ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Mission 08 : ความรู้สึกผิดที่ยังหลอกหลอนหัวใจ
MISSION 08
ความรู้สึกที่ยังหลอกหลอนหัวใจ
คนเรา... ไม่ว่าจะมนุษย์ สัตว์ หรือไม่ก็สิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ทุกชีวิตย่อมรู้จักคำว่า... "ฝันร้าย"
ใช่... การเผชิญหน้ากับสองพี่น้องเพื่อนสารเลวของพี่คาร์ล่าเป็นครั้งที่สอง จะทำให้คาลี่กลับมานึกถึงคืนนั้นอีกครั้ง
คืนที่คาลี่รู้ว่าฟลุทไม่ใช่แมวธรรมดาที่มีดีแค่เป่าฟลุทอีกต่อไป
Carla's Birthday Night
คอนเซ็ปต์ของงานเลี้ยงที่คุณหนูอย่างคาร์ล่าได้จัดขึ้น จะต้องเริ่ด... สนุกสนาน สะใจ และสมฐานะไม่ให้น้อยหน้าใครในฮาวาย
และเป็นคอนเซ็ปต์ที่จะทำให้ฟลุทกับคาลี่ต้องจดจำมิรู้ลืม
เพื่อนรักแสนวิเศษ เป็นธีมที่คาร์ล่าคิดขึ้นเพื่อลองของกับฟลุทโดยเฉพาะ
เป็นความโชคดีที่คุณลุงแอนตั้น คุณป้าบริทต้า และเบอร์ตั้นมีกิจธุระนอกบ้าน คาร์ล่าจึงเชิญชวนเพื่อน ๆ ไฮโซทั้งรุ่นเดียวกันและไฮสคูลหน้าตาดีมาร่วมงาน กำชับไว้ว่าต้องพา "สัตว์เลี้ยง" มาเป็นเพื่อน บรรดาเพื่อน ๆ ผู้ได้รับเชิญต่างพากันซื้อหมาแมวสายพันธุ์ดีมาอวดยกใหญ่
อาหารและเครื่องดื่มในงาน... ไม่มีแอลกอฮอล์เจือปนแม้แต่น้อยตามความต้องการของผู้ใหญ่
แต่ถึงไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อนไฮสคูลก็ขนทั้งเบียร์และค็อกเทลมาจนได้ และบรรดาสัตว์เลี้ยงก็พร้อมจะสร้างความบันเทิงให้ฟลุทต้องจดจำมิรู้ลืมในอีกมิช้า
แมทธิว ชายหนุ่มผู้เรียนอยู่ชั้นไฮสคูลปีที่สอง เป็นหนุ่มเจ้าสำอาง โก้หรูมีรสนิยมสมกับเป็นลูกนายทหารยศสูงจากซานฟรานซิสโก จะทำอะไรก็ต้องตามเทรนด์ มักเสาะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเองเสมอ และเป็นผู้ชายที่คาร์ล่ากำลังคบหาดูใจกัน แม้เรียนอยู่คนละชั้นก็ตาม
โมนิก้า น้องสาวของแมทธิว เพื่อนสนิทช่างประสบสอพลอคาร์ล่าสุดฤทธิ์ เป็นสาวแรกรุ่นที่ชอบทำทุกอย่างตามเทรนด์เหมือนพี่ชาย เอกลักษณ์ประจำตัวของนาง คือ... มักเรียกตัวเองว่า "พี่โม" เสมอ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในโอฮาน่าของคาร์ล่า ทั้งที่ไม่มีใครขอ
พูดง่าย ๆ ก็คือ... สองพี่น้องนรกคู่นี้พาหมามาเพราะอยากเสนอหน้าอวยพรคาร์ล่าก็เท่านั้นเอง
เพราะบ้านนี้มีแค่ป้าดาร์ลีนเป็นผู้ใหญ่คนเดียวที่อยู่บ้าน คาร์ล่าจึงจัดงานวันเกิดในรูปแบบพูลปาร์ตี้สุดมันส์ กินดื่มคละเคล้าเสียงดนตรี บรรดาสัตว์สี่ขาหลากพันธุ์พากันวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน เป็นภาพที่ทำให้ฟลุทกับคาลี่แอบอิจฉาอยู่ลึก ๆ โดยเฉพาะฟลุทที่เป็นสัตว์เลี้ยงไม่ธรรมดาเหมือนหมาแมวของเพื่อน ๆ ของคาร์ล่า และคาร์ล่าก็ไม่ต้องการให้ "ส่วนเกิน" อย่างสองคู่หูสมาชิกใหม่ของบ้านมามีส่วนร่วมในงานปาร์ตี้ให้เสียสง่าราศี
แต่คาร์ล่าอยากให้วันเกิดปีนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุด จึงคิดแผนร้ายขึ้น
"พี่จะให้เจ้าฟลุทเป่าเพลงอวยพรวันเกิดให้พี่... จริงเหรอคะ?" คาลี่เอ่ยปากถามลูกพี่ลูกน้องตัวแสบด้วยความประหลาดใจที่มาชวนเธอกับฟลุทร่วมงานวันเกิดถึงห้องรับรองแขก เพราะคาร์ล่าไม่เคยอยากสุงสิงกับเธอและฟลุทสักครั้ง จู่ ๆ มาญาติดีเชิญฟลุทไปร่วมงาน คาร์ล่าต้องกินยาแล้วลืมเขย่าขวดรึเปล่าก็ไม่รู้
"จริงสิจ๊ะ คาลี่กับฟลุทเป็นน้องสาวพี่ ถ้าไม่พาไปทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ พี่ มันดูน่าเกลียดแย่เลย" คาร์ล่าพูดเสียงหวาน สวมบทพี่สาวแสนดีจนคาลี่คลางแคลงใจ
"น่าเกลียดยังไงคะพี่ ถึงหนูเป็นญาติหรือไม่เป็น... พี่ก็โดดเด่นอยู่แล้วนี่คะ" คาลี่สงสัย
"ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะจ๊ะ ในเมื่อความจริง... คาลี่เป็นลูกคุณอาที่กลายเป็นลูกสาวคนใหม่ของคุณพ่อ เราก็เป็นโอฮาน่ากันนี่" คาร์ล่าจงใจพูดให้เจ้าฟลุทได้ยิน รู้ดีว่าเจ้าฟลุทเป็นแมวประหลาดที่ซื่อ... ไร้เดียงสาเป็นอย่างยิ่ง การเอ่ยคำว่าโอฮาน่าให้ฟลุทฟัง... จะทำให้อีกฝ่ายต้องดีใจจนเนื้อเต้นแน่แท้
ซึ่งมันได้ผล!
