ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF] ♡ Happy X'Mas & HNY ♡ - My Manito - 1/3
Date - 20/12/2016 –
♡ Happy X'Mas & HNY ♡
- My Manito -
20 Dec 2016
กล่องสี่เหลี่ยมสีขาวสะอาดตาถูกวางอยู่บนโต๊ะรับแขกวินเทจสีน้ำตาลอ่อนภายในห้องรับแขก สายตาของเด็กหนุ่มทั้งแปดคนจดจ่อไปถึงสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในอย่างตื่นเต้น ในขณะที่ภายนอกบานหน้าต่างได้สะท้อนให้เห็นว่าหิมะท่ามกลางเดือนธันวาคมยังคงโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย
“วันนี้ยี่สิบธันวาคม เราจะเล่นมานิโต้กันแค่ห้าวันเท่านั้น เฉลยอีกทีวันคริสต์มาส โอเคนะ?” จอง แจฮยอน เอ่ยออกมาก่อนจะสบสายตากับเหล่าน้องชายอีกเจ็ดคนที่เหลือ
“ผมยังงงๆกติกาอยู่เลยอ่ะพี่แจฮยอน ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหมครับ?” หวง เหรินจวิ้น ส่งคำถามออกมาก่อนจะลอบมองไปที่กล่องสีขาวใบเดิมด้วยความไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวผมอธิบายเอง! พี่เงียบเลย” ลี แฮชาน ตัดบทก่อนที่พี่คนโตสุดจะได้เอ่ยคำใดออกไปเสียด้วยซ้ำ
แจฮยอนผู้เป็นเจ้าของบ้านส่ายหน้าไปมาเบาๆให้กับความแสบซนของแฮชานก่อนจะลอบมองลูกพี่ลูกน้องอย่าง นา แจมิน ที่กำลังนั่งพิงไหล่พี่ชายข้างบ้านอย่าง มาร์ค ลี ด้วยความแนบชิดจนทำเอาเขาต้องรีบดึงร่างของเจ้าตัวเล็กให้ถอยห่างออกมา
เผลอเป็นไม่ได้เลย เด็กสองคนนี้!
“พี่แหละเงียบไป เดี๋ยวผมอธิบายเอง” จง เฉินเล่อ โบกมือไปมาที่ใบหน้าแฮชานราวกับต้องการสั่งให้อีกฝ่ายเงียบไป
“นายซิเงียบไปเฉินเล่อ!”
“ก็พี่แฮชชอบพูดไม่รู้เรื่องอ่ะ ใครจะอยากฟังพี่อธิบายกัน”
“พี่อธิบายไม่รู้เรื่องหรือนายฟังไม่เข้าใจกันแน่หะ!” แฮชานตอบกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้
“โอ๊ย! นี่ก็จะเถียงอะไรกันทุกวันเนี่ย” ลี เจโน่ เอ่ยออกมาด้วยท่าทีเบื่อหน่ายก่อนจะกลอกตาไปมาอย่างนึกรำคาญใจกับการโต้เถียงกันแทบทุกครั้งที่เจอหน้าของแฮชานและเฉินเล่อ
“นั่นซิครับ…รีบให้ใครสักคนอธิบายกติกาการเล่นแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านเถอะ” ปาร์ค จีซอง พูดตัดบทขึ้นมาก่อนที่แจมินจะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อน้องเล็กสุดในกลุ่มเริ่มจะอดทนไม่ไหวกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“ผมว่าพี่แจฮยอนรีบอธิบายแล้วรีบจับฉลากกันเถอะครับ” มาร์คเอ่ยข้อเสนอขึ้นมาก่อนจะเอนหลังพิงไปที่โซฟา
