จอมดาบปราบเซียน

ลำดับตอนที่ #1 : หวิ๋นอิงทียน

         ณ ปีที่ 197 ยุคสมัยแห่งการฝึกตนเพื่อแสวงหา ความแข็งแกร่งและการบรรลุจุดสูงสุดของการเป็นเซียน จึงมีผู้เก่งกาจมากมายทั่วหล้าที่สามารถบรรลุการเป็นเซียนได้ แม้จะมีผู้เก่งกาจมากมายเพียงใด แต่ไม่มีใครเก่งกาจเทียบเท่าผู้บรรลุเซียนคนแรกนั้นคือ หวิ๋นอิงเทียน ผู้ก่อตั้งสำนักอันดับ 1 ของดินแดนฉินนามสำนักหวิ๋นเทียนแห่งนี้ หวิ๋นอิงเทียนได้บรรลุการเป็นเซียนตั้งแต่อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้บรรลุการเป็นเซียนคนแรกและเป็นผู้บรรลุที่อายุน้อยที่สุด และพลังปราณของหวิ๋นอิงเทียนก็อยู่ขั้นที่ 11 ขั้นสูงที่สุด แล้วยังเป็นผู้แตกฉาณวิชาอาวุธทุกชนิด และยังคิดค้นวิชาดาบที่มีเพียง 11 กระบวนท่า ก็สามารถเอาชนะได้ทุกวิชา และยังเป็นวิชาขั้นสูงที่ฝึกยากที่สุด ชื่อเสียงของหวิ๋นอิงเทียนเลื่องลือไปทั่วทุกที่ไม่มีผู้ได้ที่ไม่รู้จักบุรุษผู้นี้

จนกระทั้ง ในปีที่ 291 วัยชราได้เข้ามากัดกินร่างกายหวิ๋นอิงเทียนในวัย 124 ปี นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงโดยไร้ทายาท มีเพียงลูกศิษย์ในสำนักที่รำให้อยู่ข้าเตียงไม่ห่าง ซึ่งมีลูกศิษย์บางคน ได้ไปหายาอายุวัธนะ ยาที่กินแล้วไม่แก่ไม่ตาย หรือแม้วิชาอยู่ยงคงกระพัน มาให้แก่หวิ๋นอิงเทียน แต่หวิ๋นอิงเทียน ปฏิเสธทุกอย่างแล้วกล่าวขึ้นมาว่า

" เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันคือวัฏจักรของมนุษย์ หากไม่ตายวันนี้ก็ตายวันหน้า ไม่มีใครหนีมันไปได้ มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ " เมื่อพูดจบ หวิ๋นอิงเทียน ก็สิ้นลมทันที

ในขณะที่เหล่าลูกศิษย์กำลังร้ำให้ด้วยความโศกเศร้าอยู่นั้น ร่างที่ไร้วิญญาณของหวิ๋นอิงเทียน เปร่งแสงสีทองออกมาแล้วสลายไปต่อหน้าต่อตาของเหล่าลูกศิษย์ของตน เหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างพากันกุมมือก้มกราบคาราวะด้วยความศรัทธาในสิ่งมหัศจรรย์ เหลือเพียงดาบขาวของหวิ๋นอิงเทียน หนึ่งในสุดยอดศาสตราวุธที่ว่างอยู่บนเตียงเท่านั้น

เหล่าศิษย์เอกของหวิ๋นอิงเทียนก็ได้นำเอาดาบของหวิ๋นอิงเทียนไปประดิษฐานไว้ที่ข้างบนบัลลังก์ที่นั่งของเจ้าสำนัก เพื่อรำลึกถึงปรมาจารย์หวิ๋นอิงเทียน ซึ่งดาบได้ส่องแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงเหล่าลูกศิษย์ของสำนักเท่านั้นที่บูชาเคารพดาบขาวนี้ ที่ถือว่าเป็นตัวแทนของปรมาจารย์หวิ๋นอิงเทียนเท่านั้น แต่ยังมีเหล่ายอดจอมยุทธที่ได้ข่าวการจากไปของปรมาจารย์หวิ๋นอิงเทียนต่างพากันมาเคารพดาบขาวของปรมาจารย์หวิ๋นอิงเทียนกันมากมาย

จนเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายร้อยปีจนปรมาจารย์หวิ๋นอิงเทียนได้กลายเป็นตำนานของเหล่าผู้ฝึกตนจนถึงทุกวันนี้.....