ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ไอ้จิ๋ว เพื่อนคนแรก ที่ทำให้รักเกินเพื่อน
ผมเติมโตขึ้นมาท่ามกลางญาติผู้หญิงมากกว่าชาย แต่ใจผมไม่เคยคิดจะเป็นหญิง
ผมเคยคบกับผู้หญิง มาหลายคน เคยมีเพศสัมพันธ์กันก็หลายครั้ง บางคนถึงขนาด
ทำให้ผมอยากแต่งงานด้วย แต่แล้วไม่รู้ว่าอะไร ที่ทำให้ผมรู้สึกชอบผู้ชายขึ้นมา
หรือเป็นเพราะว่าผมต้องเกิดมาเป็นเกย์จริง ๆ ผมได้รู้จักกับเพื่อนคนนึง เรารู้จักกัน
ในกลุ่มของวงเหล้า ตอนแรกที่เราเจอกันผมไม่เคยรู้สึกว่าชอบขี้หน้าไอ้หมอนี่เลย
เพราะเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งเคยถามผมว่า รู้จักคนที่ชื่อ จิ๋ว ไหม เพราะว่ามันเรียน
โรงเรียนเดียวกันกับผม แต่คนละสาขา ผมเรียน บริหาร ส่วนไอ้จิ๋วเรียนช่างยนต์
ผมเลยบอกเพื่อนไปว่า แล้วจะไปรู้จักยังไง เพราะคนละสาขา เพื่อนผมก็บอกว่าก็เห็นมันบอกว่า อยู่ที่โรงเรียนมีสาว ๆ มองมันเหลียวหลังเลย มันเลยจะถามว่าจริงหรือป่าวแต่ถ้าถามผมในตอนนั้นระหว่าง ไอ้โน(คนที่ถามผมเรื่องไอ้จิ๋ว) กับ ไอ้จิ๋ว ใครหล่อกว่ากัน ผมว่าไอ้โนหล่อกว่านะเพราะหน้าตามันเหมือน จอห์น ดีแลนเลย ถ้าใครรู้จักจอห์น ดีแลน ก็จะรู้ว่าหล่อแค่ไหน ดาราไทย ที่เคยเล่นละครเรื่อง เมื่อหมอกสลาย แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปซะก่อน แต่ผมไม่ได้บอกไอ้โนไปแบบนี้ เพราะตอนนั้นผมยังไม่เคยเห็นไอ้จิ๋วจากการที่ไอ้โน ถามผม มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า ไอ้จิ๋ว เป็นคนหลงตัวเองมาก ๆจนกระทั่งได้เจอกับไอ้จิ๋ว ก็ที่วงเหล้าอีกนั่นแหละ ผมเห็นมันครั้งแรก มันมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ยิ่งทำให้ผมไม่ชอบขี้หน้ามันเข้าไปอีก จนถึงเวลากินเหล้า เพื่อน ๆ ในกลุ่มวงเหล้า ไม่เคยรู้หรอกว่าผมกินเหล้าไม่เป็น เพราะไม่เคยกิน แต่ไอ้ด้วยความที่เรากลัวเสียฟอร์มเชิงชาย ก็เลยทำเป็นกินกับมันไปด้วย และวันนั้นผมก็ได้นั่งกินเหล้าข้าง ๆ ไอ้จิ๋ว ผมก็ไม่ได้ชวนมันคุยอะไร แต่มันคอยพยายามจะชวนผมคุย จนทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปเริ่มรู้สึกดีกับมัน ถ้าพูด ๆ ไปแล้วไม่เอาอคติในใจตอนแรกที่มีต่อไอ้จิ๋วนะ ไอ้จิ๋วมันหน้าตาดีมากเลยทีเดียว เพียงแค่ตัวมันเล็กไปหน่อย ก็สมชื่อมัน จิ๋วจริง ๆแล้ววันนั้นผมกับไอ้จิ๋วก็เมาด้วยกันทั้งคู่ เพื่อนมันเลยให้ผมกับไอ้จิ๋ว ขึ้นไปนอนตรงระเบียงบ้าน ผมก็หลับเปงตาย แต่พอสักพัก มีน้ำอะไรไม่รู้กระเด็นเข้าหน้าผม ผมเลยตื่นขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นอ้วกของไอ้จิ๋ว โอ้โหแม่เจ้า มันจะเดินไปอ้วกที่อื่นหน่อยก็ไม่ได้มันอ้วกข้าง ๆ ผมเลย เป็นปลากระป๋องทั้งนั้นที่อ้วกออกมา กับเศษมาม่า ที่มันกินเข้าไปเป็นกับแก้ม
ผมก็ได้แต่ลูบหลังมันแล้วบอกว่าเห้ย ไหวป่าว แล้วผมก็ลงมานอนต่อ เพราะไม่ไหวจริงๆเพิ่งเคยรู้เหมือนกันว่าคนเมาหัวลาน้ำเป็นยังไง เพราะในขณะที่จิ๋วอ้วกอยู่เพื่อนอีกคนซึ่งก็เมาเหมือนกัน เดินขึ้น พร้อมกับกระป๋องน้ำขนาดใหญ่ใบหนึ่ง พี่ท่านไม่พูดพร่ำทำเพลงบอกไอ้จิ๋วหลบ แล้วก็สาดน้ำเพื่อล้างอ้วก แต่มันไม่ได้สะกิดผมสักนิดว่าให้ผมหลบ เศษอ้วกกระเด็นเข้าหาผมเต็ม ๆ เสื้อนักรียนสีขาว เป็นสีส้มไปในบัดดล ผมเลยตื่นเลยทีนี้ แล้วเพื่อนมันก็บอกว่าเห้ยขอโทษลืมเรียก ดูมันพูดเข้าคนนอนอยู่มาพูดมาได้ว่าลืมเรียกแล้วเพื่อนอีกคนในกลุ่มก็มาส่งผมที่บ้านซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้ห่วงอะไรไอ้จิ๋วเลย