“โอเค! งั้นทุกคนเงียบแล้วฟังนะ… กติกาการเล่นมานิโต้เกมส์คือเราจะเริ่มต้นด้วยการจับฉลากรายชื่อของพวกเราที่อยู่ในนี้” แจฮยอนเคลื่อนสายตาไปที่กล่องสีขาวใบเดิมก่อนจะอธิบายต่อ “ซึ่งถ้าหากเราจับได้ชื่อของใคร คนๆนั้นก็คือมานิโต้ของเราที่จะต้องคอยดูแลเขาตลอดระยะเวลาห้าวันก่อนเฉลย มันจะคล้ายๆกับการมีใครสักคนหนึ่งมาคอยดูแล คอยแอบให้ของขวัญเราแบบไม่เปิดเผยตัวนั่นแหละ”
“ก็ประมาณนี้แหละ ความสนุกของมันอยู่ตรงที่เราจะแอบให้ของขวัญกับอีกฝ่ายยังไงไม่ให้ถูกจับได้น่ะ” แจมินอธิบายเพิ่มเติมขึ้นมา
“อีกอย่างคือเราไม่ได้จำกัดว่าการดูแลมานิโต้ต้องมาในรูปแบบของขวัญเท่านั้น จะเป็นการดูแลให้ความช่วยเหลือถือว่าทำได้หมด ขอแค่อย่าให้ถูกจับได้ก็พอ” มาร์คเอ่ยออกมาในขณะที่ทุกคนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“ทั้งนี้เราไม่ได้บังคับว่าภายในห้าวันที่เราเล่นเกมส์นี้จะต้องมีของขวัญให้กี่ชิ้น ทุกๆอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวเราว่าอยากดูแลมานิโต้ของเรามากน้อยแค่ไหน โดยจะแอบให้ของขวัญตั้งแต่ภายในห้าวันที่เราเริ่มเล่นเกมส์นี้กันหรือจะรอชิ้นเดียววันเฉลยเลยก็ได้นะ” แจฮยอนเสริมขึ้นมาอีกครั้ง
“โอ้โห! งี้ใครได้มานิโต้ที่เป็นสายเปย์ก็สบายเลยซิ” ประโยคของเฉินเล่อทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างนึกขบขัน
“โอเคเนาะ ทีนี้ก็เข้าใจกติกากันชัดเจนแล้ว” แจฮยอนเคลื่อนกล่องสีขาวที่เขาได้จัดการทำฉลากรายชื่อของทุกคนเรียบร้อยแล้วมาวางตรงหน้า “อ่ะ…เชิญน้องเล็กจับฉลากก่อนเลย อย่าลืมว่าอย่าให้ใครเห็นนะ โดยเฉพาะเจ้าของชื่อที่อยู่ในกระดาษของเรา”
กล่องกระดาษถูกเวียนไปจนครบจำนวนคน เหล่าพี่ชายน้องชายภายในกลุ่มต่างออกไปเปิดดูชื่อมานิโต้ของตนตามมุมต่างๆของบ้านเพราะกลัวความลับจะถูกเปิดเผย สีหน้าบางคนก็ตกใจเสียจนน่าขำ ในขณะที่บางคนเพียงระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เอาหล่ะ…มานิโต้เกมส์เริ่มขึ้นแล้ว ขอให้สนุกนะทุกคน” แจฮยอนกล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้มก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับบ้านของตนที่อยู่ในละแวกเดียวกัน
*****
เสียงสัญญาณที่ดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว เหล่านักเรียนมอปลายปีหนึ่งอย่างแฮชาน เจโน่และแจมิน ต่างเก็บอุปกรณ์การเรียนและหนังสือลงกระเป๋าอย่างเร่งรีบ เพราะทางด้านเหรินจวิ้น เฉินเล่อและจีซองที่เรียนคนละโรงเรียนก็คงจะมารอพวกเขาที่หน้าโรงเรียนแล้วเช่นกัน
วันนี้พวกเขามีนัดไปคาเฟ่ขนมหวานตามคำชวนของพี่ชายคนโตอย่างแจฮยอนที่ออกปากจะเลี้ยงน้องชายอย่างแจมินที่ชื่นชอบของหวานเป็นพิเศษ แต่พอบรรดาเพื่อนสนิทของน้องชายคนดีรู้เข้าก็ขอติดสอยห้อยตามมาโดยไม่ถามความสมัครใจของแจฮยอนแม้แต่น้อย
