ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมมารที่รักโปรดกักขังข้าไว้นานๆ #ผู้กล้าภัยสังคม

    ลำดับตอนที่ #9 : จอมมารคลั่งรัก

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 65


    บทที่ 10

     

    ผู้กล้าเสียสละตัวเอง?

    วินาทีที่ได้ยินคำนี้ จอมมารสมองพร่าเบลอ ความรู้สึกหลายอย่างประเดประดังเข้ามา ทั้งความรู้สึกเสียใจ ความเศร้า ความรู้สึกมากมายพรั่งพรู สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดในใจก็คือเขารู้สึกสมเพชตนเองอย่างมาก

    เขาควรจะรู้อยู่แล้วสิ

    จอมมารชั่วร้ายที่กักขังผู้กล้าให้ผู้กล้าทำตามสิ่งที่ตนต้องการ บีบบังคับขืนใจอีกฝ่ายด้วยอำนาจที่มี ความสัมพันธ์นี้มันไม่ได้เริ่มด้วยความเต็มใจแต่แรก เขายังจะคิดหวังความรักอะไรอีก

    เลิกฝันหวานได้แล้ว

    แม้ว่าเขาจะพยายามเข้าข้างตัวเองสักแค่ไหน พอตื่นจากฝัน พวกเขาเป็นจอมมารกับผู้กล้า จอมมารต้องโดนผู้กล้ากำจัดทิ้งไปเพื่อความสงบสุขในสักวัน

    เขาควรปล่อยผู้กล้าไป 

    ต้องปล่อยไป

    ถ้าปล่อยผู้กล้าไป ความสัมพันธ์แบบนี้เองก็ต้องจบลง

    ไม่!

    ไม่ได้ เขาปล่อยไม่ได้

    ทั้งที่รู้สึกว่าสามารถเข้าใกล้และครอบครองผู้กล้าได้แล้วแท้ๆ ความรู้สึกที่ได้รับมามันมากเกินไป เขาปล่อยไม่ได้

    ตัวเขารู้ดี ไม่สามารถปล่อยได้แล้ว

    แต่ก่อนการได้ครอบครองผู้กล้าและได้กักขังคนคนนั้นไว้เป็นเพียงความคิดหนึ่ง จอมมารยังถอนใจปล่อยอีกฝ่ายไปได้ แต่ตอนนี้มันต่างกัน การที่ได้สัมผัสประสบการณ์จริงๆแล้ว มันยิ่งยากจะถอนใจ

    ใบหน้า ร่างกาย อุณหภูมิ ผิวสัมผัส ทุกๆอย่างของผู้กล้าที่เคยมีให้เขา ในเมื่อเขาครอบครองได้ทำไมเขาต้องเสียมันไป จอมมารไม่ยอมเด็ดขาด

    บีบบังคับแล้วอย่างไรล่ะ ตอนนี้เขาก็เป็นของข้าแล้ว ต้องกักขังผู้กล้าไว้ เรียกร้องกว่านี้ บีบบังคับให้มากขึ้น

    ผู้กล้าต้องเกลียดข้าถ้าข้าทำมัน...

    ส่วนหนึ่งในใจแม้จะรู้แบบนี้แต่จอมมารก็ยังคงอยากครอบครองผู้กล้า

    ผู้กล้า ผู้กล้า อเล็กซ์

    อเล็กซ์ของเขา..ผู้กล้าของเขา

    จอมมารชอบผู้กล้า ชอบใบหน้าหล่อเหลาแย้มยิ้มให้เขา ชอบร่างกายบุรุษเพศอันแข็งแกร่งที่อัดแน่นไปด้วยพลังชีวิตเดือดพล่านประทุ ชอบกลิ่นอายความใคร่ที่อบอวนให้ลิ้มลองเชยชม ชอบความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้ ชอบความดุดันที่สัมผัสลงมาบนเรือนร่างเขา ชอบ...ทุกอย่างของผู้กล้าที่ตนได้ครอบครอง

