คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 1 ประวัตินโปเลียน
ทวีปยุโรปในปี ค.ศ. 1815 เป็นปีที่มีการประชุมที่กรุงเวียนนา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะจัดการกับประเทศฝรั่งเศสและดินแดนที่เคยตกเป็นของฝรั่งเศสเมื่อครั้งที่นโปเลียนมหาราชได้ครอบครองยุโรปอยู่เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นขอกล่าวถึงประวัติของนโปเลียนมหาราชพอสังเขปและเท้าความการรวมตัวของประมุขของทวีปที่รวมตัวกันต่อสู้กับฝรั่งเศสของนโปเลียน
ประวัตินโปเลียนมหาราช
นเลียน โบนาปาร์ต(Napoleon Bonaparte. ประสูติวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1769 สวรรคต 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1821) ประสูติที่เกาะคอซิกา ซึ่งในตอนนโปเลียนประสูตินั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส บรรพบุรุษของพระองค์เป็นพวก Ajaccio พระมารดาเลติเซียพระชนมายุ 19 ชันษา สวยงามและแข็งแรง พระบิดาคาร์โลพระชนมายุได้ 22 ชันษา เป็นคนมีเสน่ห์ เป็นนักสู้ และเป็นทนายความ บรรพบุรุษมาจากครอบครัวที่เป็นอิตาเลียนถึง 2 ศตวรรษ พูดและแต่งกายเป็นอิตาเลียนกันทั้งครอบครัว เมื่อมีพระชนมายุได้ 9 ชันษา นโปเลียนทรงถูกส่งไปฝรั่งเศสเพื่อเรียนหนังสือกับจูเซปโจเซฟพี่ชาย นโปเลียนทรงเข้าเรียนที่ Royal Military School of Brienne ในชองปาญ(Champagn) เรียนโดยได้รับการอุปถัมภ์จากราชสำนัก เรียนอยู่ที่นี่ 5 ปี นโปเลียนทรงเป็นคนขี้อาย และค่อนข้างจะเก็บตัวเล็กน้อย นโปเลียนทรงสำเร็จออกมาเป็นนายทหารที่ Ecole Militaire ในกรุงปารีส ในขณะที่มีพระชนม์เพียง 16 ชันษา ในปี ค.ศ. 1785 พระองค์ทรงได้รับความขมขื่นพระทัยในบ้านเกิดเมืองนอนที่ต้องตกเป็นของฝรั่งเศสก่อนที่จะทรงประสูติเพียงปีเดียวเรื่องราวที่ชาวเกาะคอร์ซิกาต้องต่อสู้เพื่อเอกราชของตนนั้นตรึงพระทัยนโปเลียนมาก เมื่อทรงเข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยนั้น นโปเลียนชนมายุ 10 ชันษา พระองค์ได้รับความคับแค้นพระทัยเพราะเพื่อนฝูงล้อเลียนว่าเป็นคนบ้านนอก ตัวเล็กพูดไม่ชัด และเพราะทรงแค้นพระทัยที่ชาวเกาะคอร์ซิกาต้องพ่ายแพ้แก่ฝรั่งเศส นโปเลียนจึงหันไปมุทางการเรียนหนังสือ ทรงพระอักษรมาก เมื่อการปฏิวัติใหญ่ในปี ค.ศ. 1789 เกิดขึ้น ในหมู่นายทหารก็แบ่งเป็นพวกที่ภักดีต่อกษัตริย์ฝรั่งเศส กับพวกหนึ่งเป็นฝ่ายปฏิวัติ
นโปเลียนเข้าอยู่ฝ่ยปฏิวัติ เนื่องจากทรงฉลาดพอที่จะมองออกว่าผู้ชนะดีอย่างใด โดยทรงเขียนจดหมายถึงพี่ชายว่า “I see only one thing clear; I must keep on the right side of those who have been and can be my friends.” และได้ทรงพยายามให้คอร์ซิกากู้เอกราช โดยทรงพยายามที่จะเป็นผู้นำ แต่ทำไม่สำเร็จ นโปเลียนทรงเป็นร้อนตรีในนายทหารปืนใหญ่ และอยู่ในพรรคจาคอแบง(Jacobin) ทรงชอบการปฏิวัติ นโปเลียนทรงแสดงผลงานที่เยี่ยมยอดสำคัญๆหลายครั้ง เช่น