ลำดับตอนที่ #9
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Date today 8
Date today 8
ความมืดเริ่มปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ของพวกเขาทั้งสองคน ทุเรียนเริ่มกัดปากตัวเองแน่นจดเลือดไหลซิบๆ ส่วนทางทักซิโด้ที่ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรเลยเผยยิ้มเจ้าเหล์ออกมา ใบหน้าไร้หน้ากากนั่นเป็นใบหน้าที่รุ่นน้องคนนี้อยากจะต่อยมากที่สุด ชายร่างสูงทำเป็นไม่รู้เรื่องหันไปคลอเคลียไรผมของบุคคลที่หลับไปแล้วพร้อมโน้มตัวลงเข้าใกล้อีกาดำประกบจูบที่หน้าผากสวยเบาๆเรียกความโกรธเกรี้ยวของอีกฝ่ายเล่นๆ
"นี่พี่...จะเอาอย่างนี้จริงๆใช่มั้ย พี่เรียกอารมณ์ผมก่อน..นะ!!"
ผัวะ!!---
"ซีด..หมัดแรงดีนี่..แต่แค่นี้... มันมันระคายผิวฉันหรอกเว้ย!!"
ผลัก!---ผัวะ!!
ร่างที่ตัวเล็กกว่าของทุเรียนถูกแรงผลักกระแทกของทักซิโด้ ที่ควบคู่มาพร้อมกับหมัดย้อนสอนกลับมา หน้ากากหนามถูกต่อยจนหลุดออกจากใบหน้าคมคาย เผยให้เห็นคางเหลี่ยมเงางามของทุเรียนในทันที ทักซิโด้ชะงักเล็กน้อยแต่ถึงกระไรรอยยิ้มเลศนัยแสนโรคจิตยังคงใบหน้านั่นไว้ไม่จางหาย
"โอ๊ย!!"
ตุบ!
"อ่อนหัด..อ่อนหัดมาก เสียดายใบหน้าสวยๆของแกเลยจริงๆ"
"เห๊อะ...งั้นเหรอ ผมจะนับนั่นเป็นคำชมเล็กๆน้อยๆก็แล้วกัน!!"
หมัดเล็กพุ่งตรงที่เบ้าหน้าของทักซิโด้ จนอีกฝ่ายหงายหลังล้มลงไปที่พื้นแข็ง ชายร่างสูงจับแผ่นหลังของตัวเองเบาๆจนรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่สันหลังของตนเอง สายตาจ้องเขม็งอาฆาตเอาเรื่องจดประสบมาที่ดวงคู่น้ำตาลแดงของทุเรียน ทำเอารุ่นน้องนั่นสั่นชะงักไปเล็กน้อย แต่ยังคงตั้งท่ากำหมัดอยู่ไม่หาย
"หึๆ...เล่าไปต่อยไปละกัน..."
ฟุ่บ!!---ผัวะ!!!
"เฮือก!?"
"มันเริ่มจาก..แกนั้นแหละ! ไอ้ลูกขนุน... แก..มาตีสนิทกับพี่อีกาดำ...ของฉัน"
ผัวะ--!!
หมัดถูกส่งกลับเข้าที่คางสวยของทุเรียนอีกรอบ จนกระอั่กเลือดออกมา หนุ่มตัวเล็กเช็ดเลือดที่ไหลอย่างยากลำบาก เสียงความเจ็บหลุดออกมาซักพัก ก่อนทุเรียนจะตั้งหลักลุกขึ้นมาประเชินหน้ากับทักซิโด้อีกรอบ
"อ..อึก หมายความว่า..อะไร"
กรุบ
"เหอะ...จะเริ่มตั้งแต่ตอนแรกเลยละกัน..."
ผลัก--!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
งานวันรับน้องเมื่อปีก่อน...