มาถามเพื่อนอีกทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อนผมมันบอกว่า ไอ้จิ๋วลงไปกินต่อจนเมาอีกรอบแล้วลงไปนอนขดอยู่ข้าง ๆ โอ่ง เหมือนหมาเลย ทำให้ผมขำใหญ่ แล้วจากวันนั้นผมกับไอ้จิ๋วก็สนิทกันมากขึ้น จนทุกเช้า ผมต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซึ่งปกติผมตื่น 8-9โมงเช้า ไม่บางทีก็ไปเรียนเอาตอนเที่ยงบ้าง บ่ายบ้าง คาบสุดท้ายบ้าง จนผมหมดสิทธิ์สอบวิชาแรกของคาบเช้าไปแล้วสองวิชา แต่พอมาเจอไอ้จิ๋ว ผมต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่ออาบน้ำแต่งตัวแล้วไปหาไอ้จิ๋วที่บ้าน เพื่อปลุกให้มันไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปโรงเรียนพร้อมกัน ผมเคยถามมันว่า ทำไมไม่อาบน้ำรอไว้เลยมาถึงจะได้รับไปเรียนด้วยกันเลย มันบอกว่าถ้าไม่ได้ยินเสียง
รถผมมันก็ไม่ตื่นหรอก มีแบบนี้ด้วยแหะคิดเอาแล้วกัน ผมเลยต้องมารับมันแต่เช้าทุกวันแล้วก็นั่งรถสองแถวไปเรียนพร้อมกัน แล้วเวลาเลิกเรียน ถ้าไอ้จิ๋วมันเลิกก่อน มันก็จะมานั่งรอที่โรงอาหาร ถ้าผมเลิกก่อนผมก็จะไปนั่งรอมันที่โรงอาหาร และถ้าวันไหนมันอยากไปไหนกับเพื่อนมันก็จะมาตะโกนตรงริมหน้าต่างให้เพื่อนผมเรียกผมให้หน่อย เพื่อนผมทุกคนจะรู้จักไอ้จิ๋วเกือบหมด ผมก็ต้องคอยออกมาหามันที่ริมหน้าต่างเพื่อฟังว่าวันนี้มันจะไปรอที่โรงอาหารหรือไปเที่ยวกับเพื่อนมัน พอนั่งรถกลับบ้านกัน ผมกับไอ้จิ๋วก็จะไปอยู่บ้านผมสักครึ่งชม เพื่อหาอะไรกินกัน เพราะบ้านผมเป็นร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆ
หลักจากนั้นผมก็ต้องไปส่งมันที่บ้าน เพื่อให้มันเปลี่ยนชุดเพื่อจะไปเตะบอล แล้วผมก็ต้องไปส่งมันที่สนามบอล และก็นั่งรอมันเล่นบอลจนเสร็จก็ประมาณ5-6โมงเย็น ทุกครั้งที่ไปส่งไอ้จิ๋วเตะบอล ผมต้องคอยนั่งถือของให้มันไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ สร้อย ถ้าบางครั้งฝ่ายไอ้จิ๋วต้องถอดเสื้อเพื่อความแตกต่างของเกมผมก็ต้องคอยถือเสื้อให้มันอีก พอมันเตะบอลเสร็จ ผมก็ไปส่งมันที่ร้านอาหารของแม่มัน ส่วนผมก็กลับมาอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จผมก็ไปหาซื้อขนม ให้มันที่หน้ามหาลัยของจังหวัดให้มันเช่น ข้าวเกรียบปากหม้อ ผลไม้แล้วเอาไปให้มันที่ร้าน ให้มันเสร็จแล้วก็กลับมาบ้านเลย มันก็ถามทุกครั้งว่า มาแค่นี้เองเหรอ ผมก็บอกว่าอืม แล้วเดี๋ยวตอน 4 ทุ่มจะไปหาที่บ้าน มันก็บอกว่าอืมงั้นเดี๋ยว4 ทุ่มเจอกัน เพราะว่าร้านไอ้จิ๋วปิดประมาณ 3 ทุ่ม กว่าจะเก็บร้านเสร็จกลับถึงบ้านก็ประมาณ3ทุ่มเกือบ4ทุ่ม พอถึง 4 ทุ่ม ผมก็ขี่รถไปหามันที่บ้านแล้วก็นั่งคุยกันสัก ครึ่ง ชม บางวันแม่ไอ้จิ๋วก็ชวนให้นอนที่บ้าน ตัวมันเองก็เคยชวน แต่เป็นอะไรไม่รู้ ไม่กล้านอน เกรงใจที่บ้านเขา จากนั้นผมก็กลับบ้านมา แล้วก็ตื่นเช้าไปรับมันเหมือนเดิม ทำอยู่อย่างนี้เกือบ
2 เดือนมันเลยเป็นความรู้สึกที่ว่า ผมเริ่มรักไอ้จิ๋ว เอามาก ๆ แต่ตอนนั้นมันยังไม่รู้สึก
ว่ามากขนาดเป็นแฟนกัน เพราะตอนนั้นผมก็มีแฟนผู้หญิงของผม และผมก็ไม่เคยรู้ด้วยว่าผู้ชายกับผู้ชายรักกันเกินเพื่อนมันเป็นยังไง เลยทำให้ผมรู้สึกกับไอ้จิ๋วแค่เพื่อนมาตลอดเคยมีอยู่หลายครั้งที่ทำให้ผมรู้สึกชอบมันและประทับใจมันนั่นก็คือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมกับมันขี่รถเพื่อที่จะไปงานประจำจังหวัด ผมเป็นคนซ้อนไอ้จิ๋วเป็นคนขี่ แล้วระหว่างทางที่จะไปงาน ไอ้จิ๋วมันขี่รถตกหลุม แรงมาก ซึ่งปกติเวลาผมนั่งรถซ้อนใครก็แล้วแต่ผมจะนั่งปลายเบาะ ไม่ชอบนั่งเอาตัวแนบติดกัน ไม่ว่ากับใครก็แล้วแต่ แต่วันนั้นพอรถตกหลุม ทำให้ผมตกใจมากเพราะมันตกหลุมแรงมากนึกว่ารถจะล้มซะแล้ว ผมเลยอุทานออกมาว่าเห้ย พร้อมกับตะผมกระเด้งไปด้านหน้าจนชนหลังไอ้จิ๋ว แล้วตอนนั้นไอ้จิ๋วก็ตกใจที่ผมอุทานมันคงคิดว่าผมตกรถมั้งมันเลยหันมามองผม แล้วระหว่างที่ผมกำลังกระเด้งไปหามันแล้วมันกำลังหันมามองผม หน้าผมไปหอมแก้มมันเข้าโดยบังเอิญ ย้ำว่าบังเอิญจริง ๆผมเองก็ตกใจส่วนมันก็คงเขิล ๆ เพราะมองหน้ามันที่กระจกด้านข้าง หน้ามันแดงกร่ำเลยนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้หอมแก้มมัน แล้วเราก็ไปเดินงานกันพอถึงเวลากลับ มันก็ขอขี่อีกไอ้เราก็ไม่อยากให้มันขี่แล้วน่ากลัวมากเวลามันขี่ แต่มันตื้อจะขี่ให้ได้เลยให้มันขี่อีกครั้งทีนี้ผมก็นั่งที่ปลายเบาะเหมือนเดิม ระหว่างที่ขี่รถไปมันก็ทำท่าเป็นแบบจะนอนขี่แล้วทีนี้ ก้นของมันก็มาแนบอยู่กับที่เป้าของผมแล้วมันก็ส่ายก้นไปมา แต่ในตอนนั้นผมกลับรู้สึกว่ามันทำบ้าอะไรของมันวะ ผมเลยหน้าบึ้ง ๆ ไปหน่อยเพราะตอนนั้นผมไม่เคยรู้สึกกับมันเกินเพื่อนเลยจริง ๆ แล้วมันก็กลับไปขี่รถเหมือนปกติ ผมก็บอกมันว่าเป็นบ้าอะไร
และก็ถามมันว่าจะไปไหน จะนอนร้านหรือนอนบ้านมึงหรือนอนบ้านกู มันก็บอกว่า
แล้วแต่มึงแล้วกัน อยากให้กูนอนไหนกูก็นอนนั่นแหละ พอผมได้ยินคำนี้ผมยิ้มด้วย
ความดีใจมาก ๆ มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากในตอนนั้น แต่ผมก็ให้มันนอนที่ร้านนั่นแหละเพราะว่าถึงร้านพอดี และก็ยังมีอีกหลายครั้งที่มันพูดหรือทำอะไรให้ผมรู้สึกดี เช่น คำที่ผมเคยถามมันว่า มึงจะไปไหนต่อ ไปบ้านไอ้บาส บ้านกู หรือกลับร้านมึง มันพูดว่ามึงอยู่ไหนกูก็อยู่นั่นแหละ ผมเลยบอกว่างั้นไปบ้านกูแล้วกัน ผมก็ขี่รถไปแล้วยิ้มไปอะไรมันจะมีความสุขขนาดนี้ พอขี่รถจะกลับบ้านระหว่างทาง ไอ้จิ๋วเกิดอยากกินไอติมขึ้นมา ก็บอกว่าให้ผมซื้อหน่อย ผมก็ซื้อให้มันกิน ตอนนั้นเราขี่รถจ็อกกันอยู่ใครพอจะรู้จักรถจ็อกก็จะรู้ว่ามันนั่งได้สบาย ๆ แค่สองคน รถจกก็คล้าย ๆ กับรถป็อบ + สกุ๊ตเตอร์ทีนี้พอมันได้กินไอดิม มันกลับบอกผมว่ามันขอขี่รถเอง ผมบอกว่าไม่ต้อง กินไอติมไปเหอะเดี๋ยวขี่ให้เอง มันก็บอกว่าไม่เอาจะขี่เอง ผมเลยให้มันขี่ แล้วระหว่างที่มันขี่ไปก็กินไอติมไปผมก็บอกมันขี่ดี ๆ นะมึงเดี๋ยวรถล้ม มันเลยบอกว่างั้นมึงก็ขี่แทนกูดิ ผมก็บอกมันไปว่ามึงก็จอดสิแล้วมานั่งข้างหลัง มันก็จอดจริง ๆ แต่ยอมมานั่งข้างหลัง มันบอกว่าจะนั่งข้าง หน้า แล้วผมก็ต้องโอบตัวมันแล้วขี่ไป แล้วมันก็เอนหลังมาพิงตรงอกผมแล้วก็คุยกันไปตอนคุยกันมันก็คอยหันหน้ามาจะมองผม จนทำให้ปากมันกับปากผม ห่างกันแค่ไม่กี่นิ้วตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรงมาก แต่แล้วเวลาก็ผ่านไปครึ่งปี ผมกับไอ้จิ๋วกลับรู้สึกห่างกันทางความรู้สึกมากขึ้น เพราะมีคนเคยพูดให้มันได้ยินว่า ส่งสัยคู่นี้จะเป็นคู่ตุ๋ย มันเลยพยายามตีตัวออกห่างผม จากที่เคยถามมันว่าจะไปไหนต่อ มันก็ตอบผมว่าแล้วแต่ ผมก็บอกไปว่าอย่าแล้วแต่ดิ ตัวมึงอยากไปไหนก็บอกมาจะได้พาไป ซึ่งเราตกลงกันว่าจะขี่รถเล่น
มันก็พูดขึ้นมาว่า แล้วแต่กูใช่มั้ย ผมก็บอกมันไปว่า อืม มันก็บอกว่า ถ้างั้นกลับบ้าน