"เพราะโอฮาน่าก็คือครอบครัว เราไม่มีวันทิ้งกันอยู่แล้ว พี่อยากให้วันเกิดปีนี้... เป็นปีที่พิเศษกว่าใคร" คาร์ล่าหันไปฉีกยิ้มให้ฟลุท... พร้อมลูบคางจนอีกฝ่ายเคลิบเคลิ้มเป็นอย่างยิ่ง "นายเป็นแมวน้อยที่มีสกิลโดดเด่นกว่าใคร พี่ถึงได้ชวนนายเป็นพระเอกของงานไงจ๊ะ นายจะได้มีเพื่อนหมาเพื่อนแมวให้รู้จักอีกเยอะเลย"
คำพูดหวาน ๆ ที่ไร้ซึ่งความจริงใจ ได้ชวนสองคู่หูต่างพันธุ์วาดฝันอย่างง่ายดาย คาลี่กับฟลุทสูญเสียพ่อแม่ และคาลี่เหลือเพียงครอบครัวคุณลุงที่ยังอุปถัมภ์เลี้ยงดูอยู่ ถึงรู้ว่าคุณป้าบริทต้ากับคาร์ล่าไม่มีทีท่ายอมรับเธอกับฟลุทเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว
แต่ทั้งคู่ต้องการการยอมรับจาก "ทุกคน" ในครอบครัว เขาและเธอจึงยินดีร่วมงาน โดยไม่ทันคาดคิด... ว่างานวันเกิดของคาร์ล่าจะกลายเป็นความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดในอีกมิช้า
ในที่สุด... คาลี่กับฟลุทก็ออกมาร่วมสนุกกับงานวันเกิดของลูกพี่ลูกน้องอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าโคดี้ดูแลคาลี่ทุกฝีก้าว เพราะเจ้าฟลุทรู้สึกประหม่ายิ่งนัก... ที่ถูกบรรดาหมาแมวของผู้มาร่วมงานมองสายตาแปลก ๆ ราวกับว่าพวกมันกำลังตั้งคำถามอยู่ว่าฟลุทเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่หรือพันธุ์ผสม
แมทธิวดูท่าทีของคาลี่กับฟลุทอยู่ห่าง ๆ ถึงกับสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง
"ดู ๆ ไปแล้ว น้องสาวคนใหม่ของเธอน่ารักดีนะ" แมทธิวนึกชื่นชมคาลี่ เห็นว่าเด็กหญิงผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนสาวดูน่าสนใจดี
"แหวะ ก็แค่นังกาฝากทาสแมวอาศัยใบบุญคุณพ่อ แค่เป่าฟลุทได้... คุณพ่อกับไอ้โคดี้ก็หลงมันนักหนาจนพามันเข้าบ้าน" คาร์ล่าเบ้ปากใส่อย่างนึกรังเกียจ
"ที่แกพูดเนี่ย... อิจฉาสินะ" โมนิก้ากระเซ้าแหย่เพื่อน
"เฮอะ อิจฉาบ้าอะไรกันวะ คนอย่างนังคาลี่มีสกิลเป่าฟลุทให้เด่นพอเพื่อเรียกความสนใจจากคุณพ่อนะสิ" คาร์ล่ามองคาลี่กับฟลุทด้วยแววตามาดร้าย รอเวลาทำลายความสุขในอีกมิช้า "ให้พวกมันมีความสุขสักครู่ ฉันจะทำให้พวกมันรู้... ว่าไอ้อีสองตัวนั่นจะไม่มีที่ยืนบนเกาะนี้"
คาร์ล่าปล่อยให้คาลี่กับฟลุททำความคุ้นเคยกับงานเลี้ยงอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าบรรดาเพื่อน ๆ ของคาร์ล่าต่างพากันตั้งคำถามมากมาย ส่วนมากจะเป็นฟลุท ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ แหล่งกำเนิด และความสามารถทางด้านดนตรี ล้วนเป็นคำถามที่คาลี่ไม่สามารถตอบได้เต็มปากว่ารู้จักฟลุทได้อย่างไร
ขืนบอกไปว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าฟลุท เพราะถูกปลุกชีพจากลูกหินสลักหมายเลข 145 มีหวังถูกตราหน้าว่าเป็นคนบ้าเป็นอันแน่แท้
ส่วนฟลุทต้องร้องเหมียวให้เหมือนแมวปกติ ข่มใจไม่ให้หลุดคำพูดภาษาต่างดาวออกมาเป็นอันขาด
ภาวะ "กลืนไม่เข้า... คายไม่ออก" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ในขณะที่คาลี่กับฟลุทกำลังสนุกสนานกับปาร์ตี้อยู่นั้น... เสียงปรบมือก็ดังขึ้น
"อะโลฮ่ายามเย็นค่ะเพื่อน ๆ ที่รักทุกคน!" คาร์ล่าอาสาตนเป็นพิธีกรกล่าวทักทายแขกผู้มาร่วมงานทุกคน "ก่อนอื่น... คาร์ล่าต้องขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่มาร่วมงานสำคัญงานนี้ พวกเธอและพวกนายเป็นคนสำคัญของฉันจริง ๆ"
แขกเหรื่อมองหน้ากันแล้วซุบซิบอย่างนึกสมเพชในตัวคาร์ล่า รู้อยู่แล้วว่านิสัยของคาร์ล่าเป็นอย่างไร
"แต่ปีนี้พิเศษยิ่งกว่าทุกปีที่ผ่านมา!" คาร์ล่าพูดเสียงเข้ม เรียกความสนใจจากเพื่อน ๆ เป็นอย่างดี ทำเอาแขกเหรื่อพากันมองหน้าคาร์ล่าด้วยความสงสัย
"เพราะปีนี้จะมีการแสดงพิเศษ... เพื่อเปิดตัวสมาชิกใหม่ของบ้านเราอย่างเป็นทางการ!" คาร์ล่าเกริ่นนำ ชี้นำให้เพื่อน ๆ หันไปสนใจคาลี่กับฟลุทเป็นพิเศษ
"ใช่ค่ะ! คนที่ทุกคนมองอยู่... เป็นน้องสาวกับน้องชายคนใหม่ของคาร์ล่าเอง ทั้งคู่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีสูงชนิดหาตัวจับได้ยากยิ่งนัก ขอเชิญเพื่อน ๆ ทุกคนพาเขาและเธอขึ้นเวทีได้ค่ะ!" คาร์ล่าผายมือเชื้อเชิญลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยให้ก้าวเท้าขึ้นมาบนเวที แขกเหรื่อพากันปรบมือให้คาลี่กับฟลุทที่ยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปีติ
โดยที่ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ... ว่าฝันร้ายกำลังจะมาเยือน
My Heart Will Go On เป็นบทเพลงที่สองคู่หูต่างพันธุ์โปรดปรานมากที่สุดก็ว่าได้ และเป็นบทเพลงแรกที่ฟลุทรักตั้งแต่ดูไททานิคด้วยกันกับโอฮาน่าเก่าของคาลี่ ทั้งคู่ถึงขยันเป่าบทเพลงนี้แทบทุกวันจนเกือบจะไม่ได้เป่าอีก... หลังจากที่พ่อแม่ของคาลี่จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับมา
เพื่อให้พรสวรรค์ของฟลุทเป็นที่รู้จัก ทั้งคู่จึงทุ่มสุดตัว... เป่าเพลงนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน มีการรับส่งกันประหนึ่งว่าพวกเขากำลังร้องเพลงคู่ให้ผู้ชมฟัง แต่ต่างกันที่ใช้วิชาการเป่าฟลุทแทนคำร้อง ถือว่าเป็นอีกรูปแบบของการโชว์ที่นาน ๆ ทีจะมีผู้คนได้ชมกัน ยิ่งเป็นเพลงที่โด่งดังไปทั่วโลก จึงไม่แปลกใจนัก... ที่ผู้ชมจะร้องตาม
เขาและเธอเป่าท่อนเวิร์สกับท่อนฮุคของบทเพลงด้วยเสียงที่แสนไพเราะน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ต้นจนถึงช่วงที่พีคที่สุดของบทเพลง ซึ่งจะเป็นท่อนที่สองคู่หูต้องเป่าสุดเสียงเพื่อพาผู้ชมอิ่มเอมไปกับไฮไลต์ของบทเพลงในอีกมิช้า
แต่ยังมิทันที่บทเพลงจะเข้าสู่ช่วงนั้น... มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
เผละ!
มะเขือเทศสุกพุ่งเข้ากระแทกใบหน้าเจ้าฟลุทอย่างจัง การแสดงจึงหยุดชะงักในบัดดล!