ขณะนั้นทักซิโด้พึ่งขึ้นมาในระดับชั้น ม.4 โดนการรับน้องเป็นไปอย่างวุ่นวายแถมยังต่อยกันอีกต่างหาก เรื่องมันก็ไม่สมควรจะทำหรอกนะ...เพียงแค่ฝ่ายทักซิโด้แค่เดินชนไหล่ในระยะทางที่ใกล้เกิน ทำให้อีกฝ่ายล้มไปแล้วหาเรื่อง หนาหูถึงครูใหญ่ในการกระทำแบบนี้เลยถูกจับส่งเข้าห้องฝ่ายปกครอง...ซึ่งคณะนั้นเอง อีกาดำก็ได้ประจำการอยู่ในหน้าที่นั้น เพียงอยู่แค่ระดับชั้น ม.5 เท่านั้น เนื่องจากผลงานดีเด่นมากมายจึงถูกดึงมาเข้าสภาตั้งแต่ ม.5
กลับเข้าเรื่องขณะที่ทักซิโด้ถูกจับเข้าฝ่ายปกครอง แรงกดดันรอบตัวเรียกเสียงกลืนน้ำลายของเหล่านักเลงหน้ากากได้ดีเยี่ยม ชายหนุ่มนั่งหน้าหงุดไม่มองใครแม้แต่คู่กรณี อีกาดำที่นั่งอยู่ตรงหน้าถอนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหนายก่อนจะทุบฝ่ามือเล็กลงที่โต๊ะ
ตุบ!!
"พวกคุณสองคนรู้กันบ้างรึเปล่า... ว่าสิ่งที่คุณทำมันไร้สมองแค่ไหน"
"ไอ้หน้าหม้อนั่นชนผมก่---!?"
"นี่คุณกลองชุด!! คุณรู้จักคำว่า มารยาท มั้ยครับ!? พวกคุณอยู่ระดับชั้นเดียวกัน... แถมยังอยู่ห้องเดียวกันอีก!? หาเรื่องทะเลาะกันตั้งแต่วันแรกเลยนะ"
ชายหนุ่มร่างบางว่าพลางตะเบ็งเสียงให้เข้มขึ้น กดดันคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม กลองชุดรีบนั่งหัวหดลงที่เก้าอี้ตัวเดิม หันไปเหล่ทักซิโด้ก่อนเล็กน้อยที่ตั้งแต่เข้ามายังไม่พูดอะไรเลย ก่อนจะถอนหายใจตะฟัดตะเฟียดอย่างอารมณ์เสีย
"รู้มั้ย หากพวกคุณสองคนทำเรื่องแบบนี้จนเข้าห้องฝ่ายปกครองถึงสามครั้งเมื่อไหร่... ผมและผู้อำนวยการจะเรียกผู้ปกครองคุณ และยื่นซองขาวถอดหน้ากากของคุณ ออกไปจากโรงเรียนนี่ซะ..."
ลมหายใจเริ่มออกมาไม่สะดวก มือไม้สั่นสะท้านจนแทบควบคุมไม่อยู่ หัวใจของทักซิโด้หล่นไปที่พื้นแล้วเรียบร้อยเมื่อได้ยินคำว่า ถอดหน้ากาก... เขาชอบโรงเรียนนี่อย่างหนึ่งคือการใส่หน้ากากเข้าหากัน ทุกคนจะได้เปิดเผยตัวเองได้อย่างสะดวกไม่ต้องห่วงภาพพจน์ตัวเอง แต่..ถ้าเขาได้ถอดหน้ากากล่ะ? ภาพพจน์ที่เขาสร้างจะไม่หายไปหมดเหรอ รู้อยู่เมื่อว่าจบการศึกษาแล้วยังไงก็ต้องถอดหน้ากาก แต่ถ้าให้ถอดกลางคันแบบนี้...มันก็รับไม่ได้หรอกนะ
"แต่วันนี้ผมจะให้โอกาสคุณ..."
"...!?..."
"ผมจะไม่เอาเรื่องคุณในวันนี้... และจะให้คุณปรับเปลี่ยนตัวเองภายใน 1 อาทิตย์นี่ ถ้ายังไม่ได้ข่าวว่าพวกคุณปรับเปลี่ยนตัวเองล่ะก็..."
"ค..ครับ!!"
ทักซิโด้เริ่มปลิปากตะโกนออกมาเสียงดัง ทำเอากลองชุดที่นั่งข้างๆถึงกับสะดุ้งในท่าทีแปลกๆของอีกฝ่าย อีกาดำจ้องรุ่นน้องที่ยืนขึ้นประเชินกับเขาด้วยการต้องตาชงน กดดันอีกฝ่ายเข้าไปอีก
"ผ..ผม..จะพยายามไม่ให้เข้าห้องฝ่ายปกครองเพื่อคุณครับ!!"
