ลำดับตอนที่ #9
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ความรัก ความเกลียด
“คุณอยากจะถามอะไรก็ว่ามาคุณบาทริค ท่าทางของคุณมันทำให้ผมหงุดหงิด” แสงจันทร์สาดเข้ามากระทบแก้วไวน์ มัลฟอยถือแก้วไวน์และหมุนมันไปมา บาทริคยืนอยู่ข้างหลัง เขายิ้มบางๆอยู่ใต้ความมืดที่โอบล้อมด้วยแสงจันทร์
“จุดประสงค์ที่คุณชายพาเธอคนนั้นมาไม่ใช่เพื่อ.....”
“ทำลาย...ฉันต่อให้” มัลฟอยพูดขัดขึ้นและยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“ครับ คุณชายไม่ได้พาเธอคนนั้มาเพื่อทำลาย.........ผมดูออก” บาทริคพูดนุ่มๆ มัลฟอยหยุดเล่นแก้วไวน์ในมือแล้วลุกเดินไปที่หน้าต่าง บาทริคยืนมองอยู่ด้านหลัง เขาประสานมือไว้ด้านหน้าแล้วยิ้ม
“เหตุผลของคุณชายคือปกป้อง” บาทริคพูดต่อ มัลฟอยนึกรำคาญในใจที่ทำไมชายแก่คนนี้ถึงได้ชอบพินิจพิเคราะห์คนอื่น....แล้วยังถูกเสียด้วย
“มันก็เป็นเรื่องของคุณที่ว่าจะคิดยังไงคุณบาทริค ยังไงคุณก็จะไม่บอกพ่อเรื่องที่ผมพาเธอมาที่นี่....สำหรับคุณ...ผมได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว” มัลฟอยพูดต่อแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนหมด เขาวางมันไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกจากห้อง ทิ้งให้ชายแก่ยืนมองตามเขาไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยน์
ในห้องที่มืดมิดไร้แสงไฟ แสงจันทร์จางๆยังอุตส่าห์มีน้ำใจพาแสงของตัวเองผ่านม่านหิมะเข้ามาเป็นแสงสลัวในห้องนี้ เฮอร์ไมโอนี่นอนหายใจเบาๆอยู่บนเตียง เธอยังไม่หลับสนิทดีนัก ความรุ่มร้อนใจแผดเผาอยู่ในอกจนจะกลายเป็นเพลิงไหม้ถาโถมคฤหาสน์แห่งนี้ ความคิดที่ว่าคนที่อยากจะฆ่าให้ตายอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเธออย่างมีความสุขนั้นทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
เฮอร์ไมโอนี่ชันกายลุกขึ้นมานั่งครุ่นคิด เธอไม่อาจข่มตาหลับได้ในเวลานี้ ไม่มีใครอยากหลับในสภาพที่ถูกมัดและถูกกักขังแบบนี้หรอก มันไม่ใช่เฮอร์ไมโอนี่ที่จะต้องยอมใครแบบนี้
แต่แล้วความคิดในหัวและจินตนาการของเฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องหยุดไว้แค่นั้นเมื่อเสียงเปิดประตูเบาๆดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่แสร้งล้มตัวลงนอนตามสัญชาตญาณ กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆลอยมาแตะจมูกจนฉุน กลิ่นนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆเช่นกัน
มัลฟอยเดินโซเซมายืนอยู่ข้างเตียงเฮอร์ไมโอนี่ เขามองร่างที่ซ่อนกายอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างนิ่งคิด.........
และสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่หวาดกลัวก็เกิดขึ้น กลิ่นเหล้าฉุนค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอสัมัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์! มัลฟอยกำลังโน้มใบหน้าเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นและตัวแข็งเหมือนถูกสาป ลมหายใจนั้นใกล้เข้าเรื่อยๆ
“หึ!” มัลฟอยแค่นหัวเราะ เกิดรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก เขาค้างใบหน้าเอาไว้เมื่อจมูกของเขากำลังจะสัมผัสกับริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่อีกเพียงนิดเดียว
กลิ่นเหล้าและลมหายใจอุ่นๆห่างออกไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่อยากจะถอนหายใจดังๆ เสียงฝีเท้าย่ำไปไกลออกจากเตียง เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาเล็กน้อยเพื่อดูให้แน่ใจว่ามัลฟอยไปแล้วจริงๆ เธอเห็นด้านหลังของเขาห่างออกไป เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้น
แต่มัลฟอยชะงักขาเอาไว้ เขาหยุดยืนอยู่ตรงที่เกือบจะถึงประตู เฮอร์ไมโอนี่รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคุมกาย
“ยัยโง่!” มัลฟอยแดกดันและยิ้มเยาะ เขาก้าวออกไปจากห้อง ทิ้งให้เฮอร์ไมโอนี่ใคร่ครวญว่ามัลฟอยรู้หรือเปล่าว่าเธอแกล้งหลับ
“ตื่นเถอะค่ะ....ผู้หญิงของนายน้อย นายน้อยให้เธอมาปลุกผู้หญิงของนายน้อยค่ะ ตื่นเถอะค่ะผู้หญิงของนายน้อย.....” เสียงแหลมเล็กกรีดอยู่ข้างหูของเฮอร์ไมโอนี่ หญิงสาวค่อยๆปรือตาขึ้นทั้งที่เพิ่งปิดมันได้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ จมูกใหญ่โตเทอะทะและกลิ่นเตาผิงเหม็นไหม้อยู่ตรงหน้า ดวงตาโปนลึกใสแจ๋วจนเฮอร์ไมโอนี่เห็นภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในนั้น
“ใคร....” เฮอร์ไมโอนี่ถามเบาๆ เธองัวเงียพาดมือที่ถูกมัดไปไว้ใต้หัว
“ดาช่าเจ้าค่ะ” เอลฟ์สาวกรีดเสียง
“ดาช่า.....ดาช่าเหรอ....เอลฟ์ปากไม่ดีเมื่อวานใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่งัวเงียและพูดเพ้ออย่างไม่ได้สติ เฮอร์ไมดอนี่ได้ยินเสียงสั่งน้ำมูกเบาๆ ดาช่าสั่งน้ำมูกกับถุงเท้าหลายคู่ที่มัดติดกันและกลายเป็นผ้าพันคอสำหรับเธอ
“ดาช่ารู้ค่ะว่าเธอทำตัวไม่ดี ดาช่าทำโทษตัวเองด้วยการมัดตัวเองอยู่บนเตาอบขนมปัง สูดควันดำๆนั่นเข้าปอด” ดาช่าตอบเสียงสั่นและหูตก เฮอร์ไมโอนี่ลุกพรวดพราดขึ้น วิญญาณนักเรียกร้องสิทธิเอลฟ์เข้าครอบงำ
“คุณต้องไม่ทำแบบนั้นอีก” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“ถ้าเป็นคำสั่งของผู้หญิงของนายน้อยดาช่าก็จะทำตามค่ะ” ดาช่าตอบอย่างรื่นเริง
“อย่าเรียกฉันว่าอย่างนั้นอีกได้มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่ค่อยจะชอยดาช่าก็ตรงนี้แหละ
“เป็นคำสั่งขาดของนายน้อยค่ะ เอลฟ์ทุกตัวในบ้านไม่มีสิทธิ์ฝ่าฝืน” ดาช่าพูดอย่างเจียมตน
‘อ๋อ.....สั่งไว้นี่เอง’ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างเดือดแค้นในหัว
