ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 6 : เควสอาชีพของเบลล์ 3
CHAPTER 6 : เควสอาชีพของเบลล์ 3
ทวีปอาเมเรีย
ณ เมืองกันสแลซ
ปราสาทราชวงศ์กันด์กูเนอร์ (ประตูทางออก)
หลังจากชุนได้ทำเรื่องราวเกี่ยวกับเควสอาชีพของเดธเปอร์ราโด้ของตัวละครสาวของเขา 'เบลล์' เสร็จเขาก็กล่าวลากับองค์ชายเอเลียสเล็กน้อย
เอเลียสก็ยิ้มอย่างเคอะเขินกับชุนในร่างของเบลล์ ชุนก็ยิ้มเยาะในใจ เขาก็คิดจะกล่าวลากับเจ้าหญิงอาลีเซียซักหน่อย
แต่คิดอีกทีก็ขี้เกียจตามหาตัวเธอที่อยู่ในปราสาทที่กว้างขวางอย่างนี้
ชุนก็เลยเดินออกมาพร้อมกับซีลาร์ผู้ติตามพยัคฆ์สาวแสนสวยของเขา เขาพอเห็นประตูทางออกไม่ค่อยมีคนก็กลับร่างเป็นชุนทันที
เพราะเขาเริ่มชักรำคาญสายตาของชายทั้งหลายที่มองมาทางเขาอย่างหื่นกระหาย ตั้งแต่ในพระราชวังศ์แล้ว แต่พอเขาเดินพ้นออกจากปราสาทไปเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
"ชุนรอข้าด้วย! ...เอ้ะ!กรี๊ด!!!"
ฮึบ!
"เฮ้ย!"
ชุนเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงนั้น
เขาก็เห็นอาลีเซียในชุดคลุมสีน้ำตาลนั่นอีกครั้ง
เธอกระโดปีนข้ามกำแพงมาแต่เธอก็ดันสะดุดกับขอบกำแพง ทำให้เธอร่วงลงมาทางเขา
ชุนก็ใจหายวาบเมื่อเห็นดาบของเธอที่ไม่ได้เข้าฝักเหน็บอยู่ข้างเอวเธอชี้มาทางเขา
แต่ด้วยทักษะการหลบหลีกขั้นตำนานจากเกมส์ The Blond Bullet ทำให้เขาหลบหลีกข้างอย่างชำนาญให้พ้นรัศมีจากปลายแหลมคมของดาบนั่น แล้วเขาก็เอื้มมือทั้งสองข้างรับแรงกระแทกของร่างบางที่ร่วงลงมาอย่างพอดีมือ
ฟุบ!
"ไม่เป็นไรนะ"
ชุนกล่าวโดยยิ้มกระชากใจหญิงสาวไปทางเธอ
แต่เขาก็แปลกใจที่เธอหน้าแดงจนเกินไปกว่าที่เขาคิด
แต่ก็รู้สาเหตุของใบหน้าที่แดงก่ำของเธอได้ทันที เพราะมือของเขากำลังสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มของเจ้าหญิงแสนสวยคนนี้
"เอามือออกจากก้นของฉันได้รึยังเจ้าบ้า!"
ผัวะ!!
"อั้ก!!"
ชุนโดนหมัดของเจ้าหญิงเข้าที่ปลายคางจนหน้าหงายล้มลงไป พอเขาล้มจุ้มปุกลงพื้นก็เหลือบมองมาทางซีลาร์อย่างแปลกใจ
"ทำไมทีนี้คุณไม่ช่วยผมละครับ...คุณซีลาร์T-T" ชุนทำหน้าอ้อนพลางนำมือลูบคางตัวเองที่โดนกระแทก
" ลามกแบบนี้ก็สมควรโดนแล้วละคะ...ฮึ"
ซีลาร์พูดอย่างเย็นชาก่อนจะสะบัดหน้ามองไปทางอื่น
'นี่ถ้าผมเผลอไปจับก้นใครอีกที
แล้วคนนั้นเอาดาบจะฟันคอผมขาดคุณจะช่วยมั๊ยเนี่ย-*-'
ชุนคิดในใจอย่างหน่ายๆ
นี่ถ้าเขาจะโดนฆ่าเธอจะมาช่วยมั๊ยเนี่ย
ในกรณีแบบนี้...
"แล้วคุณมีธุระอะไรครับเจ้าหญิงอาลีเซีย ถึงได้หนีออกมาอีกแบบนี้-*-"
ชุนขมวดคิ้วอย่างอารมณ์เสียมากตอนนี้
เจ้าหญิงก็มองก็รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบเข้าเรื่อง
"คือข้าจะไปกับเจ้าด้วยน่ะ..."