คาลี่ตกใจ... รีบเข้าประคองตัวฟลุทในทันทีที่เกิดเหตุร้ายกลางงาน พร้อมทั้งกวาดตามองหาผู้ก่อเหตุด้วยแววตาดุดันพร้อมเอาเรื่อง
ไม่ได้มีแค่มะเขือเทศลูกเดียวที่ถูกปาเข้ามา มีกองทัพมะเขือเทศและไข่เน่าลอยมากระทบถูกร่างสองคู่หูผู้ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกใหม่ของเจ้าของงานวันเกิดอย่างต่อเนื่อง คาลี่กับฟลุทรีบลงจากเวทีเพื่อหลบเข้าห้องรับรองแขกโดยเร็วที่สุด
แต่ดูเหมือนว่าคาร์ล่าจะไม่ปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องที่เธอชังน้ำหน้ารอดพ้นจากกับดักไปง่าย ๆ
เพราะเพื่อนก๊วนของแมทธิวไม่ยอมปล่อย กลับปิดทางหนีและต้อนคาลี่กับฟลุทกลับเข้าไปในงาน ส่วนโคดี้หายไปไหนนะเหรอ!?
น้องชายที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับพี่สาวร่วมสายเลือด... ก็ถูกเจ้าของงานผู้เป็นต้นคิดแผนร้ายล่อลวงกักขังอยู่ในห้องนอนนะสิ!
"นี่มันอะไรกัน!? ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย!?" คาลี่เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ทั้งแค้นและกลัวสายตาทุกคนที่อยู่รอบข้างเป็นอย่างมากในขณะนี้ แต่ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากผีห่าซาตานในคราบมนุษย์สักคน
มีแต่... ฝูงหมาแมวของแขกเหรื่อกรูกันมาเลียหน้าและร่างกายของคาลี่กับฟลุทอย่างเมามันส์ สามสหายนรกเดินย่างสามขุมมาหาสองคู่หูอย่างช้า ๆ และเยือกเย็น
"ขอโทษด้วยนะน้องรัก เผอิญว่าโชว์มันเริ่ดดีอ่ะ ดีจนเกินคอนเซ็ปต์ไปนี๊สนึง" คาร์ล่าเผยธาตุแท้... ยิ้มเยาะใส่ลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยด้วยความรู้สึกสาแก่ใจเป็นอย่างยิ่ง
"ช่ายยยย!! ถึงงานวันนี้มีสัตว์เลี้ยงเป็นคอนเซ็ปต์จริง แต่มิได้รวมถึง สัตว์ประหลาด นะจ๊ะ!" โมนิก้ายืนเท้าสะเอว ด่าฟลุทอย่างไม่ใยดีแม้แต่น้อย
"ถ้ามนุษย์ปกติอย่างเราจะขับไล่สัตว์ประหลาดออกไปจากบ้าน หรือทำให้หายไปจากโลกนี้ ถือว่าไม่ผิดใช่ป่ะ!?" แมทธิวผสมโรงเอาใจน้องสาวและแฟนสาว รวมทั้งป่าวประกาศหาแนวร่วมจากเพื่อน ๆ ที่เป็นแขกเหรื่อของงานวันเกิด
แน่นอน... ว่าเพื่อนก๊วนและเกรงใจอำนาจเงินของแมทธิวพากันเฮและส่งเสียงโห่ร้องต้องเป็นแนวร่วมสนับสนุนประหนึ่งโรบอทที่ทำงานด้วยเงินไม่มีผิด พวกคาร์ล่าได้ใจ... เตรียมจัดหนักอีกยก
"ในเมื่อทุกคนลงมติว่าไม่ผิด... จะมัวรออะไรอยู่คะ! ไม่ต้องรอแล้วนะ... จัดการได้เลย!" คาร์ล่าเปิดไฟเขียวให้แฟนหนุ่มกับก๊วนกรูกันมาเล่นงานคาลี่เพื่อจับเจ้าฟลุทไปโยนทิ้งที่ใดสักแห่งให้ไกลจากบ้านโดยเร็ว
ความชุลมุนจึงบังเกิดขึ้น!
คาลี่พยายามสลัดตัวเองให้พ้นจากแมทธิวและก๊วนเลว ๆ ของมันอย่างสุดฤทธิ์ ในขณะที่โมนิก้ากับคาร์ล่าจับเจ้าฟลุทแยกแล้วเหวี่ยงร่างไปกระแทกถูกบรรดาสุนัข หมายให้พวกสุนัขของเพื่อน ๆ ที่มางานวันเกิดตามคอนเซ็ปต์ไล่กวดจนเจ้าฟลุทหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ ป้าดาร์ลีนทำได้แค่ใช้มือถือโทรตามคุณ ๆ ทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่เบอร์ตั้นให้รีบกลับบ้านมาระงับเหตุโดยเร็ว
ฟลุทถูกบรรดาสุนัขแยกเขี้ยวคำรามใส่จนหวาดกลัว ทำท่าจะวิ่งหนี แต่พอเห็นคาลี่ถูกรุมทำร้ายหนักเข้า สัญชาตญาณชีวิตทดลองที่ถูกสร้างมาเพื่อทำลายล้าง... จึงถูกปลุกขึ้นมา
จากร่างแมวหูยาวร่างเล็กน่ารักไม่มีพิษภัย... แปลงกายเป็น แมวนักกล้ามสี่แขน แสนดุร้ายในพริบตา!
เมื่อเหยื่อแปรเปลี่ยนเป็นผู้ล่า จากผู้ล่าที่เอารัดเอาเปรียบแปรเปลี่ยนเป็นเหยื่อที่ต้องวิ่งหนีหางจุกตูดในฉับพลัน ฟลุทวิ่งพุ่งทะยานกลับเข้าไปในงาน ซัดทั้งคาร์ล่า โมนิก้า แมทธิว และก๊วนไปให้พ้นจากคาลี่ ป้าดาร์ลีนรีบพาตัวคาลี่ที่ยังตกตะลึงกับร่างใหม่ของฟลุทไปให้พ้นจากสระว่ายน้ำโดยเร็ว
กลายเป็นว่า... ฟลุทร่างนักกล้ามสี่แขนเป็นฝ่ายพังงานเลี้ยงจนแขกเหรื่อของคาร์ล่าพากันหนีตายจ้าละหวั่น แมทธิวถูกเล่นงานหนักจนเลือดตกยางออก... ฟลุทหยิบขวดเบียร์ขว้างใส่หัวแมทธิวแตก จากนั้นก็จับแมทธิวเหวี่ยงตกสระ แถมกระโจนลงไปซ้ำต่อ... จับแมทธิวกดน้ำหมายกระชากวิญญาณโฉดออกมาจากร่างให้จงได้
แน่นอนว่าทั้งโมนิก้า คาร์ล่า หรือใครก็ตามที่อยู่ในบ้าน ไม่สามารถห้ามเจ้าฟลุทร่างอสุรกายได้ กลัวจะเป็นแบบแมทธิวที่ยังหายใจใต้น้ำไม่ได้
แต่ก่อนที่เจ้าแมวเป่าฟลุทจะคร่าชีวิตคน เสียงเพลงก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงเพลงที่ฟลุทฟังแล้วถึงกับหยุดชะงัก... ยั้งมือในทันท่วงที
เสียงเพลง "My Heart Will Go On" ฉบับคาสเซ็ทดังมาจากเครื่องบันทึกเทปที่อยู่ในมือคาลี่ และเชื่อมต่อกับลำโพงพกพาเป็นที่เรียบร้อย!