กูอยากกลับบ้าน ผมเลยถามมันว่าอ้าว ไม่ขี่รถเล่นแล้วเหรอ มันบอกว่าไม่และขี้เกียจอยากกลับบ้าน เรื่องราวมันเริ่มแย่ลง จากที่เคยไปรับมันที่บ้านเพื่อไปโรงเรียนด้วยกันมันก็บอกว่าไม่ต้องมารับ จากที่เคยกลับบ้านด้วยกันมันก็ไม่เคยรอ จากที่เคยไปนั่งเฝ้ามันที่สนามบอล ก็ไม่เคยได้ไปอีกเลย จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมเลยนัดมันออกมากินข้าว มันก็มาตอนนั้นผมเอากางเกงยีนส์รีวายของแท้ที่พี่ซื้อให้ แล้วก็ยืมเงินเพื่อนซื้อชุดบอลให้มัน1 ชุด เพื่อเตรียมไว้ให้มัน ผมคิดไว้ว่านี่คือสิ่งสุดท้ายที่กูจะให้มึง เพราะไม่ไหวแล้วกับความรู้สึกที่ห่างเหินกันแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้เลิกคบกันดีกว่า จากที่เคยไปรับมันที่บ้านเวลาเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่เจอ มันก็จะรีบโทรมาบอกทันทีมันเคยพูดว่าเห้ยขอโทษนะที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าพอเห็น Message มึง ก็รีบให้พ่อจอดรถข้างทางเพื่อโทรมาบอกมึงทันทีแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอกินข้าวกันเสร็จผมก็ไปส่งมันที่บ้าน พร้อมกับยื่นเสื้อผ้าที่เตรียมมาไว้ให้มัน มันก็ถามว่าให้ทำไม ผมก็บอกว่าเออน่าอยากให้แล้วกันรับไปเหอะ มันก็รับไป แล้วจากนั้นผมก็กลับมาบ้านแล้วโทรไปหามันที่ร้านแล้วบอกกับมันว่า จิ๋ว กูว่ามึงกับกูเลิกคบกันเหอะ มันก็บอกว่าทำไมวะ ผมก็บอกมันว่า ตัวมึงเองรู้อยู่แก่ใจดี มันก็เอาแต่ถามว่าทำไมวะ ผมก็ยังคงตอบเหมือนเดิมว่า ตัวมึงเองรู้อยู่แก่ใจดีจนมันพูดขึ้นมาว่า แล้วแต่มึงแล้วกัน หลังจากวันนั้นผมกับมันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยอาจจะมีบางครั้งที่ผมโทรไปง้อมันซะเอง ตลกดีเนอะเป็นคนบอกเลิกคบเค้าแต่กลับไปง้อเค้าซะเอง แต่ทุกอย่างเมื่อกลับมาคบเป็นเพื่อนกันอีกอะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม มีอยู่วันหนึ่งผมนอนกำลังจะนอนแต่ในใจยังคิดถึงไอ้จิ๋วอยู่เลย แล้วสักพักก็มีเสียงโครมครามดังขึ้น
ผมก็ลุกขึ้นไปดูแล้วเปิดไฟปรากฏว่าเป็นไอ้จิ๋วนั่งเอง มันบอกว่าจำไม่ได้ว่าต้องเป็นไฟตรงไหนแล้วคืนนั้นมันก็ไม่ยอมให้ผมนอน เพราะตอนนั้นมันลาออกจากโรงเรียนแล้ว มันบอกว่าอยู่เป็นเพื่อนมันก่อนอย่าเพิ่งนอน พอผมหลับตามันก็ค่อย ๆ คลานมาหาแล้วก็จ้องหน้าผมผมก็โง่ซะเหลือเกิ๊นไม่หน้าลืมตาขึ้นมาก่อนเลยน่าจะรอดูสิว่ามันจะทำอะไร ผมดันลืมตาขึ้นมาก่อน เห็นหน้ามันขนานกับหน้าผมอยู่แล้วตาของมันก็กำลังจ้องผมอยู่ พอมันเห็นผมลืมตา มันก็ทำเหมือนอายโดยการเอาผ้าห่มตีหน้าผม แล้วก็หันไปนั่งดูโทรทัศน์เหมือนเดิม ซึ่งก็ทำให้ผมสงสัยมาตลอดเวลาตกลงแล้วมันรู้สึกยังไงกับผมกันแน่ พอหลังจากนั้นผมกับมันก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ถึงแม้บางครั้งมันจะมาหาที่บ้านให้ไปส่งที่สนามบอลหรือแม้แต่จะชวนไปเดินตลาดนัด ผมก็ไม่เคยไปกับมันอีกเลย จนเวลาผ่านไปหลายปีมาก มันก็มีลูกมีเมียเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แล้วเมียมันก็เป็นเพื่อนของเพื่อนของน้องผมเพื่อนน้องผมก็เลยถามแฟนไอ้จิ๋วว่า เห้ยไอ้จิ๋วกับผมนี่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนนี่แฟนไอ้จิ๋วพูดว่า เห็นจิ๋วเคยบอกเหมือนกันแต่พอคนอื่นเห็นว่าคบกับผมแล้วจะเป็นแฟนกันหรือป่าวเห็นสนิทกันเกินเพื่อน มันเลยเลิกคบ พอผมได้ยินน้องผมเล่าให้ฟังผมอึ้งมาก เพราะว่าตอนที่เลิกคบตอนแรกอาจจะใช่ที่มันห่างเหินไปก่อน แต่พอหลัง ๆ
มันเองเป็นฝ่ายมาหาผมตลอดแล้วผมเองเป็นคนปฏิเสธ แล้วทำไมมันถึงพูดแบบนี้ แล้วเรื่องระหว่างผมกับไอ้จิ๋ว ก็เลยจบกันตั้งแต่นั้นมา แต่ผมยังคงคิดถึงมันอยู่ลึก ๆ ในใจเสมอแต่ความรู้สึกตอนนี้มันไม่ใช่แค่เพื่อนเหมือนตอนนั้นแล้ว ความรู้สึกมันเปลี่ยนและต้องการมากเกินกว่านั้น