    ฮะ ฮะ ฮะ

    จอมมารหัวเราะแห้งเหือดในใจ เขาคิดหวังอะไรกัน

    ใครบางคนเรียกเขา

    "จอมมาร" เสียงนั้นดังออกมาจากในกลุ่มผู้กล้า

    จอมมารหันไปตามเสียง เขาเจอเข้ากับกลุ่มผู้กล้า แววตาของพวกเขาที่มองสบมานั้นสื่อถึงอารมณ์หลากหลายอย่าง

    ทั้งความกลัว ความย่ำเกรง การสงสัยใคร่รู้ แม้จนไปถึงการต่อต้านขัดขืน ทุกคนมองเขาด้วยความหวาดระแวงและตั้งท่าโจมตี

    "หึ" 

    ใช่แล้วเขาเป็นจอมมารนี่

    จอมมารเหลือบมองไปที่ผู้กล้า ฝ่ายนั้นยังโดนตรึงไว้กับโซ่บนผนัง ผู้กล้ากำลังตื่นตกใจในการมาของเขา คนอื่นๆเมื่อเห็นเขามองมาก็เอาตัวเองมาบังสายตาเขาไว้ไม่ให้เขาลงมือกับผู้กล้า มันทำให้จอมมารเจ็บแปล็บในใจ

    อา ใช่แล้ว เขาเป็นจอมมารชั่วร้ายและเป็นภัยต่อผู้กล้า

    ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ยุคสมัยนี้กำหนดให้เขาเป็นแบบนี้ เขาทำหน้าที่ดีเสมอมาก็สมควรจะได้รับอะไรบ้าง 

    จอมมารก้าวขาออกมาจากมุมมืด

    "จอมมาร! ท่าน!"

    เขาพลักเอลฟ์ที่ขวางกั้นอยู่ด้านหน้าประตูออกได้อย่างง่ายดาย 

    "อึก"

    เอลฟ์ตนนั้นไม่ทันได้ขยับด้วยซ้ำก็โดนเวทหยุดนิ่งของจอมมารตรึงการเคลื่อนไหวไว้ ทั้งกลุ่มผู้กล้าที่กำลังจู่โจมเจ้ามาก็ด้วย

    "จอมมาร!" โนอาส่งเสียงออกมาเมื่อเห็นทุกคนในกลุ่มผู้กล้าก็โดนมนต์เล่นงาน "ทำไมท่านไม่คุยกับผู้กล้าดีๆล่ะ ผู้กล้าน่ะ...อื้อ!"

    จอมมารหงุดหงิดอย่างมากที่ยังมีคนขัดขืนมนต์ของเขาอยู่จึงส่งคาถาปิดปากร่ายทับลงไปอีก

    คราวนี้รอบด้านก็หยุดนิ่งลงจริงๆ คนทั้งหมดไม่อาจขัดขืนเขาได้แล้ว

    ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง ฝั่งนั้นไม่ได้ขัดขืนเขาด้วยซ้ำ

    "อเล็กซ์"

    "เมทิส..." ผู้กล้าเงยหน้าขึ้นเรียกชื่อจอมมาร

    ที่เขากล้าทำมันต่อหน้ากลุ่มก็เพราะฝั่งนั้นเองก็เรียกชื่อเขา มันไม่แปลกอะไรที่ต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้

    เขามองจอมมารที่ใกล้เข้ามาด้วยใจที่ประหม่า เขายังไม่เลยรู้เลยว่าจะเผชิญหน้ากับจอมมารในบทแบบไหนดี

    ตอนประหม่า อเล็กซ์ก็ลูบบนข้อมือที่ว่างเปล่า

    เขายืนอยู่หน้าโซ่เหล็กที่ถูกปลดออกไปแล้ว ตอนที่จอมมารก้าวเข้ามา โรสแก้วงเวทได้ทันก่อนจะโดนเวทมนต์ของจอมมารตรึงเอาไว้ พวกเขาโดนตรึงอยู่ในม่านพลังที่เหมือนกับรังไหมด้านข้าง

    ผู้กล้าคร่ำครวญ เขาโดนตรึงยังดีซะกว่า ตอนนี้เขาแก้ตัวไม่ถูกแล้ว

    จอมมารหยุดลงตรงหน้าผู้กล้า

    "มองข้า"

    "...ที่รัก"

    "ข้าบอกให้มองข้า"

    "..." ข้ามองท่านตลอดอยู่แล้ว

    แต่ผู้กล้าก็ไม่ได้พูดออกไป เขาเพียงแค่มองตรงไปที่จอมมาร สบตาดวงตาที่แดงก่ำออกมาด้วยมนต์สะกดคู่นั้น จอมมารใช้มนต์ล่อลวง

    "เจ้าอยากกลับไปงั้นรึ"

    "ข้า" 

    ข้าไม่อยากไป

    จอมมารหรี่ตาลง

    "งั้นข้าก็จะให้เจ้าไป"

    "..."

