ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Remember In My Heart

    ลำดับตอนที่ #2 : อารมณ์โกรธ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 49


    ตอนที่  2

     

    เขาตื่นขึ้นมา  วันนี้เขาต้องไปทำงานที่มหาวิทยาลัยที่เขาก่อตั้งแล้ว  เขาเห็นผึ้งยังหลับสบายอยู่เลยไม่อยากปลุก  แต่จำใจต้องทำ

     

    นี่ยัยขี้เซาตื่นขึ้นมาได้แล้ว  วันนี้วันปฐมนิเทศที่มหาลัยนะ  เขาเขย่าตัวผึ้งให้ตื่นขึ้นมา

     

    เธอลืมตาขึ้นมาเห็นกฤตธรก็เลยดีดตัวขึ้นมาจากที่นอนทันที

     

    โอ้ย  นี่คุณเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  เธอมีนิสัยอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร  แล้ว   คือถ้าได้หลับเมื่อไหร่เธอจะหลับยาว

     

    ฮึ  เข้ามานอนในนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว   ขี้เซาไม่เปลี่ยนไปเลยนะผึ้ง  ไม่อยากไปเรียนก็บอกนะ  ฉันจะนอนให้เธอกอดทั้งคืนทั้งวันก็ยังได้   ก็เขาเห็นเธอกอดเขาเสียแน่น  เหมือนกลัวเขาหนีหายไปไหน   จงใจที่จะล้อคนข้างหน้า  เลยทำให้ผึ้งปาหมอนใส่เขาทันที

     

    ใครอยากให้คุณกอด  คุณไปจากห้องนี้ได้แล้ว  วันนี้ฉันจะไปมหาลัยเอง

     

    เอ้าไปถูกรึ  ไม่กลัวตกน้ำตกท่าหรือไง   คำพูดนั้นทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมา  เพราะเธอกลัวตกน้ำเป็นชีวิตจิตใจ

     

    เขาอยากขอโทษผึ้งที่พูดทั้งที่รู้ว่าเธอกลัวอะไร

     

    เอาอย่างนี้เธอไปมหาลัยกับฉัน

     

    เรื่องอะไรฉันต้องไปกับนายด้วยนะ  เธอขึ้นเสียงใส่เขาทันที

     

    เอ้า  เป็นคู่หมั้นกันต้องไปไหนด้วยกันสิ  อีกอย่างฉันต้องไปในฐานะอาจารย์ที่นั่นอยู่แล้ว  เขายิ้มกริ่ม  เพราะในที่สุดเขาก็ได้ทำตามสัญญาที่ให้กับผึ้งแล้วจนได้   ถึงแม้เธอจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตามที

     

    คู่หมั้นที่ฉันไม่เต็มใจเนี่ยนะ  ฉันเชื่อว่านายก็เช่นกัน

     

    รู้ได้ไงว่าฉันไม่เต็มใจ  อย่างไรเธอกับฉันต้องหมั้นกันไปจนกว่าเธอจะจบ  และเราต้องแต่งงานกันในที่สุด   ฉันไม่ยอมให้เธอถอนหมั้นแล้วไปหลงรักหนุ่มหน้าไหนเด็ดขาด  เข้าใจไหม  เขาเจ็บใจที่เธอจำเขาไม่ได้  แล้วยังรังเกียจที่จะเป็นคู่หมั้นกับเขา  ทั้งที่เขารอเวลานี้มานานแค่ไหน  เขาเดินไปจากห้องทันที   แล้วหันกลับมามองคนที่เตียง   ก่อนเปิดประตูห้องออกไป

     

    ฉันให้เวลา  20  นาที   ถ้าเธอแต่งตัวไม่เสร็จ  ฉันจะมาแต่งให้เธอเอง  เขาออกจากห้องไปแล้ว

     

    ฮึ  คนบ้า 

     

     