“เหลืออีกสี่นาทีกับห้าสิบเจ็ดวินาทีเจ้าค่ะ ถึงตอนนั้นผู้หญิงของนายน้อยจะต้องรีบออกไป” ดาช่าพูดเหมือนเตือนและดูกระวนกระวาย เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ไปเหรอ.....ฉันต้องไปไหน” เฮอร์ไมโอนี่ถาม ดาช่ายิ้มร่า
“ไปหานายน้อยที่ห้องนอนค่ะ”
“หา............!!” เฮอร์ไมโอนี่อุทานอย่างตกใจ เธอต้องไปที่ห้องนอนของมัลฟอยตอนนี้ทั้งที่ฟ้ายังไม่สว่างดีด้วยซ้ำเนี่ยนะ
“เป็นคำสั่งของนายน้อยให้ดาช่ามาปลุกผู้หญิงของนายน้อยเจ้าค่ะ เพื่อให้ผู้หญิงของนายน้อยไปหานายน้อยที่ห้องนอนตอนเจ็ดนาฬิกาตรง ตอนนี้หกนาฬิกาสี่นาทีกับอีกสามสิบหกวินาทีค่ะ” ดาช่าพูดเหมืนกับเธอเป็นนาฬิกา เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง
“ไม่! ฉันไม่ไปเด็ดขาด รู้มั้ยว่าถ้าฉันไปไม่เขาหรือฉันก็จะไม่มีวันได้ลืมตาออกมาจากห้องนั้นเด็ดขาด!” เฮอร์ไมโอนี่คำราม ดาช่าครางอย่างหวาดกลัว เฮอร์ไมโอนี่หอบหายใจลึกอย่างโกรธจัด
“ขอร้องล่ะเจ้าค่ะ......ขอร้อง....กรุณาไปเถอะนะคะ อย่าขัดคำสั่งของนายน้อยเลย” ดาช่าร้องร้องอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเห็นใจอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเธอจะต้องเข้าไปในห้องนอนของมัลฟอย.....ไม่อยากคิดจริงๆว่าเขาจะทำอะไร
“โฮ......................” ดาช่าร้องลั่น เธอเอาหัวใหญ่โตของเธอโขกกับเสาเตียงจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าเตียงสั่น เฮอร์ไมโอนี่กระโจนลงจากเตียงและตรงเข้าไปล็อคตัวดาช่าไว้ราวกับเล่นมวยปล้ำ
“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้ ตกลง...ได้...จะเป็นอะไรกันนักหนาเล่าถ้าฉันจะเข้าไปที่นั่น!” เฮอร์ไมโอนี่ตะเยงเสียงแข่งกับเสียงกระแทกของดาช่า เธอหยุดเอาหัวโขกเสาแล้วหันมาช้าๆ เฮอร์ไมโอนีปล่อยตัวดาช่าอย่างเหนื่อยอ่อน
“งั้นไปเถอะเจ้าค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ เป็นดาช่าจะนำทางไป” ดาช่าลุกขึ้นอย่างเร่งรีบและตรงรี่ไปที่ประตู เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธอค่อยๆยันกายลุกขึ้นและมองดาช่าที่ทำหน้าเหมือนได้ทองเกลเลียนอย่างเหนื่อยใจ
เป็นครั้งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่ได้ออกมาจากห้องที่ขังเธอเอาไว้ ต้องยอมรับว่าคฤหาสน์หลังนี้สมควรได้รับการเปลี่ยนเป็นเรียกว่าปราสาท มันช่างกว้างขวางจนเธอคิดว่าถ้าไม่มีใครนำทางจะต้องหลงแน่ๆ ดาช่ากึ่งเดินกึ่งวิ่งอย่างร้อนใจ เฮอร์ไมโอนี่ภาวนาขอให้ทางเดินนี้ทอดยาวไปเรื่อยๆไม่พบจุดหมาย แต่ในที่สุดดาช่าก็พาเธอมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่สีดำทึบซึ่งอยู่สุดทางเดินของระเบียงและเป็นประตูเพียงบานเดียวบนระเบียงนั้น
“ถึงแล้วเจ้าค่ะ ดาช่าจะไปแล้วนะเจ้าคะ” ดาช่าปาดเหงื่อบนหน้าผากกว้าง เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างเพื่อเตรียมจะท้วง
“เธอไม่ได้จะเข้าไปด้วยเหรอ!”เฮอร์ไมโอนี่ร้องถาม ดาช่าส่ายหน้าทันที
“นายน้อยบอกว่าให้ผู้หญิงของนายน้อยเข้าไปแค่คนเดียวค่ะ ดาช่าเข้าไปไม่ได้” ดาช่าบอก เธอยกมือขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าจะปรามไว้
“เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน”
ป๊อบ!