พลังเสียงของ เซลีน ดิออน สะกดใจอสูรร้ายจนอ่อนแรงลงไปชั่วขณะ แววตาอสูรร้ายกลับคืนสู่ความน่ารักใสซื่อดังเดิม ทำเอาคาลี่โล่งอกที่งานนี้ไม่มีคนตาย แต่รู้ได้ในทันที... ว่าเรื่องไม่จบเพียงเท่านี้
โคดี้จำได้... ว่าหลังจากคืนงานวันเกิดผ่านพ้นไป คาลี่กับคาร์ล่าเปิดศึกกันต่ออีกยก เพราะคุณป้าบริทต้าทำท่าจะเฉดหัวเจ้าฟลุทออกจากบ้านให้ได้ คงเป็นเพราะคาร์ล่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง รวมทั้งด่าทอเจ้าฟลุทว่าเป็นแมวปีศาจ แน่นอนว่าคนที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเรื่อง... ก็หนีไม่พ้นสองพี่น้องคู่นรกที่ริบังอาจเตี๊ยมกับคาร์ล่าหมายกดดันคาลี่ให้หอบเจ้าฟลุทระเห็จออกจากบ้าน ในฐานะที่คาลี่เป็นผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์กลั่นแกล้งกันในงาน... เธอยืนยันความบริสุทธิ์ของเพื่อนรักอย่างเป็นกลางถึงที่สุด รวมทั้งขู่จะหนีออกจากบ้าน หากคุณลุงแอนตั้นไม่ให้ความเป็นธรรม เป็นความโชคดีที่คุณลุงท่านยุติธรรม จึงตัดสินให้คาร์ล่ากับคาลี่ผิดทั้งคู่ เพราะคาร์ล่าเป็นผู้ริเริ่มงานและรู้ว่าท่านเตือนเรื่องเพื่อนไฮสคูลกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์... แต่ยังปล่อยปละละเลยให้มีการดื่มและก่อเหตุคึกคะนองจนมีเรื่อง ส่วนคาลี่น้อมรับความผิดเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมเจ้าฟลุทให้อยู่ในร่องในรอยได้ คาลี่กับฟลุทจึงได้อยู่ในบ้านต่อ โดยหลีกเลี่ยงเหตุกระทบกระทั่งกันให้มากที่สุด เพื่อมิให้เจ้าฟลุทแปลงกายเป็นอสุรกายในภายหลัง โดยเฉพาะแมทธิวที่ได้รับบาดเจ็บจากความบ้าระห่ำของฟลุท... ป้าบริทต้าได้ชดใช้ค่าทำขวัญเพื่อให้เรื่องจบไปเป็นที่เรียบร้อย
แต่นึกไม่ถึง... ว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับสองพี่น้องคู่นรกผู้เป็นเพื่อนพี่สาวอีกครั้ง
"โอ้โห! เพิ่งเปิดเทอมได้แค่ 2 วัน มีเพื่อนใหม่ซะแระ แถมเป็นเพื่อนสปีชี่ส์เดียวกับไอ้แมวผีกลายพันธุ์ซะด้วย ยินดีด้วยนะจ๊ะคาลี่... ที่หาพวกได้สักที" โมนิก้าเย้ยหยันคาลี่ที่ตอนนี้กำลังบีบมือฟลุทให้ใจเย็นลง เพราะคาลี่รู้ดี... ว่าฟลุทอยากฉีกเนื้อสองพี่น้องนรกคู่นั้นใจแทบขาด ทั้งที่ฟลุทไม่ต้องการแปลงร่างเป็นอสุรกายอีกครั้ง
"ก็ยังดีกว่าใครบางคน... ที่หลงเป็นเพื่อนกับคนปกติที่ริอยากจะเป็นหมาลอบกัดที่จ้องกัดคนไม่มีทางสู้ลับหลังแบบนี้" โคดี้โต้ตอบด้วยคำเชือดเฉือนเกินวัย เขาไม่เคยคิดจะเคารพเพื่อนพี่สาวคนนี้แม้แต่น้อย ทำเอาสองพี่น้องนรกฉุนกึ๊ก
"อย่าเอานังน้องนอกไส้มาเทียบกับพี่สาวแก! แค่สถานะต่างกันไม่พอ... ความเป็นคนมีรึเปล่ายังไม่รู้เลย!" แมทธิวและก๊วนหัวเราะอย่างพร้อมเพรียงกัน บ่งบอกให้คาลี่รับรู้ว่าแค่เป็นผู้อาศัยกับลูกเจ้าของบ้านก็ต่างกันมากพอแล้ว... ยังซ้ำด้วยการด่าทอว่าเป็นตัวประหลาดอีก
คีโอนี่กับโคดี้เห็นว่าเสียเวลาเปล่าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับวัยรุ่นไร้หัวคิด จึงตั้งใจว่าจะพาพวกลีโล่กับคาลี่กลับบ้าน
แต่ดูเหมือนว่าแมทธิวจะไม่ปล่อยเด็ก ๆ ไปง่าย ๆ
แมทธิวไม่ได้มีแค่น้องสาวกับก๊วนกระจอกแค่ 2-3 คน
พวกมันมีอีก... 3-4 คน พร้อมหมาดุอีก 2 ตัวที่โผล่มาดักทางหนีทุกทิศทาง
"เอ่อ... ไม่มากไปหน่อยเหรอพี่" คีโอนี่พยายามพูดติดตลก ทั้งที่สถานการณ์ไม่สู้ดี เขานึกไม่ถึง... ว่าแค่ต้องการหาเรื่องคาลี่กับฟลุท ต้องขนทั้งคนกับหมามาปิดประตูตีแมวขนาดนี้เลยรึอย่างไรกัน!
"ทีนี้ พร้อมจะให้พี่ ๆ ร่วมสนุกกับน้องฟลุทได้รึยังจ๊ะ" แมทธิวยิ้มย่ามใจ พร้อมทำทุกอย่างเพื่อกระตุ้นให้ฟลุทเป็นอสูรร้ายอีกครั้ง คิดว่าการที่คาลี่พาฟลุทมาโรงเรียนให้เข้าใจว่าเป็นแมวเป่าฟลุทที่ไร้พิษภัยนั้น... เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ฟลุทเผยร่างอสูรออกมา เพื่อที่จะทำให้ฟลุทไม่มีที่ยืนบนเกาะคาไวอีก
คาลี่กอดร่างฟลุทเพื่อปกป้องเขาไม่ให้ถูกทำร้าย หรือไม่... เธอพยายามกันเพื่อนรักไม่ให้แปลงกายเป็นอสูรก่อเหตุวินาศกรรมเหมือนเมื่อคืนงานเลี้ยงของคาร์ล่าอีก ในขณะที่สติทช์ แองเจิ้ล สนูทตี้ และแจมพากันเผชิญหน้ากับแมทธิวและก๊วนเลี้ยงหมาสุดโฉด เพื่อหาโอกาสล้มศัตรูหมายเปิดทางหนีให้จงได้ แม้พวกเขามีร่างกายที่คงกระพันต่อการโจมตีของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตบนดาวโลกทุกรูปแบบก็ตาม
"เห็นนิ่ง ๆ อยู่อย่างนี้ แสดงว่ายอมคุยด้วยดี ๆ แล้วสินะ" โมนิก้าพูดออกมาด้วยความลำพองใจ คิดว่าวิธีปิดประตูตีแมวของพี่ชายจะช่วยกำจัดฟลุทให้ออกไปจากเกาะอย่างง่ายดาย หากร่างอสูรถูกเปิดเผย
สติทช์ใช้สมองซุปเปอร์คอมพิวเตอร์วางแผนต่อกรกับศัตรูโดยมิให้มีการเสียเลือดเนื้อเกิดขึ้น เขาจำได้ว่าในร่างกายของเขามีสารที่เป็นส่วนประกอบของสนูทโธเนี่ยม (Snootonium) สูงถึง 62.7% และเป็นสารที่สนูทตี้ดูดซับเป็นพลังงานหมุนเวียนในร่างกาย ในขณะที่สนูทตี้ใช้ดวงตาของเขาสแกนหาคนที่คาดว่าจะมีเสมหะหรือน้ำมูกจากพวกแมทธิวหมายดูดซับเปิดทางหนีให้พวกลีโล่
ในที่สุด... สติทช์ก็คิดวิธีจู่โจมแมทธิวและก๊วนโฉดออก สติทช์เงยหน้ากลั้วคอขย้อนน้ำลายเสมหะออกมาแล้วพ่นใส่หน้าโมนิก้าโดยตรง!
