ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Episode 8
ตอนนี้ก็เป็นเวลาตกเย็นแล้ว
สีของท้องฟ้าเริ่มเป็นสีดำพร้อมกับดวงดาวที่พร้อมจะส่องประกาย ฮันบิน จุนฮเวและจินฮวานเดินออกมาจากร้านขนมเค้กที่ฮันบินชอบมากินที่นี้
ทั้งสามคนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่อกันและกันแต่มันไม่พอหรอกสำหรับที่ห่างกันไปนานนับหลายปี
แล้ววันนี้สิ่งที่ฮันบินเห็นอยู่อย่างหนึ่งก็คือจุนฮเวยิ้มบ่อยผิดปกติ
จุนฮเวจะยิ้มเสมอเมื่อตอบคำถามของจินฮวานหรือไม่ก็เวลาพูดกับจินฮวาน
ปกติจุนฮเวเป็นคนยิ้มยาก ชอบทำหน้าเหมือนหาเรื่องอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าเป็นกับจินฮวาน จุนฮเวจะยิ้มออกมาได้อย่างง่ายด้ายเลยล่ะ
“เฮ้ย ผมลืมกระเป๋าตังไว้ที่ร้านแน่เลย” ฮันบินพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาถึงรถแล้วพร้อมกับคล้ำหากระเป๋าตามตัว
“อ้าว งั้นรีบกลับไปดูกันเถอะเผื่อเจ้าของร้านเขาจะเก็บไว้ให้” จินฮวานบอกก่อนจะเดินนำหน้าไป
“ไม่ๆ พี่จินหรอผมอยู่กับไอ้จุนที่นี้ล่ะ
เดี๋ยวผมไปเอง” พูดจบก็ไม่รอให้จินฮวานห้าม
ฮันบินออกตัววิ่งไปที่ร้านเค้กทันที
“ปล่อยมันไปเถอะพี่ มันโตแล้วนะ ดูแลตัวเองได้” จุนฮเวบอกหลังจากเห็นจินฮวานที่กำลังจะตามฮันบินไป
“ดูแลตัวเองได้ก็จริง
แต่จะปกป้องตัวเองจากสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ได้หรอกนะ” จินฮวานพูดก่อนจะถอนหายใจออกมา
“พี่หมายความว่ายังไง จะเกิดอะไรขึ้นกับมันหรอ?” จุนฮเวถามก่อนจะเดินมาใกล้ๆ
จินฮวานส่ายหัวแทนคำตอบ
“พี่บอกนายไม่ได้
บอกได้แค่ว่าเราต้องช่วยกันดูแลฮันบินแล้วล่ะ” จินฮวานบอกก่อนจะมองหน้าจุนฮเวที่มองมาทางเขาพอดี
“งั้นพี่ก็ดูแลฮันบินไป เดี๋ยวผมดูแลพี่เอง” จุนฮเวพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เฉยๆเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“ตลกแล้วจุนฮเว อย่ามาแกล้งพี่เล่นดีกว่า” จินฮวานบอกยิ้มๆเพราะจุนฮเวชอบจะแกล้งเขาแบบนี้เสมอ
แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จุนฮเวจะไม่ได้แกล้งนะ เขาพูดจริงๆ
ทางด้านของฮันบินคนตัวเล็กรีบวิ่งมาที่ร้านเค้กที่อยู่ก่อนหน้านั้นก่อนจะเปิดประตูเข้าไปถามพนักงานที่หน้าเคาเตอร์ก็พบว่ากระเป๋าของตัวเองมีพนักงานเก็บไว้ให้
ฮันบินรีบโค้งตัวขอบคุณพนักงานยกใหญ่ก่อนจะรับกระเป๋าแล้วออกจากร้านมา คนตัวเล็กเดินเข้าซอยๆหนึ่งที่วิ่งมาในตอนแรก
เวลามืดแล้วแบบนี้มันทำให้ซอยนี้ดูเปลี่ยวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ตอนแรกที่วิ่งเข้ามาก็ห่วงแต่กระเป๋าตังจนไม่มีความกลัวเลยซักนิด
แต่พอจะเดินกลับเข้าไปฮันบินก็ช่างใจว่าจะเดินอ้อมไปดีมั้ย แต่คิดแล้วทั้งสองคนที่รอเขาอยู่ต้องรอนานแน่ๆ
ฮันบินกเลยสลัดความกลัวทิ้งไปก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในซอย
เขาเดินไปเรื่อยๆในซอยเล็กก่อนจะมีผู้ชายคนหนึ่งโดดลงมาขว้างทางเดินไว้แล้วหันหน้ามาหาเขา
ฮันบินมองหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างสงสัยว่ามาขว้างเขาทำไม คงไม่ใช่โจรมาดักจี้กลางทางหรอกนะ
