ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Love กลับมาพบรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : กลับมาพบรัก 4 (ตอนต้น)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 66


    ไม่รู้จะกินอะไรก็แวะมา~ คำพูดที่ทิวาแอบดัดแปลงมาจากข้อความโฆษณาของร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ที่เจ้าตัวมักจะบอกเพื่อนๆ ให้มาที่ร้านชาบูของครอบครัวเขา และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่น้ำหนาวและเพื่อนๆ มาที่ร้านนี้ เพราะตกลงกันไม่ได้ว่าจะทานอะไรกันดี

    “สาวๆ ทางนี้” ทิวารีบลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินมาหาเมื่อเห็นพวกเธอเข้ามาในร้านและกำลังหาที่นั่งกันอยู่ ก่อนจะชวนพวกเธอให้ไปนั่งด้วยกัน น้ำหนาวมองไปทางโต๊ะที่ทิวาชี้ให้ดูก็พบกับดนัยหรือที่เพื่อนๆ เรียกกันว่าเตอร์หรือฮันเตอร์นั่งอยู่ก่อนแล้ว

    “เดี๋ยวธารากับพี่มันก็มา กินด้วยกันหลายๆ คน สนุกดี” เขากล่าวเสริมแล้วดันหลังเพียงฝันให้เดินไปทางโต๊ะ

    “จะดันทำไมเนี่ย เดินเองได้” เพียงฝันหันมาบ่นเขา แล้วดึงน้ำหนาวและตะวันเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างกัน

    “หวัดดี” น้ำหนาวยิ้มทักทายฮันเตอร์ที่กำลังช่วยพนักงานยกโต๊ะมาต่อกันอยู่

    “ไม่รู้จะกินอะไรใช่มั้ยครับ” ฮันเตอร์ถามขึ้นมาอย่างหยอกล้อ น้ำหนาวทำเพียงยิ้มตอบกลับไปเท่านั้น เป็นอันว่ารู้กัน

    “เต็มที่เลยนะ วันนี้เราเลี้ยงเอง” ทิวาที่ไปยกของมาเพิ่มบอกกับพวกเธอ

    “ก่อนหน้านี้ยังบอกให้เตอร์จ่ายอยู่เลยนี่ครับ” ฮันเตอร์เอ่ยขัดคนที่จู่ๆ ก็กลายเป็นป๋าใจป้ำขึ้นมา

    “รีบจัดโต๊ะเลยแว่น ไม่ต้องพูดมาก” ทุกคนได้แต่ขำเมื่อเห็นทิวาเกิดอาการทำตัวไม่ถูกเพราะถูกรู้ทันแล้วมาพาลใส่คนอื่น

    ทุกคนรู้ มีแค่เพียงฝันที่ไม่รู้ ถ้าตั้งใจสังเกตดีๆ ก็จะรู้ว่าทิวาชอบเพียงฝัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพียงฝันไม่รู้จริงๆ หรือว่าไม่ชอบเขาเลยไม่สนใจกันแน่ ส่วนทิวาเองก็ไม่กล้าบอกเธอไปตรงๆ คงเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดแบบเดียวกัน

    เรื่องพวกนี้น้ำหนาวจะไม่เข้าไปยุ่ง ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขาสองคน มันก็คงจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งคู่รักกันและได้แต่งงานกันในที่สุด เหมือนที่คนเฒ่าคนแก่ว่าไว้ คู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน

    “ทางนี้” ทิวาโบกมือเรียกธารา ก่อนจะถามถึงใครอีกคนเมื่อเห็นเขาเดินเข้าร้านมาคนเดียว “แล้วพี่มึงล่ะ”

    “เปลี่ยนใจแล้ว” ชายหนุ่มตอบก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงข้ามน้ำหนาว เห็นท่าทางของคนตรงหน้าก็ได้แต่นึกขำอยู่ในใจ ในตอนนั้นน้ำหนาวแปลกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มหันไปทำอาชีพนักแสดง เพราะความพูดน้อยจนเกินไปของคนตรงหน้านี่เอง ถามคำตอบคำ ถ้าไม่มีใครถามหรือชวนคุยก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงของเขาเลยด้วยซ้ำ

    ธาราหันมาทางน้ำหนาวเมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครกำลังมองเขาอยู่ ชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเธอมองเขาทำไม น้ำหนาวได้แต่ยิ้มอย่างเก้อเขินเมื่อถูกจับได้ เธอก็แค่เผลอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง

    “แล้วปิดเทอมนี้จะไปไหนกันหรอ” ตะวันถามขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าทั้งโต๊ะเริ่มเงียบลง

    “อีกตั้งนาน กว่าจะปิด” ทิวาเอ่ยขัด

    “ก็ย่าพึ่งบอกให้เรากลับบ้านตอนปิเดเทอม เราเลยเอามาถามพวกแกบ้าง”