ผมเคยคบกับผู้หญิง มาหลายคน เคยมีเพศสัมพันธ์กันก็หลายครั้ง บางคนถึงขนาด
ทำให้ผมอยากแต่งงานด้วย แต่แล้วไม่รู้ว่าอะไร ที่ทำให้ผมรู้สึกชอบผู้ชายขึ้นมา
หรือเป็นเพราะว่าผมต้องเกิดมาเป็นเกย์จริง ๆ ผมได้รู้จักกับเพื่อนคนนึง เรารู้จักกัน
ในกลุ่มของวงเหล้า ตอนแรกที่เราเจอกันผมไม่เคยรู้สึกว่าชอบขี้หน้าไอ้หมอนี่เลย
เพราะเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งเคยถามผมว่า รู้จักคนที่ชื่อ จิ๋ว ไหม เพราะว่ามันเรียน
โรงเรียนเดียวกันกับผม แต่คนละสาขา ผมเรียน บริหาร ส่วนไอ้จิ๋วเรียนช่างยนต์
ผมเลยบอกเพื่อนไปว่า แล้วจะไปรู้จักยังไง เพราะคนละสาขา เพื่อนผมก็บอกว่าก็เห็นมันบอกว่า อยู่ที่โรงเรียนมีสาว ๆ มองมันเหลียวหลังเลย มันเลยจะถามว่าจริงหรือป่าวแต่ถ้าถามผมในตอนนั้นระหว่าง ไอ้โน(คนที่ถามผมเรื่องไอ้จิ๋ว) กับ ไอ้จิ๋ว ใครหล่อกว่ากัน ผมว่าไอ้โนหล่อกว่านะเพราะหน้าตามันเหมือน จอห์น ดีแลนเลย ถ้าใครรู้จักจอห์น ดีแลน ก็จะรู้ว่าหล่อแค่ไหน ดาราไทย ที่เคยเล่นละครเรื่อง เมื่อหมอกสลาย แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปซะก่อน แต่ผมไม่ได้บอกไอ้โนไปแบบนี้ เพราะตอนนั้นผมยังไม่เคยเห็นไอ้จิ๋วจากการที่ไอ้โน ถามผม มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า ไอ้จิ๋ว เป็นคนหลงตัวเองมาก ๆจนกระทั่งได้เจอกับไอ้จิ๋ว ก็ที่วงเหล้าอีกนั่นแหละ ผมเห็นมันครั้งแรก มันมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ยิ่งทำให้ผมไม่ชอบขี้หน้ามันเข้าไปอีก จนถึงเวลากินเหล้า เพื่อน ๆ ในกลุ่มวงเหล้า ไม่เคยรู้หรอกว่าผมกินเหล้าไม่เป็น เพราะไม่เคยกิน แต่ไอ้ด้วยความที่เรากลัวเสียฟอร์มเชิงชาย ก็เลยทำเป็นกินกับมันไปด้วย และวันนั้นผมก็ได้นั่งกินเหล้าข้าง ๆ ไอ้จิ๋ว ผมก็ไม่ได้ชวนมันคุยอะไร แต่มันคอยพยายามจะชวนผมคุย จนทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปเริ่มรู้สึกดีกับมัน ถ้าพูด ๆ ไปแล้วไม่เอาอคติในใจตอนแรกที่มีต่อไอ้จิ๋วนะ ไอ้จิ๋วมันหน้าตาดีมากเลยทีเดียว เพียงแค่ตัวมันเล็กไปหน่อย ก็สมชื่อมัน จิ๋วจริง ๆแล้ววันนั้นผมกับไอ้จิ๋วก็เมาด้วยกันทั้งคู่ เพื่อนมันเลยให้ผมกับไอ้จิ๋ว ขึ้นไปนอนตรงระเบียงบ้าน ผมก็หลับเปงตาย แต่พอสักพัก มีน้ำอะไรไม่รู้กระเด็นเข้าหน้าผม ผมเลยตื่นขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นอ้วกของไอ้จิ๋ว โอ้โหแม่เจ้า มันจะเดินไปอ้วกที่อื่นหน่อยก็ไม่ได้มันอ้วกข้าง ๆ ผมเลย เป็นปลากระป๋องทั้งนั้นที่อ้วกออกมา กับเศษมาม่า ที่มันกินเข้าไปเป็นกับแก้ม
ผมก็ได้แต่ลูบหลังมันแล้วบอกว่าเห้ย ไหวป่าว แล้วผมก็ลงมานอนต่อ เพราะไม่ไหวจริงๆเพิ่งเคยรู้เหมือนกันว่าคนเมาหัวลาน้ำเป็นยังไง เพราะในขณะที่จิ๋วอ้วกอยู่เพื่อนอีกคนซึ่งก็เมาเหมือนกัน เดินขึ้น พร้อมกับกระป๋องน้ำขนาดใหญ่ใบหนึ่ง พี่ท่านไม่พูดพร่ำทำเพลงบอกไอ้จิ๋วหลบ แล้วก็สาดน้ำเพื่อล้างอ้วก แต่มันไม่ได้สะกิดผมสักนิดว่าให้ผมหลบ เศษอ้วกกระเด็นเข้าหาผมเต็ม ๆ เสื้อนักรียนสีขาว เป็นสีส้มไปในบัดดล ผมเลยตื่นเลยทีนี้ แล้วเพื่อนมันก็บอกว่าเห้ยขอโทษลืมเรียก ดูมันพูดเข้าคนนอนอยู่มาพูดมาได้ว่าลืมเรียกแล้วเพื่อนอีกคนในกลุ่มก็มาส่งผมที่บ้านซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้ห่วงอะไรไอ้จิ๋วเลย มาถามเพื่อนอีกทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อนผมมันบอกว่า ไอ้จิ๋วลงไปกินต่อจนเมาอีกรอบแล้วลงไปนอนขดอยู่ข้าง