“ขอโทษนะครับ มีอะไรรึป่าว?” ฮันบินถามก่อนจะมองผู้ชายคนนั้น
ถ้าจำไม่ผิดเหมือนเขาจะเคยเห็นว่าผู้ชายคนนี้อยู่ในฝูงของจุนฮเว
“ฉันต้องถามแกมากกว่า ว่าแกไปทำอะไรไว้”
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกทำให้ฮันบินรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีแน่ๆ
“ผมไปทำอะไรให้คุณ?” ฮันบินถามถอนจะเริ่มถอยไปข้างหลังช้าๆ
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก วันนี้ฉันมาเพื่อจะฆ่าแก!” ชายคนนั้นเดินไล่มาหาฮันบินก่อนที่เขาตัดสินใจจะวิ่งหนี
แต่ยังไม่ได้วิ่งไปไหนก็มีผู้ชายอีกคนมาดักฮันบินไว้ข้างหลัง อีกสองคนดักทางด้านซ้ายที่เป็นซอยอีกทางหนึ่ง
“แกฆ่าเพื่อน ทำไม?!” ชายคนแรกที่ฮันบินเจอกับเขาเหวี่ยงเข้ากับกำแพงในซอยนั้น
“อั่ก!” ด้วยความจุกที่โดนอัดเข้ากับกำแพงทำให้ฮันบินทรุดตัวลงนั่งก่อนจะโดนผู้ชายคนนั้นบีบคอแล้วดึงตัวขึ้นมา
“ฉันถามแกว่า แกฆ่าเพื่อนฉันทำไม!?” ชายคนนั้นตะโกนใส่หน้าฮันบินก่อนจะมองด้วยสายตาที่โกรธจัด
“ผม..ผมไม่ได้ทำ
ผมไม่รู้เรื่อง!” ฮันบินตอบออกไปอย่างซื่อสัตย์ เขาไม่ได้ทำก็ควรจะบอกว่าไม่ได้ทำ
แต่เหมือนคนพวกนี้จะไม่เชื่อ มันต่อยเข้าไปที่ท้องของฮันบินอย่างแรงทำให้ร่างบางลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
“ถ้าแกไม่ได้ทำแล้วมันจะเป็นใคร
หมอนี้มันอยู่ในเหตุการณ์ที่แกฆ่าเพื่อนของฉัน มันบอกว่าเป็นแก!” พอพูดจบชายคนนั้นก็เตะเข้าที่หน้าท้องของฮันบินไปอีกที
“บางทีฉันก็สงสัยว่าแกเป็นมนุษย์จริงๆรึป่าว แท้จริงแล้วแกเป็นแวมไพร์สินะ!” ชายคนนั้นยังคงพูดต่อแล้วกระทืบไปที่ตัวของฮันบิน ตอนนี้ฮันบินมีสภาพเลือดออกปากและเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ คนตัวเล็กฟุบลงอยู่ที่พื้นก่อนจะเริ่มมีอารมณ์โมโหกับสิ่งที่เขายังไม่ได้ทำแล้วต้องมารับผิด ร่างบางเงยหน้าขึ้นก่อนที่ตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีขาว ริมฝีปากเล็กกระตุกยิ้มน้อยๆก่อนจะส่งเสียหัวเราะในลำคอออกมา ร่างกายของฮันบินในเวลานี้เหมือนไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป คนตัวเล็กจับขาของชายคนนั้นไว้ก่อนที่มันจะลงมาถึงตัวเขา
“ผมบอกว่าผมไม่ได้ทำ ทำไมถึงไม่เชื่อ!” พอพูดจบฮันบินก็จัดการดึงขาของชายคนนั้นขาดออกมาจากตัว
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นจะร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ฮันบินก็จัดการดึงหัวของชายคนนั้นให้หลุดออกจากบ่า
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ทำ”
ฮันบินกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะเริ่มโจมตีคนที่สอง
ชายคนที่สองพยายามต่อสู้ฮันบินด้วยการต่อยเข้ามาหาฮันบินอย่างเร็วแต่ฮันบินจับแขนของเขาไว้แล้วจัดการหักมันจนกระดูกทิ่มออกมาจากเนื้อ
ก่อนจะส่งมือเข้าไปตรงกลางออกแล้วกระชากหัวใจของเขาออกมา
อีกสองคนเมื่อเห็นแบบนั้นความกลัวก็ก่อตัวขึ้น
หัวสมองของเขาสั่งให้วิ่งหนีให้เร็วที่สุด แต่ยังไม่ทันที่จะเริ่มออกวิ่ง