    ตึกตัก

    บางส่วนในจิตใจของผู้กล้ากำลังกรีดร้อง

    ไม่นะ

    ไม่

    ครืนนนน

    ระบบรับรู้ถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไป จิตใจของผู้กล้ากำลังปั่นป่วน พรผู้กล้ากำลังถูกสั่นคลอน

    ระบบงุนงง ทำไมผู้กล้าถึง...

    พรึบ

    ??

     นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมระบบมองไม่เห็นอะไรแล้ว ราวกับระบบถูกหยุดไว้ซะแบบนั้น??

     

    ...

    สิ่งที่เกิดต่อจากนั้น เหนือความคาดหมายมาก

    "ข้าจะให้เจ้าไป" จอมมารพูดแบบนั้นไปก็จริงแต่คำพูดนั้นตรงกันข้ามกับมนต์สเน่ห์ในดวงตาที่เจือออกมานัก เมทิสใช้มนต์ล่อลวงทั้งๆที่พูดแบบนี้ เขาต้องการบีบให้ผู้กล้าหลงใหลเขา หลงใหลมากจนบอกออกไปกับกลุ่มเองว่าต้องการอยู่ที่นี่

    แบบนั้นก็จะไม่มีการมาช่วยผู้กล้าอีก ผู้กล้าจะเป็นของเขาโดนสมบูณ์

    เอาล่ะ อเล็กซ์ บอกออกมาสิ

    ตึก

    "?"

    ฝีเท้าหนักแน่นมั่นคงนั้นกล้าเข้ามา

    ครืนนนน

    พลังกดดันนั้นทำให้จอมมารถึงกับก้าวถอยหลัง

    เขารู้สึกงงงวยกับตนเอง

    ข้าทำอะไร? ทำไมร่างกายถึง

    จอมมารไม่รู้ตัวเลยว่าโดนผู้กล้าไล่ต้อนอยู่ เขาถอยออกมาเรื่อยๆ ไกลจนแผ่นหลังจนมุมที่กำแพงด้านหลัง 

    "เมทิส" เสียงที่เรียกหาเขาช่างเย็นยะเยือก

    จอมมารหลังชิดกำแพงแล้ว นี่เป็นทางตันที่โดนไล่ต้อนให้ก้าวถอยเข้ามาโดยสมบรูณ์

    คนอื่นๆในกลุ่มผู้กล้ายังคงโดนตรึงไว้ แต่เขาเองก็โดนผู้กล้าตรึงไว้ด้วยสายตาเช่นเดียวกัน

    ผู้กล้ากล่าวออกมา

    "ข้ายังถึงใจท่านไม่พออย่างนั้นหรือ" 

    "อะ" อะไร

    "ท่านถึงไล่ข้ากลับไป"

    "..."

    บางอย่าง ไม่ถูกต้อง

    ปัง!

     ผู้กล้าดันฝ่ามือกดลงมาบนกำแพงด้านข้าง

    "ตอบข้ามา!"

    ตึกตัก

    จอมมารที่โดนผู้กล้ากักอยู่ในวงแขนด้วยสายตาข่มขู่นั้น...

