คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
“จะพาหม่อมฉันไปที่ใดหรือเพคะ”
หนิงฮวาเอ่ยถามเมื่อขึ้นมานั่งอยู่บนรถม้ากันตามลำพังสองต่อสอง เสี่ยวหนานเดินตามอยู่ที่ด้านนอกรวมกับบ่าวรับใช้ขององค์รัชทายาทเจียวลู่
“ตลาดเย็นริมแม่น้ำ ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นมีอาภรณ์สวยๆ มากมาย เครื่องประดับจากช่างทำอัญมณีชั้นเยี่ยมก็มีให้เลือกสรรถมไป”
“แล้วที่ตลาดมี...”
นางไม่เอ่ยเป็นคำพูด ทว่าทำท่าทางกระดกเครื่องดื่มเข้าปากให้เขาดู
“เจ้าหมายถึงอันใดหรือ”
“โอ๊ย ท่านนี่เข้าใจยากจริง ก็เหล้าไงเหล้า มีไหมเพคะ”
“เหล้า? เจ้ากล้าถามเรื่องนี้ได้เช่นไร เป็นสตรี ซ้ำยังเป็นชายาของข้า เจ้าไม่ควรดื่มสุรา”
หนิงฮวาได้แต่ทำหน้าเจื่อนด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะหันไปเปิดหน้าต่างของรถม้าเพื่อชมวิวที่ด้านนอก สภาพบ้านเรือนในยุคนี้แตกต่างจากยุคที่นางจากมาอย่างเห็นได้ชัด ทว่ากลิ่นอายของธรรมชาติก็ชัดเจนมากกว่าด้วยเช่นกัน
“เจ้ามองอันใดหรือ”
ไม่ถามเปล่า หากแต่บุรุษหนุ่มยังโน้มตัวลงมาใกล้และมองออกไปด้านนอกเช่นเดียวกับนาง สองแขนยันไว้กับพนักของรถม้าจนหนิงฮวาตกอยู่ภายใต้อาณัติแกร่งของอีกฝ่าย
ดวงหน้าสวยเหลียวมองเขา ความใกล้ชิดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวนี้ทำให้ก้อนเนื้อน้อยๆ ในอกข้างซ้ายเต้นแรงขึ้น เป็นเหตุให้นางต้องรีบสั่นศีรษะไปมาเพื่อปฏิเสธความรู้สึกบางอย่างข้างในหัวใจ
‘ไม่ๆๆๆ หมอนี่ก็แค่หน้าเหมือนหมิงยู่เท่านั้น’
คิดพลางสงบจิตสงบใจของตน มือเล็กดันเข้าที่อกแกร่งขององค์ชาย
“ใกล้ไปแล้วเพคะ”
“ใกล้? เจ้าเป็นชายาของข้า ข้าจะอยู่ใกล้เจ้าแค่ไหนก็ได้”
หนิงฮวาเบะปาก ทีอย่างนี้จะมาเห็นนางเป็นชายา ตอนที่นางถูกรังแกและกลั่นแกล้งต่างๆ นานาเขาไปมุดหัวอยู่ที่ใดกันเล่า
คิดแล้วอยากจะหัวร่อให้ฟันร่วง!
“เจ้าทำปากเช่นนี้ใส่ข้าหลายรอบแล้วนะ มันมีความหมายว่าอันใดงั้นหรือ”
เขาถามพลางทำปากเบะตามที่นางทำ ทำเอาหนิงฮวาต้องยกมือขึ้นปิดปากกลั้นขำแทบไม่ทัน
“ยะ...อย่าไปหาทำเช่นนี้กับใครนะเพคะ อุ๊บ...”
“ทีเจ้ายังชอบทำใส่ข้า”
“หม่อมฉันทำแล้วน่ารักเพคะ แต่เวลาพระองค์ทำมันค่อนข้าง...”