ฮันบินก็จัดการทั้งสองคนด้วยการไปยืนอยู่ที่ด้านหลังก่อนจะควักหัวใจของทั้งคู่ออกมาพร้อมกับดึงหัวของทั้งสองคนออกไป
ในขณะที่ฮันบินฆ่าพวกเขาหัวเราะราวกับว่ากำลังได้ทำเรื่องอะไรสนุกๆอยู่
ริมฝีปากเล็กกระตุกยิ้มทุกครั้งเมื่อควักหัวใจของพวกมันออกมาได้ ฮันบินในตอนนี้มันไม่ใช่ฮันบินที่ทุกคนรู้จักอีกต่อไป
“อ๊ากกก!”
แล้วอยู่ๆร่างบางก็เกิดอาการปวดหัวขึ้นมากะทันหัน
ฮันบินทรุดลงนั่งตรงกองเลือดก่อนจะเอามือกุมหัวไว้แน่นแล้วร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
ตอนนี้ตาของเขาไม่เป็นสีขาวอีกแล้ว อาการปวดหัวก็เริ่มจางหายไป เมื่อได้สติฮันบินก็ตกใจต่อศพตรงหน้า
ตามเนื้อตัวของเขามีเลือดเต็มไม่หมดไม่เว้นที่ใบหน้า
ในหัวของเขามีความคิดมากมายตีกันไปหมด
ฮันบินมองเลือดในมือสลับกับศพตรงหน้าอย่างอึ้งๆ
จุนฮเวกับจินฮวานเห็นว่าฮันบินมานานเกินไปแล้วทั้งคู่ก็เลยมาตามหา แต่ภาพที่ทั้งคู่มาเจอทำให้ตกอยู่ในความมึนงงกันทั้งคู่ ด้วยความที่ในซอยนี้มืดมาก ทั้งสองคนเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางศพพวกนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปตรงนั้นช้าๆ ฮันบินหันมามองคนที่มาใหม่ก่อนจะพบว่าเป็นจุนฮเวและจินฮวานที่เดินมา ทั้งคู่ดูตกใจที่เห็นว่าคนๆนั้นเป็นฮันบินและใบหน้าที่หันมาหาก็เต็มไปด้วยเลือด
“ฉัน..ฉัน” ฮันบินพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะสลบไป จุนฮเวรีบเข้าไปรับตัวฮันบินไว้ในขณะที่จินฮวานกำลังดูสภาพศพพวกนั้นที่เละไม่มีชิ้นดี
ก่อนที่ตัวเองจะใช้คาถาดูว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง จินฮวานนิ่งไปทันทีเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขื้น
คนตัวเล็กหันไปมองหน้าจุนฮเวก่อนจะพยักหน้าให้เขาเหมือนเป็นการบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ฮันบินเป็นคนทำ
“พาฮันบินออกไปก่อน
ฉันจะใช้คาถาบังที่นี้ไว้” จุนฮเวแบกฮันบินออกไปตามคำสั่งของจินฮวาน
ก่อนที่จินฮวานจะร่ายคาถาอะไรสักอย่างแล้วอยู่ๆศพตรงหน้านั้นก็หายไป
จินฮวานเดินมาหาจุนฮเวก่อนที่จะตกลงกันว่าพาฮันบินกลับบ้านไปก่อนแล้วค่อยมาหาคำตอบจากเรื่องที่เกิดขึ้น
จินฮวานนึกถึงภาพที่ดาร่าให้เขาดูมันเหมือนกันไม่มีผิด แล้วมันจะเกิดขึ้นจริงๆหรอ
ààààà
หลังจากที่จุนฮเวอุ้มฮันบินที่เหนือตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้าไปในบ้าน
ดูเหมือนว่าจะเป็นดาร่าที่ตกใจมากที่สุด
เธอรีบเข้ามาดูลูกของตัวเองด้วยความเป็นห่วงพลางถามจินฮวานว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อจินฮวานเล่าให้เธอฟังความเครียดก็เริ่มเข้ามาครอบง่ำก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่โชคชะตากำหนดไว้นั้นคือผูกชะตาของฮันบินเข้ากับของจีวอน
นั้นคือเหตุผลว่าทำไมดาร่าจึงมาอยู่ที่หน้าประตูบ้านของจีวอนตอนนี้
ดาร่าประตูเข้าไปในบ้านก่อนจะเดินมาที่ห้องโถงใหญ่ก็เจอเข้ากับสามพี่น้องต้นตระกูลและดงฮยอกกำลังนั่งคุยกันอยู่
“คุณมาถึงที่นี้มีอะไรรึป่าวครับ?”