"หา!ขืนทำแบบนั้น
ผมก็โดนข้อหาลักพาตัวเจ้าหญิงน่ะสิถ้าโดนจับได้!!" ชุนอุทานออกมา พลางนึกผลที่จะตามมา
"ก็อย่าให้ใครจับได้สิ..." อาลีเซียกล่าวด้วยเสียงอ่อย
"เอ่อ...ฉันว่าชุนพาแม่นี่ไปคุยให้ห่างจากที่นี่ดีกว่านะ
เพราะพวกนั้นกำลังตามหาแม่นี่ให้ควักแล้ว"
ซีลาร์กล่าวขึ้นพลางมองไปยังตัวปราสาทที่ตอนนี้มีทหารจำนวนมากเดินตามหาเจ้าหญิงกันให้ควักอย่างร้อนรน
"อ้ะ...ไปเร็วเข้าชุน!"
"เฮ้ยไหงงั้นเนี่ย!"
ชุนห้ามไม่ทันไรก็โดนอาลีเซียลากพาวิ่งเข้าไปในป่าหลังเมืองกันสแลซทันที พร้อมกับเสียงที่ดังอย่างวุ่นวายจากด้านหลัง
"เจ้าหญิงอยู่ไหนครับ!"
"เจ้าหญิงอาลีเซียค้า!!"
"เดี๋ยวพวกเราหัวกุดนะครับ ถ้าคุณไม่กลับมาT-T!!"
"Our Princesssssssssssssssss
Where are Uuuuuu!!!!"
เสียงวุ่นวายจากภายในปราสาท
ในขณะที่ชายหนุ่มหน้าหล่อผมเงิน
เจ้าชายเอเลียสก็มองท่ามกลางความวุ่นวายนั่น พลางหยิบดินสอมาขีดเส้นหนึ่งลงบนสมุดสีทอง
"หนีครั้งที่ 99
อีกครั้งเดียวครบ 100และน้องเรา^^"
อีก 50 ชั่วโมง 56 นาที จะเข้าสู่ระบบสงครามชิงเมือง (Factionwar)....
กลางดึก
ป่านากัวมักมาก (เขตเมืองกันสแลซ)
ชุนกับซีลาร์ได้ฟังเหตุผลการหลบหนีครั้งนี้ของเธอ โดยหารู้ไม่ว่านี่คือครั้งที่ 99 ของเธอแล้ว เธอบอกว่าที่เธอหนีออกมาแบบนี้
เพราะไม่ชอบกับระบบของราชวงศ์ของตัวเอง
ที่ทุกคนในราชวงศ์ของกันด์กูเนอร์ต้องใช้อาวุธประเภทปืนทุกคน ห้ามเรียนอาวุธแบบอื่นเด็ดขาด คงเพราะแบบนี้ราชวงศ์ของเธอเลยได้ถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ผู้ใช้อาวุธประเภทปืนทั้งหมด
ที่เธอหนีมานั้นก็เพราะ...เธอเป็นคนที่ชื่นชอบอาวุธประเภทหอกมากกว่า เธอจึงเลยไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบในหมู่พี่น้องและญาติของตัวเองเพราะความแปลกแยก
"หืม...แย่จังเลยนะแบบนั้น และไหนละหอกของเธอนึกว่าเธอชอบดาบซะอีกถึงพกดาบไว้แบบนั้นตลอด
งั้ม...งั้ม"
ชุนพูดพลางงับเนื้อกระต่ายอย่างในมือที่เสียบกับไม้อย่างดี
เขาได้ใช้ไอเทมชุดคั้งแคมป์และแคมป์ไฟมาตั้งเพื่อหาอาหารมากินยามกลางคืน
พร้อมเต๊นท์นอนพักที่สามารถล๊อคเอาท์เช่นเดียวกับโรงแรมประจำเมืองได้ด้วย
แต่ความปลอดภัยในการบุกรุกต่างกันลิบลับ....
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้........
คนหาเนื้ออย่างมาก็เป็นหน้าที่ของชุนกับซีลาร์
มอนเตอร์ที่อยู่ในป่านี้สูงกว่าป่าไครอสมากนัก เพราะอยู่ในระหว่างมอนเตอร์ระดับ 20 - 40 ทั้งนั้น เพื่อความไม่ประมาทถึงเขาจะระดับ 31
แล้วก็เถอะ เขาก็ล่ามอนเตอร์แค่
20กว่าเท่านั้นพร้อมกับซีลาร์
ชุนล่าได้พวกกระต่ายน้ำตาลระดับ
24 จำนวน 12 ตัว นกฮูกจงอยเหล็กระดับ 27 จำนวน 5
ตัว(เปลี่ยนร่างเป็นเบลล์แล้วใช้ปืนสอยโดยไม่ให้อาลีเซียเห็น) จนระดับของเขาขึ้นเป็น 32 แต่เขาต้องตกใจเมื่ออยู่ๆระดับของเขาจาก
32ก็เด้งเป็น 47ทันที
ติ๊ง!