คนถูกพ่นน้ำลายถึงกับกรีดร้องด้วยความขยะแขยงสุดฤทธิ์ นึกไม่ถึงว่าหมาของลีโล่จะกล้าทำกับตนถึงขนาดนี้ เท่านั้นยังไม่พอ... สนูทตี้กระพือปีกบินเข้าโฉบไปเกาะใบหน้าโมนิก้าซ้ำอย่างแน่นหนา แมทธิวกับก๊วนเห็นเข้า... จึงพากันรุมเล่นงานพวกลีโล่ แต่บรรดาหมาดุของพวกแมทธิวก็ไม่มีทางเอาชนะการต่อสู้อันปราดเปรื่องของสติทช์ได้
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกำลังชุลมุน หมาดุทั้ง 4 ตัวของพวกแมทธิวพากันพุ่งทะยานหมายจะขย้ำสติทช์ แต่สติทช์กระโดดหลบให้พวกมันเป็นฝ่ายพุ่งเข้าฟัดกันเอง เหลือแค่แมทธิวที่ยังวุ่นวายกับการแกะเจ้าสนูทตี้ออกจากใบหน้าน้องสาว... แถมถูกเจ้าแจมเกาะเข้าที่ท้ายทอย ส่วนก๊วนหนุ่มซ่าส์กำลังปะทะกับสองคู่หูดูโอ้นักสเก็ตที่มีแค่สเก็ตบอร์ดเป็นอาวุธป้องกันตัว แต่หนึ่งในพวกมันถูกแองเจิ้ลสะบัดหนวดผีเสื้อฟาดเข้าที่น่อง... ก๊วนส่วนหนึ่งจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่แองเจิ้ลแทน สนูทตี้กับแจมจึงบินมาเกาะแกะจิกกัดพวกที่จะเล่นงานแองเจิ้ล
แองเจิ้ลจึงล้มมนุษย์ผู้ชายอย่างง่ายดาย... ด้วยวิชาศิลปะป้องกันตัวที่ร่ำเรียนและครูพักลักจำมาจากคุณพ่ออลัน
มาวินเป็นเด็กผู้ชายอายุน้อยสุด... เป็นคนพาสาวน้อยทั้ง 4 คนหนีออกจากสวนสาธารณะอย่างรวดเร็ว มีสติทช์เป็นบอดี้การ์ดรับมือกับก๊วนอีกกลุ่มที่พยายามไล่ล่าฟลุทให้จงได้ ฟันและเขี้ยวของสติทช์สามารถกัดกินทุกสิ่งทุกอย่างที่สัมผัส เพราะเห็นว่าผู้ชายวัยรุ่นถือตัวว่าจะเข้าถึงตัวพวกเด็ก ๆ ได้ กางเกงยีนส์และขายาวของแมทธิวกับก๊วนจึงกลายเป็นอาหารเย็นของเขาโดยปริยาย แมทธิวกับก๊วนจึงโชว์บ๊อกเซอร์จนพวกลีโล่พากันเบือนหน้าหนี... ไม่ต้องการเห็นภาพอุจาดตา
เพียงเท่านี้... แก๊งแมทธิวก็พากันล่าถอยไปพร้อมกับความอับอายที่เกิดขึ้น ณ สวนสาธารณะแห่งนี้
------------------------------------------------------------------------
กว่าลีโล่กับสติทช์จะกลับถึงบ้าน ก็เกือบพลบค่ำ คนแรกที่สองคู่หูต้องเผชิญหน้า คือ... นานี่ที่รอสวดน้องตัวยุ่งทั้งสอง มีพรีคลีย์ยืนดูอยู่ห่าง ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ หนีไม่พ้นเรื่องสติทช์แอบแว๊บไปโรงเรียนโดยไม่มีภารกิจค้นหาสัตว์ทดลอง
"ก็หนึ่งในญาติของสติทช์มีปัญหากับทางบ้านนี่คะ มันเป็นภารกิจของเราที่ต้องตรวจดูความเป็นอยู่ เผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เมื่อกี้นี้... มีคนอยากลองของกับเจ้าฟลุทด้วยค่ะ" ลีโล่ชี้แจงเหตุผลสั้น ๆ ให้พี่สาวรับทราบ แม้รู้ว่าผิดที่เปิดโอกาสให้สติทช์แอบไปโรงเรียนทั้งที่รู้กฎดี... ว่าห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปก็ตาม
"เจ้าฟลุท!? ลีโล่หมายถึง... ปีศาจน้อยที่เป่าเพลงล่องเรือรักจนชนภูเขาน้ำแข็งนะเหรอ!?" พรีคลีย์โผล่มาถามลีโล่พอดี นานี่ถึงได้รู้... ว่านอกจากลีโล่ มาเรีย เมอร์เทิล วิคตอเรีย และคีโอนี่ที่รับเลี้ยงสัตว์ทดลอง ยังมีคาลี่ที่รับเลี้ยงชีวิตทดลองหมายเลข 145 และเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจนถึงขั้นแอบพาไปโรงเรียนเป็นเพื่อน
"ใช่ค่ะ มีผู้ไม่หวังดีตั้งใจจะเปิดโปงร่างดั้งเดิมของเจ้าฟลุทให้โลกรู้ เพราะตั้งใจจะทำลายชีวิตของคาลี่... ให้คาลี่ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดที่สั่งการให้เจ้าฟลุทต่อต้านโปรแกรมทำลายล้างได้ค่ะ" ลีโล่ควักเศษกางเกงยีนส์ฉีกขาดออกมาจากกระเป๋าเป้มายืนยันให้พี่สาวรับทราบ... ว่าเธอกับสติทช์และผองเพื่อนเพิ่งฟัดกับพวกเพื่อนสารเลวของญาติคาลี่มา สติทช์ตบพุงด้วยความภาคภูมิใจที่ได้สวาปามกางเกงของพวกแมทธิวจนโชว์บ๊อกเซอร์กลับบ้าน นานี่เห็นแล้วพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าทั้งชีวิตของน้องสาวที่เป็นสายลับค้นหาสัตว์ทดลอง... จะมีวันที่ต้องเผชิญหน้ากับคนไม่ดีบนดาวโลกเข้าสักวัน
คนไม่ดี... ที่จ้องจะทำลายชีวิตทดลองให้หายไปจากเกาะ เพียงเพราะมีพลังประหลาดแสดงออกมาให้คนเห็น เป็นอุปสรรคที่ลีโล่กับสติทช์ต้องเผชิญหน้าอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้
"ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาลองของกับผลงานของอัจฉริยะชั่วร้ายได้!" จัมบ้าออกมาผสมโรง แสดงความเป็นห่วงผลงานทั้งหกร้อยกว่าชีวิตอย่างออกนอกหน้า "ถ้ามีคนลองของให้โลกล่วงรู้ถึงการมีตัวตนของเรา เกาะสวรรค์แห่งนี้จะต้องถูกจับตามอง ความลับเรื่องดาวทูโร่จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป"
"ไม่เป็นความลับ โอฮาน่าก็ตกอยู่ในอันตราย ผมหวังว่าสั่งสอนพวกลองของเมื่อครู่นี้... จะทำให้พวกมันเข็ดหลาบและล้มเลิกความคิดนะครับ" สติทช์พูดออกมาด้วยความมั่นใจ... ว่าพวกแมทธิวจะไม่หวนกลับมาซ่าส์กับน้องฟลุทอีกเป็นครั้งที่ 3 เป็นอันแน่แท้
"ยัยหนูบอกว่าเพื่อนใหม่ของเธอเห็นเจ้า 145 ในร่างอสุรกายใช่มั้ย" จัมบ้าถาม