"งั้นก็ดี..."
ฟุ่บ
"ผมหน้ากากอีกาดำ... จะพยายามคอยดูคุณอยู่ห่างๆละกัน คุณทักซิโด้"
ดาเมจเอียงคอโชว์ผิวเนียนขาวทำเอาทักซิโด้ใจสั่นไม่น้อย สะตั๊นไปหลายวินาทีกับท่าทางน่ารักของอีกฝ่าย พยายามจะยื่นมือไปจับแต่ก็ยังเกร็งสั่นไม่หาย อีกาดำงงนิดหน่อยเมื่ออีกฝ่ายไม่ยื่นมือมาซักที จึงไปดึงมือทักซิโด้มาจับแทน ใบหน้าแดงระเรื่อเกิดขึ้นมาไม่ขาดสาย ตกใจก็ตกใจ ใจสั่นก็ใจสั่น... น..น่ารัก
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"และที่ฉันมาตีสนิทกับคนอย่างแก... ก็เพื่อจะได้ใกล้ชิดพี่อีกายิ่งขึ้นไงล่ะ... หึๆๆ"
"อึก..บ้าไปแล้วรึไง!!"
ผัวะ!!---
เสียงหอบดังประสานไม่หยุดหย่อน ทุเรียนประเดิมด้วยการต่อยหมัดซ้ายเข้าไปเต็มๆ จนอีกฝ่ายไปชนผนังแกร่ง ทักซิโด้ที่ยังคงหัวเราะอย่างไร้สติอยู่นั้นเหล่มองไปที่หน้ากากอีกาดำเล็กน้อย ก่อนจะยันตัวเองมาดึงคอเสื้ออีกฝ่ายจนตัวลอย
"นายไม่เข้าใจฉันหรอก... การที่คนคนหนึ่งรักใครอีกคน แล้วอีกฝ่ายไม่เคยหันมามองน่ะ... ขนาดรู้จักกันมาสองปี!!...พี่อีกา..ยังไม่เคยเห็นหัวฉันซักครั้งน่ะ รู้มั้ย!!!"
ตุบ!!
"อั่ก!!-- ค..คนโง่.."
"อะไร..สั่งเสียรึไง"
ร่างกายที่ชาไปทุกส่วนจากการกระแทกเมื่อครู่ เริ่มทำให้ทุเรียนเริ่มหมดเเรงแล้ว แต่ยังคงสามารถดึงตัวเองขึ้นมาได้ ทักซิโด้มองคนตรงหน้าที่หอบไม่ขาดสายอย่างอมยิ้มเล็กน้อย พลางลูบหัวทุยๆตรงหน้าเล่น
ผลั่ก--
"คนโง่เง่าอย่างแก..จะไปรู้อะไรล่ะ การที่เราชอบใครคนนึงแล้วคอยตั้งตารอให้เขามารักน่ะ โง่สิ้นดี!!"
"หา!? ว่าไงนะ!"
"รู้จักหมามองเครื่องบินมั้ย... หมาตัวนั้นแหละคือแก... จะไปคอยให้พี่เขามารักทำไมล่ะ ขามีปากก็มีทำไมไม่เดินไปบอกรักพี่แกล่ะ!!"
ทักซิโด้ชะงักเล็กน้อยกับคำพูดของอีกฝ่าย เสียงหอบยังคงดังประสานอยู่แบบเดิม ร่างกายของแต่ละคนเริ่มสาหัสจากการต่อยเมื่อครู่ ต้นเหตุของเรื่องนี้ก็หลับไปแล้ว... ทุเรียนจ้องมาที่ทักซิโด้ไม่ขาดสายเพื่อจะรอดูปฏิกริยาพร้อมคำพูด แต่ไม่มีอะไรซักอย่างออกมา ชายร่างสูงยืนนิ่งเฉยตัวตรงอยู่แบบนั้น จนทุเรียนต้องฝ่ายกล่าวต่อ
"ฉันรู้... พี่คงอิฉาฉันตรงที่... ฉันน่ะ พึ่งรู้จักกับพี่อีกาดำแท้ๆแต่ทำไมกลับได้อยู่ห้องพักเดียวกัน...ชมรมเดียวกัน...แถม..ยังไปกินข้าวด้วยกันอีก"
"..."