แจมินเดินออกมาจากห้องเรียนเป็นคนแรก เขาพบว่ามาร์คกำลังยืนรออยู่ก่อนแล้ว ในทุกๆวันยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป มาร์คยังคงมารอแจมินที่หน้าห้องเรียนเพื่อกลับบ้านพร้อมกันจนเจ้าเพื่อนตัวแสบของแจมินพากันเอ่ยปากถามถึงสถานะความสัมพันธ์ของคู่พี่น้องคนสนิทหลายต่อหลายครั้ง
มาร์คเดินไปดึงกระเป๋าเป้ใบใหญ่มาจากแผ่นหลังบางของอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ เขาไม่ชอบเห็นแจมินต้องลำบากแม้ว่านี่มันจะเป็นเพียงแค่กระเป๋านักเรียนก็ตามที
“ก็นี่แหละนะ คนที่เป็นพี่น้องเขาก็ทำงี้แหละนะ” แฮชานเอ่ยแซวออกมาก่อนจะมองไปที่มาร์คและแจมินอย่างล้อเลียน
“มึงนี่ก็ไปแซวมัน แจมินบอกว่าพี่น้องก็พี่น้องดิวะ” เจโน่หันไปต่อว่าแฮชานก่อนจะหันกลับมาที่มาร์คและแจมิน “แปลกตรงไหน แค่พี่มาร์คตามมากินข้าวกลางวันกับแจมินทุกวัน ตอนเย็นมารอรับกลับบ้านพร้อมกันงี้ ก่อนนอนก็คุยกันทุกคืน พี่น้องชัดๆมึง” เจโน่ว่าออกมาก่อนจะยกมือไฮไฟว์กับแฮชานจนโดนเพื่อนตัวเล็กฟาดเข้าให้ที่ไหล่แกร่งนั้น
“เจโน่! แฮช!” ใบหน้าแสนงอแงอย่างนึกขัดใจของแจมินทำเอาเจ้าเพื่อนตัวแสบพากันหัวเราะลั่น
“รีบไปได้แล้ว ป่านนี้พี่แจฮยอนมารอที่ร้านแล้วมั้งน่ะ” มาร์คยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนจะพบว่าใกล้จะถึงเวลานัดเต็มทีแล้ว
“เดี๋ยวถ้าแกล้งเราอีก เราจะไม่ให้พี่แจฮยอนเลี้ยงขนมพวกนายแน่ๆ!” คนตัวเล็กทำท่าขู่เจโน่และแฮชานแต่กลับทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาอีกครั้ง
ในจังหวะที่เจโน่กระชับกระเป๋าเป้ให้สะพายได้สะดวกยิ่งขึ้น ซิปที่ถูกปิดอย่างไม่สนิทนั้นได้ทำให้มีของบางอย่างร่วงหล่นลงมา แจมินที่เป็นฝ่ายเห็นก่อนรีบชี้ให้ทุกคนดู เมื่อพบว่าของชิ้นนั้นเป็นขนมมาการองรูปมินเนี่ยนที่ถูกแพ็คไว้ในซองใสอย่างน่ารัก และกระดาษโน้ตที่มีข้อความบอกใบ้อยู่บนนั้นก็ทำให้ทุกคนถึงกับตาโตขึ้นมา
‘กินให้อร่อยนะมานิโต้ คิคิ~’
“เฮ๊ย! ได้มาตอนไหนวะ?” เจโน่โวยวายออกมาอย่างตกใจก่อนจะมองไปที่อีกสามคนที่ยืนอยู่ด้วยกันอย่างนึกสงสัย
“อะไร! เราเปล่านะ เราไม่ใช่มานิโต้ของเจโน่นะ” แจมินยกมือโบกเป็นปฏิเสธอย่างลนลานจนทำเอาเจโน่ยิ่งมองเขาอย่างนึกจับผิด
“แต่เมื่อเช้ามึงมาโรงเรียนพร้อมกับสองจีนละก็จีซองด้วยไม่ใช่เหรอ?” แฮชานส่งประโยคสร้างความสับสนให้กับเจโน่มากขึ้นไปอีก