<ผู้ติดตามอสูรพยัคฆ์ขาว ซีลาร์
ขั้น 2 ระดับ 85 อสูรระดับกลาง
-ทำการล่ากระต่ายทมิฬ ระดับ
35 จำนวน 54 ตัว
-ทำการล่างูจงอางเลือดพิษ
ระดับ 37 จำนวน 125 ตัว
-ทำการล่าหัวหน้างูจงอางเลือดพิษ ระดับ 40 จำนวน 50 ตัวค่ะ
ค่าประสบการณ์จะโอนไปให้ผู้ทำพันธสัญญาทันทีค่ะ อสูรพยัคฆ์ขาว ซีลาร์
ไม่สามารถทำการเลื่อนระดับได้เพราะผู้ทำพันธสัญญาระดับต่ำเกินไป
จะทำการเลื่อนระดับได้เมื่อผู้ทำพันธสัญญาระดับเท่ากับผู้ติดตามหรือระดับมากกว่าค่ะ>
เสียงระบบดังขึ้นในหัวของชุน เขาก็ยิ้มร่าอย่างพอใจ และดีจริงๆที่ไม่ได้ฆ่าซีลาร์ในตอนนั้น
เพราะทำให้ระดับของเขาที่พึ่งโดยซีลาร์นั้นขึ้นได้รวดเร้วมาก
แต่เขาก็เอือมกับตัวเองที่รู้สึกพึ่งแม่เสือสาวของเขามากเกินไปยังไงไม่รู้
'ท่าทางจะแค้นมอนเตอร์พวกงูมากสินะครับซีลาร์ หึ หึ
ถึงฆ่าซะเยอะเชียว.....เราเองก็ต้องรีบเก่งขึ้นจะได้ให้ซีลาร์เลื่อนระดับได้'
ชุนคิดในใจพลางนึกไปถึงศัตรูคู่แค้นของซีลาร์ ซาเลย์ไลที่ตอนนี้เป็นผู้ติดตามเดียรินี่ไปแล้ว
'ซีลาร์ครับกลับมาได้แล้ว
เดี๋ยวพวกเราจะเอาพวกนี้ทำอาหารกัน
ส่วนที่เหลือเก็บไว้ช่องเก็บของละกันพวกเนื้อที่ดรอปมาเนี่ย'
'ค่ะ'
กลับมาปัจจุบัน
อาลีเซียก็คว้าก้อนผลึกอะไรบางอย่างขึ้นมาในมือ เป็นผลึกสีเขียวเหมือนมรกต
"หือ..นั่นมันผลึกอาวุธ 1ใน12อาวุธวิเศษขององค์จักรพรรดิ์ราชันข้ามฟ้านี่!!"
ซีลาร์ตะโกนแทบจะเป็นอุทานพลางลุกขึ้นชี้ไปที่ผลึกสีเขียวนั่น ชุนเห็นดังนั้นก็รู้สึกว่ามันต้องยิ่งใหญ่มากเลยใช้ดวงตาพื้นฐานลองสแกนดู
ติ๊ง!
<ไม่สามารถระบุของชิ้นนี้ได้เนื่องจากสาเหตุ 2 กรณีค่ะ
- ของชิ้นนี้ถูกลงของป้องกันการตรวจสอบไว้โดยเจ้าของ
-ของชิ้นนี้มีระดับที่สูงเกินไปสำหรับผู้ที่ตรวจสอบตอนนี้ค่ะ>
'เห...ท่าทางคงไม่พ้นระดับ Aขึ้นไปแน่เลย '
"เจ้าได้มาจากไหนเนี่ย!"
ซีลาร์ตะโกนถามเธอ
เพราะผลึกนี้ถือเป็น1ใน12อาวุธของเจ้านายของปู่ของเธอ
"ข้าได้มาจากท่านอาตอนเด็กๆน่ะ
เขาบอกว่าเป็นอาวุธประจำตัวข้า
ข้าก็นึกว่าเป็นปืนมานานจนพอเผลอใช้มันก็กลับกลายเป็นหอก ข้าเห็นครั้งแรกก็ชื่นชอบมันทันที เลยฝึกใช้มันตั้งแต่เด็กจนป่านนี้"
"ท่านอาที่คุณว่าเนี่ยคือผู้ที่ดูแลเควสเปอร์ราโด้ของผมน่ะเหรอ? (ชุนรู้ว่าอาลีเซียยังไม่รู้เรื่องเบลล์จากเอเลียสที่เขาโกหกไปว่ามีน้องสาวไปทำเควสเดธเปอร์ราโด้)" ชุนถามขึ้นพลางมองผลึกสีเขียวที่ยังไม่กลายเป็นอาวุธออกมา
"ใช่ ข้าไปกับเจ้าเพื่อจะไปหาท่านอาด้วยนั่นแหละ"
อาลีเซียตอบกลับ
"อืม...อย่างงี้นี่เอง"
"ดีข้าจะได้ไปถามอาของเจ้า อยากรู้เหมือนกับเขาไปเอามาได้ยังไง" ซีลาร์กอดอกมองอย่างไม่พอใจ
"หือ?แสดงว่าอาวุธทั้ง 12
ชิ้นนั่นไม่ได้อยู่ที่องค์จักรพรรดิ์อะไรนั่นแล้วเหรอครับ?"