มินโฮหันไปเจอดาร่าที่เดินเข้ามาพอดีทำให้ทุกคนลุกยืนตอนรับดาร่ากันหมด
“บ๊อบบี้ ฉันมีเรื่องให้นายช่วย” ดาร่าพูดก่อนเดินตรงเข้ามาหาจีวอนทำให้จีวอนเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัย
“น่าแปลกที่คนอย่างคุณมาขอให้ผมช่วย” จีวอนพูดก่อนจะหันไปมองดงฮยอกที่พยักหน้าให้เขา
“แล้วคุณจะให้บ๊อบบี้ช่วยอะไรหรอครับ?” มินโฮถาม ดาร่าถอนหายใจก่อนจะพูดมันออกมา
“ฉันอยากให้บ๊อบบี้ผูกชะตากับฮันบินไว้จนกว่าฮันบินจะปลอดภัย หลังจากนั้นนายจะต้องตัดขาดชะตากับฮันบินซะ ฉันไม่ได้เป็นคนที่อยากทำแต่ว่าโชคชะตากำหนดมาแบบนี้” ดาร่าพูดก่อนจะมองหน้าทุกคน
“อ่า.. เรื่องจริงสินะ
ผมก็พอจะรู้เหมือนกันว่าโชคชะตาของผมยังไงก็ต้องได้เด็กคนนั้นมา
ถ้าจะให้ช่วยผมมีข้อตกลงสำหรับเรา” จีวอนบอกก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
“ข้อตกลงอะไรล่ะ?”
“หลังจากการผูกชะตาคุณต้องให้ฮันบินเข้ามาอยู่ที่บ้านผม
และให้ผมมีสิทธิ์ในตัวฮันบินทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อ๋อ
แล้วอีกอย่างพวกแม่มดอย่างพวกคุณต้องทำตามคำสั่งต้นตระกูลพวกผมทั้งสามคน” จีวอนบอกข้อตกลงออกไปทำให้ดาร่าคิดหนักมากขึ้น
โดยเฉพาะข้อสุดท้ายถ้าจีวอนพูดออกมาแบบนี้ต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ
ดาร่านิ่งคิดไปสักพักก่อนจะพูดออกมา
“ก็ได้ แต่ถ้านายทำร้ายฮันบินแม้แต่ปลายเล็บเราได้เห็นดีกันแน่”
ดาร่าบอกก่อนจะมองหน้าจีวอนที่ตอนนี้พยักหน้าตกลงพลางยิ้มมุมปากขึ้นมา
ยังไงชีวิตของฮันบินก็ต้องได้รับความปลอดภัยที่สุด
“งั้นไปกันเลยมั้ยครับคุณหญิง?” จีวอนถามขึ้นก่อนที่ดาร่าจะพยักหน้า
จีวอนบอกให้มินโฮไปกับเขาด้วยทิ้งให้ยุนฮยองและดงฮยองอยู่ที่บ้านเพราะดูเหมือนว่ายุนฮยองคงต้องจัดห้องนอนตัวเองซะใหม่
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านของฮันบิน
จีวอนและมินโฮลงมาจากรถก่อนจะเดินตามดาร่าเข้าไปที่ห้องทำพิธี
เมื่อเข้าไปถึงพวกเขาก็เจอกับจินฮวานและจุนฮเวที่เตรียมการไว้อยู่แล้ว
จนถึงตอนนี้ฮันบินก็คงยังไม่ตื่นเพราะดาร่าร่ายคาถาให้เขาหลับไว้จนกว่าจะเสร็จพิธี
จุนฮเวหันหน้าไปมองทางอื่นเมื่อเห็นพวกต้นตระกูลเข้ามา
ร่างของฮันบินถูกวางอยู่ในวงกลมที่โรยรอบไปด้วยเกลือ
เทียนสีขาวถูกจุดแล้ววางไปรอบๆทำให้ที่ห้องนี้ดูขลังขึ้นไปอีก
“นี้คุณคิดจะทำโดยไม่บอกเขาอย่างนั้นหรอ?” มินโฮถามขึ้นแต่ดาร่าไม่ตอบ