    เขามายืนรอเธอที่ปลายบันไดท่าน้ำแล้ว  เขายื่นมือมาจับเอวเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นพาขึ้นเรือ  ดีที่เธอไม่ดิ้น  แต่เธอก็นั่งหันหน้าไปคนละทางกับเขา  ไม่อยากเสวนากับเขาเสียเท่าไหร่  เธอนั่งอยู่สักครู่หนึ่ง  เรือเริ่มติดเครื่องยนต์  เรือออกจากท่าน้ำ  เขาก็หันมาจับมือเธอไปกอดเอวเขา   แล้วไม่ปล่อยมือเธอเลย  เธอร้อนวาบทั้งผิวหน้า  และแขนมือ

     

    กอดเอวพี่ไว้จะได้ไม่กลัว  พี่รู้ว่าผึ้งกลัวเรือใช่ไหม  ไม่ต้องกลัวนะ  เสียงที่อ่อนโยนของเขา  ทำให้ท่าทีที่จะชักมือออกหยุดนิ่งทันที   เขายิ้มที่เธอไม่ทำอย่างนั้น 

     

    ผึ้งถึงแม้ว่าเธอจะจำพี่ไม่ได้  แต่พี่จะทำให้ผึ้งรักพี่  และความทรงจำในใจผึ้งต้องมีแต่พี่  พี่คนเดียวเท่านั้น

     

    นี่จะไม่คุยอะไรกับพี่เลยหรือ  เขาหันไปถามคนข้างตัวที่นั่งเงียบไม่พูดจา

     

    ไม่รู้จะคุยอะไร  เธอพูดเสียงห้วน

     

    ถามเรื่องเรียนก็ได้

     

    ทำไมแม่ต้องให้ฉันมาเรียนที่นี่ด้วย  เขาบังคับแม่ให้เธอมาเรียนที่นี่หรือไง

     

    ก็พี่อยากให้ผึ้งอยู่ใกล้ ๆ  ผึ้งแทนตัวเองว่าผึ้งได้ไหม  พูดว่าฉันว่านาย  พี่ฟังแล้วดูห่างเหินจัง  เขาพ้อขึ้น

     

    ไม่ใช่คนสนิทชิดเชื้อกันเสียหน่อยจะได้เรียก  เธอไม่ค่อยพอใจ

     

    แต่เราเป็นคู่หมั้นกันนะ  ผึ้ง

     

    งั้นก็ยอมถอนหมั้นกับฉันเสียสิ   เขาโมโหขึ้นมา  ถ้าไม่คิดว่ายังมีคนพายเรืออยู่อีกคนหนึ่ง  เขาได้สั่งสอนเธอแน่

     

    ลุง  ฉันไม่ไปแล้วมหาลัยวันนี้  แล่นเรือกลับบ้านฉันเลยแล้วกัน  เร็วด้วย

     

    นี่นายไหนว่าจะไปทำงาน  พาฉันไปปฐมนิเทศอย่างไรละ  เธอรับรู้ถึงความโกรธของคนข้างหน้า  เธอพูดอะไรผิดไปหรือไง   ก็ในเมื่อเขาและเธอไม่เต็มใจที่จะหมั้นกัน  ก็สมควรที่จะรีบถอนหมั้นซะดีกว่า

     

    ความเงียบปกคลุมทั่วลำเรือ  จนกระทั่งถึงบันไดท่าเรือของบ้าน  เธออึดอัด

     

    ขอบใจมากนะลุง  วันนี้ผมคงไม่เรียกใช้อะไรลุงแล้ว  ลุงไปรับผู้โดยสารอื่นเถอะ

     

    เขาดึงเธอขึ้นจากเรืออย่างรุนแรง  จนเธอเจ็บข้อมือไปหมด

     

    เธอรอให้เรือแล่นหายไปลับตาแล้ว  ถึงสะบัดมือออกจากมือเขาอย่างแรง  แต่แทนที่เขาจะปล่อยกับกระชับแน่นแล้วดึงเธอเข้าไปในบ้านทันที

     

    นี่นายปล่อยฉันนะ  ฉันเจ็บนะ  เธอพยายามที่จะดึงมือออกมาแต่ไม่เป็นผล  พอถึงในตัวบ้านเขาก็ฉุดเธอลงนั่งที่เก้าอี้รับแขก   แล้วหันมากอดเธอไว้แน่นทันที