ๆ โอ่ง เหมือนหมาเลย ทำให้ผมขำใหญ่ แล้วจากวันนั้นผมกับไอ้จิ๋วก็สนิทกันมากขึ้น จนทุกเช้า ผมต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซึ่งปกติผมตื่น 8-9โมงเช้า ไม่บางทีก็ไปเรียนเอาตอนเที่ยงบ้าง บ่ายบ้าง คาบสุดท้ายบ้าง จนผมหมดสิทธิ์สอบวิชาแรกของคาบเช้าไปแล้วสองวิชา แต่พอมาเจอไอ้จิ๋ว ผมต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่ออาบน้ำแต่งตัวแล้วไปหาไอ้จิ๋วที่บ้าน เพื่อปลุกให้มันไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปโรงเรียนพร้อมกัน ผมเคยถามมันว่า ทำไมไม่อาบน้ำรอไว้เลยมาถึงจะได้รับไปเรียนด้วยกันเลย มันบอกว่าถ้าไม่ได้ยินเสียง
รถผมมันก็ไม่ตื่นหรอก มีแบบนี้ด้วยแหะคิดเอาแล้วกัน ผมเลยต้องมารับมันแต่เช้าทุกวันแล้วก็นั่งรถสองแถวไปเรียนพร้อมกัน แล้วเวลาเลิกเรียน ถ้าไอ้จิ๋วมันเลิกก่อน มันก็จะมานั่งรอที่โรงอาหาร ถ้าผมเลิกก่อนผมก็จะไปนั่งรอมันที่โรงอาหาร และถ้าวันไหนมันอยากไปไหนกับเพื่อนมันก็จะมาตะโกนตรงริมหน้าต่างให้เพื่อนผมเรียกผมให้หน่อย เพื่อนผมทุกคนจะรู้จักไอ้จิ๋วเกือบหมด ผมก็ต้องคอยออกมาหามันที่ริมหน้าต่างเพื่อฟังว่าวันนี้มันจะไปรอที่โรงอาหารหรือไปเที่ยวกับเพื่อนมัน พอนั่งรถกลับบ้านกัน ผมกับไอ้จิ๋วก็จะไปอยู่บ้านผมสักครึ่งชม เพื่อหาอะไรกินกัน เพราะบ้านผมเป็นร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆ
หลักจากนั้นผมก็ต้องไปส่งมันที่บ้าน เพื่อให้มันเปลี่ยนชุดเพื่อจะไปเตะบอล แล้วผมก็ต้องไปส่งมันที่สนามบอล และก็นั่งรอมันเล่นบอลจนเสร็จก็ประมาณ5-6โมงเย็น ทุกครั้งที่ไปส่งไอ้จิ๋วเตะบอล ผมต้องคอยนั่งถือของให้มันไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ สร้อย ถ้าบางครั้งฝ่ายไอ้จิ๋วต้องถอดเสื้อเพื่อความแตกต่างของเกมผมก็ต้องคอยถือเสื้อให้มันอีก พอมันเตะบอลเสร็จ ผมก็ไปส่งมันที่ร้านอาหารของแม่มัน ส่วนผมก็กลับมาอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จผมก็ไปหาซื้อขนม ให้มันที่หน้ามหาลัยของจังหวัดให้มันเช่น ข้าวเกรียบปากหม้อ ผลไม้แล้วเอาไปให้มันที่ร้าน ให้มันเสร็จแล้วก็กลับมาบ้านเลย มันก็ถามทุกครั้งว่า มาแค่นี้เองเหรอ ผมก็บอกว่าอืม แล้วเดี๋ยวตอน 4 ทุ่มจะไปหาที่บ้าน มันก็บอกว่าอืมงั้นเดี๋ยว4 ทุ่มเจอกัน เพราะว่าร้านไอ้จิ๋วปิดประมาณ 3 ทุ่ม กว่าจะเก็บร้านเสร็จกลับถึงบ้านก็ประมาณ3ทุ่มเกือบ4ทุ่ม พอถึง 4 ทุ่ม ผมก็ขี่รถไปหามันที่บ้านแล้วก็นั่งคุยกันสัก ครึ่ง ชม บางวันแม่ไอ้จิ๋วก็ชวนให้นอนที่บ้าน ตัวมันเองก็เคยชวน แต่เป็นอะไรไม่รู้ ไม่กล้านอน เกรงใจที่บ้านเขา จากนั้นผมก็กลับบ้านมา แล้วก็ตื่นเช้าไปรับมันเหมือนเดิม ทำอยู่อย่างนี้เกือบ
2 เดือนมันเลยเป็นความรู้สึกที่ว่า ผมเริ่มรักไอ้จิ๋ว เอามาก ๆ แต่ตอนนั้นมันยังไม่รู้สึก
ว่ามากขนาดเป็นแฟนกัน เพราะตอนนั้นผมก็มีแฟนผู้หญิงของผม และผมก็ไม่เคยรู้ด้วยว่าผู้ชายกับผู้ชายรักกันเกินเพื่อนมันเป็นยังไง เลยทำให้ผมรู้สึกกับไอ้จิ๋วแค่เพื่อนมาตลอดเคยมีอยู่หลายครั้งที่ทำให้ผมรู้สึกชอบมันและประทับใจมันนั่นก็คือ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมกับมันขี่รถเพื่อที่จะไปงานประจำจังหวัด ผมเป็นคนซ้อนไอ้จิ๋วเป็นคนขี่ แล้วระหว่างทางที่จะไปงาน ไอ้จิ๋วมันขี่รถตกหลุม แรงมาก ซึ่งปกติเวลาผมนั่งรถซ้อนใครก็แล้วแต่ผมจะนั่งปลายเบาะ ไม่ชอบนั่งเอาตัวแนบติดกัน ไม่ว่ากับใครก็แล้วแต่ แต่วันนั้นพอรถตกหลุม ทำให้ผมตกใจมากเพราะมันตกหลุมแรงมากนึกว่ารถจะล้มซะแล้ว