“ค่อนข้างอะไรหรือ”
เขาถามย้ำอย่างรอคำตอบ หนิงฮวาอยากตอบใจจะขาดว่ามันค่อนข้างจะ ‘กวนประสาท’ แต่ก็ไม่กล้า เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็มีปัญหารอบด้านมากพอแล้ว ถึงจะไม่ได้รักกันหวานชื่นดั่งคู่ผัวเมียทั่วไป อย่างน้อยนางก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับพระสวามีของตนเอง
ไม่สิ นางหมายถึงพระสวามีของหนิงฮวาตัวจริง
“ถ้าท่านเห็นข้าเป็นชายาของท่านจริง เช่นนั้นก็ช่วยเลี้ยงดูปู่เสื่อหม่อมฉันเป็นอย่างดีให้สมกับฐานะหน่อยสิเพคะ”
หนิงฮวาตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง คำพูดของนางเรียกความสงสัยจากองค์รัชทายาทได้จนต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองมาด้วยความไม่เข้าใจ
“เจ้าหมายความเช่นไร ข้าเลี้ยงดูเจ้าไม่ดีอย่างนั้นหรือ”
“โอ๊ยยย ช่างกล้าถามนะเพคะ!”
จู่ๆ หนิงฮวาก็ขึ้นเสียงแหลมออกมา องค์รัชทายาทเจียวลู่ผงะถอยห่างนางด้วยความตกใจ
“ให้อยู่ตำหนักเก่าๆ ไม่พอ ยังจะให้กินแต่อาหารมังสวิรัติอีก นี่หน้าหม่อมฉันเหมือนวัวเหมือนควายนักหรือเพคะถึงได้ให้กินแต่ผัก หม่อมฉันก็อยากกินเนื้อเป็นเหมือนกันนะ ดูสิ ผอมแห้งจนจะเหลือแต่กระดูกก็เพราะพระองค์เลี้ยงหม่อมฉันด้วยผักนี่แหละ”
นางโวยวายพลางถลกแขนเสื้อขึ้นให้อีกฝ่ายได้เห็นแขนเรียวเล็กของตน
“เลี้ยงดูด้วยผัก? เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรกัน”
“ยังจะมาทำไขสืออีกนะเพคะ เฮอะ! พระองค์นี่ตีสองหน้าเก่งดีจริงๆ”
“นี่เจ้า!”
องค์รัชทายาทเจียวลู่ไม่พอใจที่ถูกต่อว่าและปฏิบัติใส่เช่นนี้ หนิงฮวากอดอกแล้วเชิดหน้าไปอีกทางด้วยไม่อยากจะเสวนากับพระสวามีของตนต่อ
“เจ้าอาจจะคิดว่าข้าเย็นชาต่อเจ้า แต่เปล่าเลย คนที่เย็นชามันคือเจ้าต่างหากหนิงฮวา”
“...”
“เจ้าไม่เคยเชื่อใจข้าเลย”
องค์รัชทายาทเจียวลู่เอ่ยทิ้งไว้แค่นั้นก็หยิบตำราขึ้นมาอ่าน ทิ้งให้หนิงฮวาขบคิดถึงคำพูดเหล่านั้นอยู่คนเดียวและพยายามตีความหมายที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงน้อยใจนั้น
‘นอกจากจะมีปริศนาเรื่ององครักษ์เยว่เทียนกับการกระทำแปลกๆ ของตัวหนิงฮวาเองแล้ว ยังมีปริศนาเรื่องราวความรักของนางกับองค์รัชทายาทอีกอย่างนั้นหรือ ตายๆๆ ถ้าไม่จัดการทั้งหมดนี่ก็จะไม่ได้กลับไปงั้นสินะ?’
