คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : The Thorns
Chapter 8
For the beauty of the rose we also water the thorns.
(เพื่อความงดงามของดอกกุหลาบแล้ว พวกเราล้วนรดน้ำเพื่อหนามของมันด้วยเช่นกัน)
ท้องฟ้ายามรัตติกาลสีดำสนิท สีเดียวกับเส้นผมของชายตรงหน้า ดวงจันทร์เสี้ยวบนฟากฟ้าช่วยให้แสงสว่างในยามราตรีได้ไม่มากนัก ภาพตรงหน้าจึงยิ่งขับให้ความรู้สึกอ้างว้างในใจของเธอทวีคูณเป็นเท่าตัว สาวน้อยกลืนน้ำลายอึกหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของชายตรงหน้า
“มานั่งสิ...”
ซันซัสพูดขึ้นมา คำเชิญชวนที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยิน มือใหญ่หยิบแก้วตรงหน้าก่อนจะกระดกของเหลวในนั้นลงไปจนหมด สาวน้อยที่เตรียมใจสำหรับสถานการณ์นี้มาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงกลายเป็นว่าการกระทำทั้งหมดของเธอถูกควบคุมโดยเจ้าของปราสาท เธอทำได้แค่วิ่งเต้นไปบนกำมือของเขา ร่างเล็กเดินไปก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา
แววตาสีแดงจ้องมองเธอ แววตาราวกับนักล่าเจอเหยื่อที่ถูกใจ
เหยื่อที่ว่า ก็คงเป็นเธอนั่นแหละ
“คุณหนูแสนดีคนนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ”
คำถากถางที่เขาพูดออกมาทำให้สาวน้อยหน้าเสียเล็กๆ ซันซัสรินเหล้าลงในแก้วที่เขาเพิ่งดื่มไปเมื่อครู่ ก่อนจะเลื่อนแก้วไปทางสาวน้อยเบื้องหน้า
ดวงตาสีแดงเพลิงของเขามองภาพเบื้องหน้าด้วยอารมณ์ที่เธอตามไม่ทัน
เหมือนกับว่า… ภาพที่เขาเห็นให้ความรู้สึกสนุกเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เคียวโกะปฏิเสธ พยายามสบตาทั้งๆที่ในใจรู้สึกกลัว
“แน่ใจหรอ... คุณหนูคนดีของวองโกเล่”
คำพูดของเขาที่ถากถางเธออีกครั้ง ทำให้เธอเริ่มปฏิเสธชายตรงหน้ายากขึ้น สาวน้อยมองของเหลวสีอำพันในแก้วตรงหน้า ความหวานในลำคอที่เธอจินตนาการตามได้ กลิ่นของมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนเท่าเมื่อวานแล้ว
เหมือนซันซัสรู้ว่าถ้าเขารออีกไม่นาน สาวน้อยแสนดีตรงหน้าจะหยิบแก้วขึ้นมาเอง
เคียวโกะยื่นมือไปหยิบแก้วตรงหน้าขึ้นมา ก่อนจะกระดกลงไปช้าๆจนหมด ความหวานที่แผดเผาในปากเล็กและลำคอ รสชาติของมันที่ไม่เหมือนกับอะไรทั้งสิ้นบนโลกใบนี้ เธอวางแก้วเปล่าลงเบื้องหน้า
ความทรมานจากความร้อนที่แผดเผาในลำคอ ไม่มากเมื่อเทียบกับคืนเมื่อวาน
“ฮ่าๆๆ พวกสวะนั่น ทุเรศเป็นบ้า”
ซันซัสหัวเราะออกมา คำสถบที่เธอไม่รู้ว่าหมายถึงใคร นั่นทำให้เธอทำตัวไม่ถูกทันที
ดวงตาสีอำพันสบกับดวงตาสีแดงตรงหน้าด้วยความงุนงง เธอไม่รู้ว่าประโยคของเขาหมายถึงใคร พยายามใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองชายเบื้องหน้า เผื่อเขาจะให้คำตอบที่เธอติดใจอยู่
แต่ราวกับว่าการปล่อยให้สาวน้อยแสนดีตรงหน้างุนงงต่อไป เป็นความบันเทิงอย่างที่สุด
มือใหญ่ยกขวดวิสกี้ขึ้นมาก่อนจะรินลงไปในแก้วที่ว่างเปล่านั้นครึ่งหนึ่ง
“วันนี้ของดีกว่าเมื่อวานอีก เอาเลยสิคุณหนูคนดี...”