ผมเลยอุทานออกมาว่าเห้ย พร้อมกับตะผมกระเด้งไปด้านหน้าจนชนหลังไอ้จิ๋ว แล้วตอนนั้นไอ้จิ๋วก็ตกใจที่ผมอุทานมันคงคิดว่าผมตกรถมั้งมันเลยหันมามองผม แล้วระหว่างที่ผมกำลังกระเด้งไปหามันแล้วมันกำลังหันมามองผม หน้าผมไปหอมแก้มมันเข้าโดยบังเอิญ ย้ำว่าบังเอิญจริง ๆผมเองก็ตกใจส่วนมันก็คงเขิล ๆ เพราะมองหน้ามันที่กระจกด้านข้าง หน้ามันแดงกร่ำเลยนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้หอมแก้มมัน แล้วเราก็ไปเดินงานกันพอถึงเวลากลับ มันก็ขอขี่อีกไอ้เราก็ไม่อยากให้มันขี่แล้วน่ากลัวมากเวลามันขี่ แต่มันตื้อจะขี่ให้ได้เลยให้มันขี่อีกครั้งทีนี้ผมก็นั่งที่ปลายเบาะเหมือนเดิม ระหว่างที่ขี่รถไปมันก็ทำท่าเป็นแบบจะนอนขี่แล้วทีนี้ ก้นของมันก็มาแนบอยู่กับที่เป้าของผมแล้วมันก็ส่ายก้นไปมา แต่ในตอนนั้นผมกลับรู้สึกว่ามันทำบ้าอะไรของมันวะ ผมเลยหน้าบึ้ง ๆ ไปหน่อยเพราะตอนนั้นผมไม่เคยรู้สึกกับมันเกินเพื่อนเลยจริง ๆ แล้วมันก็กลับไปขี่รถเหมือนปกติ ผมก็บอกมันว่าเป็นบ้าอะไร
และก็ถามมันว่าจะไปไหน จะนอนร้านหรือนอนบ้านมึงหรือนอนบ้านกู มันก็บอกว่า
แล้วแต่มึงแล้วกัน อยากให้กูนอนไหนกูก็นอนนั่นแหละ พอผมได้ยินคำนี้ผมยิ้มด้วย
ความดีใจมาก ๆ มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากในตอนนั้น แต่ผมก็ให้มันนอนที่ร้านนั่นแหละเพราะว่าถึงร้านพอดี และก็ยังมีอีกหลายครั้งที่มันพูดหรือทำอะไรให้ผมรู้สึกดี เช่น คำที่ผมเคยถามมันว่า มึงจะไปไหนต่อ ไปบ้านไอ้บาส บ้านกู หรือกลับร้านมึง มันพูดว่ามึงอยู่ไหนกูก็อยู่นั่นแหละ ผมเลยบอกว่างั้นไปบ้านกูแล้วกัน ผมก็ขี่รถไปแล้วยิ้มไปอะไรมันจะมีความสุขขนาดนี้ พอขี่รถจะกลับบ้านระหว่างทาง ไอ้จิ๋วเกิดอยากกินไอติมขึ้นมา ก็บอกว่าให้ผมซื้อหน่อย ผมก็ซื้อให้มันกิน ตอนนั้นเราขี่รถจ็อกกันอยู่ใครพอจะรู้จักรถจ็อกก็จะรู้ว่ามันนั่งได้สบาย ๆ แค่สองคน รถจกก็คล้าย ๆ กับรถป็อบ + สกุ๊ตเตอร์ทีนี้พอมันได้กินไอดิม มันกลับบอกผมว่ามันขอขี่รถเอง ผมบอกว่าไม่ต้อง กินไอติมไปเหอะเดี๋ยวขี่ให้เอง มันก็บอกว่าไม่เอาจะขี่เอง ผมเลยให้มันขี่ แล้วระหว่างที่มันขี่ไปก็กินไอติมไปผมก็บอกมันขี่ดี ๆ นะมึงเดี๋ยวรถล้ม มันเลยบอกว่างั้นมึงก็ขี่แทนกูดิ ผมก็บอกมันไปว่ามึงก็จอดสิแล้วมานั่งข้างหลัง มันก็จอดจริง ๆ แต่ยอมมานั่งข้างหลัง มันบอกว่าจะนั่งข้าง หน้า แล้วผมก็ต้องโอบตัวมันแล้วขี่ไป แล้วมันก็เอนหลังมาพิงตรงอกผมแล้วก็คุยกันไปตอนคุยกันมันก็คอยหันหน้ามาจะมองผม จนทำให้ปากมันกับปากผม ห่างกันแค่ไม่กี่นิ้วตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรงมาก แต่แล้วเวลาก็ผ่านไปครึ่งปี ผมกับไอ้จิ๋วกลับรู้สึกห่างกันทางความรู้สึกมากขึ้น เพราะมีคนเคยพูดให้มันได้ยินว่า ส่งสัยคู่นี้จะเป็นคู่ตุ๋ย มันเลยพยายามตีตัวออกห่างผม จากที่เคยถามมันว่าจะไปไหนต่อ มันก็ตอบผมว่าแล้วแต่ ผมก็บอกไปว่าอย่าแล้วแต่ดิ ตัวมึงอยากไปไหนก็บอกมาจะได้พาไป ซึ่งเราตกลงกันว่าจะขี่รถเล่น
มันก็พูดขึ้นมาว่า แล้วแต่กูใช่มั้ย ผมก็บอกมันไปว่า อืม มันก็บอกว่า ถ้างั้นกลับบ้าน