เจโน่จำได้ว่าเป็นเพราะเขาตื่นสายจึงมาไม่ทันเวลาปกติที่มักจะขึ้นรถประจำทางมาพร้อมกับมาร์ค แจมินและแฮชาน เมื่อเช้าเขาต้องมาขึ้นรถในรอบรถประจำทางพร้อมกับเหรินจวิ้น เฉินเล่อและจีซองที่โรงเรียนใกล้บ้านกว่าจึงออกได้ช้ากว่านิดหน่อย ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงที่เริ่มใกล้เวลาเข้าเรียนและทำงานของใครหลายๆคนจึงทำให้ผู้โดยสารค่อนข้างแออัด และเฉินเล่อกับจีซองที่เป็นฝ่ายได้นั่งทำให้เขากับเหรินจวิ้นที่ยืนอยู่จึงต้องฝากกระเป๋าเป้ไว้ที่อีกสองคน ซึ่งอาจจะเป็นใครคนใดคนหนึ่งที่ได้ถือกระเป๋าของเขาไว้
“กูปวดหัวโว้ย! มึงหรือเปล่าไอแฮช?” เจโน่ถามออกมาอย่างจับผิดก่อนจะหันไปทางพี่โตสุดในนี้อย่างมาร์คที่ยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่ได้เป็นมานิโต้ของเจโน่
“แต่ของขวัญแม่งแบ๊วชิบหาย คนให้นี่ต้องปัญญาอ่อนเบอร์ไหนวะ?” แฮชานว่าก่อนจะหัวเราะออกมา
“แฮชนี่ไม่มีมารยาทที่สุดในสามโลกเลยอ่ะ ชอบว่าคนอื่นไปทั่ว” แจมินว่าก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“แหม! มึงนี่ก็โลกสวยจ๊นนนนแจมิน ไปๆ รีบเดินไปกับพี่มาร์คลีของมึงเลย ไปถึงร้านแล้วพี่แจฮยอนไม่ให้มึงสวีทกันหรอกนะ” แฮชานว่าก่อนจะเดินนำหน้าออกไปกับเจโน่ ทิ้งให้แจมินยืนโวยวายไล่หลังมาก่อนจะถูกมาร์คยกฝ่ามือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มนั้นให้คนเป็นน้องใจเย็นลง
“ไปกันได้แล้วครับน้องแจม พี่แจฮยอนส่งข้อความมาตามแล้วนะ” มาร์คเอ่ยออกมาก่อนจะยิ้มให้คนตรงหน้า
“แต่แฮช…!”
“ไปกินขนมหวานที่น้องแจมชอบดีกว่าเนอะ” มาร์คว่าก่อนจะเคลื่อนมือหนาให้กอบกุมแก้มใสของแจมินอย่างต้องการให้คนเป็นน้องใจเย็นลงอีกครั้ง
พอเห็นทุกอย่างเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ มาร์คจึงเอื้อมมือไปคว้ามือเรียวของแจมินไว้ให้เดินออกไปพร้อมกัน พวกเขาเดินตามออกไปก่อนจะพบว่าแฮชานและเจโน่ยืนอยู่กับเหรินจวิ้น เฉินเล่อและจีซองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อีกสามคนที่เป็นฝ่ายรอมีท่าทีหงุดหงิดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช่ระยะเวลาที่นานนัก เมื่อระหว่างทางที่เดินไปที่คาเฟ่ขนมหวานตามที่นัดหมาย เสียงหัวเราะและพูดคุยก็ดังขึ้นอย่างคึกคักอีกครั้ง
ใช้เวลาเดินเพียงชั่วครู่คาเฟ่ขนมหวานที่อยู่ในละแวกโรงเรียนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ย่านนี้เป็นสถานที่ใจกลางเมืองระหว่างโรงเรียนและละแวกบ้านของพวกเขา ความจริงแล้วหากมีเวลาที่มากพอก็สามารถเดินไป-กลับโรงเรียนได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจจะทำให้เสียเวลาไปไม่น้อยเช่นกัน พวกเขาจึงใช้บริการรถประจำทางมากกว่าการเดินเท้าในช่วงเช้า