แค่คิดนางก็เหนื่อยรอล่วงหน้าแล้ว
ไม่นานรถม้าก็มาจอดที่ตลาดเย็นริมแม่น้ำ มีผู้คนมากมายมาเดินจับจ่ายใช้สอย มีร้านขายอาหารและร้านขายเครื่องประดับตกแต่งเต็มสองข้างทาง ที่แม่น้ำมีเรือรับจ้างคอยให้บริการพายเรือชมความงามของต้นดอกท้อที่กำลังร่วงโรยอยู่ริมน้ำ
“ว้าว สวยจัง”
หนิงฮวาตื่นตาตื่นใจ แม้จะให้ความรู้สึกคนละแบบกับแสงสีเสียงในยุคของนาง แต่เรื่องของความสวยงามนางให้สิบคะแนนเต็มไม่ต่างกัน
“โอ๊ะ นั่นขนมอะไร หอมจัง”
ร่างเล็กบอบบางวิ่งเข้าไปที่ร้านขายขนมกุ้ยฮวา พ่อค้ารีบหยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วส่งให้นาง
“อร่อยนะขอรับ”
“ข้ากินได้ไหม” นางหันไปถามองค์รัชทายาาที่เดินตามหลังมา
“ได้สิ”
เขาอนุญาต หนิงฮวารีบคว้าขนมกุ้ยฮวาเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่ได้สังเกตว่าองค์รัชทายาทเจียวลู่กำลังมองนางพลางอมยิ้ม จะมีก็แต่บ่าวรับใช้ที่สังเกตเห็น ทุกสายตาต่างมองทั้งสองอย่างมีความสุข ด้วยไม่ได้เห็นภาพที่องค์รัชทายาทและพระชายายืนเคียงคู่กันมานานเหลือเกิน
“อร่อยมากเลย ข้าเหมาหมดนี่แหละ นี่พระสวามี ท่านจ่ายนะ”
“ดะ...เดี๋ยวนะ เจ้าจะซื้อทั้งหมดนี่เลยหรือ”
“ใช่สิเพคะ อร่อยจะตายไป ข้าจะซื้อกลับไปทานที่ตำหนักกับเสี่ยวหนาน แค่นี้จ่ายไม่ได้หรือเพคะ?”
นางมองเขาพลางทำหน้าตาตกอกตกใจ
“หรือพระองค์จะไม่มีเงิน...”
“ได้สิ ข้าจ่ายได้อยู่แล้ว”
ด้วยกลัวจะเสียหน้าต่อพระชายา องค์รัชทายาทจึงยอมควักเงินจ่ายค่าขนมทั้งหมดส่งให้กับพ่อค้า บ่าวรับใช้เข้ามารับห่อขนมไปถือเอาไว้
“เสี่ยวหนาน ไปดูเสื้อผ้าร้านนั้นกันดีกว่า”
แทนที่นางจะเอ่ยขอบคุณเขาสักคำ แต่กลับเดินเข้าไปคล้องแขนเสี่ยวหนานแล้วพาเดินไปที่ร้านขายเสื้อผ้าโดยไม่ได้สนใจองค์รัชทายาทเจียวลู่เลยแม้แต่น้อย
“จะตามไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย”
‘ซีฮัน’ บ่าวรับใช้คนสนิทขององค์ชายเอ่ยถาม ร่างสูงตวัดสายตาคมกริบมองก่อนตอบ
“ตามไปสิ นางมีเงินเสียที่ไหนกัน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ซีฮันรับคำ รอจนองค์รัชทายาทเดินนำไปก่อนแล้วจึงเดินตามไปติดๆ หนิงฮวากำลังเลือกเสื้อผ้าชุดแล้วชุดเล่าเอามาทาบทับกับตัวของเสี่ยวหนาน สีหน้านางดูมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
องค์รัชทายาทเจียวลู่ตามมายืนรอที่หน้าร้าน เขาอดยิ้มตามภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มมีความสุขของสตรีผู้นี้ และนานแค่ไหนแล้ว ที่นางไม่เอื้อนเอ่ยพูดคุยประโยคใดกับเขานอกเสียจากคารวะยามเจอกันโดยบังเอิญ
“พะ...พระชายาเพคะ ไม่ต้องซื้อให้หม่อมฉันก็ได้ อีกอย่างชุดนี้ราคาก็ค่อนข้างจะ...”
“พอเลยนะเสี่ยวหนาน เจ้าอย่าได้กังวลเรื่องราคาไป เพราะพระสวามีที่แสนใจกว๊างกว้างราวกับแม่น้ำของข้าจะเปย์เจ้าเอง”
“ปะ...เปย์?”