ชุนถามอย่างสงสัยเพราะฟังจากคำพูดของเธอ
เหมือนสิ่งของเหล่านี้จะแยกจากผู้ที่เป็นเจ้าของคนนั้น จะว่าไปองค์จักรพรรดิ์ที่เป็นเจ้านายของปู่ของซีลาร์นั้นคือใครนะ ท่าทางจะยิ่งใหญ่พอๆกับดอร์น
เดวิลาซที่เป็นพญาจอมมารนั่นเลย
"ใช่ค่ะ พระองค์สวรรคตไปนานแล้วค่ะ ของเหล่านี้ที่เปี่ยมไปด้วยพลังก็ได้แยกย้ายกระจายเป็นแสงหายไปค่ะ"
ชุนฟังพลางคิดว่าเหมือนกับลูกแก้วมังกรทั้ง 7
ในเรื่องดราก้อนบอลเลยแฮะ
ใช้เสร็จก็หายแว้บกระจายไปทั่วโลก-_-
"ช่างเรื่องนั้นก่อนละกัน
ไหนผมขอดูอาวุธนี่หน่อยได้มั๊ยครับอาลีเซียว่าหน้าตาของมันเป็นยังไง^^"
ชุนยิ้มไปทางอาลีเซียอย่างสนอกสนใจของในมือของเธอตอนนี้
"ได้ เจ้าเห็นแล้วต้องทึ่งแน่นอน ฮึ ฮึ...จงปรากฏหอกแห่งมวลพฤกษา อานาสุกุ!!"
ว๊าบ!!!
"อุ้บ!/อ้ะ!"
แสงสว่างวาบออกมาจนชวนแสบตา ทำให้ชุนกับซีลาร์ต้องเอาแขนมาบดบังไว้
ก่อนแสงจะดับลงกลายเป็นหอกด้ามจับสีเขียวมรกต
ปลายหอกที่แหลมนั้นเป็นทองที่แหลมคมขอบประดับไปด้วยอัญมณีสีแดง เรืองแสงออกมาตลอด
พร้อมกับแรงกดดันของไอของพลังงานที่วนรอบหอกสีมรกตนี่
จะว่าไปอย่างงี้เขาอาจพึ่งให้อาลีเซียออกลุยเป็นกำลังรบได้น่ะสิ
ถ้าเธอมีหอกที่ทรงพลังนี่....ว่าแต่เธออยู่ในระดับไหนกันนะลืมตรวจดูเลย เพราะไม่ใช่AIที่จะมาทำร้ายเลยไม่ขึ้นบอกระดับออกมา
'ลองตรวจดูซักหน่อยละกัน'
ติ๊ง!
<เจ้าหญิงอาลีเซีย แห่งราชวงศ์กันด์กูนอร์ ทายาทระดับที่ 12 เจ้าหญิงระดับที่ 3 AIประเภทสปิริต**ระดับต่ำ ขั้น 1ระดับ 35 ค่ะ>
**(ประเภทต่างๆของพวกAI มอนเตอร์ และอสูร
จะเป็นแบบนี้นะครับ
1.ประเภทมอนเตอร์ ถือว่าระดับต่ำที่สุด มีระดับต่ำ
กลาง สูง
2.ประเภทอสูร
มีระดับ ต่ำ กลาง
สูง
3.ประเภทสปิริต(เท่ากับประเภทอสูร) ต่ำ กลาง
สูง
4.ประเภทราชาสปิริต ต่ำ
กลาง สูง
5.ประเภทราชาอสูร(เท่ากับราชาสปิริต) ต่ำ กลาง
สูง
6.ประเภทจักรพรรดิ์มาร และ
จักรพรรดิ์วีรชน
ระดับสูงสุดในเกมส์ตอนนี้ที่ผู้เล่นทำการค้นพบไม่สามารถบอกได้ว่าสูง กลางต่ำ
7.????? ระดับสูงสุดของเกมส์)
'ก็พอใช้ได้แฮะเจ้าหญิงที่ดูอ่อนแอนี่....อย่างน้อยก็เก่งกว่าเราตอนนี้แฮะ'
ทวีปเวเซอุส
ณ เมืองการันเทียร์
ปราสาทฐานที่มั่นสมาพันธ์ฝ่ายรัฐบาล (ประตูทางเข้า)
ติ๊ง!