"ค่ะ พี่ชายที่เป็นญาติบอกว่าถูกปลุกต่อเมื่อถูกรังแกค่ะ" ลีโล่ยืนยัน รวมทั้งควักกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วส่งถึงมือจัมบ้า อัจฉริยะชั่วร้ายรับมาดู คลี่รอยพับออกแล้วพบว่าเป็นภาพวาดภาพหนึ่ง
ภาพวาดสตอรี่ที่มีเจ้าฟลุทเป็นพระเอก
จัมบ้าตีความได้ในทันที... ว่าคาลี่รู้ความจริงเรื่องฟลุทเมื่อเห็นเขาอยู่ในร่างอสุรกาย ถึงกับพยักหน้าด้วยความสนอกสนใจ
"เพื่อนใหม่ของยัยหนูนี่ฉลาดดี... เข้าใจสิ่งที่เจ้า 145 พยายามสื่อสารออกมา ถือเสียว่าเป็นการต่อชีวิตให้ผลงานไร้เทียมทานของฉันได้ดีจริง ๆ" จัมบ้านึกชื่นชมคาลี่ที่เป็นคนช่วยเจ้าฟลุทเปิดใจเล่าที่มาของเขาให้เธอฟัง และคาลี่ยังช่วยหาทางยับยั้งไม่ให้เจ้าฟลุทกลายเป็นอสุรกายอีก
"ต่อชีวิต? หมายความว่าไงคะ" ลีโล่สงสัย
"เจ้า 145 ถูกสร้างมาเป็นนักสู้ ซึ่งจะมีทั้งแบบอสุรกายกับแบบน้องแมวผู้น่ารัก" จัมบ้าอธิบายโดยหันรูปวาดให้ลีโล่ดู รวมทั้งชี้ให้ลีโล่ทำความเข้าใจกับร่างฟื้นฟูและร่างดั้งเดิมของเจ้าฟลุทละเอียดยิบ "ที่บอกว่าการที่เพื่อนสื่อสารกับเจ้า 145 เป็นการต่อชีวิต เพราะถูกสร้างมาให้เป็นนักสู้โดยอาศัยความสงสารและเสียงชื่นชมจากผู้ชมเป็นพลังงานหมุนเวียนในร่างกายเป็นหลัก ร่างที่เป็นน้องแมว... เป็นร่างฟื้นฟู ถ้าเจ้า 145 ไม่มีผู้เลี้ยงดู เขาก็เป็นนักต้มตุ๋นดี ๆ นี่เอง ทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกคะแนนสงสารจากคนรอบข้าง เพราะความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความสงสารเป็นพลังที่จะทำให้เจ้า 145 มีชีวิตยืนยาวได้เหมือนชีวิตทดลองทุกตัวที่สร้างมา การที่เจ้า 145 ใช้ร่างดั้งเดิมเพื่อทำลายล้าง... เป็นการปลดปล่อยพลังงานในร่างกายออกมาจนกว่าจะหมดแรง ถ้าพลังงานหมดเมื่อไหร่ล่ะก็..."
ยังไม่ทันที่จัมบ้าจะพูดต่อจนจบ ลีโล่ก็เดินหนีไปที่ลิฟท์ขึ้นไปบนห้องนอนทันที ราวกับว่าสิ่งที่จัมบ้าจะพูดต่อ... เป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการได้ยินแม้แต่คำเดียว สติทช์รีบวิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าสิ่งที่จัมบ้าจะพูดต่อจากนี้คืออะไร ทำเอาจัมบ้ามองตามด้วยความงุนงง แต่ก็ถูกนานี่กับพรีคลีย์ถลึงตาใส่ เพราะทั้งคู่รู้ดี... ว่าสาเหตุที่ลีโล่รีบกลับเข้าห้องทันทีนั้นเพราะอะไร
ตลอดเวลาที่เด็กผู้หญิงที่อุทิศตนเป็นสายลับค้นหาสัตว์ทดลอง ไม่มีสัตว์ทดลองตัวไหนที่ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจมากเท่ารูปที่ดูอยู่ในสมุดภาพ
ใช่... เธอกำลังดูรูปฟลุทกับคาลี่ในสมุดภาพด้วยแววตาหม่นหมอง มือข้างซ้ายของเธอลูบรูปเบา ๆ ประหนึ่งว่าเจ้าฟลุทคือลมหายใจของเธอ เมื่อพูดถึงพลังงานในร่างกายจะหมดไป
มันทำให้เธอหวนนึกถึงความผิดพลาดครั้งนั้น... ที่เกือบสูญเสียสติทช์ไปอย่างไม่มีวันกลับมา
เธอจำได้ดี... ว่าตอนนั้นเธอไม่รู้เรื่องพลังงานในร่างกายของสติทช์ เธอรู้แค่ว่าเธอกับสติทช์เข้ากันได้ดีจริง ๆ จนกระทั่ง... สติทช์มีอาการป่วยประหลาดจนเธอที่กำลังเครียดเรื่องงานแสดงฮูล่าในงานเทศกาลเมย์เดย์ (May Day Festival) ผิดหวังในตัวเขาจนห่างเหินไปชั่วขณะ กว่าจะรู้ความจริงจากจัมบ้าที่ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตเขา... ก็สายเกินไป แต่ปาฏิหาริย์ได้นำพาสติทช์กลับมาเป็นโอฮาน่าของเธอดังเดิม เธอจึงตั้งปณิธานไว้... ว่าจะไม่มีกรณีนี้อีกเป็นครั้งที่ 2
เมื่อเทียบกับคาลี่ที่มีเจ้าฟลุทเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เธอยิ่งตอกย้ำตัวเองอีกครั้ง... ว่าเธอเคยโง่มากแค่ไหนที่ปล่อยหัวใจให้หลุดลอยจนเกือบไม่สามารถคว้ามาได้แล้วครั้งหนึ่ง ผิดกับคาลี่ที่ดูแลฟลุทเป็นอย่างดี... แม้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมร้าย ๆ ที่พร้อมจะกระตุ้นให้ฟลุทเป็นอสุรกายได้ทุกเมื่อ
การที่เธอรู้ว่าเจ้าฟลุทจะสูญเสียพลังงานเมื่อเป็นอสุรกาย ความผิดพลาดในอดีตของเธอก็หวนกลับมาหลอกหลอนจนแทบจะกดดันตัวเองเสียให้จงได้
เธอรู้สึกกดดันตัวเองเป็นอย่างยิ่ง... ว่าจะต้องมีสักวิธีที่จะทำให้เจ้าฟลุทเชื่อว่าการเป็นอสุรกายเพื่อปกป้องคาลี่เป็นสิ่งที่ไม่ผิด และต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยคาลี่หลีกเลี่ยงการปะทะกับคนเลว ๆ ในคราบญาติร่วมสายเลือดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่แล้ว... อุ้งมือข้างขวาที่เต็มไปด้วยขนสีฟ้าก็เลื่อนมาสัมผัสมือซ้ายของเธอเบา ๆ
ซึ่งเป็นอุ้งมือที่นุ่มนวลและอบอุ่นเสียจนเธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างแปลกประหลาด
"ทุกคนต่างก็มีห้วงแห่งความทุกข์เป็นของตัวเอง มันมีหลายแบบ หนึ่งในนั้นก็เป็นความทุกข์จากสิ่งที่เธอกำลังรู้สึกอยู่" สติทช์พูดขึ้นโดยไม่ตั้งคำถามจากสิ่งที่เพื่อนรักของเขารู้สึก เขารู้ดี... ว่าลีโล่กำลังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ หลังจากที่จัมบ้าพูดถึงพลังงานในร่างกายเจ้าฟลุทว่าจะหมดไป... เมื่อเข้าสู่ร่างอสุรกายทำลายล้าง