"...อะแห่ม ผมขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าไอ้เรื่องบังเอิญที่ผมเนี่ย...ดันมาได้สนิทกับพี่อีกาดำ มันไม่ได้ทำให้ผม... รู้สึกคิดอะไรเกินเลยกับพี่เขาเลยซักนิด"
ทุเรียนเริ่มขยับกายตัวเองให้เดินกะแผลกๆ ตรงมายังชายหนุ่มร่างสูง ก่อนจะจับมือข้างที่เปื้อนเลือดของอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วเอามาแนบที่อกของตัวเอง ทักซิโด้มองอีกฝ่ายอย่างอึ้งๆก่อนจะผละตัวถอยหลังมาสองสามก้าว
"อะไร..แกต้องการจะบอกอะไร"
"..."
ฟุ่บ...
ทุเรียนเดินมาหาอีกรอบแล้วทำในท่าทางแบบเดิม ทักซิโด้ที่เดินถอยหลังไปต่อไม่ได้แล้วก็ต้องจำใจให้อีกฝ่ายทำแบบนั้นไป ถึงยังไงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ารุ่นน้องคนนี้ต้องการจะสื่ออะไร แต่เมื่ออีกฝ่าย..ปลิปากออกอธิบายเท่านั้นแหละ ขาทั้งสองข้างของเขาก็อ่อนแรงแล้ว
"...พี่ได้ยินเสียงหัวใจของผมมั้ย?... รู้สึกมั้ยว่ามันธรรมดา"
"จะไปรู้สึกได้ยังไงกัน เสียงการเต้นของหัวใจคนแต่ละคนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ"
"เหมือนกันได้ไง... พี่ลองจับของตัวเองแล้วมองพี่อีกาดำสิ... รู้สึกได้มั้ย...ว่ามันต่าง?"
ถึงยังไม่เข้าใจแน่ชัดแจ่มแจ้งดี... แต่ตัวทักซิโด้เองก็รู้ได้ถึงความแตกต่างที่อีกฝ่ายบอก แถบหน้าอกกว้างของทุเรียนที่เขาสัมผัสเมื่อครู่รู้สึกได้เลยว่าอัตตราการเต้นของหัวใจนั้นธรรมดา..ต่างจากตัวของเขาเอง ซึ่งเมื่อจับแล้วมองไปยังคนที่รัก มันเต้นดัง..ดังมากเหมือนมันจะหลุดออกมาจากอก ทุเรียนปลิยิ้มบางๆก่อนจะอธิบายต่อให้ลึกซึ้ง
"ดังนั้น... ถึงแม้ว่าพี่จะชอบพี่อีกาดำมากแค่ไหน แล้วพี่เขาไม่เคยหันมามองพี่เลยซักนิด พี่ก็รู้สึกเสียใจแล้วใช่มั้ย?"
"..."
"แต่ถ้าพี่มองเขาคนนั้นตลอดเวลา... พี่ก็จะรู้สึกมีความสุขขึ้นมาแปลกๆ ใช่มั้ยล่ะ?..."
"..."
"สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ... พยายามมองเขาต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจพี่เลยก็ตาม คอยมองอยู่ห่างๆรอซักวันที่ทางมันเปิดแล้วพี่ก้าวเดินออกไป เดินออกไปบอกรักพี่เขาจริงๆ ไม่ใช่อย่างที่พี่ทำในตอนนี้...เข้าใจผมนะ?"
เมื่อพูดจบมือหนาเล็กของทุเรียนก็ตบลงมาที่บ่าข้างซ้ายของทักซิโด้เพื่อให้กำลังใจ เขาอยากจะร้องไห้ออกมาซะเหลือเกิน ทั้งๆที่ทำในเรื่องที่ไม่ควรถึงสองครั้งแล้วอีกฝ่ายยังทำดีกับเขาถึงขนาดนี้ ขนาดเขาหลอกเพื่อที่จะใกล้ชิดอีกฝ่าย เพื่อเอาผลประโยชน์ความรักเข้าตัวเองขนาดนั้น รุ่นน้องคนนี้ก็ยังมองเหมือนเขาเป็นพี่และให้คำเเนะนำที่ดีขนาดนี้... ทักซิโด้แทบจะอดกลั้นน้ำตาชายชาตรีไว้ไม่ไหว สวมกอดทุเรียนเข้าไปหมับนึง คนตัวเล็กกว่ามองอย่างอึ้งๆเล็กน้อยแต่ก็กอดกลับไปให้กำลังใจ
"นาย..มันคนดีเกินไปจริงๆ เจ้าบ้าเอ๊ย..."
