ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลลวงร้าย อุบายรัก

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 4 - 1 จุดเริ่มต้นของการหย่า 4

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 67


    รถไฟฟ้าที่แพรพรรณโดยสารมา หยุดเทียบจอดที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งในเมืองเจนีวา

              ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานีหลักที่จะพาเธอเดินทางต่ออีกนิดหน่อยด้วยรถโดยสารสาธารณะสำหรับไปยังมหาวิทยาลัยเจนีวา หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ที่บริเวณหนึ่งของชานชาลารถไฟ จากนั้นจึงเปิดแอปพลิเคชั่นแผนที่ขึ้นมาเปิดดู พร้อมกับเชื่อมต่อไวไฟสาธารณะในสถานีรถไฟ

              “เขาอีกแล้วเหรอ” แพรพรรณหรี่ตาลงเมื่อเห็นชายคนเดียวกับบนเครื่องบินโดยสาร มาลงสถานีเดียวกับเธอ แต่เธอไม่ได้ให้ความสนใจเขามากนัก แม้จะสงสัยเกี่ยวกับตัวเขาอยู่เต็มอกก็ตาม เธอสงสัยตั้งแต่อยู่ในเลานจ์ผู้โดยสารชั้นหนึ่งภายในสนามบินแล้ว ทำไมเขาทำเหมือนรู้จักเธอ และทำไมต้องให้ความช่วยเหลือเธอโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอเลย

              “เจอกันอีกแล้วนะครับ” เขาเป็นฝ่ายเดินมาทักทายเธอก่อน ชายหนุ่มโบกมือทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าคุณจะมาลงเจนีวาเหมือนกับผม”

              แพรพรรณยิ้มบาง ๆ ตอบ “ค่ะ”

              “คุณจะไปไหนล่ะ เผื่อไปเส้นทางเดียวกันจะได้ไปพร้อมกัน

    เลย” เขาจากที่เคยดูเย็นชาและท่าทีหยิ่ง ๆ กลับเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนแพรพรรณเริ่มรู้สึกบางอย่าง

              เธอเปิดแอพแผนที่ดูคร่าว ๆ “เอ่อ ฉันกำลังจะไปมหาวิทยา

    ลัยเจนีวาน่ะค่ะ พอดีฉันได้ทุนมาเรียนต่อที่นี่”

              อีวานยิ้ม เขามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอกำลังแบกกระเป๋าลากใบใหญ่พะรุงพะรัง พร้อมกับสะพายเป้ใบใหญ่บนหลัง เขาแย่งกระเป๋าล้อลากนั้นมาถืออย่างวิสาสะ เดินนำหน้าเจ้าของกระเป๋านั้นไปอย่างรวดเร็ว จนแพรพรรณต้องวิ่งตามด้วยความเหนื่อยหอบ

              “เดี๋ยวก่อนสิคะ กระเป๋าของฉัน คุณจะเอาไปไหน” เธอหอบหายใจเสียงดังพลางถามเขา

              อีวานตอบ “พอดีผมมาเรียนต่อที่นั่นเหมือนกัน ครอบครัวผมส่งรถมารับน่ะ เห็นท่าทางคุณเหมือนมาที่สวิสครั้งแรก ก็เลยคิดว่าไปพร้อมกันเลยดีกว่า ที่นี่โจรขโมยเยอะมาก คุณอาจจะไม่ทันระวัง”

              แพรพรรณดึงกระเป๋าของเธอคืนมาจากเขา สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้วางใจชายแปลกหน้าตรงหน้าเธอ “แล้วฉันจะเชื่อใจคุณได้ยังไง โจรมีทุกที่ คนเอเชียด้วยกันก็เป็นโจรได้”

              หญิงสาวย้อนเขากลับ เธอแย่งยกคันจับกระเป๋าล้อลากขึ้นมาแล้วเดินไปตามทางของตน

              หญิงสาวโบกมือเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง ซึ่งเธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับประเทศแถบยุโรปเลยคิดว่าการเดินทางด้วยแท็กซี่สาธารณะอาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด คงจะดีกว่าการเดินทางกับคนแปลกหน้าท่าทางแปลก ๆ อย่างชายคนนั้น

