ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : We are Superstars [Andy VerSioN : My SaSSy GirL] Chapter 9 ~~มันไม่จริง~~
Chapter 9
เสียงกริ่งประตูทำให้ผมค่อยโงหัวขึ้นจากที่นอน นี่ก็เพิ่งเก้าโมงเช้า และสารรูปของผมก็ยังไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้ครับ ผมไม่อยากตื่นจากความฝันเลยครับ แถมเมื่อคืนนี้กว่าผมจะหลับตาลงได้ก็เกือบตีสี่เข้าไปแล้ว ทั้งที่เมื่อวานนี้ผมก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องพี่เฮซองอีก คาดว่าทางโน้นคงโต้รุ่งเหมือนผมอีกเช่นกัน...
สาเหตุที่ทำให้ผมนอนไม่หลับน่ะเหรอครับ ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากว่า ผมตื่นเต้น ดีใจที่น้องเยจินตกหลุมรักผมเข้าไปเต็มเปา...ภาพน้องเยจินจุ๊บผมทำให้ผมไม่เป็นอันหลับอันนอน ถ้าน้องเยจินไม่จู่โจมผมแบบสายฟ้าแลบล่ะก็ รับรองเลยว่า ผมจะจุ๊บน้องเค้าคืนแน่ๆ...ฮึ่ย!!!นึกแล้วเสียดาย
เสียงกริ่งประตูยังกดย้ำถี่ๆ...ไอ้คนมากดก็ช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ไม่รู้หรือไงว่าเจ้าของห้องไม่อยากต้อนรับ กดอยู่ได้...ผมเดินกระแทกเท้าอย่างเซ็งอารมณ์มาที่ประตู คอยดูนะ ถ้าขอบตาผมคล้ำ ผมจะฆ่าไอ้คนที่มากดกริ่งให้ตายคามือเลย..
ผมแนบลูกตาไปที่รูเล็กๆตรงประตูหรือที่เขาเรียกว่าตาแมว ผมล่ะอยากเห็นหน้าไอ้คนชะตาสั้นนัก บังอาจมากวนคนนอนหลับ....
อ๊ากกกกกก...น้องเยจินมาหาผมครับ...น้องเยจินมาหาผมแต่เช้า สงสัยคงจะคิดถึงผมมาก เอายังไงดีครับ ผมจะเปิดประตูให้เธอเลยดีมั๊ย แต่ชุดนอนของผมอันประกอบไปด้วยกางเกงบ๊อกเซอร์เก่าๆมีรอยขาดตรงก้นตัวเดียว มันไม่เหมาะที่จะต้อนรับยาหยีของผมเลย...
คิดได้ดังนั้นแล้ว ผมก็ถลาเข้าไปในห้องนอน คว้าเอากางเกงขาสั้นสีครีมกับเสื้อยืดสีขาวมาสวมทับทันที ในขณะที่ผมกำลังสาละวนแต่งกายให้สุภาพเพื่อต้อนรับน้องเยจิน น้องเค้าก็กระหน่ำกดกริ่งแบบไม่ให้ขาดระยะเลยทีเดียว ผมวิ่งกลับมาที่ประตูอีกครั้ง...
มือของผมจับลูกบิดประตู เตรียมจะเปิดต้อนรับการมาเยือนของนางฟ้าตัวน้อยๆของผม อยากจะเข้าไปอาบน้ำแปรงฟันให้หอมๆก่อน เผื่อน้องเค้าอยากจุ๊บผมอีก จะได้ไม่เหม็น...แต่ไม่ทันแล้วครับ ขืนให้น้องเค้ารอนาน เดี๋ยวน้องเค้าร้องไห้น้อยใจผมแย่เลย ผมรีบเปิดประตูทันทีเลยครับ...