"พี่นี่ก็...เลวเกินไปจริงๆ..."
ซวบ...ฟุ่บ--
"...นายก็โกหกตัวเองไม่ได้ตลอดไปหรอกนะ! ฉันรู้หรอกน่าว่าที่จริงแล้วนายก็คิดกับพี่อีกาดำเป็นอย่างอื่นเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ต้องมาโกหกเลย!!"
ทักซิโด้ถอยห่างออกจากการกอดเมื่อซักครู่ เเล้วชี้ไม้ชี้มือเขม็งมาที่ตัวทุเรียน จนคนโดนชี้ชะงักไปเล็กน้อยทั้งคำพูดคำจาแล้วก็ท่าทางอีกฝ่าย รุ่นน้องหนามอดยิ้มตอบกลับกวนๆไปไม่ได้ พร้อมกับยกแขนทั้งสองมาประสานกันไว้ที่อก
"ที่จะบอก คือ?"
ฟุ่บ!
"ฉันกับนายจะต้องมาแข่งจีบพี่อีกาดำกัน ถึงตอนนั้นใครชนะต้อง..คอยดูแลอีกฝ่ายให้ดีที่สุด เข้าใจมั้ย!!"
"?..ได้ไง ฮะๆ จะพูดยังไงดีล่ะ แค่ทำความเข้าใจกันมันยังไม่ได้เลย นี่ให้จีบเนี่ยนะ?"
ทักซิโด้ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะโผมาจับไหล่ของอีกฝ่ายทั้งสองข้าง พร้อมเขย่ามันแรงๆจนชายหนุ่มแทบจะเอนตัวล้มลงกับพื้น ทุเรียนเขยิบห่างหน่อยๆแล้วกุมขมับตัวเองจ้องเอาเรื่องอีกฝ่าย ทักซิโด้ตะโกนประชันแข่งกันอย่างนี้...ที่จริงเขาก็อยากจะลองของอยู่เหมือนกันนะ แต่จีบเหรอ?แค่ทำความเข้าใจกันแบบลึกซึ้ง คุยกันดีๆซักครั้งยังไม่เคยเลยนะ?
"ห้ามเบี่ยวฉันเด็ดขาด ตอนนี้เกมเริ่มเเล้ว!! ฉันออมมือให้นายแค่วันนี้เท่านั้น..พาพี่อีกาดำกลับไปห้องให้ด้วย แล้วอีกอย่าง...นายให้คำเเนะนำดีๆกับฉันถึงขนาดนี้ แล้วทำไมนายไม่ลองทำเองซะบ้างล่ะ? ถ้านายไม่กล้าจริงๆ..."
"อะไร?"
"ก็แข่งเกมไปพร้อมฉันนี่ไงล่ะ ใครชนะก็ดูแลอีกฝ่ายให้ดีที่สุด นี่แหละกฏ... ถ้านายคิดว่ามันยากนักล่ะก็...ทำความเข้าใจกันก่อนนั่นแหละดีที่สุด ฉันนี่สิจะจีบยากมากกว่าแก ทำมากถึงขนาดนี้แล้วพี่แกจะยอมคุยด้วยรึเปล่ายังไม่รู้เลย"
ทักซิโด้พูดออกมาติดตลกแต่ทุเรียนก็รู้อยู่หรอกว่าที่จริงแล้วก็แอบเสียใจอยู่ลึกๆ ร่างเล็กสูดหายใจเข้าช้าๆก่อนจะเผยยิ้มติดขำในลำคอออกมา จะลองหน่อยก็ได้ พลางยื่นมือไม้ข้างขวาออกมา
"ก็ได้ ผม..ยอมแข่งกับพี่ก็ได้ ใครชนะตามนั้นใช่มั้ย?"
"เออเห๊อะ"
"งั้นตอนนี้ก็ทีผมสินะ...มีสิทธิเท่ากัน เจ๊าๆเนอะ ไปได้ๆ"
"ได้ทีนี่ไล่นะ..."