“ตกลงเด็กคนนั้นเป็นอะไรกันแน่?” จีวอนถามขึ้นก่อนจะมองไปที่ร่างของฮันบิน
“เป็นเขา ไม่สิ เขาคนนั้นจะมาเอาฮันบินไปเป็นคนที่สามารถยืนเคียงข้างมันได้
เพราะว่าฮันบินสามารถรับพลังจากมันได้
แล้วถ้ามันได้ตัวฮันบินไปโลกนี้ก็คงถึงคราวที่จะดับสิ้นแน่ๆ”
เป็นจินฮวานที่พูดออกมาทำให้ดาร่าหันไปมองด้วยสายตาดุๆทันที
เขาที่พูดถึงเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักกันดี
“สรุปว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาสินะ
น่าสนุกดี” จีวอนบอกก่อนจะยกยิ้ม
“เอาล่ะมาเริ่มกันเถอะ” ดาร่าพูดก่อนจะยื่นมือมาขอมือจีวอน
เมื่อจีวอนส่งมือไปให้ดาร่าก็ใช้มีดปลายแหลมกรีดเข้าที่ฝ่ามือของจีวอนทำให้มีเลือดไหลออกมาก
จากนั้นจีวอนก็ลงไปนอนในวงกลมข้างฮันบินก่อนที่ดาร่าจะมากรีดฝ่ามือของฮันบินเหมือนที่ทำกับจีวอน
เธอจับมือของจีวอนที่มีรอยกรีดไว้อยู่แล้วให้ประกบกับมือของฮันบินข้างที่โดนกรีดเหมือนกันก่อนที่จีวอนจะหลับตาลง
แล้วหลังจากนั้นจินฮวานและดาร่าก็จัดการท่องคาถาของการผูกชะตา
ทันทีที่ท่องคาถาเลือดที่ฝ่ามือของทั้งคู่ก็ไหลลงมาก่อนจะค่อยๆมาบรรจบกันจากนั้นมันก็ค่อยๆไหลไปรอบตัวของทั้งคู่
คาถายังคงดำเนินไปเรื่อย เลือดพวกนั้นค่อยๆย้อนกลับเข้าไปในตัวของทั้งคู่ช้าๆ
จุดที่มันจะไปอยู่รวมกันนั้นคือหัวใจนั้นเอง
ก่อนที่คาถาบทสุดท้ายจะจบลงเลือดทั้งหมดก็พากันไหลเข้าสู่หัวใจของทั้งคู่
ดาร่าเดินมาใกล้ตัวของทั้งสองก่อนจะเอานิ้วโป้งแตะเลือดของทั้งคู่แล้วปายมันลงตรงหน้าผากของจีวอนและฮันบินก่อนที่เลือดนั้นจะค่อยๆหายเข้าไปในหน้าผากเป็นอันเสร็จพิธี
จีวอนค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะลุกขึ้นมานั่ง ต่อไปนี้ตัวเขาจะไม่เหมือนเดิมอีก
ที่ว่าไม่เหมือนเดิมก็เพราะว่าเขารู้สึกว่ามีฮันบินอยู่ตลอดเวลา
นั้นทำให้รู้ได้เลยว่าการผูกโชคชะตาของเขาและฮันบินสำเร็จแล้ว
“เสร็จแค่นี้ใช่มั้ย?” จีวอนถามดาร่าจึงพยักหน้าแล้วลูบหัวฮันบินเบาๆ
“งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะมารับฮันบิน” จีวอนพูดต่อพลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะออกไปจากห้อง
“เดี๋ยวบ๊อบบี้ มีเรื่องหนึ่งที่นายต้องรู้” เสียงเรียกของจินฮวานทำให้จีวอนหันไปมอง
“ถ้านายเจ็บฮันบินก็จะเจ็บด้วย
ฮันบินรู้สึกยังไงนายจะรับรู้ได้ ในขณะเดียวกัน ถ้าฮันบินตาย นายก็จะตายด้วยอย่างไม่มีข้อแม้” จริงอยู่ที่ต้นตระกูลจะไม่ตายได้ได้ง่ายๆ