    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

    เร้าใจมาก

    แต่ถึงแบบนั้นความรู้สึกของจอมมารก็ไม่เปลี่ยนไป เขาอยากให้ผู้กล้าพูดออกมาว่าจะอยู่ที่นี่ และด้วยอารมณ์นั้นมันทำให้เขาพูดคำนั้นออกมา

    "ใช่" เขายั่วยุผู้กล้าและยังยกยิ้มได้ใจไปอีกด้วย

    ผู้กล้าสติหลุดออกไปแล้วเมื่อได้ยินคำพูดของจอมมาร เขาไม่ทันได้โดนมนต์สเน่ห์ของอินคิวบัสก็คลั่งออกมา

    "หึ อยากให้ข้าเอาท่านแบบไหนดี ท่านถึงจะพึงใจ" 

    จอมมารเลียริมฝีปาก

    "อา ไม่รู้สิ ข้าลืมไปหมดแล้ว" ท่านช่วยเตือนสติข้าได้หรือไม่

    "ลืม?"

    ผู้กล้าหัวเราะ

    "หึ หึ หึ" 

    ลืม ลืมงั้นเหรอ สิ่งที่เขาทำไป มันไม่มีผลอะไรต่อคนข้างหน้าเลยสินะ

    "ลืม ได้!" 

    เขาต้องแสดงตัวตนออกมาแค่ไหน 

    ฝ่ามือของผู้กล้าเอื้อมออกไปด้านหลังจอมมารแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มเส้นผมสีเงินที่เขาชอบมาก และดึงรั้งมันลงมาตามแรงโน้มถ่วง รั้งให้ใบหน้างดงามนั้นเงยขึ้นมาสบเขา

    "อึก" ใบหน้างดงามถูกทำให้เงยขึ้นมีริ้วความเจ็บปวดแสดงออกมาจากการถูกกระชากเส้นผม ความรู้สึกที่ดึงรั้งบนโคนมันทำให้จอมมารแทบปกปิดรอยยิ้มไม่อยู่

    ผู้กล้าพูดออกมา

    "ข้าจะเตือนความจำท่านเอง"

    "ผู้กล้า"

    "ข้าให้ท่านเรียกข้าว่ายังไง หือ? เมทิส"

    ความรู้สึกของผู้กล้าประทุขึ้น เขาแสดงออกมาผ่านการบีบบังคับนี้ ดูเหมือนผู้กล้าจะโมโหมากจริงๆ

    "หึ หึ หึ"

    จอมมารหลุดหัวเราะ

    เจ็บสิดี ทำให้ข้าได้รับรู้ว่าเจ้าโกรธขนาดไหน ใส่ทั้งหมดนั้นลงมาที่ตัวข้า

    "ได้ อเล็กซ์" เขาตอบรับการยั่วยุของผู้กล้าไปด้วยคำเชิญชวน

    "เอาสิ เชิญเจ้าเตือนความจำข้าได้ตามสบายเลย แต่ถ้าจะทำแบบนั้นเจ้าต้องอยู่ที่นี่นะ"

    ผู้กล้าตอบมาอย่างมั่น

    "ข้าอยู่แน่ที่รัก"

    หึ หึ หึ

     

    ...

    เป็นที่แน่นอนแล้วว่าผู้กล้าแสดงออกมาขนาดไหนเพื่ออยู่ที่นี่ แต่จอมมารก็ยังไม่ลืมกลุ่มผู้กล้า เขาดีดนิ้วส่งพลังออกไป พาให้วงเวทมนตร์ขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นเหนือหัวคนในกลุ่ม

    "!?" นักเวทหนึ่งเดียวในกลุ่มผู้กล้ารู้ดี ลวดลายและคลื่นพลังเวทแบบนี้คือวงเวทเคลื่อนย้าย เธอขัดขืนอย่างเต็มกำลังพยายามที่จะหยุดมันเพื่อช่วยผู้กล้า

    "ทำอะไร" ผู้กล้าหันมาถามจอมมาร เขาโกรธก็จริงแต่ไม่ต้องการให้กลุ่มเป็นอันตราย

    จอมมารยกยิ้มยั่วยวน

    "อย่าโกรธไป ข้าแค่จะส่งพวกเขากลับไป"

    "..."

    "ทำไม เจ้าอาลัยอาวรณ์รึ จะกลับไปด้วย?"