<การเตรียมสงครามชิงเมืองได้ทำประกาศว่า เมือง 5 เมือง ที่อยู่ในทั้ง
5ทวีปนี้
ได้ประกาศเป็นเมืองทำการสงครามค่ะ
ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามของทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายปฏิวัติ ฝ่ายรัฐบาล จะโดนทำการวาร์ปออกจากพื้นที่ที่อยู่บริวเณทั้ง
5 เมืองนี้
- ทวีปอาเมเรีย(ทวีปของเมืองเริ่มต้น) เมืองกันสแลซ
- ทวีปครอสแลน์
เมืองครอสซิงกัน (เมืองหลวง)
- ทวีปปอมปีอา เมืองปอมเปอี (เมืองหลวง)
- ทวีปวิหคคาร์ เมืองวิลลาร์
- ทวีปนาราเรีย
เมืองร็อคลิมบัส
เหลือเวลอีก 48 ชั่วโมง 30 นาที ตามเวลาโลกจริงค่ะ>
"...ตกลงจะให้ใครไปดูแลเมืองไหนครับหัวหน้าทีรา"
ชายหนุ่มมัดผมหางม้าสีเขียวใส่ชุดออกจีนแบบราชวงศ์ เขาคือหัวหน้ากิลหลินจง นามว่า
'โหวหลาน' กิลหลินจงเป็น 1 ใน 5
กิลมหาอำนาจของกิลแห่งประเทศจีนที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นคนจีนทั้งสิ้น
กิลจีนพวกนี้มักจะเชี่ยวชาญด้านวรยุทธที่ใช้กำลังภายใน หรือลมปราณนั่นเอง
ทำให้กิลของพวกเขามีการโจมตีที่รุนแรงมากแม้จะเพียงหมัดเปล่า
ชายหนุ่มหน้าหล่อแบบชาวจีนหันไปถามหัวหน้าสมาพันธ์ ชายหนุ่มผมฟ้าปล่อยยาวตาสีน้ำเงิน ที่ใส่ชุดฮากามะของญี่ปุ่นสีน้ำเงินขลิบดำ ทีราฟังดังนั้นก็บอกเหล่าหัวหน้ากิลที่แสนโด่งดังเบื้องหน้า
"ข้าจะขอแต่งตั้ง 5
หัวหน้ากิลนี้เป็นผู้นำการรบของแต่ละเมืองละกัน
ส่วนพวกหัวหน้ากิลที่เหลือก็จัดแจงวางแผนกันเองว่าจะเข้าไปช่วยเมืองไหนของแต่ละ
5 หัวหน้ากิลที่ข้าเลือก...ขอให้จำนวนคนจัดแจงอย่างพอๆกันละกัน"
ทีราพูดจบก็มองทั้ง 5 คนที่ตนได้เลือกไว้
"ก่อนอื่น...โหวหลาน
เจ้าไปที่เมืองวิลลาร์"
"น้อมรับบัญชา"
โหวหลานผู้ดำรงตำแหน่งในยศพลตรีนำมือทั้งสองข้างทำท่ารับคำสั่งแบบนักรบชาวจีน
"ราชาตัวตลก
เจ้าไปเมืองครอสซิงกัน"
"อะ...ครับ"
ชายหนุ่มผมดำยาวรับอย่างไม่เต็มใจนัก
ทีรามองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ เขาอยากไปบุกเมืองกันสแลซที่เจ้าฟูจิวาระอยู่มากกว่า จะได้คิดบัญชีแค้นด้วย
"ต่อไป...ฮิซานะ
เธอไปเมืองร็อคลิมบัส"
"รับทราบค่ะ"
ทีรากล่าวบอกหญิงสาวหน้าคมสวยชาวญี่ปุ่นผมแดงดวงตาสีเหลืองทอง มัดผมหางม้า
สวมอยู่ในชุดกิโมโนสีขาวขอบแดง
ถืออาวุธง้าวด้ามจับสีทองขอบทองไว้ในมือ อยู่ในฐานะตำแหน่งยศพันเอก
"ต่อไปก็...บาบิโลน
เจ้าไปถล่มที่เมืองปอมเปอีละกัน"
"ฮ่า ฮ่า ต้องงี้สิท่านหัวหน้าไว้ใจข้าได้เลย รับรองมันต้องโดนข้าถล่มเละ
ฮ่า ฮ่า ไอ้พวกกบฏ!!"