แจฮยอนมองผ่านกระจกใสออกมานอกร้านและโบกมือเป็นสัญญาณให้กับเหล่าน้องชายของเขา ก่อนจะชี้มือมาพร้อมกับสายตาไม่พอใจของเจ้าตัวที่ถูกส่งมาเมื่อพบว่ามาร์คยังคงจับมือแจมินไว้
มาร์คหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือนิ่มนั้นให้เป็นอิสระอย่างไม่เต็มใจนัก แจฮยอนหวงแจมินยิ่งกว่าอะไร ข้อนี้เขารู้ดีที่สุด
“ไม่มากันพรุ่งนี้เลยล่ะ!” แจฮยอนว่าน้ำเสียงดุก่อนจะชี้หน้าคาดโทษรายคน แต่ถึงอย่างนั้นเครดิตการ์ดก็ถูกส่งออกมาให้แต่ละคนไปเลือกสั่งของที่ต้องการ
“แจมินจะโชคดีเกินไปแล้วนะครับ มีพี่ชายใจดีขนาดนี้แถมพี่ชายข้างบ้านก็ยังตามดูแลไม่ห่างอีก” เหรินจวิ้นว่าออกมาก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะให้กับประโยคนั้น
“จริงๆก็อยากจะดูแลให้ชัดเจนกว่านี้อะนะ แต่ถูกคนบางคนขอร้องไว้” มาร์คว่าออกมาอย่างเป็นปริศนาก่อนจะเดินออกไปที่เคาน์เตอร์บาร์ของร้านเพื่อสั่งขนม ในขณะที่คนอื่นๆค่อยๆลุกตามไปจนเหลือเพียงแค่แจฮยอนและแจมินเพียงสองคน
“ที่พี่มาร์คพูดหมายความว่าไงอ่ะแจคนโต?” แจมินส่งประโยคคำถามพร้อมด้วยสรรพนามที่ใช้เรียกแจฮยอนยามที่อยู่ด้วยกันสองคน
“ไม่ต้องรู้หรอกเจ้าแจคนเล็ก”
“ได้ไงเล่า! เค้าสงสัยนะ บอกมาเถอะ” กระพริบตาปริบๆอ้อนต่อคนเป็นพี่
“ก็ใกล้จะถึงเวลานั้นแล้วหล่ะ อดทนหน่อยแล้วกัน”
“พูดอะไรง่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลย” ใบหน้าหวานยู่ปากอย่างนึกขัดใจที่พี่ชายของตนไม่ยอมเอ่ยปากที่จะเล่าสิ่งใดให้ฟัง
“ไปสั่งขนมได้แล้วเจ้าตัวดื้อ” แจฮยอนใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากมนของน้องชายเบาๆก่อนที่แจมินจะลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อเตรียมไปสั่งขนมที่ตนเองชอบ
“นั่งเถอะ พี่สั่งขนมที่น้องแจมชอบมาแล้วหล่ะ” สิ้นเสียงของมาร์คก็ตามมาด้วยเสียงโห่แซวของทุกคนที่เดินตามมาหลังจากสั่งขนมเสร็จ
ใช้เวลาสักพักขนมทุกอย่างก็ถูกจัดเตรียมจนเสร็จเรียบร้อย พนักงานของทางร้านช่วยยกขนมจำนวนแปดที่ออกมาวางจนเต็มโต๊ะ แจฮยอนถอนหายใจออกมาเมื่อพบว่าข้อความแจ้งเตือนที่สมาร์ทโฟนของเขาได้แจ้งถึงยอดเงินที่ถูกใช้ไป
แต่อย่างน้อยเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานและรอยยิ้มแห่งความสุขของน้องชายที่เติบโตมาด้วยกันก็ทำให้เขาไม่นึกเสียดายเงินเหล่านั้นแม้แต่น้อย
แจฮยอนพบว่าแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนกำลังจะหมดลงไป เขาหันไปเปิดกระเป๋าเป้ของตนเพื่อเตรียมหยิบแบตสำรองออกมา แต่แล้วพวงกุญแจรูปมูมินที่วางอยู่บนกระเป๋าพร้อมกับกระดาษโน้ตที่บ่งบอกว่าของขวัญชิ้นนี้มาจากมานิโต้ของเขาก็ทำให้แจฮยอนรีบหยิบพวงกุญแจที่ว่าขึ้นมาทันที