              “Go to Geneva University, sir” (ไปมหาวิทยาลัยเจนีวา) เธอขึ้นมาในรถแท็กซี่ ซึ่งมีชายชาวต่างชาติค่อนข้างมีอายุรูปร่างผอมเป็นคนขับ เขาสวมแว่นตากันแดดสีดำอันหนา ใช้ปลายนิ้วดันกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อย ปรับกระจกให้มองเห็นได้อย่างถนัดพลางกดมิเตอร์

              แพรพรรณนั่งมาในแท็กซี่สักพักหนึ่ง เธอปิดปากหาวหวอด ๆ ทำท่าคล้ายจะหลับแต่ก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้ลง เนื่องจากยังไม่ถึงมหาวิทยาลัยเจนีวา หญิงสาวมองหน้าปัดเวลาบนนาฬิกาข้อมือพร้อมกับเปิดแอปพลิเคชั่นแผนที่บนสมาร์ตโฟน พบว่าเลยเวลาที่จะถึงจุดหมายแล้ว และเส้นทางที่คนขับรถพามานั้นคือทางอ้อมเมือง ซึ่งจะมีผลทำให้มิเตอร์ค่าโดยสารราคาสูงขึ้น

              “Please, stop the car. We reach our destination a long time ago” (โปรดหยุดรถ เราถึงจุดหมายปลายทางนานแล้ว) แพรพรรณท้วงคนขับรถเป็นภาษาอังกฤษ แต่อีกฝ่ายแสร้งไม่เข้าใจ ทั้งยังตอบกลับมาด้วยภาษาฝรั่งเศสอันเป็นภาษาพื้นเมืองของชาวสวิตเซอร์แลนด์

              แพรพรรณกุมขมับ เธอมองเส้นลูกศรตามแผนที่บนสมาร์ตโฟน พบว่าคนขับรถกำลังเลี้ยวรถกลับไปที่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเธอ สายตาของเธอมองมิเตอร์สลับกับเส้นทางในบริเวณนั้น ความหวาดกลัวเกิดขึ้นจับใจ หากตอนนั้นเธอยอมตอบตกลงร่วมทางไปกับผู้ชายคนนั้นคงดีกว่านี้

              เธอมองราคาค่าโดยสารบนมิเตอร์ที่พุ่งสูงจนน่าตกใจ จากสนามบินเจนีวามาถึงมหาวิทยลัย ค่าโดยสารราคาพุ่งไปเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบสวิสฟรังก์[1] หากเทียบราคาเป็นเงินไทยก็เกือบ ๆ เจ็ดพันบาท! เธอตกใจจนหน้าซีด หยิบบัตรแทรเวลการ์ดสำหรับใช้ในสวิตเซอร์แลนด์พร้อมกับเปิดแอปพลิเคชั่นธนาคารเพื่อเช็คยอดเงิน เธอแลกเงินมาน้อยมาก อีกทั้งยังต้องมาเสียรู้กลโกงของแท็กซี่ที่นี่ เงินในบัตรรวมกับที่เธอแลกมามีเพียงหนึ่งแสนบาทเท่านั้น หากเจอค่าโดยสารราคานี้เข้าไป กอปรกับค่าอาหารและกินใช้ส่วนตัว เธอต้องเงินไม่พอใช้แน่ ๆ         

              ครั้นจะรอให้ปานฤดีมาถึงก็คงไม่ใช่

              รถแท็กซี่เข้ามาเทียบจอดที่หน้ามหาวิทยาลัย เธอไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน ไม่เคยเจอกลโกงรูปแบบนี้เลยไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี เธอหยิบเงินสดที่แลกมาหากจ่ายค่าโดยสารตอนนี้เธออาจจะมีเงินสดไม่พอใช้ เพราะบางร้านอาหารเขารับแค่เฉพาะเงินสดเท่านั้น

              กระทั่งเมื่อคนขับรถชักสีหน้าไม่พอใจ ด้วยความหวาดกลัวแพรพรรณจึงพยายามต่อรองขอใช้บัตรในการรูดชำระค่าโดยสารแทน ทว่าการใช้บัตรชำระนั้นย่อมมีค่าธรรมเนียมที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามเรตที่ธนาคารกำหนด และนับตามค่าเงินสกุลนั้น ๆ ในแต่ละวันที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงด้วย

              ก๊อก ๆ

              ประตูรถแท็กซี่โดยสารถูกใครคนหนึ่งเคาะจากด้านตรงข้ามทีแพรพรรณนั่งอยู่ หญิงสาวมองเห็นชายคนเดิมอีกแล้ว เขาสวมใส่ฮูดสีดำกำลังยืนมองเธอจากฝั่งตรงข้ามด้านหลังตำแหน่งคนขับ กระจกรถถูกลดลงพร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่งที่ถูกยื่นมาให้คนขับ

              แพรพรรณเดินลงจากรถแท็กซี่คันนั้น กล่าวขอบคุณเขาเป็นการใหญ่

              “คุณช่วยฉันอีกแล้วนะคะ...”