ชายหนุ่มร่างใหญ่ไว้หนวดเคราเล็กน้อยสวมชุดเกราะสีน้ำตาลขอบดำ ผู้ดำรงตำแหน่งในยศพันตรีหัวเราะร่าอย่างเถื่อนดิบ ตามนิสัยประจำตัว
"และสุดท้าย..คุณพีกับเดียรินี่ช่วยนำกิลของพวกคุณไปที่เมืองกันสแลซทีนะ" ทีราหันไปมองสองสาว
"ไม่ต้องห่วงพวกเรารับรองว่าพวกฟูจิวาระที่อยู่นั่นต้องเสร็จเราแน่ ไว้ใจเราได้เลย เนอะเดียร์"
หัวหน้าสาวผมแดงเลือดหมูดวงตาดูเย็นชาและดูสวยคมในตำแหน่งพันเอกมองไปที่สาวสวยอีกคนที่ดูสวยสะดุดตาที่สุด
ณ ที่นี้ผมลอนสีม่วงอ่อน ดวงตาสีชมพู ที่อยู่ในตำแหน่งพันตรี
"โถ่หัวหน้าอย่าเรียกชื่อจริงสิ
เรียกเดียรินี่สิ...ไม่ต้องห่วงท่านทีราพวกเราจะคว้าชัยมาให้อย่างแน่นอน จงเชื่อในดาบของเราได้เลย" เดียรินี่พูดขึ้นพลางลูบดาบของตัวเองอย่างมั่นใจ
"แถมฉันยังมีซาเลไลย์คอยช่วยด้วยเนอะ^^" เดียรินี่หันไปมองผู้ติดตามสาว ที่ฟังเรื่องที่ผ่านมาอย่างเฉยชา
"ค่ะ ข้าจะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้านายแม้แต่น้อย"
ซาเลไลย์ตอบกลับมาด้วยเสียงเจ้าเลห์ที่ดูชั่วร้าย จนทีราต้องขนลุกเลยทีเดียว
"โอเคก็ตามนี้แยกย้ายได้"
"รับทราบ!"
ฟุ่บ!!
สิ้นสุดเสียงนั้นหัวหน้ากิลทั้งหลายก็แบ่งกลุ่มกัน และก็แยกพุ่งออกหายไปทันที
'หวังว่าคุณชุนคงยังไม่ได้อยู่ที่เมืองกันสแลซอยู่นะ....เอ...แต่เดี๋ยวก็โดนวาร์ปอยู่ดีนี่นา คงไม่มีไรต้องห่วงหรอก'
ทวีปอาเมเรีย
ณ เมืองกันสแลซ
เขตใจกลางป่านากัวมักมาก
"
อืม...ผมมีเต้นท์แค่หลังเดียวด้วยสิ...แล้วพวกเราจะนอนกันยังไง"
ชุนที่นั่งอยู่รอบแคมป์ไฟ
เช่นเดียวกับอาลีเซียกับซีลาร์เอ่ยถามขึ้นมา พลางเหลือบมองเต้นท์ 1 หลังที่เขาได้กางไว้ โดยพื้นที่สวามารถนอนได้แค่ 2 คนเท่านั้น
"เดี๋ยวฉันเฝ้ายามให้เองค่ะชุนกับ...แม่นี่ก็ไปนอนด้วยกันเถอะ"
ซีลาร์พูดขึ้นโดยไม่เต็มใจนัก
แต่ยามกลางคืนมันก็อันตรายและมันก็เป็นหน้าที่ของผู้ติดตามที่จะต้องคอยระวังภัยให้กับผู้ที่ทำพันธสัญญาด้วย
ชุนฟังดังนั้นก็ยิ้มร่าถึงจะนึกเสียดายที่อดนอนกับซีลาร์ด้วย
แต่ยังไงพวกเขาก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้วยังไงซักวันก็ต้องมีวันแบบนั้นเกือบทุกวันอยู่แล้ว ชุนเลยยิ้มพลางหันมามองอาลีเซียเจ้าหญิงแสนงามของราชวงศ์กันด์กูเนอร์เจ้าของเรือนผมสีดำนัยต์ตาสีมรกต
อาลีเซียก็รับรู้ได้ทันแผนการและความคิดของชายคนนี้
เมื่อได้มองจากสีหน้าที่มองมาด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ ก็หน้าแดงแปร๊ดอย่างร้อนรุ่ม
"จะบ้าเหรอใครจะไปยอมนอนกับนาย
ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงเชียวนะเสื่อมเสียเกียรติ์กันพอดี...แล้วใครแม่นี่ที่ว่า-*-" อาลีเซียกล่าวอย่างไม่พอใจด้วยสีหน้าที่แดงดุจผิวของมะเขือเทศ พลางเหล่ไปทางซีลาร์ที่หล่อนเรียกเธอแบบนั้น
"ล้อเล่นน่ะครับ
คุณนอนเถอะผมกับซีลาร์กะจะล่าพวกมอนเตอร์แถวนี้ซักหน่อย
ได้ข่าวว่ายามกลางคืนมอนเตอร์ตัวแข็งแกร่งจะโผล่ออกมามากกว่าตอนเช้าด้วย"
'ทีนี้ระดับเราจะได้ขึ้นเยอะๆ หึ หึ
มีซีลาร์จังช่วยแบบนี้สบายชัวเรา'
ชุนกล่าวพลางวางแผนอย่างเจ้าเล่ห์ในใจ
"....."