“เร็วมากกกกกก แอบมาให้ตอนไหนเนี่ยยยยยย” แจฮยอนยกพวงกุญแจพร้อมกับกระดาษโน้ตแผ่นนั้นขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่ทุกคนเห็นทำให้ต่างชี้ไปที่เหรินจวิ้นอย่างพร้อมเพรียง เพราะรู้ดีว่าอีกคนชอบเจ้าตุ๊กตามูมินนี้มากแค่ไหน
“ไม่ใช่ผมนะพี่แจฮยอน ทำไมผมต้องให้อะไรที่เสี่ยงต่อการจับได้แบบนี้ล่ะ?” เหรินจวิ้นว่าออกมาอย่างลนลาน
“ละแม่งทุกคนก็เดินผ่านพี่หมด ให้ตาย…หาผู้ต้องสงสัยไม่ได้เลย” แจฮยอนส่ายหน้าอย่างยอมแพ้ต่อการหาตัวมานิโต้ของเขา
“น้องพี่ก็เป็นมานิโต้ไอโน่อ่ะพี่แจฮยอน” แฮชานบอกกับแจฮยอนก่อนจะหลบฝ่ามือของแจมินที่เตรียมฟาดลงมา
แฮชานยกกระเป๋าเป้ของตนเองขึ้นมาบังก่อนจะพบว่าหนังสือคัดตัวอักษรเกาหลีของนักเรียนอนุบาลได้ร่วงหล่นลงมา โดยกระดาษโน้ตที่ถูกแปะไว้ทำเอาแฮชานโวยวายออกมาอย่างโมโห
‘จะได้เลิกลายมือเป็นลายแทงนะคุณมานิโต้’
ทันทีที่อ่านประโยคดังกล่าวจบก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมาลั่นคาเฟ่ขนมหวานทันที แฮชานชี้ไปที่เฉินเล่อในวินาทีต่อมาเพราะมีแต่เจ้าตัวแสบคนนี้ที่คอยติเรื่องราวเกี่ยวกับเขาในทุกๆเรื่อง
“เฮ๊ย! ผมเปล่านะพี่แฮช ครั้งนี้ไม่ได้ทำจริงๆ” เฉินเล่อปฏิเสธออกมาก่อนจะชี้ไปทางเจโน่ “พี่เจโน่หรือเปล่าครับ คนที่เป็นรุ่นน้องพี่จะทำงี้เหรอ?” สิ้นเสียงของเฉินเล่อ แฮชานก็ชกไปที่แผ่นหลังของเจโน่เบาๆ
“มึงนี่ก็หูเบาจ๊นนนน ไม่ใช่กูโว้ย!” เจโน่ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงรำคาญใจ
“ก็ไม่เห็นต้องไปตามหาความจริงสักหน่อย เดี๋ยววันคริสต์มาสก็รู้เองแหละน่า” มาร์คว่าขึ้นมาก่อนจะตักขนมป้อนไปที่ปากแจมิน
“พี่มึงหรือเปล่าครับ เห็นนั่งเงียบๆนี่เนียนเปล่า?” แฮชานว่าออกมาอย่างไม่ยอมแพ้
“เดี๋ยวกูถีบตกโต๊ะเลย” มาร์คเอ่ยออกมาสั้นๆแต่กลับทำให้แจมินหัวเราะขึ้นมาอย่างนึกสนุก
“อ่ะๆ นี่ก็ชื่นชมแฟน”
แจมินยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนจะหันมากินขนมที่มาร์คยังคงตักมาป้อนเขาอีกครั้ง ทุกคนใช้เวลาที่คาเฟ่ขนมหวานอยู่อีกสักพักใหญ่ก่อนที่แจฮยอนจะเป็นฝ่ายออกปากให้ทุกคนเตรียมตัวกลับบ้านท่ามกลางเสียงโวยวายที่ยังคงตามหาตัวมานิโต้ของตน
♡♡♡♡♡
Writer Talk : คอมเม้นต์ทายมานิโต้กันได้นะทู้กคนนนน >< อยากรู้จะมีใครเดาถูกไหม? 55555 อัพตอนต่อไป 25 ธันวาคม 2016 นะคะ มาเฉลยมานิโต้กันวันคริสต์มาสนะ!
เอ็นจอย รีดดิ้งนะคะรีดเดอร์ที่น่ารัก ขอบคุณสำหรับทุกยอดวิวและคอมเม้นต์ค่า เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดเลย เลิ้บ ♡
#LoveStoryMM0213
ความคิดเห็น