"เออน่า เราสองคนก็อุตสาห์เข้าใจกันได้แล้ว... ก็เหลือแต่พี่ที่ต้องพยายามปรับความเข้าใจกับเฮียแกล่ะนะ พยายามเข้าล่ะ"
ทักซิโด้ยิ้มแหยะๆชักมือเขย่าตอบกลับแบบเฉยๆ ก่อนจะหันไปมองที่อีกาดำอีกรอบ น่ารักไม่เปลี่ยน...มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ คิดในใจแล้วก็อมยิ้มหันกลับไปหาทุเรียนอีกรอบ
"นายด้วย ไอ้ลูกขนุน"
"จ้ะ พี่เสื้อโค้ต"
.
.
"อ..อือ..."
น่ารักฉิบผายเลยว่ะ!!------
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ฟึ่บ
"แล้วเอาไงกับเรื่องละครเหรอครับ คุณผัดไท นี่ความคิดคุณเลยนี่หน่า"
"อ..เอ๋!?..ฉันหรอกเหรอ แมวตาเดียวต่างหากล่ะ"
"บ้าบอ! ความคิดเธอนั่นแหละ ถ้าเกิดไม่มีฉันช่วยเธอเอาความเห็นนี่เข้างานล่ะก็ อีกาก็ไม่ได้สนใจหรอก"
ชายหนุ่มวางเทปใสลงอย่างอารมณ์เสียก่อนเดินขมวดคิ้วไปทางอื่น ระฆังยิ้มแหยะๆน้อยๆก่อนจะถอนหายใจออกมา ถ้าพูดถึงเรื่องละครที่หน้ากากผัดไทส่งความคิดเข้ามาในกิจกรรมนั้น จะว่าดีก็ดีอยู่หรอก แต่จะทันซ้อมมั้ยเนี่ยสิ?ไหนจะงบประมาณอีก? อีกาดำไปสนใจความคิดแบบนี้ได้ยังไงกันนะ... หนุ่มร่างสูงคิดต่อไม่ไหวหันกลับไปติดดอกไม้ที่ซุ้มต่อไม่ลดละ
"เออนี่ เห็นอีกาบ้างมั้ยอ่ะ กะจะให้เลือกโทนสีของซุ้มประตูทางเข้าซะหน่อย"
"อีกาดำเหรอครับ..."
ควับ..ควับ
"น่าจะไปเข้าห้องน้ำมั้งครับ ไม่เห็นเลยช่วงนี่"
ผัดไทที่ยังคงทำหน้าระรื่นอยู่ถึงกับหดหัวไปเลย ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายยังคงโกรธเรื่องที่ไม่มีส่วนร่วมอยู่หรอกนะ คิดแล้วตัวเองก็รู้สึกผิดหน้าหงุดเงียบไปซักพัก ระฆังเห็นผิดปกติจึงเรียกอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะลูบหัวเชิงให้กำลังใจ
"อย่าคิดมากครับคุณผัดไทย อีกาเค้าคงไม่ได้โกรธอะไรแล้วล่ะ"
"นี่นายอ่านใจฉันได้หรืออะไรกันเนี่ย ชิ...น.. นี่เลิกลูบฉันซักทีสิ!"
"พี่...กระดิ่ง"
จิงโจ้ที่เดินมาพร้อมกับน้ำส้มในมือถึงกับอ้าปากค้าง กับท่าทีของคนตรงหน้ากับคนอื่น หัวใจเริ่มสั่นระริกอย่างไร้สาเหตุเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา ชายหนุ่มร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยที่เห็นตัวรุ่นน้องคนนี้ แสร้งทำเป็นเอามือปัดฝุ่นบนหัวหน้ากากผัดไทไปมา
"เอ่อ..อ่า...น้องจิงโจ้ค--"
ฟึ่บ
"นี่ครับน้ำส้ม...ซื้อมาฝาก... เอาไปกินกับพี่ผัดไทก็ได้"
"น..นี่น้องโจ้งอนพี่เหรอครับ"
"...เปล่านี่..."