    ทั้งฮันเตอร์และทิวาต่างก็ต้องช่วยงานของที่บ้าน ตะวันก็ตั้งใจจะกลับบ้านไปหาคุณย่าที่อยุธยา ส่วนน้ำหนาวกับเพียงฝันยังไม่มีแผนว่าจะทำอะไร

    “ไปอยุธยากับเราสิ ไปหาย่าเรากัน” ตะวันหันมาชวนน้ำหนาว เธอมองตาน้ำหนาวเพื่อจะสื่อถึงเรื่องที่พวกเธอรู้กันสองคน

    “ไว้เรากับฝันปรึกษากันก่อนนะ”

    “แล้วมึงล่ะ” ทิวาหันไปถามธาราที่ยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา

    “ไม่รู้” ชายหนุ่มตอบออกมาเพียงเท่านั้น ทิวาถอนหายใจออกมาอย่างนึกเบื่อหน่ายคนข้างๆ แต่ทุกคนชินกับนิสัยแบบนี้ของธาราเสียแล้ว

    หลายคนที่ไม่สนิทหรือไม่เคยรู้จักมาก่อน มักบอกว่าธาราเป็นคนหยิ่ง แต่ที่จริงแล้วเขาก็แค่ไม่รู้จะพูดอะไรเท่านั้นเอง เขาเข้าหาคนอื่นไม่เก่ง ชวนคุยก็ไม่เป็น แต่ก็เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาเองที่ดูดีจนดึงดูดทั้งสาวแท้สาวเทียมให้เข้ามาหาไม่ได้ขาด หรือแม้แต่แมวมองก็เช่นกัน

    ธาราโดนทาบทามให้ไปเป็นนักแสดงหรือไม่ก็นายแบบบ่อยๆ แต่เจ้าตัวก็มักจะปฏิเสธเสมอ นี่ก็เป็นอีกข้อที่ทำให้น้ำหนาวสงสัยว่าอะไรทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจได้

    เมื่อทานกันจนอิ่มแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับที่พักของตัวเอง ทิวาอาสาจะไปส่งพวกเธอ แต่ก็โดนคุณแม่ของทิวาขัดไว้เสียก่อน คุณนายละออ ทิวาพาพวกเธอเรียกแบบนั้น ต้องการให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนช่วยงานที่ร้าน เพราะวันนี้ที่ร้านคนเยอะมากจริงๆ ธาราเลยอาสาไปส่งแทน

    เพราะการจราจรที่ติดขัด ทำให้รถเคลื่อนไปได้ทีละน้อย พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เพียงฝันและตะวันที่นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังหลับไปแล้วเรียบร้อย ไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่จนรถมาจอดที่หน้าคอนโด

    “ขอบคุณนะ” น้ำหนาวกล่าวขอบคุณคนที่อาสามาส่ง ก่อนจะหันไปปลุกสองสาวที่หลับอยู่ด้านหลัง

    “อืม” ธาราตอบกลับมาเพียงแค่นั้น เมื่อส่งน้ำหนาวและเพียงฝันเรียบร้อยแล้ว รถก็ค่อยๆ เคลื่อนออกไปเพื่อไปส่งตะวันที่คอนโดใกล้ๆ ต่อ

    ในเมื่อนาฬิกาทรายไม่อยู่แล้ว น้ำหนาวก็ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ต้องกลับไปที่นั่นอีก

    “หนาวไม่ลงรูปบ้างหรอ” เพียงฝันที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นน้ำหนาวเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอรู้ว่าน้ำหนาวไม่ใช่คนติดโซเชียลมีเดีย แต่ก็ไม่คิดว่าจะไม่เล่นเลยจนไม่ลงรูปที่พากันไปถ่ายมาตั้งมากมายเลยสักรูป

    “หนาวลืม” หญิงสาวตอบพลางเกาท้ายทอยแก้เก้อ เพราะมีเรื่องเครียดๆให้ต้องคิด ทั้งยังมัวแต่ตั้งใจเขียนนิยายอีก เธอจึงลืมเรื่องพวกนี้ไปเลย

    น้ำหนาวเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปตรงหัวเตียงมาต่อกับโน้ตบุ๊ก เพื่อหารูปสวยๆลงอินสตาแกรม แย่หน่อยที่ยุคนี้อินสตาแกรมยังไม่สามารถลงรูปแบบหลายๆรูปได้ในโพสต์เดียว หญิงสาวเลยเลือกรูปสวยๆเพียงไม่กี่รูปมาลงเท่านั้น อีกอย่างเธอไม่รู้จะลงให้ใครดู ยอดผู้ติดตามของเธอมีไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำ

    ลงรูปเรียบร้อยแล้ว ก็ลุกไปเขียนนิยายต่อ โดยที่น้ำหนาวไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีใครแสดงความคิดเห็นอะไรบนโพสต์ของเธอบ้าง