     

     

    นี่นายไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนี้กับฉันนะ  ปล่อยฉันนะ  คอยดูนะฉันจะให้แม่เอาเรื่องนาย  นายมันบ้า  เธอเงียบเสียงลงได้เพราะเขาจูบปิดปากเธอทันที 

     

    เขาจูบเธออย่างนั้นจนพอใจเห็นคนในอ้อมแขนอ่อนระทวยถึงปล่อยให้ริมฝีปากเธอเป็นอิสระ

     

    ทำไมพี่จะไม่มีสิทธิ์  อย่าคิดนะว่าพี่จะยอมถอนหมั้นผึ้ง  ในพี่รอเวลานี้มานานขนาดไหน  จะได้แก้แค้นผึ้งที่ทำกับพี่ในสมัยเด็ก  ผึ้งทำให้พี่เจ็บปวด  ทำให้พี่สิ้นความอดทน  เราสองคนต้องอยู่ด้วยกันอีกนานจนกว่าพี่จะเบื่อผึ้งเข้าใจไหม  ความโกรธของเขาทำให้เขาพูดอะไรบ้า ๆ  ออกไป

     

    ปล่อย  ที่แท้นายก็เห็นฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง  นายไม่ให้เกียรติฉัน  กับแม่ฉันเลย   ฉันจะไปจากนาย  ฉันจะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีก  นายจะได้หายแค้นฉัน   ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันทำอะไรให้นาย  นายถึงโกรธฉันมากมาย

     

    สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันหายโกรธ  เธอต้องมารักฉัน  ต้องทำตามใจฉัน  ต้องมาเป็นเมียฉันเข้าใจไหม  ว่าแล้วเขาก็ก้มตัวช้อนผึ้งอุ้มขึ้นมาแล้วพาขึ้นไปชั้นบน  เพื่อปฏิบัติการทวงรัก  ทวงหัวใจคืนทันที  เพราะเขาโมโหผึ้งจนหน้ามืด  เพราะเธอคิดที่จะไปจากเขา 

     

    ตกเย็น  ภายในห้องที่มืดสนิท  ร่างบางของผึ้งคดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา  กำลังร้องไห้อย่างแรง  โดยมีอ้อมแขนของกฤตธรกอดอยู่

     

    เขายอมรับว่าเขาทำอย่างนี้ไม่ถูก  แต่ความโกรธเพราะเธอไม่รัก เหมือนเช่นที่เขารู้สึก  เธอคงอยากจะถอนหมั้นกับเขา  มากกว่าอยู่กับเขา  ทำให้เขาต้องติดสินใจที่จะทำอย่างนี้เพื่อดึงรั้งเธอไว้  ถึงแม้ดึงรั้งไว้ได้แต่กายเธอ  เขาก็ยอมทำ

     

    ไม่ต้องเสียใจอะไรหนักหนาได้ไหม  เขาอยากพูดปลอบโยนเธอแต่เขาก็ปากร้ายอีกแล้ว

     

    ใช่สินายจะมารู้สึกรูสาอะไรกับฉัน  ฉัน  ทำไมเธอไม่ฆ่าคนตรงหน้านี้ซะ  ที่บังอาจมาข่มขืนเธอ  เธอเป็นเมียเขาแล้ว  โอ้ยเธออยากตาย

     

    ฉันยอมรับว่าฉันผิด  แต่ฉันยินดีที่จะรับผิดชอบเธอนะผึ้ง

     

    ไม่จำเป็น  นายคงทำอย่างนี้กับผู้หญิงบ่อยแล้ว  ฉันไม่ต้องการ  ที่จริงไม่ได้รังเกียจเขา  แต่เธอกลัวเกรงสายตาของเขา  ที่มันเหมือนบ่อน้ำลึกนั่น

     