สรรพนามที่ถากถางทำให้เคียวโกะทำตัวไม่ถูก รสชาติหวานในปากที่เธอสัมผัสได้ทำให้เธออยากลิ้มลองของเหลวเบื้องหน้าอีกครั้ง มือเล็กยื่นไปก่อนจะหยิบแก้วขึ้นมาแล้วกระดกวิสกี้ลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้ง่ายดาย ความร้อนไม่แผดเผาลำคออีกต่อไป
กลิ่นของมันเริ่มทำให้สาวน้อยมึนงง บรรยากาศที่เธอรับรู้ได้จึงเริ่มเปลี่ยนไป
ความกล้าทำให้เธอถามคำถามที่ติดอยู่ในใจกับชายตรงหน้า
“ทุกคนหายไปไหนหรอคะ?”
แววตาสีแดงที่กินเลือดกินเนื้อนั้นจ้องมองสาวน้อยที่เริ่มมึนเมาตรงหน้า ก่อนจะเหยียดยิ้มออกมา
“พวกโง่นั่นก็อยู่ในปราสาทนี่แหละ”
น้ำเสียงน่าเกรงขามเอ่ยขึ้น น้ำเสียงที่ราวกับโทสะท้วมท้นในใจ แต่สาวน้อยที่มึนงงไม่รับรู้ถึงโทสะนั้นเลย เป็นเพราะสมองของเธอถูกกดจากความกลัวอย่างสิ้นเชิง
ซันซัสรู้สึกสนุกกับภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างมาก ภาพของสาวน้อยผมสีน้ำผึ้งยาวที่ใบหน้าเริ่มเคลิ้มลอยด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เขาเทวิสกี้ลงไปในแก้วก่อนจะกระดกมันลงไป ดวงตาสีอำพันที่พร่าเบลอมองตามการกระทำของชายตรงหน้า
เธอเพิ่งเคยมองใบหน้าของเขาในระยะใกล้ขนาดนี้ รอยแผลเป็นบนใบหน้าแข็งกร้าวนั้น รวมกับดวงตาสีแดงเพลิง ทำให้ใบหน้าของชายคนนี้น่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้ หัวใจรู้สึกหวิวทันทีที่เธอสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของชายตรงหน้า ความกลัวที่เกิดขึ้นตีกับสมองที่ถูกกดการรับรู้ไว้ทำให้เธอเริ่มมึนงง
แก้วเปล่าที่ถูกรินเหล้าลงไปวางอยู่เบื้องหน้าเธออีกครั้ง
ความรู้สึกไม่มั่นคงในใจของเธอตอนนี้ ทำให้มือเล็กยื่นไปหยิบแก้วตรงหน้าก่อนจะดื่มของเหลวในนั้นลงไป ความร้อนที่แผดเผาก่อนจะเปลี่ยนกลายเป็นความหวาน ไม่นานภาพตรงหน้าก็เบลอลง ความกลัวในใจที่ถูกกดไว้อีกครั้ง สมองที่โล่งจนรู้สึกเบาสบาย
เคียวโกะเริ่มเรียนรู้แล้วว่าของเหลวตรงหน้าช่วยทำให้จิตใจของเธอสงบลงได้ ประสาทการรับรู้ของเธอเริ่มพร่าเลือน เธอเริ่มรับรู้ถึงชายตรงหน้าน้อยลงเรื่อยๆ
แก้วเปล่าที่ของเหลวค่อยๆไหลลงไปเติมเต็มอีกครั้ง สาวน้อยจ้องมองของเหลวที่สีเหมือนดวงตาเธอไม่มีผิด สายตาเคลิ้มลอยจ้องมองภาพตรงหน้า
มือเล็กยื่นไปหยิบของเหลวที่ส่งกลิ่นเย้ายวนขึ้นมาดื่ม ไม่นานสติก็เริ่มพร่าเลือน เธอได้ยินเสียงของชายตรงหน้าพูดกับเธอ ประโยคที่เธอฟังไม่ได้ความเท่าไร
“ผู้หญิงอย่างเธอหน่ะ... อยู่กับพวกสวะนั่นไม่ได้หรอก”
ประโยคสุดท้ายก่อนที่ประสาทการรับรู้ทั้งหมดของเธอจะถูกปิดลง
มีเพียงความว่างเปล่าที่เธอรับรู้ได้ในตอนนี้…
------------------------------------------
------------------------------------------
3 ต.ค. 2564
จริงๆเขียนตอน 6-8 ไว้ตั้งแต่วันเสาร์แล้วค่ะ ตอนนั้นเหลือแต่เกลาคำ แต่เมื่อวานมู้ดเรื่องนี้แล่นมากไรท์เลยไปเขียนโครงเรื่องย่อใหม่แบบละเอียดๆ ใช้เวลาไปทั้งวันเลย ดูทรงแล้วเรื่องนี้จะจบก่อนเรื่องอื่นแน่เลยค่ะ 555 แต่มู้ดเรื่องนี้บิ้วยากมากไรท์จะรีบแต่งให้จบนะคะ เรื่องอื่นรอได้ เราต้องแล่นเรือผีก่อน
ความคิดเห็น