“ทำอะไรอยู่ อยากตายนักหรือไง” เอ่อ...คำทักทายแบบนี้ผมพอจะอนุมานได้มั๊ยครับว่าน้องเยจินคิดถึงผมมากมาย
“ขอโทษครับ...เข้ามาสิครับ” ผมยิ้มแห้งๆ แล้วเบี่ยงตัวเชื้อเชิญให้น้องเยจินเข้ามาในห้อง
น้องเยจินค้อนใส่ผมด้วยท่าทีน่ารัก สงสัยเมื่อกี๊ที่ดุผมก็เพราะคงยืนรออยู่นานจำไว้นะครับ ให้ผู้หญิงรอนานๆไม่ดี เดี๋ยวเธอจะหงุดหงิด...
น้องเยจินก้าวฉับๆไปนั่งที่โซฟา แล้วเรียกผมเสียงดัง...”พี่แอนดี้หิวข้าวเช้ามั๊ย”
นั่นไงครับ...ที่ดุผมเมื่อกี๊ก็เพราะน้องเค้ายืนรอผมนาน เนี่ย...น้องเยจินคงห่วงว่าผมอาจจะไม่ได้กินข้าว เพราะเมื่อคืนเพื่อนๆก็เมาน็อคคาวงเหล้า ไม่มีกระจิตกระใจจะลุกขึ้นมาหาข้าวให้ผมทานหรอก นี่ดีนะที่ผมไม่กลับไปที่บห้องพี่เฮซองอีก ไม่อย่านั้นผมก็ไมได้เจอหน้าน้องเยจินที่ห้องแบบนี้ และน้องก็น่ารักมากมาย มาทำหน้าที่คู่รักที่ดี เอาของมาให้ผมกินแต่เช้า
ผมยิ้มแฉ่งให้น้องเค้าครับ...
น้องเยจินจ้องผม แล้วบอกด้วยน้ำเสียงจริงใจ๊ จริงใจว่า “อย่ายิ้มอย่างนั้นได้มั๊ย”
ทำไมครับน้องเยจิน...ไม่ให้ผมยิ้มแบบนี้เพราะกลัวละลายไปกับรอยยิ้มของผมใช่มั๊ย...”ทำไมเหรอ”
“มันเหมือนคนปัญญาอ่อน...” เอ่อ...สงสัยน้องเค้ายังไม่หายงอนผมน่ะครับ
ว่าแล้วน้องเยจินก็ร่อนม้วนหนังสือพิมพ์ในมือมาให้ผมครับ ผมมองหนังสือพิมพ์ที่ร่วงมากองอยู่บนตัก รูปที่ปรากฏเต็มหน้าปก ทำให้ผมตะลึง...
ผมไม่รู้ว่าปาปารัสซี่ตามเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่...จากรูปที่เห็น คาดว่าคงตามมาตั้งแต่ที่ร้านราเม็ง และก็มาจบลงที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ของพี่โจ ยิ่งไปกว่านั้นช็อตรักบันลือโลกของผมและน้องเยจินได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกแล้ว...
ที่น้องเยจินมาหาผมแต่เช้าคงเป็นเพราะเหตุนี้เองครับ...แต่ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะออกโรงปกป้องน้องเยจินเอง ผมจะไม่ทำให้น้องเยจินเป็นกังวลแน่นอครับ
“เยจินครับ...อย่าเครียดไปเลยนะ เดี๋ยวข่าวมันก็ซาไปเอง”
น้องเยจินมองหน้าผม ดวงตากลมโตของน้องเค้าทำให้ผมหลงใหลได้ปลื้มไปกับความน่ารัก...