ร่างเล็กหันหลังกลับทำท่าจะเดินหนีแต่โดนฉุดไว้ก่อน ระฆังดึงอีกฝ่ายให้มาชิดกับแผ่นอกพร้อมกอดคนตัวเล็กแน่นๆ ผัดไทที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับอึ้งในสิ่งที่เทพบุตรพ่อพระคนนี้ทำ แอบหัวเราะคิกคักเบาๆในลำคอก่อนจะปลีกตัวเองไปซุ่มดูห่างๆ จิงโจ้หน้าขึ้นสีเป็นมะเขือเทศใสพร้อมทุบกำหมัดน้อยๆไปที่แขนแกร่งแรงๆ
"พี่! ป..ปล่อย! ทำอะไรเนี่ย"
"เอ๋...หรือว่าที่จริงแล้วไม่ได้งอน.. แต่แค่หึงรึเปล่าครับ~"
"!?..บ้า! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ พี่กระดิ่ง!กระท้อน!กะละมัง! กระอะไรก็ชั่งปล่อยผมเดี๋ยวนี้!!!"
ตุบตับๆตุบ!
กริ๊ง~!
จิงโจ้พ่นคำว่ากล่าวไม่พ้นคำที่ขึ้นต้นว่า กระ ชายร่างสูงหัวเราะคิกคักหน่อยๆก่อนจะชำเลืองได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคนตรงหน้า มือหนาล้วงไปในกระเป๋าเสื้อสีดำของจิงโจ้หยิบเอาโทรศัพท์เครื่องเทาเงางามออกมา ชายหนุ่มคนตัวเล็กกว่าเบิกตากว้างก่อนจะหันหลังมาพยายามจะหยิบของของตนคืน
"พี่!! เอามาเดี๋ยวนี้!! ถ้าเกิดเป็นงานสำคัญขึ้นมาพี่ต้องชดใช้นะ!"
ฟุ่บ..
"ไม่ให้~ ยอมรับก่อนสิครับ ว่าจริงๆแล้วน้องโจ้หึง"
"ไม่ๆๆๆ เอาคืนมานะ!"
ขอโทษที่เอาแต่ใจไม่ใช่เวลามาง้อๆกัน~
ขอโทษที่เอาแต่ใจ...
ไม่อยากทะเลาะเพื่อสานสัมพันธ์~
เสียงเพลงจากโทรศัพท์ยังคงดังไม่ขาดสาย ระฆังพึงพอใจกับท่าทีชะเง้อชะงอของอีกฝ่าย เลยปล่อยให้โทรศัพท์สีเทานั่นร่วงไปสู่มือจิงโจ้โดยไม่ใยดี ชายหนุ่มรับมันด้วยความตกใจก่อนจะพ่นลมหายใจเป็นเชิงค่อยยังชั่วแล้วกดรับสายไปทันที
ตี๊ด...
"ฮัลโหล...ทุเรียนมีไรเปล่า?"
"นี่ๆมาหาฉันทีสิ เอ่อ..ไอ่แถวซอยเปลียวๆอ่ะ มาคนเดียวด้วยนะ มีเรื่องจะ...คุยด้วยหน่อย"
"มาคนเดียวนะ จำไว้!"
"หา? เสียงใครอ่ะ เฮียโด้เหรอ?"
ปลายสายบังเกิดเป็นเสียงตีดังเพียะ! ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องซีด เบาๆของบุคคลปริศนา ทั้งจิงโจ้และระฆังมองหน้ากันเลิกคิ้วซักพัก ชายหนุ่มยังคงเงียบฟังอีกฝ่ายตีกันต่อไป จนกระทั่งปลายสายเรียกต่อ
"เออ...ใช่ ไอ้ทักซิโด้เองแหละ"
"?...ไหงเดี๋ยวนี้เรียกพี่แกขึ้นต้นด้วย ไอ้ ซะล่ะ"
"ถามมากจังไอ่เพื่อนโจ้..."
"ไม่ว่าน้องเค้านะคร้าบ~ แต่ว่าผมไปด้วยจะเป็นอะไรมั้ยเอ่ย?"
"พ..พี่ระฆัง! เอาหน้าออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
ระฆังเอาหน้าอุ่นๆเข้ามาเบียดเอาสายเข้าโทรศัพท์จนอีกฝ่ายแทบจะล้ม ทุเรียนที่ปลายสายกุมขบับเบาๆก่อนจะนวดคลึงแก้เครียด พี่ระฆังเอ๊ยยยยย อย่ามากวนจะได้มั้ยเนี่ย!!?? พลางถอนหายใจเข้าสายก่อนทักซิโด้ข้างกายจะดึงเครื่องสนทนามาจ่อปาก
"ไม่ได้!! พี่ระฆังห้ามมาเด็ดข---!!!"