การตีเมืองลูตอง(Toulon) จากกองทัพอังกฤษและการป้องกันสภาเวนชั่นที่ Tuileries palace ที่รัฐบาลฝ่ายปฏิวัติใช้เป็นที่ประชุมเอาไว้ได้ด้วยการสั่งให้ลูกน้องสาดกระสุนเข้าใส่ฝูงชนที่กลุ้มรุมเข้ามาจะทำร้ายที่เรียกว่า a whiff of grapeshot ความดีความชอบนี้ทำให้นโปเลียนทรงได้เลื่อนยศเป็นนายพลด้วยวัยเพียง 27 ปี และมีชื่อเสียงไปทั่วกรุงปารีส ทรงเป็นเพื่อนกับน้องชายของมกซิมิเลียน โรเบียสปีแอร์(Maximilien Robespierre. ค.ศ. 1758-1794) หัวหน้าของพรรคจาคอแบง ดังนั้นเมื่อโรเบียสปีแอร์ถูกกิโยตีนในวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1794 นโปเลียนเลยเกือบถูกประหารชีวิต แต่ก็โชคดีที่ทรงติดคุกอยู่เพียง 2 ปี
เนื่องจากการที่นโปเลียนได้ติดพันแม่ม่ายลูกติด 2 คน[ลูกติดชื่อ อูแชน(Eugene) อายุ 14 ปี และออร์ตองส์(Hortense) อายุ 12 ปี] ซึ่งมีอายุ 33 ปี มากกว่าเขาถึง 6 ปี ชื่อโจเซฟฟิน โบอาเนส์(Josephine de Beauharnais. หรือชื่อเดิม Marie Josephe Rose Taschen De La, Pagerie. ค.ศ. 1763-1814) ทำให้พระองค์ได้เป็นที่รู้จักแก่พวกสมาชิกไดเร็คตอรี่(The Directory) ซึ่งปกครองประเทศฝรั่งเศสในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ค.ศ. 1795-เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1799 นโปเลียนได้อภิเษกกับโจเซฟฟินในปี ค.ศ. 1795 สภาชิกสภาไดเร็คตอรี่ได้เห็นความสามารถทางการทหารของนโปเลียนในปี ค.ศ. 1796 จึงได้แต่งตั้งให้นโปเลียนทรงเป็นแม่ทัพของฝรั่งเศสในการทำสงครามทางตอนเหนือของอิตาลีกับพวกกองทัพสัมพันธมิตรหลังวันอภิเษก 2 วัน ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1796 ภายใน 1 ปี(ค.ศ. 1796-1797) นโปเลียนทรงสามารถขับกองทัพของออสเตรียออกไปได้ นโปเลียนทรงพยายามสร้างความก้าวหน้าให้กับพระองค์ด้วยการทรงไปทำการรบที่อียิปต์ ในปี ค.ศ. 1798 ซึ่ง ณ ที่อียิปต์นายทหารฝรั่งเศสชื่อบูชาด์(Bouchard) ได้นำศิลาจารึกโรเซตต้า(Rosetta Stone) มาด้วย ขณะที่นโปเลียนทรงอยู่ที่อียิปต์ พระองค์ทรงนำกองทหารที่รวบรวมไว้กลับปกรุงปารีสและได้ทรงเข้าทำการพวกสมาชิกสภาเสีย ได้ทรงประกาศยุบสภาด้วยในวันที่ 8 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1799 นโปเลียนทรงตั้งคณะกงสุลขึ่น 3 คน (three provisional consuls) เป็นผู้บริหารประเทศโดยทรงเป็นกงสุลอันดับหนึ่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 1802 นโปเลียนทรงยุบตำแหน่งกงสุลอันดับ 2 และ 3 เสียในวันที่ 9 และ 10 พฤษภาคม และได้ตั้งพระองค์เองขึ้นดำรงตำแหน่งกงสุลอันดับหนึ่งตลอดชีวิต แต่ในปี ค.ศ. 1804 นโปเลียนได้ทรงยุบตำแหน่งกงสุลอันดับหนึ่งตลอดชีวิตและได้ทรงตั้งพระองค์เองเป็นจักรพรรดิ
ที่มา : หนังสือประวัติศาสตร์ยุโรป ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1815-ปัจจุบัน เล่ม 1(ฉบับปรับปรุง) ,สุปราณี มุขวิชิต ,ม.เกษตรศาสตร์
ความคิดเห็น