    ผู้กล้าหรี่ตาลง คลื่นความไม่พอใจอบอวนออกมาอีกครั้ง

    แต่เขาเลือกที่จะเก็บมันลงและหันไปพูดกับกลุ่มแทน

    "ทุกคน ขอบคุณมากที่มาช่วยข้า แต่ข้าจะอยู่ที่นี่"

    ตอนนี้โรสแก้เวทปิดปากได้แล้ว เธอถามออกมา

    "ทำไมล่ะผู้กล้า ท่านโดนจอมมารล้างสมองแล้วนะ! อย่าไปยอมเขา! เขากำลังใช้มนต์เสน่ห์กับท่าน ข้าสัมผัสได้!"

    ครืนนนนน

    ทีนี้เป็นจอมมารที่หรี่ตาลงอย่างมาดร้ายและตัดสินใจเพิ่มพลังเวทพิเศษลงไปอีกขั้น เขากำลังจะส่งยัยหนูปากสว่านนั่นกลับไปได้แล้วแต่ว่า

    จุ๊บ

    ริมฝีปากที่แนบมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นทำให้จอมมารชะงัก ด้วยปฏิกิริยาที่เคยชินเขาจึงเปิดปากออกโดยอัตโนมัติทำให้ลิ้นร้อนของผู้กล้ากวาดเข้ามาดูดกลืนความหวานล้ำออกไปได้สะดวกมากขึ้น จูบนี้ดูดดื่มยาวนาน นานจนพาทำให้คนในกลุ่มทั้งหมดที่ตอนแรกตกตะลึงก็เปลี่ยนไปสงสัยงงงัน จากสงสัยงงงันมานานตอนหลังก็ยังจะเขินหน้าดำหน้าแดงกันเพราะบทรักร้อนแรงตรงหน้าอีกต่างหาก

    แน่นอนว่าปฏิกิริยานี้ยกเว้นเอลฟ์ในกลุ่มที่ยังคงหน้านิ่งเสมอต้นเสมอปลาย และความจริงเขาเองก็แก้เวทปิดปากได้สักพักแล้ว แต่จากสถานการณ์เขาคงไม่ต้องพูดเลยเงียบไป

    กลุ่มยังคงไม่รู้พรสวรรค์ของเอลฟ์นอกจากการใช้ธนูก็คือเวทมนต์ เวทมนต์ของเอลฟ์มีความเฉพาะตัวและเปรียบเสมือนพรที่แตกต่างไปในแต่ละคน

    พรเวทมนต์ของโนอาก็คือ

    มนต์อ่านใจ

    มันไม่ใช่มนต์ที่จะใช้ได้ตลอด ส่วนมากจะมีจำกัดการใช้อยู่ โนอาใช้พลังนี้ในการต่อสู้ที่คาดเดาไม่ได้ มันมีประโยชน์อย่างมากจนเขาต้องตั้งใจฟังเสียง และบางครั้งบางทีก็ได้ยินความคิดได้โดยที่ไม่ต้องใช้มนต์บ้าง นั่นทำให้เขารู้ข้อมูลหลายๆคนได้โดยไม่เปิดปากพูด มันเป็นสาเหตุที่เขาเงียบอยู่ตลอดเวลา หนึ่งคือตั้งใจฟัง สองคือตั้งใจปิดพลังไม่ให้ได้ยิน

    อย่างเช่นตอนนี้

    จอมมาร : ผู้กล้าจูบข้า!? เขาจูบข้าต่อหน้าทุกคน!? อา ไม่ไหวแล้ว ลิ้นผู้กล้า อื้อ เข้ามาอีกสิดูดข้าให้ขาดใจตายไปเลย

    ผู้กล้า : เอาจอมมารท่าไหนดีนะ ท่า*เซนเซอร์*หรือว่าท่า*เซนเซอร์*หรือ*เซนเซอร์*ดี

    โนอา : ... ไอ้ภัยสังคม

    กับคนที่มีความคิดแรงกล้าอย่างผู้กล้ากับจอมมาร ความคิดเหล่านั้นแทบจะพรั่งพรูออกมาให้ได้ยินจนหนักหูเลย

    อา รีบๆวาร์ปพวกเราไปสักทีเถอะ และจะไปพลอดรักกันที่ไหนก็ไป

    ในที่สุดผู้กล้าก็จูบจนพอใจแล้ว เขาถอนจูบออกมาพร้อมพูดประโยคหนึ่ง

    "นี่ไม่ใช่การบีบบังคับหรอก ข้าเต็มใจ"

    คนในตี้ "..."