ฟุ่บ!!
"มาได้ฮะ! พี่มาได้ฮะ!!"
"ให้ไปได้ก็ดีครับ ฮะๆ"
"นี่พี่ มันอาจจะประชดก็ได้นะ ไม่ไปจะดีกว่ามั้ง"
แขนแกร่งโอบรอบคอจิงโจ้พร้อมกดมันแรงๆร่างเล็กเอียงไปเล็กน้อยแล้วบู้ปากออกมา ขาเล็กหมุนซวบแล้วเอามือเท้าเอวตัวเองเกร็งๆ ระฆังยกยิ้มเลศนัยแล้วเดินเข้าไปหาคนที่เขยิบถอยไปเรื่อยๆ
"แหม...คนเป็น---"
"อ..อย่าพูดเข้าสาย"
"เป็นไรกัน?"
"เปล่า เดี๋ยวไปหาละกัน..."
ตี๊ด..
สายตัดไปแล้ว...จิงโจ้หันมาจ้องรุ่นพี่ด้านหลังอีกรอบ มือน้อยเอาโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าตามเดิมแล้วเดินตรงหลีกไปทางอื่น ระฆังมองอีกฝ่ายงงๆก่อนจะเดินตามไป ถึงจะไม่รู้หรอกว่าไปไหนแต่ถ้ามีคนตรงหน้าอยู่ด้วย เขาก็ไม่รีรอที่จะตามไปหรอก
"...ซอยที่ว่านั่นมันอยู่ไหนเนี่ย..."
"ซอยเหรอ? ใช่ซอยที่ว่านั่นหรือเปล่าเอ่ย? จำได้ว่าตอนพี่อยู่ ม.2 ก็มาหลงอยู่แถวนี้เนี่ยแหละ"
"เห ม.2 พี่เซ่อซ่าขนาดนั้นเลยหรอกเหรอ"
"แหม นี่ว่าเหรอครับ พี่จะถือว่านั่นเป็นคำชมจากน้องโจ้ละกัน"
จิงโจ้หน้าขึ้นสีเล็กน้อยแต่เก็บอาการนั้นไว้ ก่อนจะจ้ำเท้าเดินต่อไปแบบไม่แคร์คนเดินตามอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มร่างสูงหัวเราะเเห้งๆมาก่อนจะเดินตามเจ้าเด็กรุ่นน้องที่ตนรัก เดินไปไม่นาน แสงทางเดินที่เคยสว่างเริ่มมืดลง ตามมาด้วยเสียงเหมือนคนทะเลาะกันจากตรงหน้า จิงโจ้จึงมั่นใจทันทีว่านั่นต้องเป็นเพื่อนของเขาแล้วรีบสาวเท้าให้ไวกว่าเดิม
กึก
"เชื่อสิ ว่าเฮียส้นตึกตื่นมาเรื่องใหญ่แน่ๆ"
"หืม...มันช่วยไม่ได้นี่หน่า! ตอนนั้นอาการมันยิ่งขึ้นอยู่ ยับยั้งก็ยาก"
"ทุเรียน?"
"น้องทักซิโด้?"
"พวกนายสองคนกำลังทำอะไรอยู่น่ะ!?"
............................................................................
คุยกันก่อน
ตัดบทอีกแล้วง่ะ อย่าว่ากันน้าาาาา ช่วงนี้เมากาวหนักมาก บริจาคเลือดกรุ๊ปวายให้เราที~~~ลงตอนสองให้หายงงเด้~กันไปเลยของวัน
ก็..จบกันไปแล้วล่ะนะ กับตอนที่8 บอกตรงๆเลยว่าไม่เคยเขียนนิยายเรื่องไหนยาวมาถึงตอนนี้เลยจริงๆ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ ทุกการติดตาม ที่ให้กำลังใจกันมาตลอดค่ะ^^ รักรีดเดอร์ทุกๆคนเลยค่าาา
พรุ่งนี้จะมาลงตอนพิเศษชดเชยวันหยุดและชดเชยที่หายไปนานนะคะ
ขอขอบคุณเพลง โทษที่เอาแต่ใจ ของเฮียผลิตนั้นเอง~!! โดนใจนุชสุดๆค่ะ เงาะๆๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
10ความคิดเห็น