“พี่มองยังไงว่าฉันเครียด...ความจริงนักข่าวก็เก่งนะ ถ่ายรูปเราเสียชัดเลย เข้าแผนฉันแบบเป๊ะๆ”
ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ...แผนอะไรกันครับ ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย “ว่ายังไงนะครับเยจิน”
น้องเยจินเห็นหน้าผมที่คงจะจืดเจื่อน เหรอหรา แล้วน้องเค้าก็หัวเราะเสียงดังครับ...”พี่แอนดี้...นี่พี่คิดว่าที่ฉันหอมแก้มพี่เมื่อคืนนี้ เป็นเพราะฉันพิศวาสพี่อย่างนั้นเหรอ”
อ้าว...ถ้าไม่พิศวาสผมแล้วจะหอมแก้มผมทำไมเล่าครับ...แต่ผมอายเกินกว่าจะพูดไป หน้าผมร้อนไปหมด มือมันดูเกะกะยังไงก็ไม่รู้ ผมอุบอิบบอกน้องเค้าไปว่า “เปล่าสักหน่อย”
ผมแก้ตัวเอาหน้าครับ แต่ความจริงคิดไปเต็มๆเลย...แหม!!ถ้าไม่รัก ไม่กิ๊กแล้วจะหอมแก้มผมทำไม ใช่มั๊ยครับ...
น้องเยจินหัวเราะลั่นห้อง...ทำไมครับท่าทางเขินอายของชายหนุ่มไม่ประสาในเรื่องความรักอย่างผม มันน่าหัวเราะมากนักเหรอไง...”พี่คิดแน่ๆเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
ผมปล่อยให้น้องเยจินหัวเราะเสียให้พอ น้องเค้านั่งหัวเราะอยู่พักใหญ่ แล้วก็บอกผมว่า...
“นี่...ฉันจะบอกอะไรให้พี่รู้นะ เมื่อคืนน่ะ ฉันเห็นพวกนักข่าวตามเราตั้งแต่ออกจากร้านราเม็งแล้ว ไอ้ที่ฉันทำไปทั้งหมดน่ะ มันเป็นการเล่นละคร อย่าคิดมากสิ เข้าใจ๊...”
เล่นละคร...เล่นละคร...เล่นละคร...เล่นละคร...เล่นละคร...เล่นละคร...เล่นละคร...
เสียงแอ๊คโค่ที่ดังก้องกลับไปกลับมาหัวผม ทำเอาผมหน้าซีด ผมไม่เข้าใจครับ...”มะ..หมายความว่ายังไง”
ตอนนี้ภาพน้องเยจินในสายตาของผม นางฟ้าผู้งดงามค่อยลดปีกสีขาวลง แล้วมีเขาของมารร้ายงอกออกมาจากหัวแทน...
“ก็หมายความว่า...ทุกอย่างที่ฉันทำ มันเป็นแผนของฉันเอง ฉันน่ะอยากแก้เผ็ดยัยไดอาน่าแฟนเก่าของพี่ ฉันก็เลยมาขอคบกับพี่...”
โอว...ไม่จริ๊งงงงงง...ที่ผมได้ยินน่ะฝันไปใช่มั๊ยครับ..
“เพื่อให้คนโง่อย่างพี่ได้เข้าใจ ฉันจะบอกให้ก็ได้ ยัยดาราใหญ่แฟนเก่าพี่น่ะ มันดูถูกฉันเอาไว้เสียเยอะ เห๊อะ!!หน้าก็บานๆกลมๆอย่างกับจาน คิดว่าสวยนักหรือไง ตอนพี่ไปจีบยัยนั่นน่ะ พี่สายตาสั้นแล้วไม่ใส่แว่นหรือคอนแท็คเลนส์ใช่มั๊ย”
เวรกรรม...น้องเยจินบรรยายเสียผมเห็นหน้าของไดอาน่าลอยมาลิบๆเลยครับ...
“ฉันตั้งเป้าไว้ว่า...ฉันจะทำให้ยัยไดอาน่าเป็นหมาบ้าต่อหน้าชาวบ้านชาวเมืองเขาให้ได้ ฉันจะทำให้ยัยนั่นอายเสียจนเดินออกจากบ้านต้องเอาปี๊บคลุมหัว” สายตาของน้องเยจินมาดมั่น น้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ทำเอาผมขนลุกขนพอง...ไดอาน่าเอ๋ย เล่นกับใครไปไม่เล่น ไปเล่นกับเจ้าแม่ฮานเยจิน...