แต่ถ้าได้ไปผูกโชคชะตากับใครแล้วถ้าคนหนึ่งตายอีกคนก็ต้องตายตามไปด้วย
และนี้คือสิ่งที่ดาร่าไม่เลือกที่จะบอกจีวอน
เพราะถ้าจีวอนรู้ตั้งแต่แรกคงไม่ยอมแน่ๆ
แต่พอจีวอนมารู้ที่หลังก็ทำให้เขาหัวเสียเป็นอย่างมาก
นี้เขาต้องมานั่งดูแลเด็กนั้นอีกงั้นหรอ
มินโฮได้แต่ตบบ่าจีวอนเบาๆก่อนที่เจ้าตัวจะออกจากห้องไปแล้วปิดประตูเสียงดัง
จุนฮเวยกยิ้มอย่างสะใจที่เห็นจีวอนเป็นแบบนั้น
อย่างน้อยก็เบาใจไปเรื่องหนึ่งที่ว่ายังไงจีวอนก็ต้องปกป้องเพื่อนของเขาอย่างแน่นอน
“เดี๋ยวก่อน จินฮวานช่วยพาฉันไปที่เกิดเหตุหน่อยสิ” มินโฮหันมาพูดก่อนจะออกจากห้องทำให้จินฮวานหันไปมองหน้าของดาร่าเป็นเชิงขออนุญาติ
เธอพยักหน้าให้จินฮวานเบาๆก่อนที่จินฮวานจะออกไปกับมินโฮและจีวอนไปยังที่เกิดเหตุ
มินโฮ จีวอนและจินฮวานเดินเข้ามาในซอยที่เป็นที่เกิดเหตุ
เวลานี้ยังคงเป็นเวลาที่ทุกคนในเมืองหลับกันอยู่
ลูกน้องของมินโฮอีกสองสามคนเดินตามเข้ามาด้วยก่อนจะยืนคุ้มไว้อยู่หน้าซอยเพื่อไม่ให้ใครเข้ามา
จินฮวานจัดการร่ายคาถาเพื่อจะให้สิ่งตรงหน้าปรากฏขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงมีอยู่
เลือดที่ไหลนอง ศพที่สภาพดูไม่ได้
จีวอนเข้าไปดูศพนั้นอย่างพิจารณาเช่นเดียวกับมินโฮ
“นายคิดว่าฮันบินจะทำจริงๆงั้นหรอ?” มินโฮถามพลางมองศพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
“จินฮวานก็บอกอยู่ว่าตอนมาเจอฮันบินอยู่ท่ามกลางศพพวกนี้และทั้งเนื้อตัวก็มีแต่เลือด” จีวอนบอก
“แต่ฮันบินเป็นมนุษย์จะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?” มินโฮพูดต่อ
“งั้นผมก็มีสิ่งนี้ให้พวกคุณดู”
เสียงของจินฮวานดังขึ้นก่อนจะร่ายคาถาให้เหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้านั้นฉายขึ้นมาอีกครั้ง มินโฮและจีวอนถอยมายืนอยู่ข้างจินฮวานก่อนจะเริ่มดูเหตุการณ์นั้นเมื่อมันเริ่มฉาย เวทย์มนต์ของจินฮวานทำให้เหมือนกับว่าพวกเขาได้เข้าไปอยู่เหตุการณ์นั้นด้วยทั้งที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว จากที่เห็นแบบนั้นทุกคนก็พอจะเข้าใจแล้วว่าฮันบินเป็นคนทำขึ้นเองทั้งหมดแต่เหมือนกับไม่ใช่ตัวของฮันบินเองดูได้จากสีตาที่เปลี่ยนไป เหมือนมีคนบังคับให้ฮันบินทำโดยที่ฮันบินไม่รู้ตัว จีวอนเริ่มมองไปรอบๆก่อนจะเห็นเหงาบางอย่างอยู่ตรงมุมหนึ่งของซอย ด้วยความสงสัยเลยเดินไปดู แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไรจีวอนก็เห็นแค่เงาที่ลักษณะเป็นเหมือนคน จีวอนไม่เห็นหน้าตาว่าเป็นใคร นั้นทำให้ไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ตรงนั้นเป็นใครและต้องการอะไร และแล้วภาพเหตุการณ์ก็สิ้นสุดลง