ซึ่งเสียงในใจซีลาร์ก็ได้ยินเช่นกันจากความสัมพันธ์ทางพันธสัญญา
เธอก็หน้าแดงเล็กน้อยที่ชายหนุ่มเรียกเธอด้วยชื่อที่ลงท้ายด้วย'จัง'
และก็ยิ้มอย่างพอใจที่ชายหนุ่มเห็นเธอมีประโยชน์ต่อเขา
"ดี งั้นข้าขอตัวนอนละ...นายเองก็อย่าอยู่ดึกมากละกัน
ขืนหลับกลางคันโดนพวกสัตว์อสูรจับกินไม่รู้ด้วยนะ"
"ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ^^"
"ไม่ได้เป็นห่วงซักหน่อยย่ะ นอนแล่ว!"
ฟืด!
หญิงสาวพอเห็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนล้อเลียนของชุน
ก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงรีบสะบัดหน้าเข้าเต้นท์ไปในทันที
"เอาละ...ไม่มีคนเกะกะและ"
"เอ้ะ..!"
ตึง!!
"ว้ายย!!ชุนจะทำอะไรคะ!!"
ซีลาร์แทบจะไม่ทันตั้งตัวจู่ๆก็โดนชายหนุ่มนำแขนของตัวเองกระชากแขนของเธอ
จนเธอเคลื่อนตามแรงของเขาที่ดึงแขนเธอจนกระแทกกับต้นไม้ต้นนึง ที่เธอโดนแรงที่แสนเบาของเขาลากจูงไปได้ทั้งๆที่เธอมีพลังมากมายกว่าเขาหลายขุมนั้น ก็เป็นเพราะพลังของผู้ทำพันธสัญญานั่นเอง
"มันถึงเวลาซักทีนะที่ผมจะได้รู้จริงๆว่าคุณต้องการอะไรจากผม...."
ชุนมองจ้องไปที่เธอด้วยสายตาจริงจัง ซีลาร์ก็มองอย่างสงสัยในตอนแรก แต่ก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่จริงจังเช่นเดียวกัน เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้คงรู้สึกตัวถึงอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเธอซะแล้ว
"หมายความว่าไงคะ...ฉันไม่มีอะไรปิดบังคุณนะคะชุน"
"คุณคิดว่าผมโง่มากเลยรึไง...ผมรู้นะว่าที่คุณยอมเป็นผู้ติดตามผมไม่ใช่เพราะผมเป็นคนที่ช่วยชีวิตคุณ
ถึงผมจะไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมรู้สึกได้ถึงจิตใจของผู้ติดตามที่ปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัว
คุณในตอนแรกที่ขอทำพันธสัญญากับผมคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเป็นพิเศษเลย
สัมผัสของผู้ทำพันธสัญญาที่ผมรู้สึกได้ในตอนนั้น...คือ...
........คุณต้องการความช่วยเหลือจากใครซักคน....เพื่อช่วยเหลือใครบางคน"
"!!"
ซีลาร์สะดุ้งทันทีเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ารู้ถึงความรู้สึกของเธอ....
"และตอนนี้คุณก็ยังรู้สึกหยั่งงั้นอยู่....คุณช่วยบอกมาเถอะซีลาร์ว่าคุณอยากให้ผมทำอะไร คุณไม่ต้องเก็บกดไว้ในใจ หรือไม่ต้องเกรงใจผมหรอก
คำว่าพันธสัญญาน่ะ....หมายถึงคนสองคนที่สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันพร้อมทั้งปรึกษาความสุข....ความทุกข์ของอีกฝ่ายได้อย่างเปิดเผยไม่ใช่เหรอ"
ชุนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
พลางจับไหล่ทั้งสองข้างของผู้ติดตามพยัคฆ์สาว ซีลาร์ฟังดังนั้นก็แทบเอ่อน้ำตาล้นออกมา น้ำตาเธอเริ่มคลอเบ้ามือไม้ปากสั่น ชุนเห็นดังนั้นก็เริ่มพูดต่อ
"คุณบอกมาเถอะว่าอยากให้ผมช่วยอะไร ผมพร้อมจะช่วยคุณทุกอย่าง
อะไรที่ทำให้พยัคฆ์สาวของผมทุกข์ใจผมจะขจัดออกให้เอง" ชุนพูดพลางนำมือลูบใบหน้าของพยัคฆ์สาว
"ชุน.....ฉะ...ฉัน...ฮึก ฮึก"