“เยจินครับ...แล้วพี่ไปเกี่ยวอะไรด้วยครับ...” น้องเยจินมองผมราวกับผมโง่มากมาย...
“ก็พี่เป็นแฟนเก่าของยัยหน้าจานน่ะสิ”
น้องเยจินตกข่าวแล้วแหงมๆ....”อดีตแฟนครับเยจิน...”
“แต่ยัยนั่นมันมาขอคืนดีกับพี่นี่”
โห...รู้ลึก รู้จริง ต้องฮานเยจิน น้องเค้าทำงานกับสำนักข่าวไหนครับเนี่ย ที่เดียวกับพี่ดงวานแหงมๆ..
“ไม่รู้ล่ะ...พี่ต้องเป็นแฟนฉัน ฉันรู้นะว่ายัยนั่นอยากคืนดีกับพี่จะตายชัก เห๊อะ...สายตาสั้นด้วยกันทั้งคู่ ฉันก็เลยรวบหัวรวบหางเอาพี่มาเป็นแฟนฉันก่อน ฉันจะทำให้ยัยนั่นกระอักเลือดตายที่ขอคืนดีกับพี่ไม่ได้ แถมพี่ยังมีแฟนใหม่เป็นศัตรูเก่าอีก ฮ่าๆๆๆๆ...”
หลอนครับ...น้องเยจินหัวเราะเขย่าเส้นประสาทผมจริงๆ...”แล้วเมื่อคืนนี้...หมายความว่าเธอรู้ว่านักข่าวตามเรามา ก็เลยวางแผนประโคมข่าวว่าเราเป็นแฟนกันเหรอ”
“โอ๊ะ...ฉลาดขึ้นมาแล้วนี่ ฉันล่ะมีความสุขจริงๆ นึกภาพยัยนั่นออกเลย คงเหมือนไส้เดือนดิ้นพล่าน พอเห็นรูปตาต้องถลนออกมา แล้วก็ร้องกรี๊ดดดดดดดดดด”
ทุกท่านครับ...ถ้าน้องเยจินไม่แสดงคราบซาตานที่แฝงไว้ในตัวออกมา ผมคงขอกอดสักที เพราะน้องเค้าทำท่ากรี๊ดกร๊าดได้น่ารักมากมาย...งื้ออออออออ
ความสุขของผมมลายหายไปแล้ว...แค่เพียงชั่วข้ามคืนเดียว ทุกอย่างมันเป็นเหมือนฝัน น้องนางฟ้าผู้งดงาม กลับมาเป็นนางมารอีกแล้ว...เซ็ง...
น้องเยจินเขี่ยถุงข้าวต้มมาทางผม “ไปแกะให้กินหน่อยสิ...ฉันซื้อมาฝากพี่ด้วยนะ”
“น้องเยจินครับ พี่ว่าเราเลิกล้มแผนการเถอะครับ เพราะไดอาน่าคงไม่เต้นหรอกครับ พี่กับเธอเลิกกันแล้ว...” ผมพยายามอธิบายให้น้องเยจินปล่อยแอนดี้ตัวน้อยๆไปเสียที
มาเลยครับ...สายตาองค์เจ้าแม่เยจินดุมากๆ “อย่าพูดว่าจะให้ฉันเลิกล้มแผนการ ถ้าได้ยินอีก ฉันจะซ้อมพี่ชุดใหญ่...แล้วขอเตือนไว้เลยนะ อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ถ้าเล่า พี่ไม่ได้แค่เดี้ยง แต่พี่ต้อง..ตายยยย”
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่...”ครับๆ...เข้าใจครับ...”