“ฉันเห็นเงาอะไรบ้างอย่างอยู่ตรงนี้” จีวอนพูดพร้อมกับยืนมองตรงที่เขาเห็น
“ผมลองที่จะคุยกับเขาแล้วแต่เขาปิดกั้นตัวเองเลยทำให้ผมไม่สามารถคุยกับเขาได้” จินฮวานพูดขึ้น
เขาเองก็เห็นเหมือนกันแต่ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร
“เป็นไปได้มั้ยว่านั้นคือตัวเขา” มินโฮเสริม เขาที่มินโฮหมายถึงก็คือคนที่อยากได้ตัวฮันบิน
“ตามหลักการแล้วเขาจะไม่ลงมาเองหรอกครับ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นสาวกของเขามากกว่า” จินฮวานตอบ
“ถ้างั้นก็เป็นพวกนอกรีตสินะ” จีวอนพูดขึ้นทำให้จินฮวานพยักหน้า
“ฉันคิดว่าเราต้องรีบตามสืบเรื่องพวกนอกรีตแล้วล่ะ
ยังไงก็จะเช้าแล้ว ฉันว่าพวกเรากลับไปพักกันเถอะ
จินฮวานเดี๋ยวฉันจะให้ลูกน้องขับรถไปส่ง
เดี๋ยวฉันกับจีวอนเดินไปเพราะยังไงนี้มันก็ไม่ได้ไกลจากบ้านเราสองคนสักเท่าไร” มินโฮบอกยิ้มๆ
“จะดีหรอครับ?
รบกวนพวกคุณเปล่าๆนะ” จินฮวานพูดพร้อมกับเหล่ตามองจีวอนที่ตอนนี้เดินออกไปสั่งลูกน้องของมินโฮให้จัดการเผาศพพวกนี้ทิ้งไป
“ทำตามที่ฉันบอกนั้นล่ะ ขอบคุณที่มาด้วย” มินโฮบอกยิ้มๆก่อนที่จินฮวานจะโค้งขอบคุณแล้วเดินไปที่รถกลับไปยังบ้านของดาร่า
“นายคิดว่าไง?” จีวอนถามเมื่อมินโฮเดินมาอยู่ข้างๆ
“ฉันคิดว่าหลังจากนี้คงต้องมีเรื่องอะไรมากมายเลยล่ะ” มินโฮบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
และทั้งคู่ก็พากันเดินกลับไปยังบ้านของตัวเองพร้อมกับพูดคุยกันด้วยว่าจะเอายังไงดีกับเรื่องนี้
แล้วอยู่ๆจีวอนก็นึกถึงคนที่จากเขาไปนานแสนนานขึ้นมา
ààààà
To Be Continued
ààààà
Talk :: มาต่อให้แล้ว ฮันบินผูกชะตากับจีวอนแล้วจะเป็นยังไงต่อกันนะ บอกเลยว่างานนี้จีวอนยังไม่ใจดีกับน้องเนอะ
อยากให้มีฉากคัดมั้ยหว่า เราอยากแต่งแต่เราแต่งได้กากมาก เนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อฝากติดตามกันด้วยนะคะ ฝากความรักให้ตัวละครแล้วฟิคเรื่องนี้ด้วยเน้อ ขอบคุณค่าา *^*
มีเวลาว่างๆก็เข้าไปติดแท็กฟิคเรื่องนี้ #นิทานของฮันบิน ได้เลยเนอะ
ความคิดเห็น