หายไปแล้ว......เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเห็นเอลฟ์ตัวไหนที่มีความสงสารน้อยเท่านี้มาก่อน
เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเห็นประตูที่ไหนซึ่งให้ความรู้สึกไม่น่าเปิดเท่านี้มาก่อนเลย ตอนนี้ระเบียงทางเดินเงียบสงบอย่างน่าขนลุก ใจหนึ่งของเฮอร์ไมโอนี่อยากจะรีบเดินหนีออกมาจากตรงนั้นเสีย แต่พอคิดถึงหน้าของดาช่าถ้ารู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ทำให้เธอทำงานไม่สำเร็จแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ยังไงๆเฮอร์ไมโอนี่ก็คงจะต้องเข้าไปจริงๆแล้วใช่มั้ย
เฮอร์ไมโอนี่รวบรวมความกล้าเอื้อมมือไปเปิดลูกบิดช้าๆ....ความหนาวเย็นน่าพิศวงแล่นเข้าสู่ขั้วหัวใจอย่างรวดเร็ว เสียงประตูค่อยๆเปิดออกเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของเฮอร์ไมโอนี่ ห้องนั้นมีแสงสลัวที่เหมือนถูกต้นไม้ปกคลุมไว้ พื้นหินอ่อนที่ปูไว้ก็เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง บอกตามตรงว่าทุกก้าวย่างที่เฮอร์ไมโอนี่ก้าวอยู่นั้นช่างยาวนานและน่ากลัว เฮอร์ไมโอนี่ได้กลิ่นใบไม้เล็กน้อยคลุกเคล้ากับกลิ่นแอลกอฮอล์......ทางที่เฮอร์ไมโอนี่เดินอยู่เป็นทางเดินสั้นๆและแคบ
ด้านหนึ่งของห้องที่อยู่ด้านในสุดเป็นเตียงสี่เสาขนาดใหญ่และมีม่านโนยตัวลงมาจากเพดานเหมือนห้องที่เฮอร์ไมโอนี่ถูกขัง ผนังด้านหนึ่งของห้องกว้างนี้เป็นม่านสีชา ห้องนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวาอย่างที่เฮอร์ไมโอนี่คิด ด้านหนึ่งเป็นประคูที่น่าจะเป็นห้องน้ำและมีตู้โชว์ของกับตู้หนังสือตกแต่งผนังแทนภาพเขียน
แต่สิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่หวาดหวั่นคือเตียงนั่นต่างหาก เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านม่านนั้นและเห็นร่างของใครคนหนึ่งนอนคุดอยู่ใต้ผ้าห่ม หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นแรงและถี่ขึ้น ยิ่งห็นโต๊ะเล็กใกล้ๆกบัหน้าต่างมีขวดเหล้าวางระเกะระกะอยู่แล้วเฮอร์ไมโอนี่ยิ่งใจหาย ถ้ามัลฟอยทำอะไรกับเธอเหมือนที่ทำเมื่อตอนคืนวันฮัลโลวีนล่ะ แล้วเฮอร์ไมโอนี่จะรอดมาได้เหมือนคราวก่อนมั้ยนะ..........
เป็นครั้งที่สองที่เฮอร์ไมโอนี่รวบรวมความกล้าเดินเข้าไปที่เตียงนั้นช้าๆ เฮอร์ไมโอนี่หยุดยืนอยู่ข้างเตียง เธอค่อยๆเปิดม่านออก ใบหน้าของมัลฟอยเป็นส่วนเดียวที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา ดวงตาปิดสนิทและใบหน้าเรียบนิ่ง ถ้าเขาจะนิ่งอย่างนี้เมื่อเวลาตื่นก็ดีอยู่หรอก
เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“ตื่น................!!!!!” เฮอร์ไมโอนี่ตะเบงเสียงลั่น ทั้งที่คอของเธอเจ็บระบมไปหมดแต่เขายังนอนนิ่ง นี่เขาหลับหรือตายไปแล้วกันแน่นะ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มบันดาลโทสะ เธอปีนขึ้นเตียงและเขย่ามัลฟอยด้วยมือทั้งสองข้างที่ถูกมัด
“นี่! ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ! เธอตายไปแล้วหรือไงน่ะ เธอเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนทำให้ฉันต้องตื่นแต่เช้าแบบนี้น่ะ แล้วเธอจะมานอนแบบนี้อยู่ได้ยังไงน่ะ...หา!” เฮอร์ไมโอนี่เขย่าไหล่ของมัลฟอยอย่างบ้าคลั่ง เธอได้ยินเสียงมัลฟอยถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
“อย่ายุ่งน่า......” มัลฟอยพึมพำเบาๆ เขาหันตัวพลิกกัลบไปอีกด้านหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งรู้สึกบันดาลโทสะ เธอทุบมัลฟอยด้วยมือทั้งสองข้าง
“ตื่น! ฉันบอกให้ตื่นเดี๋ยวนี้! นี่! ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ” เฮอร์ไมโอนี่ตะวาดลั่นและยังคงทุบมัลฟอยไม่หยุด แต่เขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย ได้แต่พึมพำอะไรไม่ด้ศัพท์อย่างหงุดหงิด
“ตื่นสิ!