“ดี...ไปแกะข้าวต้มสักทีสิ หิวแล้ว...อ้อ!!เปิดดีวีดีด้วยนะ ฉันเอาหนังมาดูกับพี่เยอะแยะเลย” น้องเยจินยื่นถุงใบใหญ่ให้ผม
เอาหนังมาดูเยอะแยะ..ผมนึกแล้วก็รีบถามไป “วันนี้ไม่ไปไหนเหรอครับ...”
“ไม่...ฉันจะอยู่กับพี่ทั้งวันเลย เมื่อกี๊ฉันเห็นนักข่าวดักรอด้านล่างด้วย เดี๋ยวคงมีข่าวฉันมาหาพี่แต่เช้า...ก็ดีเหมือน ไม่ต้องเปลืองสมองคิดแผนประโคมข่าวให้เมื่อย”
ผมเดินไปเปิดดีวีดีให้น้องเยจินด้วยสภาพจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว...
“พี่แอนดี้...ฉันอยากกินข้าวต้มร้อนๆ อุ่นให้ด้วยนะ”
คำสั่งของคุณน้องฮานเยจินทำให้ผมเดินกะปลกกะเปลี้ยเข้าไปในห้องครัว...ผมปาดน้ำตาที่ซึมออกมา โอ...ชีวิตอีซอนโฮผู้ทุกข์ระทม ใครส่งน้องเยจินเข้ามาในชีวิตผม กรุณาช่วยอัญเชิญน้องเค้าออกไปด้วยเถิด...สาธุ...
การได้นั่งดูดีวีดีกับแฟน มันน่าจะเป็นอะไรที่มีความสุขมากมายใช่มั๊ยครับ แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่เลย...อย่างกับนั่งอยู่ในกระทะทองแดงอย่างไงอย่างงั้น
เมื่อไหร่น้องเยจินจะกลับไปเสียที ผมยิ่งเห็นน้องเค้านานเท่าไหร่ ความมั่นใจของผมก็ยิ่งเสื่อมถอยมากเท่านั้น หรือว่าเสน่ห์ของแอนดี้ได้หมดไปแล้ว แล้วอย่างนี้ผมจะเอาหน้าตาหล่อๆไปมอมใครเค้าได้อีกล่ะครับ...เศร้าสุดๆเลย...
“เฮ้...พี่แอนดี้ ไปเอาน้ำส้มในตู้เย็นมากินทีสิ” เยจินครับ...อย่างน้องน่ะไม่สมควรดื่มน้ำส้มหรอก เพราะน้องไม่ใช่นางเอก อย่างน้องเยจินต้องกินRed Bullถึงจะเข้ากับนิสัยหน่อย
“ไปสิ...หรือต้องรอให้เจ็บตัวก่อนแล้วค่อยไป” ตะคอกอีกแล้วครับ ดุจริงจริ๊ง...เมื่อเช้ากินเพดดีกรีรสตับเข้าไปแน่ๆ
ผมกระย่องกระแย่งไปที่ตู้เย็น เทน้ำส้มจากเหยือกที่น้องเยจินซื้อมาไว้ใส่แก้วรูปทรงรูหราที่สุดเท่าที่ห้องของผมจะพึงมี ไม่อยากจะนินทาเลยนะครับ แต่เอาสักหน่อยก็ดี...น้องเยจินน่ะเวลาจะกินอะไรนะ ต้องดูภาชนะด้วย คุณน้องเค้าจะเลือกภาชนะสวยงามเสมอ ไม่รู้ว่าจะกินจานกินแก้วเข้าไปด้วยหรือไง เลือกซะจริง ไม่เหมือนผม คราวก่อนไปสังสรรค์ที่ห้องจอนจิน คนไปเยอะเกิน แก้วไม่พอ ไอ้หมอนั่นมันต้องตัดขวดพลาสติกเอามาทำเป็นแก้วให้ผมใช้แทนไปชั่วคราวก่อน...