    อืม ก็เห็นๆอยู่ เห็นชัดเลยล่ะ

    สุดท้ายโรสวางมือยอมแพ้ (ที่ไม่วางตอนแรกเพราะตกใจอยู่) ยอมโดนพลังอันมหาศาลที่จอมมารใช้บีบให้ถอยร่นไป

    ไม่นานมนต์เคลื่อนย้ายก็กวาดเอาทั้งกลุ่มที่มาช่วยผู้กล้าออกไปจนหมด

    ในห้องขังนี้ มีเพียงจอมมารและผู้กล้า

    ตอนนั้นเสียงแจ้งเตือนก็ดังออกมาจากพรจอมมาร

    [ระบบจอมมาร แจ้งเตือน!]

    [เนื่องจากตอนนี้จอมมารได้ใช้พลังเวทเพื่อวาร์ปข้ามทวีปจำนวนมหาศาล ฝืนใช้วงจรเวทในร่างกายเกินพิกัด พลังงานขาดแคลนกว่าที่สามารถใช้ได้ ทำให้ระบบต้องดึงพลังงานอื่นมาใช้ได้ทดแทน]

    จอมมารรู้ดี เขาเป็นคนตั้งระบบพลังงานทดแทนนี้ไว้เอง พลังที่ใช้ก็คือพลังชีวิตของอินคิวบัส พลังที่เขาต้องใช้ในการหล่อเลี้ยงชีวิตตนเอง

    แต่เดิมมันไม่มีปัญหาสำหรับเขาที่มีคนคอยเติมมันจนล้นตลอด แต่ครั้งนี้การฝืนวาร์ปผู้คนออกไปทั้งด้วยหนึ่งในนั้นยังเป็นนักเวทชั้นยอดที่ต้องฝืนพลังเวท เขาต้องใช้พลังมหาศาลอย่างมาก

     พลังงานชีวิตที่สะสมมาโดนใช้จนหมด พลังในร่างกายเหือดหายไป สติที่รักษาได้ยากของเขาก็เริ่มพร่าเลือน

    พึงรู้ไว้ว่าปีศาจราคะเช่นอินคิวบัส เมื่อขาดแคลนพลังงานในร่างกายไปก็จะกลับคืนสู่สัญชาตญาณตนเอง

    ปีศาจราคะที่ล่อลวงมนุษย์เพื่อรีดเค้นพลังชีวิตมาเติมเต็ม

    ระบบยังแจ้งเตือนต่อไปอีก

    [พลังงานชีวิตเหลือต่ำกว่าที่กำหนด ระบบมีข้อแนะนำให้จอมมารเพิ่มแต้มความชั่วร้าย หาแหล่งพลังงานชีวิตและดูดกลืนมา]

    อา คงต้องหาใครมาให้กระทำผิดเดี๋ยวนี้ คงจะตบแก้มสักสองสามทีคะแนนชั่วร้ายก็เพิ่มพอแลกพลังเวทกลับคืนมาในระดับคงสติได้ 

    [จอมมารสามารถทำทั้งสองอย่างได้]

    ว่าไงนะ? หมายความว่าไง?

    [ขืนใจผู้กล้าเอาพลังชีวิต]

    "..."

     

     

     

     

     

     

    Talk : ขืนใจ? ไม่อะ นั่นเป็นการให้รางวัลอิผู้กล้าที่กำลังหื่นกามคิดท่าอยู่ในหัวเลยนะ 5555 หื่นจนปิดระบบเองได้ไปแร้วด้วย5555

    โนอาปิดหูไม่ฟังแล้วหนึ่ง บอกจอมมารทำไมเรายังไม่วาร์ป ????

    หูยแต่ตอนหน้าเด็ดจริง อิผู้กล้ายันแตกจนแกล้งจอมมารไม่หวาดไม่ไหว เขียนเองยังเขินเองเลยค่าาาา

    sds

    ช่วงนี้ncบ่อยจริง รู้สึกว่ากลับมาเรื่องนี้ก็เขียนอีกแล้ว อิหยังวะ 55555

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×