พูดถึงพลังงานเสื่อมถอย สติทช์พลอยนึกถึงช่วงเวลาที่พลังงานเสื่อมถอยลงเช่นกัน
พลังงานเสื่อมถอยที่เกิดจากอาการชักกระตุกควบคุมไม่ได้ เพราะจัมบ้าชาร์จไฟไม่เต็มที่ในวันที่สติทช์ถูกสร้างจนเป็นรูปร่างและมีชีวิต... และเป็นวันที่จัมบ้าถูกทางสหพันธ์บุกจับกุมถึงที่ และอาการช็อกครั้งนั้นก็เกือบทำให้วิญญาณของเขาต้องลาโลกนี้ไป ถ้าไม่มีความรักของลีโล่มาช่วยเยียวยาเขา
สติทช์ถึงได้รู้... ว่าความรักที่ลีโล่มอบให้ เป็นความรักแบบโอฮาน่าที่มีความกลัวและความรู้สึกผิดเจือปนอยู่
"พี่รู้แล้วสิ... ว่าสิ่งที่ฉันคิดคืออะไร" ลีโล่ตอบสนองต่อคำพูดของเขา... ที่ทำให้เธอหลุดพ้นจากภวังค์แห่งความรู้สึกผิดในพริบตา
"ถึงไม่ถาม พี่ก็รู้ทุกอย่าง... แค่อ่านสีหน้าของเธอ สมองคอมพิวเตอร์ของพี่ก็ประมวลผลได้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่" สติทช์พูดติดตลกต่อในทันทีที่อีกฝ่ายตอบสนองต่อความห่วงใยที่เขามีให้เธอ ซึ่งทำให้รอยยิ้มน้อย ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของเด็กผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นโอฮาน่าของเขา
"ไม่ยักรู้นะว่าพี่อ่านใจฉันด้วย" ลีโล่พูดติดตลกเช่นกัน
"ก็... ทุกอย่างที่เกี่ยวกับลีโล่ พี่ต้องรู้หมดสิ ทั้งสิ่งแวดล้อมรอบตัว ของสะสมที่โปรดปราน สีสันที่ใช่ สิ่งที่เธอพยายามไขว่คว้ามาเพื่อความสุขของเธอและโอฮาน่า และตัวตนจากก้นบึ้งในหัวใจของเธอ ถ้าพี่ไม่รู้จริง... พี่จะมีสมองซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ไว้เพื่ออะไร" สติทช์เอานิ้วชี้ข้างซ้ายจิ้มเข้าที่ขมับซ้ายของตนเอง ทำตัวให้ตลกและน่ารักจนลีโล่หลุดขำออกมา
"แกล้งโง่บ้างก็ได้นะพี่ชาย" ลีโล่เอามือลูบหลังใบหูด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาสติทช์หัวเราะคิกคักเพราะจั๊กจี้
"ไม่เอา ลีโล่ก็รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง เราไม่มีความลับต่อกันไม่ใช่เหรอ" สติทช์ย้อนถามพลางทำตาปิ๊งปั๊งใส่
"ใช่ เราไม่มีความลับต่อกันนี่" ลีโล่ตอบรับ
"ถ้าอย่างนั้น... พี่ก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับลีโล่ เผื่อว่ามีเรื่องอะไรที่หนักหนาเกินกว่าที่ลีโล่จะรับมือไหว... พี่ก็จะเป็นแขนขาให้เธออยู่อย่างนี้ตลอดไปไงจ๊ะ" สติทช์ยืนยันน้ำเสียงอ่อนโยน เขาส่งสายตาและรอยยิ้มให้ด้วยความจริงใจ... และกุมมือเธออย่างแน่นหนา บ่งบอกให้เธอได้รับรู้... ว่าเขาพร้อมจะอยู่ข้างเธอเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
เหมือนที่เขากำลังทำอยู่จนถึงทุกวันนี้
แต่ความห่วงใยที่เขามอบให้... ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
ราวกับว่า "เขา" พร้อมที่จะเป็นคนรักของ "เธอ" อยู่อย่างนี้ตลอดไป ทั้งที่เขากับเธอต่างก็เป็นเพื่อนกันมานานแสนนาน
หัวใจของเธอเต้นแรงเสียดื้อ ๆ นึกไม่ถึงว่าเธอจะหวั่นไหวไปกับคำพูดที่ฟังดูเหมือนถอดสคริปต์มาจากหนังโรแมนติกอย่างง่ายดายเช่นนี้
เพื่อไม่ให้สติทช์รับรู้ถึงความรู้สึกขวยเขินที่เกิดขึ้น... ลีโล่จึงเป็นฝ่ายกุมมือเขาแทน
"ขอบคุณพี่มากนะที่เป็นห่วง แต่เชื่อฉันเถอะ... ว่าเรื่องเจ้าฟลุทจะเป็นอีกเรื่องที่เราต้องรับมือไหวอย่างแน่นอน แค่เฝ้าดูและระวังภัย... ก็มากพอแล้วที่จะช่วยเขากับคาลี่ได้ เหมือนญาติทุกคนของพี่... โอฮาน่าของพี่ไง คาลี่ก็เหมือนโอฮาน่าของเรานะ" ลีโล่ยิ้มให้เพื่อนรักตัวสีฟ้าด้วยความมั่นใจ... ว่าเขากับเธอจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งไม่ให้ฟลุทเป็นอสุรกายทำร้ายตัวเองอีก สติทช์พยักหน้าตอบตกลง... เขาพร้อมที่จะร่วมสู้ด้วยกันกับเธอ เพื่อให้ภารกิจนี้ลุล่วงให้จงได้
"เอาล่ะ เรารีบลงไปทานมื้อเย็นดีกว่า พี่นานี่ต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าปล่อยให้น้องสาวคนเดียวรอเก้อจนมื้อเย็นเย็นชืด" สติทช์กระโดดลงจากเตียง ชวนลี-โล่ลงไปทานมื้อเย็นด้วยกัน เพราะเห็นว่าเธอกลับมายิ้มแย้มเช่นเดิม ลีโล่เดินตามไปถึงลิฟท์กลางห้องแล้วลงไปยังห้องครัวในทันที
หวังว่าคงไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นขณะทำภารกิจเจ้าฟลุทนะ
------------------------------------------------------------------------
"เสร็จรึยังเนี่ย... เข้าไปตั้งเกือบชั่วโมงแล้วนะ!" แมทธิวตะโกนถามน้องสาวที่เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำบ้านพักตากอากาศตั้งนาน
"มันคงจะเสร็จง่ายอยู่หรอก... ถ้าน้ำลายหมาโคอาล่าสีฟ้าบ้านั่นไม่เหม็นจนอายผู้คน!" โมนิก้าตะโกนตอบกลับออกมาด้วยความเจ็บใจ ยังเคืองแค้นสติทช์ไม่หายที่พ่นน้ำลายใส่หน้าไม่พอ เจ้าค้างคาวสนูทตี้ยังเกาะหน้าดื่มน้ำลายอีก ทั้งแค้นทั้งขยะแขยงในเวลาเดียวกัน พี่ชายใจนรกฟังแล้วพลอยโกรธแค้นพวกลีโล่ไปด้วย