ผมเดินประคองแก้วน้ำส้มมาให้เธอ...ท่าเดินของผมอย่างกับเกอิชาในหนังที่จางจื้ออี๋เล่น เดินหนีบๆกระมิดกระเมี้ยน ไม่ใช่เพราะรักษามารยาทแต่อย่างใด ผมกลัวว่าถ้าเดินแรงไปน้ำส้มกระฉอก คุณน้องเยจินจะบังเกิดความหงุดหงิดชวนผมซ้อมไอคิโดอีก...
น้องเยจินละสายตาจากทีวีจอยักษ์ เธอตะโกนใส่ผมอีกแล้วครับ...”หยุดตรงนั้น...คลานมา...คลานมา...”
เฮ้ย...มันจะเกินไปหน่อยแล้วนะเยจิน ความอดทนของผมถึงขีดสุดแล้ว ผมจ้องเธออย่างกินเลือดกินเนื้อ แล้วตะคอกใส่เธอเสียงดัง...”จะให้เริ่มคลานตั้งแต่ตรงไหน”
ฮือออออ...แม่ครับ แอนดี้เป็นเด็กไม่ดี เป็นเด็กอ่อนแอครับเม่...
น้องเยจินงงไปชั่วครู่แล้วก็หัวเราะเสียงดังลั่น น้องเค้าโบกไม้โบกมือไม่ให้ผมย่อตัวลงไปคลานถวายน้ำส้มให้เธอ...”พูดเล่นนี้ ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้ พี่นี่หลอกง่ายดีเนอะ มิน่าเลยเสร็จยัยไก่แก่แม่ปลาช่อนนั่น”
น้องเยจินนี่ปากโฮ่งจริงๆเลยครับ...ผมเดินหน้างอไปวางแก้วน้ำส้มตรงหน้าเธอ...
“อ้าว...พูดโดนใจแค่นี้ทำหน้างอ...” น้องเยจินลอยหน้าลอยตายั่วผม กวนบาทาผมเป็นอย่างแรง ถ้าเผลอดีดสักเปรี้ยงนี่ มันจะคุ้มกับค่ายาที่ผมต้องเสียไปรึเปล่าครับ...
“คนไม่มีแฟนก็อย่างงี้แหละ ไม่เข้าใจความรัก” ผมสะบัดเสียงใส่เธอในเมื่อน้องเค้าเห่าใส่ผมได้ ผมก็จะเห่ากลับบ้างเหมือนกัน ให้มันรู้เสียบ้างว่าผมก็ปากใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ
น้องเยจินจ้องผมตาวาวเลยครับ...”อ้าวเพ่...เก็บปากไว้แตกหน้าหนาวดีกว่านะ เดี๋ยวน้องมีสอยร่วงอ่ะ”
เฮ้อ...น้องเยจินถ้าไม่นับหน้าตาที่เข้าข่ายนางเอก ก็ไม่มีอะไรที่ดูเป็นสุภาพสตรีเลยสักนิด อย่างนี้ต้องปรับปรุงกันอีกเยอะครับ
เสียงปืนกลสลับเสียงระเบิดดังขึ้นชุดใหญ่เลยครับ...เสียงโทรศัพท์ของผมเอง เป็นเสียงที่ตั้งไว้ให้พี่ฮคยองโดยเฉพาะ ผมว่าเหมาะกับพี่เค้ามากเลยครับ...
น้องเยจินพูดลอยๆขึ้นว่า “เสียงโทรศัพท์สะเหร่อซะไม่มีล่ะ”
โห...เสียงโทรศัพท์เป็นเพลงหมี 3 ตัวฉบับออริจินอลอย่างของน้องเยจินเนี่ยนะ เฮ๊อะ...อินเทรนด์เสียไม่มีล่ะครับเยจิน
ผมเดินลากสังขารไปคุยกับไฉเจ๊ที่ระเบียง...
“ว่าไงพี่....”
