อนเขาเป็นคู่หมั้นของเธอ อย่างน้อยเขาสมควรที่จะดีใจที่เธอยังห่วงใยเขา

     

    ...ได้มองเธอทุกครั้งในหัวใจฉันยิ่งเจ็บ และยังคงคิดถึงวันเรารักกัน แต่มาถึงบัดนี้ถึงเวลาต้องจากกันไม่วันเวลานั้นแล้ว...

    เสียงเพลงที่ดังออกจากเครื่องเล่นซีดี ไม่ได้ทำให้จิตใจของวินนี่ดีขึ้น เลยเธอแอบหนีกลับบ้านตอนเช้ามืดโดยไม่ได้บอกใคร เขาคนนั้นที่อยู่ในห้วงคำนึงของเธอตลอดเช้า ยังไม่ตื่นขึ้นมา เห็นน้ำตาของเธออีกครั้งที่มันไหลจนดวงตาเธอฝ้าฟางไปหมด มันอาจจะดีกับการที่เธอปล่อยให้เขาอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้คนที่เธอรักไว้ตรงนั้น เธอรู้แล้วว่าเธอมีความรู้สึกอย่างไรกับรัชตะ เธอไม่อาจจะปฏิเสธหัวใจของตัวเองได้ต่อไปแล้ว

    คำว่า รัก นั้นมันอาจจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ที่เธอเห็นหน้าเขาเป็นครั้งแรก และยิ่งรักมากขึ้นทุก ๆ วัน แล้วเธอไม่อาจจะรักใครได้เท่ากับเขาคนนั้นอีกแล้ว

    น้ำตาที่มันหยดไม่อาจจะเทียบเท่าอาการเจ็บของหัวใจของเธอและเขา

    เธอนั่งเหม่อมองไปข้างนอก แต่มือของเธอทำตามหัวใจของเธอครั้งแรก ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของเธอแล้วกดโทรออก...

     

    เสียงโทรศัพท์ของต้าร์ดังขึ้นด้วยริงโทนเพลงรัก จนเพื่อนเขาหันมามอง แต่เจ้าตัวยังคงนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น ไม่ยอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียที

    "เฮ้ยต้าร์นายรับโทรศัพท์สิวะอาจเป็นแฟนนายโทรมาก็ได้" คำพูดของศรุต จี้ใจดำเขาอย่างจัง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินเข้าห้องส่วนตัวของเขาไปอย่างรวดเร็ว

    "สวัสดีครับผมต้าร์พูด"

    เธอได้เสียงเขาแล้วพูดไม่ออก เพราะเสียงเขานั้นมันบอกถึงอารมณ์ผู้พูดได้เป็นอย่างดีว่าเป็นเช่นไร

    "ครับ ขอสายใครครับ"

    "...ฉันขอโทษ...ฉัน..."

    "เธอไม่ต้องพูดอะไรหรอกวินนี่ ฉันเข้าใจ ฉันขอบใจเธอมากนะเรื่องเมื่อคืนนี้" ...ขอบคุณใจที่ยังห่วงใยฉัน ...ขอบใจที่ยังอยากโทรหาฉันทั้งที่ผ่านฉันบังคับใจเธอมาตลอด

    ทำไมเขายังขอบใจเธอได้ทั้งที่เธอทำให้เขาเจ็บปวดขนาดนี้ เธอนี่มันไร้ยางอายสิ้นดี

    เธอตัดสินใจอะไรบางอย่าง และก็บอกเขาออกไปว่า

    "ฉันจะไม่ไปให้นายเห็นหน้าสักพัก" ...อาจจะใช้เวลานานกว่าที่เราสองคนจะรักษาแผลใจกันได้... "มันอาจจะดีสำหรับเราสองคน หรือสามคนเลยก็ได้ ฉันจะไปอยู่ต่างจังหวัด ฉันอยากให้นายดูแลตัวเองนะ อย่ากินเหล้าอย่างเมื่อวานนี้อีกนะ นายยังมีพวกเพื่อน ๆ นาย" ...แต่ฉันไม่มีใครเลย ฉันรักนายนะนายต้าร์ คำพูดนี้เธอไม่กล้าเอ่ยออกไป... "ฉันเป็นห่วงนาย"

    พวกเขาเงียบกันไปสักครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็พูดออกมา

    "เธอก็ดูแลตัวเองให้ดีแล้วจำไว้อย่างหนึ่ง ถึงอย่างไร ฉันก็...รักเธอ" เขาตัดสายทันทีที่เขาพูดจบ ประโยคสุดท้ายเสียงเขาเบามากแต่เธอก็ได้ยิน

    คำพูดนั้นเขาเอ่ยออกมาให้ได้ยิน แต่เธอไม่ทันได้บอกว่ารักเช่นกัน เขาก็วางสายเสียแล้ว แต่ดีแล้วล่ะ เขาอาจจะลืมความรู้สึกนั้นได้เร็วกว่าฉัน ที่ถึงแม้จะรู้ช้ากว่าเขา แต่คงจะไม่ลืมตลอดไป

     

    ด้านของต้าร์หลังจากที่วางสายจากวินนี่แล้ว เขารู้สึกทอดอาลัย เธอเลือกที่จะเดินจากไป ทั้งที่รู้ว่าเขารักเธอ เธอบอกว่ามันอาจจะสำหรับพวกเรา แต่ตอนนี้เขาไม่อาจลืมว่าเขารักวินนี่ได้เลย น้ำตาของผู้ชายไหลรินออกมาครั้งแรก รักครั้งแรกก็เจ็บปวดเพราะเธอไม่รักเขา ... เขาอยู่ในห้องนั้นสักครู่จึงออกไปหาเพื่อน เขาไม่เคยโทษภคิน หรือโทษเธอที่ทำให้รัก แต่คนที่ผิดคือเขาเองที่ไปหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×