"นังคาร์ล่าจะรู้บ้างมั้ยเนี่ย... ว่าเกาะนี้เต็มไปด้วยพวกสัตว์ประหลาด" แมทธิวนึกถึงแฟนสาวจอมเอาแต่ใจ ต้องโทษนางที่ริบังอาจยุยงให้เขาพาน้องสาวและก๊วนไปป่วนประสาทคาลี่กับฟลุทถึงโรงเรียน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง คิดว่าฟลุทจะถูกตราหน้าว่าเป็นแมวปีศาจจนต้องหายตัวไปจากเกาะ กลายเป็นแมทธิวที่ถูกสติทช์เล่นงานจนโชว์บ๊อกเซอร์ในที่สาธารณะเสียเอง แถมรีโมทกุญแจรถยังถูกสติทช์สวาปามจนต้องพาน้องสาวเดินสองเท้ากลับถึงบ้านตอนพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้
"รู้ไม่รู้ไม่สำคัญ รู้แค่ว่า... เราจะหาทางรับมือกับพวกเพื่อนประหลาดของนังคาลี่ยังไงล่ะพี่ แต่ละตัว... ตัวแสบทั้งนั้น" โมนิก้านึกถึงการโจมตีของพวกสติทช์ที่ปกป้องเจ้าฟลุท... ยังแค้นไม่หาย โดยเฉพาะสติทช์กับสนูทตี้ที่ทำเอาผมหางม้าของเธอเสียทรงเมื่อเย็นที่ผ่านมา
"เห็นทีเราต้องรู้ให้ได้เสียแล้ว... ว่าบนเกาะนี้มีสัตว์ประหลาดแบบไอ้แมวผีนั่นกี่ตัวกันแน่ ถ้าโลกรู้เมื่อไหร่... พวกมันไม่มีที่ยืนบนโลกใบนี้แน่!" แมทธิวตั้งใจไว้แล้ว... ว่าเขาจะตามจองล้างจองผลาญพวกสติทช์ เอาให้สาสมกับความอับอายที่เขาได้รับจนถึงที่สุด
แต่หาได้รู้ไม่... ว่าบ้านพักตากอากาศของสองพี่น้องคู่นรกอยู่ใกล้โฮมสเตย์ที่แอนดรูว์อาศัยอยู่
แอนดรูว์ไม่ได้มีดีแค่ส่งนาโนโดรนไปติดตามชีวิตของลีโล่ สติทช์ และเมอร์เทิลเท่านั้น
นาโนแบทโดรนล่องหน ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็เป็นอุปกรณ์ไฮเทคอีกชิ้นที่ถูกนำมาใช้งานเพื่อดักฟังบทสนทนาของเป้าหมายโดยเฉพาะ ทำให้แอนดรูว์รับรู้ได้ในทันที... ว่าสองพี่น้องคู่นรกเผชิญหน้ากับสัตว์ทดลองของจัมบ้าด้วยตาตัวเองเป็นครั้งแรก
แอนดรูว์ฟังสองพี่น้องที่อยู่ในบ้านพักตากอากาศใกล้โฮมสเตย์พูดถึงเจ้าหมาโคอาล่าสีฟ้า นึกรู้ในทันท่วงทีว่ากำลังพูดถึงชีวิตทดลองหมายเลข 626 จึงหันไปเปิดไฟล์ชีวิตทดลองในแท็บเล็ต ซึ่งเป็นไฟล์ที่ได้รับมาจากแฮมสเตอร์วิลล์เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบการทำภารกิจเข้าถึงตัวลีโล่ เขาค้นหาข้อมูลสัตว์ทดลองที่เป็นผองเพื่อนเจ้า 626 จะพบว่า... เจ้าฟลุทที่สองพี่น้องคู่นรกตั้งแง่จงเกลียดจงชังคือสัตว์ทดลองหมายเลข 145
แอนดรูว์ยิ้มกริ่ม... นึกไม่ถึงว่าบนเกาะนี้จะมีคนที่เกลียดสัตว์ทดลองเข้ากระดูกดำ
เห็นที... เขาอาจได้คนมาใช้สอยให้การเข้าถึงตัวเมอร์เทิลกับลีโล่ได้ง่ายขึ้น
ลีโล่จะต้องเป็นของ "นายท่าน" ในอีกมิช้า!
------------------------------------------------------------------------
== ตัวละครเพิ่มที่จะมีบทบาทสำคัญในบทต่อไป ==
Carla
ลูกพี่ลูกน้องมหาภัยของคาลี่ เป็นสาวแรกรุ่นที่ถูกตามใจจนเสียคน เพราะเป็นลูกรักของคุณแม่บริทต้า... ผู้มีศักดิ์เป็นป้าสะใภ้ของคาลี่ เธอจึงทำตัวเหนือกว่าน้อง ๆ ทุกคนในบ้าน เห็นคาลี่กับฟลุทเป็นภาระที่คุณพ่อแอนตั้นจำต้องแบกรับ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขับไล่ฟลุทออกจากบ้าน ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยการมีตัวตนของเอเลี่ยน
Cody
น้องชายของคาร์ล่า ไม่กินเส้นกับพี่สาวเรื่องคาลี่ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องคนเดียวที่เป็นมิตรกับคาลี่และฟลุท มักพูดจาโผงผางไม่ถนอมน้ำใจคน เขาจึงตกเป็นประเด็นให้คาร์ล่ากับคุณแม่บริทต้ากล่าวโทษคาลี่กับฟลุทอย่างสม่ำเสมอ แต่เขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของคาลี่ที่สูญเสียพ่อแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับมา ภายหลังอาจเป็นคู่กัดกับเมอร์เทิลก็เป็นไปได้
Matthew & Monica
สองพี่น้องวัยรุ่นไฮโซคู่นรกจากซานฟรานซิสโก แมทธิวเป็นแฟนหนุ่มของคาร์ล่าจากไฮสคูล และโมนิก้าเป็นเพื่อนสนิทอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคาร์ล่า ทั้งคู่มีนิสัยคึกคะนอง เอาแต่ใจ มักทำขาวให้เป็นดำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน จึงหลอกใช้ความเป็นเพื่อนจากคาร์ล่าให้หาทางเปิดเผยการมีตัวตนของเหล่าเอเลี่ยน ซึ่งจะส่งผลให้ลีโล่และผองเพื่อนที่มีจิตผูกพันกับสัตว์ทดลองตกอยู่ในอันตรายครั้งใหญ่หลวง
Andrew Brysor
เอเลี่ยนผู้เป็นหนึ่งในสมุนของดร.พลาเจียส ผู้ได้รับสมญานาม... "นินจาเทคโนไร้เงา" เป็นมือสังหารอันตรายที่ทางสหพันธ์กาแลคติกต้องการตัว เชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์อุปกรณ์สายลับล่องหนไว้ใช้สอยในการทำภารกิจชั่วร้าย ปัจจุบันแฝงตัวอยู่บนดาวโลก... ใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์เดินดิน จนกระทั่งเขาได้รับการติดต่อจากดร.พลาเจียสที่เป็นหุ้นส่วนลับของแฮมสเตอร์วิลล์ให้ลักพาตัวลีโล่เข้าสู่โปรเจ็คท์ลับที่คิดค้นขึ้นเพื่อครอบครองกาแล็คซี่ให้จงได้
ความคิดเห็น