              อีวานเก็บฝ่ามือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกง ร่างสูงวางท่าทีไม่ใส่ใจ “คิดจะนั่งรถสาธารณะของที่นี่ คุณควรรู้เอาไว้นักท่องเที่ยวชาวเอเชียย่อมเป็นที่หมายตาของพวกมิจฉาชีพ”

              “แต่เงินนั่นเกือบเจ็ดพันบาทเลยนะ เดี๋ยวฉันโอนจากแอพ ธนาคารของไทยคืนคุณให้นะคะ” เธอหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากำลังจะเปิดแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ซึ่งมีเงินในนั้นจำนวนหนึ่งพอจะคืนเขาได้ แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธ ร่างสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรโน้มตัวลงมามองหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยืนทึมทื่อ

              ใบหน้าหล่อเหลาที่ผสมผสานความเป็นเอเชียและตะวันตกอย่างสมบูรณ์แบบทำให้แพรพรรณรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่เมื่อนึกว่าเธอจดทะเบียนสมรสกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของภูธวินแล้ว เธอไม่ควรเกิดความรู้สึกนี้กับผู้ชายคนอื่นที่มิใช่สามี

              “ไม่ต้องหรอกครับ แค่ให้ถือว่าคุณติดหนี้ผมครั้งนึงก็พอแล้ว” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกริ่ม พวงแก้มของแพรพรรณร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย “และให้คุณจำเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียน หากจะไปไหนก็เดินทางด้วยรถไฟจะสะดวกกว่า”

              “ขอบคุณค่ะ” เธอก้มหน้าตอบเขา ไม่กล้าสบตาคมคู่นั้นที่มีอานุภาพต่อหัวใจ

              “ผมชื่ออีวานนะ เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกับคุณ พักที่เดียวกับ

    คุณ เมื่อไหร่ที่คุณเดือดร้อนคุณมาหาผมได้เสมอ” เขายื่นมือมาต่อหน้า แพรพรรณจึงยื่นมือจับเขาเป็นการทักทายตามแบบตะวันตก

              “ชื่อพราวค่ะ”

              อีวานยิ้ม รอยยิ้มอบอุ่นนั้นไม่ส่งผลดีต่อใครเลยสักนิด “ครั้งนี้ถือว่าคุณพราวติดหนี้ผมแล้วนะครับ เงินนั้นไม่ต้องใช้คืนหรอก แค่ยอมติดหนี้บุญคุณผมครั้งนึงก็พอ”

              “ฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ” แพรพรรณรีบหันหลังเดินจากมาด้วยความรวดเร็ว เธอพยายามควบคุมความรู้สึกในใจไม่ให้หวั่นไหวไปกับการกระทำของเขา ตรงหน้าเธอคือหอพักที่ทางผู้มอบทุนการศึกษาจัดหาไว้ให้ระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่นี่หนึ่งปี หอพักแห่งนี้นับว่าหรูหรามีราคาจนเธอไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาเยือนสถานที่ของคนมีระดับแบบนี้

              หญิงสาวแจ้งพนักงานบริเวณล็อบบี้ พนักงานหญิงตรวจสอบการจองห้องพักรายปีสักครู่หนึ่ง จึงมอบกุญแจและให้พนักงานอีกคนที่เป็นผู้ชายบริการเข็นกระเป๋าสัมภาระไปส่งยังห้องพัก ทว่าแพรพรรณปฏิเสธเนื่องด้วยความหวาดกลัวจากแท็กซี่คันนั้นยังไม่จางหายไป

              เธอยกกระเป๋าสัมภาระเข้ามาในลิฟต์ กดเลือกชั้นบนสุดที่ถูกจองเอาไว้ด้วยผู้มีอุปการะคุณที่สนับสนุนทุนนี้ให้เธอ หากว่าเรียนจบในคราวนี้ เธอตั้งใจจะใช้ทุนและตอบแทนผู้มีพระคุณรายนี้อย่างเต็มที่ ๆ มอบความเมตตาให้เธอมากขนาดนี้

