ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5 100% ✓
...กับการที่ต้องอยู่คนเดียวกับคนที่ไม่รู้จักเรา
...หรืออาจจะ ‘เคย’ รู้จักเรา
...มันก็ เหว่ว้างเหมือนกันนะ
ดวงตาสีแดงเข้มจ้องมองตรงไปยังนอกหน้าต่างบานกว้าง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อเมฆฝนสีเทาครึ้มเริ่มมีหยาดน้ำฝนโปรยปรายตกลงมา
...เอมิเลียออกไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้ว
...ป่านนี้ตาบ๊องนั่นจะทำงานเสร็จหรือยังนะ ?
ร่างสูงผมสีบลอนด์ทองรีบวิ่งมาตามทางที่ปูพื้นด้วยหินแกรนิตสีเทา ตามเสื้อสีเขียวกากีลายพรางทหารเปียกปอนแนบเนื้อเพราะน้ำฝนที่ซัดสาดลงมาอย่างรุนแรง ดวงตาสีฟ้าสวยหรี่ลงเล็กน้อยเพราะมองทางตรงหน้าไม่ค่อยเห็นจนต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาวางเหนือตาเอาไว้
โคโรเนโร่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูไม้สีน้ำตาลเข้มบานสวยก่อนจะลองบิดลูกบิดดูเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้ากลับไม่ฉายแววอะไรเมื่อพบว่าประตูไม่ได้ลงกลอนเอาไว้เช่นเคยจนเหมือนเป็นเรื่องปรกติประจำวัน
แต่เมื่อพอเปิดประตูเข้าไปแล้วก็กลับพบกับรัล มิลจิที่กำลังเล็งปืนมาทางเขาอยู่ ใบหน้าหล่อเหลามีหยาดเหงื่อซึมเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นสองข้าง ริมฝีปากสีกุหลาบคล้ำเหยียดยิ้มสวยออกมา “เฮ้ ๆ ฉันว่าฉันมาดีนะ”
ร่างบางชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบกับชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะลดปืนลงพร้อม ๆ กับถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาหนึ่งที “ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยบอกว่าให้นายเคาะประตูทุกครั้งนะ” หญิงสาวพึมพำ
“ฮะ ?” ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่ได้ยินประโยคที่หญิงสาวตรงหน้าพูด
“ปละ เปล่าย่ะ” รัล มิลจิพึมพำอีกครั้ง “แล้วดูซิ!! หน้าฝนแทนที่จะพกร่ม ! ก็รู้อยู่แท้ ๆ ว่านี่มันหน้าฝนแถมที่ทำงานห่าเหวอะไรนั่นก็อยู่ไกลจากกระต๊อบนี่เป็นเทือก !!”
“เอาน่า ๆ” ร่างสูงปัดไม้ปัดมือเล็กน้อยพลางทำท่าเหมือนกำลังจะเดินเข้าตัวบ้าน
“เฮ้ย หยุดอยู่ตรงนั้นเลยแก !!” ร่างบางชี้นิ้วไปบนผืนพรมที่ชายหนุ่มเพิ่งจะเคยสังเกตเห็น ...นี่เจ๊แกไปขนมันมากจากไหนเนี่ย !! “ถ้าก้าวเท้าเข้าบ้านมาแม้แต่ก้าวเดียวแม่จะยิงให้ไอ้ส่วนนั้นใช้การไม่ได้เลยนะยะ”
โคโรเนโร่ : กลับไปยืนบนพรมทันที
หญิงสาวยกยิ้มพอใจออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะหมุนตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวตุ่นที่แขวนอยู่บนราวแขวนผ้าไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวประตูเท่าไหร่มา “เอาไปเช็ดตัวให้แห้งแล้วค่อยเข้ามา”
“ครับ ๆ” ชายหนุ่มพูดก่อนจะรับผ้าเช็ดตัวมา
“...” ร่างบางเงียบไปสักพัก ก่อนจะเบือนหน้าหนีออกไปอีกทาง “อืม”
...เห็นว่ามันพิการ (?) ทางสมองอยู่หรอกนะ
...ไม่งั้นแม่จะสั่งให้มันวิดพื้นสักสองร้อยทีแน่ !