"มานี่ไม่ต้องร้อง...ไม่ต้องร้องเล่ามาเถอะ ว่าคุณอยากให้ผมทำอะไร"
ชุนนำร่างบางของหญิงสาวเข้ามากอด
เธอก็ร้องไห้ซบอกของชายหนุ่ม
ชุนก็ลูบหัวเธอเบาๆอย่างอ่อนโยน
"อะ...อื้อ...ฮึก"
ซีลาร์ได้เล่าความจริงทุกอย่างออกมาตั้งแต่ตอนแรกที่พวกเขาทั้งสองได้เจอกัน ซีลาร์ที่กำลังสู้กับซาเลไลย์ในตอนนั้น รู้จักซาเลไลย์เป็นอย่างดี เธอคือลูกสาวของราชาอสูรอสรพิษ'คิงคอบบร้า' ซึ่งเป็น 1ใน 5
องครักษ์ขององค์จักรพรรดิ์ในสมัยกาล
เช่นเดียวกับปู่ของเธอ
และสาเหตุที่ซาเลไลย์มาอยู่ที่นี่เพราะว่ารังของเธอได้ถูก
1 ใน 20 อสูรบรรพกาลของพญามารบุกโจมตีจนรังแตกพ่าย เหล่าอสรพิษโดนเข่นฆ่ามากมาย และก็ไม่ทราบความเป็นอยู่ของ'คิงคอบบร้า'ว่าเป็นตายร้ายดียังไง
และข่าวร้ายยิ่งกว่าคือ...ถ้ำตำหนักพยัคเมฆาทิ่อยู่ของปู่ของเธอได้โดนถล่มก่อนหน้านั้นแล้ว
แล้วความเป็นตายร้ายดีของปู่เธอก็ไม่รู้เช่นกัน เธออยากจะไปหาครอบครัวของเธอถ้าไม่ติดตรงหน้าที่คุ้มครองคัมภีร์นี่ จนกว่าเธอจะหาผู้รับคัมภีร์นี้ได้ เธอถึงจะออกไปจากที่นี่ได้แต่ต้องอยู่ในภายใต้กฏของผู้ติดตามเท่านั้นถึงจะฝ่าม่านศักดิ์สิทธิของถ้ำที่ไม่ให้เหล่าผู้ดูแลออกจากถ้ำนี้ได้เท่านั้น
ในตอนแรกที่เธอได้พบเดียรินี่ที่ได้เข้ามาสู้กับซาเลไลย์แทนเธอที่ได้รับบาดเจ็บจากพิษจำนวนมหาศาลจนถึงแม้เธอจะเก่งกว่าซาเลไลย์ แต่สภาพที่ต้องทนพิษไปสู้ไปก็ทำให้เธอพ่ายแพ้ในที่สุด
ในใจเธอตั้งใจที่จะมอบคัมภีร์นี้ให้เดียรินี่แต่เธอก็ไม่สามารถมอบให้ได้
เพราะกฏที่ว่าต้องมอบคัมภีร์นี้แก้บุรุษเท่านั้น....
และพอเธอเจอชุน....
ความปลดเปลื้องในตัวเธอก็หล่นหายไปในทันที แถมชายหนุ่มยังเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้อีกด้วย(ชุนรู้สึกเหมือนโดนแทงใจดำอีกรอบ(=+=) ) เธอจึงยอมผู้ติดตามทันที
แต่เธอก็มารู้ทีหลังว่าชุนไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายออกจะอยู่ในขั้นอ่อนแอด้วยซ้ำ
เธอจึงเกรงใจที่จะขอให้เขาพาข้ามทวีปเมื่อไปช่วยเหลือปู่ของเธอ
แต่....โดยในใจเธอเจ็บปวดและเป็นห่วงท่านปู่ของเธอตลอดเวลา แต่เธอก็ต้องอดทนกลั้นฝืนใจไว้ เพราะถ้าไปสภาพนี้ เท่ากับพาชายหนุ่มตรงหน้าไปตายเท่านั้น ซึ่งเรื่องนั้นเธอก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย...
"......."
ชุนฟังดังนั้นก็กัดฟันกรอดในความอ่อนแอของตัวเอง เพราะเขาดันกลายเป็นภาระของผู้ติดตามสาวจนได้
"....ชุนฉันไม่บังคับคุณหรอก ตอนนี้ท่านปู่ของฉันอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และฉันเชื่อว่าท่านปู่ไม่โดนใครฆ่าได้ง่ายๆหรอก"
ซีลาร์พูดเหมือนให้สบายใจได้ แต่ในใจเธอตอนนี้เจ็บปวดมากมายพร้อมความกังวลที่ถาโถมมาตลอด
"แต่ว่า...."
"ไม่เป็นไรค่ะ....ถึงฉันจะเป็นกังวลอยู่บ้าง
แต่ฉันก็ทนไม่ได้เหมือนกันที่จะต้องมาเห็น...เธอตายเหมือนกันนะ"
ซีลาร์ที่เปลี่ยนสรรพนามจากคุณเป็นเธอด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป....
ติ๊ง!
<ความสัมพันธ์ของผู้ทำพันธสัญญากับผู้ติดตามพยัคฆ์ขาว ซีลาร์ ขั้น 2 ระดับ 85 อยู่ในระดับ 40/100 ค่ะ>
11ความคิดเห็น