รักไม่อาจห้ามใจ (e-book มาแล้วนะจ๊ะ)

ลำดับตอนที่ #7 : รักไม่อาจห้ามใจ 2.2

วันหยุดของแสนรักผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว และวันนี้เธอมีนัดสัมภาษณ์แหล่งข่าวตอนบ่าย ช่วงเช้าเลยเข้ามาที่ออฟฟิศ แต่พอมาถึงเธอก็ถูกพีระซึ่งเป็นหัวหน้าบรรณาธิการข่าวเรียกเข้าไปพบ เดิมทีเธอคิดว่าพีระมีข่าวใหม่จะให้เธอไปทำ ทว่าพอเข้าไปพบกลับเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเคร่งเครียดผิดปกติ ทั้งที่ด้วยบุคลิกของหัวหน้าเธอคนนี้เป็นคนอารมณ์ดีขี้เล่น

“พี่พีมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”

“เอ่อ...คืองี้นะแสน” พีระเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางลำบากใจ หลังจากน้องเล็กสุดในฝ่ายนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขาเรียบร้อยแล้ว “ข่าวน้องเอมมี่ที่แสนทำอยู่น่ะ พี่จะให้กวินเขาไปทำแทน”

“เพราะอะไรคะ” แสนรักนิ่วหน้า ข่าวน้องเอมมี่ที่พีระบอกก็คือข่าวพริตตี้สาวที่เสียชีวิตในงานปาร์ตี้ที่บ้านของลูกชายนักการเมืองคนดังที่เธอตามอยู่ ซึ่งถ้าเธอไม่ได้ทำข่าวนี้ โอกาสที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายของเจ้าสัวธนัชก็จะน้อยตามไปด้วย

“เป็นคำสั่งของคุณเจตน์”

“อะไรนะคะ”

“คุณเจตน์โทรหาพี่ บอกว่าประสบการณ์ของแสนยังน้อย ยังไม่ควรให้ทำข่าวที่เสี่ยงอันตราย ก็อย่างที่รู้ๆ กันนั่นแหละ ว่าเจ้าสัวธนัชน่ะมีอิทธิพลไม่น้อย แล้วเราก็ยังไม่เก๋าเกมพอที่จะไปต่อกรกับคนระดับนี้ด้วย”

“แต่นี่เป็นข่าวใหญ่ข่าวแรกที่แสนได้มีโอกาสทำในฐานะนักข่าวนะคะ” แสนรักเอ่ยบอก ขณะที่ในใจนึกโกรธเคืองคนที่ออกคำสั่งนี้ “อีกอย่างนายใหญ่ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงการทำงานของฝ่ายต่างๆ ในบริษัทไม่ใช่เหรอคะ”

“แสนเป็นเพื่อนกับน้องเนย คุณเจตน์ก็คงเป็นห่วงนั่นแหละ เพราะเขาบอกพี่ว่าเห็นเราปลอมตัวไปเป็นสาวนั่งดริ๊งเพื่อจะเข้าใกล้นายธีทัต” ประโยคนี้พีระมองลูกน้องสาวด้วยสายตาดุๆ เป็นเชิงตำหนิ เพราะการกระทำของอีกฝ่ายเสี่ยงอันตรายเกินไปจริงๆ

“แต่นี่มันเป็นงานนะคะ”

“พี่รู้ว่ามันเป็นงาน แต่แสนทำแบบนั้นมันเสี่ยงเกินไป แล้วเพราะแบบนี้ไง พี่ถึงจะให้กวินเขาไปทำข่าวนี้แทน แล้วให้แสนไปทำข่าวอื่นที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้”

“แสนขอคุยกับนายใหญ่ก่อนได้ไหมคะ พี่พีระอย่าเพิ่งเอาข่าวนี้ไปให้พี่กวินนะคะ”

เวลาอยู่ที่ทำงาน แสนรักก็มักจะเรียกเจตน์ว่านายใหญ่ด้วยความเคารพนับถือในฐานะที่เขาเป็นประธานบริษัท เหมือนกับที่พนักงานในระดับปฏิบัติการคนอื่นๆ เรียกกัน ไม่ได้แสดงท่าทีสนิทสนมเกินเลยเพราะคิดว่าตนเป็นเพื่อนสนิทกับหลานสาวของเขา

พีระถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า อันที่จริงเขาเองก็นึกเอ็นดูอีกฝ่าย เพราะถึงแสนรักจะเข้ามาทำงานที่นี่โดยอาศัยความเป็นเพื่อนสนิทของหลานสาวประธานบริษัท หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ‘เด็กฝาก’ แต่แสนรักก็เป็นเด็กอ่อนน้อม ขยันขันแข็ง ตั้งใจทำงาน และพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเธอรักอาชีพนักข่าวจริงๆ ทั้งยังมีไหวพริบเรียนรู้งานได้เร็ว

หลังจากคุยกับพีระแล้ว แสนรักก็กลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความแล้วส่งไปหา ‘นายใหญ่’ เพื่อขอคำอธิบายในการที่เขาเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเธอ

แสนรัก : แสนมีเรื่องอยากคุยกับอาเจตน์

แสนรัก : สะดวกคุยมั้ยคะ

ข้อความของเธอถูกส่งไปแต่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดอ่าน ระหว่างนั้นเธอก็ทำงานของตัวเองไป กระทั่งตอนบ่ายสองโมงก็ออกไปสัมภาษณ์แหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนพริตตี้ของน้องเอมมี่ที่เพิ่งจะกลับมาจากต่างจังหวัดและนัดกันไว้วันนี้

แสนรักนัดแหล่งข่าวเอาไว้ตอนบ่ายสามโมง แต่กว่าอีกฝ่ายจะมาก็เลทไปเกือบชั่วโมง แล้วกว่าจะสัมภาษณ์เสร็จก็เย็นมากแล้ว ดังนั้นเธอเลยไม่ได้กลับเข้าไปที่ออฟฟิศอีก ระหว่างทางกลับบ้านเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าข้อความที่ส่งไปให้เจตน์นั้นถูกอ่านแล้ว แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา สุดท้ายเธอเลยโทรไปหา ทว่าเขาก็ไม่รับสายเธออีก