“ไอ้เด็กเวร แกจะจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหน แกไปคบกับน้องเยจินได้ยังไง” เสียงโวยวายของลุงคนนั้นดังเสียจนขี้หูผมเต้น
“พี่ฮคยอง....ช่วยผมด้วย ฮึกๆๆๆๆ” คราวนี้น้ำตาของจริง ไม่มีเอฟเฟค ไม่ใช้สตั๊นท์ เทคเดียวผ่านนนนนน...
พอเห็นผมร้องไห้กลับไป พี่ฮาคยองถึงกลับเอ๋อกินเลยครับ นิ่งงันไปเลย พี่แกปล่อยให้ผมสะอึกสะอื้นอยู่ห้านาที...”แอนดี้เอ๊ย...อย่าร้องเลยวะ พี่แค่หยอกแกเล่นเฉยๆ”
บ้านพี่เค้าหยอกแบบนี้เหรอครับ ผมเพิ่งรู้...
“ความจริงแล้วพี่ดีใจนะเว้ยที่แกกับน้องเยจินเป็นแฟนกันน่ะ”
คราวนี้เป็นผมเองที่นิ่งสนิท...”พะ...พะ...พี่หมายคะ...คะ...ความว่ายังไง ซื๊ดดดดด...”
“ก็หมายความว่าแกกับน้องเยจินสมกันดีน่ะสิ อย่างกับเกิดมาคู่กันอย่างนั้นแหละ”
“พี่จ๋าาาา....อย่าพูดอย่างน้านนนนนน” ผมคร่ำครวญใส่พี่เค้าไปครับ พูดมาได้ยังไงว่าผมเหมาะสมกับน้องเยจิน ไม่นะ ผมไม่อยากเป็นเนื้อคู่เยจิน
“อ้าว...ไอ้นี่ แกจะเอายังไงกับฉันวะ หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้นะเว้ย ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรไปฟ้องลูกพี่แกว่า แกน่ะแอบเอารถมอเตอร์ไซด์มันไปขับ” พี่ฮาคยองบ้าๆๆๆ...คนอะไรขี้ฟ้อง รู้อยู่ว่าพี่ดงวานหวงรถอย่างกับลูก ถ้าผมไม่ได้พี่เอริคช่วยเม้มกุญแจรถให้ ผมคงต้องเดินขาลากไปซื้อกาแฟน่ะสิ
“ก็ผมไม่อยากเป็นเนื้อคู่กับเยจิน...”
“ไอ้ประสาท...ไม่อยากเป็นเนื้อคู่เค้า แล้วไปเป็นแฟนเค้าทำไม”
“ก็ไม่ได้อยากเป็นแฟนแต่สถานการณ์มันพาไป...” ฟังแล้วดูดีนะครับ เหตุผลที่ผมกับน้องเยจินเป็นแฟนกัน
“ทำไมวะ แกทำน้องเค้าท้องเหรอ” โห...พี่คิดได้ยังไงน่ะ แน่ใจนะว่านี่เป็นความคิดของผู้จัดการวงชินฮวา
“ไม่ใช่ๆๆๆ...แต่โดนบังคับให้เป็นแฟนกัน”
“ไอ้แอนดี้...ฉันโง่ หรือว่า แกฉลาดเกินไปวะ พูดให้มันเป็นเรื่องเป็นราวสิวะ งงนะเว้ย”
ผมต้องฉลาดสิครับ ส่วนพี่น่ะโง๊โง่ พูดแค่นี้ทำงง...”เยจินอยากแก้แค้นไดอาน่า ก็เลยบังคับให้ผมเป็นแฟนเค้า ไดอาน่าจะได้เต้น...”