              เสียงสัญญาณของลิฟต์ดังขึ้นประตูเปิดออกที่ชั้นหก ซึ่งเป็นชั้นห้องพักของเธอ แพรพรรณลากกระเป๋าล้อลากออกมาอย่างรวดเร็ว เดินหาห้องพักตามหมายเลขที่ถูกระบุเอาไว้บนคีย์การ์ด กระทั่งเดินมาถึงริม

    สุด ซึ่งระบุเลข 10 ซึ่งเป็นเลขห้องพักของเธอ

              เลขที่ห้องพักก็เลขสิบ ซึ่งตรงกับวันเกิดของเธอคือวันที่สิบพฤษภาคมพอดี หญิงสาวยิ้มบาง ๆ ก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะบริเวณด้ามจับประตูเข้าไปด้านใน ซึ่งถูกตกแต่งภายในอย่างสวยงามและหรูหรา 

              แพรพรรณมองการตกแต่งภายในด้วยความตื่นตะลึง เฟอร์นิเจอร์ภายในทุกชิ้นล้วนทำจากวัสดุชั้นดี อีกทั้งยังมีราคาแพง

    จนเธอแทบไม่กล้าสัมผัสเฟอร์นิเจอร์ภายใน หญิงสาวเดินเข้าไปภายในห้องนอน ยกกระเป๋าล้อลากมาวางบนเตียงกำลังจะหยิบเสื้อผ้าที่นำมาด้วยมาจัดใส่ตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ

              เสียงสมาร์ตโฟนของเธอดังขึ้น แพรพรรณหยิบขึ้นมาพบว่าเป็นปานฤดีที่กำลังวีดีโอคอลมาหาเธอจากเมืองไทย

              เธอกดรับสายเพื่อนรักที่กำลังจะเดินทางตามมาอีกไม่นานนี้

              “(ว่าไงจ๊ะเพื่อน ที่เจนีวาเป็นไงบ้าง)” ปานฤดีถาม

              แพรพรรณยิ้ม เธอแพนกล้องไปทั่วบริเวณห้องนอน “เพิ่งมาถึงห้องพักนี่ล่ะ เป็นไง ห้องนอนฉันสวยป่ะ”

              ปานฤดีนัยน์ตาลุกวาว “(แก)” หญิงสาวเสียงสูงด้วยความตื่นตะลึง “(มันสวยมาก!)”

              “(เอ้อ แต่ว่าการเดินทางของแกราบรื่นใช่มั้ย ไม่ติดปัญหาอะไรนะ หรือว่าแกลืมอะไรไว้ที่ไทยหรือเปล่า ตอนไปหาแกฉันจะได้เอาไปให้)” ปานฤดีถามด้วยความห่วง เธอเห็นใบหน้าของเพื่อนสาวกำลังถอนหายใจจึงรู้ได้ทันทีว่าต้องเจอเรื่องไม่ดีมาแน่นอน

              “(แกถอนหายใจมาแบบนี้ แกมีอะไรหรือเปล่าพราว)” ปานฤดี

    มองอย่างจับผิด

              แพรพรรณตอบน้ำเสียงเนือย ๆ “คือฉันเจอแท็กซี่โกงมิเตอร์น่ะ...”

              “(แก! โอ๊ย ฉันนี่กังวลแล้วนะ แกจะอยู่ลำพังคนเดียวได้มั้ยเนี่ยหากฉันไม่ได้อยู่ด้วย)” ปานฤดีเป็นกังวลแทนเพื่อนสาว

              “ไม่ต้องกังวลหรอกษา เมื่อกี๊ฉันได้คนใจดีช่วยจ่ายค่าโดยสารแทนน่ะ เอาไว้หากมีโอกาสคงได้ตอบแทนเขา” เมื่อคิดถึงความใจดีที่อีวานยื่นให้ แพรพรรณกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าเธอต้องสลัดไล่ความคิดนั้นออกไป เธอมีภูธวินเป็นสามีอยู่แล้ว และอีกหนึ่งปีนับจากนี้หากเธอเรียนจบเธอจะได้สร้างครอบครัวกับเขา คงไม่มีทางได้เจอกับอีวานแล้ว


     


    [1]สกุลเงินพื้นฐานของสวิตเซอร์แลนด์ โดย 1 Swiss Franc = 41.15 THB

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×