“หนวกหู!!!” มัลฟอยตะวาดเสียงดังก่อนจะรั้งร่างของเฮอร์ไมโอนี่ลงมา เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจแล้วเซถลาลงไปบนร่างของมัลฟอย มัลฟอยพลิกตัวกลับให้เฮอร์ไมโอนี่ลงไปนอนและเขาทับร่างของเธอ มัลฟอยรัดร่างของเฮอร์ไมโอนี่แน่นและควานจมูกไปทั่วอย่างไม่รู้จุดหมาย
“ว้าย! นี่...ปล่อยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ระรัวทุบมัลฟอยอย่างรุนแรง มัลฟอยค่อยๆคลายแขนออก เฮอร์ไมโอนี่รีบลุกขึ้นและถลาไปยืนหอบอยู่ข้างเตียง เธอมองมัลฟอยที่ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างโกรธแค้น.....แต่ความโกรธนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่อยากจะร้องออกมาดังๆ ท่อนบนเปลือยเปล่าของมัลฟอยโผล่พ้นผ้าห่มออกมา เฮอรืไมโอนี่ทำหน้าเหมือนเจอตัวน่าขยะแขยง เธอทำท่าจะร้องออกมา มัลฟอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพอใจ
“นี่...นี่...คนทุเรศ! เธอนอนไม่ใส่เสื้อเหรอเนี่ย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างอับอาย มัลฟอยขยี้ผมตัวเองแรงๆอย่างเบื่อหน่าย
“มันเรื่องของฉันนี่....เกี่ยวอะไรกับเธอ” มัลฟอยพูดลอยๆ เฮอร์ไมโอนี่นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ
“เธอเรียกฉันมาทำไม” เฮอร์ไมโอนี่ถาม มัลฟอยหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ เขาลุกขึ้นนั่งห้อยเท้าลงมาจากเตียง เขาเงยหน้าขึ้นมองเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนีเลี่ยงหันมองไปทางอื่น
“ฉัน.....เฮ้อ...ช่างมันเถอะ” มัลฟอยทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่เขากลับถอนหายใจ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
“ถ้าไม่มีอะไร.....เธอจะให้ฉันกลับไปที่ห้องนั่นได้มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ เธอก้มหน้าลงและมองข้อมือตัวเองที่ถูกมัด ที่ของเธอในคฤหาสน์นี้คงจะเป็นที่นั่น มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“เธอชอบห้องนั้นหรือไง” มัลฟอยถาม เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบและไม่พยักหน้ารับ เธอเกลียดที่นั่นที่สุดในโลก แต่จะให้เธอไปอยู่ที่ไหนได้ล่ะถ้าไม่ใช่ที่นั่น
“ไม่มีใครชอบถูกกักขังหรอก” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างเศร้าสร้อย มัลฟอยถอนหายใจอีกครั้ง สายตาของเขาเหลือบไปเห็นเชือกที่มัดข้อมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที มัลฟอยเอื้อมมือแตะข้อมือเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ เฮอร์ไมโอนี่หันมามองอย่างแปลกใจ
“เธอพูดถูกว่าไม่มีใครชอบถูกกักขัง........เพราะฉะนั้นเธอก็อยู่ที่นี่ให้มีความสุขสิ ฉันจะได้ไม่ต้องขังเธอ” มัลฟอยเลื่อนมือมาลูบมือของเฮอร์ไมโอนี่ไหมา เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยอย่างเย็นชา เธอส่ายหน้าช้าๆและยิ้มสะใจให้กับตัวเอง
“เธอบอกให้ฉันอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขงั้นเหรอ.....ทั้งที่อีกด้านหนึ่งเพื่อนของฉันกำลังจะถูกฆ่า และฉันต้องมาอยู่ที่นี่กับศัตรูที่ฆ่าคนรักของฉันน่ะเหรอ....ไม่มีวันหรอกที่ฉันจะอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขถ้าฉัน.........” เฮอร์ไมโอนี่หยุดคำพูดไว้ เธอยิ้มเศร้าๆปนเจ็บแค้นและมองไปทางอื่น มัลฟอยบีบข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่แน่น เขาได้ยินเสียงเอกัดฟันเล็กน้อย