    ทำไมถึงจะไม่จำเป็น  เพราะถึงอย่างไรฉันก็ให้ความเคารพนับถือกับแม่เธออยู่แล้วนะผึ้ง  แล้วอีกอย่างผลที่จะตามมาเธออาจกำลังท้องลูกของฉันก็ได้  แล้วอีกอย่างคือฉันรักเธอ  อยากแต่งงานกับเธอใจจะขาดอยู่แล้ว

     

    คำพูดของเขาทำให้เธอคิดได้  เธอเงียบไปสักครู่หนึ่ง  เธอดึงตัวออกจากอ้อมแขนเขาทันทีแล้วหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำของเขา  สวมใส่แล้วเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ได้หันไปคุยกับเขาอีกเลย

     

    พอเธอออกมาจากห้องน้ำ  ก็ไม่เห็นเขาอีกแล้ว  เธอเลี่ยงที่จะไม่รับประทานอาหารเย็นเพราะยังอยากหลบหน้าเขา   เพราะเธออายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เธอล็อกประตูห้องแล้วก็หลับสนิทไป 

     

    วันรุ่งขึ้นเธอรีบอาบน้ำแต่งตัวที่จะไปมหาวิทยาลัย  เธอขึ้นเรือไปคนเดียว  โดยไม่ได้เจอหน้าของกฤตธรในเช้าวันนั้น

     

    เธอตรงไปสำนักอธิการของมหาวิทยาลัยแห่งนั้นเพื่อตรวจรายชื่อว่าเธออยู่ห้องไหนเรียนตึกไหน   เธอสมัครเข้าเรียนในคณะบริหารธุรกิจ  สาขาการจัดการระหว่างประเทศ

     

    เธอกำลังเดินตรงเข้าไป  ที่ประชาสัมพันธ์  แต่เธอเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่งเสียก่อน  คนนั้นก็คือ ต้นหรือ ธนกริช  ธารันภร  ดาราชื่อดังที่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่คณะนิเทศศาสตร์เป็นรุ่นพี่ปีหนึ่งของเธอ

     

    ขอโทษคะ  เธอเงยหน้าขึ้นมาขอโทษ  แต่เธอก็ไม่สนใจอะไรในตัวเขา  ถึงแม้รู้ว่าเขาเป็นใคร  แต่เธอก็ไม่ใช่คนบ้าดาราอย่างวัยรุ่นสมัยนี้

     

     

    ไม่เป็นไรครับ  เขาแปลกใจที่ผึ้งไม่มีทีท่าเข้ามาตีสนิทหรือทำความรู้จักกับเขา  ทำให้เขาประทับใจในตัวเธอ  เธอรีบเดินเข้าไปข้างในทันที

     

    อีกมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย  กฤตธรกำลังยืนมองคนทั้งสองอยู่  เขามีทีท่าหึงหวงร่างบางนั่น  แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้  เขารีบเดินเข้าไปในตึกเช่นกัน

     

    สวัสดีครับ/ค่ะ อาจารย์  นักเรียนที่เดินผ่านไปมายกมือไหว้เขา  เขาเพียงก้มหน้าให้  อารมณ์ที่กรุ่นอยู่ข้างในทำให้หน้าของเขาดูบึ้งตึง

     

    อาจารย์คนนั้นชื่อว่าอะไรนะเธอ   หล่อ ๆ สมาร์ทก็สมาร์ท  โอ้ยถ้าให้ฉันเลือกระหว่างต้นกับอาจารย์คนนั้นเลือกไม่ถูกแน่นอน  กลุ่มหญิงสาวที่เดินผ่านอาจารย์เมื่อกี้นี้จับกลุ่มกล่าวถึงอาจารย์ขึ้น

     

            “นี่เธอให้มันน้อย ๆ หน่อยนะ  อย่างอาจารย์หรือคุณต้นนะเขาไม่มองคนอย่างเธอหรอก  แล้วฉันก็ได้ข่าวมาว่า  อาจารย์นะมีคู่หมั้นแล้วด้วย   กลุ่มนั้นก็สลายตัวไป  เพราะต้องรีบเข้าเรียนในแต่ละวิชา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×