    ‘หักอกพี่คินจนสภาพพี่แกดูไม่ได้ แต่ตัวเองยิ้มหน้าระรื่นได้ขนาดนี้เชียว มีความสุขมากมั้ง’

    ‘ดีแล้วที่พี่คินหลุดพ้นจากนาง ไม่เห็นจะเสียใจอะไรเลยสักนิด’

    ‘เห็นมีคนบอกว่าวันนี้เห็นนางไปกินชาบูกับทิวา คบกันแน่ๆ'

    ‘ผู้ชายพึ่งจะตีกันเพราะตัวเองแท้ๆ สงสารพี่คิน’

    น้ำหนาวไม่สนใจไม่ได้แปลว่าเพียงฝันไม่สนใจ หญิงสาวหงุดหงิดจนแทบอดเอาไว้ไม่อยู่ แต่ก็ต้องยั้งตัวเองเอาไว้ เพราะที่ผ่านมาเธอโดนน้ำหนาวสั่งห้ามไม่ให้ไปทะเลาะกับคนพวกนั้น แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกันที่น้ำหนาวไม่ติดโซเชียล เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งอ่านข้อความแย่ๆพวกนี้ แค่นี้เพียงฝันก็โมโหจนไม่รู้จะโมโหอย่างไรแล้ว

    น้ำหนาวไปเรียนก็พบแต่สายตาแปลกๆที่มองมาเมื่อเห็นเธอเดินผ่าน ก่อนที่คนพวกนั้นจะหันไปซุบซิบกันต่อ หญิงสาวพยายามทำใจให้ชิน ตอนนี้คงทำได้เพียงรอให้เวลาผ่านไปจนคนลืมเรื่องของเธอไปเอง

    “เธอๆ ตกลงเธอเลิกกับพี่คินแล้วจริงๆใช่มั้ย” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามน้ำหนาวที่กำลังนั่งทำงานกับเพียงฝันและตะวันอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง ท่าทางที่ดูมั่นใจของเธอก็ดูน่ามอง แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นมากจนเกินไปของคนตรงหน้า ก็ทำให้น้ำหนาวอยากจะมองบนให้ตามันเหลือกไปถึงท้ายทอย

    “อืม”

    “แล้วที่เขาพูดกันว่าเธอคบกับทิวานี่จริงมั้ย เธอนี่ดีจังเลยเนอะ ได้แต่เดือนคณะทั้งนั้นเลย” น้ำหนาวชักไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องการจะสื่ออะไร ที่พูดออกมานั้นไม่รู้ว่าจะชมหรือว่าจะกระแนะกระแหนเธอกันแน่ เธอเดาไม่ออกจริงๆ

    “เปล่า” น้ำหนาวตอบออกไปอย่างเบื่อหน่าย ความอยากรู้อยากเห็นของผู้หญิงคนนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกันเลยแม้แต่น้อย กล้าเดินเข้ามาถามเรื่องส่วนตัวแบบนี้ได้อย่างไรกัน

    “จริงหรอ แล้วเธอมีแฟนใหม่ยังอ่ะ” หญิงสาวถามออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อยแล้วถามต่อ แม้จะได้รับคำตอบแบบขอไปที แต่เธอก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุด

    “เธอๆ” เพียงฝันเรียกคนที่เอาแต่ชวนคุยไม่หยุด ก่อนจะยิ้มให้ด้วยท่าทางเป็นมิตร เธอเห็นแล้วว่าตอนนี้น้ำหนาวหน้าตาบอกบุญไม่รับขนาดไหน ผู้หญิงคนนี้ดูไม่ออกจริงๆหรือแค่ทำเป็นไม่สนใจกันแน่ แค่ซุบซิบนินทากันก็แล้วไป น้ำหนาวไม่สนใจอยู่แล้ว แต่จะเดินมาถามกันซึ่งๆหน้าให้อารมณ์เสียทำไมกัน

    “ว่าไง”
    “เธอก็สวยนะ มีแฟนยัง” เพียงฝันถามพร้อมกับรอยยิ้มประดับบนใบหน้า

    “ยังอ่ะ ทำไมหรอ" หญิงสาวที่เห็นเพียงฝันดูจะเป็นมิตรกว่าเลยหันมาสนใจทางนี้แทน

    “แล้วมีมารยาทมั้ย” ริมฝีปากของเพียงฝันยังคงยกยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา อีกฝ่ายเมื่อเจอคำถามที่ไม่เหมือนคำถามก็ไม่กล้าอยู่ต่อ รีบลุกออกไปโดยไม่ได้ร่ำลาเลยแม้แต่คำเดียว

    “อย่าไปใส่ใจเลย” ตะวันเอ่ยปลอบพร้อมกับตบบ่าน้ำหนาวอย่างให้กำลังใจ

    “ขอบคุณนะ” หญิงสาวยิ้มให้ทั้งคู่ แล้วหันไปสนใจงานที่อยู่ตรงหน้าต่อ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×