“ฉันรู้ว่าสิ่งที่เธอปรารถนามากกว่าสิ่งใดในโลกคือการฆ่าฉันให้ได้......แต่เสียใจด้วยนะเกรนเจอร์ ฉันคงไม่ยอมให้เธอทำอะไรฉันได้ง่ายๆหนอก เกมส์ก็คือเกมส์ อยู่ๆเธอจะเดินเข้ามาบอกว่า ‘นี่! ฉันขอฆ่าเธอหน่อยสิ’ มันเป็นไปไม่ได้หรอกจริงมั้ย......ยังไงเธอก็ยังต้องอยู่ที่นี่...อีกนาน...หรือจนกว่าฉันจะพอใจ เพราะฉะนั้นเมื่อเธอรู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานเอก็ทำตัวเองอย่าให้ต้องเจ็บมากกว่านี้ดีกว่า” มัลฟอยพูดเรียบๆและบิดข้อมือเฮอร์ไมโอนี่ไปมา เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยอย่างว่างเปล่า มัลฟอยลูบข้อมือเฮอร์ไมโอนี่ไปมาอย่างพินิจพิจารณา โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่คาดคิด มัลฟอยกระชากเชือกหลุดออกอย่างง่ายดาย ทั้งที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามแทบตายก็ไม่สามารถแก้ออกได้ รอยช้ำสีแดงเข้มปรากฏบนผิวข้อมือขาวสวยเป็นเส้นสีแดง มัลฟอยจับข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่อย่างทะนุถนอมและเบามือ
............มัลฟอยก้มลงจูบที่ข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ ความอ่อนโยนของเขาที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เปิดใจยอมรับไม่สามรถทำให้เฮอร์ไมโอนี่เกิดความรู้สึกใดได้ สายตาของเฮอร์ไมโอนี่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าขณะที่มัลฟอยังคงประทับรอยจูบอันแสนหวานอย่างเนิ่นนาน
“นี่เป็นข้อแลกเปลี่ยน” มัลฟอยพูดเมื่อเขาละริมฝีปากออกมาจากข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยอย่างสงสัย มัลฟอยยังคงจับข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ไว้
“ในเมื่อเอบอกว่าอยู่ที่นี่แล้วเหมือนนักโทษ ยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไป.....เพราะฉะนั้นฉันก็จะทำให้เธอรู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่นักโทษ ฉันจะไม่มัดเธอ....แต่ยังไงฉันก็คงจะต้องขังเธอไว้จนกว่าจะแน่ใจว่าเธอจะอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหา...และ...ไม่คิดหนี” ข้อเสนอของมัลฟอยไม่ได้ทำให้ใจของเฮอร์ไมโอนี่ชุ่มชื้นขึ้นแม้แตน้อย มัลฟอยจ้องเฮอร์ไมโอนี่เป็นครั้งสุดท้าย เขาดีดนิ้วในอากาศ ฉัยพลันร่างเล็กๆของดาช่าก็ปรากฎขึ้นด้วยท่ายืนค้อมหัว
“เธอไปได้แล้ว.....” มัลฟอยปล่อยมือเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองดาช่าและสาวเท้าออกไปจากเตียง มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ตามไป....สายตาของเขาไม่สามารถจะบ่งบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร
“เกรนเจอร์!” มัลฟอยเรียกไว้ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะก้าวออกไปจากประตู เฮอร์ไมโอนี่หันมาช้าๆ มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาจริงจังจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกๆ
“อย่าพยายามหนี......เพราะฉัน....จะไม่ยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด” น้ำเสียงของมัลฟอยเต็มไปด้วยความจริงจังและแน่วแน่ เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าอย่างใจหาย เธอรีบก้าวออกมาจากห้องและพยายามไม่นึกถึงคำพูดของมัลฟอย มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองระหว่างที่เดินอยู่นั้น และเมื่อเห็นข้อมือตัวเองเฮอร์ไมโอนี่ก็รุ้สึกร้อนที่ใบหน้าขึ้นไปอีก
มัลฟอยเอนหลังพิงหัวเตียง เขายกมือขึ้นเสยผมและจ้องไปทางหนึ่งอย่างมาดมั่น ระหว่างนันเองที่เขาพึมพำกับตัวเอง
“ไม่ว่ายังไง.......ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยเธอให้ใครเด็ดขาด”
อาจจะสั้นไปหน่อยก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามอัพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม ช่วยโหวต คอมเม้นท์ และเข้ามาอ่าน
HAPPY NEW YEAR
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น