“เออ...แค่เล่นละครเป็นแฟนกันใช่มั๊ย” ผู้จัดการของผมเพิ่งจะฉลาดกับเค้าครับ
“ฮื่อ...แต่ไม่ค่อยอยากเล่นเลย เปลืองตัว”
“ถุ๊ย...คุยซะ ไอ้แอนดี้ พูดไปแล้วก็ดีเหมือนกันนะเว้ย แกจะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดหาคำพูดปฏิเสธไดอาน่าไง ยอมๆเยจินหน่อยนะ น้องเค้าสวยนะแก ถึงจะชอบซ้อมแกก็เถอะ”
ผมงงเลยครับ ก็ผมไม่เคยบอกพี่ฮาคยองเลยว่าผมถูกซ้อม นี่ก็โชคดีที่ช่วงนี้ไม่มีงาน ก็เลยหลบหน้าหลบตากันได้ “ใครบอกพี่ว่าผมโดนซ้อม”
“ดงวานมันโทรมาบอกฉันตั้งแต่วันแรกแล้ว แถมยังเล่าเรื่องแกถูกตำรวจจับให้ฉันฟังอีกด้วย ดีนะที่วันนั้นแกโทรไปตามเอริค ถ้าแกโทรตามฉัน...แกตาย”
โหย....ลุงดงวานบังอาจเกินไปแล้วครับ ความลับของผมไม่มีเหลือ ทำหน้าที่นักข่าวได้เยี่ยมจริงๆ “ใครรู้บ้างเนี่ย”
“รู้กันหมดแหละ...พวกการ์ดฝากบอกแกด้วยว่าให้หายเร็วๆ”
ผมอยากของคุณนะครับในความมีน้ำใจห่วงใยผม แต่ผมอายครับ ถูกผู้หญิงซ้อม “ผมไม่อยากเป็นแฟนเยจิน”
“คบๆไปเถอะวะ...เยจินสวย น่ารัก กินขาดไดอาน่าอีกนะแก” ดูเหมือนพี่ฮาคยองจะดี๊ด๊าเกินไปนะครับ ไม่เห็นเหมือนตอนที่ผมกับไดอาน่าคบกันใหม่ๆเลย ตอนนั้นหน้าพี่เค้าเครียดโคตร...
“ ปากไม่ดี ชอบซ้อมผู้ชาย ไม่เป็นกุลสตรี แค่นี้มันก็กลบความสวยไปมากเหมือนกันนะ”
“โว้ย...พ่อรูปหล่อ ช่างเลือกนะแก แกอย่ามองเยจินแง่ร้ายสิวะ ฉันรู้จักน้องเค้ามาก่อนแก น้องเค้าน่ารักนะเว้ย” อีกแล้วครับ...บุคคลที่อยู่ในกลุ่มเยจินแฟนคลับ
“ผมจะบอกอะไรให้นะพี่ น้องเยจินจะทำดีกับทุกคน ยกเว้น อีซอนโฮ” ผมมองเข้าไปในห้อง เห็นน้องเยจินนอนพังพาบบนโซฟาดูทีวี หัวเราะเสียจนปากกว้างไปถึงหูเลยครับ
“ทนๆหน่อยเถอะวะแอนดี้ ถือเสียว่าแกเกิดมาเป็นเนื้อคู่ หนังคู่ กระดูกคู่น้องเยจินก็แล้วกัน...เออ...เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวฉันจะแต่งละครตอนแกกับน้องเยจินเจอกัน เอาแบบให้โรแมนติคสุดๆ แล้วจะปริ๊นท์ส่งให้อ่านนะ จะได้ตอบเหมือนกัน แค่นี้ก่อนนะแก ฉันจะรีบไปเขียนละคร เอาชื่อเรื่องอะไรดีวะ ...เอาชื่อ รักทรหด ดีกว่านะ อ๊ากกกกกก...เดี๋ยวต้องโทรไปถามไอ้ห้าตัวนั้นด้วยว่ามันอยากเข้าฉากในละครรึเปล่า แค่นี้นะ...”
พี่ฮาคยองพูดน้ำไหลไฟดับแล้วก็วางสายไป ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกมืดสนิท ทุกคนเห็นเรื่องของผมกับน้องเยจินเป็นเรื่องสนุกสนาน เฮ้อ...อยากร้องไห้จริงๆเลยครับ....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น