“ข้าหมายถึงเขาจะเป็นผู้จ่ายเงินให้เอง ใช่ไหมเพคะที่รัก”
ร่างบางระหงส์เข้าไปกอดแขนบุรุษหนุ่มเอาไว้พลางเอียงหน้าซบอย่างออดอ้อน องค์รัชทายาทเจียวลู่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจในการกระทำของนาง หากแต่ในใจก็รู้สึกดีอยู่ลึกๆ และพึงพอใจไม่น้อย
“เจ้าเลือกได้ตามสบาย ที่นางว่ามาก็ถูก เจ้าเป็นถึงสาวใช้ของพระชายา ไม่ควรจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์เก่าๆ เช่นนี้”
“ขะ...ขอบพระทัยเพคะองค์รัชทายาท”
เสี่ยวหนานคารวะรับน้ำใจอันมากล้นจากองค์รัชทายาท หนิงฮวาปล่อยมือออกจากแขนของเขาแล้วเข้าไปช่วยเสี่ยวหนานเลือกเสื้อผ้าต่อ นอกจากจะเลือกให้สาวใช้ของตนแล้ว นางยังเลือกชุดใหม่ให้กับตนเองอีกมากมายด้วย ทั้งที่สองปีที่ผ่านมา นางไม่เคยขออาภรณ์ใหม่เลยสักครั้งแท้ๆ เหตุใดจึงเปลี่ยนไปได้มากมายถึงเพียงนี้กันนะ
เจียวลู่ได้แต่ขบคิดในใจยามมองใบหน้าสวยราวกับสวรรค์สร้างมาของหนิงฮวา
“นี่ขอรับ...”
หลังจากปล่อยให้หนิงฮวาเลือกเสื้อผ้าอยู่นานจนได้ครบเท่าที่นางจะพอใจแล้ว นางก็ดึงเสี่ยวหนานไปทางอื่นต่อ ทิ้งให้องค์รัชทายาทยืนจ่ายเงินและซีฮันคอยตามแบกข้าวของ ซึ่งในครั้งนี้ นางก็ผลาญเงินที่เขาพกมาไปอีกมากโข
“ในหนึ่งวันนางเปลี่ยนอาภรณ์กี่ชุดกันนะ”
หลังจ่ายเงินไปแล้วก็ต้องมายืนขบคิดเพราะหนิงฮวากว้านซื้อเสื้อผ้าแทบจะหมดร้าน จนซีฮันต้องใช้ปากคาบเพราะไม่มีมือจะถือ
“กรี๊ดดด!”
เสียงกรีดร้องโวยวายดังอยู่ไกลๆ องค์รัชทายาทเจียวลู่และซีฮันมองหน้ากัน ก่อนที่บุรุษหนุ่มจะเดินไปทางที่มาของเสียงด้วยความรวดเร็ว หวั่นวิตกในใจว่าอาจจะเป็นพระชายาของตนก็เป็นได้
“นี่แก! ผลักผู้หญิงจนล้มแบบนี้หมายความว่ายังไง ยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่าฮะ!”
“พะ...พระชายา หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ อย่าทรงโมโหไปเลย”
เสี่ยวหนานเอ่ยห้ามพลางคลานเข้าไปเกาะขาหนิงฮวาที่กำลังกระชากคอเสื้อบุรุษร่างท้วมซึ่งกำลังเมามายเอาไว้อย่างหาเรื่อง
“ปล่อยข้านะ เจ้าอยากตายหรือไร!”
เป็นเพราะเสี่ยวหนานไม่ทันมองจนเผลอเดินชนอีกฝ่ายเข้า หากแต่ขอโทษขอโพยไปหลายต่อหลายครั้งเขาก็ไม่ยอม และผลักนางจนล้มลงไปกับพื้นลุกไม่ขึ้น เลือดรักความถูกต้องของวิญญาณโรซี่จึงพุ่งปรี๊ดจนไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ มือเล็กๆ คว้าคอเสื้อของชายอกสามศอกเอาไว้แน่น
“คนไม่เคยตายอย่างเจ้าอย่าเที่ยวมาถามชาวบ้านเขาไปทั่วเลยว่าอยากตายหรือไร เพราะความตายมันน่ากลัวและทรมานกว่าที่เจ้าคิดหลายร้อยหลายพันเท่านัก”
นางพูดเสียงเหี้ยมด้วยเป็นผู้ผ่านประสบการณ์ความตายมาโดยตรง
“พระชายาเพคะ ทรงปล่อยเถิดเพคะ อย่ามีเรื่อง...”
“ขอโทษคนของข้ามาซะ ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้รับคำขอโทษจากเจ้า อย่าคิดว่าข้าจะยอมง่ายๆ เชียว!”
“เป็นบ้าหรือ ปล่อยข้านะ”
มืออวบแกะมือเล็กของหนิงฮวาออกจนหลุดก่อนจะง้างมือขึ้นหมายจะตบหน้าอีกฝ่ายเป็นการลงโทษ
หมับ!