...โตเป็นควายป่าแอฟริกาแล้วยังไม่ดูแลตัวเอง
...มันน่าจับเชือดให้ดิ้นตายจริง ๆ !
ทั้ง ๆ ที่คิดอย่างนั้นแต่ร่างบางก็กลับอมยิ้มออกมาเล็กน้อยยามมองไปที่ชายหนุ่มอีกคนซึ่งกำลังใช้ผ้าเช็ดตัวสีตุ่นขยี้ผมสีบลอนด์จนยุ่งเหยิงไปมา
...เขาจะรู้หรือเปล่านะว่าที่เธอบ่นอย่างนี้เพราะเป็นห่วง ?
...จะเคยรับรู้บ้างหรือเปล่านะ ตาบ้าเอ๊ย...
‘ตัวเปียกฝนมาแบบนี้ยังมีหน้ามานั่งดูมวยปล้ำอีกหรอ !!’
‘เฮ้ ! นี่นายหูหนวกหรือไง !!’
‘ไปอาบน้ำสิว้อยย !!’
หลังจากที่ฟังคำบ่น (?) ของหญิงสาวผมเข้มจนหูชาก็ดันทุรังเดินมาอาบน้ำจนสะอาดเอี่ยมอ่อง ...พลาดศึกชิงแชมป์เจ้าโลกัลป์ไปซะแล้ว ชายหนุ่มยังคงคร่ำครวญในใจ
ร่างสูงพาตัวเองเดินตรงไปหน้าโทรทัศน์ขนาดเล็กก่อนจะล้มตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเก่งที่ยังคงชื้นอยู่บ้างเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าสวยมองตรงไปยังหญิงสาวผมเข้มที่นั่งจ้องเขามาสักพักตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว “...มีอะไรหรอ ?”
“ฉันแค่กำลังคิดว่า...” ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “...หน้านายมันดูแดง ๆ แบบแปลก ๆ ว่ะ”
“...?” ...จะว่าไปเขาก็รู้สึกมึนหัวหน่อย ๆ นะ
...เอาล่ะ โอเค ตอนนี้เริ่มปวดหัวแล้ว
ร่างบางทาบหลังมือบางลงบนหน้าผากของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา “ตัวอุ่น ๆ แฮะ”
“...นิดหน่อยน่า ไม่เป็นอะไรหรอก” ชายหนุ่มพูดปัด
“ตาบ้า นายน่ะเป็นหวัดง่ายจะตายไป ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ตัวว่าสุขภาพตัวเองไม่ค่อยจะดีเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาก็ยังจะดันทุรังซ้อมกลางแดดเปรี้ยง ๆ บ้าง ตากฝนบ้างอีก” ร่างบางชักมือออก “เวลาเป็นหวัดก็ชอบหายช้ากว่าคนทั่วไปด้วย...”
ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ...ผู้หญิงคนนี้เอาอะไรมาพูดนะ ?
...ก็เพิ่งจะเคยรู้จักกับเขาเองนี่
...ไม่ใช่หรือไง ?
แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ร่างบางก็ยันตัวลุกขึ้น ชายหนุ่มมองตรงไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจ “เดี๋ยวฉันจะไปหายาแก้ปวดมาให้ นายก็เลิกดูโทรทัศน์ได้แล้ว ไปนอนพักซะ”
“...แต่ฉันอยากดูไอ้นี่นี่”
ร่างบางตวัดสายตาคมกริบมามองอีกครั้ง เล่นเอาชายหนุ่มขนลุกซู่ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เหตุผล “ไปนอนซะ ถ้านายยังขืนดันทุรังดูไอ้บ้านี่อีกนายต้องปวดหัวจนตายแน่ ๆ...” ร่างบางเหลือบมองนาฬิกาครู่หนึ่ง “พนันได้ว่าไม่เกินภายในห้านาที”
“...” ร่างสูงได้แต่นั่งอึ้ง เถียงไม่ออกเลยสักคำ
“...เพราะงั้นไสหัวไปนอนซะ” ร่างบางหมุนตัวหันหลังกลับ “ถ้าเกิดฉันเอายาไปให้นายในห้องแล้วไม่เจอเงาหัวของไอ้เจ้าของห้องล่ะก็...” ร่างบางเงียบ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาปาดคอตัวเอง ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มน่าขนลุกก่อนจะเดินเข้าห้องนอนตัวเองไป
“...” ดวงตาสีฟ้าสวยเบิกกว้าง ก่อนจะรีบกดปิดทีวีแล้ววิ่งเข้าห้องนอนตัวเองทันที
...ผู้หญิงบ้าอะไร !
...น่ากลัวชะมัดยาด !!
ร่างบางเดินถือกระปุกยาแก้ปวดที่มีสรรพคุณช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกายด้วยในตัววกเข้าห้องนอนของชายหนุ่ม ใบหน้าสวยเข้มมีแววรังเกียจเล็กน้อยถึงปานกลางเมื่อเดินเข้าไปแล้วพบกับรังหนูขนาดใหญ่ (?) แทนที่จะเป็นห้องนอนที่ดูน่ารักอบอุ่นอย่างที่มันควรจะเป็นตั้งแต่แรก หญิงสาวกลั้นใจเดินเข้าไปโดยพยายามไม่มองกางเกงในที่คาดเอาไว้ว่ายังไม่ได้ซักซึ่งนอนม้วนเป็นเลขแปดอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูห้อง
...ห้องบ้าอะไร โสโครกสิ้นดี !!
ร่างบางส่งยิ้มเย็นยะเยือกไปให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ในตอนนี้นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนเตียงที่ผ้าปู่เริ่มมีสีเหลืองแทนที่เป็นสีขาว (?) “ไงล่ะ แหมพ่อคนเก่ง ตอนนี้ล่ะนอนตายเชียว” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “แล้วนี่นะหรอห้องนอน ขอโทษทีนะ แต่ฉันว่ามันน่าจะเรียกว่าสวนสัตว์เปิดมากกว่า...”
รัลทำท่าจะพูดต่อ ก่อนจะชักเท้าขึ้น ใบหน้าสวยเหมือนอยากจะกรีดร้องไม่เป็นภาษาเมื่อมีแมลงสาบตัวเท่าเขื่อง (?) วิ่งผ่านเท้าเธอไปเมื่อครู่นี้
...โอ้พระ โยนกระปุกยาเอาไว้แล้ววิ่งออกไปเลยได้ไหมเนี่ย
หญิงสาวกลั้นความรู้สึกข้างต้นเอาไว้ “ลุกขึ้นมากินยาสิตาบ้า !! ฉันไม่ได้พิศวาสสวนสัตว์อะไรนั่นหรอกนะยะ !!” ร่างบางดันตัวชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะสลบไปแล้วแต่ยังมีสติอยู่ให้ขึ้นมานั่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปเทน้ำจากกระบอกน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงใส่แก้วพลาสติก
ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายลืมตาขึ้นมองงง ๆ ก่อนจะโยนเม็ดยาสีขาวเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีโดยไม่ต้องใช้น้ำช่วยเลยสักนิด ก่อนจะหงายหลังนอนในท่าแผ่หลาตามเดิม
ร่างบางมองแล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ พลางวางแก้วน้ำที่ภายในมีน้ำอยู่จนเกือบเต็มบนโต๊ะข้างหัวเตียง เผื่อเอาไว้ว่าเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ากระหายเมื่อไหร่จะได้ดื่มได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเทแต่อย่างใด
“หิวหรือเปล่า?” หญิงสาวถามร่างสูงที่นอนหมดสภาพไม่เอาไหนอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงที่ดูเกือบจะเป็นห่วงเล็กน้อย
“ไม่อะเว้ยเฮ้ย เอาไว้หิวเมื่อไหร่จะเรียกแล้วกันนะ” ร่างสูงพึมพำ ก่อนจะพลิกตัวนอนหันหน้าไปกอดหมอนข้างอีกฝั่งหนึ่ง
รัลถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ...นี่มันเป็นเธอเป็นอะไร ? พนักงานเซเว่น 24 ชม. เรอะ ? แต่ก็ตัดใจไม่เอาความอะไรเพราะในใจก็รู้ว่าที่ชายเจ้าพูดออกมาอย่างนี้ก็เพราะพิษไข้
...นี่เธอใจดีที่สุดในรอบยี่สิบปีเลยนะเนี่ย !
แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้เดินออกไปยังนอกห้อง ก็พลันมีมือของชายหนุ่มคว้าหมับเอาไว้ที่ข้อมือ รัลตวัดดวงตาคมกริบไปมองชายหนุ่มที่นอนหน้าแดงเพราะพิษไข้ พยายามข่มเสียงหัวใจที่แทบจะดังออกมาข้างนอก ...อึก
...ใบหน้าหล่อเหลาคล้ำแดดที่แดงเพราะพิษไข้
...ดวงตาสีฟ้าจัดที่เยิ้ม พะ ...เพราะพิษไข้
...มือที่ร้อนจัดนั่น ...ก็อาจจะเป็นเพราะพิษไข้
...โธ่เว้ย ไม่เอาน่ารัล !
...ตอนนี้หมอนั่น ...เป็นของคนอื่นนะ
หญิงสาวข่มใจตัวเองเอาไว้ ก่อนจะบังคับเสียงตัวเองเอาไว้ไม่ให้สั่น “มะ ...มีอะไร?”
“...อืมม” เพียงแต่ร่างสูงไม่ได้ส่งเสียงตอบอะไร แต่กลับส่งเสียงในลำคอออกมาแทน ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าจัดจะปิดลงตามปกติ ซึ่งท่าทางนั้นก็ทำเอารัลหัวเราะออกมาเบา ๆ ...ตาบ้านั่นละเมออย่างนั้นหรอกหรอ ? ร่างบางอมยิ้ม
รัลแกะมือของชายหนุ่มออกอย่างแผ่วเบา แต่ก่อนที่ร่างบางจะทันได้ก้าวเท้าออกนอกห้องก็ชะงักอยู่อย่างนั้น ดวงตาสีแดงเข้มสะท้านวูบก่อนจะหลับตาแน่น มือทั้งสองข้างจิกเข้าหากันจนรู้สึกแสบเข้าไปถึงภายใน
...ภายในที่ลึกเข้าไปอีก
...ตรงหน้าอกข้างซ้าย
...ตรงที่ก้อนเนื้อบางอย่างกำลังดิ้นเร่า ๆ อย่างเจ็บปวด
...เพราะคำพูดคำนั้น
“...กลับบ้านมาเร็ว ๆ นะเอ็ม”
...งั้นเมื่อครู่ ...ที่นายจับ ...มันไม่ใช่มือฉันอย่างนั้นใช่ไหม ?
...
...พอกันที
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
ในที่สุดก็มาม่าตอนท้าย orz ...
ไรเตอร์จำเป็นต้องทำเพื่อตอนต่อไปจะมาม่าอีก //โดนตบ
ขอโทษนะคะ ที่อัพช้ากว่าที่บอกเอาไว้ไปเยอะ (มากกก)
รักรีดเดอร์ รอเค้าหน่อยนะ >___< !!
23ความคิดเห็น