กูอยากกลับบ้าน ผมเลยถามมันว่าอ้าว ไม่ขี่รถเล่นแล้วเหรอ มันบอกว่าไม่และขี้เกียจอยากกลับบ้าน เรื่องราวมันเริ่มแย่ลง จากที่เคยไปรับมันที่บ้านเพื่อไปโรงเรียนด้วยกันมันก็บอกว่าไม่ต้องมารับ จากที่เคยกลับบ้านด้วยกันมันก็ไม่เคยรอ จากที่เคยไปนั่งเฝ้ามันที่สนามบอล ก็ไม่เคยได้ไปอีกเลย จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมเลยนัดมันออกมากินข้าว มันก็มาตอนนั้นผมเอากางเกงยีนส์รีวายของแท้ที่พี่ซื้อให้ แล้วก็ยืมเงินเพื่อนซื้อชุดบอลให้มัน1 ชุด เพื่อเตรียมไว้ให้มัน ผมคิดไว้ว่านี่คือสิ่งสุดท้ายที่กูจะให้มึง เพราะไม่ไหวแล้วกับความรู้สึกที่ห่างเหินกันแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้เลิกคบกันดีกว่า จากที่เคยไปรับมันที่บ้านเวลาเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่เจอ มันก็จะรีบโทรมาบอกทันทีมันเคยพูดว่าเห้ยขอโทษนะที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าพอเห็น Message มึง ก็รีบให้พ่อจอดรถข้างทางเพื่อโทรมาบอกมึงทันทีแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอกินข้าวกันเสร็จผมก็ไปส่งมันที่บ้าน พร้อมกับยื่นเสื้อผ้าที่เตรียมมาไว้ให้มัน มันก็ถามว่าให้ทำไม ผมก็บอกว่าเออน่าอยากให้แล้วกันรับไปเหอะ มันก็รับไป แล้วจากนั้นผมก็กลับมาบ้านแล้วโทรไปหามันที่ร้านแล้วบอกกับมันว่า จิ๋ว กูว่ามึงกับกูเลิกคบกันเหอะ มันก็บอกว่าทำไมวะ ผมก็บอกมันว่า ตัวมึงเองรู้อยู่แก่ใจดี มันก็เอาแต่ถามว่าทำไมวะ ผมก็ยังคงตอบเหมือนเดิมว่า ตัวมึงเองรู้อยู่แก่ใจดีจนมันพูดขึ้นมาว่า แล้วแต่มึงแล้วกัน หลังจากวันนั้นผมกับมันก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยอาจจะมีบางครั้งที่ผมโทรไปง้อมันซะเอง ตลกดีเนอะเป็นคนบอกเลิกคบเค้าแต่กลับไปง้อเค้าซะเอง แต่ทุกอย่างเมื่อกลับมาคบเป็นเพื่อนกันอีกอะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม มีอยู่วันหนึ่งผมนอนกำลังจะนอนแต่ในใจยังคิดถึงไอ้จิ๋วอยู่เลย แล้วสักพักก็มีเสียงโครมครามดังขึ้น
ผมก็ลุกขึ้นไปดูแล้วเปิดไฟปรากฏว่าเป็นไอ้จิ๋วนั่งเอง มันบอกว่าจำไม่ได้ว่าต้องเป็นไฟตรงไหนแล้วคืนนั้นมันก็ไม่ยอมให้ผมนอน เพราะตอนนั้นมันลาออกจากโรงเรียนแล้ว มันบอกว่าอยู่เป็นเพื่อนมันก่อนอย่าเพิ่งนอน พอผมหลับตามันก็ค่อย ๆ คลานมาหาแล้วก็จ้องหน้าผมผมก็โง่ซะเหลือเกิ๊นไม่หน้าลืมตาขึ้นมาก่อนเลยน่าจะรอดูสิว่ามันจะทำอะไร ผมดันลืมตาขึ้นมาก่อน เห็นหน้ามันขนานกับหน้าผมอยู่แล้วตาของมันก็กำลังจ้องผมอยู่ พอมันเห็นผมลืมตา มันก็ทำเหมือนอายโดยการเอาผ้าห่มตีหน้าผม แล้วก็หันไปนั่งดูโทรทัศน์เหมือนเดิม ซึ่งก็ทำให้ผมสงสัยมาตลอดเวลาตกลงแล้วมันรู้สึกยังไงกับผมกันแน่ พอหลังจากนั้นผมกับมันก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ถึงแม้บางครั้งมันจะมาหาที่บ้านให้ไปส่งที่สนามบอลหรือแม้แต่จะชวนไปเดินตลาดนัด ผมก็ไม่เคยไปกับมันอีกเลย จนเวลาผ่านไปหลายปีมาก มันก็มีลูกมีเมียเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แล้วเมียมันก็เป็นเพื่อนของเพื่อนของน้องผมเพื่อนน้องผมก็เลยถามแฟนไอ้จิ๋วว่า เห้ยไอ้จิ๋วกับผมนี่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนนี่แฟนไอ้จิ๋วพูดว่า เห็นจิ๋วเคยบอกเหมือนกันแต่พอคนอื่นเห็นว่าคบกับผมแล้วจะเป็นแฟนกันหรือป่าวเห็นสนิทกันเกินเพื่อน มันเลยเลิกคบ พอผมได้ยินน้องผมเล่าให้ฟังผมอึ้งมาก เพราะว่าตอนที่เลิกคบตอนแรกอาจจะใช่ที่มันห่างเหินไปก่อน แต่พอหลัง ๆ
มันเองเป็นฝ่ายมาหาผมตลอดแล้วผมเองเป็นคนปฏิเสธ แล้วทำไมมันถึงพูดแบบนี้ แล้วเรื่องระหว่างผมกับไอ้จิ๋ว ก็เลยจบกันตั้งแต่นั้นมา แต่ผมยังคงคิดถึงมันอยู่ลึก ๆ ในใจเสมอแต่ความรู้สึกตอนนี้มันไม่ใช่แค่เพื่อนเหมือนตอนนั้นแล้ว ความรู้สึกมันเปลี่ยนและต้องการมากเกินกว่านั้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น