ทว่าสิ่งที่หมายจะทำไม่เป็นผล เมื่อองค์รัชทายาทเจียวลู่ปรากฏตัวขึ้นมารั้งมือของอีกฝ่ายไว้ได้ทัน ใบหน้าหล่อคมคายตวัดสายตาเหี้ยมมองไปยังผู้ที่คิดทำร้ายหนิงฮวา
“เกิดอะไรขึ้นหรือหนิงฮวา”
“เจ้าหมูตอนนี่มารังแกคนของข้า!” นางรีบฟ้อง
“เรียกใครว่าหมูตอนหรือ! เห็นทีข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าหน่อยแล้ว อะ...โอ๊ยๆๆๆ”
ตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปทำร้ายหนิงฮวา ทว่ากลับถูกองค์รัชทายาทล็อกแขนมาไขว้หลังเอาไว้แล้วบิดจนเจ็บปวดก่อนจะถูกผลักจนล้มลงไปกองกับพื้นสร้างความขายหน้าให้เป็นอย่างมาก ผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์ต่างพากันขำขัน
“พวกเจ้า!”
“เป็นเช่นไรเล่าเจ้าหมูตอน สมน้ำหน้า”
หนิงฮวาล้อเลียน เข้าไปดึงเสียวหนานที่เจ็บขาให้ลุกขึ้น
“ลูกพี่! เกิดอะไรขึ้นขอรับ”
เสียงทุ้มใหญ่ดังมากจากทางด้านหลัง บุรุษร่างกำยำนับสิบคนวิ่งตรงมาทางเจ้าหมูตอนคู่กรณีของหนิงฮวา องค์รัชทายาทและซีฮันมองหน้ากันทันทีด้วยความรู้งาน
หมับ!
“มากับข้า”
เจียวลู่เข้าไปคว้าข้อมือหนิงฮวาและพาวิ่งหนีไปในฝูงคนทันที นางหันไปมองทางเสี่ยวหนานด้วยความเป็นห่วงและยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หมับ!
“ส่วนเจ้าขึ้นหลังข้า”
ซีฮันส่งถุงที่คาบไว้ในปากให้เสี่ยวหนานถือแล้วย่อตัวลงเพื่อให้นางขึ้นหลัง ร่างเล็กหันไปมองทางด้านหลังที่มีบุรุษมากหน้าหลายตากำลังวิ่งกรูกันเข้ามาแล้วพอจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดจึงรีบกระโดดขึ้นหลังของซีฮันอย่างรวดเร็ว
“หนักชะมัด...”
“นี่ท่าน...!”
เสี่ยวหนานอายที่อีกฝ่ายพูดเช่นนั้น ซีฮันออกแรงพานางวิ่งหนีไปอีกทางเพื่อให้เจ้าหมูตอนและคนของมันสับสนว่าจะตามผู้ใดไปดี
“ตามพวกมันไป แยกกันออกเป็นสองกลุ่ม!”
เจ้าหมูตอนที่เป็นลูกพี่ใหญ่ออกคำสั่ง การไล่ล่าจึงถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย!
พูดคุยท้ายตอนกับอีช้อยเองเจ้าค่ะ
จบตอนที่ 6 แล้วเจ้าค่ะ องค์ชายของเราก็ยังเอ็นดูหนิงฮวาอยู่เหมือนกันนะเจ้าคะ เรื่องราวระหว่างสองคนนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่โรซี่รู้จากเสี่ยวหนานอย่างแน่นอน นี่ขนาดข้ามยุคมาไม่เท่าไหร่ ยังสร้างเรื่องวุ่นวายได้ขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่ากว่าจะจบเรื่อง จะมีเรื่องราววุ่นวายน่าปวดหัวตามมาอีกมากมายแค่ไหน แล้วองค์ชายเจียวลู่จะรับมือนางหรือไม่ อีกคู่ที่อยากให้ติดตามกันก็คือซีฮันกับเสี่ยวหนานเจ้าค่ะ นอกจากความรักของคู่เจ้านายแล้ว คู่ของบ่าวรับใช้เองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ฝากติดตามด้วยนะเจ้าคะ
คอมเมนต์ขอกำลังใจให้ช้อยบ้างนะเจ้าคะ กราบรอบทิศ...
ความคิดเห็น